ธนาธรเหม่อมองเอกสารตรงหน้า "ใบหย่า" เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ อย่างเหนื่อยหน่าย และนั่น...ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร ในเมื่อความสัมพันธ์ของเขากับเธอมันก็แค่ "การแต่งงานเพราะบุญคุณ"
เขายังจำวันนั้นได้ดี วันที่พ่อของเธอมาขอให้เขาแต่งงานกับลลิน ชายคนนั้น ยกเรื่องที่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขามาอ้าง แล้วทำเหมือนว่ามันคือ “หนี้บุญคุณ” ที่พวกเขาจะต้อง “ชดใช้” ด้วยงานแต่ง
พ่อของเขาลำบากใจมาก แต่ต้องยอมรับว่า หากไม่มีพ่อของลลิน พ่อของเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ แต่ทุกอย่างมันไม่ได้จบเพียงแค่การแต่งงาน
จากนั้นไม่นาน พ่อของลลินก็เอานามสกุลไปใช้เพื่อขอเครดิตธนาคาร อ้างชื่อเพื่อเรียกความน่าเชื่อถือในการเจรจาธุรกิจ
ธนาธรขบกรามแน่น ดวงตาเคลือบไปด้วยความเย็นชา “ครอบครัวกาฝาก” เขาพึมพำเบาๆ ด้วยเสียงที่ข่มความขุ่นเคืองไว้ คิดว่าเรื่องนี้มันจะจบลงง่ายๆ อย่างนั้นเหรอลลิน
เสียง ติ๊ด ของคีย์การ์ดดังขึ้นตามด้วยเสียงประตูเปิดออกเบา ๆ กลิ่นอากาศเก่าในห้องลอยมา
ต้อนรับเธอราวกับรู้ว่าเจ้าของเดิมกลับมาแล้ว ลลิลยืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปในห้องเล็ก ๆ ขนาดไม่เกินสามสิบห้าตารางเมตร
“ในที่สุดก็ได้มาอยู่สักที” เธอพูดกับตัวเองเบา ๆก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาในห้องที่เงียบสงบ
จนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง
คอนโดแห่งนี้เป็นห้องเก่าที่เธอซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนจะแต่งงาน มันเป็นทรัพย์สินชิ้นสุดท้ายที่อยู่ในชื่อลลิล
ก่อนที่บริษัทของคุณพ่อจะล้มละลาย ก่อนที่บ้านจะถูกขาย
พ่อของเธอไม่เคยบริหารธุรกิจสำเร็จ อาศัยแค่ชื่อเสียงของธนาธรเรียกคนมาลงทุน และเกิดเป็นคดีฟ้องร้อง หลายครั้งที่เขาตามไปจัดการปัญหาให้
เธอเคยเตือนตัวเองหลายครั้งว่าอย่าหลงรักผู้ชายคนนี้ แต่ว่าหัวใจกลับไม่เชื่อฟัง หลงรักสามีของตัวเองมาตลอดสามปี ตอนนี้ทุกอย่างได้จบลงแล้ว
ลลินวางกระเป๋าลงข้างโซฟา ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเย็นเฉียบหลังจากเปิดแอร์ได้ไม่นาน เงยหน้าขึ้นมอง
เพดาน และในที่สุด...
“ฮึก...” เสียงสะอื้นหลุดออกมา เธอยกมือปิดปากพยายามกลั้นเสียงไว้ แต่น้ำตาไหลไม่หยุด มันเหมือนเขื่อนที่เธอกั้นไว้มานานเกินไป และตอนนี้... ทุกอย่างก็พังทลายลงมา
สามปีที่ผ่านมา เธอพยายามทำหน้าที่เป็นภรรยา แต่เขาทำเหมือนกับเธอเป็นอากาศ พูดกับเธอนับคำได้ เธอแค่แอบหวังว่าสักวันเขาจะหันมามอง แต่สายตาของเขาอยู่ที่คนอื่น
ลลิลยกมือขึ้นปาดน้ำตาอย่างแรง “พอได้แล้วลลิล... หยุดร้องซะที” เธอพูดกับตัวเอง
สามปีมากพอแล้วสำหรับการรักข้างเดียว
บทอวสาน ของขวัญล้ำค่าห้าเดือนผ่านไป...หลังจากเรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายลง ลลินก็ย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นการถาวร เธอกลับเข้าไปทำงานที่บริษัท "Architect Life" อีกครั้ง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจ้านายอย่างคีรินทร์กลับไม่เหมือนเดิม...มันมีกำแพงบางอย่างที่มองไม่เห็นคั่นกลางอยู่เสมอกำแพงที่ชื่อว่า ‘ความลับ’ ของลิษา...ตลอดห้าเดือนที่ผ่านมา ลลินต้องเก็บงำเรื่องที่น้องสาวของเธอกำลังตั้งท้องไว้เพียงลำพัง แม้ว่าเธอจะต้องเผชิญหน้ากับคีรินทร์ที่ทำงานแทบทุกวันก็ตาม“ลิน”เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ลลินที่กำลังจะเดินออกจากออฟฟิศต้องหยุดชะงัก“พี่คีย์...มีอะไรรึเปล่าคะ”“พี่...” คีรินทร์มีท่าทีลังเลอย่างเห็นได้ชัด “พี่แค่อยากจะถามว่า...ลิษา...เขาเป็นยังไงบ้างครับ” เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่พยายามเก็บอาการอย่างที่สุดลลินมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา...แววตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและรู้สึกผิด เธอสงสารเขาจับใจ...เขาเองก็เป็นเหยื่อในเกมนี้ไม่ต่างจากน้องสาวของเธอ แต่คำสัญญาที่ให้ไว้กับลิษามันค้ำคออยู่“ลิษาสบายดีค่ะ” เธอตอบได้เพียงเท่านั้น ก่อนจะรีบหาทางปลีกตัว “ลินต้องขอต
ตอนที่ 28 วันที่ทุกอย่างคลี่คลายธามจับมือของลลินเบาๆ แล้วพาเธอเดินเข้าไปหาคุณหญิงประภาและเจ้าสัวธำรงที่กำลังนั่งรออยู่ด้วยสีหน้าใจดี...เป็นภาพที่ลลินไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อน“หนูลิน” คุณหญิงประภาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างแท้จริงลลินยังคงทำตัวไม่ถูก เธอทำได้เพียงยกมือไหว้สวัสดีท่านทั้งสองตามมารยาท “สวัสดีค่ะคุณท่าน”“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าคะ” ลลินตัดสินใจถามออกไปตรงๆ เมื่อเห็นว่าบรรยากาศมันดูแปลกไปหมด“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ” คุณหญิงประภาส่ายหน้าช้าๆ พร้อมกับส่งยิ้มสำนึกผิดมาให้ “แม่แค่อยากจะขอโทษหนู...แม่ผิดเองที่ตัดสินหนูผิดไปมาตลอด”“พ่อก็เหมือนกัน” เจ้าสัวธำรงเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พ่อต้องขอโทษหนูด้วยจากใจจริง”คำขอโทษที่ไม่คาดคิดทำให้ลลินประหลาดใจ แต่เธอก็เลือกที่จะปล่อยวางอดีต “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มให้กับท่านทั้งสองอย่างจริงใจ“ถ้าอย่างนั้น...กลับไปอยู่บ้านเราเถอะนะลูกนะ” คุณหญิงประภาเอ่ยชวนอย่างมีความหวัง“ตอนนี้คงยังกลับไม่ได้หรอกค่ะ โปรเจกต์ที่สิงคโปร์ยังไม่เสร็จ” ลลินปฏิเสธอย่างนุ่มนวล “และอีกอย่าง...หนูกับคุณธาม เราหย่ากันแล้วค่ะ”“อ๋อ! เรื่องใบหย่านั่นน
ตอนที่ 27 โอกาสครั้งสุดท้ายเมื่อธามถอนจูบออกมา ลลินก็หอบหายใจอย่างหนัก เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา...แววตาที่เคยเย็นชา บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโหยหาอย่างปิดไม่มิด“ทำแบบนี้ทำไมคะ...ในเมื่อคุณกำลังจะแต่งงาน” เธอเอ่ยถามเสียงสั่น พยายามใช้ความจริงที่เธอเชื่อมาตลอดเป็นเกราะป้องกันหัวใจที่กำลังสั่นไหว“ไม่จริง!” ธามปฏิเสธเสียงดังฟังชัด “ลิน...คุณคือภรรยาของผม เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมรัก แล้วผมจะไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง! ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!”เขาเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้เธอฟังอย่างรวดเร็ว เรื่องที่ปาริฉัตรจัดฉาก และหลักฐานที่เขาเพิ่งได้มาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองลลินนิ่งฟัง...ส่วนลึกในใจของเธอเชื่อเขา “...ฉันเชื่อคุณค่ะ”แววตาของธามเป็นประกายขึ้นมาด้วยความดีใจ แต่ประโยคต่อมาของเธอก็ดับความหวังนั้นลงจนหมดสิ้น“แต่ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม...ว่าเราควรจะหย่ากัน”“ทำไมล่ะลิน...ทำไม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนใจจะสลาย“เพราะฉันเหนื่อยแล้วค่ะ” เธอบอกเหตุผลง่ายๆ ที่กรีดลึกไปถึงหัวใจ“ต่อให้ไม่มีเรื่องของคุณปาริฉัตร...มันก็ยังมีเรื่องพ่อแม่ของคุณที่ไม
ตอนที่ 26 ปลายทางที่สิงคโปร์ตอนนี้แยมรู้สึกเหมือนคนน้ำท่วมปาก เธอมองหน้าผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม คนหนึ่งคือเจ้านาย อีกคนคือสามีของเพื่อนรัก ทั้งคู่มีแววตาเหมือนคนอมทุกข์ที่น่าสงสารจับใจ แต่เธอก็รับปากกับลลินไว้แล้วว่าจะไม่บอกเรื่องของพวกเธอให้ใครรู้เด็ดขาดไม่ได้...เธอต้องใจแข็งเข้าไว้!“ก่อนจะมาถามหาคนอื่น พวกคุณช่วยเคลียร์ปัญหาในชีวิตของตัวเองกันก่อนดีไหมคะ” แยมเปิดฉากสวนกลับ “คุณธาม พ่อแม่ของคุณยอมรับลินแล้วเหรอคะ แล้วที่ฉันได้ข่าวว่า คุณกำลังจะจัดงานแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่ชื่อปาริฉัตร มันเรื่องจริงรึเปล่า!”“ลินรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ!” ธามถามสวนขึ้นมาทันทีด้วยความร้อนใจ“รู้สิคะ! รู้ทุกอย่าง!”คำตอบนั้นทำให้ธามแทบจะเป็นบ้า “ไม่จริง! ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!”เขาไม่รอช้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้แยมฟังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเปิดคลิปวิดีโอที่เป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองให้เธอดู“ได้โปรดบอกผมเถอะ ว่าตอนนี้ลินอยู่ที่ไหน” เขามองหน้าเธอด้วยสายตาอ้อนวอนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนแยมเห็นแววตาที่จริงใจและเจ็บปวดของเขาแล้วก็ใจอ่อน บางทีสองคนนี้ก็ควรจะได้คุยกันจริงๆ
ตอนที่ 25 ชีวิตใหม่ที่สิงคโปร์สามเดือนแล้ว นับตั้งแต่วันที่ลลินตัดสินใจทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วพาน้องสาวหนีมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สิงคโปร์ โชคดีที่ผลงานดีไซน์ที่ชนะรางวัลของเธอไปเข้าตาบริษัทสถาปนิกชื่อดังที่นี่ พวกเขาจึงติดต่อและชักชวนให้เธอมาร่วมงานด้วยทันทีทุกอย่างดูเหมือนจะค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ลลินใช้การทำงานหนักเป็นเครื่องมือในการเยียวยาตัวเอง หลังเลิกงาน เธอก็แวะซูเปอร์มาร์เก็ต ซื้อของสดเพื่อกลับไปทำอาหารเย็นให้น้องสาวเหมือนอย่างเช่นทุกวันในขณะเดียวกัน ที่อพาร์ตเมนต์วิวสวยใจกลางเมือง ลิษานั่งมองรูปถ่ายในกลุ่มไลน์ของเพื่อนๆ วันนี้คือวันรับปริญญาของเธอ...วันที่เธอควรจะมีความสุขและได้เฉลิมฉลองกับเพื่อนๆ แต่เหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้นมันได้พรากทุกอย่างไป เธอยังไม่พร้อมที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับใครทั้งนั้น โดยเฉพาะพ่อแม่ และคุณคีรินทร์คลิกเสียงไขกุญแจดังขึ้น พร้อมกับร่างของพี่สาวที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงพะรุงพะรัง“พี่ลิน! ซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้คะ”“วันนี้เรามีแขกคนสำคัญ พี่เลยจะทำหมูกระทะเลี้ยงต้อนรับซะหน่อย” ลลินพูดพลางยิ้มบางๆ“ใครเหรอคะ”ยังไม่ทันที่ลลินจะได้ตอบ เสียงเคาะประตู
ตอนที่ 24 วันพิพากษาณ คลับหรูที่โรงแรมธามนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ตัวเดิม จ้องมองแก้วในมือแต่ไม่ได้ดื่มมัน สามเดือนที่ผ่านมา เขายอมปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกผิดและความสิ้นหวัง“ดูท่าทางคุณจะเครียดน่าดูนะ”เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นข้างๆ ธามหันไปมอง ชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดแบรนด์เนมกำลังส่งยิ้มมาให้เขา เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจ แต่ในมือของชายคนนั้นกลับมีแท็บเล็ตเครื่องหนึ่งที่กำลังเปิดคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในโรงแรมคืนนั้น!“คุณเป็นใคร” ธามถามเสียงเรียบ“ผมเป็นใครไม่สำคัญ แต่สิ่งที่ผมมี...น่าจะสำคัญกับคุณมากกว่า” ชายคนนั้นเลื่อนแท็บเล็ตมาตรงหน้าเขา “หลักฐานที่คุณตามหาแทบตาย ตอนนี้มันอยู่ในมือผมแล้ว”ธามก้มลงมองจอ...คลิปวิดีโอเผยให้เห็นทุกอย่าง! ตั้งแต่ปาริฉัตรจ้างพนักงานโรงแรมให้ช่วยพยุงร่างที่ไร้สติของเขาเข้าไปในห้อง ไม่นานนักผู้ชายคนนี้ก็เข้าไปในห้องเหมือนกัน และเขาก็ออกมาก่อนหน้าที่เขาจะตื่นไม่กี่นาที“แปลว่าผมไม่ได้อยู่กับปาริฉัตรแค่สองคน”“ใช่ ผมอยู่ด้วย และเป็นคนห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นปล้ำคุณ” แต่ธีภพไม่ได้บอกว่าเขาสั่งสอนผู้หญิงร้ายอย่างปาริฉัตรทั้งคืนทุกอย่างชัดเจน