Share

ไม่พอขาย

last update Last Updated: 2025-07-24 10:56:51

3 วันผ่านไป กับการเตรียมพร้อมขายของครั้งแรกของครอบครัวหลิน ทุกคนต่างตื่นเต้นกันอย่างมาก ท่านพ่อได้เข้าเมืองติดต่อเช่าร้านค้าเล็ก ๆ ราคา 10 อีแปะต่อวัน ตกลงขาย ยามอู๋ถึงยามโหย่ว (12.00-17.00 น.)

การเตรียมตัวมีอะไรบ้าง คือมะละกอดิบ 3 ตะกร้าใหญ่ และเครื่องปรุงรส อาทิเช่น พริก กระเทียม มะนาว เกลือ น้ำตาล กุ้งแห้ง หอยเชอรี่ ผักบุ้งป่าไว้กินกับส้มตำ และข้าวคั่ว

ครอบครัวหลินหุงข้าวเหนียวให้ลูกค้าทดลองชิมกับส้มตำไปด้วยขายราคา 5 อีแปะ กุ้งฝอยสด ๆ ไปด้วย 3 ตะกร้าใหญ่ ปลา 50 ตัวนำไปทดลองขายก่อน ถ้าขายดีวันหน้าก็จะไปจับมาเพิ่ม

แบ่งหน้าในการทำแต่ละอย่างมีดังนี้ ท่านแม่ตำส้มตำ ท่านพ่อย่างปลาเผา และพี่ชายทำยำกุ้งเต้น ส่วนเธอเป็นหน่วยสนับสนุน นั่นคือเรียกลูกค้าและเก็บเงินนั่นเอง

ครอบครัวหลินไปติดต่อขอให้ ท่านลุงหานไปส่งในตัวเมืองโดยเฉพาะ คิดราคาแค่ 5 อีแปะ ใกล้ถึงยามซื่อ (09.00-10.00 น.) ก็ออกเดินทาง ไปถึงก็ยามอู๋พอดี

ยามซื่อ ลุงหานขับรถวัวเทียมเกวียนมารับที่บ้านครอบครัวหลิน ทุกคนช่วยกันยกของขึ้นเกวียน เมื่อขนจนหมดแล้วก็ออกเดินทางได้

เสียง กุบกับ กุบกับ ของรถวัวเทียมเกวียนตลอดระยะเวลา 1 ชั่วยาม ฮุ่ยเหมยนั่งข้างหน้ากับลี่จูที่มักจะเป็น ตุ๊กตาหน้ารถเช่นเดิม

จากนั้นพวกเขาก็มาถึงในเมืองผิงเหยา เกวียนแล่นไปจอดที่ร้านค้า ที่ตกลงเช่าไว้ และช่วยกันขนของลงจากเกวียน เมื่อขนจนเสร็จแล้ว ท่านลุงหานจึงตกลงมารับในยามโหย่ว ที่ตกลงว่าจะขายกันไว้

และครอบครัวหลินคงไม่คาดคิดว่า อาหารที่พวกเขานำมาขายนั้นหมดตั้งแต่ 1 ชั่วยาม ทำให้ครอบครัวหลินต้องเดินเล่นจนทั่วตลาดเลยทีเดียว

เมื่อเตรียมของสำหรับขายเสร็จแล้วก็ ลองทำอาหารอย่างละ 1 อย่างไว้ให้ลูกค้าได้ชิม พอชิมว่ารสชาติใช้ได้ก็ใส่ใบตองที่พับไว้ให้ลูกค้าได้ชิมทันที

"ส้มตำๆ ๆ จ้าๆ ลองมาชิมก่อนดูได้จ้า"

เสียงเรียกของแม่ค้าตัวน้อย และกินให้ดูเป็นตัวอย่าง เมื่อมีผู้คนผ่านมาก็สนใจขอลองชิม ก็พบว่ารสชาติอร่อย แปลกใหม่เป็นอย่างมาก

"ขายเท่าไหร่หรือแม่นาง" เฟยลี่หญิงสาววัยกลางคนในชุดสาวใช้ของจวนสกุลอวี้เอ่ยขึ้น นางเป็นสาวใช้ของภรรยาเอกท่านเจ้าเมืองผิงเหยา ที่ออกมาซื้อของไปให้ฮูหยิน

"ชุดละ 25 อีแปะเจ้าค่ะ" ฮุ่ยเหมยเอ่ยตอบ

"ข้าเอา 2 ชุดนะ" นางเอ่ยขึ้นบอกแม่ค้าตัวน้อยและสำรวจร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ก็พบว่ามี ปลาเผาและยำกุ้งเต้นที่พี่ชายทำเสร็จแล้ว และนำมาวางไว้ให้ลูกค้าได้ชิม

"แม่นางลองชิมดูปลาเผา อร่อยมากไม่คาวเลย ชุดละ 20 อีแปะขอรับ" ท่านพ่อเอ่ยแนะนำสินค้าที่ตนเป็นคนทำทันที เมื่อให้ชิมฟรีนางจึงลองหยิบขึ้นมาชิมทันใด

"อืม อร่อยมากข้าเอาอีก 1 ชุด"

"รอสักครู่นะขอรับ" ท่านพ่อเอ่ยขึ้นและนำปลาไปเผาให้กับลูกค้าคนแรก

หนิงหลงก็ไม่ยอมแพ้รีบเสนอสินค้าที่ตนเป็นคนทำทันใด

"ยำกุ้งเต้น ชุดละ 15 อีแปะขอรับ"

เมื่อชิมเสร็จนางก็สั่งซื้อไปอีก 1 ชุด เมื่อนางจ่ายเงินเสร็จก็รีบเดินกลับจวน และลองชิมไปเรื่อย ๆ จนหมด

เมื่อมีคนมาลองชิมและก็มีคนต่อ ๆ ไปเข้ามา เมื่อทุกคนได้มาลองชิมอาหารร้านนี้ก็พบว่า รสชาติอร่อยและแปลกใหม่เป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจซื้อสินค้าทั้งหมดที่มีขายในร้าน ทุกคนล้วนทำหน้าที่ขะมักเขม้น เสียงท่านแม่ตำส้มตำไม่หยุด

โป๊ก โป๊ก โป๊ก เสียงครกตลอด 1 ชั่วยาม มีไม่ขาดสายลูกค้าแน่นขนัด วันนี้ครอบครัวหลินขายจนหมดเกลี้ยงภายใน 1 ชั่วยาม ทีแรกคิดว่าจะขายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

เมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อย ทุกคนล้วนเหนื่อยล้ากันมาก โดยเฉพาะเด็กน้อยวัย 3 หนาวที่เรียกลูกค้าเสียงแหบเสียงแห้งเลยทีเดียว

"คงต้องจ้างเกวียนกลับกันก่อนแล้วแหละ" ท่านพ่อเอ่ยขึ้น เมื่อยังไม่ถึงเวลาที่ตกลงว่าจะกลับทุกคนจึงเดินเล่นที่ตลาดและซื้อของกินก่อนกลับ

เมื่อเดินไปสักพักทุกคนก็เหนื่อยล้ากันมากเพราะยืนขายจนปวดขาไปหมดเวลาพักแทบไม่มี จึงตัดสินใจพากันขนของกลับหมู่บ้านป่าท้อ

เมื่อกลับมาถึงบ้านครอบครัวหลินจึงตัดสินใจที่จะนำสินค้าไปขายให้มากกว่านี้ วันพรุ่งนี้ยามเหม่า (คือ 05.00 - 06.59 น.) ไปจับปลาและกุ้งให้ได้มากที่สุดกว่าวันนี้ที่นำไปขาย

ท่านแม่นับเงินที่ขายของวันนี้ได้ 2000 อีแปะ เมื่อท่านแม่นับเสร็จ ก็ตาโตเท่าไข่ห่านเลยทีเดียว ท่านพ่อและพี่ชายก็ไม่ได้ต่างกัน ทุกคนดีใจกันมากไม่คิดว่าวันหนึ่งจะขายได้เยอะกว่าตนไปล่าสัตว์ป่ามาขาย

ได้แต่ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งลูกสาวตัวน้อยคนนี้มาให้แก่ครอบครัวของตน ทุกคนหันไปมองฮุ่ยเหมยด้วยความซาบซึ้งใจ

"ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งเหมยเอ๋อร์มาให้เรา" ท่านแม่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำตาคลอและลูบหัวลูกสาวตัวน้อยไปด้วย

"ท่านแม่ไม่ต้องขอบคุณข้าเจ้าค่ะ"

"ใช่ๆ ต้องขอบคุณเหมยเอ๋อร์จริง ๆ" ท่านพ่อเอ่ยขึ้นด้วยความภูมิใจในตัวลูกสาว หนิงหลงก็พยักหน้าเห็นด้วยกับท่านพ่อ ท่านแม่ และคิดในใจว่าข้าจะปกป้องน้องสาวของข้าด้วยชีวิต

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เปิดร้านวันแรก

    เมื่อเปิดร้านเสร็จทุกคนก็เริ่มไปประจำที่ ที่ได้รับมอบหมาย นอกจากท่านนายอำเภอแล้วก็มีลูกค้าเพียง 2-3 โต๊ะเท่านั้นตอนนี้ทุกคนล้วนว่างงานโดยเฉพาะไม่ใช่พนักงานที่บริการห้องพิเศษฮุ่ยเหมยอยู่กับท่านแม่ที่โต๊ะรับออร์เดอร์ชั้นสองที่บริการลูกค้าห้องพิเศษ ที่ตอนนี้มีเพียงหนึ่งห้อง เมื่อเสิร์ฟอาหารเสร็จก็เหมือนจะไม่มีงานทำ"ท่านแม่ข้าขอไปข้างล่างนะเจ้าค่ะ" เด็กน้อยนั่งเล่นกับท่านแม่ก็รู้สึกเบื่อ ๆ จึงคิดว่าจะไปเรียกลูกค้าให้ท่านแม่เยอะ ๆ ดีกว่า"ได้ ไปเล่นกับพี่ชายเจ้ากับลี่จูอย่าซนกันนักละ""เจ้าค่ะ"ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของเด็กน้อยเดินลงมาข้างล่างมันเงียบมากจนได้ยินเสียง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นที่ได้ขายไป 7 วันจะขายดีมากแต่เหมือนว่าจะบอกลูกค้าว่ามาขายที่นี่แต่บางทีผู้คนอาจจะไม่รู้จักมากนัก ดังนั้นจึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นไม่มีเงินจ่ายค่าแรง ค่าเช่าโรงเตี๊ยมแน่ ๆ“อ้าว เหมยเอ๋อร์ เจ้าไม่อยู่กับท่านแม่หรือไง?” เสียงหนิงหลงเอ่ยขึ้นถามขณะที่กำลังนั่งหยิบหอยเชอร์รี่เสียบไม้“ข้าจะมาเรียกลูกค้าเข้าร้านนะสิ”ฮุ่ยเหมยเอ่ยตอบและเห็นว่าพี่ชายกับลี่จูช่วยกันเสียบหอยกันอยู่ จึงคิดว่าพวกเขาจะทำปิ

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เปิดร้านอาหาร

    เมื่อฟางหรงแนะนำอาหารและพูดคุยกับท่านลุงนายอำเภอและท่านหลงจู๊ได้สักพักก็ขอตัวออกมาทานข้าวกับครอบครัวอีกห้องหนึ่ง และแนะนำน้ำอ้อยกับชามะนาวให้กับทั้งสามท่านก่อนมารับอาหารเที่ยงกับครอบครัว"อ้อ ข้าขอแนะนำน้ำอ้อยกับชามะนาวให้แก่ท่านทั้งสามด้วยนะขอรับ""อืม อันนี้รสชาติหวานมาก นี่มีรสเปรี้ยวหวาน อืมชุ่มคอแปลกใหม่น้ำทั้งสองอย่างนี้ อร่อยรสชาติดีทีเดียว" เสียงท่านลุงอู๋เจ๋อเอ่ยขึ้นเมื่อลองชิมครั้งแรก"อืม โอ้ ข้าไม่เคยกินน้ำอะไรอร่อยเช่นนี้มาก่อน"ท่านหลงจู๊เอยชิมครั้งแรกและอุทานขึ้นมาด้วยสายตาเป็นประกายและเอ่ยถามขึ้นว่า"น้ำชามะนาวกับน้ำอ้อยนี่ท่านนำมาขายด้วยหรือไม่""ข้านำมาให้ลูกค้าดื่มเฉพาะในร้านเท่านั้นขอรับ""อ้อ ดี ๆ ข้าจะมาซื้ออาหารทุกวันเลย""ขอบพระคุณทุกท่านมากขอรับ งั้นข้าขอตัวก่อนเชิญทุกท่านกินให้เต็มที่ขอรับ""ได้ ๆ เชิญ ๆ"ฟางหรงก็เดินมารับประทานอาหารกับครอบครัว ฮุ่ยเหมยจึงรีบแนะนำ ส้มตำปูปลาร้า ที่ยังไม่เคยใส่ปูดองให้ท่านพ่อชิม"ท่านพ่อลองทานส้มตำปูปลาร้าดูเจ้าค่ะ""รสชาติอร่อยมากเหมยเอ๋อร์"แล้วทุกคนก็เริ่มทานอาหารกัน ทุกคนที่ได้ชิมล้วนชื่นชอบส้มตำปูปลาร้ากันมาก พนักงานที่จ้

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เตรียมตัวเปิดร้านอาหาร

    ฮุ่ยเหมยนั่งเล่นอยู่ดี ๆ รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาไต่ที่ขาของตน พอมองไปก็พบว่าเป็นปูนา 'เฮ้ยยุคนี้มีปูนาด้วย' เมื่อพบเข้ากับปูนาหลายตัวก็คิดเมนูอาหารที่จะกินเย็นนี้ ปูนาสามารถนำมาดองใส่ส้มตำได้และใส่ยำมะม่วงได้ ใช่เลยนี้มันของอร่อยเลยล่ะ "ท่านพ่อเจ้าคะ ข้ามีของอร่อยมานำเสนอเจ้าค่ะ" เมื่อท่านพ่อรู้ว่ามีของอร่อยมาให้กินก็รีบเดินมาหาลูกสาวอย่างรวดเร็ว "อะไรหรือเหมยเอ๋อร์?" ท่านพ่อเอ่ยขึ้นด้วยตาเป็นประกายที่ตนจะได้กินของอร่อย และเด็กน้อยก็หยิบปูให้พ่อของตนดู "นี่เจ้าค่ะ ปูนา" "นี่ นี่ นี่!!! ตัวประหลาดเช่นนี้มันกินได้รึ" เมื่อท่านพ่อได้เห็นก็ถึงกับผงะไปเลยทีเดียว เมื่อตั้งสติได้ท่านพ่อก็เอ่ยถามลูกสาวใหม่เพื่อความแน่ใจ "เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือ เหมยเอ๋อร์!!!" "มันกินได้และนำไปใส่ส้มตำอร่อยมากเจ้าค่ะ" เมื่อได้ยินว่านำไปใส่ส้มตำได้ท่านพ่อก็ยอมตกลงที่จะจับมาให้ลูกสาว เมื่อได้ยินเสียงท่านพ่อร้องตกใจทุกคนจึงเดินมารวมตัวกันที่นี่ "มีอะไรกันท่านพ่อ" หนิงหลงเป็นคนเอ่ยถามขึ้น "เหมยเอ๋อร์นะสิ บอกว่าเจ้านี่มันกินได้" "จริงหรือเหมยเอ๋อร์" "ใช่เจ้าค่ะ มันนำไปทำอาหารได้ ใส่ส้มตำอร่อยมากด้วยนะ

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เหลาอาหารฮว๋าฮง

    เมื่อตกลงว่าจะเช่าที่ข้างโรงหมอแล้ว และเขียนสัญญากันเรียบร้อย ทุกคนจึงเดินตลาดหาซื้อของเข้าร้าน ฮุ่ยเหมยกำลังคิดว่าจะซื้ออะไรดี มีข้าวเหนียว เสื้อผ้าใหม่ตัดให้พนักงาน มีผ้ากันเปื้อน ผ้าโพกผม และกระดาษสำหรับจดรายการอาหาร และต้องจ้างคนอีกหลายคน"ท่านพ่อท่านแม่ซื้อของไปเก็บไว้ที่โรงเตี๊ยมก่อนไหมเจ้าคะ จะได้ไม่ต้องขนมาจากบ้านอีกทีเจ้าค่ะ""อืมเป็นความคิดที่ดี เหมยเอ๋อร์ลูกพ่อ ช่างคิดรอบคอบจริง ๆ"ท่านพ่อมองลูกสาวตัวน้อยของตนที่มีความคิดที่โตกว่าอายุมาก และลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดูและทั้ง 6 คนก็เดินหาซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ ท่านพ่อเป็นคนจูงลูกสาว ท่านแม่จูงพี่ชายเพราะคนค่อนข้างเยอะ กลัวลูกน้อยของตนจะพลัดหลงกัน ท่านพ่อคิดว่าอย่างแรกที่จำเป็นคือข้าวเหนียว ที่ทุกคนเริ่มชื่นชอบที่จะกินข้าวเหนียว จึงเดินไปยังร้านขายข้าวสารทันที"สวัสดีนายท่านต้องการซื้อข้าวสารแบบใดเชิญแจ้งมาเลยขอรับ" พนักงานในร้านเข้ามาต้อนรับลูกค้าอย่างกระตือรือร้นและแนะนำข้าวสารให้แก่ลูกค้าด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว"เอาข้าวเหนียว 20 ชั่ง ข้าวสารธรรมดา 20 ชั่ง"ท่านพ่อเอ่ยสั่งข้าวสารกับพนักงานและนับเงินจ่ายให้กับหลงจู๊ และบอกว่าให

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   ความวุ่นวาย

    หลังจากครอบครัวหลินทำการค้าขายไปแล้ว 7 วัน วันนี้ครอบครัวขอปิดร้าน 2 วัน พบปัญหาว่าจำนวนลูกค้ามากขึ้นทุกวันจึงตัดสินใจไปหาโรงเตี๊ยมที่เปิดให้เช่า ความจริงซื้อเป็นของตัวเองจะดีกว่า เนื่องจากตอนนี้เงินที่หามายังไม่เพียงพอที่จะซื้อโรงเตี๊ยมได้ยามเฉิน (07.00 – 08.59 น.) ฮุ่ยเหมยและครอบครัวเข้าเมืองไปหาเช่าโรงเตี๊ยม โดยนั่งเกวียนลุงหานเข้าเมืองเช่นเดิม เมื่อมาถึงตลาดในเมืองผู้คนต่างก็พากันมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันเนืองแน่นเช่นเคย"ท่านแม่ข้าหิวแล้วเจ้าค่ะ ข้าอยากกินบะหมี่ร้านนั้นเจ้าค่ะ"เสียงฮุ่ยเหมยเอ่ยขึ้นและชี้ไปที่ร้านของบะหมี่ที่อยู่ข้างทาง คนในร้านแน่นมาก น่าจะอร่อยเพราะคนเข้าร้านเยอะ เมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยเอ่ยขึ้นจึงตัดสินใจเดินตรงไปร้านบะหมี่ทันที"เถ้าแก่ข้าเอาบะหมี่ 4 ชามขอรับ" ท่านพ่อเอ่ยสั่งกับเถ้าแก่ร้านขายบะหมี่"เชิญนั่ง ๆ รอสักครู่นะขอรับ"เสียงเด็กชายวัย 8 หนาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกค้าทั้งสี่เดินเข้าร้านของตน น่าจะเป็นลูกชายของเถ้าแก่เจ้าของร้านเพราะหน้าตาที่ละม้ายคล้ายกันเป็นอย่างมาก ซึ่งเขากำลังนำบะหมี่ในร้านเสิร์ฟลูกค้าที่แน่นจนเต็มร้านอยู่ในขณะนี้อย่างขยันขันแข็งครอบคร

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   ไม่พอขาย

    3 วันผ่านไป กับการเตรียมพร้อมขายของครั้งแรกของครอบครัวหลิน ทุกคนต่างตื่นเต้นกันอย่างมาก ท่านพ่อได้เข้าเมืองติดต่อเช่าร้านค้าเล็ก ๆ ราคา 10 อีแปะต่อวัน ตกลงขาย ยามอู๋ถึงยามโหย่ว (12.00-17.00 น.) การเตรียมตัวมีอะไรบ้าง คือมะละกอดิบ 3 ตะกร้าใหญ่ และเครื่องปรุงรส อาทิเช่น พริก กระเทียม มะนาว เกลือ น้ำตาล กุ้งแห้ง หอยเชอรี่ ผักบุ้งป่าไว้กินกับส้มตำ และข้าวคั่ว ครอบครัวหลินหุงข้าวเหนียวให้ลูกค้าทดลองชิมกับส้มตำไปด้วยขายราคา 5 อีแปะ กุ้งฝอยสด ๆ ไปด้วย 3 ตะกร้าใหญ่ ปลา 50 ตัวนำไปทดลองขายก่อน ถ้าขายดีวันหน้าก็จะไปจับมาเพิ่ม แบ่งหน้าในการทำแต่ละอย่างมีดังนี้ ท่านแม่ตำส้มตำ ท่านพ่อย่างปลาเผา และพี่ชายทำยำกุ้งเต้น ส่วนเธอเป็นหน่วยสนับสนุน นั่นคือเรียกลูกค้าและเก็บเงินนั่นเอง ครอบครัวหลินไปติดต่อขอให้ ท่านลุงหานไปส่งในตัวเมืองโดยเฉพาะ คิดราคาแค่ 5 อีแปะ ใกล้ถึงยามซื่อ (09.00-10.00 น.) ก็ออกเดินทาง ไปถึงก็ยามอู๋พอดี ยามซื่อ ลุงหานขับรถวัวเทียมเกวียนมารับที่บ้านครอบครัวหลิน ทุกคนช่วยกันยกของขึ้นเกวียน เมื่อขนจนหมดแล้วก็ออกเดินทางได้ เสียง กุบกับ กุบกับ ของรถวัวเทียมเกวียนตลอดระยะเวลา 1 ชั่วยา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status