บทที่ 3 หยาบคาย!
ปัง !
หญิงสาวบนเตียงใหญ่ที่เผลอหลับไปเมื่อชั่วโมงก่อนผลุนผลันลุกนั่งด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ยามที่บานประตูห้องถูกถีบเข้ามาอย่างแรงด้วยฝีเท้าอันหนักของชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าสามี ทำเอาหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไปถึงตาตุ่ม ภายในอกกระวนกระวายเหลือหลายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จนต้องยกฝ่ามือทาบกลางอก ก่อนที่บานประตูจะปิดสนิทลงอีกครั้ง
ปัง !
ดวงตาสุกใสสั่นระริกจ้องมองการกระทำของชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัว เนื้อตัวเธอสั่นเทาเกินจะควบคุมจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อฮัททสึทั้งถอดรองเท้าผ้าใบฟาดลงกับฟื้นอย่างแรง ตามด้วยเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่ เผยให้เห็นมัดกรามแน่นตามร่างกำยำชัดเจน หนำซ้ำใบหน้าอันหล่อเหล่ายังเต็มไปด้วยความดุร้าย ราวกับว่าที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้เป็นการข่มขวัญหญิงสาวบนเตียงให้รู้สึกหวาดผวา โดยที่ไม่เอ่ยปากพูดสิ่งใด มีเพียงเสียงหอบหายใจหนัก ๆ พ่นออกมาเท่านั้น ซึ่งบ่งบอกถึงอารมณ์โทสะได้เป็นอย่างดี
ตุบ !
“มองทำไม!!! “ฮัททสึตวาดถามพร้อมกับเขวี้ยงเข็มขัดหนังราคาแพงลงกับพื้น ทำให้มีนาสะดุ้งจนตัวโหยง พลางเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นด้วยความกลัว เมื่อสายตาปะทะเข้ากับแววตาดุดันของคนตรงหน้าที่จ้องมองมาที่เธอตาเขม็ง คล้ายกับว่าอยากฆ่าเธอให้ตายอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็คงไม่แปลกเขาคงเกลียดเธอเพราะเรื่องแต่งงานนั่นแหละ
“ปะ..เปล่าค่ะ ถ้าคุณไม่อยากนอนร่วมห้องเดียวกัน เดี๋ยวนาออกไปนอนห้องรับแขกเองก็ได้ค่ะ “มีนาเอ่ยกับสามีอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่สั่น โดยไม่กล้าจะสบตากับเขาไปตรง ๆ ทั้งที่ตอนนี้ทั้งร่างเธอสั่นเทาไปหมดกับการกระทำของเขาเมื่อครู่ แม้ว่าหลายชั่วโมงเธอจะกล้าต่อกรกับเขา แต่คราวนี้เขาน่ากลัวเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ สองเท้าเล็กจึงก้าวขาลงจากเตียงเดินตรงไปยังประตูทันทีทว่า…
หมับ ! พลั่ก!
“อ๊ะ! “กลับถูกมือหนาคว้าข้อมือแล้วเหวี่ยงลงที่เตียงอย่างแรง จนหญิงสาวนิ่วหน้าพร้อมกับเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความจุก การกระทำอุกอาจของชายหนุ่มทำหัวใจดวงน้อยหล่นวูบราวกับตกเหวลึก
“พ่อกูอุตส่าห์ให้คนไปลากตัวกูกลับมาทำความรู้จักกับมึง แต่มึงยังจะออกไปนอนข้างนอก หึ ช่างเป็นคนที่เสียสละซะเหลือเกินนะ “ฮัททสึเค้นเสียงดุดันพูดด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะเย้ยหยันในประโยคท้าย โดยที่มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นปูดนูนเด่นชัด ภายในอกเต็มไปด้วยอารมณ์เดือดดาลที่ถูกบังคับ
“…” ถ้อยคำร้ายกาจของสามีทำเอามีนาถึงกับขยุ้มผ้าปูที่นอนสีขาวแน่นด้วยอารมณ์โมโห ไม่ต่างไปจากคนตรงหน้ามากนัก เธอแค่ต้องการให้เขาสบายใจเท่านั้น จะได้ไม่อยู่ขวางหูขวางตาให้เขาลำบากใจและหงุดหงิดอย่างเช่นตอนนี้ที่เขากำลังเป็น…
“งั้นเดี๋ยวนานอนพื้นก็ได้ค่ะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยทำความรู้จักกัน ตอนนี้มันดึกมากแล้ว “มีนาตัดสินใจเอ่ยออกไปอย่างรู้สึกประหม่า เนื่องจากไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนเมา ให้เกิดเรื่องบาดหมางกันไปมากกว่า แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเธอมันกำลังเพิ่มอารมณ์ฉุนเฉียวให้ฮัททสึเป็นอย่างมาก
“ตอแหล!!...ทำตัวเป็นคนดีนะอีเด็กแรด!”
หมับ ! พรึบ!
“โอ๊ย! “มีนาเบ้หน้าด้วยความเจ็บพร้อมกับร่างกายที่ไถลลงไปปลายเตียง ตามแรงกระชากตรงข้อเท้าด้วยฝีมือของสามี ในจังหวะที่เธอเอี่ยวตัวหยิบหมอนใบใหญ่ หมายจะลงไปนอนพื้น ก่อนที่คนตัวหนาจะคร่อมตัวเธอไว้ในพริบตาเดียว หนำซ้ำยังรวบข้อมือกดลงกับเตียงไว้อย่างแน่นหนา
“..” ใบหน้าที่ใกล้กันเพียงคืบ ทำให้คนใต้ร่างสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ จากลมหายใจของคนข้างบนเป่าลดลงมาให้รับรู้อยู่ถี่ ๆ
“ปะ..ปล่อยนะจะทำอะไร “มีนาเอ่ยถามเสียงติดขัดอย่างรู้สึกตกใจ จนเผลอรอบคืนน้ำลายเหนียวลงคออึกใหญ่ โดยเบือนหน้าหนีไม่ยอมหันไปสบตากับคนข้างบน พลางพยายามดีดดิ้นให้หลุดจากพันธนาการอันหนาแน่น แต่กลับถูกท่อนขายาวของฮัททสึหนีบรัดเรียวขาตนเองเอาไว้แน่นเช่นเดียวกัน ทำให้ขยับตัวไปทางไหนไม่ได้
“ทำความรู้จักกับผัวเศรษฐีของมึงก่อนสิวะ! พ่อกูอุตส่าห์ลงทุนไปลากตัวกูกลับมาหามึงเลยนะ”
“หยาบคาย! “มีนาตวาดกลับอย่างเหลืออด ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงการมีปากเสียงกับเขา แต่เขาก็ยังจ้องจะหาเรื่องเธออยู่ตลอดเวลาราวกับคนไร้วุฒิภาวะ ทั้งที่อายุอานามจะสามสิบเข้าไปแล้ว
“พ่อมึงนี่แม่งสุดจริงว่ะ!..มีปัญญายืมเงินคนอื่นแต่ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้คืน ถึงได้เอาลูกสาวแรด ๆ มาเร่ขายใช้หนี้ แม่งน่าสมเพชฉิบหาย!”
“นี่คุณ! เกินไปแล้วนะ! “เสียงเล็กตวาดลั่นอีกครั้งด้วยความเจ็บใจ พร้อมกับหันกลับมาจ้องคนตรงหน้าตาเขียวด้วยอารมณ์โมโหที่มีมากกว่าความกลัว ผู้ชายคนนี้ปากคอเราะร้ายกว่าที่เธอคิดนัก เธอยอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดมันถูกต้องเกือบทั้งหมดที่ว่าไม่มีปัญญาหาเงินมาคืน..แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ดูถูกบุพการีของคนอื่นแบบนี้
“กูพูดจี้ใจดำใช่ไหมล่ะ เพราะกูต้องมาแต่งงานกับมึง กูเลยต้องเสียเมียกูไป “ฮัททสึกัดฟันพูดจนเห็นเป็นสันกรามปูดนูนเด่นชัด
“คิดว่านาอยากแต่งงานกับคุณหรือไง! ไม่เลย..ไม่เคยมีอยู่ในส่วนสมอง แต่ที่ต้องแต่งก็เพราะความจำเป็นเหมือนกัน!”
“อย่าพูดให้ตัวเองดูดีไปหน่อยเลย แท้จริงแล้วมึงก็อีเด็กแรดที่ต้องใช้ร่างกายแลกเงิน เหมือนกับกะหรี่นั่นแหละ!”
ฮัททสึสาดพ่นถ้อยคำเหยียดหยามใส่หญิงสาวตรงหน้าด้วยน้ำเสียงดุห้าว นัยน์ตาสีดำฉายแววคุกรุ่นฉุนเฉียวอยู่ตลอดเวลา ทำเอาหญิงสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะน้ำตาไหลพรากออกจากหางตาเป็นสาย เธอทั้งอึดอัด และ หวาดกลัวกับท่าทางดุร้ายของเขาจนสู้รบตบมือไม่ไหว
“พูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้ เมื่อกี้มึงยังปากดีอยู่เลยนะ อายุแค่เนี่ยตอแหลเก่งจริง ๆ นะมึง! กูก็อยากจะรู้เหมือนกันเด็กอย่างมึงมันจะเด็ดสักแค่ไหน”
พรึบ ! แขวก!
“ว้ายย “มีนาส่งเสียงกรีดร้องด้วยความแสบผิวหนัง เมื่อฮัททสึผลุนผลันลุกขึ้นกระชากเสื้อนอนแขนยาวของเธอออกอย่างแรงจนขาดวิ่นเป็นสองส่วน ก่อนที่กางเกงนอนจะตามออกไปติด ๆ โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว จึงรีบยกฝ่ามือขึ้นมาปิดหน้าอกขนาดใหญ่ภายใต้บราเซียสีครีมเอาไว้ รวมถึงส่วนสงวนภายใต้แพตตี้ตัวจิ๋วด้านล่าง การกระทำต่ำช้าของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยพลันกระหน่ำเต้นแรงไม่เป็นส่ำด้วยความตื่นผวาและหวั่นกลัวในคราเดียวกันอย่างหนัก
-------------------------------------------------------
#วันต่อมา @ร้านเบเกอรี่“ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ?” กล่าวถามทันทีที่เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับถาดเค้กมะพร้าวในมือ เจอกับแก๊งเพื่อนของสามีที่กำลังเดินเข้ามาในร้านพอดี ในมือหนาแต่ละคนต่างเต็มไปด้วยถุงกระดาษใส่ของเล่น อีกทั้งลูกชายในอ้อมแขนแกร่งของสามียังถือโมเดลไอรอนแมนตัวใหม่แกะกล่อง“ของเล่นลูกน่ะ ไอ้พวกนี้มันสายเปย์” ฮัททสึตอบพลางยิ้มกริ่มอย่างไม่ได้คิดอะไร ในขณะที่มีนาหม่นคิ้วเข้าหากันเป็นปม ส่งถาดเค้กให้กับพนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ สาวเท้าเดินมาหยุดตรงหน้าสามีจ้องมองนิ่ง “มีอะไรหรือเปล่า?”“ของเล่นลูกเต็มบ้านแล้วนะคะ จนไม่มีที่จะเก็บแล้ว” กล่าวเสียงเข้มอย่างต้องการตำหนิ“เห็นหลานอยากได้ พวกพี่เลยซื้อให้ครับ น้องมีนาอย่าโกรธพวกพี่เลยนะ ส่วนไอ้ฮัทโกรธมันเลยเต็มที่” เคนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มแหย ๆ อย่างเอาตัวรอด แล้วโยนขี้ให้กับพ่อของลูก“เฮ้ย! พูออย่างนี้ได้ไงวะไอ้เคน จะยุให้เมียกูโกรธกูอีกทำไมวะ ไอ้เพื่อนชั่ว ยิ่งง้อยากอยู่ แถมยังขี้บ่นอีก บ่นจนกูหูชา แม่ง!” ฮัททสึหันขวับแหวใส่เพื่อนรักอย่างใจไม่ดี ก่อนหลุดปากพูดความคิดที่อยู่ในหัวออกมาอย่างลืมตัว พอรู้ตัวอีกทีถึงกับหน้าถอดสี ส่วนเคนได้แต
ตอนที่ 49 เป็นผัวที่ดี“ปะลูกเข้าห้องกับมี้” หยัดกายลุกขึ้นเมื่อasลูกชายวิ่งเตาะแตะเข้ามาหาหลังจากถูกลงโทษให้นั่งนิ่ง ๆ อยู่กับผู้เป็นพ่อในห้องรับแขก“ปะป๊า”“ปะป๊าเขายังถูกทำโทษอยู่นะครับ”“ป๊างอน ” เด็กชายกล่าวบอกความต้องการด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางเอียงศีรษะทุยเล็กซบท่อนขาผู้เป็นแม่“แต่…”“มี้~” แหงนคอมองผู้เป็นแม่ตาแป๋วขอความเห็นใจ ทำเอามีนาถึงกับหนักใจแต่ก็ยอมตกลงตามความต้องการของลูกชาย ทำให้ทั้งพ่อทั้งลูกต่างดีใจกันยกใหญ่#เวลาต่อมา“ลูกหลับแล้วก็ออกไปนอนข้างนอก” เมื่อลูกชายหลับสนิทจึงลุกขึ้นนั่งเอ่ยกับคนตัวสูงที่นอนอยู่อีกฝั่งข้างของลูกชาย“พี่ง่วงจังครับ” แสร้งหลับตาแล้วทำเสียงงัวเงีย“อย่ามาเจ้าเล่ห์นะ ออกไป!”“อย่าเสียงดังสิเมียจ๋า เดี๋ยวลูกตื่นเอานะ”“ไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ต้องเรียกแบบนั้น” แหวใส่คนเจ้าเล่ห์เสียงเบาหวิวอย่างเริ่มหงุดหงิด ทั้งที่ความเป็นจริงเธอกำลังหวั่นไหวให้เขา ทว่าคนเจ้าเล่ห์กลับเงียบทำหูทวนลมแล้วข่มตานอนต่อ “บอกให้ออกไปนอนข้างนอกไง” ไม่ยอมแพ้ก้าวลงจากเตียงดึงแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพรึ่บ!“อ๊ะ!” เพียงคนบนเตียงออกแรงกระตุกท่อนแขนเล็กเบา ๆ ร่างบางก็เสียหลักล้มทับค
ตอนที่ 48 บทลงโทษ“วันนี้คุณมีนาดูอารมณ์ไม่ดีเลยนะคะ” เจนกล่าวแสดงความคิดเห็นกับฮัททสึที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับลูกชาย หลังจากมีนาเดินเข้ามาก่อนด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด“คงงอนผมน่ะครับ”“สู้ ๆ นะคะ คุณฮัททสึ ง้ออีกนิดเดียวคุณมีนาต้องยอมใจอ่อน แน่ ๆ ค่ะ น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกค่ะ”“ขอบคุณครับ” เริ่มมีแรงฮึดสู้อีกครั้ง เขาจะไม่ยอมแพ้“ให้พี่ช่วยไหม?” ฮัททสึเดินจากหน้าร้านเข้ามากล่าวอาสา เมื่อเห็นว่ามีนากำลังทำบัญชีอยู่หน้าตาเคร่งเครียด โดยที่ลูกชายตัวน้อยนั่งดูการ์ตูนอยู่บนโซฟา“ไม่ต้อง ไปช่วยพี่เจนหน้าร้านเถอะ” ตอบเสียงห้วน ๆ โดยไม่ละสายตาไปจากบัญชีตรงหน้าที่เธอไม่ถนัดเอาเสียเลย แต่ก่อนเป็นหน้าที่ของมาเรีย แต่เพราะแม่ป่วยเธอจึงลาออกกลับไปดูแลแม่ที่บ้าน“คนไม่มีแล้ว มาเดี๋ยวพี่ทำให้เอง พี่ถนัด”“ไม่เข้าใจหรือวะ…ว้าย!” ไม่ทันได้กล่าวจบเพราะความรำคาญ ทว่าต้องหวีดเสียงแทนด้วยความตกใจ เมื่อก้นลอยขึ้นจากเก้าอี้เข้าสู่อ้อมแขนแกร่งในท่าเจ้าสาวเสียก่อน เธอจึงรีบตวัดรัดลำคอแกร่งกร้านไว้โดยอัตโนมัติเพราะกลัวตก ทำให้ใบหน้าทั้งสองใกล้กันเพียงคืบนิ้วเท่านั้น“ปล่อยเดี๋ยว
มีนาจูงมือลูกชายเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าแปลกใจ เมื่อทุกโต๊ะในร้านถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงขนมหวานต่าง ๆ ที่เธอทำเตรียมเอาไว้ในตู้เย็นหลังร้านถูกนำมาจัดเข้าตู้โชว์พร้อมเปิดรับลูกค้าทั้งที่พนักงานเหลือเพียงคนเดียวคงจัดการทุกอย่างไม่ทัน เพราะมาเรียลาป่วยได้ห้าวันแล้ว เธอจึงต้องรีบพาลูกชายมาที่ร้านเร็วกว่าเดิม เพื่อช่วยพนักงานเตรียมเปิดร้าน แต่ผิดคาด ห้าวันมานี้เธอแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย มาถึงก็รอขายและทำขนมหวานบางอย่างที่หมด“สวัสดีค่ะคุณมีนา”“สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เตรียมร้านเสร็จเร็วมาก ๆ เลยนะคะพี่เจน คงเหนื่อยแย่เลยค่ะ”“ไม่เหนื่อยเลยค่ะคุณมีนา ดีที่มี…” รีบหยุดพูดแทบไม่ทัน เมื่อกำลังจะเผยความลับบางอย่างออกมา“มีอะไรคะ?”“เอ่อ...” ตอบอย่างอึก ๆ อัก ๆ ท่าทางมีพิรุธ “มะ...มีแฟนพี่มาช่วยค่ะ เลยเสร็จเร็วกว่าปกติ”“อ๋อ ๆ ค่ะ นาฝากขอบคุณแฟนพี่เจนด้วยนะคะ เย็นนี้นาฝากขนมไปให้แฟนพี่เจนด้วยนะคะถือว่าเป็นการตอบแทน”“ค่ะ”มีนาส่งยิ้มให้พนักงานสาวอย่างใจดีถึงแม้จะยังเคลือบแคลงสงสัย แต่เธอก็เลือกที่จะไม่เซ้าซี้เอาความ จูงมือลูกชายเดินเข้าไปหลังร้าน เจนยกมือทาบอกพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีที่
@อเมริกา“แอะ~" ฮาชิยิ้มร่าจนตาหยีเป็นรูปสระอิด้วยความคิดถึงปู่และย่าที่นาน ๆ ทีมาเยี่ยมหน ความตาตี่และเค้าโครงหน้าคล้ายคลึงกับผู้เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดตอนเยาว์วัยไม่มีผิดเพี้ยน“อย่าวิ่งครับลูก” มีนาปรามลูกชายด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะล้มหน้าคะมำเอาได้ แต่มีหรือเด็กชายแสนแสบจะฟัง เร่งฝีเท้าอันเล็กตรงมาหาผู้เป็นปู่ ก่อนปีนป่ายขึ้นนั่งบนตักแกร่งอย่างซุกซน ทำเอามีนาถึงกับส่ายหน้าเอือมระอา“ไปไหนมาครับหลานปู่”“ปู" ริมฝีปากน้อย ๆ พยายามเปล่งเสียงเรียกผู้เป็นปู่อย่างรู้ความ พลางแก้มป่องซบบนแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน ท่ามกลางสายตาเอ็นดูของผู้เป็นแม่และผู้เป็นย่า“คิดถึงแค่ปู่เหรอครับหลานย่า” จีน่าแสร้งปั้นสีหน้าน้อยใจ ทำให้เด็กชายวัยหนึ่งขวบรีบผละใบหน้าจิ้มลิ้มออกจากแผงอกของผู้เป็นปู่ แล้วปีนลงจากตักแกร่งด้วยตัวเอง เดินเตาะแตะเข้าไปสวมกอดผู้เป็นย่าราวกับเป็นการปลอบใจ“ตึ๋ง~ ” “ไหนย่าขอหอมหน่อยสิ” จีน่าอุ้มหลานชายขึ้นมานั่งบนตัก แล้วโน้มใบหน้าฟัดแก้มป่องของหลานชายทันทีอย่างมันเขี้ยว เมื่อหลานชายขี้อ้อนทำแก้มป่องอนุญาตยอมให้ผู้เป็นย่าหอมอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้คนเป็นแม่ที่มองอยู่ถึงกับยิ้มแก้มปริ
ตอนที่ 45 หนีมาไกล / ยังไร้ร่องรอยหนึ่งปีต่อมา@อเมริกาออด ออด ออด เสียงออดประตูหน้าบ้านดังขึ้น ทำให้หญิงสาวที่กำลังพับเสื้อผ้าใส่ตะกร้าอยู่ตรงโซฟาในห้องนั่งเล่น ละความสนใจออกจากสิ่งที่ทำ หยัดกายลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้กับแขกที่มาเยือน“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ “สองมือยกขึ้นไหวพ่อและแม่ของสามี ที่เธอต้องการหย่าขาดอย่างสุภาพ แล้วเชิญเข้าไปนั่งในบ้านหลังจากที่ท่านทั้งสองพยักหน้ารับ“เป็นยังไงบ้างหนูมีนา ไม่ลำบากอะไรนะ “จีน่าเอ่ยถามลูกสะใภ้อย่างเป็นห่วง เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่กับหลานชายเพียงสองคนในต่างถิ่นต่างแดนหากย้อนไปปีก่อน หลังรู้เรื่องราวจากลูกชายตัวดี สามีของเธอจึงให้คนตามสืบเบาะแสเพิ่มเติมของลูกสะใภ้ระหว่างอยู่ที่ไร่ส้มในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทราบข่าวว่าลูกสะใภ้กำลังจะหนีลูกชายไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาอีกครั้งเธอและสามีจึงตัดสินใจอาสาพาลูกสะใภ้หนี โดยการติดต่อผ่านบิดามารดาของลูกสะใภ้ให้ช่วยเหลืออีกแรง ด้วยความเป็นห่วงหลานชายที่กำลังจะลืมตาดูโลก ไม่อยากให้ไปใช้ชีวิตลำบากกันตามประสากันสองคนแม่ลูก บวกกับความรู้สึกผิดที่เลือกตัดอนาคตเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะได้ศึกษาต่อจนจบ มีหน้าที่การงานก