ไป๋มู่หลันรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก นางทั้งรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่จ้าวฝูหมิงจะเดินทางไปปราบเหล่ากบฏเขาได้สั่งให้พ่อบ้านเฉินหาสาวใช้มาดูแลนางคนหนึ่ง นามว่าหนิงชุ่ย
"หนิงชุ่ย"
"เจ้าคะนายหญิง"
หนิงชุ่ยที่ได้ยินเสียงเรียกของไป๋มู่หลันจึงรีบวิ่งเข้ามาหานางทันที เมื่อได้เห็นเลือดมากมายไหลเปรอะเปื้อนบนเตียงนอน นางก็รู้ได้ทันที นายหญิงของนางมีรอบเดือนแล้ว
หนิงชุ่ยคอยดูแลรับใช้ไป๋มู่หลันเป็นอย่างดี นางเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบห้าปี แต่มีรอบเดือนตั้งแต่อายุสิบสี่เพราะร่างกายของนางอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี นางชื่นชอบไป๋มู่หลันเป็นอย่างมาก นายหญิงของนางทั้งใจดีและทำอาหารอร่อย
"นายหญิง ปวดมากหรือไม่เจ้าคะ"
"อือ ข้าลุกไม่ไหว"
"รอสักครู่นะเจ้าคะ บ่าวจะไปหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้"
หนิงชุ่ยไม่รอช้านางรีบไปนำน้ำอุ่นมาหนึ่งกะละมัง และใช้ผ้าสะอาดบิดชุบน้ำหมาด ๆ ทำความสะอาดร่างกายให้ไป๋มู่หลันเสียก่อน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทำให้ไป๋มู่หลันรู้สึกอยากอาเจียนเป็นอย่างมาก
"รอบเดือนของสตรีครั้งแรกย่อมมากเช่นนี้เจ้าค่ะ รออีกสามสี่วันก็จะค่อย ๆ เบาบางลง นายหญิงอดทนหน่อยนะเจ้าคะ"
ไป๋มู่หลันพยักหน้าเล็กน้อย เหตุใดนางจะไม่รู้ นางย่อมรู้ดี ร่างเดิมของนางในชาติที่แล้วมีรอบเดือนมาตั้งแต่อายุสิบห้าปี ครั้งแรกก็ไหลออกมามากมายเช่นนี้ไม่ต่างกัน
แต่ทว่าเหตุใดร่างนี้จึงปวดท้องหนักหน่วงเช่นนี้เล่า!!!
ไป๋มู่หลันนอนซมอยู่ห้าวันติด รอบเดือนของนางจึงเบาบางลงและเลือดก็หยุดไหลแล้ว นางกำชับหนิงชุ่ยว่าห้ามบอกให้ใครรู้เป็นอันขาดเรื่องที่นางมีรอบเดือน
จ้าวฝูหมิงกลับมาถึงเสียนหยางเขาก็มุ่งหน้ามาที่จวนของตนทันที สายตามองเห็นไป๋มู่หลันกำลังเดินชมดอกกุหลาบสีแดงสดด้วยแววตาเป็นประกาย
เขาจ้องมองนางด้วยความหลงใหล ภาพตรงหน้าราวกับนางฟ้าลงมาเที่ยวยังดินแดนโลกมนุษย์
เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหานาง ก่อนจะยื่นมือไปดึงรั้งร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แล้วจึงโน้มใบหน้าลงมาจูบนางอย่างดูดดื่ม เหล่าสาวใช้ที่ได้เห็นเช่นนั้นต่างพากันเบือนหน้าหนีทันที
ไป๋มู่หลันอับอายเสียจนหน้าแดงไปหมด!!! ให้ตายเถอะ!!! เขาเคยคิดบ้างหรือไม่ว่านางก็อับอายเป็นเช่นกัน
"เหตุใดวันนี้เจ้าช่างงดงามเป็นพิเศษ หรือว่า รอบเดือนของเจ้ามาแล้ว?"
ไป๋มู่หลันตกใจไม่น้อย นางมีท่าทีกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก นางไม่อยากบอกเขา นางยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องเช่นนั้น
"เอ่อ ยังเพคะ"
จ้าวฝูหมิงมีสีหน้าสลดลงไปไม่น้อย เขาไม่ได้เอ่ยตำหนินางเลย เขาเอ่ยกับนางเพียงสองสามคำก่อนจะกลับเข้าไปในเรือนใหญ่
บัดซบ!!! เมื่อใดจะมาสักที หรือส่วนนั้นของนางตันจนรอบเดือนทะลุออกมาไม่ได้!!!
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ส่วนนั้นของเขาก็เริ่มแข็งชูชันขึ้นมาอีกแล้ว บัดซบ!!! บัดซบ!!! ข้าต้องใช้มืออีกแล้วหรือนี่!!!
ย่างเข้าเดือนห้า จวนชินอ๋องก็จัดงานอภิเษกสมรสขึ้น จวนอ๋องประดับประดาไปด้วยผ้าสีแดงงดงามตา เหล่าบ่าวในเรือนต่างดูแลภายในจวนอย่างขะมักเขม้น
จ้าวฝูหมิงสวมชุดแต่งงานสีแดงนั่งอยู่บนหลังม้า เขานำขบวนเจ้าบ่าวไปรับหลิวหยวนเหนียงมาที่จวนอ๋อง ยามนี้หลิวหยวนเหนียงสวมชุดแต่งงานสีแดงที่นางปักขึ้นมาเองกับมือ ใบหน้าของนางที่ซ่อนอยู่ในผ้าคลุมเผยรอยยิ้มเจิดจ้าด้วยความปีติยินดี
ขบวนเจ้าสาวเคลื่อนมาถึงหน้าจวนอ๋อง จ้าวฝูหมิงเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก เผยให้เห็นใบหน้าของหลิวหยวนเหนียงพระชายาของเขา บ่าวสาวทำพิธีคำนับบรรพบุรุษ คำนับฟ้าดิน และคำนับกันและกันตามประเพณีอย่างถูกต้อง นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวฝูหมิงรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก เขาอยากจะเดินหนีออกมาเสีย ไม่อยากจะทำพิธีที่น่าเบื่อเช่นนี้อีก
เหล่าแขกเหรื่อยังไม่ทันได้ดื่มชาสักอึก จ้าวฝูหมิงก็สั่งให้พ่อบ้านเฉินไล่แขกออกไปให้หมด เหล่าแขกเหรื่อเองก็รีบจากไปทันที ในใจนึกเพียงว่าท่านอ๋องผู้นี้คงอยากเข้าหอกับพระชายาเสียเต็มทีแล้วเป็นแน่
มารดามันเถอะ!!! งานในจวนข้าไม่เคยมาช่วย พอมีงานมงคลกลับจะมากินแล้วไม่จ่ายสักตำลึงเช่นนั้นหรือ
ฝันไปเถอะ!!!
ยามนี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว จ้าวฝูหมิงเดินกลับเข้ามาในเรือน แล้วจึงพบกับหลิวหยวนเหนียงที่นั่งรอเขาอยู่บนเตียง แววตาของนางยามที่มองมาทางเขาช่างดูเย้ายวนเป็นอย่างมาก
หลิวหยวนเหนียงเดินเข้ามาหาเขา ก่อนจะยื่นมือเรียวสวยมาช่วยเขาปลดเสื้อผ้าออก ท่านแม่สอนนางเอาไว้ว่า ต้องปรนนิบัติสามีให้ถึงใจ จึงจะครองใจสามีเอาไว้ได้
จ้าวฝูหมิงยืนนิ่ง ๆ ปล่อยให้นางทำตามใจชอบ เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่านางจะทำเช่นไรต่อไป
"หม่อมฉันดีใจที่ได้แต่งกับท่านอ๋องเพคะ"
"เช่นนั้นหรือ?"
"เพคะ หม่อมฉันยินดีเป็นของท่านอ๋องเพคะ"
ไม่พูดเปล่าหลิวหยวนเหนียงจัดการถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนหมด ยามนี้ร่างกายของนางเปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์สวมใส่ จ้าวฝูหมิงจ้องมองนางด้วยแววตาที่เรียบเฉย
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงเห็นใบหน้าของไป๋มู่หลันลอยมาในหัวอยู่ตลอดเวลา!!!
"ท่านอ๋อง"
หลิวหยวนเหนียงขยับเข้าไปใกล้ ๆ เขา ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขาอย่างเชิญชวน จ้าวฝูหมิงกลอกตาไปมา ก่อนจะผลักนางลงไปบนเตียง
บัดซบ!!! หน้าของไป๋มู่หลันลอยมาอีกแล้ว!!!
"ท่านอ๋องเพคะ!!!"
"หุบปาก!!! แล้วใส่เสื้อผ้าเสีย หน้าอกเล็กปานนั้นยังกล้ามาถอดให้ข้าดู ช่างเป็นตราบาปแก่ดวงตาข้ายิ่งนัก!!!"
หลิวหยวนเหนียงอ้าปากค้าง ทำได้เพียงยืนมองเขาหันหลังเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจนางอีก
ท่านอ๋อง!!! นี่เขาทิ้งนางไว้ในห้องหอคนเดียว!!!
จ้าวฝูหมิงก้าวเท้าเดินตรงไปที่เรือนของไป๋มู่หลันทันที หนิงชุ่ยที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพเขาทันที
"คารวะท่านอ๋อง"
"อนุของข้าเล่า?"
"หลับไปแล้วเพคะ คงเพราะอ่อนเพลียที่รอบเดือนมามาก..."
หนิงชุ่ยเพิ่งรู้ตัวว่าพูดสิ่งใดออกไป จึงรีบยกมือขึ้นปิดปากตนเองทันที จ้าวฝูหมิงหรี่ตามองนางอย่างเย็นเยียบ จนหนิงชุ่ยขนลุกขนชันไปทั้งร่าง
"เจ้าพูดสิ่งใดเมื่อครู่นี้?"
"เอ่อ...บ่าว"
"จะบอกดีดี หรือจะให้ข้าดึงลิ้นเจ้าออกมาทิ้งเสีย?"
"ฮือออ ท่านอ๋อง!!!"
"ตอบมา!!!"
"นายหญิงมีรอบเดือนมาเมื่อหลายวันก่อนเพคะ ยามนี้นางหายดีแล้ว"
จ้าวฝูหมิงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมทอประกายแวววาวอย่างปิดไม่มิด
ด้านไป๋มู่หลันกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง แต่ทว่าประตูของนางกลับถูกใครบางคนถีบจนเปิดออก
"ได้ยินว่าอนุคนงามของข้ารอบเดือนมาแล้ว แต่ไม่ยอมบอกสามีเช่นนั้นหรือ?"
"ท่านอ๋อง!!!"
ไป๋มู่หลันรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพเขาด้วยแววตาที่ตื่นตระหนก หนิงชุ่ยคงพลั้งปากบอกเขาไปแล้วเป็นแน่
"เจ้าไม่ยอมบอกข้า?"
"เอ่อ ท่านอ๋องมิต้องเข้าหอกับพระชายาหรือเพคะ"
ไป๋มู่หลันพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของเขา แต่ทว่าจ้าวฝูหมิงกลับเข้ามากอดรัดกายของนางเอาไว้แน่น หึ!!! คิดจะหนีข้าหรือ ฝันไปเถิด!!!
"ข้าไม่อยากเข้าหอกับนาง ข้าอยากเข้าหอกับเจ้ามากกว่า"
ไป๋มู่หลันที่ได้ยินเช่นนั้นก็ร่างกายแข็งทื่อทันที เมื่อนึกถึงวันแรกที่เขาเปิดแท่งเอ็นร้อนให้นางดูก็รู้สึกเขินอายยิ่งนัก
แต่แอบใหญ่นะ!!!
ไม่สิ!!! ห้ามคิดเรื่องน่าเกลียดเช่นนี้นะไป๋มู่หลัน
จ้าวฝูหมิงโน้มใบหน้าลงไปหอมที่หัวไหล่ขาวเนียนทั้งสองข้างของนางด้วยความหื่นกระหาย
โอวว!!! หอมกว่าสตรีใดที่ข้าเคยพบเจอเสียอีก
ยามที่เขาโน้มใบหน้าเข้ามาดอมดมกายนาง ความรู้สึกวาบหวิวก็เข้ามาแทนที่ ไป๋มู่หลันไม่รู้ว่าเหตุใดตนเองจึงรู้สึกเช่นนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูก
มันทั้งรู้สึกดีและน่าหวาดกลัวไปพร้อม ๆ กัน
จ้าวฝูหมิงยื่นใบหน้าเข้าไปจูบไซ้ซอกคอขาวเนียนของนางด้วยความหลงใหล ไป๋มู่หลันพยายามผลักไสเขาออกในคราแรก แต่เมื่อถูกเขาพรมจูบไปทั่วทั้งกายสาวก็พลันอ่อนแรงลงมิอาจต้านทานเขาได้อีก มือเรียวสวยจิกรั้งท่อนแขนของเขาเอาไว้ด้วยความเสียวซ่าน
จ้าวฝูหมิงแลบลิ้นเลียและขบกัดใบหูของนางอย่างหยอกเย้า พลางส่งเสียงกระซิบที่ข้างหูของนางด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
"เรามาเข้าหอกันเสียทีเถิด"
"ท่านอ๋อง พระชายาเล่าเพคะ?"
"ช่างหัวนางสิ!!! หากนางทนไม่ไหวก็ให้นางไสหัวกลับไปที่บ้านเดิมของนางเสีย!!! ข้าจะเข้าหอกับเจ้า!!! มาเถิด!!! ข้าจะถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกให้หมด"
ยี่สิบปีต่อมา จ้าวฝูหมิงและไป๋มู่หลัน มีบุตรชายทั้งหมดสามคน และบุตรสาวทั้งหมดสามคน บุตรชายมีใบหน้าหล่อคมเช่นเดียวกับเขา ส่วนบุตรสาวก็มีใบหน้าละม้ายคล้ายไป๋มู่หลัน อีกทั้งยังมีหน้าอกใหญ่โตเหมือนกับมารดาอีกด้วย บุตรคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะไม่สร้างปัญหาใดใด ยกเว้นเสียแต่ จ้าวเย่เหม่ยและจ้าวจื่อหรง ไม่นานมานี้จ้าวจื่อหรงได้ออกไปล่าสัตว์ในป่า ระหว่างทางกลับเขาได้แบกสตรีชาวบ้านนางหนึ่งมาด้วย และบอกว่าจะรับนางเป็นอนุ อีกทั้งยังขับไล่นางบำเรอออกไปจากเรือนจนหมด "จื่อหรง เจ้าไปพานางมาจากที่ใด?"จ้าวฝูหมิงในยามนี้ ใบหน้าของเขาแก่ชราลงไปไม่น้อย แต่ยังคงความหล่อเหลาและน่าเกรงขามเอาไว้อยู่ ดวงตาคมจ้องมองบุตรชายด้วยความสงสัย จ้าวจื่อหรงทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะยกเท้าขึ้นมาวางพาดบนโต๊ะอย่างไม่เกรงกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย "ข้าชอบนาง ข้าว่านางเหมือนท่านแม่มาก ท่านพ่อ ข้าชอบหน้าอกของนาง"จ้าวฝูหมิงขมวดคิ้วมุ่น บัดซบ!!! มันไปได้นิสัยจากใครมา ป่าเถื่อนยิ่งนัก!อ้อ!!! ลูกข้าย่อมต้องเหมือนข้าสินะ "เจ้าทำเช่นนี้มิถูกต้อง พานางไปส่งบิดามารดานางเสีย""ไม่ขอรับ! ได้ยินมาว่าตอนสมัยหนุ่ม ๆ ท่านพ
งานเลี้ยงดำเนินไปได้ด้วยดี ส่วนสาวใช้ของนางที่ถูกจ้าวซือซืออุ้มหนีหายไปนั้น ยามนี้กำลังซบหน้าอยู่ในอ้อมกอดของจ้าวซือซือด้วยความเขินอาย นี่มันเรื่องอะไรกัน?จ้าวฝูหมิงแต่งตั้งหลัวเฉิงลู่เป็นผู้ว่าการมนฑล และดูแลความเรียบร้อยของแคว้นหมิง รวมถึงมีศาลาว่าการ ศาลาร้องเรียน มีหอนางโลม โรงน้ำชา และสถานศึกษา โรงฝึกทหาร ทุกอย่างเหมือนเสียนหยางทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นเสียนหยางแห่งที่สอง เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ตั้งตนเป็นฮ่องเต้ก็เท่านั้น เขาอยากใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป มีภรรยามีบุตร ไม่มีกฎเกณฑ์ใดใดตายตัว เขาชอบชีวิตอิสระเช่นนี้ หลายวันก่อนไป๋มู่หลันมาออดอ้อนเขาว่าอยากได้ปลามาว่ายเล่นในสระน้ำสักหลาย ๆ ตัวเขาเองแม้จะไม่ชอบปลาพวกนั้นเท่าใดนัก แต่ก็ยอมตามใจนางแต่โดยดี ขืนมาตอดข้าอีกข้าจะจับพวกมันต้มกินให้หมดเสีย คอยดูเถิด!!!ยามนี้ไป๋มู่หลันกำลังนั่งมองดูปลาในสระพลางแบ่งขนมแป้งในมือให้ฝูงปลาที่แหวกว่ายในน้ำ ลูก ๆ หลับไปหมดแล้ว นางเองก็รู้สึกเมื่อยล้าจึงอยากมานั่งริมสระบัวเพื่อผ่อนคลายเสียหน่อย ยามนี้อากาศก็ช่างร้อนอบอ้าวยิ่งนักจ้าวฝูหมิงเห็นชายายอดรักกำลังให้อาหารปลาอยู่ใต้แสงจันทร์ ก็รู้สึกว่
ยามนี้จวนอ๋องกำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะต้องเตรียมตัวย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่แคว้นฉี จ้าวฝูหมิงเองก็ต้องจัดเตรียมการต่าง ๆ ให้พร้อมสรรพ เพื่อมิให้ภรรยาและลูก ๆ ลำบากมากนัก ในการเดินทางไกลเช่นนี้ จ้าวซือซือกำลังนั่งเล่นกับจ้าวเย่เหม่ยและจ้าวจื่อหรงอย่างสนุกสนาน วันนี้จ้าวฝูหมิงเรียกนางมาเพราะต้องการแบ่งสินเดิมของเสด็จแม่ให้นางเอาไว้ใช้ด้วย เพราะเขาต้องไปอยู่ที่อื่น คงจะไม่มีเวลามาดูแลร้านรวงเหล่านั้นเหมือนแต่ก่อนอีก "อะนี่ ข้าให้เจ้า""หมดนี่เลยหรือ?""ใช่ ร้านค้าในตรอกหลายสิบร้านข้ายกให้เจ้าทั้งหมด พร้อมโฉนดที่ดินอีกหลายหมู่ที่นอกเมือง และข้าหานางบำเรอสวย ๆ ให้เจ้าหลายสิบคนแล้ว เจ้ากลับเรือนไปคงได้เจอกับพวกนาง ส่วนร้านรวงที่ใกล้เคียงกับร้านของเจ้า ข้าฝากเจ้าดูแลแทนด้วย""ได้สิ ไม่มีปัญหา เฮ้อ!!! ข้าคิดถึงน้องไป๋ยิ่งนัก นางไปอยู่ไกลเช่นนี้ ข้าจะมองนมใครล่ะ"จ้าวฝูหมิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองจ้าวซือซืออย่างเอาเรื่อง "บัดซบ!!! เจ้าแอบมองนมเมียข้าหรือ!!!""นานแล้ว อยากลองจับสักครา""หุบปาก!!! อย่าแม้แต่จะคิด!!!""ก็ได้แค่คิดเองเพคะ พี่รองข้าชอบภรรยาท่านจริง ๆ นะ ข้าหลงรักนาง""แล
ไป๋มู่หลันพักรักษาร่างกายอยู่ในจวนอ๋องโดยมีหมอหลวงจากในวังมาคอยปรนนิบัติเป็นอย่างดี จ้าวฝูหมิงเองหลังจากประชุมเช้าเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้คุมทหารฝึกฝน เขาก็จะรีบกลับมาหานางกับลูกโดยเร็ว เจ้าก้อนแป้งทั้งสองอ้วนท้วนแข็งแรงสมบูรณ์ดี และยังมีแม่นมมาช่วยดูแลอีกทาง นางจึงเบาแรงลงไปได้เป็นอย่างมาก จ้าวซือซือเองก็มาเยี่ยมเยือนหลาน ๆ ของนางอยู่ทุกวันเวลาล่วงเลยมาจวบจนจ้าวเย่เหม่ยและจ้าวจื่อหรงอายุได้หกเดือนเศษ จ้าวฝูหมิงจึงพานางและลูกเข้าวังหลวงไปหาจ้าวฝูหรง โม่ฉือเองก็ตามมาด้วยเพราะมันติดเจ้าก้อนแป้งทั้งสองมาก"ใบหน้าเหมือนน้องรองยิ่งนัก""หึ ลูกข้าก็ต้องหน้าเหมือนข้าสิ ถามไม่เข้าท่า""เอาเถิด พี่ไม่อยากทะเลาะกับเจ้า"จ้าวฝูหรงไม่อยากถือสาหาความกับน้องรองผู้นี้ เพราะรู้ว่าเถียงไปอย่างไรก็ไม่มีวันชนะ "ฝ่าบาทเพคะ ทรงเสวยชาร้อนก่อนเถิดเพคะ"ไป๋มู่หลันหันไปมองสตรีผู้หนึ่งที่เดินเข้ามาพร้อมกับชาร้อนในมือ นางแต่งตัวไม่เหมือนกับนางกำนัลหรือสตรีชาวเสียนหยางเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมามองไป๋มู่หลันคราหนึ่งด้วยแววตาเรียบเฉย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเทน้ำชาให้จ้าวฝูหรงต่อ ด้านจ้าวฝูหมิงเองก็ปร
ผ่านไปหลายวันกว่าที่เสียนหยางจะเก็บกวาดซากศพของเหล่าทหารที่ล้มตายออกไปจากเมืองหลวงจนหมด ทหารเสียนหยางที่ล้มตายถูกฝังอย่างดี ส่วนทหารแคว้นจ้าวและเผ่าตงหูถูกนำไปโยนเป็นอาหารสัตว์ในป่าเสีย จ้าวฝูหรงได้กลับมาเป็นฮ่องเต้อีกครา แม้จะมีสนมมากมายในวังหลวง แต่เขาก็ไม่คิดแต่งตั้งใครเป็นฮองเฮา เพราะยังฝังใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อยู่ ฉู่อ๋องและเว่ยอ๋องได้รับรางวัลพระราชทานมากมายที่เข้าร่วมช่วยเหลือทำศึกในครั้งนี้ จ้าวฝูหรงเองก็จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองให้เหล่าทหารที่ร่วมรบอย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่ เหล่าราษฎรต่างกลับมาใช้ชีวิตกันเช่นเดิมอีกครั้งหนึ่ง จวนตระกูลเสี่ยวถูกปิดร้างเอาไว้ พร้อมกับหลุมศพของเสี่ยวลู่หานที่ถูกฝังเอาไว้ในนั้น ผู้คนต่างไม่กล้าเหยียบย่างเข้าไปใกล้เพราะถือเป็นพื้นที่ต้องห้าม จ้าวฝูหรงได้พระราชทานแคว้นจ้าวให้จ้าวฝูหมิงเพิ่มอีกหนึ่งแคว้น ด้วยเพราะน้องรองของเขาต่อสู้ร่วมรบอย่างสุดกำลัง สร้างความดีความชอบเป็นอย่างมาก ส่วนจ้าวซือซือนั้นเขาพระราชทานตำหนักใหม่ให้นางที่นอกวังหลวง และยังส่งนางบำเรอไปให้นางเพิ่มอีกด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงป้องกันน้องหญิงของเขาจะมาลวนลามนางสนมในวังอีก แต่ถึ
เสี่ยวลู่หานพาไป๋มู่หลันมุ่งหน้ามายังด้านหลังประตูวัง แต่กลับพบกับเหล่าทหารของจ้าวเฟยหรงและข่านมู่เจี่ยที่เดินขวักไขว่เต็มไปหมด พวกมันช่างใจหยาบช้ายิ่งนัก เข่นฆ่าเด็กและคนแก่ชรา อีกทั้งยังฉุดคร่าสตรีเสียนหยางอย่างไร้ซึ่งความปรานี "คุณชายขอรับ คุณหนูเสี่ยวหนิงปลิดชีพตนเองแล้ว ส่วนท่านเสี่ยวหลานถูกข่านมู่เจี่ยจับตัวไว้ขอรับ"เสี่ยวลู่หานหันไปพยักหน้าให้คนรับใช้ที่เขาส่งไปสืบข่าว ก่อนจะหลับตาลงอย่างช้า ๆ ยามนี้ผ่านมาหลายสิบวันแล้วที่เสียนหยางถูกกุมอำนาจเอาไว้ทั้งหมด และปกครองโดยจ้าวเฟยหรงและข่านมู่เจี่ยท่านพ่อถูกจ้าวเฟยหรงและข่านมู่เจี่ยหักหลังเสียแล้ว ท่านพ่อประมาทเกินไป ไว้ใจสองคนนั้นมากเกินไป 'เขา' ที่ท่านพ่อส่งจดหมายติดต่อมาตลอดก็คือจ้าวเฟยหรงและข่านมู่เจี่ย ท่านพ่อตกลงก่อสงครามร่วมกันกับคนเหล่านั้น เดิมทีท่านพ่อคิดจะตลบหลังสองคนนั้นอีกที แต่คาดไม่ถึงว่าจ้าวเฟยหรงและข่านมู่เจี่ยจะยกทัพมามากมายเช่นนี้ ตระกูลเสี่ยวจบสิ้นแล้ว!!!ไป๋มู่หลันที่เห็นเขามีใบหน้าเศร้าใจเช่นนั้นก็รู้สึกสงสารจับใจ เสี่ยวลู่หานที่ได้เห็นแววตาเห็นใจจากนางก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจเป็นอย่างยิ่ง นางคงยังมิรู้ว่าเขาคือ