เซียวอี้เซียนลงมาถึงด้านล่างก็เอ่ยกับหมิงจูอย่างแคลงใจ"คุณหนูรองเป็นคนของรัชทายาท องค์ชายใหญ่เกี่ยวอันใดกับเรื่องนี้กัน ครั้งก่อนก็ทะเล่อทะล่าไปตำหนักบูรพา ครั้งนี้ก็มาวุ่นวายกับสตรีของรัชทายาท องค์ชายใหญ่คงว่างงานมากสินะ โดยเฉพาะเจ้า เป็นสาวใช้สกุลหลานแต่กลับเอ่ยถึงแต่สกุลหวัง หากข้าไม่รู้นึกว่าเจ้ามาจากสกุลหวังเสียอีก"หมิงจูสบตากับองครักษ์อีกคน แต่กลับไม่พ้นสายตาจูเหวิน เขาพยักหน้าให้กับหยวนทงจากนั้นก็เดินออกไปไม่เหลียวหลัง เซียวอี้เซียนอยู่ตรงนี้เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่านางคือคนที่ช่วยมารดาเขาคนนั้น เซียอี้เซียมองหน้าหลานซิ่วเอ๋อร์เห็นความผิดปกติบางอย่างแต่เลือกที่จะเงียบเอาไว้ หมิงจูถูกส่งตัวกลับไปเพราะประพฤติตนไม่เหมาะสม ยามเซินพวกนางจึงออกจากโรงเตี๊ยมเพื่อไปยังอารามไท่อิน ปลายยามเว่ยก็มาถึงอาราม เหล่าสนมที่มีเรื่องครั้งก่อนถูกแยกออกไปแล้ว เสียงคร่ำครวญไม่น้อยพวกนางไม่ควรที่จะเข้าข้างหวังกุ้ยเฟยเลย เมื่อเซียวอี้เซียนเข้าที่พักเรียบร้อย รถม้าอีกคันก็วิ่งมาจอด จางลี่เฟยก้าวลงมาจากรถม้า สีหน้าของนางยามนี้ราวกับเคียดแค้นคนทั้งโลก เซียวอี้เซียนเดินผ่านนางไปไม่
ยามเหมาเซียวอี้เซียนตื่นแล้ว หยางเทียนหลงลุกขึ้นเข้าต้องรีบไปก่อนที่ทุกคนจะตื่น กระทั่งได้ยินเสียงจากห้องของหลานซิ่วเอ๋อร์ แม่ตัวดีนั่นทำอะไรกันเช้าเช่นนี้ก่อนจะเอ่ยถามเซียวอี้เซียน"นางมิได้รุ่มร่ามกับเจ้าใช่หรือไม่""มิได้เพคะ นางสงบเสงี่ยมไม่น้อย ดูท่าหมิงจูคนนั้นคงถูกสั่งให้มาจับตาดูนาง""อืม นางฝีมือดี มีนางอยู่พี่ก็วางใจ ชุ่ยเหยียนไปคุ้มครองมารดาเจ้าท่านอาหลี่ทั้งสองเป็นบุรุษย่อมไม่สะดวก ซูจินกับซูหวานสองพี่น้องอารักขาเจ้าได้ บวกกับฝีมือของหลานซิ่วเอ๋อร์อย่างน้อยก็สามารถรั้งจนกว่าองครักษ์จะมาถึง""หากนางเข้าวังไปเป็นชายารองจริง จะไม่ตัดเส้นทางนางหรือเพคะ"อย่ากังวลเลย รัชทายาทมีทางออกเรื่องนี้แล้ว พี่ต้องไปแล้วหากมีคนมาเจอพี่อยู่กับเจ้าจะไม่ดี กลับเมืองหลวงครั้งนี้มีเรื่องให้เจ้าประหลาดใจด้วย"เซียวอี้เซียนทำสีหน้างงๆ หยางเทียนหลงรั้งนางมาจุมพิตจากนั้นก็เตรียมตัวที่จะออกไป จินฝานอุ้มเสี่ยวฮวากลับมาวางที่เดิม เซียวอี้เซวียนถอนหายใจเบาๆ นอนขี้เซาขนาดนี้เชียวหรือแม่กระต่ายน้อย หากไฟไหม้เจ้ามิตายในกองเพลิงแล้วหรือ นางเอ่ยกับหยางเทียนหลง"พี่เทียนหลง เรื่องเมือ
หลานซิ่วเอ๋อร์ทั้งโกรธเกลียด ทั้งรัญจวนกับสิ่งที่เขามอบให่ นางส่งเสียงครางแสนหวานออกมายามที่เขาขยับเขยื้อนหนักหน่วง แขนเรียวกอดเขาแน่น ปากจิ้มลิ้มเม้มเอาไว้ไม่ส่งเสียง จูเหวินหยุดการกระทำเพื่อให้นางทรมานและร้องขอเขา"ท่านหยุดทำไม ข้าๆ""เจ้าบอกว่ารังเกียจข้าเช่นนั้นข้าไม่ทำต่อแล้ว ไหนๆเจ้าก็ไม่บริสุทธิ์แล้วพวกเราหยุดแค่นี้เถอะ""จ้าวเหวินคนใจร้าย เจ้าต้องการกลั่นแกล้งข้า อ๊า จะ จ้าวเหวิน""ข้าแซ่จู เรียกใหม่ ถ้าอยากให้ข้าช่วยเจ้าก็ขอร้องข้าสิหลานซิ่มเอ๋อร์"หลานซิ่วเอ๋อร์ร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขาทำราวกับนางคือหญิงในหอนางโลมจริงๆ นางทรมานเมื่อเขายังคงแช่เอาไว้ไม่ยอมขยับ จูเหวินรอคอยให้นางเอื้อนเอ่ย ในที่สุดคนใต้ร่างก็ทนไม่ไหวเรียกหาอย่างที่เขาต้องการ"คุณชายจู ได้โปรดท่านช่วยข้าด้วย""อยากให้ข้าทำอะไรไหนบอกสิแม่นางหลาน""ช่วยทำให้ข้าสุขสมด้วย ได้โปรดเถอะข้าทรมานนัก อ๊า คุณชายจู อื้อ จูเหวิน ท่านเร่งอีกข้า ""เรียกชื่อข้าอีกเด็กดีแล้วข้าจะส่งเจ้าไปวิมานชั้นฟ้าเร็วเข้าเรียกชื่อข้า""อ๊า จูเหวินข้าจะถึงแล้วได้โปรด ข้าต้องการท่าน""อ่าห์ เจ้าช่างเย้ายวน ข้าโชคดีจ
หลานซิ่วเอ๋อร์ชำระร่างกายเรียบร้อยก็เตรียมเข้านอน พรุ่งนี้ยังมีเรื่องสนุกๆรอนางอยู่ หลานซิ่วเอ๋อร์กำลังจะเคลิ้มหลับอยู่ๆนางก็ลืมตา มีดสั้นใต้หมอนถูกล้วงออกมาก่อนจะเหวี่ยงข้อมือไปด้านหน้า มือหน้าคว้าข้อมือนางเอาไว้จากนั้นก็บิดจนมีดหลุดมือ เขารวบมือนางด้วยมือเพียงข้างเดียว แม้ว่าแสงตะเกียงจะถูกหรี่แต่ก็พอมองเห็นลางๆ หลานซิ่วเอ๋อร์เค้นชื่อเขาออกมาทำละคำ"คุณชายรองจ้าว ท่านมาห้องข้าทำไมต้องการอะไร""คุณหนูรอง ข้าแซ่จูเจ้าตกข่าวรึ หรือว่าวันๆมันแต่ไล่ตามรัชทายาท ทำตัวน่ารังเกียจวางแผนไล่จับสามีชาวบ้านกัน""ข้าไม่สนเจ้าจะแซ่อะไร คุณชายรองปล่อยข้านะ""ปล่อยหรือ หลานซิ่วเอ๋อร์อยากเป็นสตรีขององค์รัชทายาทถ้าเกิดทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เจ้าคิดล่ะ""หมายความว่าอย่างไร จ้าวเหวินข้าเป็นสตรีของพระองค์เจ้ากล้าแตะต้องข้าหรือ บุรุษเช่นพวกเจ้าเหตุใดรน่ารังเกียจยิ่งนักนะ บอกให้ปล่อยข้า"หลานซิ่วเอ๋อร์ปล่อยลมปราณเพื่อจัดการกับเขา ใครจะรู้เขากลับไม่สะทกสะท้าน จ้าวเหวินมีกำลังภายในแข็งแกร่งเพียงนี้เชียวหรือ เช่นนั้นที่ว่ากันว่าเขาทำร้ายจ้าวเฉิงจนเกือบพิการก็ไม่ใช่เรื่องโกหกงั้นสิ จ
ทุกคนแยกย้านกันเข้าพักแรม เซียวอี้เซียนไปหาท่านย่าและท่านแม่ของนาง เซียวอี้เซียนกำลังแช่เท้าให้ท่านย่าของนางเอ่ยพูดคุยกันทั่วไป นางรู้ดีว่าในบรรดาคนของนางและคนของฉีฮู่ยหมิ่นอาจมีคนของอีกฝ่ายปะปนมาจึงพูดคุยเพียงเรื่องราวทั่วไป"ท่านย่าเจ้าคะ ท่านอ๋องกว้านซื้อเมล็ดพันธุ์มามากมายยิ่งนัก รอกลับไปแล้วข้าจะดูว่าดินที่รัชทายาทนำกลับมาเหมาะกับพืชชนิดใด""เซี่ยนเซี่ยนของย่า ดินก็ส่วนหนึ่งสภาพอากาศก็ส่วนหนึ่ง เรื่องนี้หลานอย่าลืมใสใจเสียด้วยเล่า""เจ้าค่ะ หนังสือที่ท่านย่าเขียนล้วนแต่มีประโยชน์ หลานอ่านจบแล้ว ทบทวนหลายรอบมากจึงเข้าใจศาสตร์การเกษตรที่ท่านเขียนเอาไว้ ท่านย่าของหลานสมกับเป็นอัจฉริยะจริงๆ"ไป๋จินหวนที่เพิ่งจะเสร็จจากการชำระกายเดินเข้ามาก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยกระเซ้าบุตรสาว"ไอ้โย่ว เซี่ยนเซี่ยนของเราเดี๋ยวนี้ประจบท่านย่าเป็นด้วยหรือ ออดอ้อนเก่งปานนี้สมบัติสกุลเซียวจะไปไหนได้อีกเล่า ล้วนแต่เป็นของเจ้าทั้งนั้น"เซียวอี้เซียนนำถังไม้ออกก่อนจะเอาเท้าของหญิงชราวางที่หน้าตักค่อยๆซับๆด้วยผ้าจนแห้งจากนั้นจึงสวมถุงเท้าให้นาง ก่อนจะหันไปทางมารดาแล้วตอบกลับ"ท่านแม่เจ้าคะ สมบ
รถม้าที่ไม่มีสัญลักษณ์ของจวนใดค่อยๆเคลื่อนเข้ามาจนกระทั่งมาถึง เซียวอี้เซียนพยักหน้าให้กับสาวใช้คนใหม่สองคนที่หยางเทียนหลงมอบให้นางก่อนจะเอ่ย"ซูจิน ซูหว่านพวกเจ้าไปดูหน่อย""เพคะพระชายา/เพคะพระชายา"ทั้งสองไปที่รถม้าพูดคุยกับคนในรถพักหนึ่งก็เดินกลับมา ก่อนจะรายงาน"คุณหนูที่อยู่ในรถม้ากล่าวว่ามารดาป่วยหนัก นางอยากอาศัยขบวนของเราไปด้วยได้หรือไม่เพคะ นางจะไปขอยันต์ศักดิ์สิทธิ์ให้กับมารดาของนาง""ตรวจสอบดีแล้วหรือ ไม่ใช่คนร้ายนะ""เพคะ รถม้านางเช่ามาต้องรีบคืนภายในสามวัน""งั้นไปกันเถอะ ท่านอ๋องหม่อมฉันไปแล้วทรงเสวยอาหารตรงเวลานะเพคะ อย่าทำงานจนลืมเสวยอาหารอีก""วางใจเถอะคนดี อะไรที่เจ้าสั่งพี่ย่อมทำตาม เดินทางระวังด้วย เซี่ยนเซี่ยนพี่จะรอเจ้ากลับมานะ""เพคะ หม่อมฉันจะขอพรเผื่อพระองค์""งั้นหรือ คนดีเจ้าขอให้ตำหนักหย่งฉือของเรามีเจ้าตัวน้อยออกมาวิ่งเล่นเยอะๆก็พอ พี่อยากเป็นพ่อคนเต็มทีแล้ว"เซียวอี้เซียนหน้าแดงก่อนจะขึ้นรถม้า ซูจินกับซูหว่านคำนับเขา จากนั้นซูจินก็นั่งบนรถม้าด้านหน้าพร้อมคนขับ ส่วนซูหว่านนั่งด้านในกับเซียวอี้เซียนและเสี่ยวฮวา ฉีฮุ่ยหมิ่นออกหน้าไปก่อน
ปลายยามเซินทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว การเดินทางไปวัดครั้งนี้ครอบครัวสกุลเซียวมีไท่ฮูหยินกับฮูหยินใหญ่ไปด้วยกัน เมื่อขบวนพร้อมก็รอเพียงเวลาออกเดินทาง หยางเทียนหลงจัดองครักษ์เงาให้คุ้มครองเซียวอี้เซียนกับท่านย่าและมารดาของนางสองร้อยคน ฉีฮุ่ยหมิ่นมีคนของรัชทายาทคุ้มครองกว่าสามร้อยคน โดยไม่เปิดเผยร่องรอย ใช้เป็นกำลังเสริมหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อถึงเวลาออกเดินทางรถม้าก็เตรียมพร้อม ท่านย่าของเซียวอี้เซียนนั่งรถม้าคันเดียวกับท่านย่าของพระชายารัชทายาท หญิงชรานำหน้าไปก่อนแล้วเพื่อไม่ให้รับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิด หยางเฟยหยางเดินมาที่ขบวนพร้อมกับหลานซิ่วเอ๋อร์ที่เกาะแขนเขามาตลอดทาง เมื่อมาถึงนางก็ทำความเคารพฉีฮุ่ยหมิ่น"คารวะพี่สาว.. ไท่จื่อทรงมีพระประสงค์ให้น้องตามไปด้วยครั้งนี้ จะได้คอยช่วยเหลือกัน หวังว่าจะไม่ทำให้พี่สาวต้องอารมณ์ขุ่นมัวนะเพคะ""พี่สาวอะไรกัน พระชายาของข้าเป็นบุตรีคนเดียวนายท่านก็ไม่ใช่พวกบุรุษมักมากอย่างพวกที่ยืนอยู่แถวนี้ จะไปมีลูกนอกสมรสที่ไหน ก็แค่ลูกเมียน้อยเสนอหน้าเหลือเกิน หึ"ซู่ซู่ไม่พอใจรัชทายาทมากกว่าเดิม ทำเกินไปจริง จะให้นางไปก็ไปสิ สนมในวังไป
ขอทานน้อยส่งสายตาไปหาเซียวอี้เซียนที่ยืนมีผ้าคลุมหน้าไปเผยแก่สายตาคนนอกอยู่ มีรอยแดงจางๆที่ดูแล้วหวังกุ้ยเฟยคงลงมือหนักไม่น้อย ช่างเป็นสตรีร้ายกาจเสียจริง(ที่จริงนางให้จินฝานช่วยตบเพราะหยางเทียนหลงไม่กล้าลงมือกับเมียรักและจินฝานก็ยังคุกเข่าที่หน้าเรือนเพราะบังอาจตบพระชายา)เมื่อเซียวอี้เซียนพยักหน้าขอทานจึงเอ่ยต่อ"ข้าได้ยินมาอีกว่ามีโรคระบาด สกุลจ้าวแทนที่จะเฝ้าระวังแต่ไม่รู้ว่าเฝ้าอย่างไรมีคนที่ติดเชื้อหายไป ห่างเมืองหลวงไปแปดสิบลี้เริ่มมีคนป่วยแล้วขอรับ ท่านลุงข้าเป็นขอทานไม่มีบ้านไม่มีอาหาร หากมีใครเอาโรคระบาดมาติดคงรอความตายอย่างเดียวแล้วขอรับ ข้าไม่มีเงินซื้อยา"จูเหวินแสร้งนั่งลงไปลูบศีรษะขอทานน้อยทั้งหลายก่อนจะเอ่ยถาม"เจ้าหนูฮ่องเต้มากบารมีราษฎรย่อมต้องร่มเย็น อย่ากังวลเลย""แต่ว่า สกุลจ้าวกับๆองค์ชายใหญ่อะไรนั่น ข้าได้ยินว่าเขากว้านซื้อสมุนไพรทุกร้านจนตอนนี้สมุนไพรขาดแคลนแล้วขอรับ""แต่ว่ายังเหลือร้านตรอกอี้เหยาแม้ว่าร้านไม่ใหญ่แต่เถ้าแก่มีคุณธรรมขอรับ"ชาวบ้านกำลังถกเถียงกันอยู่ก็ได้ยินเสียงของหนิงอ๋องหลงดังมาจากในตำหนัก"น้องหญิงเงินที่ได้รับมากับข้าวของเหล่านี้
ปลายยามเหมาเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอกของตำหนักหย่งฉือ เซียวอี้เซียนลืมตาก่อนจะขยับ หยางเทียนหลงรั้งร่างบางให้นอนหนุนแขนเขาต่อก่อนจะเอ่ยงึมงำ"นอนเถอะพวกเขาส่งของขวัญมาขอขมาเจ้าน่ะน้องหญิง""ของขวัญอันใดกันเพคะ เมื่อวานมิใช่ว่าเก็บเงินพวกเขามาหนึ่งล้านสี่แสนตำลึงแล้วหรอกหรือเพคะ""บางครอบครัวไม่มีเงินจ่ายน่ะเลยเอาของมาชดใช้""อ๊า..พี่เทียนหลงงั้นพวกเราตื่นเถอะเพคะ"หยางเทียนหลงมองร่างบางที่กุลีกุจอลุกจากที่นอนขึ้นมานั่งแล้วพยายามรั้งเขาขึ้นมา สายตาซุกซนบ่งบอกว่านางมีเรื่องอะไรสนุกๆอีกแล้ว"วันนี้สายๆต้องออกเดินทาง จะซุกซนอันใดอีกคนดี""ก็ทรงตรัสว่าพวกเขาเอาสิ่งของมาชดใช้มิใช่หรือเพคะ หม่อมฉันมีความรู้เรื่องวัตถุโบราณฉะนั้นต้องรีบไปตรวจ หากใครกล้าเอาของปลอมมาปะปนละก็หม่อมฉันจะตกใจเพิ่ม ให้พวกเขาปลอบขวัญจนหมดตัวเลยเชียวเพคะ"หยางเทียนหลงหัวเราะออกมาเสียงดัง เมียนี่นางช่าง...จุ๊ๆๆบนแผ่นดินกว้างใหญ่คงไม่มีใครเหมาะสมกับเขาอีกแล้วหากไม่ใช่ดรุณีน้อยตรงหน้าเขาคนนี้"ฮ่าๆๆ เรียกคนมายกน้ำล้างหน้าบ้วนปากก่อน ดูเจ้าสิดีใจราวกับกระต่ายหลุดจากคอก""ก็หม่อมฉันดีใจนี่เพคะ"ใช้เวลาไม่นานทั้งคู