หากเขามีอาการกำหนัดมันจะออกฤทธิ์ต่อต้านกันรุนแรง แปลว่าบนตัวสาวใช้คนนี้โปรยผงยาปลุกกำหนัดเอาไว้ เซียวหงกำหน้าอกอย่างแรง เขากระอักเลือดออกมา เสี่ยวลี่ตกใจที่เห็นเจ้านายกระอักเลือดเต็มปาก นางร้องกรี๊ดจนบ่าวในเรือนวิ่งมาดู เซียวอี้เซียนรีบวิ่งมาทันทีพร้อมกับซุนเจิ้นหนาน ทันทีที่พังประตูเข้าไปก็เห็นบิดานอนกระอักเลือด ซุนเจิ้นหนานรีบเข้าไปหาฝังเข็มให้ทันทีเพื่อระงับอาการ
เซียวฮูหยินที่มาถึงเห็นอาการสามีก็ร้องไห้ปานจะขาดใจ เซียวอี้เซียนเดินไปหาตบหน้าเสี่ยวลี่อย่างแรงจนนางล้มลงเลือดกลบปาก
"เจ้าทำอะไร คิดปีนเตียงบิดาข้าหรือนังงูพิษ"
"คุณหนูกล่าวหาบ่าวเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ"
"สารรูปเจ้าตอนนี้ใส่เสื้อผ้าหรือแก้ผ้ายังไม่ต่างกันเลย ท่านตาเจิ้นหนานท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"
"ร่างกายเขาอ่อนแอ เดิมเรื่องหญิงชายก็ทำมิได้อยู่แล้ว เหมือนจะมีคนวางยาปลุกกำหนัดเขาน่ะ"
"ไม่นะ บ่าวป่าวนะเจ้าคะ คุณหนูท่านหมอซุนพวกท่านใส่ร้ายข้ามิได้นะ"
"ท่านตาตรวจนางได้หรือไม่"
"ไม่นะ....คุณหนูท่านหมอเป็นบุรุษ ท่านทำเช่นนี้มิเท่ากับลบหลู่เกียรติของบ่าวหรือ เช่นนี้ให้บ่าวตายเสียยังดีกว่า"
"อี้เซียน..มีอีกวิธีนี่เป็นแมลงที่ตาเลี้ยงเอาไว้ ขอเพียงบนตัวนางมีสมุนไพรที่ใช้ปรุงยานี้อยู่มันย่อมค้นหามาจนได้"
ซุนเจิ้นหนานเปิดกระบอกไม้ไผ่ออกมา แมลงตัวเล็กที่คล้ายๆกับจิ้งหรีดคลานออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ มันคลานไปหาเสี่ยวลี่ดมนางสักครู่ก็คลานไปตามทาง สาวใช้ตามแมลงตัวน้อยไปที่ห้องของเสี่ยวลี่ มันมุดผ้าห่มมุดหมอน จนกระทั่งไปหยุดที่รอยแยกข้างผนังห้อง สาวใช้คนหนึ่งเดินตรงไปแต่เสี่ยวลี่รีบไปขวาง ไม่ทันถึงแส้ในมือของเซียวอี้เซียนก็ตวัดรัดข้อมือนางกระชากกลับมา
สาวใช้ไปแงะตรงรอยแยกเจอห่อกระดาษสีน้ำตาล จึงนำออกมาสองห่อ จากนั้นก็ส่งให้เซียวอี้เซียนดู นางรับมาก่อนจะไปหาซุนเจิ้นหนาน หมอเทวดารับห่อกระดาษมาเปิดออกต้องปิดจมูก นี่เป็นยาปลุกกำหนัดชนิดรุนแรง เซียวหงไม่มีทางที่จะหลุดพ้นคืนราคะไปได้เลยหากสูดดมมันเข้าไป โชคดีที่เซียวอี้เซียนมาหาเขาก่อนหน้า บอกกับเขาว่านางไม่ไว้ใจสาวใช้บิดาเขาจึงให้สมุนไพรที่มีฤทธ์ต่อต้านกันมา แต่อาจทำให้เซียวหงลำบากสักหน่อยซึ่งเซียวอี้เซียนก็ยินยอม
"มีอะไรจะพูดไหมเสี่ยวลี่"
ซุนเจิ้นหนานถามสาวใช้ที่ตอนนี้นั่งตัวสั่นอยู่ นางจะทำเช่นไรดี จะบอกว่าตนเป็นคนของคุณชายจ้าวก็ไม่ได้ ทำอย่างไรดี
"เจ้าเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ พรุ่งนี้ขายออกไปให้หอนางโลมเถอะ ในเมื่อเจ้าชมชอบเรื่องโลกีย์เพียงนี้ที่นั่นอาจเป็นสถานที่ดีๆสำหรับเจ้า"
"ไม่นะท่านขายข้าไม่ได้ ลืมแล้วหรือในสัญญาขายตัวที่ไท่ฮูหยินซื้อตัวข้ามาห้ามขายข้าออกไป คุณหนูข้าจะไปขอความเป็นธรรมเรื่องที่ท่านใส่ร้ายข้ากับไท่ฮูหยิน"
เสี่ยวลี่ไม่ยอมแพ้ เสี่ยวฮวาที่ปกติเงียบขรึมขี้ขลาดมาตลอด นางเดินมาถึงก็ตบหน้าเสี่ยวลี่อีกข้างอย่างแรง เสี่ยวลี่น้ำตาร่วงนางเจ็บเหลือเกิน
"นางงูพิษ คิดฆ่านายท่านยังจะให้มารดาของเขาอุ้มชูเจ้าหรือ ไร้ยางอาย"
เซียวอี้เซียนเดินหน้ามาหาสาวใช้ทรยศก่อนจะเรียกหาบางคน
"พ่อบ้าน ท่านไปตามลุงโจวมิ่งมาสักหน่อยได้หรือไม่"
"ขอรับคุณหนู"
พ่อบ้านไปไม่นานก็มาพร้อมกับชายแก่อายุห้าสิบกว่าคนหนึ่ง ผิวดำมะเมื่อม ลงพุงหน่อยๆ โจวมิ่งเป็นบ่าวที่ทุกเช้าต้องนำสิ่งปฏิกูลไปเททิ้ง เขาไม่ค่อยคุยกับใครนักเพราะเนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหม็น เมื่อมาถึงก็นั่งลงคุกเข่า เซียวอี้เซียนเอ่ยกับเขาช้าๆ
"ลุงโจว....ท่านทำงานกับจวนเรามากี่ปีแล้ว"
"เรียนคุณหนู สี่สิบปีแล้วขอรับ บุญคุณของนายท่านข้าน้อยไม่เคยลืม"
"อืม..นับว่าท่านภักดียิ่งนัก ลุงโจวข้าอยากตอบแทนความภักดีของท่านสักหน่อย ข้าขอเป็นตัวแทนท่านย่ายกเสี่ยวลี่สาวใช้คนนี้เป็นภรรยาท่าน คืนนี้เข้าหอได้เลย สินสอดไม่ต้องจ่ายข้าจะให้เงินตั้งตัวแก่ท่านด้วย อายุท่านเยอะแล้วไปหาบ้านเล็กๆสร้างครอบครัวเถอะ"
"อะไรนะ..ไม่ๆๆเจ้าทำกับข้าอย่างนี้ไม่ได้นะ เซียวอี้เซียนเจ้ารู้ไหมข้าเป็นคนของใครเจ้ากล้าหรือ"
เสี่ยวลี่โวยวายออกมา นางดิ้นสุดฤทธิ์ แต่ถูกกดเอาไว้ โจวมิ่งมองไปที่สตรีงดงาม เสื้อผ้าที่นางสวมอยู่ช่างเย้ายวน เขาไม่เคยได้ลิ้มลองสตรีสักครั้ง วันนี้คุณหนูใจดียกสาวใช้คนนี้ให้เขาหรือ
"ขอบพระคุณคุณหนูมากขอรับ ข้าจะถนอมนางอย่างดีเลยขอรับ เมียจ๋าเจ้าไม่ต้องกลัวข้านะ ไปกันเถอะข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขที่แต่งงานกับข้า"
"ไม่เอามือโสโครกของเจ้าออกไป อ๊าย กรี๊ดดดด คุณชายจ้าวช่วยเสี่ยวลี่ด้วยเจ้าค่ะ เซียวอี้เซียนเจ้ามันไม่ใช่คน ปล่อยข้าปล่อย"
บ่าวชราลากเสี่ยวลี่ไปยังเรือนพักของตน นางขัดขืนเขาจึงแบกนางขึ้นบ่าไปจนได้ เซียวอี้เซียนไปดูบิดาที่ตอนนี้มารดากำลังเช็ดเหงื่อให้อยู่ นางมองมายังบุตรสาวน้ำตาคลอ
"ท่านแม่ นางเป็นคนของสกุลจ้าว มาเพื่อทำลายทายาทหนึ่งเดียวของสกุลเซียว หากข้าแต่งกับจ้าวเฉิงจะยังรอดหรือเจ้าคะ หากท่านพ่อจากไปสกุลเซียวย่อมต้องพึ่งพาบ้านสามี ข้าเชื่อว่าพวกเขาไม่ถอดใจหรอก มิแน่พรุ่งนี้อาจมีเกี้ยวสีชมพูมารับอนุเช่นข้าเข้าจวน"
"เลวนัก เซี่ยนเซี่ยนของแม่พวกเขาๆ"
"ท่านแม่วางใจ พวกเขาทำอะไรลูกไม่ได้หรอกเจ้าคะ เดิมทีข้าจะหาหลักฐานที่เสี่ยวลี่วางยาท่านพ่อ แต่ว่าข้าไม่รู้คิดอย่างไรกลัวว่านางจะปีนเตียงท่านพ่อจึงคิดแผนนี้ออกมา แต่ก็ทำให้ท่านพ่อร่างกายแย่ลงกว่าเดิม"
"อย่าห่วงเลยมีตาอยู่มิใช่หรือ หากไม่ได้ดื่มยาเทียบนั้นต่อเนื่องบิดาเจ้าจะอาการดีขึ้น"
เซียวอี้เซียนพูดคุยกับมารดาและซุนเจิ้นหนานอีกไม่นานก็กลับเรือนตนเอง ข้างนอกบ่าวกำลังสนุกกันใหญ่ เฒ่าโจวไม่เคยมีเมียพอได้เข้าหอก็ร่วมสวาทกับเสี่ยวลี่จนเสียงดังลั่นเรือน เสี่ยวลี่ครางราวกับสัตว์ในฤดูผสมพันธุ์ดูท่าตาแก่โจวคงจะทำให้นางได้ถึงใจ เซียวอี้เซียนยิ้มซ่อนมีดในใบหน้า จ้าวเฉิง จ้าวอันป๋อ ข้าจะลับมีดรอพวกเจ้าเดินมาชนบังตอของข้าเอง
บนหลังคาบุรุษสามคนที่นั่งดูปาหี่มาตั้งแต่ต้นก็เอ่ยปากพูดคุยกันหลังจากที่คุณหนูคนงามเดินกลับเรือนตนเองไปแล้ว
"ท่านอ๋อง ว่าที่พระชายาท่านช่างน่ากลัวยิ่งนัก นางวางแผนเช่นนี้ไม่เพียงจ้าวเฉิงเสียหมากไปแล้ว สาวใช้ในจวนที่หวังปีนเตียงบิดานาง หรือแม้แต่คิดปีนเตียงพระองค์ในอนาคตคงคิดหนัก มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว" ลู่เสวียนเอ่ยขึ้น
"น่าสงสารนางอยู่นะ ข้าไปแอบฟังมาตาเฒ่านั่นรุนแรงจริงๆ เตียงหักแล้วกระมัง"
หลินหย่งเอ่ยอีกประโยค แต่หยางเทียนหลงลุกขึ้นยืนก่อนจะเอ่ย
"เมียข้าฉลาดเพียงนี้ หากข้าอยากนอกใจนางกลัวว่าข้านั่นแหละจะโดนเชือดก่อนเสียเอง"
"ท่านอ๋อง หรือทรงกลัวพระชายาที่ยังไม่เข้าพิธีคนนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ"
"แล้วเจ้าสองคนว่า เมียข้าน่ากลัวหรือไม่"
เซียวอี้เซียนนั่งฟังถึงตอนนี้ก็นับถือน้ำใจของผู้ชายที่ชื่อลู่หนิงจริงๆ ในยุคที่บุรุษเป็นใหญ่และมีทั้งเงินกับอำนาจ หายากยิ่งนักที่จะรักเดียวใจเดียว นางเอ่ยกับหยางเทียนหลงที่กำลังนวดหน้าอกให้นาง ไม่รู้เขาไปเอาตำรามาจากไหนบอกว่าต้องนวดตอนท้องพอตอนคลอดจะได้มีน้ำนมให้ลูกกิน"พี่เทียนหลง ใต้เท้าลู่คนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับลู่กงกงใช่ไหมเพคะ""อืม...อาจารย์ อ้อ ลู่กงกงเป็นอาจารย์คนแรกของพี่น่ะ อาจารย์เป็นบุตรสายตรง ตอนเด็กๆอาจารย์ตามไปชายแดนสู่รบเคียงบ่าเคียงไหล่บิดาของเขา แต่กลับโชคร้ายบาดเจ็บตรงส่วนนั้น ท่านปู่ของเขาเห็นใจ เสด็จปู่เองก็เห็นใจในชะตาจึงถามว่าอยากรับใช้รัชทายาทหรือไม่ อาจารย์จึบงตกลงและกลายมาเป็นขันทีคนสนิทของฝ่าบาทนับแต่นั้นมา ใต้เท้าลู่ที่เป็นบุตรสายรองจึงสืบทอดสกุลลู่แทน""หม่อมฉันรู้มาว่า ลู่กงกงวรยุทธร้ายกาจ ถึงขนาดเป็นอาจารย์พระองค์ได้แปลว่าเขาต้องเก่งกาจมากๆ""อาจารย์คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งในใต้หล้า ระดับฝีมือมิค่อยแสดงเพราะไม่มีใครกล้าหาเรื่อง พี่เองยังแปลกใจหยางต่งเช่นไรว่าจะจัดการเสด็จลุงหากพระองค์ขัดขืน""หยางต่งรู้ทั้งรู้ว่าลู่กงกงเป็นยอดฝีมือยังจ
เหตุการณ์ก่อนงานแต่งสามวันจวนลู่กำลังเกิดพายุใหญ่ ลู่หมิงที่ยามนี้เขาคือเจ้ากรมกลาโหมและกำลังจะได้ขึ้นเป็นเสนาบดีฝ่ายขวาอีกไม่นาน เรือนด้านหน้าลู่หมิงกำลังเถียงกับมารดาอย่างไม่ยอมแพ้ เขาต้องการหย่าเวินเหยา ภรรยารองที่มารดาแต่งมาให้กับเขา ตลอดเวลาเขาไม่เคยแตะต้องนาง แต่เนื่องด้วยนางเป็นหลานสาวมารดาเขาจึงไม่อยากหักกับท่านแม่ตนเอง แต่เพราะเวินเหยาเจ้ากี้เจ้าการแต่งเวินหนิงให้มาเป็นเมียรองของลู่เสวียนบุตรชายของเขา ทั้งที่อีสามวันจะแต่งหลานฮวนเข้ามาเป็นสะใภ้ เรื่องนี้หากมารดาเขาไม่เห็นชอบนางหรือจะกล้า "ข้าจะหย่ากับนาง...ท่านแม่ท่านก็อย่าได้กล่าวอีกเลย""เจ้ากล้าหย่านางหรือ ไม่เห็นมารดาเช่นข้าอยู่ในสายตาใช่หรือไม่"ฮูหยินผู้เฒ่าใช้ไม้เท้าชี้หน้าบุตรชาย เวินเหยาฮูหยินของเขาสะอึกสะอื้นร้องห่มร้องไห้ นางแต่งให้เขามานานเกือบยี่สิบห้าปี ตั้งแต่นางอายุสิบเจ็ด ยามนี้นางสี่สิบสองแล้ว รั้งตำแหน่งฮูหยินรองจนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ขึ้นตำแหน่งฮูหยินเอก หลังจากมารดาของลู่เสวียนตายไปเขาไม่เคยแตะต้องนางสักครั้งตั้งแต่แต่งเข้ามา ก่อนจะร้องไห้ฟ้องแม่สามีที่มีศักดิ์เป็นท่านป้าของนาง "ท่
รถม้าเคลื่อนออกไปแล้ว เซียวอี้เซียนนั่งลงพิงหมอน นางลุกไม่ไหวจริงๆ หยางเทียนหลงค่อยๆช้อนอุ้มนางพากลับเรือนตนเอง พระชายาหลินสงสารสะใภ้ยิ่งนัก นางเรียกหาแม่นมให้ไปตามหมอตำแยมา"หลินหมัวมัว ท่านไปตามหมอตำแยมาสักสองคนให้มานวดให้พระชายา""เพคะ"แม่นมรับคำสั่งจากนั้นหยางเทียนหลงก็อุ้มเมียกลับเข้าห้อง มื้อกลางวันนางกินไม่ไหวมันอึดอัดไปหมด หยางเทียนหลงให้นางพักผ่อนเขาไปทำอาหารง่ายๆให้นางกิน เซียวอี้เซียนนอนไม่หลับนางรอฟังข่าวจากในวังว่าฉีฮุ่ยหมิ่นคลอดบุตรปลอดภัยหรือไม่ ยามนี้นางสิบเจ็ดย่างสิบแปด ฉีฮุ่ยหมิ่นสิบแปดย่างสิบเก้า แต่ยุคโบราณนั้น การคลอดลูกเหมือนยืนอยู่ทางแยกระหว่างความเป็นความตาย"เสี่ยวฮวาก็ตั้งครรภ์ไล่ๆกับพี่ฮุ่ยหมิ่นอีกไม่กี่วันคงคลอดเช่นกันใช่หรือไม่ซูหว่าน""เพคะ พระชายาอย่าทรงกังวลพระทัย จินฮูหยินนางกินอาหารและยาบำรุงตามที่พระชายาจัดการ อีกทั้งนางยังเป็นหมอย่อมต้องรู้ร่างกายตนเองดี""อืม...วันมะรืนหย่งอันโหวจะแต่งงาน ส่วนหวงซือเหยี่ยนน้องสาวของเขาก็จะแต่งเข้าตำหนักหย่งฉือเช่นกัน เห็นเสด็จแม่เตรียมงานแต่งของท่านชายสามอยู่""หม่อมฉันไม่คิดว่าหย่งอันโหว ท
หลังจากงานแต่เซียวอี้เซียนก็นอนหมดสภาพ นางไม่ได้เข้าวังนับเป็นเวลาสามเดือนแล้วเพราะนางแพ้ท้องจนลุกไม่ไหว ใครจะรู้ว่ากลับมีคนคิดถึงนางจขนทนไม่ได้ต้องออกจากวังมาหาเอง ไทเฮาทรงคิดถึงหลานสะใภ้ยิ่งนัก ไม่ซ่างหวงเองก็เพิ่งกลับจากแดนใต้ทรงอยากเห็นหน้าหลานสะใภ้เช่นกัน แม้กระทั่งฮ่องเต้ก็ชวนมู่กุ้ยเฟยมาหานางเซียวอี้เซียนนอนอยู่บนเตียงโยกที่ท่านปู่ของนางทำให้ที่ลานกลางเรือนเล็ก พักนี้นางกินเก่งมากนัก เสี่ยวฮวาใกล้คลอดเต็มทีแล้ว นางเดินมาหาพระชายาของตนก่อนจะเอ่ยเรียก"พระชายาเพคะ ในวังส่งคนมาบอกว่าไทเฮากับฝ่าบาททรงคิดถึงพระนางจึงพากันมาหาเพคะ""อ้อ..ขอบใจมากเสี่ยวฮวา....แล้วเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง เท้าเริ่มบวมแล้วท้องก็ลงต่ำแล้วด้วย คงอีกไม่นานแล้วใช่ไหม""เพคะ น่าจะไม่เกินเดือนนี้ ทางจวนเซียวก็แจ้งมาว่าฮูหยินช่วงนี้ขยับตัวลำบากเพราะในครรภ์น่าจะเป็นฝาแฝดเพคะ""อือ..ซูหว่านเจ้าพยุงข้าขึ้นหน่อยข้าจะไปโถงหน้าเพื่อรับเสด็จไทเฮาและฝ่าบาท ซูจินเจ้าประคองเสี่ยวฮวากลับเรือนเถอะ"สองพี่น้องต่างมาประคองคนท้องแยกกันไป เซียวอี้เซียนเดินได้สามเก้าก็ต้องหยุดเจ้าตัวน้อยโก่งตัวจนท้องแข็ง นาง
ไม่ถึงหนึ่งก้านธูปรถม้าก็แซงขบวนบ่าวสาวมาถึงจวน หยางเทียนหลงที่กำลังคุยกับหย่งอันโหวอยู่ เขาก็เห็นรถม้าเข้ามาจอดแล้วแต่พระชายาตนเองยังไม่ลงมาก็แปลกใจ แต่ทำไมซูหว่านถึงบังคับรถม้าเอง หยางเทียนหลงดีดตัวทีเดียวก็มาถึงก่อนจะถามหาเซียวอี้เซียน"พระชายาเล่า เหตุใดยังไม่ลงจากรถม้า นางมิได้กลับมาด้วยหรือ""ท่านอ๋อง..พระชายาทรงอาเจียนไม่หยุด พระนางบ่นแต่เวียนหัวเพคะ ยามนี้พระนางไม่มีแรงจะลุกแล้ว""อะไรนะ เซี่ยนเซี่ยนเป็นเช่นไรบ้าง"หยางเทียนหลงรีบขึ้นไปบนรถม้าทันที เขาเห็นสีหน้าซีดเซียวของนางก็ตกใจก่อนจะช้อนอุ้มนางลงมาจากรถม้าแล้วเรียกหาหมอหลวงทันที"ไปตามท่านหมอมาเดี๋ยวนี้"หยางเทียนหลงบอกให้งานแต่งจัดไปตามเดิมเขาต้องไปดูพระชายาของตน หวงเหวินเทียนที่นั่งอยู่ก็ไปโถงหน้าเพราะขบวนเจ้าสาวมาถึงแล้ว ทางด้านนอกทำพิธีแต่งงาน ชินอ๋องกับพระชายารับรู้ว่าสะใภ้ป่วย และบุตรชายกำลังให้หมอไปตรวจจึงไม่ได้กล่าวอันใด พิธีดำเนินไปด้านเสี่ยวฮวานั้นท่านเจ้ากรมมาเองเพราะว่าลูกสะใภ้นั้นท่านหมอซุนมาตรวจแล้วปรากฏว่านางตั้งครรภ์ได้สองเดือน บุตรชายจึงเป็นห่วงฮูหยินเขาจึงต้องมาแทนส่วนทางด้านเซียวอี้เซียนยามนี้หยางเทียนห
านเรื่องราวมากมายในที่สุดเซียวอี้เซียนก็มาอยู่ต้าฉินได้ครบปีเศษแล้ว ตอนนี้จวนเซียวมีงานแต่งเล็กๆจัดขึ้น จินฝานแต่งงานกับเสี่ยวฮวา อีกทั้งเสี่ยวฮวาก็ตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ทางด้านจวนฉีก็จัดงานเช่นกันสกุลซูมาสู่ขอฉีซีซีกับฉัฮู่ยหมิ่น ท่านย่านางจัดการให้ฉีฮุ่ยหมิ่นตั้งครรภ์ได้เกือบเจ็ดเดือนแล้วไม่สะดวกออกจากวัง ส่วนด้านเจ้าบ่าวนั้นซูหลางกับจินฝานไม่เหมือนกันจินฝานกำพร้าแต่เด็กไท่ซ่างหวงเก็บเขามาเลี้ยงและให้เป็นองครักษ์ของบุตรชายคนเล็กหยางเทียนตี้ กระทั่งเขาแต่งงานกับพระชายาและมีบุตรชายคือหยางเทียนหลง ชินอ๋องจึงยกจินฝานให้กับบุตรชาย งานแต่งงานทางตำหนักหย่งฉือจึงถือเป็นญาติผู้ใหญ่ของจินฝานส่วนซูหลางแม้ว่าตอนนี้เขาจะอายุสี่สิบแล้วแต่ก็ยังไม่เคยมีครอบครัว บิดาเป็นครอบครัวบัณฑิตทำงานอยู่สำนักศึกษาเป็นรองอาจารย์ใหญ่ จึงนับว่ามีหน้าตาพอควร แต่เขาชอบโลดโผน สกุลซูให้น้องชายที่ทำงานอยู่ฝ่ายวิชาการสืบทอด เรื่องแต่งงานแม้ว่าซีซีจะเป็นเพียงสาวใช้แต่ก็เป็นสาวใช้ขั้นหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นคนของพระชายารัชทายาท นับว่านางก็ไม่ได้ด้อยจวนเซียวจินฝานมารับเจ้าสาวของตนเกี้ยวแปดคนหามตามประเพณี แม้จะเป็นสาวใช