공유

จัดการหนอนบ่อนไส้2

last update 최신 업데이트: 2025-02-22 23:48:27

 หากเขามีอาการกำหนัดมันจะออกฤทธิ์ต่อต้านกันรุนแรง  แปลว่าบนตัวสาวใช้คนนี้โปรยผงยาปลุกกำหนัดเอาไว้   เซียวหงกำหน้าอกอย่างแรง  เขากระอักเลือดออกมา  เสี่ยวลี่ตกใจที่เห็นเจ้านายกระอักเลือดเต็มปาก  นางร้องกรี๊ดจนบ่าวในเรือนวิ่งมาดู   เซียวอี้เซียนรีบวิ่งมาทันทีพร้อมกับซุนเจิ้นหนาน   ทันทีที่พังประตูเข้าไปก็เห็นบิดานอนกระอักเลือด  ซุนเจิ้นหนานรีบเข้าไปหาฝังเข็มให้ทันทีเพื่อระงับอาการ

เซียวฮูหยินที่มาถึงเห็นอาการสามีก็ร้องไห้ปานจะขาดใจ  เซียวอี้เซียนเดินไปหาตบหน้าเสี่ยวลี่อย่างแรงจนนางล้มลงเลือดกลบปาก

"เจ้าทำอะไร  คิดปีนเตียงบิดาข้าหรือนังงูพิษ"

"คุณหนูกล่าวหาบ่าวเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ"

"สารรูปเจ้าตอนนี้ใส่เสื้อผ้าหรือแก้ผ้ายังไม่ต่างกันเลย  ท่านตาเจิ้นหนานท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"

"ร่างกายเขาอ่อนแอ  เดิมเรื่องหญิงชายก็ทำมิได้อยู่แล้ว  เหมือนจะมีคนวางยาปลุกกำหนัดเขาน่ะ"

"ไม่นะ  บ่าวป่าวนะเจ้าคะ  คุณหนูท่านหมอซุนพวกท่านใส่ร้ายข้ามิได้นะ"

"ท่านตาตรวจนางได้หรือไม่"

"ไม่นะ....คุณหนูท่านหมอเป็นบุรุษ  ท่านทำเช่นนี้มิเท่ากับลบหลู่เกียรติของบ่าวหรือ  เช่นนี้ให้บ่าวตายเสียยังดีกว่า"

"อี้เซียน..มีอีกวิธีนี่เป็นแมลงที่ตาเลี้ยงเอาไว้  ขอเพียงบนตัวนางมีสมุนไพรที่ใช้ปรุงยานี้อยู่มันย่อมค้นหามาจนได้"

ซุนเจิ้นหนานเปิดกระบอกไม้ไผ่ออกมา  แมลงตัวเล็กที่คล้ายๆกับจิ้งหรีดคลานออกมาจากกระบอกไม้ไผ่  มันคลานไปหาเสี่ยวลี่ดมนางสักครู่ก็คลานไปตามทาง  สาวใช้ตามแมลงตัวน้อยไปที่ห้องของเสี่ยวลี่   มันมุดผ้าห่มมุดหมอน  จนกระทั่งไปหยุดที่รอยแยกข้างผนังห้อง  สาวใช้คนหนึ่งเดินตรงไปแต่เสี่ยวลี่รีบไปขวาง  ไม่ทันถึงแส้ในมือของเซียวอี้เซียนก็ตวัดรัดข้อมือนางกระชากกลับมา

สาวใช้ไปแงะตรงรอยแยกเจอห่อกระดาษสีน้ำตาล   จึงนำออกมาสองห่อ  จากนั้นก็ส่งให้เซียวอี้เซียนดู  นางรับมาก่อนจะไปหาซุนเจิ้นหนาน  หมอเทวดารับห่อกระดาษมาเปิดออกต้องปิดจมูก  นี่เป็นยาปลุกกำหนัดชนิดรุนแรง  เซียวหงไม่มีทางที่จะหลุดพ้นคืนราคะไปได้เลยหากสูดดมมันเข้าไป  โชคดีที่เซียวอี้เซียนมาหาเขาก่อนหน้า  บอกกับเขาว่านางไม่ไว้ใจสาวใช้บิดาเขาจึงให้สมุนไพรที่มีฤทธ์ต่อต้านกันมา  แต่อาจทำให้เซียวหงลำบากสักหน่อยซึ่งเซียวอี้เซียนก็ยินยอม

"มีอะไรจะพูดไหมเสี่ยวลี่"

ซุนเจิ้นหนานถามสาวใช้ที่ตอนนี้นั่งตัวสั่นอยู่  นางจะทำเช่นไรดี  จะบอกว่าตนเป็นคนของคุณชายจ้าวก็ไม่ได้  ทำอย่างไรดี

"เจ้าเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ  พรุ่งนี้ขายออกไปให้หอนางโลมเถอะ  ในเมื่อเจ้าชมชอบเรื่องโลกีย์เพียงนี้ที่นั่นอาจเป็นสถานที่ดีๆสำหรับเจ้า"

"ไม่นะท่านขายข้าไม่ได้  ลืมแล้วหรือในสัญญาขายตัวที่ไท่ฮูหยินซื้อตัวข้ามาห้ามขายข้าออกไป  คุณหนูข้าจะไปขอความเป็นธรรมเรื่องที่ท่านใส่ร้ายข้ากับไท่ฮูหยิน"

เสี่ยวลี่ไม่ยอมแพ้  เสี่ยวฮวาที่ปกติเงียบขรึมขี้ขลาดมาตลอด  นางเดินมาถึงก็ตบหน้าเสี่ยวลี่อีกข้างอย่างแรง  เสี่ยวลี่น้ำตาร่วงนางเจ็บเหลือเกิน

"นางงูพิษ  คิดฆ่านายท่านยังจะให้มารดาของเขาอุ้มชูเจ้าหรือ  ไร้ยางอาย"

เซียวอี้เซียนเดินหน้ามาหาสาวใช้ทรยศก่อนจะเรียกหาบางคน

"พ่อบ้าน  ท่านไปตามลุงโจวมิ่งมาสักหน่อยได้หรือไม่"

"ขอรับคุณหนู"

พ่อบ้านไปไม่นานก็มาพร้อมกับชายแก่อายุห้าสิบกว่าคนหนึ่ง  ผิวดำมะเมื่อม ลงพุงหน่อยๆ   โจวมิ่งเป็นบ่าวที่ทุกเช้าต้องนำสิ่งปฏิกูลไปเททิ้ง  เขาไม่ค่อยคุยกับใครนักเพราะเนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหม็น  เมื่อมาถึงก็นั่งลงคุกเข่า  เซียวอี้เซียนเอ่ยกับเขาช้าๆ

"ลุงโจว....ท่านทำงานกับจวนเรามากี่ปีแล้ว"

"เรียนคุณหนู  สี่สิบปีแล้วขอรับ  บุญคุณของนายท่านข้าน้อยไม่เคยลืม"

"อืม..นับว่าท่านภักดียิ่งนัก  ลุงโจวข้าอยากตอบแทนความภักดีของท่านสักหน่อย   ข้าขอเป็นตัวแทนท่านย่ายกเสี่ยวลี่สาวใช้คนนี้เป็นภรรยาท่าน   คืนนี้เข้าหอได้เลย  สินสอดไม่ต้องจ่ายข้าจะให้เงินตั้งตัวแก่ท่านด้วย  อายุท่านเยอะแล้วไปหาบ้านเล็กๆสร้างครอบครัวเถอะ"

"อะไรนะ..ไม่ๆๆเจ้าทำกับข้าอย่างนี้ไม่ได้นะ  เซียวอี้เซียนเจ้ารู้ไหมข้าเป็นคนของใครเจ้ากล้าหรือ"

เสี่ยวลี่โวยวายออกมา  นางดิ้นสุดฤทธิ์  แต่ถูกกดเอาไว้  โจวมิ่งมองไปที่สตรีงดงาม  เสื้อผ้าที่นางสวมอยู่ช่างเย้ายวน  เขาไม่เคยได้ลิ้มลองสตรีสักครั้ง  วันนี้คุณหนูใจดียกสาวใช้คนนี้ให้เขาหรือ  

"ขอบพระคุณคุณหนูมากขอรับ  ข้าจะถนอมนางอย่างดีเลยขอรับ  เมียจ๋าเจ้าไม่ต้องกลัวข้านะ  ไปกันเถอะข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขที่แต่งงานกับข้า"

"ไม่เอามือโสโครกของเจ้าออกไป  อ๊าย กรี๊ดดดด  คุณชายจ้าวช่วยเสี่ยวลี่ด้วยเจ้าค่ะ  เซียวอี้เซียนเจ้ามันไม่ใช่คน  ปล่อยข้าปล่อย"

บ่าวชราลากเสี่ยวลี่ไปยังเรือนพักของตน  นางขัดขืนเขาจึงแบกนางขึ้นบ่าไปจนได้  เซียวอี้เซียนไปดูบิดาที่ตอนนี้มารดากำลังเช็ดเหงื่อให้อยู่  นางมองมายังบุตรสาวน้ำตาคลอ

"ท่านแม่  นางเป็นคนของสกุลจ้าว  มาเพื่อทำลายทายาทหนึ่งเดียวของสกุลเซียว  หากข้าแต่งกับจ้าวเฉิงจะยังรอดหรือเจ้าคะ  หากท่านพ่อจากไปสกุลเซียวย่อมต้องพึ่งพาบ้านสามี    ข้าเชื่อว่าพวกเขาไม่ถอดใจหรอก  มิแน่พรุ่งนี้อาจมีเกี้ยวสีชมพูมารับอนุเช่นข้าเข้าจวน"

"เลวนัก  เซี่ยนเซี่ยนของแม่พวกเขาๆ"

"ท่านแม่วางใจ  พวกเขาทำอะไรลูกไม่ได้หรอกเจ้าคะ  เดิมทีข้าจะหาหลักฐานที่เสี่ยวลี่วางยาท่านพ่อ  แต่ว่าข้าไม่รู้คิดอย่างไรกลัวว่านางจะปีนเตียงท่านพ่อจึงคิดแผนนี้ออกมา  แต่ก็ทำให้ท่านพ่อร่างกายแย่ลงกว่าเดิม"

"อย่าห่วงเลยมีตาอยู่มิใช่หรือ  หากไม่ได้ดื่มยาเทียบนั้นต่อเนื่องบิดาเจ้าจะอาการดีขึ้น"

เซียวอี้เซียนพูดคุยกับมารดาและซุนเจิ้นหนานอีกไม่นานก็กลับเรือนตนเอง  ข้างนอกบ่าวกำลังสนุกกันใหญ่  เฒ่าโจวไม่เคยมีเมียพอได้เข้าหอก็ร่วมสวาทกับเสี่ยวลี่จนเสียงดังลั่นเรือน  เสี่ยวลี่ครางราวกับสัตว์ในฤดูผสมพันธุ์ดูท่าตาแก่โจวคงจะทำให้นางได้ถึงใจ  เซียวอี้เซียนยิ้มซ่อนมีดในใบหน้า   จ้าวเฉิง จ้าวอันป๋อ   ข้าจะลับมีดรอพวกเจ้าเดินมาชนบังตอของข้าเอง

บนหลังคาบุรุษสามคนที่นั่งดูปาหี่มาตั้งแต่ต้นก็เอ่ยปากพูดคุยกันหลังจากที่คุณหนูคนงามเดินกลับเรือนตนเองไปแล้ว

"ท่านอ๋อง  ว่าที่พระชายาท่านช่างน่ากลัวยิ่งนัก  นางวางแผนเช่นนี้ไม่เพียงจ้าวเฉิงเสียหมากไปแล้ว  สาวใช้ในจวนที่หวังปีนเตียงบิดานาง  หรือแม้แต่คิดปีนเตียงพระองค์ในอนาคตคงคิดหนัก  มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว" ลู่เสวียนเอ่ยขึ้น

"น่าสงสารนางอยู่นะ  ข้าไปแอบฟังมาตาเฒ่านั่นรุนแรงจริงๆ  เตียงหักแล้วกระมัง"

 หลินหย่งเอ่ยอีกประโยค  แต่หยางเทียนหลงลุกขึ้นยืนก่อนจะเอ่ย

"เมียข้าฉลาดเพียงนี้    หากข้าอยากนอกใจนางกลัวว่าข้านั่นแหละจะโดนเชือดก่อนเสียเอง"

"ท่านอ๋อง  หรือทรงกลัวพระชายาที่ยังไม่เข้าพิธีคนนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ"

"แล้วเจ้าสองคนว่า  เมียข้าน่ากลัวหรือไม่"

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ซือหนิงนางเป็นเด็กที่น่าสงสาร

    จ้าวอันป๋อออกจากคุกหลวงก็ตรงกลับจวนในทันที เขาต้องหาทางเร่งกระพือข่าวเรื่องที่เมืองหลวงกำลังจะจมน้ำ หากชาวบ้านแตกตื่นยิ่งเป็นผลดีต่อพวกเขา ใครจะรู้ว่าเมื่อมาถึงจวนกลับเจอเข้ากับภาพที่เขาไม่คาดฝัน คนในจวนถูกจับมารวมที่ลานหน้าบ้าน ทหารองครักษ์ใช้ดาบจ่อคอทุกคนเอาไว้ หนึ่งในนั้นสวมชุดเกราะสง่างาม เป็นจ้าวเหวินหลานชายคนรองของน้องชายเขานั่นเอง สายตาเหลือบไปมองก็เห็นจ้าวเฟิงหลายชายของเขากับจ้าวเฉิงที่นอนอยู่ไม้กระดาน ชายชรามองไปยังใบหน้าที่สวมชุดเกราะให้ความรู้สึกถึงใครบางคน หวงจิ้งไห่ หย่งอันโหวคนนั้น เหตุใดใบหน้าถึงได้ละม้ายคล้ายจ้าวเหวินยามสวมชุดทหารเช่นนี้ แต่ทว่านี่ไม่ใช่เวลามานึกถึงคนที่ตายไปแล้ว เขาอยากรู้ว่าทหารองครักษ์มาที่จวนสกุลจ้าวทำไมก่อนจะเอ่ยถามออกไป "เหวินเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนของฝ่าบาทหรือ แล้ววันนี้พาทหารมามากมายสกุลจ้าวทำสิ่งใดผิดกันบอกปู่ใหญ่ได้หรือไม่" จ้าวเฟิงพยายามที่จะลุกขึ้นแต่เขากลับถูกกระบี่ของทหารองครักษ์จ่อเอาไว้ ทหารผู้นั้นกดกระบี่ลึกลงมาจนมีเลือดซึมบริเวณปลายกระบี่ เยี่ยหรันเห็นดังนั้นจึงได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น "ไอ้เนรคุณ สกุลจ้าวเลี้ยงดูหมาป่าตา

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ข้าควรโกรธใครกันแน่

    คุกราชสำนักจ้าวอันถูกจองจำอยู่ในกรงเหล็กกล้าอย่างดี แสงสลัวของคบเพลิงเพียงไม่กี่ดวงสะท้อนบนพื้นหินสีดำมนิทที่เย็นเยียบ เสียงโซ่ตรวนหนักพันธนาการข้อมือข้อเท้าเขาไว้แน่น“ให้ตาย...มารดามันเถอะ” จ้าวอันสบถเสียงต่ำ ฟันขบแน่นด้วยความคั่งแค้นเหตุใดไทเฮาจึงเสด็จไปที่นั่นได้กัน ทุกอย่างราวกับว่ามีผู้วางแผนล่อลวงให้เขาติดกับ ไป๋จินหวน...อีกเพียงนิดเดียว...นางจะเป็นของเขาแล้วเชียวแต่นางเด็กเลว เซียวอี้เซียนนั่น ช่างขัดหูขัดตายิ่งนัก!เสียงรองเท้ากระทบพื้นหินสะท้อนก้องในโถงคุกเงียบสงัด จ้าวอันป๋อ ก้าวเข้ามาทางเดินซึ่งมีเพียงแสงคบเพลิงส่องสว่างตามทาง เขากวาดตามองกรงเหล็กตรงหน้า น้องชายผู้โง่งมของตนถูกใส่ตรวนหนัก นั่งอยู่กลางเงามืด มีเพียงเงาลูกกรงที่สะท้อนแสงไฟยาวเป็นทาง จ้าอันป๋อเอ่ยเรียกน้องชายด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย“เจ้ารอง” จ้าวอันเงยหน้ามองพี่ชาย สีหน้าขุ่นเคืองแต่ก็เอ่ยรับ“พี่ใหญ่...ท่านมาแล้ว”จ้าวอันป๋อมองน้องชายอย่างผิดหวังไอ้น้องโง่...เมื่อไรเจ้าจะมีสมองกับเขาบ้างนะ เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความเย็นชา“เจ้าทำอะไรลงไป เหตุใดไม่รอบคอบ ไป๋จินหวนนางงดงามก็จริง...แต่สตรีงามกว่านางใช่ว

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ดึงพ่อสามีมาเล่นสะคร

    หลังจากการประชุมจ้าวอันถูกส่งไปอยู่ยังคุกของราชสำนักซึ่งมีไว้สำหรับขุนนางที่ประพฤติผิดโดยเฉพาะ จ้าวอันป๋อเดินออกมาพร้อมกับขุนนางของตน หวังคุณซึ่งเป็นบิดาของหวังกุ้ยเฟยแม้ว่าจะเกษียณไปแล้วแต่ยังคงมาร่วมประชุม เขาเดินออกมาพร้อมจ้าวอันป๋อ เมื่อมาถึงหน้าประตูทางออกหลิวหย่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับคำนับหยางเทียนหลง เอ่ยเสียงดังกังวาน"ท่านอ๋อง..กระหม่อมได้เสบียงเพียงพอตามที่แจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ"หยางเทียนหลงพยักหน้าก่อนจะเอ่ยกับหลิวหลางและหลิวเว่ย"ใต้เท้าหลิวต้องขอบคุณสกุลหลิวยิ่งนักที่บริจาคเสบียงครั้งนี้ทำให้แก้วิกฤตได้ทัน ชาวบ้านพอได้อยู่รอดมิต้องอดอยาก""ท่านอ๋องเกรงใจไปแล้ว ขุนางราชสำนักยามเมื่อบ้านเมืองประสบภัยย่อมต้องช่วยเหลือ อย่างที่พระชายาของพระองค์กล่าวเอาไว้""หืม...น้องหญิงของข้ากล่าวอันใดกับพวกท่านหรือ""พระนางบอกว่า กษัตริย์และขุนนางนั้นอยู่ได้มิใช่เพราะตระกูลใหญ่โตหรือมีเงินทองมากมาย แต่อยู่ได้เพราะราษฎร ยามใดที่ราษฎรอยู่ดีมีสุข บ้านเมืองก็สงบ ในเมื่อเก็บภาษีก็เท่ากับว่าราษฎรเป็นคนจ่ายเบี้ยหวัดให้พวกเรา เช่นนั้นยามที่ทำหน้าที่ก็ควรให้คุ้มค่ากับที่พวกเขาจ่ายภาษีมาพ่

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ยกหินทุบเท้าตนเอง

    หยางเทียนหลงมองหน้าจ้าวอันป๋อ ชายชรากำมือแน่นคนของเขาส่งข่าวมาว่าไอ้น้องโง่นั่นไปลวนลามไป๋จินหวนฮูหยินของเซียวหง ที่สำคัญยังทำต่องหน้าพระพักตร์ไทเฮาอีก เรื่องนี้ไม่ใช่ล้อเล่น กฎหมายเป่ยฉินนั้นระบุชัด ห้ามผู้มีอำนาจข่มเหงภรรยาผู้อื่น ความคิดของจ้าวอันป๋อต้องหยุดไปชั่วขนะเมื่อเซียวหงเดินออกมาด้านหน้าก่อนจะคุกเข่ากราบทูลฮ่องเต้"ฝ่าบาท กระหม่อมเซียวหงรักษาการเจ้ากรมโยธามีเรื่องกราบทูลให้พระองค์ช่วยคืนความเป็นธรรมแก่กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้มองหน้าเขาก่อนจะพยักหน้า "ใต้เท้าเซียว...ลุกขึ้นแล้วค่อยพูดเถิด""ขอบพระทัย ฝ่าบาทกระหม่อมขอร้องเรียนจ้าวอัน อำมาตย์ซ้ายข้อหาประพฤติตนมิชอบ ลวนลามภรรยาขุนนาง อีกทั้งยังบังคับจิตใจนางพ่ะย่ะค่ะ"ทันทีที่เซียวหงพูดจบขุนนางทั้งสองฝั่งก็เริ่มวิจารย์ จ้าวอันป๋อเดินมาหาเขาก่อนจะเอ่ย"เซียวหง เจ้าบอกว่าน้องชายข้าลวนลามภรรยาผู้อื่นหมายความว่าอย่างไร ใส่ร้ายขุนนางผู้ใหญ่ความผิดนี้เจ้ารับไหวหรือ"เซียวหงมองหน้าจ้าวอันป๋องก่อนจะหันกลับมายืนหลังตรงศรีษะค้อมไปด้านหน้า สองมือประสานมั่นคงเอ่ยวาจากราบทูลต่อ"ฝ่าบาท ฮูหยินกระหม่อมกับท่านแม่ติด

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ฟ้องร้องสกุลหลิว

    ท้องพระโรงท้องพระโรงอันโอ่อ่ากว้างขวางตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ม่านแพรปักดิ้นทองอร่ามสะท้อนแสงจากโคมไฟระย้าที่ห้อยลงมาจากเพดานสูงตระหง่าน แสงสีทองอบอุ่นสาดส่องลงมาต้องพื้นหินอ่อนขัดมันวับ จนปรากฏเงาสะท้อนของเสามังกรที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงเบื้องบนบัลลังก์ที่ประดับประดาด้วยหยกและทองคำ ฮ่องเต้ทรงประทับในชุดฉลองพระองค์สีทองที่ปักลวดลายมังกรห้ากรงเล็บอย่างวิจิตรบรรจง เปล่งประกายรัศมีแห่งอำนาจ ดวงพระเนตรคมกริบกวาดมองไปทั่วท้องพระโรงเบื้องล่างบัลลังก์ ขุนนางแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ด้านซ้ายคือกลุ่มของจ้าวอันป๋อ อำมาตย์ซ้ายผู้ พร้อมด้วยคนของสกุลหวังและกลุ่มขุนนางเก่าแก่ ทุกคนสวมชุดขุนนางสีเข้ม ใบหน้าของพวกเขาบ่งบอกถึงความเคร่งขรึมส่วนทางด้านขวา ยืนตระหง่านด้วยท่าทีสงบนิ่งคือ หยางเทียนหลง เสนาขวาฮั่วอ้าวป๋าย เซียวหงรักษาการเจ้ากรมโยธา หลิวหลางและหลิวเว่ยสองพี่น้องตระกูลหลิว จ้าวอันป๋อในชุดอำมาตย์สีม่วงเข้ม เขาก้าวมาหยุดอยู่กลางท้องพระโรง ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่จับจ้องมา ก่อนจะคุกเข่าลงเบื้องหน้าบัลลังก์อย่างนอบน้อมพร้อมก้มศีรษะลงจรดพื้น"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมจ้าวอันป๋อมีเรื่องร้

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   หลานซิ่วเอ๋อร์การละคร

    จากนั้นหยางเทียนหลงก็เอ่ยถามความเห็นนางเกี่ยวกับเรื่องของจางลี่เฟยอีกครั้ง"น้องหญิง เจ้ารู้เรื่องของสนมจางแล้ว""เพคะ นางตั้งครรภ์ไม่ผิดแน่ เรื่องนี้ทางสำนักราชวงศ์ประกาศว่านางเป็นโรคติดต่อร้ายแรงจำต้องให้ออกจากวังมารักษาตัวเพคะ""เจ้าว่านางจะทำเช่นไรต่อไป""นางคงต้องหาทางเอาเด็กออกแน่นอนเพคะ หม่อมฉันไม่อยากให้อารามศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีมลทิน แต่หากนางอยู่ที่อื่นก็ไม่วางใจ""นางแอบมีใจให้กับรัชทายาท แต่เขากลับแต่งฉีฮุ่ยหมิ่นเข้ามา""นางชอบไท่จื่อแล้วอย่างไร นางแต่งให้ฝ่าบาทตั้งแต่อายุสิบสองแต่งเพราะจะได้ไม่ต้องถูกประหาร จะว่าหม่อมฉันใจร้ายก็ดีโหดเหี้ยมก็ช่าง นางอยู่ในวังเป็นสนมด้วยนิสัยของนางไม่รู้ว่าเอาชีวิตนางกำนัลกับขันทีไปเท่าไหร่แล้ว จางลี่เฟยคนนี้หาใช่คนดี"หยางเทียนหลงพยักหน้าก่อนจะถามเรื่องที่จูเหวินไปจัดการก่อนหน้าที่จะมาพบเขา"เรื่องที่ซื่อจื่อไปจัดการเป็นหลิวเย่วที่บอกเจ้าหรือ""เพคะ นางบอกว่าที่เรือนนั้น เป็นเรือนที่ทางสกุลจ้าวแนะนำให้คนพวกนั้นมาเช่าเอาไว้ เมื่อไปถึง คุณชายจู... เอ่อ... ซื่อจื่อ ก็พบว่าในเรือนนั้นมีอาวุธมากมายราวกับคลังแสงเลยเพคะ มีคนคอยเฝ้าอย่างแน่นหนา"หย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status