หว่านชิงหันไปสบตากับซื่อซื่อที่ยังทำหน้าห่วง ๆ อยู่ ซื่อซื่อเรียกสติหว่านชิงอย่างร้อนรน
"คุณหนู! คุณหนู! เป็นอะไรไปเจ้าคะ!"
บัตรเช่าหนึ่งชั่วโมงของเธอ...เตะตัดขา ความฝันไปเลยลูก! 5555 แต่เดี๋ยวก่อน ยังไม่ทันได้ซึมซับความน้อยใจ บรรยากาศก็เปลี่ยนฮวบ!
"หว่านชิงลูกพ่อออออออออ!!!"
เสียงตะโกนกังวานของฮ่องเต้หลี่เซวียนอี้แว่วมา พร้อมเสียงฝีเท้าดัง ตุบตุบตุบ และชุดคลุมจักรพรรดิสะบัดอย่างองอาจเข้ามาหาเธอ
"ลูกพ่อ! เจ้าเป็นอะไรหรือไม่! เจ้าเจ็บตรงไหน!!โอ๊ย ใจพ่อร้อนยิ่งกว่าเปลวเพลิงเสียอีก!”
ขันทีข้างกายหน้าซีดเป็นกระดาษ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร ฮ่องเต้ก็ตวาดลั่น
"ยังจะยืนโง่อยู่ทำไม! ไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้!!!ลูกข้าอาการเป็นอย่างไรทำไมพวกเจ้าไม่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยขององค์หญองค์ใหญ่ให้มากกว่านี้ ลูกพ่อออเจ้าทำไมนิ่งไปเล่าช็อคหรือไรหรือว่าเจ็บตรงไหน"
หว่านชิงถึงกับสะดุ้ง รีบยกมือห้ามทัพ
"ท่านพ่อเจ้าขา ใจเย็นๆ ก่อนเพคะ ลูกไม่เป็นอะไรเลย แค่... แค่ตกใจนิดหน่อยเอง"
ในใจเธอก็แอบขำตัวเอง ก็แค่กำลังคุยกับระบบอยู่นี่นา ฮ่องเต้หรี่ตามองไปทางแม่ทัพที่เดินหันหลังไปไกลแล้ว
"ไป๋เหวินหลง...เจ้าบ้านั่น! ข้าบอกแล้วใช่หรือไม่ว่าอย่าเข้าใกล้หว่านชิงของข้า! แล้วดูสิเกิดอะไรขึ้น!! ถ้าลูกข้าเจ็บขึ้นมาจะทำยังไงห๊ะ!!โอ้ๆๆๆๆๆ ลูกพ่อมานั่งตรงนี้มา"พยุงหว่านชิงทมาที่แท่นนั่ง
ไป๋เหวินหลงได้ยินถนัดชัดทุกถ้อยคำแต่แสร้งไมjได้ยินเสีย ไป๋เหวินหลงก็เดินต่ออย่างเงียบๆ ...เงียบจริง เป็นไปได้ว่าหูไม่ได้ยิน หรือจิตใจของเขากำลังหลุดไปอยู่ในมิติใดมิติหนึ่งแล้ว และถอนหายใจยาว
ทันใดนั้น ท่านพ่อฮ่องเต้หันกลับมาเปลี่ยนโหมดเร็วราวกับเปิดแอร์
"โถ่ ลูกรักของพ่อ... เจ้าอย่าไปคิดมากเลยนะ เขาก็แค่คนทื่อๆ เจ้าก็อย่าไปโกรธเขาเลย โดยเนื้อแท้แล้วเขาไม่ได้ร้ายกาจอะไร"
โหมดโมโหแค่พอหอมปากหอมคอไม่จริงจัง กำลังทำงานอย่างเต็มที่
หว่านชิงพยักหน้าช้าๆ แต่ในใจกำลังคิดว่า...
อืม ไหนใครว่าเจ้าท่านพ่อคนนี้ กับไป๋เหวินหลงไม่ถูกกันนะ? ดูเหมือนแก้ตัวแทนออกหน้าออกตาแทบจะพนมมือขออภัยแทนแล้วเนี่ย... แถมไป๋เหวินหลงก็เป็นน้องชายของกุ้ยเฟย น้องเมียแหละก็ต้องเกรงใจเมียสินะ... แถมยังเป็นคู่หูในสนามรบตอนท่านพ่อยังเป็นแม่ทัพอีก ไม่แปลกใจเลยที่ไว้ใจขนาดนี้
จากนั้นซื่อซื่อรีบเอาพัดมาพัดให้หว่านชิงอย่างเอาใจ ขันทีและนางกำนัล กุลีกุจอวิ่งวุ่นไปรอบทิศ จัดที่นั่ง จัดเบาะ จัดลมระบาย ดูแลองค์หญิงใหญ่ราวกับเทพธิดาแห่งวังหลวง
หว่านชิงนั่งลงบนตั่ง หอบเบาๆ ด้วยความตื่นเต้น...
แล้วนางก็นึกขึ้นได้ ต้องแสดงต่อนี่หว่า!
เธอรีบคว้าชายเสื้อของฮ่องเต้ไว้แน่น ทำตาแป๋ว ใส่ฟิลลิ่งแบบ
"คุณพ่อ~ ลูกกลัว! กลัว…ที่สุด …..ข่อยย้าน"
น้ำเสียงเบาบางสั่นคลอนใจ สีหน้าหม่นหมองราวกับผ่านคืนไร้หลับใหลมาอย่างยาวนา ทั้งที่จริงๆ แล้วอดนอนเพราะมัวแต่เตรียมตัวไปเรียนตั้งแต่เช้า
"ท่านพ่อเจ้าขา..."
เสียงของเธอสั่นเครือ "ลูกว่าแล้วเชียว... ลูกกลัวเหลือเกิน ว่าฝันของลูกจะเป็นจริง... มันคงเป็นฝันลางบอกเหตุแน่ๆ เลยเพคะ..."
ฮ่องเต้หน้าซีดกว่าเดิม!
"ลูกพ่อฝันอะไร?! มีเรื่องใดกังวลใจหรือไม่?! รีบเล่ามา! พ่อจะช่วยลูกเอง!"
หว่านชิงกัดริมฝีปาก ทำหน้าอึกอักแบบ ทำท่าทีหเหมือนหนักใจที่จะต้องพูด จนท่านพ่อกระวนกระวายแทบบินไปเรียกเทพบนสวรรค์มาฟังแทน
เธอสูดหายใจ... เงยหน้าขึ้นอย่างน่าสงสาร
"คือว่า...ลูกฝันประหลาดซ้ำๆ ว่าลูกจมดิ่งดำลึกลงไปในบ่อปลาคราฟน้ำเย็นเฉียบและลมหายใจหลุดลอยไปมองเห็นปลาคราฟตัวอ้วนว่ายเวียนยิ้มหยันให้กับลูก ไม่มีใครช่วยข้าแม้แต่คนเดียว แม้แต่ปลาคราฟก็ยังเย้ยหยันลูก” (จะบอกอย่างไรว่าไป๋เหวินหลงยังไม่ช่วยด้วยซ้ำเขาเลือกที่จะช่วยนางมารเหยียนอิงนั่น)
“โธ่ลูกพ่อ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”
“ยังไม่ใช่แค่นั้นฝันร้ายนั่นยังตามหลอกหลอนข้าแม้ยามหลับและยามตื่น วันนี้ข้าเอาแต่กังวลจิตใจหม่นหมองจนทำให้ซวยไปทั้งวัน ฝันร้ายนั่นยังทำให้ข้าจิตใจเหม่อลอยจนจนในที่สุดก็สะดุดล้มก่อนที่จะพบท่านพ่อด้วยซ้ำ ตั้งใจมาที่นี่แต่ท่านพ่อกลับไม่ว่างทุกอย่างล้วนไม่ได้ดั่งใจ พอมาถึงกลับมาล้มตรงหน้าแม่ทัพคนนั้นจนทำให้ข้าขายหน้าและเจ็บตัว ลำบากท่านแม่ทัพต้องพยุงข้าไว้”
“อืมม ช่างเป็นฝันที่น่ากลัวจริงๆ เช่นนั้นพ่อบัญชาออกไปว่าหากใครเห็นว่าเจ้าตกน้ำแล้วช่วยเจ้าพ่อจะตกรางวัลให้อย่างงาม”
“ม่ายๆๆๆ เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้าตกน้ำแล้วพวกเขาช่วยแล้วพวกเขาได้รางวัลต่อไปพวกเขาก้จะผลักข้าตกน้ำข้ายิ่งฝันเห็นมือประหลาดเดาไม่ได้ว่าเป็นใครผลักข้าตกลงไปในบ่อปลาคราฟ”
“เช่นนั้นพ่อบัญชาออกไปหากใครเห็นเจ้ากำลังลำบากแล้วช่วยเจ้าพ่อมอบรางวัลให้อย่างงามดีไหม” ประเด็นคือบ่อปลาคราฟ หว่านชิงจมน้ำตายในบ่อปลาคราฟที่มานี่ก็เพื่อการนี้
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นเพคะท่านก็แค่สั่งให้คนกลบบ่อปลาคราฟในวังหลวงให้หมดก็เท่านั้น ลูกขอท่านพ่อแค่เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้”
“บ่อปลาคราฟที่วังหลวงของเรามีราวๆ ยี่สิบแห่งและยังสิบหกตำหนักสนมหนึ่งคนมีบ่อปลาคราฟหน้าตำหนักสามพันตำหนักของสนมของฝ่าบาททั้งบ่อเล็กบ่อน้อยของสนมทั้งสามพัน องค์หญิงนับด้วยหรือเปล่า” ขันทีจือกงพูดขึ้นด้วยความวิตก
“เช่นนั้นกลบแต่บ่อใหญ่ยี่สิบบ่อดีไหมลูกพ่อ” ฮ่องเต้หลี่เซวียนอี้ยิ้มเจื่อนๆ
“ได้ เพคะ แต่ว่าลูกไม่แน่ใจว่าบ่อที่ลูกตกลงไปนั้นเห็นปลาคราฟว่ายยิ้มหยันเป็นของสนมหรือของตำหนักไหน ท่านพ่อรักลูกมากแค่ไหนก็กลบไปเท่านั้น ลูกยินดีจะไม่ตัดพ้อต่อโชคชะตา เสียใจที่ท่านแม่ด่วนจากไปไม่เช่นนั้นสองคนท่านคงกลบบ่อปลาคราฟให้ลูกหมดทั้งแคว้น” ปาดน้ำตาปรอยๆ
ฮ่องเต้หลี่เซวียนอี้อ้าปากค้างหันมองสบตากับขันทีจื่อกง
“อ่าาา เช่นนั้นกลบนอกเขตวังหลวงด้วยก็แล้วกัน”
“ขอบ
【เริ่มโครงการกลบบ่อปลาคาฟ】
【แต้มโน้มน้าวฮ่องเต้สำเร็จ +20 แต้ม】
【ฉายา ‘ปลาคาร์ฟสเลเยอร์’ ปลดล็อก สามารถเลือกใช้ฉายาได้】
หว่านชิงหันไปสบตากับซื่อซื่อที่ยังทำหน้าห่วง ๆ อยู่ ซื่อซื่อเรียกสติหว่านชิงอย่างร้อนรน "คุณหนู! คุณหนู! เป็นอะไรไปเจ้าคะ!"บัตรเช่าหนึ่งชั่วโมงของเธอ...เตะตัดขา ความฝันไปเลยลูก! 5555 แต่เดี๋ยวก่อน ยังไม่ทันได้ซึมซับความน้อยใจ บรรยากาศก็เปลี่ยนฮวบ!"หว่านชิงลูกพ่อออออออออ!!!"เสียงตะโกนกังวานของฮ่องเต้หลี่เซวียนอี้แว่วมา พร้อมเสียงฝีเท้าดัง ตุบตุบตุบ และชุดคลุมจักรพรรดิสะบัดอย่างองอาจเข้ามาหาเธอ"ลูกพ่อ! เจ้าเป็นอะไรหรือไม่! เจ้าเจ็บตรงไหน!!โอ๊ย ใจพ่อร้อนยิ่งกว่าเปลวเพลิงเสียอีก!” ขันทีข้างกายหน้าซีดเป็นกระดาษ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร ฮ่องเต้ก็ตวาดลั่น"ยังจะยืนโง่อยู่ทำไม! ไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้!!!ลูกข้าอาการเป็นอย่างไรทำไมพวกเจ้าไม่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยขององค์หญองค์ใหญ่ให้มากกว่านี้ ลูกพ่อออเจ้าทำไมนิ่งไปเล่าช็อคหรือไรหรือว่าเจ็บตรงไหน"หว่านชิงถึงกับสะดุ้ง รีบยกมือห้ามทัพ "ท่านพ่อเจ้าขา ใจเย็นๆ ก่อนเพคะ ลูกไม่เป็นอะไรเลย แค่... แค่ตกใจนิดหน่อยเอง"ในใจเธอก็แอบขำตัวเอง ก็แค่กำลังคุยกับระบบอยู่นี่นา ฮ่องเต้หรี่ตามองไปทางแม่ทัพที่เดินหันหลังไปไกลแล้ว"ไป๋เหวินหลง...เจ้าบ้านั่น! ข้าบอก
ชุดเกราะแวววาวสะท้อนแสงอาทิตย์เข้าตาเธอแสบวาบ...กลิ่นความหล่อผสมกลิ่นสมุนไพรเย็นจางๆ ลอยแตะจมูก และกลิ่นอะไรอีกนะถุงหอมสิท่ามือที่กุมรอบเอวไม่ได้เบาแต่ก็ไม่รุนแรง...วงแขนมั่นคงเสียจนไม่รู้สึกกลัวแม้แต่นิดเดียว...หว่านชิงลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วเงยหน้ามองเจ้าของวงแขน...ในวินาทีนั้น โลกทั้งใบก็พลันชะงัก ราวกับเสียงรอบข้างหายไป เหลือเพียงหัวใจที่เต้นแรงยิ่งกว่ากลองศึกบุรุษตรงหน้าสูงใหญ่ ใบหน้าคมกริบราวกับถูกสลักจากหยกดำ คิ้วเรียวยาวดุจพู่กันพู่มังกร ดวงตานิ่งเฉยราวสายน้ำแข็งลึก แต่กลับมีประกายที่ราวกับจะทิ่มแทงทะลุใจใครต่อใครได้ในพริบตาเดียว หญิงเห็นหญิงรักชายเห็นชายหลง…เฮ้เส้นผมดำขลับมัดรวบอย่างเรียบร้อย แต่ทิ้งเส้นหนึ่งพาดข้างแก้มอย่างไม่ตั้งใจ ทว่า...ก็ยังดูดีอย่างไร้ที่ติ แม้เพียงยืนเฉยๆ ก็เหมือนรูปปั้นแม่ทัพสวรรค์ที่หล่นลงมาจากแดนเทพ ออร่าที่แผ่ออกมาราวคลื่นร้อนทำเอาหว่านชิงแทบลืมหายใจนี่คือพระเอก...นี่มันพระเอกจริงๆ!ในใจมีแต่เสียงกรี๊ดแบบ กรี๊ดดดดดด!!! ทำไงดี! เขาหล่อขนาดนี้! นี่มันฉากในนิยายเลย! เขากอดฉัน! แล้วชุดเกราะสะท้อนแสงแบบนี้! ช่วยด้วย! เขาไม่พูดแต่เท่มาก! เขาไม่ยิ้มแต่ห
เสียงตะโกนของหว่านชิงดังสนั่นก้องศาลาราวกับระฆังยามศึก นางเบิกตากว้างเหมือนมีใครสาดน้ำเย็นใส่หน้าตอนเช้า“ไม่ได้การแล้ว! ข้าต้องไปหาเขา!”นางหมุนกายพรวดพราดกระโจนไปข้างหน้า กระโปรงลากระพื้นปลิวตามแรงก้าว ซื่อซื่อวิ่งตามแทบไม่ทัน ตะโกนด้วยความตกใจ“องค์หญิง! ระวังเจ้าค่ะ เดี๋ยวทรงจะล้มเจ้าค่ะ!”“แล้วเขาอยู่ไหน!” หว่านชิงหันมาถามทั้งที่ยังวิ่งอยู่“มะ...ไม่ทราบเจ้าค่ะ เห็นเพียงว่าท่านแม่ทัพก้าวเข้าวังมาแล้ว รีบเดินเหมือนจะมุ่งหน้าไปที่ใดสักแห่ง”หว่านชิงเบรกเท้าหยุดนิดหนึ่ง หันขวับ“ถ้าอย่างนั้น...เขาต้องไปหาท่านพ่อ!”พูดจบนางก็วิ่งต่อทันที เป้าหมายชัดเจน ตำหนักฮ่องเต้!นี่แหละคือโอกาสของหว่านชิงแล้ว เก็บแต้มๆๆ ฮ่าาาาาไปเก็บแต้มกับพระเอกก้านนนนนหว่านชิงยืนนิ่งอยู่หน้าประตูตำหนักเหมือนรูปสลัก แต่ภายในใจกลับร้อนรนยิ่งกว่าหม้อต้มน้ำในครัวหลวง ให้ตายเถอะ! มาแบบนี้ไม่บอกกล่าว จะให้ข้าทำหน้าอย่างไรให้ดูน่าเชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจมาหาผู้ชายเฉยๆ …ดวงตากลมโตร้อนรนกลอกไปมา ก่อนจะกะพริบแป๊บๆ อย่างคิดอะไรออก “เอาละ! บ่อปลาคราฟนั่นแหละ ใช้เป็นข้ออ้างได้!กลบบ่อปลาคราฟให้หมดไม่อย่างนั้นหว่านชิงจะต้องตก
เมื่อราชครูโม่ชิงเหยียนหมุนกายเดินนำ หว่านชิงก็สาวเท้าอย่างสงบเสงี่ยมติดตามอยู่เบื้องหลัง สายตาไม่เหลือบมองซ้ายขวา ท่าทีเรียบร้อยดุจนักเรียนหญิงที่มุ่งหน้าสู่ห้องเรียนครั้งแรก แต่ใจนางกลับระริกระรี้ เหมือนนักล่าสาวผู้เลือกสนามประลองเสียเอง ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของหว่านชิงศาลาไม้ประจำการเรียนตั้งอยู่ใต้ต้นหลิวใหญ่ ร่มเงาเขียวขจีตกทอดลงบนพื้นศิลา ดอกเหมยโปรยกลีบเบาอยู่ปลายฟ้า เสียงลมพัดผ้าม่านกระจายกลิ่นน้ำชาบางจางในอากาศภายในศาลา ผู้ที่นั่งอยู่ก่อนแล้วมีเพียงสองคนเท่านั้นก้รับสอนเฉพาะคนสำคัญสินะ หว่านชิงก็สำคัญเช่นนั้นที่นี่ก็ควรมีหว่านชิงหยางหลินองค์รัชทายาทอายุน้อยตัวสูงโปร่งแต่ผอมบาง ร่างในชุดมังกรประจำรัชทายาทแต่งอย่างเรียบง่ายแต่พิถีพิถัน สีหน้าขาวซีดดั่งหยกต้องหมอก ยามสบตา หว่านชิงรู้สึกถึงความหวาดระแวงชัดเจนในแววตาคู่นั้น เหมือนลูกหมาป่าที่เคยถูกรังแกและยังไม่ลืมเลือนรสของคมเขี้ยวตกใจหรือ…คงนึกว่าวันนี้ข้ามาเพราะคิดจะแกล้งเล่นสนุกกับเจ้าอีกกระมัง หึ...ก็น่าระแวงอยู่นั่นล่ะ หว่านชิงหัวเราะในใจ อีกหนึ่งร่างเบื้องขวา เยี่ยนอิงองค์หญิงรอง บุตรสาวคนแรกของฮองเฮานั่งอย่างสงบอยู่
หลังจากเมื่อคืนวางแผนเปลี่ยนเส้นเรื่องอย่างลับๆ หลี่หว่านชิงก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าทันทีที่เช้าตรู่มาเยือน แสงแดดอ่อนโยนส่องลอดหน้าต่างเงาไม้โยกไหว หว่านชิงก็ตื่นมาแต่งกายอย่างประณีตชุดผ้าไหมสีขาวสะอาดปักลาย ทอเส้นเงินระยิบระยับเมื่อแสงกระทบ ผมดำยาวถูกรวบครึ่งศีรษะด้วยปิ่นหยกประดับดอกเหมย ดวงหน้าแต่งแต้มบางเบาด้วยสีชมพูระเรื่อ ริมฝีปากชมพูอย่างธรรมชาติ ทุกองค์ประกอบบอกถึงความสุภาพนุ่มนวลขององค์หญิงใหญ่...เวอร์ชันเรียบร้อย (จอมปลอม) 【ภาพลักษณ์ใหม่: ผ่าน…10/100】‘นั้นเรียกผ่านเรอะ’"ซื่อซื่อ เจ้ามานี่สิ" หว่านชิงหันมากล่าวเรียบๆ ขณะสวมกำไลหยก"เพคะองค์หญิง?""เจ้าไปจับตาดูไว้เลยว่าเมื่อไรแม่ทัพไป๋เหวินหลงจะเข้าวัง ข้าต้องรู้ทันทีที่เขาเหยียบลานพระราชวัง""เจ้าค่ะ" ซื่อซื่อรีบก้มหัวแล้วหายตัวไปอย่างว่องไวหลี่หว่านชิงยิ้มมุมปาก เดินออกจากตำหนักอย่างมั่นใจ เพื่อไปยังสถานที่เรียนของเหล่าราชนิกุล ตำหนักเหวินเซียนที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของวังหลวง ท่ามกลางสวนไม้ใหญ่ แทรกเสียงนกร้องแว่วไกลกับกลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ ลมพัดโชยเอื่อยพาให้เงาไม้ลู่ไหว ดูสงบ เย็น และร่มรื่น ราวกับถูกออกแบบมาเพื่
เมื่อขบวนของฮ่องเต้เสด็จกลับไปแล้ว บรรยากาศก็สงบลงทันใด แน่นอนว่าความสงบของภายนอก มิอาจปิดบังเสียงจากภายในได้【ติ๊ง! แต้มโน้มน้าวฮ่องเต้สำเร็จ +5 แต้ม】เสียงระบบดังขึ้นในหัว พร้อมโผล่เป็นกล่องข้อความโปร่งใสลอยเคว้งเคว้งอยู่กลางสมอง หลี่หว่านชิงขมวดคิ้วในใจ‘+5 แต้ม? น้อยไปป่ะ นี่ฉันแสดงเกือบลืมหายใจนะ!’【...อย่าเยอะ ระบบใจดีให้แต้มทดลองเฉยๆ จริงๆ ฮ่องเต้เชื่อเจ้าทุกคำพูดอยู่แล้ว ควรจะได้ +0 ด้วยซ้ำ นี่ทดสอบระบบเฉย ๆ ทดสอบ 1 2 3 ทดสอบไมค์ 1 2 3】‘เหอะ...แค่บอกว่าอยากลองเทสต์ก็เทสต์กันงี้เลย?’ 【แล้วทำไมต้องยุ่งยากห้ามไม่ให้ราชครูโม่ชิงเหยียนมาสอนในห้องล่ะ】‘แล้วถามทำไมอีกล่ะ ว่าทำไมฉันถึงไม่ยอมให้เขามาสอนในห้อง?’ หลี่หว่านชิงส่งเสียงในใจปึงปัง【ระบบถาม เพราะอยากรู้ว่าคิดเองหรือฟลุ๊ก】【คำตอบผ่าน: ตรวจพบเหตุผลมีตรรกะชัดเจน】‘ห๊ะถามเองตอบเองหรอ ฉันยังไม่ได้ตอบเลยนะ รวนป่าวเนี้ย’【พึ่งคิดเองได้】【เหตุผล: ไม่อยากทำให้ราชครูโม่รำคาญ = ลดความเกลียดชัง = ไม่เป็นศัตรู】【ระดับแผนการ: ฉลาดเฉียบ】【แต้มพิเศษสำหรับการวางแผนล่วงหน้า +10】ปาหัวใจโฮโลแกรมใส่หลี่หว่านชิงหนึ่งดอกฟรุ้งฟริ้ง หว่านชิงตกใจสุ
ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมขบวนขันทีและนางกำนัลยาวเหยียด ที่นำขบวนมาคือหัวหน้าขันทีเฒ่าผู้หนึ่งชื่อว่า "จื่อกง" ชายชราในอาภรณ์สีสุภาพผู้มีใบหน้าแววตาเก๋าเกมและปากไวระดับตำนานไม่ผิดแน่หากตามบทที่หลี่หว่านชิงเคยปะทะคารมมาอีกทั้งขันทีผู้นี้ยังมีไฝติดที่ริมฝีปากเม็ดใหญ่โตมโหฬารตามหลังเขาคือ ฮ่องเต้ "หลี่เซวียนอี้" ฮ่องเต้ผู้มีชื่อเสียงเรื่องการสงคราม รบจนเป็นฮ่องเต้ไร้พ่าย แต่กลายเป็นพ่อที่อ่อนยวบเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกสาวคนโต"หลี่หว่านชิง! ลูกพ่อออออออ" ฮ่องเต้โผเข้าหาด้วยสีหน้ากระวนกระวาย ท่าทีเคร่งขรึมตามตำราจักรพรรดิหายวับ เหลือไว้แต่สีหน้าร้อนรนเหมือนพ่อบ้านธรรมดาดวงตายิ่งอ่อนโยนยิ่งนัก"พ่อได้ข่าวว่าเจ้าล้มป่วย แล้วจู่ ๆ ก็ส่งคนไปบอกว่าจะไปเรียนหนังสือ! เจ้าตื่นเช้าได้! เจ้าลุกจากเตียงได้! บอกพ่อมาเถอะลูก เป็นอะไรรึเปล่า! ฝืนรึเปล่า!ไหวหรือเปล่า เจ้าป่วยไข้หรือหัวไปกระแทกที่ไหนมาหรือเปล่าไหนให้พ่อดูหัวของเจ้ามีรอยบาดแผลไหม"จับตัวหลี่หว่านชิงมาพลิกซ้ายขวาหมุนรอบตัวและวิ่งวนดูรอบๆ ศีรษะของหลี่หว่านชิงค้นหาบาดแผลที่ตามมาด้วยนั่นคือขันทีอีกสิบคน ขนห่อหยก ห่อสมุนไพร กระติกยา และกระถางกำยานรั
แสงแดดยามสายสาดผ่านหน้าต่างลงบนโต๊ะไม้กลมกลางห้อง กลิ่นหมึกจาง ๆ ลอยคละคลุ้งกับกลิ่นชาจางๆ ที่ยังอุ่นอยู่ในถ้วย เสียงปลายพู่กันขูดกระดาษเบา ๆ ดังเป็นระยะ คล้ายเสียงหัวเราะของคนมีแผนร้ายในใจหลี่หว่านชิงคนใหม่ นั่งขัดสมาธิบนเบาะนุ่มอย่างสบายใจ มือข้างหนึ่งคีบขนมชิ้นเล็กเข้าปาก ส่วนอีกข้างก็วาดอะไรบางอย่างลงกระดาษขาวด้วยความตั้งใจบนแผ่นกระดาษ แผนผังน่ารักแบบตัวการ์ตูนเริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนวงกลมแรกมีหน้าคนหัวฟูๆ ทำหน้าตาโง่งมน้ำมูกและน้ำลายไหล อยู่ในชุดเจ้าหญิงสีชมพูบานเย็น ลูกศรชี้ลงด้านล่าง เขียนว่า“หลี่หว่านชิงต้นฉบับ: สมองมีขนาดเดียวกับเม็ดบัว ขี้อวด ชอบหาเรื่องนางเอก ไม่รู้จักวางแผน ไม่ประมาณตน มองคนไม่ออกไม่รู้ว่าใครรักใครเกลียด สุดท้ายโดนวางยา ตบตี ถูกถอดยศ และสิ้นใจตายในบ่อปลาคาร์ฟ”ถัดไปทางขวาอีกมุม มีภาพหลี่หว่านชิงเวอร์ชันใหม่ ใส่แว่น วาดหน้าตาจริงจัง มือถือพัดจดบันทึก หัวกลม ๆ มีประกายสมองแปะไว้เหมือนมีไฟสว่างวาบบนหัว ใต้ภาพเขียนว่า“เวอร์ชันใหม่ : หลี่หว่านชิง 2.0 แสร้งสำนึกผิด ใฝ่เรียนใฝ่รู้ ตีสนิทเป้าหมาย สะสมแต้มปั่น กำกับโชคชะตาด้วยมือเราเอง! และที่สำคัญฉลาดเป็นกร
เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าอย่างแรงดัง เพี๊ยะ!เธอล้มลงไปกองกับพื้น หัวกระแทกมุมโต๊ะปลายเตียงจนมึนงง ทว่าเธอก็ยังคงฝืนลุกขึ้นตามสคริปต์"เจ้ามันก็แค่คนโง่ที่ให้ข้าหลอกใช้ก็เท่านั้น"น้ำเสียงเยาะหยันของนางเอกในเรื่องทำเอาหัวใจเธอสั่นระริก ไม่ใช่เพราะเจ็บปวด แต่เพราะหัวใจขอเธอกำลังเต้นผิดจังหวะมันผิดจังหวะจริงๆ เสียแล้วไม่ไหวแล้ว... หัวใจมัน... เจ็บแปลบ..."คัท! ตรงนั้นยังไม่พออารมณ์นะครับ ตาอย่ากะพริบเยอะเกิน" เสียงผู้กำกับดังขึ้น แต่เธอกลับได้ยินเสียงนั้นแผ่วเบาลงเรื่อยๆๆๆ และเสียงลมหายใจของตัวเองที่แผ่วลงเรื่อยๆในวินาทีสุดท้ายก่อนที่สติจะดับวูบ ภาพที่เธอเห็นคือฉากบัลลังก์ทองที่มีม่านโปร่งล้อมรอบ......มันคือฉากที่เธอถ่ายไปเมื่อเดือนก่อน กับบท "นางร้ายผู้โง่เขลา" ในละครย้อนยุคฟอร์มยักษ์ที่ทำเธอแทบบ้าเพราะต้องฝึกทั้งการเดินให้กิริยาดี ทั้งบทพูดโบราณ แถมยังต้องโดนตบอีกสารพัดเธอตายแล้วแน่ ๆ ...กลิ่นหอมอ่อนของไม้จันทน์ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศผสานกับความรู้สึกเย็นชื้นบนต้นคอ แต่พอลืมตาขึ้นอีกครั้ง กลับพบว่าตัวเองนั่งอยู่บนตั่งไม้แกะสลักลวดลายเมฆมงคล ชุดที่สวมเป็นแพรไหมชั้นดีมีลวดลายหงส์น้อยประดั