เส้นทางสู่ "สรวงสวรรค์" และการค้นพบที่ยิ่งใหญ่
การเดินทางร่วมกับไป๋หู่เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ไป๋หู่มีความรู้เรื่องป่าอย่างลึกซึ้ง เขาสามารถอ่านร่องรอยของสัตว์ป่า คาดการณ์สภาพอากาศ และที่สำคัญที่สุดคือ เขารู้จักพืชพรรณและสมุนไพรหายากต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในป่าลึก "ท่านแม่เจียง" ไป๋หู่ชี้ไปที่ต้นไม้สูงใหญ่ต้นหนึ่ง "นั่นคือ 'ต้นหยกพันปี' เปลือกของมันสามารถนำมาทำยาอายุวัฒนะได้" เหม่ยหลินตื่นเต้นอย่างมาก เธอจดบันทึกทุกสิ่งที่ไป๋หู่บอกอย่างละเอียด เธอได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมายจากการเดินทางครั้งนี้ ซึ่งหาไม่ได้จากตำราใดๆ หลี่เฟยหลงและเหล่าทหารองครักษ์ก็ชื่นชมในความสามารถของไป๋หู่ เขาทั้งกล้าหาญและชาญฉลาด ทำให้การเดินทางของพวกเขาปลอดภัยและรวดเร็วขึ้นมาก หลังจากเดินทางมาอีกหลายวัน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงบริเวณที่ไป๋หู่เรียกว่า "หุบเขาสรวงสวรรค์" มันเป็นหุบเขาที่ซ่อนตัวอยู่ลึกเข้าไปในป่า รายล้อมด้วยหน้าผาสูงชัน และมีหมอกจางๆ ปกคลุมตลอดเวลา บรรยากาศภายในหุบเขาอบอุ่นและชุ่มชื้น พืชพรรณเจริญงอกงามอย่างน่าอัศจรรย์ ราวกับเป็นดินแดนที่ไม่เคยถูกรบกวนโดยมนุษย์ และที่นั่นเอง! พวกเขาก็ได้พบกับ "ผลไม้แห่งสวรรค์" มันเติบโตอยู่บนต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเขา ผลไม้แต่ละผลมีขนาดเท่ากำปั้น สีแดงสดใส และเปล่งประกายสีทองออกมาอย่างอ่อนโยน กลิ่นหอมหวานของมันลอยอบอวลไปทั่วทั้งหุบเขา ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีพลังงาน "นี่มัน...สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ!" เหม่ยหลินอุทานด้วยความทึ่ง ไป๋หู่ยิ้ม "นี่คือผลไม้แห่งสวรรค์ เป็นวัตถุดิบล้ำค่าที่ยากจะหาได้ในโลกภายนอก" เหม่ยหลินบรรจงเก็บผลไม้แห่งสวรรค์อย่างระมัดระวัง เธอรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตอันบริสุทธิ์ที่แผ่ออกมาจากผลไม้เหล่านี้ นอกจากผลไม้แห่งสวรรค์แล้ว พวกเขายังค้นพบวัตถุดิบล้ำค่าอื่นๆ อีกมากมายในหุบเขาสรวงสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหายากที่ใช้ในการบำรุงกำลัง เห็ดชนิดใหม่ๆ ที่มีสรรพคุณทางยา หรือแม้กระทั่ง "น้ำผึ้งจากผึ้งป่าโบราณ" ที่มีรสชาติหอมหวานและมีคุณสมบัติในการรักษาบาดแผล เส้นทางกลับและมิตรภาพที่ผลิบาน หลังจากเก็บวัตถุดิบได้ตามที่ต้องการ พวกเขาก็เริ่มต้นการเดินทางกลับ ไป๋หู่นำทางพวกเขาออกจากป่าลึกได้อย่างปลอดภัย ตลอดการเดินทางกลับ เหม่ยหลินได้พูดคุยกับไป๋หู่มากขึ้น เธอได้เรียนรู้เรื่องราวชีวิตของเขา และเขาเองก็ได้เรียนรู้เรื่องราวของเหม่ยหลินเช่นกัน "ท่านแม่เจียง" ไป๋หู่กล่าวในวันหนึ่ง "ท่านไม่เหมือนสตรีคนใดที่ข้าเคยพบเห็น ท่านทั้งกล้าหาญ เฉลียวฉลาด และมีความเมตตา" เหม่ยหลินยิ้ม "ท่านไป๋หู่เองก็ไม่เหมือนนายพรานคนใดที่ข้าเคยพบเห็น ท่านทั้งแข็งแกร่ง มีไหวพริบ และมีจิตใจที่ดี" มิตรภาพที่บริสุทธิ์ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างเหม่ยหลินและไป๋หู่ ทั้งคู่ต่างรู้สึกเคารพและชื่นชมในอีกฝ่าย เมื่อพวกเขากลับมาถึงเมืองหลวง องค์จักรพรรดิทรงดีพระทัยเป็นอย่างมากที่เห็นเหม่ยหลินและหลี่เฟยหลงกลับมาอย่างปลอดภัย พร้อมด้วยวัตถุดิบล้ำค่ามากมาย พระองค์ทรงชื่นชมในความกล้าหาญและความสามารถของเหม่ยหลิน และทรงประทานรางวัลตอบแทนอย่างงาม เหม่ยหลินได้นำเห็ดจันทราพันปีและผลไม้แห่งสวรรค์มาปรุงเป็นอาหารถวายองค์จักรพรรดิ รสชาติที่หอมหวาน ล้ำลึก และสรรพคุณที่ช่วยบำรุงร่างกายของวัตถุดิบล้ำค่าเหล่านี้ ทำให้องค์จักรพรรดิมีพระพลานามัยที่แข็งแรงและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนไป๋หู่ เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพรานหลวง มีหน้าที่ดูแลป่าและจัดหาสมุนไพรหายากให้แก่ราชสำนัก เขายังคงเป็นมิตรที่ดีของเหม่ยหลินและครอบครัว และมักจะแวะมาเยี่ยมเยียนพวกเขาเสมอหลี่เฟยหลง ในชุดเสื้อคลุมหนา ถือดาบและมองไปรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง หัวหน้าหมาเองก็เตรียมพร้อมเต็มที่ ด้วยประสบการณ์การเอาตัวรอดในป่าที่เขาเคยผ่านมาเมื่อก้าวออกไปนอกกำแพงวัง ความหนาวเย็นก็แทรกซึมเข้าสู่กระดูก ลมพายุหิมะพัดโหมกระหน่ำจนแทบจะมองไม่เห็นทาง หิมะกองสูงท่วมหัว ผู้คนต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเรือนของตนเอง ถนนหนทางเงียบสงัดราวกับเมืองร้าง"ท่านแม่! หิมะหนักมากเลยนะขอรับ!" หลี่เฟยหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงกังวล "เราจะหาอะไรกินได้ที่ไหนกันขอรับ!?""เราจะต้องหาแหล่งอาหารที่สามารถทนต่อความหนาวเย็นได้ลูก" เหม่ยหลินตอบ "และแม่คิดว่า...แม่รู้แล้วว่าเราจะไปหาที่ไหน"เหม่ยหลินนำทางคณะของเธอไปยังบริเวณที่สูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นที่ราบเชิงเขาที่เธอเคยสังเกตเห็นว่ามีพืชพรรณบางชนิดเติบโตอย่างหนาแน่นในช่วงฤดูร้อนเมื่อมาถึงบริเวณนั้น พวกเขาก็ต้องประหลาดใจ! แม้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะหนา แต่ก็มี พืชชนิดหนึ่ง ที่ยังคงยืนต้นอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง ใบของมันเป็นสีเขียวเข้ม และมีรากที่ฝังลึกลงไปในดินที่เย็นจัด"นี่มัน... 'ผักหิมะสวรรค์'!" เหม่ยหลินอุทานด้วยความตื่นเต้น "ข้าเคยได้ยินชื่อของ
หลังจากเหตุการณ์ในแคว้นเยว่ เหม่ยหลินและคณะเดินทางกลับสู่แคว้นของตนอย่างปลอดภัย พร้อมกับมิตรภาพครั้งใหม่และข้อตกลงสันติภาพอันล้ำค่าที่นำพาสันติสุขมาสู่สองอาณาจักร องค์จักรพรรดิทรงปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทรงจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และทรงยกย่องความดีความชอบของเหม่ยหลินและไป๋เฟิงอย่างสมเกียรติไป๋เฟิงได้รับการแต่งตั้งเป็นราชทูตพิเศษ มีหน้าที่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น และเขาก็แวะเวียนมาเยี่ยมเหม่ยหลินและครอบครัวอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากลายเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้นและบริสุทธิ์แต่ความสงบสุขมักไม่จีรังยั่งยืน เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวปีนั้น พายุหิมะลูกใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีก็พัดถล่มอาณาจักรอย่างไม่คาดฝัน หิมะตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ปกคลุมทั่วทั้งแคว้นด้วยผืนสีขาวโพลน อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แม่น้ำลำคลองกลายเป็นน้ำแข็ง พืชผลทางการเกษตรเสียหายยับเยิน การคมนาคมหยุดชะงัก ผู้คนต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บและความอดอยากวิกฤตการณ์ในวังหลวงและคำร้องจากองค์จักรพรรดิแม้แต่ในวังหลวงเองก็ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะครั้งนี้ การขนส่งเสบียงอาหารจากภายนอกทำได้ยากลำบาก คลังเสบียงขอ
องค์จักรพรรดิเยว่เสวยซุปแห่งการฟื้นคืนชีพด้วยความลังเล พระองค์ทรงจิบซุปช้าๆ และทันใดนั้นเอง...พระองค์ก็ทรงไอออกมาอย่างรุนแรง! พร้อมกับอาเจียนออกมาเป็น เลือดสีดำ!เสียงฮือฮาดังไปทั่วท้องพระโรง ขันทีผู้นั้นถึงกับหน้าซีดเผือด"เป็นไปได้อย่างไร!" ขันทีผู้นั้นตะโกน "เจ้าแม่ครัวชั่ว! เจ้าวางยาพิษฝ่าบาท!""หยุดเดี๋ยวนี้!" ไป๋เฟิงก้าวออกมาข้างหน้าอย่างองอาจ "นี่ไม่ใช่ยาพิษ! แต่มันคือ ยาถอนพิษ! ที่กำลังขับยาพิษที่เจ้าแอบใส่ในยาอายุวัฒนะของพระบิดาข้ามานานหลายปี!"คำกล่าวของไป๋เฟิงทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง ขันทีผู้นั้นถึงกับตัวแข็งทื่อ ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับคนตาย"ฝ่าบาท!" ไป๋เฟิงคุกเข่าลงต่อหน้าองค์จักรพรรดิเยว่ "หม่อมฉันคือไป๋เฟิง... องค์ชายรองของพระองค์พะย่ะค่ะ!"องค์จักรพรรดิเยว่มองไป๋เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความหวัง พระองค์ทรงจำลูกชายของพระองค์ได้"ขันทีผู้นี้... เขาหลอกลวงพระองค์มาตลอดพะย่ะค่ะ!" ไป๋เฟิงกล่าวต่อ "เขาต้องการที่จะช่วงชิงอำนาจจากพระองค์ เขาแอบใส่ยาพิษลงในยาอายุวัฒนะของพระองค์ เพื่อให้พระองค์อ่อนแอ และควบคุมพระองค์ได้!"หลั
ความจริงที่เปิดเผยจากไป๋เฟิงทำให้เหม่ยหลินเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด เธอรู้ว่าภารกิจของเธอไม่ได้มีแค่การปรุงอาหารเพื่อรักษาองค์จักรพรรดิเยว่ แต่ยังรวมถึงการช่วยไป๋เฟิงเปิดโปงความจริง และหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายของขันทีผู้นั้นด้วย"งั้นตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ?" หลี่เฟยหลงถาม"เราต้องหาวัตถุดิบที่เหมาะสมมาปรุงซุปแห่งชีวิตอมตะให้องค์จักรพรรดิเยว่" เหม่ยหลินกล่าว "แต่คราวนี้...เราจะไม่แค่ปรุงซุปบำรุงธรรมดา" เธอหันไปมองไป๋เฟิง "เราจะปรุงซุปที่สามารถ ล้างพิษ ออกจากร่างกายขององค์จักรพรรดิเยว่ได้!"ไป๋เฟิงพยักหน้า "ข้ารู้จักสมุนไพรบางชนิดในป่าต้องห้ามแห่งนี้ ที่มีสรรพคุณในการล้างพิษได้ แต่พวกมันหายากยิ่งนัก และมักจะเติบโตในที่ลับแล"ไป๋เฟิงนำทางพวกเขาเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิมในป่าต้องห้าม พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยากลำบากมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน พืชมีพิษที่ร้ายแรง และกับดักที่ถูกวางไว้โดยฝีมือมนุษย์"ท่านไป๋เฟิง! นั่นคืออะไรขอรับ!" หลี่เฟยหลงชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีผลไม้สีดำสนิท ดูเหมือนมีหนามแหลมคม"นั่นคือ 'ผลโลหิตทมิฬ'" ไป
การปรากฏตัวของไป๋หู่ราวกับสายฟ้าฟาดกลางป่าต้องห้าม! เหม่ยหลิน สบตาเขาด้วยความไม่เข้าใจปนประหลาดใจอย่างที่สุด หลี่เฟยหลงและหัวหน้าหมาต่างตะลึงงัน ไม่คาดคิดว่านายพรานหนุ่มผู้เคยช่วยชีวิตพวกเขาไว้ จะมาปรากฏตัวในชุดคลุมสีดำ และมีบทบาทในการช่วยเหลือพวกเขาในดินแดนศัตรูแห่งนี้"ไป๋หู่! ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!?" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือไป๋หู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ สายตาของเขาฉายแววหนักใจ แต่ก็มีความเด็ดเดี่ยวซ่อนอยู่ เขาก้มศีรษะให้เหม่ยหลินเล็กน้อย"ขออภัยท่านแม่เจียง ที่ข้าต้องปกปิดเรื่องราวบางอย่าง" ไป๋หู่กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "แท้จริงแล้ว...ข้าไม่ใช่แค่นายพรานธรรมดาในป่าแห่งนั้น""แล้วท่านเป็นใครกันแน่!?" หลี่เฟยหลงถามอย่างสงสัยระคนไม่ไว้วางใจไป๋หู่หันไปมองทหารที่ล้มลงอยู่กับพื้น ก่อนจะกล่าวต่อ "ข้าคือ ไป๋เฟิง... อดีตองค์ชายรองแห่งแคว้นเยว่"คำสารภาพของไป๋เฟิงราวกับระเบิดที่ลงกลางกลุ่ม! หลี่เฟยหลงและหัวหน้าหมาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มผู้ลึกลับที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ จะมีฐานะสูงส่งถึงเพียงนี้ และที่สำคัญ... เขาคื
การเดินทางสู่ป่าต้องห้ามของแคว้นเยว่เริ่มต้นขึ้น เหม่ยหลิน หลี่เฟยหลง และหัวหน้าหมา พร้อมด้วยทหารนำทางสองสามนายจากแคว้นเยว่ ที่ดูท่าทางไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยป่าต้องห้ามแห่งนี้แตกต่างจากป่าที่พวกเขาเคยเข้าไปอย่างสิ้นเชิง มันเต็มไปด้วยพืชพรรณรูปร่างแปลกประหลาดที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน และมีสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักชื่อแฝงตัวอยู่ทั่วไป บรรยากาศของป่าเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอันตรายและความลึกลับ"ท่านแม่! ดูนั่นขอรับ!" หลี่เฟยหลงชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีผลไม้สีม่วงเข้มดูน่ากลัว"อย่าไปแตะต้องนะลูก" เหม่ยหลินเตือน "ผลไม้บางชนิดในป่าแห่งนี้มีพิษร้ายแรง"พวกเขาระมัดระวังทุกย่างก้าว โดยเฉพาะจากทหารนำทางของแคว้นเยว่ที่คอยจ้องมองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ราวกับรอโอกาสที่จะสร้างปัญหาในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางลึกเข้าไปในป่า จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับเงาร่างของ บุรุษลึกลับ ที่ปรากฏขึ้นจากพุ่มไม้ เขาสวมชุดคลุมสีดำปิดบังใบหน้า และมีท่าทางลับๆ ล่อๆ"ใครกันนั่น!" หลี่เฟยหลงตะโกน และชักดาบเตรียมพร้อมบุรุษลึกลับไม่ตอบ เขาเพียงแค่ชี้ไปที่ทหารนำทางของแคว้นเยว่ แล้วส่