หลังจากเหตุการณ์ในแคว้นเยว่ เหม่ยหลินและคณะเดินทางกลับสู่แคว้นของตนอย่างปลอดภัย พร้อมกับมิตรภาพครั้งใหม่และข้อตกลงสันติภาพอันล้ำค่าที่นำพาสันติสุขมาสู่สองอาณาจักร องค์จักรพรรดิทรงปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทรงจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และทรงยกย่องความดีความชอบของเหม่ยหลินและไป๋เฟิงอย่างสมเกียรติ
ไป๋เฟิงได้รับการแต่งตั้งเป็นราชทูตพิเศษ มีหน้าที่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น และเขาก็แวะเวียนมาเยี่ยมเหม่ยหลินและครอบครัวอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากลายเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้นและบริสุทธิ์ แต่ความสงบสุขมักไม่จีรังยั่งยืน เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวปีนั้น พายุหิมะลูกใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีก็พัดถล่มอาณาจักรอย่างไม่คาดฝัน หิมะตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ปกคลุมทั่วทั้งแคว้นด้วยผืนสีขาวโพลน อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แม่น้ำลำคลองกลายเป็นน้ำแข็ง พืชผลทางการเกษตรเสียหายยับเยิน การคมนาคมหยุดชะงัก ผู้คนต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บและความอดอยาก วิกฤตการณ์ในวังหลวงและคำร้องจากองค์จักรพรรดิ แม้แต่ในวังหลวงเองก็ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะครั้งนี้ การขนส่งเสบียงอาหารจากภายนอกทำได้ยากลำบาก คลังเสบียงของวังหลวงเริ่มร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายของความกังวลแผ่ซ่านไปทั่วราชสำนัก "ฝ่าบาท! เสบียงอาหารในคลังของเราเหลือไม่มากแล้วพะย่ะค่ะ!" ท่านราชครูจ้าวรายงานด้วยใบหน้าเคร่งเครียด "หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป... เกรงว่าประชาชนจะอดอยาก และอาจเกิดความวุ่นวายขึ้นได้พะย่ะค่ะ" องค์จักรพรรดิทรงขมวดคิ้วด้วยความวิตก พระองค์มองไปยังหิมะที่ตกหนักอยู่นอกหน้าต่าง ด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในพระทัย "แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี!" องค์จักรพรรดิรับสั่ง "เราไม่สามารถปล่อยให้ประชาชนต้องอดอยากได้!" ในขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดหาวิธีแก้ปัญหา เหม่ยหลินก็ก้าวออกมาข้างหน้า "ฝ่าบาทเพคะ" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "หม่อมฉันขออนุญาตออกไปสำรวจสถานการณ์นอกวัง และหาทางช่วยเหลือประชาชนเพคะ" องค์จักรพรรดิทรงหันมามองเหม่ยหลิน พระองค์ทรงลังเลเล็กน้อย เพราะการออกไปในช่วงพายุหิมะเช่นนี้อันตรายอย่างยิ่ง "ท่านแม่เจียง" องค์จักรพรรดิรับสั่ง "การออกไปข้างนอกตอนนี้อันตรายนัก พายุหิมะยังคงรุนแรง และเราไม่รู้ว่าภัยร้ายใดจะรออยู่ข้างนอก" "หม่อมฉันเข้าใจเพคะฝ่าบาท" เหม่ยหลินตอบ "แต่ในฐานะเชฟหลวงผู้ดูแลอาหารของแผ่นดิน หม่อมฉันจะนิ่งดูดายไม่ได้เพคะ หม่อมฉันต้องหาทางแก้ไขวิกฤตการณ์นี้ให้ได้" องค์จักรพรรดิทรงมองเห็นความมุ่งมั่นในแววตาของเหม่ยหลิน พระองค์ทรงรู้ว่าเหม่ยหลินไม่ใช่สตรีธรรมดา และทรงเชื่อในความสามารถของเธอเสมอมา "ดี! ถ้าอย่างนั้นข้าจะอนุญาต!" องค์จักรพรรดิมีราชโองการ "แต่เจ้าจะต้องนำหลี่เฟยหลง หัวหน้าหมา และทหารองครักษ์ฝีมือดีที่สุดไปด้วย! และหากเจ้าต้องการสิ่งใดอีก ก็จงบอกมาได้เลย!" การเดินทางสู่ความหนาวเหน็บและการค้นพบที่ไม่คาดคิด เหม่ยหลินและคณะเตรียมตัวสำหรับการเดินทางสู่โลกภายนอกที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน พวกเขาสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่นที่สุด เตรียมอาหารแห้งและอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการเดินทางในสภาพอากาศที่เลวร้ายหลังจากเหตุการณ์ในแคว้นเยว่ เหม่ยหลินและคณะเดินทางกลับสู่แคว้นของตนอย่างปลอดภัย พร้อมกับมิตรภาพครั้งใหม่และข้อตกลงสันติภาพอันล้ำค่าที่นำพาสันติสุขมาสู่สองอาณาจักร องค์จักรพรรดิทรงปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทรงจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และทรงยกย่องความดีความชอบของเหม่ยหลินและไป๋เฟิงอย่างสมเกียรติไป๋เฟิงได้รับการแต่งตั้งเป็นราชทูตพิเศษ มีหน้าที่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น และเขาก็แวะเวียนมาเยี่ยมเหม่ยหลินและครอบครัวอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากลายเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้นและบริสุทธิ์แต่ความสงบสุขมักไม่จีรังยั่งยืน เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวปีนั้น พายุหิมะลูกใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีก็พัดถล่มอาณาจักรอย่างไม่คาดฝัน หิมะตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ปกคลุมทั่วทั้งแคว้นด้วยผืนสีขาวโพลน อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แม่น้ำลำคลองกลายเป็นน้ำแข็ง พืชผลทางการเกษตรเสียหายยับเยิน การคมนาคมหยุดชะงัก ผู้คนต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บและความอดอยากวิกฤตการณ์ในวังหลวงและคำร้องจากองค์จักรพรรดิแม้แต่ในวังหลวงเองก็ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะครั้งนี้ การขนส่งเสบียงอาหารจากภายนอกทำได้ยากลำบาก คลังเสบียงขอ
องค์จักรพรรดิเยว่เสวยซุปแห่งการฟื้นคืนชีพด้วยความลังเล พระองค์ทรงจิบซุปช้าๆ และทันใดนั้นเอง...พระองค์ก็ทรงไอออกมาอย่างรุนแรง! พร้อมกับอาเจียนออกมาเป็น เลือดสีดำ!เสียงฮือฮาดังไปทั่วท้องพระโรง ขันทีผู้นั้นถึงกับหน้าซีดเผือด"เป็นไปได้อย่างไร!" ขันทีผู้นั้นตะโกน "เจ้าแม่ครัวชั่ว! เจ้าวางยาพิษฝ่าบาท!""หยุดเดี๋ยวนี้!" ไป๋เฟิงก้าวออกมาข้างหน้าอย่างองอาจ "นี่ไม่ใช่ยาพิษ! แต่มันคือ ยาถอนพิษ! ที่กำลังขับยาพิษที่เจ้าแอบใส่ในยาอายุวัฒนะของพระบิดาข้ามานานหลายปี!"คำกล่าวของไป๋เฟิงทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง ขันทีผู้นั้นถึงกับตัวแข็งทื่อ ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับคนตาย"ฝ่าบาท!" ไป๋เฟิงคุกเข่าลงต่อหน้าองค์จักรพรรดิเยว่ "หม่อมฉันคือไป๋เฟิง... องค์ชายรองของพระองค์พะย่ะค่ะ!"องค์จักรพรรดิเยว่มองไป๋เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความหวัง พระองค์ทรงจำลูกชายของพระองค์ได้"ขันทีผู้นี้... เขาหลอกลวงพระองค์มาตลอดพะย่ะค่ะ!" ไป๋เฟิงกล่าวต่อ "เขาต้องการที่จะช่วงชิงอำนาจจากพระองค์ เขาแอบใส่ยาพิษลงในยาอายุวัฒนะของพระองค์ เพื่อให้พระองค์อ่อนแอ และควบคุมพระองค์ได้!"หลั
ความจริงที่เปิดเผยจากไป๋เฟิงทำให้เหม่ยหลินเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด เธอรู้ว่าภารกิจของเธอไม่ได้มีแค่การปรุงอาหารเพื่อรักษาองค์จักรพรรดิเยว่ แต่ยังรวมถึงการช่วยไป๋เฟิงเปิดโปงความจริง และหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายของขันทีผู้นั้นด้วย"งั้นตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ?" หลี่เฟยหลงถาม"เราต้องหาวัตถุดิบที่เหมาะสมมาปรุงซุปแห่งชีวิตอมตะให้องค์จักรพรรดิเยว่" เหม่ยหลินกล่าว "แต่คราวนี้...เราจะไม่แค่ปรุงซุปบำรุงธรรมดา" เธอหันไปมองไป๋เฟิง "เราจะปรุงซุปที่สามารถ ล้างพิษ ออกจากร่างกายขององค์จักรพรรดิเยว่ได้!"ไป๋เฟิงพยักหน้า "ข้ารู้จักสมุนไพรบางชนิดในป่าต้องห้ามแห่งนี้ ที่มีสรรพคุณในการล้างพิษได้ แต่พวกมันหายากยิ่งนัก และมักจะเติบโตในที่ลับแล"ไป๋เฟิงนำทางพวกเขาเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิมในป่าต้องห้าม พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยากลำบากมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน พืชมีพิษที่ร้ายแรง และกับดักที่ถูกวางไว้โดยฝีมือมนุษย์"ท่านไป๋เฟิง! นั่นคืออะไรขอรับ!" หลี่เฟยหลงชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีผลไม้สีดำสนิท ดูเหมือนมีหนามแหลมคม"นั่นคือ 'ผลโลหิตทมิฬ'" ไป
การปรากฏตัวของไป๋หู่ราวกับสายฟ้าฟาดกลางป่าต้องห้าม! เหม่ยหลิน สบตาเขาด้วยความไม่เข้าใจปนประหลาดใจอย่างที่สุด หลี่เฟยหลงและหัวหน้าหมาต่างตะลึงงัน ไม่คาดคิดว่านายพรานหนุ่มผู้เคยช่วยชีวิตพวกเขาไว้ จะมาปรากฏตัวในชุดคลุมสีดำ และมีบทบาทในการช่วยเหลือพวกเขาในดินแดนศัตรูแห่งนี้"ไป๋หู่! ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!?" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือไป๋หู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ สายตาของเขาฉายแววหนักใจ แต่ก็มีความเด็ดเดี่ยวซ่อนอยู่ เขาก้มศีรษะให้เหม่ยหลินเล็กน้อย"ขออภัยท่านแม่เจียง ที่ข้าต้องปกปิดเรื่องราวบางอย่าง" ไป๋หู่กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "แท้จริงแล้ว...ข้าไม่ใช่แค่นายพรานธรรมดาในป่าแห่งนั้น""แล้วท่านเป็นใครกันแน่!?" หลี่เฟยหลงถามอย่างสงสัยระคนไม่ไว้วางใจไป๋หู่หันไปมองทหารที่ล้มลงอยู่กับพื้น ก่อนจะกล่าวต่อ "ข้าคือ ไป๋เฟิง... อดีตองค์ชายรองแห่งแคว้นเยว่"คำสารภาพของไป๋เฟิงราวกับระเบิดที่ลงกลางกลุ่ม! หลี่เฟยหลงและหัวหน้าหมาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มผู้ลึกลับที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ จะมีฐานะสูงส่งถึงเพียงนี้ และที่สำคัญ... เขาคื
การเดินทางสู่ป่าต้องห้ามของแคว้นเยว่เริ่มต้นขึ้น เหม่ยหลิน หลี่เฟยหลง และหัวหน้าหมา พร้อมด้วยทหารนำทางสองสามนายจากแคว้นเยว่ ที่ดูท่าทางไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยป่าต้องห้ามแห่งนี้แตกต่างจากป่าที่พวกเขาเคยเข้าไปอย่างสิ้นเชิง มันเต็มไปด้วยพืชพรรณรูปร่างแปลกประหลาดที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน และมีสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักชื่อแฝงตัวอยู่ทั่วไป บรรยากาศของป่าเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอันตรายและความลึกลับ"ท่านแม่! ดูนั่นขอรับ!" หลี่เฟยหลงชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีผลไม้สีม่วงเข้มดูน่ากลัว"อย่าไปแตะต้องนะลูก" เหม่ยหลินเตือน "ผลไม้บางชนิดในป่าแห่งนี้มีพิษร้ายแรง"พวกเขาระมัดระวังทุกย่างก้าว โดยเฉพาะจากทหารนำทางของแคว้นเยว่ที่คอยจ้องมองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ราวกับรอโอกาสที่จะสร้างปัญหาในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางลึกเข้าไปในป่า จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับเงาร่างของ บุรุษลึกลับ ที่ปรากฏขึ้นจากพุ่มไม้ เขาสวมชุดคลุมสีดำปิดบังใบหน้า และมีท่าทางลับๆ ล่อๆ"ใครกันนั่น!" หลี่เฟยหลงตะโกน และชักดาบเตรียมพร้อมบุรุษลึกลับไม่ตอบ เขาเพียงแค่ชี้ไปที่ทหารนำทางของแคว้นเยว่ แล้วส่
ในวันรุ่งขึ้น องค์จักรพรรดิได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางผู้ใหญ่และแม่ทัพนายกอง เพื่อปรึกษาหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหม่ยหลินและหลี่เฟยหลงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุมด้วย เพื่อรับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด"ข้าไม่ยอมส่งตัวท่านแม่เจียงไปเด็ดขาด!" แม่ทัพใหญ่ผู้แข็งแกร่งกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน "ให้พวกเขามา! เราพร้อมที่จะรบ!"แต่ท่านราชครูจ้าวกลับมีความเห็นที่แตกต่างออกไป "การรบไม่ใช่ทางออกเสมอไป ท่านแม่ทัพใหญ่ หากเราหลีกเลี่ยงสงครามได้ ก็ควรจะหลีกเลี่ยง""แล้วท่านราชครูจะให้เราทำอย่างไร! ส่งตัวเชฟหลวงผู้ล้ำค่าของเราไปให้ศัตรูอย่างนั้นรึ!" แม่ทัพใหญ่ไม่พอใจในขณะที่การโต้เถียงดำเนินไปอย่างดุเดือด องค์จักรพรรดิก็ทรงยกพระหัตถ์ขึ้น เพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง"ข้าได้ตัดสินใจแล้ว" องค์จักรพรรดิมีราชโองการด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าจะส่งตัวท่านแม่เจียงไปยังแคว้นเยว่... แต่มีข้อแม้!"คำประกาศขององค์จักรพรรดิทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง เหม่ยหลินเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน"ฝ่าบาท!" ท่านราชครูจ้าวอุทานด้วยความตกใจ"ฟังข้าให้จบก่อน" องค์จักรพรรดิรับสั่ง "ข้าจะส่งท่า