เฉินมู่หยางกรอกยาเข้าปากตนเองก่อนจะจับจ้าวเฟยเฟยให้เงยหน้า มือหนากระชับท้ายทอยนางเอไว้ เขาแนบริมฝีปากลงมาป้อนยานางจากปากของตนเอง คนตัวเล็กนิ่วหย้าทันทีที่มีรสขมเข้ามาในปากก่อนจะพยายามลืมตาขึ้นมอง นางเห็นผู้ชายจูบนางอยู่จึงรวบนวมแรงผลักเขาออกไป
"ไอ้บ้า แกเป็นใครกล้าดียังไม่มาลวนลามฉัน อยากตายหรือ การ์ดไปไหน ร.ป.ภ.ไปไหนหมดให้ใครเข้ามากัน นางปีศาจแม่เลี้ยงฉันส่งไอ้หน้าหม้ออย่างแกมาใช่ไหม ไอ้แก่หัวงู ยามๆๆ แค่กๆๆ"
จ้าวเฟยเฟยจำไม่ได้ว่าตัวเองทะลุมิติมาแล้ว นางคิดว่าคนตรงหน้าคือผู้ชายที่แม่เลี้ยงส่งมาจึงด่าทออาละวาด เฉินมู่หยางงุนงงกับคำพูดนางก่อนจะจับไหล่บางเขย่า
"จ้าวเฟยเฟย อะไรคือการ์ด อะไรคือไอ้แก่หัวงู นางปีศาจคือใคร มารดาเลี้ยงของเจ้าเกี่ยวข้องอย่างไร"
ร่างบางพยายามที่จะประคองสติก่อนจะมองหน้าเขาอีกครั้งจึงนึกได้
"อ้อ ที่แท้ตาแก่เฉินนี่เอง ท่านมีอะไรหรือเปล่า อืมปวดหัวจัง หนาวๆมาก"
"กินยาก่อน โม่หวายอุตว่าห์ลุกมานั่งเฝ้าหม้อยาตอนที่ข้าเช็ดตัวให้เจ้า"
"ขมมากไม่ไหว"
"อย่าดื้อไม่เช่นนั้นข้าจะป้อนแบบเมื่อกี้อีก เจ้าชอบหรือไม่"
อึกๆๆๆ ไม่ทันที่จะจบประโยคจ้าวเฟยเฟยก็คว้าชามยาจากเขามาดื่มเองจนหมด นางมองหน้าเขามองหาน้ำ จ้าวเฟยเฟยทำท่าจะร้องไห้ ขมขนาดนี้ฆ่ากันเลยดีไหม เฉินมู่หยางอมยิ้มก่อนเดินไปหยิบกระบอกน้ำส่งให้นาง จ้าวเฟยเฟยรับมาดื่มก่อนจะเอ่ย
"แยกกระบอกน้ำนะเดี๋ยวลูกเผลอดื่มจะติดไข้ อื้อ ตาเฒ่าท่านทำอะไรเนี่ย"
เฉินมู่หยางกระเถิบมากอดนาง จ้าวเฟยเฟยตัวร้อนมากนักเขาต้องอยู่ใกล้เพื่อคอยดูก่อนจะเอ่ย
"เจ้าเอาแต่ร้องไห้แล้วก็บ่นหนาว มาเถอะข้ากอดเจ้าเองรับรองไม่ล่วงเกินหรอก เจ้าไม่ต่างกับกระดานถูผ้า มองตรองไหนก็ไร้อารมณ์ไม่ทำให้ข้าตบะแตกได้หรอกนอนเถอะ"
ฉินมู่หยางดูแคลนนางทั้งที่เมื่อยามสายเขาแทบแข็งเป็นหินตอนเห็นเรือนร่างในลำธารและเมื่อกี้ตอนเช็ดตัวให้นาง จ้าวเฟยเฟยไม่ต่อต้าน นางไม่ไหวแล้วเมื่อได้ยาไม่นานก็หลับไปก่อนจขะฝันถึงอดีต
วันนั้น จ้าวเหลียนเฟยเพิ่งกลับจากการไปไหว้หลุมศพของมารดา หลังจากเพิ่งเปิดพินัยกรรมซึ่งเธอเก็บไว้เงียบ ๆ มานานนับสิบปี
คุณแม่ของเธอจากไปตั้งแต่เธออายุสิบห้าหลังงานศพได้ไม่นาน พ่อของเธอก็นำผู้หญิงอีกคนเข้าบ้าน และไม่ใช่เพียงแค่นั้น พวกเขามีลูกด้วยกันอยู่ก่อนแล้ว เด็กหญิงที่ชื่อ "จ้าวซินซิน" ซึ่งอ่อนกว่าเธอแค่หกเดือน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม่เลี้ยงพยายามจับคู่ให้เธอ อยากให้เธอแต่งงานกับชายแก่เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ จ้าวเหลียนเฟยเงียบและไม่แสดงทีท่าใดๆ เธอรู้ว่าแม่ทำพินัยกรรมเอาไว้
เธอให้พวกเขาฉลองกับอย่างเอิกเกริงไปก่อน เมื่อขึ้นที่สูงมากๆ เวลาตกลงมามักจะเจ็บเจียนจนถึงวันที่ทนายครอบครัวเรียกเธอไปเปิดพินัยกรรมของมารดา
ในพินัยกรรมนั้น ระบุชัดว่า มารดาได้ยกทรัพย์สินทุกอย่าง บ้าน ที่ดิน หุ้น และโดยเฉพาะบริษัท ให้เธอเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว บริษัทที่พ่อของเธอครอบครองและบริหารมากว่าทศวรรษ ไม่เคยเป็นของเขาเลย
สิ่งแรกที่เธอทำ คือปลดจ้าวข่ายออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และแต่งตั้ง “หลิวฮ่าว” น้าชายของเธอซึ่งเป็นน้องแท้ๆ ของแม่ ให้เข้ามารับตำแหน่งแทน
วันนั้นเอง จ้าวข่ายก็บุกมาที่บริษัทด้วยโทสะที่เต็มเปี่ยม จ้าวข่ายใช้นิ้วที่อวบอ้วนชี้หน้าบุตรสาวก่อนจะด่าทอโดยไม่สนใจพนักงานหรือนักลงทุนคนอื่นๆ
"นังลูกเลว! แกมันชั่วเหมือนแม่แกไม่มีผิด เนรคุณถึงขั้นกล้าปลดฉันออกจากคณะกรรมการบริการงั้นหรือ"
แววตาเธอเยือกเย็น แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความผิดหวังเกินบรรยายกับท่าทีของคนที่เธอเรียกว่าพ่อ เขาสมควรเป็นพ่อคนจริงๆ หรือ จ้าวเหลียนเฟยย้อนคำพูดของจ้าวข่ายกลับไป
"เนรคุณหรือคะ? คุณจ้าว...คำนี้คุณไม่ควรเอามาใช้กับฉันด้วยซ้ำ แม่ของฉันลงทุนเปิดบริษัทนี้ให้คุณด้วยเงินของเธอทั้งหมด แต่สุดท้าย...คุณกับเหลียนซวงซวงกลับหักหลังเธอ ซุกความสัมพันธ์อันน่ารังเกียจไว้ใต้พรม แถมยังมีลูกนอกสมรสอีกคน ใครกันแน่ที่อกตัญญู?"
"แล้วยังไง!"
จ้าวข่ายตวาดลั่นไม่อายสายตาใคร ส่วนจ้าวซินซินนั้นเริ่มที่จะไม่กล้าสู้หน้าคนแล้ว
"แกมันใจแคบเหมือนแม่แกไม่มีผิด! ฉันกับซวงซวงรักกันมาก่อน ถ้าไม่มีแม่แก ฉันก็แต่งงานกับเธอไปแล้ว!"
เสียงฝีเท้าเร่งเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ พร้อมเสียงสูงเสียดหูของหลินซวงซวง
"ใช่! พ่อของเธอพูดถูก แม่ของเธอมันก็แค่ผู้หญิงมีเงิน แต่ไม่มีปัญญาหาผัวของตัวเองหรอก!"
ฝ่ามือของจ้าวเหลียนเฟยกระทบแก้มอีกฝ่ายสองครั้งติดจนหน้าหันก่อนจะเอ่ย
“คนเป็นแม่ก็เล่นชู้แย่งสามีชาวบ้าน คนเป็นลูกก็เล่นชู้กับคู่หมั้นพี่สาวจนท้องโต พวกเธอสองคนแม่ลุกนี่ควงไม่ต้องตรวจDNAก็รู้ว่าใช่สายพันธ์เดียวกัน”
“พี่…ทำไมพี่ถึงพูดจาให้ร้ายฉันกับพี่ถังชุนอย่างนั้นคะ เรื่องระหว่างพวกเรา...มันเป็นการเข้าใจผิด…”
เด็กทั้งสองเคี้ยวอาหารจนหมดปากจึงเอ่ยกับบิดา คู่แฝดเอ่ยชมอาหารที่จ้าวเฟยเฟยทำไม่ขาดปาก เฉินมู่หยางคิดว่าการค้าครั้งนี้เมียเขาคงได้แล้ว หากเป็นหลินอ้าวเขาเชื่อใจที่จะให้ติดต่อค้าขายกับภรรยามากกว่าคนอื่น บิดาที่รักบุตรเช่นนี้ไม่สนใจสตรีอื่นให้ปวดหัวแน่นอนเสียงด้านนอกมีคนมา ไม่นานสตรีใบหน้างดงามก็เดินมาหลังร้านก่อนจะเอ่ยเรียกหลินอ้าว"เถ้าแก่หลิน ข้านำมื้อเช้ามาฝากเด็กๆเจ้าค่ะ"เซียวฮวนฮวนเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานแก่หลินอ้าว เด็กทั้งคู่หันไปหานางก่อนจะลุกมาหาเรียกนางว่าท่านแม่"ท่านแม่มาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านแม่มาทานข้าวกับซินซินสิเจ้าคะ ท่านอามู่หยางนำของอร่อยมาให้ตั้งมากมาย"เซียวฮวนฮวนหน้าแดง หลินอ้าวสู่ขอนางเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นเขาก็บอกเด็กทั้งคู่ว่านางจะมาเป็นท่านแม่ เด็กๆดีใจที่จะมีท่านแม่ ยามใดที่เซียวฮวนฮวนมาหาจะดีใจกันมากนัก เฉินมู่หยางเอ่ยทักทายนางก่อน"คุณหนูเซียวพบกันอีกแล้ว""คุณชายเฉิน...ไม่เจอเสียนานเลยเชียวท่านสบายดีหรือไม่ ท่านพ่อมิได้ออกกองคาราวานแล้วข้าจึงไม่ได้พบท่านอีก""สบายดีขอรับ เราพบกันเมื่อหลายวันก่อนท่านคงจำข้าไม่ได้""เขาคือหลานชายเฉินหยวน
เฉินมู่หยางขับเกวียนมาจนถึงประตูเมืองเขาจ่ายค่าเข้าให้กับไป๋เซิงและบิดาก่อนจะนัดมาเจอกันอีกที เกวียนวัวผูกไว้ยังที่รับฝากจอด เฉินมู่หยางถือตะกร้าที่คลุมด้วยผ้าฝ้ายขาวสะอาดตา เดินไปทางร้านขายยาก่อนจะนำใบรายการสมุนไพรที่เมียเขียนให้มาส่งให้คนดูแลร้านพร้อมกับบอกรายละเอียด"หลงจู๊..รบกวนท่านจัดตามรายการนี้ อันไหนที่บอกให้บดเป็นผงก็รบกวนท่านช่วยบดให้ด้วย จัดเตรียมเรือบดยาให้ข้าสามอัน นี่เป็นเงินมัดจำ อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะกลับมาเอาขอรับ""เอ่อ..นายพรานเฉิน แม้ว่ายาเหล่านี้จะราคาไม่แพง แต่บางอย่างไม่สามารถใช้ด้วยกันได้นะ""ภรรยาของข้านางจะเอาไปดับกลิ่นคาวของเนื้อน่ะ ข้าเองก็ไม่รู้หรอก นางเป็นแม่บ้านนางเข้าครัวมากว่าข้าเสียอีกขอรับ""อ้อ..เช่นนั้นข้าจะจัดการให้ แต่อย่างละสิบชั่งนี่มันไม่เยอะเกินไปหรือ""ข้าเองก็ถามนางแล้ว นางบอกว่าไม่พอด้วยซ้ำท่านจัดการตามที่นางสั่งเถอะขอรับเดี๋ยวข้าไปธุระก่อน"จากนั้นเขาก็เดินไปทางตรอกของร้านขายของชำของเถ้าแก่หลิน ร้านตรงข้ามที่มีปัญหากันยังไม่เปิดร้าน แต่หบินอ้าวเปิดแล้ว ร่างสูงของหลินอ้าวกำลังจัดร้านเปิดแต่เช้าเชียว เฉินมู่หยางมาถึงก็เอ่
ถังจื่อหยวนอุ้มร่างบางเดินไปทางลำธารสายเล็กที่ทางด้านนั้นไม่มีใครเดินผ่านก่อนจะวางร่างบางลง ไป๋เหยียนรู้สึกว่าคนตรงน่าเวลานี้นากลัวยิ่งนัก นางพยายาออกจากอ้อมกอดของเขาแต่ถังจื่อหยวนกลับโอบเอวนางเอาไว้ มืออีกข้างจับปลายคางนางไม่ให้ดิ้นหนี ก่อนจะแนบริมฝีปากตนเองลงไปหา ไป๋เหยียนเม้มปากแน่น แต่เขามีวิธีให้นางยอมเปิดปาก"ต่อต้านหรือ เจ้าแน่ใจนะหากพี่ไป๋เซิงรู้ว่าครึ่งเดือนก่อนเจ้าเอาไป๋ฮวาไปเที่ยวแล้วยังพานางไปเล่นพนันกัดจิ้งหรีดอีกด้วย เจ้าว่าพี่ชายเจ้าจะว่าอย่างไรกัน แม่ตัวแสบ"ไป๋เหยียนตาโตเขารู้ได้อย่างไรกัน วันนั้นนางพาหลานสาวไปเที่ยวหมู่บ้านข้างเคียงเพราะตามท่านพ่อไปซื้อยาให้ท่านแม่ แค่แวะวงพนันแป๊บเดียวยังไม่ได้ลงเล่นเลย ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อย"ท่านต้องการอะไรถ้าไม่พูดเรื่องนี้""เปิดปากเจ้าออก อย่าต่อต้านทำได้ไหม"ไป๋เหยียนกลืนน้ำลายก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตาม ถังจื่อหยวนจูบนางอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวลิ้นเล็กควานหาความหวาน มือบางยกขึ้นโอบรอบท้ายทอยหน้า กลิ่นบุรุษเพศที่นางเพิ่งได้ใกล้ชิดเป็นครั้งแรกทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน กระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกมาสบตานางแล้วเอ่ย
จ้าวเฟยเฟยไปเก็บผลซานจามาทำถังหูหลู่แจกเด็กๆและชาวบ้าน หากอยากค้าขายต้องมีสินค้าทดลองก่อน ในยุคที่ไม่มีสื่อโซเชี่ยลปากต่อปากคือการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด เด็กๆต่างรู้ดีว่าเดินตามท่านป้าจ้าวย่อมมีของอร่อยให้กิน ไป๋ฮวารีบปล่อยมืออาหญิงทันทีที่เห็นหลินเฉินอี้ นางวิ่งมาหากางแขนให้อุ้ม"พี่เฉินอี้ อุ้มฮวาฮวาด้วยเจ้าค่ะ"เด็กหนุ่มก้มลงอุ้มแม่หนูน้อยขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้ ไป๋ฮวากอดคอเขาใบหน้าเล็กๆซุกซอกคอพี่ชายอย่างออดอ้อน หลินเฉินอี้อมยิ้มกับท่าทางของแม่ตัวเล็กที่เชื่องเหมือนลูกแมวตัวน้อย (ที่ในอนาคตนางจะเปลี่ยนจากลูกแมวน้อยเป็นแม่เสือหากนางบอกไปทางซ้ายเขาก็ไม่กล้าก้าวเท้าขวา) ส่วนเฉินผิงผิงมารดาอุ้มนางเองท่านอาไปเรียนหนังสือกับพี่ชายแล้ว ไม่นานก็ถึงบริเวณที่มีต้นซานจาขึ้นอยู่หลายต้น ทุกคนช่วยกันเก็บแต่จ้าวเฟยเฟยเอ่ยออกมาก่อน"วันนี้ที่มาเก็บข้าจะทำขนมให้พวกเจ้ากิน แต่ไม่ได้รับซื้อเหมือนลูกท้อเช่นคราวก่อนนะเข้าใจไหม""ขอรับท่านป้าจ้าว""เจ้าค่ะท่านป้าจ้าว"จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม"ใครเรียกป้าอีกวันนี้อดกินถังหูหลู่""ขอรับพี่สาว""เจ้าค่ะพี่สาว""น่าร้ากกก เอาล่
ปลายยามโหย่วแล้วเฉินมู่หยางอาบน้ำให้บุตรชายเรียบร้อยแล้ว ส่วนเฉินผิงผิงท่านแม่อาบให้ตั้งแต่ยามเซินจากนั้นก็ล้อมวงกันกินมื้อค่ำ เฉินโม่หวานกำลังคีบเห็ดโคนยำขึ้นมาก่อนมองมันแล้วก้มมองเป้ากางเกงของตัวเอง แล้วเขาก็วางลงไม่แตะมันเลย แต่เฉินผิงผิงกับเฉินเหว่ยต่างก็ไม่วางตะเกียบ กระทั่งใกล้หมดเจ้าตัวแสบอยากลองแต่กินได้สามคำก็ไม่มีแล้ว"ท่านแม่ เห็ดนี่เรียกเห็ดอะไรหรือขอรับ""เรียกว่าเห็ดโคนน่ะ อร่อยหรือไม่ เอาไว้ถ้าฝนตกแม่จะไปเก็บมาอีก""ลูกไปช่วยนะขอรับ มันอร่อยมากเหนียวๆหนึบๆเหมือนกินเนื้อไก่เลยขอรับ""ได้..ลูกรู้ไหมเห็ดมีประโยชน์มากนัก แม้ว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากว่าเนื้อสัตว์เสียอีก ในเมื่ออร่อยทำไมทีแรกลูกไม่ยอมกินเล่า"เด็กน้อยหน้าแดง แต่เฉินมู่หยางกลับคีบดอกใหญ่ที่สุดในจานขึ้นมาก่อนจะบอกนางว่า"พี่ไม่โกหกนะใหญ่กว่านี้หลายสิบเท่า พิสูจน์ได้นะเมียข้า""ท่านพี่เดี๋ยวเถอะ กินๆไปเลยนะไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้จะต้มผักป่าใส่เกลือให้ท่านกินแทนคนบ้า"เด็กๆ ไม่รู้ว่าท่านแม่เป็นอะไรได้แต่มองหน้ากัน ส่วนคนตัวโตหลังจากแหย่เมียสำเร็จก็เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ เมื่อมื้อค่ำเรียบร้อยเฉินม
เฉินมู่หยางอุ้มบุตรสาวเอาไว้ ชาวบ้านไปตามหลี่เจิ้งมาแล้ว พวกเขาอยากจัดการสามคนนี้แต่ก็ไม่อาจยื่นมือเพราะเป็นดองของเฉินมู่หยาง กระทั่งเฉินกั่วต้งมาถึงเห็นสภาพหัวแตกหน้าบวมของจ้าวคังกับจูไห่หรงก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย"นี่จ้าวคัง นางจู ตอนนั้นพวกเจ้ายกเสี่ยวเฟยให้กับมู่หยางพวกเจ้าลั่นวาจาว่าจากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก ห้ามนางกลับไปขอความช่วยเหลือใดๆ ห้ามนางเหยียบบ้านเดิม แล้วยามนี้พวกเจ้าทำไมพวกเจ้าเป็นฝ่ายผิดสัญญาเสียเล่า"ท่านผู้นำ ข้าเป็นพ่อมันนะ มันกล้าฟ้องร้องข้าเอาสมบัติมาหมด มันกะจะให้พวกเราอดตายมันยังเป็นคนหรือไม่""ใช่เจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว เงินที่เคยมีก็ถูกนางคนอกตัญญูนี่เอาไปหมด"สองผัวเมียชิงฟ้องเพื่อให้ชาวบ้านที่นี่รังเกียจและต้องการให้เฉินมู่หยางเห็นความเลวของนางจะได้ขอหย่า แต่กลับเป็นเสียงของเฉินมู่หยางที่ดังมาแทน"เดิมทีข้าอยากเรียกเจ้าว่าท่านพ่อตาสักหน่อย แต่ดูเหมือนเจ้าจะปฏิบัติกับเมียข้าเหมือนกับนางมิใช่สายเลือด เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจอีกแล้ว ต่อไปหากมาหาเรื่องเมียข้าอีกข้าจะทำให้เจ้าหายสาบสูญไปจากหมู่บ้านเถาฮวาเสีย จ้าวคัง จ