หม่าเทียนหลังจากรับร่างบุตรสาวมาถึงจวนแม่ทัพแล้ว เขาก็ให้คนยกโลงของนางเข้าไปที่ห้องโถงซึ่งบ่าวจัดเอาไว้เป็นห้องไว้อาลัยทันที ตอนนี้ฮูหยินหม่าได้แต่ต้องกลั้นความเสียใจเอาไว้และมายืนรอพร้อมหม่าเหว่ยเพื่อดูว่าบ่าวตั้งโลงของบุตรสาวนางอย่างไร ทั้งที่น้ำตาของนางยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ไม่ได้มีเสียงสะอึกสะอื้นเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ต่างจากหม่าเหว่ยที่ยังคงทำใจไม่ได้เช่นกัน เขาเองก็คอยปาดน้ำตาไม่ให้ท่านพ่อเป็นห่วงไปมากกว่านี้ ใช่ว่าท่านพ่อจะไม่เสียใจเช่นพวกเขา แต่ท่านพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว ท่านจึงได้แต่เก็บกลั้นความเสียใจเอาไว้ภายในได้เท่านั้น
ข่าวการตายของหม่าหลันดังไปทั่วเมืองหลวงเมื่อมีคนเห็นว่าแม่ทัพหม่าเดินทางไปรับศพของนางที่จวนเสนาบดีหวัง ทำให้ชาวเมืองต่างลือกันว่าบุตรชายคนโตของเสนาบดีหวังเป็นผู้ชายกินเมีย ทั้งที่เพิ่งจัดพิธีแต่งงานเมื่อวานแท้ ๆ วันต่อมากลับต้องมาจัดงานศพแทนเสียนี่ หลังจากนี้คงไม่มีใครกล้าแต่งกับเขาอีกเป็นแน่ เสิ่นหลิงที่ได้ทราบข่าวจากบ่าวคนสนิทยิ่งพอใจมากขึ้นเมื่อทราบเรื่อง นางรอให้ถึงหลังงานศพของหม่าหลันจบลงเสียก่อน จึงจะบอกข่าวดีให้กับท่านแม่และสามีทราบว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะมีทายาท ถึงแม้จะเพิ่งผ่านการสูญเสียไปไม่นานก็ตามที นางยังคงคาดหวังในตำแหน่งฮูหยินน้อยของจวนเสนาบดีหวังอยู่ไม่คลาย
พิธีไว้อาลัยที่จวนแม่ทัพหม่าจัดขึ้นเป็นเวลาสามวัน ตลอดสามวันมานี้คนจากจวนเสนาบดีล้วนแต่มาเข้าร่วมพิธีไม่ได้ขาดจนกระทั่งเสร็จสิ้นงานไว้อาลัยในวันนี้ ครอบครัวหม่าต่างขอบคุณแขกเหรื่อที่มากันไม่น้อยในวันสุดท้าย พรุ่งนี้พวกเขาจะนำร่างของหม่าหลันไปฝังยังสุสานตระกูลหม่าที่อยู่นอกเมืองหลวงในช่วงสายของวันตามธรรมเนียม
เหล่าขุนนางอีกฝ่ายที่เป็นปรปักษ์กับเสนาบดีหวังและแม่ทัพหม่าต่างพอใจไม่น้อยที่พวกเขาไม่ต้องลงมือเองก็มีคนช่วยทำให้ทั้งสองตระกูลแตกหักกันอย่างไม่คาดคิด กลุ่มของพวกเขาได้แต่ขอบคุณคนร้ายที่จัดการเรื่องราวเหล่านี้แทน ถึงแม้ต่อหน้าแม่ทัพหม่าและเสนาบดีหวัง พวกเขาจะแสร้งทำเป็นเศร้าเสียใจแทนอยู่ก็ตามที แต่ใครจะไม่รู้กันเล่าว่าในใจพวกเขาแอบยิ้มอย่างสมใจ
สายของวันต่อมา ตระกูลหม่าพร้อมบ่าวไพร่ต่างเคลื่อนขบวนเพื่อนำร่างของหม่าหลันไปฝังยังสุสานนอกเมือง พวกเขาทำพิธีกรรมตามธรรมเนียมไปตลอดทางตั้งแต่ออกจากจวนจนกระทั่งไปถึงสุสาน ตอนนี้ฮูหยินหม่ากับบุตรชายเริ่มที่จะทำใจกันได้มากขึ้นแล้ว ส่วนหม่าเทียนนั้นยังคงไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยดต่อหน้าผู้คน เขาได้แต่แอบร้องไห้ในยามดึกสงัดหลังจากฮูหยินหลับไปแล้วเท่านั้น ด้วยว่าตนเองไม่อยากให้ฮูหยินและบุตรชายเป็นกังวล เขาจึงต้องทำเช่นนี้
พิธีฝังศพเป็นไปอย่างเรียบร้อยตามธรรมเนียม ก่อนที่ทุกคนจากจวนตระกูลหม่าจะเดินทางกลับไปที่จวนพร้อมกัน เหล่าชาวเมืองที่เคยอิจฉาเสนาบดีหวังที่ได้ลูกสะใภ้จากจวนแม่ทัพหม่าต่างเห็นใจตระกูลหม่าไม่น้อยที่ต้องสูญเสียบุตรีเพียงคนเดียวไป ส่วนจวนเสนาบดีหวังนั้นพวกเขาไม่คิดว่าคนเหล่านั้นจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้สะใภ้จวนแม่ทัพเสียมากกว่า ใครไม่รู้กันบ้างเล่าว่าเสนาบดีหวังเห็นแก่หน้าตาและตำแหน่งตนเองมากเพียงใด ครั้งนี้พวกเขาสูญเสียความเชื่อถือไม่น้อยที่มีคนตายภายในจวนระหว่างงานแต่งงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
เสิ่นหลิงที่บอกข่าวดีกับแม่สามีเมื่อสามวันก่อนนึกกระหยิ่มในใจว่าตนเองจะต้องได้รับตำแหน่งฮูหยินน้อยเป็นแน่ แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเสนาบดีหวังต้องการให้นางเป็นเพียงอนุ ทำให้เสิ่นหลิงเจ็บแค้นใจที่อุตส่าห์วางแผนมาอย่างดีแต่ก็ยังคงไม่สมหวังเพราะพ่อสามีนาง
กำหนดการรับอนุเข้าจวนจึงเป็นวันนี้ซึ่งข่าวได้แพร่กระจายออกไปจากความตั้งใจของเสิ่นหลิงที่อย่างน้อยนางก็ยังได้เป็นเมียคนแรกของสามี ถึงแม้จะยังไม่สามารถไต่เต้าขึ้นไปยังตำแหน่งฮูหยินน้อยได้ก็ตาม นางหวังว่าบุตรที่กำลังท้องอยู่จะเป็นชาย เมื่อนั้นนางจะร้องขอตำแหน่งฮูหยินน้อยกับสามีที่ตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะออกจากจวน ด้วยเขาถูกตราหน้าว่าผู้ชายกินเมียเข้าเสียแล้ว
ข่าวจากจวนเสนาบดีเข้าหูตระกูลหม่าในเวลาไม่นาน หม่าเทียนกับครอบครัวได้แต่มานั่งคุยกันที่ห้องโถงรับแขกอย่างสงสัยใจ ทั้งที่บุตรีของพวกเขาเพิ่งฝังได้เพียง 7 วัน แต่จวนเสนาบดีหวังกลับมีงานมงคลใหม่เสียแล้ว หม่าเทียนให้คนเข้าไปสืบจนได้ความว่าอนุผู้นั้นท้องได้สามเดือนแล้ว
“ท่านพ่อคิดเหมือนข้าไหมขอรับว่าเรื่องนี้มันแปลก ๆ”
“อืม… พ่อคิดว่าหากเป็นอย่างที่เราคิดจริง ๆ อนุคนใหม่นี้น่าจะเป็นคนร้ายที่ลงมือกับพี่สาวของเจ้า”
“จริงหรือเจ้าคะท่านพี่ นางจะกล้ามากถึงขั้นนั้นเชียว?”
“ฮึ! เหตุใดจะไม่กล้าเล่าน้องหญิง ตำแหน่งฮูหยินน้อยในจวนเสนาบดีหวังไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากเป็นนางที่ลงมือจริง ข้าจะให้นางต้องสำนึกเสียใจไปจนตาย” หม่าเทียนมีสายตาแข็งกร้าวขึ้นมาเมื่อคิดถึงว่าตนเองต้องเสียบุตรสาวสุดที่รักไป
“แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรขอรับว่าเป็นนางที่ลงมือ”
“เรื่องนี้พวกเจ้าวางใจได้ พ่อจะให้คนของจวนเราแอบลักลอบเข้าไปยังจวนเสนาบดีหวังและคอยติดตามดูนางจนกว่าเราจะได้หลักฐาน จากนั้นค่อยจัดการทีหลังก็ยังไม่สาย เพราะอย่างไรหม่าหลันก็ไม่อาจฟื้นคืน ตอนนี้เราทำได้เพียงรอให้นางลงมืออีกครั้งเท่านั้นเอง”
ฮูหยินหม่ากับหม่าเหว่ยหันมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้ารับคำหม่าเทียนพร้อมกัน พวกเขาคงทำได้เพียงรอจริง ๆ อย่างไรคนร้ายจะต้องลงมืออีกแน่ในเมื่อนางเป็นได้เพียงแค่อนุทั้งที่กำลังท้องทายาทของจวนเสนาบดีหวังอยู่แท้ ๆ
เสนาบดีหวังใช่ว่าจะไม่สงสัยดังเช่นแม่ทัพหม่า เพียงแต่เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเสิ่นหลิงที่ท่าทางเรียบร้อยอ่อนหวานจะกล้าลงมืออย่างอำมหิตเช่นนี้จริง ๆ อีกทั้งตอนนี้นางกำลังมีทายาทให้จวนของเขา เสนาบดีหวังจะรอให้นางคลอดบุตรเสียก่อนค่อยสืบสาวราวเรื่องอีกครั้ง หากเป็นนางที่วางยาหม่าหลันจริง แน่นอนว่าเขาจะต้องมีคำตอบให้กับแม่ทัพหม่าและนำตัวนางไปลงโทษ ส่วนบุตรที่เกิดมานั้นเขาสามารถหาฮูหยินคนใหม่ให้บุตรชายได้ไม่ยากนัก
เสนาบดีหวังแอบส่งคนไปแจ้งแม่ทัพหม่าก่อนแล้วว่าเขาจะจับตามองเสิ่นหลิงให้ดีก่อนที่นางจะคลอดเด็กในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขอให้แม่ทัพหม่าวางใจว่าเขาจะต้องนำความยุติธรรมมาให้กับบุตรสาวของแม่ทัพหม่าอย่างแน่นอน เรื่องนี้จึงทำให้แม่ทัพหม่าเห็นถึงความจริงใจของเสนาบดีหวัง ซึ่งคนของเสนาบดีหวังขอร้องเพียงว่ารอให้นางคลอดบุตรก่อน เพราะพวกเขาไม่อยากให้เด็กที่บริสุทธิ์ต้องมาตายไปร่วมกับแม่ที่เลวร้ายเช่นนี้
แม่ทัพหม่าได้แต่ต้องตอบตกลงอย่างจนใจ อย่างไรตอนนี้คนของเขาก็แฝงตัวเข้าไปที่จวนเสนาบดีหวังได้แล้ว ถึงแม้จะยังลงมือไม่ได้ ก่อนที่อนุผู้นั้นจะคลอดบุตรออกมา อย่างน้อยคนของเขาก็สามารถเก็บหลักฐานเอาไว้รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมได้เช่นเดียวกัน
หลังจากคนของเสนาบดีหวังจากไป แม่ทัพหม่ากับครอบครัวต่างคุยกันเรื่องนี้ว่าทุกคนต่างทำได้แค่รอเท่านั้น หากเป็นนางลงมือจริง ๆ แผนการของเสนาบดีหวังที่คิดจะรับฮูหยินน้อยคนใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นางจะต้องลงมืออีกครั้งเป็นแน่ ซึ่งคราวนี้เสนาบดีหวังสั่งคนให้คอยเฝ้าจับตาดูนางเอาไว้แล้ว ถึงแม้แม่ทัพหม่าจะไม่ค่อยพอใจกับแผนการนี้สักเท่าไหร่ แต่เพื่อจับคนร้ายตัวจริงให้ได้ เขาเองก็ต้องยอมรับแผนการนี้และรอดูเช่นกัน
“อ่า เป็นนายหญิงหวังนี่เอง พวกเราขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ เดี๋ยวพวกผมต้องขอตัวไปดูแลญาติผู้ใหญ่ต่อก่อนนะครับ”“ขอบคุณมากครับ เด็ก ๆ บอกลาคุณลุง คุณป้าก่อนลูก”“สวัสดีฮับ/สวัสดีค่ะ คุณลุง คุณป้า”สามจอมซนของตระกูลหวังส่งเสียงดังอย่างร่าเริงไปยังพวกเขา ทำเอาสามีภรรยาตระกูลอ้ายเอ็นดูพวกเขาไม่น้อย ระหว่างเดินกลับไปยังกลุ่มญาติของตัวเอง พวกเขายังคุยกันว่าหวังจุนเหยาเปลี่ยนไปมากตั้งแต่มีภรรยา เขาไม่ได้น่ากลัวเหมือนสมัยก่อนที่ได้ชื่อว่าราชาปีศาจในเรื่องธุรกิจอีก การทำธุรกิจของเขาช่วงหลังมานี้ก็ไม่ได้กดดันกลุ่มบริษัทเล็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อน ทำให้มีเด็กรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นทำธุรกิจสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงปัจจุบัน หากเป็นเมื่อก่อนนั้น ตระกูลหวังจะผูกขาดธุรกิจแทบทุกด้านมาตลอด นี่จึงถือเป็นเรื่องดี ๆ ที่นักธุรกิจจำนวนมากต่างก็ขอบคุณความเมตตาจากตระกูลหวังหวังเหลียนออกมาอีกครั้งหลังจากรับใบประกาศแล้ว เธอชวนเพื่อนสนิททั้งสองพร้อมกับญาต
หลังจากนัดหมายวันออกเดินทางกันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนที่ต้องการไปเยี่ยมตระกูลหม่าบนเขาต่างจัดเตรียมข้าวของก่อนถึงวันเดินทาง หวังเหลียนให้พี่เลี้ยงเตรียมของลูก ๆ เอาไว้ให้เธอ ครั้งนี้เธอจะไม่พาพี่เลี้ยงไปด้วย เพราะกำหนดการไปครั้งนี้จะไปกันเพียงแค่ไม่กี่วัน หากไปนานเกินไป งานของหวังจุนเหยาอาจจะมีปัญหาได้สัปดาห์ต่อมา กลุ่มคนตระกูลหม่าพร้อมด้วยหวังจุนเหยา หวังเหลียน หวังจื่อฮุย หวังจื่อจินและหวังจื่อหลินต่างเดินทางขึ้นเขากันอย่างไม่ลำบาก เด็ก ๆ ทั้งสามมีหม่าว่านหลง หม่าหยูเม่ยและหม่าเฉียงเจ๋อที่รับอาสาอุ้มตั้งแต่ลงจากรถที่ตีนเขา หวังจุนเหยาเห็นทุกคนอยากอุ้มจึงไม่ได้คัดค้านอะไร เขาทำเพียงจูงมือหวังเหลียนและใช้วิชาตัวเบาเดินทางติดตามหลังไปเท่านั้น สัมภาระต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายนัก โดยผู้คุ้มกันของตระกูลหม่าเป็นคนยกสัมภาระทั้งหมดกลุ่มของพวกเขาใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงครึ่งจึงถึงยอดเขาที่มีจวนของตระกูลหม่าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ หวังเหลียนมองไปเห็นจวนที่คุ้นตาก็คิดย้อนกลับไปยังภพชาติก่อนในทันใด เธอถึงกั
หวังเหลียนที่ไม่ทราบเรื่องว่าที่บริษัทสามีงอแงมากแค่ไหน ช่วงนี้อาการของเธอหายดีแล้ว หวังเหลียนยังใช้เวลาว่างสอนวิชาต่าง ๆ ให้กับบอดี้การ์ดและคนของตระกูลหม่าเหมือนเดิม อีกทั้งเธอยังเขียนตำราวิชาฝ่ามือ วิชากระบี่และวิชารวบรวมลมปราณเพื่อให้ครอบครัวของเธอนำไปสั่งสอนคนในตระกูลต่อไปเจ็ดเดือนต่อมากิจวัตรประจำวันของหวังเหลียนระหว่างรอคลอดไม่ได้น่าเบื่อมากนัก บางวันเธอก็ไปนั่งเล่นที่บริษัทกับสามีเวลาที่เขางอแง ทำให้ทุกคนในบริษัทต่างอยากให้นายหญิงมาที่บริษัททุกวัน ไม่อย่างนั้นท่านประธานของพวกเขาจะต้องหงุดหงิดและอาละวาดไม่เว้นแต่ละวันเป็นแน่ เรื่องนี้หวังเหลียนรู้จากหลินซินที่แอบกระซิบบอกเธอถึงพฤติกรรมสามีเวลาที่เธอไม่มาด้วย พนักงานคนอื่น ๆ เองก็ขอร้องเธอเช่นเดียวกันว่าให้มาบ่อย ๆ ตอนนี้หวังจื่อฮุยอายุหนึ่งขวบแล้ว หวังเหลียนจึงพาเขามาด้วยเพื่อดูว่าพ่อของเขาต้องทำงานหนักแค่ไหน ถึงแม้ลูกชายเธอจะอายุยังน้อย แต่เขากลับรู้ความเป็นอย่างมากวันนี้ก็เช่นเดียวกัน หวังเหลียนพาลูกชาย
ด้านหลินซินที่ได้รับคำสั่งมาก็จัดกำลังผู้ช่วยของเขาให้แยกตัวไปเล่นงานตระกูลไป่ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดทันที เขาสั่งการให้ตัดความสัมพันธ์ในทุกบริษัทและยังขึ้นแบล็คลิสต์ตระกูลไป่ด้วย ก่อนที่จะทำให้ราคาหุ้นของตระกูลไป่ตกต่ำแล้วกว้านซื้อหุ้นไปจนหมดภายในเวลาแค่สามวันตระกูลอื่นต่างงงงวยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลไป่ แม้แต่ไป่เจิ้งหนานก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด ทำไมตระกูลหวังจึงเล่นงานเขาเช่นนี้ กว่าที่ไป่เจิ้งหนานจะรู้ความจริงก็เป็นตอนที่ลูกสาวถูกตำรวจจับข้อหาจ้างวานฆ่านายหญิงตระกูลหวัง ไป่จินซิงไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวเธอจะกล้าทำแบบนี้ เธอร้องไห้ขอให้สามีช่วยลูกสาวของเธอ แต่กลับถูกเขาด่ากลับมาอย่างไม่ไว้หน้า“หุบปาก! คุณยังกล้าให้ผมช่วยเด็กสารเลวนั่นอีกเหรอ? คุณรู้ไหมว่าตอนนี้บริษัทกำลังจะล้มละลายแล้ว แถมหุ้นทั้งหมดในตลาดก็ถูกเทขายในราคาต่ำ เป็นเพราะลูกสาวคุณนั่นแหละที่กล้าทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้จนกระทบมาถึงผมน่ะ”“ฮือ… แต่ไป่หลิงเป็นลูกสาวของเรานะคะ”
หวังจุนเหยาเห็นเลือดหวังเหลียนออกเยอะก็ยิ่งกังวล เขาจูบหน้าผากเธอเพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่จะเอ่ยปลอบไปตามทาง“ที่รัก อดทนหน่อยนะครับ อีกไม่นานก็ถึง รพ. แล้ว”“อืม… ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แค่ง่วงนอน”“คุณอย่านอนนะที่รัก อย่าทำให้ผมเป็นห่วงสิ”หวังจุนเหยาคอยคุยกับหวังเหลียนเพื่อไม่ให้เธอหลับ เขากลัวว่าบาดแผลจะร้ายแรงจนเธอทนไม่ไหว แถมตอนนี้เธอยังกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ความกังวลของเขาจึงยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัวที่ รพ.S หมอกับพยาบาลเตรียมพร้อมรับคนไข้ฉุกเฉินที่คนของหวังจุนเหยาโทรบอกล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อรถของหวังจุนเหยาหยุดนิ่ง เขาก็อุ้มหวังเหลียนขึ้นเตียงที่พยาบาลกับหมอรออยู่ทันทีหวังจุนเหยาวิ่งตามเตียงของหวังเหลียนไปด้านหลัง ก่อนที่จะถูกกันไม่ให้เข้าไปในห้องผ่าตัด หวังเหลียนเห็นสายตาเป็นห่วงของสามีก็ได้แต่ถอนหายใจ ความจริงเธอคิดว่าตัวเองไม่น่าจะเป
เมื่อไปถึงสวนสนุกขนาดใหญ่ของเมืองหลวงแล้ว ทั้งห้าคนก็ซื้อบัตรรวมเครื่องเล่นเพื่อความสะดวก พวกเขาต่างเล่นเครื่องเล่นไล่ไปทีละอย่างอย่างสนุกสนาน ถึงแม้หวังเหลียนจะไม่มีสามีมาด้วย แต่เพราะความแปลกใหม่ของสวนสนุกในภพชาตินี้ ทำให้เธอลืมแม้กระทั่งสามีตัวเองไปเลยนักฆ่ายังคงติดตามกลุ่มของหวังเหลียนอยู่ห่าง ๆ พวกเขากระจายกำลังกันเพื่อหาจังหวะที่หวังเหลียนอยู่คนเดียว แต่น่าเสียดายที่แม้กระทั่งการไปห้องน้ำ เพื่อนทั้งสองของเธอก็ตามไปด้วยพร้อมบอดี้การ์ด ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสลงมือเสียทีทั้งห้าคนยังคงเที่ยวสวนสนุกกันจนกระทั่งถึงช่วงเย็น ก่อนที่หวังจุนเหยาที่ทนคิดถึงภรรยาไม่ไหวจะโทรไปตามเธอให้กลับบ้าน หวังเหลียนซึ่งเล่นสนุกมาตลอดทั้งวันเริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน เธอจึงชวนทุกคนกลับก่อนที่จะค่ำไปมากกว่านี้เหล่านักฆ่าเห็นว่าพวกเขากำลังจะเดินทางกลับจึงติดตามไปห่าง ๆ หวังเหลียนที่ง่วงนอนหลังจากกินอาหารเย็นพร้อมเพื่อน ๆ หลับไประหว่างทางไปส่งจางเหยากับหลี่ซิน ทั้งสองรู้ว่าเพื่อนกำลังท้องอยู่จึงไม่อยากป