ณ บริษัทฯผลิตรายการโทรทัศน์วิทยุยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกับวงการบันเทิง รวมไปถึงสื่อและโฆษณาต่างๆ มีประธานบริษัทฯอย่าง นพคุณ อัศวโสภณ เป็นผู้บริหาร และ นรวิชญ์ อัครโยธินนารัตน์ เป็นหุ้นส่วนและรองประธานบริษัทฯ
พัสกร เหมพิวัฒน์ หรือ พัด หลานชายเพียงคนเดียวของนพคุณ หนุ่มโสดวัย 30 ปี และเป็นผู้จัดการดารา ซึ่งตอนนี้ดูแลระดับซุปตาร์ตัวท็อปอยู่อย่าง ปุยเมฆ ณัฐวิชญ์ และ ชีโน่ ชิษณุพงศ์ ซึ่งปุยเมฆที่พึ่งจะเข้าพิธีวิวาห์ไปหมาด ๆ ขอออกมาทำงานด้านเบื้องหลังแทน และช่วยงานบริหารของบริษัทช่วยงานพ่อตา เพราะภรรยากำลังตั้งครรภ์อยู่ตอนนี้
“ปุยนุ่น” นิรชา อัครโยธินนารัตน์ หญิงสาววัย 27 ปี ที่ทุกคนรู้จักเมื่อไม่นานมานี้ ในฐานะพี่สาวของซุปตาร์หนุ่มปุยเมฆ และเป็นบุตรสาวของอดีตซุปตาร์ ไปร์ นรวิชญ์ และ ณัฐณิชา อัครโยธินนารัตน์ ตอนนี้เข้ามาเรียนรู้งาน และพึ่งจะได้เป็นพนักงานเต็มตัวไปได้ เมื่อไม่นานมานี้ จากการสอนงานของพัสกรนั้นเอง
“พี่พัดค่ะ...ตั้งแต่ข้าวกับพี่เมฆ ย้ายมาอยู่ที่บ้านกับพ่อนพ พี่พัดก็ไม่ค่อยจะกลับมานอนที่บ้านเลยน่ะค่ะ ข้าวน้อยใจน่ะค่ะ” ต้นข้าวถามขึ้น เมื่อเห็นว่าตั้งแต่ที่เธอแต่งงาน และย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของนพคุณ พี่พัด ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายของเธอก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่อีกเลย
“ก็เมื่อก่อนไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนคุณลุงนี้ครับ แต่ตอนนี้ คุณลุงท่านมีลูกสาวที่น่ารักและลูกเขยมาอยู่เป็นเพื่อนแล้วไง แถมจะมีเจ้าตัวน้อยออกมาวิ่งเล่น ให้ท่านอีก” พัสกรเอ่ยเสียงหวานกับหญิงสาว พร้อมกับลูบผมเธอเบาๆ
“พี่พัด กลับมาอยู่กับพวกเราไม่ได้เหรอค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ้อน
“มาอ้อนอะไรพี่พัดอีกครับ หืม” ปุยเมฆเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของพัสกร เมื่อเห็นว่าภรรยาหรือต้นข้าว เดินมาหาพี่ชายนานแล้วไม่ยอกลับไปสักที
“นายมาก็ดีแล้วเมฆ พาเมียนายออกไปเลย อ้อนเป็นเด็กอยู่ได้ จะเป็นแม่คนอยู่แล้วน่ะ” พัสกรเอ่ยบอกชายหนุ่ม
“พี่พัดไม่รักพ่อนพ ไม่รักข้าวแล้วหรือค่าา” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ้อน
“ต้นข้าวครับ...หนูฟังพี่น่ะ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักข้าว ไม่รักลุงนพน่ะ พี่แค่อยากใช้ชีวิตในแบบของพี่ดูบ้าง เดี๋ยววันไหนพี่เบื่อๆ พี่จะไปหาน้องสาวพี่น่ะครับ” พัสกรเอ่ยบอกเสียงนุ่ม
“ปล่อยพี่พัดเขาให้เป็นอิสระบ้างเถอะน่ะอ้วน เดี๋ยวพี่เขาจะขึ้นคานเอาน่ะ ดูสิอายุจนปูนนี้แล้ว” ปุยเมฆเอ่ยบอกกับต้นข้าวแล้วหันมาแซวทางพัสกร
“ไอ้น้องเขยห่านี้...เดี๋ยวเถอะ” พัสกรก้นด่า พร้อมกับกำลังจะยกเท้าขึ้น
“พี่จะทำอะไรสามีข้าวค่ะ ข้าวสู้พี่น่ะ” แต่หญิงสาวหันหน้ามาเห็นเสียก่อน จึงยกแขนตั้งการ์ดขึ้นพร้อมสู้
“พอๆกันเลย ทั้งผัวทั้งเมีย ออกไปกันได้แล้ว พี่จะทำงานครับ” พัสกรเอ่ยออกมาแล้วบอกให้ทั้งคู่ออกจากห้องไป
“ไปครับอ้วน อย่าลืมสิครับ ว่าตัวเองท้องอยู่น่ะ จะมายกแขนยกขาอะไรใส่พี่เขา” ปุยเมฆหันมาบอกกับหญิงสาวข้างกาย
“ค่ะ”
“อ้อ...พี่พัด นุ่นติดต่อมาหาพี่บ้างหรือเปล่า วันนี้ก็ไม่เห็นมาทำงานเลย” ท้าวยาวกำลังจะก้าวออกจากห้อง แต่พอนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันหลังกลับมาถามพัสกรอีกครั้ง
“พี่สาวนาย แต่นายมาถามกับพี่เนี้ยะน่ะ” พัสกรถามกลับต่อทันที ที่ชายหนุ่มมาถาหาพี่สาวตนกับเขา
“อ่าว...ก็ปกติ พี่ก็ตัวกันตลอดนี้ ผมก็คิดว่าพี่รู้เสียอีก” ปุยเมฆเริ่มสงสัยในตัวพี่สาวขึ้นมา เพราะพี่สาวตนไม่เคยหายเงียบไปแบบไม่มีเหตุผล และติดต่อไม่ได้แบบนี้
เพราะตั้งแต่ที่งานแต่งของปุยเมฆกับต้นข้าว ปุยนุ่นพี่สาวของเขา ก็ขาดการติดต่อไปเลย บอกกับทางครอบครัวเพียงแค่ว่าจะไปพักผ่อนระยะ แต่ระยะนี้ไม่รู้ว่านานแค่ไหน สำหรับปุยนุ่น
“พี่ก็พยายามติดต่ออยู่น่ะ” พัสกรเอ่ยตอบ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ติดต่อหญิงสาว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาจะติดต่อจากทางไหน เพราะหญิงสาวบล็อคเขาไว้ทุกช่องทาง
“พี่ทำอะไร ให้ปุยนุ่นโกรธหรือเปล่าพี่พัด” ปุยเมฆหันมาจ้องสบตาเอาคำตอบจากพัสกรทันที
“อะไร พี่จะทำอะไรพี่สาวนายได้” พัสกรอึกอักไม่กล้าสบตากับปุยเมฆ
“ไม่รู้แหล่ะ ผมเตือนพี่ก่อนไว้เลย ถึงพี่สองคนจะเป็นพี่ที่ผมนับถือมากก็ตาม แต่วันไหนที่พี่ทำอะไรให้นุ่นเสียใจ หรืออะไรก็ตามแต่ ผมจะจัดการพี่เป็นคนเเรกเลย” ปุยเมฆพูดอย่างมุ่งมั่นพร้อมกับสบตาเพื่อให้ดูอย่างจริงจัง ในคำพูดของเขา
“ไอ้เมฆ ฉันเป็นพี่เมียนายน่ะ” พัสกรรีบหลบสายตา และเอ่ยขึ้นเสียงดัง
“พี่เมียผมก็ไม่เว้นครับ”
“ไปเถอะค่ะ...” เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มยาว ต้นข้าวจึงเอ่ยชวนปุยเมฆออกไปทันที
เมื่อทั้งคู่ออกจากห้องไปแล้ว พัสกรนั่งลงกับที่ทันที แล้วนึกอะไรในใจสักพัก พร้อมกับหยิบมือถือขึ้น กดต่อสายหาหญิงสาวอีกที แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
“เธอไปไหนกัน...ปุยนุ่น โกรธพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” พัสกรพูดออกมาคนเดียว เมื่อคิดถึงเรื่องคืนนั้นขึ้นมา
ติ๊ง!
เสียงการแจ้งเตือนข้อความโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มขึ้น มือหนารีบกดเปิดดูทันที เป็นอันต้องเปิดตากว้างขึ้น และรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที พร้อมกับต่อสายหาคนที่ส่งข้อความมาเมื่อสักครู่ทันที
“นายอยู่ที่ไหน ทำไมถึงมีรูปเธอ?” เสียงเข้มเอ่ยถามทันที ที่ปลายสายกดรับ
(ผมบังเอิญเจอน่ะพี่พัด พอดีว่าผมตั้งใจจะมาเที่ยว แต่ก็เจอเธออยู่ที่นี้เข้า กับกลุ่มเพื่อนๆของเธอ ดูเหมือนเธอจะมีความสุขดีน่ะ) เสียงปลายสายตอบกลับมา
“เพื่อน! ผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วตอนนี้นายอยู่ที่ไหน” เสียงเข้มรีบถามกลับอีกที
(ก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายแหล่ะพี่ ตอนนี้ผมที่... พี่ก็รีบมาน่ะ) ปลายสายรีบตอบมา
“อื้ม...ขอบใจนายมากโน่ เดี๋ยวพี่จะรีบไป ขอบใจนายมากน่ะ”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
“ยัยตัวแสบ...ที่แท้ก็แอบหนีไปเที่ยว แถมใส่ชุดว่ายน้ำโชว์เนื้อหนังอีกน่ะ คอยดูเถอะเจอตัวเมื่อไหร่ พี่จะจับกดเสียให้เข็ด”
มือหนารีบวางสายลง แล้วพูดออกมาอย่างเลือดขึ้นหน้า เพราะรูปที่ปลายสายส่งมาให้ดูเมื่อสักครู่เป็นภาพของหญิงสาวที่ใส่ชุดว่ายน้ำ โชว์วาบหวิวนั้นเอง พัสกรรีบคว้ากุญแจรถ แล้วเดินออกจากห้องทำงานไปอย่างรีบร้อนทันที โดยไม่สนใจ คนที่บริษัทเอ่ยปากถามใดๆเลย
บทส่งท้าย(ตอบจบ)สามเดือนต่อมาวันนี้ครบกำหนดที่เจ้าแฝดจะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ชีโร่พาภรรยาสุดสวยมานอนรอทำการผ่าคลอด เพราะหญิงสาวมีความเสี่ยงในหลายๆอย่าง หมอจึงลงความเห็นให้ใช้วิธีคลอดแบบผ่าเอา“ตื่นเต้นไหมครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับไม่ยอมอยู่ห่าง และละมือออกจากมือของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เมื่อทั้งคู่อยู่ในห้องที่อลินนอนรออยู่บนเตียงแล้ว“...” อลินได้แต่พยักหน้ารับ โดยไม่ได้ตอบอะไร“ไม่ต้องกลัวน่ะ เค้าจะอยู่กับลิน และรอดูลูกออกมาพร้อมๆกันกับลินครับ” เสียงนุ่มเอ่ยปลอบพร้อมกับลูบศรีษะเธอเบาๆ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนเพื่อเป็นการให้กำลังใจกันใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้าเด็กแฝดก็ได้ออกมาทั้งสองอย่างปลอดภัย น้ำตาแห่งความยินดีของทั้งคู่ไหลออกมาพร้อมกันทันที เมื่อได้ยินแค่เสียงร้อง อุแว้ ดังขึ้นมา ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่ม พร้อมกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาปัดคราบน้ำตาที่หางตาของหญิงสาวให้ด้วยความอ่อนโยนอย่างเบาๆ“ลูกเราออกมาแล้วครับ...ขอบคุณน่ะครับ ที่อดทนยอมเจ็บเพื่อลูก เค้ารักลินมากน่ะครับที่รัก จุ๊บ” เสียงนุ่มเอ่ยขอบคุณ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนของหญิงสาวอีกครั้งภาพเหตุการณ์ในห้องคลอดเหล่า
จัดการเองNCสัปดาห์ต่อมาวันนี้ถึงวันที่ปุยนุ่นจะต้องมาถ่ายแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ทางปุยเมฆได้จัดการเตรียมเอาไว้ให้แล้ว“หาคนอื่นแทนไม่ได้เหรอ...นุ่นท้องอยู่น่ะ” พัสกรเอ่ยถามปุยเมฆขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนั่งอยู่ที่สตูดิโอกันเพียงสองคน เพราะรอปุยนุ่นได้แต่งตัวก่อน“ไม่ได้แล้วครับพี่...และอีกอย่าง เมียพี่พึ่งจะท้องได้แค่สองเดือนเอง ท้องยังไม่โตเลย หุ่นกำลังดีครับ”“เมฆ...นั้นพี่สาวนายน่ะ นายไม่คิดจะห่วงบ้างเลยหรือไง”“เรื่องห่วงก็ส่วนเรื่องห่วงครับ...เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงานครับ พี่ช่วยแยกแยะหน่อยนะครับ”ร่างบางเดินออกจากห้อแต่ตัว ด้วยเสื้อคลุมไว้ เพราะด้านในมีเพียงกางเกงจีสตริง และชั้นในปิดแค่เพียงจุกอวบเท่านั้น“เปิดเสื้อให้พี่ดูหน่อยครับ...” พัสกรพูดขึ้น พร้อมกับจับหญิงสาวหันหน้ามาทางเขา แล้วเปิดเสื้อดูสำรวจก่อนที่จะถ่ายจริง“พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ตอนนี้ มอมาที่เธอตาค้างมันวาวอยู่ แถมไม่พูดอะไรออกมา พร้อมกับกลืนน้ำลายฝืดลงคออีก“ไอ้เมฆ...สั่งทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากห้องนี้ให้หมด รวมถึงนายด้วย แล้วสั่งปิดกล้องวงจรที่ห้องนี้ทุกตัวทิ้ง ส่วนตากล้องพี่ถ่ายเอง” พัสกรหันมาสั่งท
สำเร็จ สายของวันสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียว ที่ยังหลับสนิทอยู่บนที่นอนกว้าง ร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน เพราะเสียงกดออดที่หน้าห้องดังขึ้นมา ร่างสูงขยับลุกขึ้นมาแต่งตัว แล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลืมที่จะเก็บของนอกห้องไว้เป็นที่ เป็นทางเสียก่อน จึงค่อยเดินไปเปิดประตูให้แก่คนที่มากดออกอ๊อด อ๊อด อ๊อด“พี่ก็นึกว่าใครที่ไหนมากดออดอยู่หน้าห้องพี่” เสียงเข้มพูดขึ้นมาทันที ที่เปิดประตูออก“แหม่...ถ้าพี่ไม่ปิดมือถือ ผมก็คงไม่ต้องถ่อมาหาพี่ถึงที่นี่หรอกครับ พอๆกันเลยทั้งผัวทั้งเมีย” ปุยเมฆพูดขึ้น เพราะว่าไม่สามารถติดต่อพัสกรได้ จึงได้มาหาที่คอนโดแทน เพราะรู้ว่าชายหนุ่มพาพี่สาวมาค้างที่นี่อยู่แล้ว“มีเรื่องอะไร หรือเปล่า” พัสกรเอ่ยถามด้วยสีหน้ามีึนงง“เรื่องที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยครับ โฆษณาที่เราถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อน ทางนั้นจะขอส่วนแบ่งเรื่องค่าตัวพรีเซนเตอร์ครับ ผมตัดสินใจเองไม่ได้เลยต้องมาปรึกษาพี่ ว่าจะเอายังไงต่อ ส่วนตัวผมคิดว่าผมหาคนมาแทนได้ครับ แต่อยากมาถามความเห็นพี่ก่อน” ปุยเมฆเอ่ยบอกไป ถึงเขาจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจในทุกเรื่องของบริษัท แต่ชายหนุ่มก็ยังให้เกียรติพัสกรอยู่ดี
วันไข่ตกNCคอนโดหรูของพัสกรพัสกรพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดของเขา แทนที่จะไปที่บ้านของหญิงสาว เพราะว่าวันนี้ปุยเมฆและต้นข้าวเอาปุยฝ้ายไปฝากไว้ให้อยู่ที่บ้านกับพ่อแม่อีก และทั้งคู่ก็หน้าจะกลับไปค้างที่บ้านหลังนั้นด้วยเลย พัสกรจึงตัดสินใจพาปุยนุ่นมาที่คอนโดเขาแทน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่น และไม่ให้ใครมารบกวนพวกเขาด้วย“ทำไมเราไม่กลับ ไปที่บ้านกันล่ะค่ะ พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยถามไปด้วยใบหน้างงๆ เพราะร้อยวันพันปี พัสกรไม่เคยพาเธอมาค้างที่นี่เลย เพราะส่วนใหญ่จะค้างที่บ้านกันมากกว่า“จะกลับไปรบกวนคนที่บ้านทำไมกันครับ...ที่บ้านคนเยอะจะตาย คืนนี้เป็นเวลาของเราน่ะ โทรบอกคนที่บ้านด้วยครับ แล้วก็ปิดเครื่องห้ามใครรบกวน” เสียงนุ่มของพัสกรเอ่ยสั่งร่างบางขึ้นมาทันที พร้อมกับสวมกอดหญิงสาวท จากทางด้านหลังเอาไว้ปุยนุ่นทำตามที่พัสกรบอกอย่างว่าง่าย และปิดทุกอย่างตามที่ชายหนุ่มบอก แล้วก็วางทุกอย่างลงที่โชฟาตัวยาวข้างตัวที่เธอยืนอยู่ร่างสูงพุ่งเข้าไปชิงจูบอย่างดุดันทันที เมื่อหญิงสาววางทุกอย่างลง และทำตามที่เขาบอก โดยไม่อาจทนรออีกต่อไปได้ และจัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจนหมดอย่างไม่รีรอ ตามด้วยเสื้อผ้าของ
ประธานบริษัทฯคนใหม่หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ธนาจะทำการเปิดตัวประธานคนใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทของเขาเป็นบริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งส่งออกไปยังประเทศต่างๆ และตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งธนาเองก็เคยมีเพื่อนฝูงมากมาย และหุ้นส่วนกันกับโรงพยาบาลต่างๆ และเคยมีธุรกิจสีเทามาก่อนตอนสมัยที่ยังหนุ่มๆ หรือที่เรียกง่ายๆก็คือ เคยเป็นมาเฟียเก่ามาก่อนนั้นเอง“ขอบคุณทุกท่านมากน่ะครับที่วันนี้ ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดี เปิดตัวประธานคนใหม่ของผม” ธนาพูดขึ้นมา เมื่ออยู่บนเวที“วันนี้เป็นวันที่ผมในนามประธานบริษัท ขอเปิดตัวประธานคนใหม่ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผมเองครับ ชีโน่ ชิษณุพงศ์ ปัญญาพิวัฒน์” ธนาเอ่ยแนะนำตัว พร้อมพรีเซนต์ตัวลูกชายไปพร้อมๆกัน“พร้อมน่ะครับ...ไปครับ” เสียงนุ่มเอ่ยกับอลินหญิงสาวข้างกาย ที่วันนี้พามาเปิดตัวพร้อมกันด้วยเลยเสียงปรบมือดังขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน เมื่อทั้งคู่เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกัน และที่ต้องทำให้ทุกคนตกใจนั้นก็คือ อลินพนักสาวของบริษัท ที่พึ่งจะเจ้ามาทำงานได้ไม่นาน และตอนนี้หญิงสาวกำลังตั้งท้องอยู่ แต่ไม่มีใครทราบว่าเธอคือใคร บวกกับเดียน่าที่ไม่ยอมปริปาก
เยี่ยมหลานสาวหนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่งานพัสกรและปุยนุ่นในวันนั้น ผ่านมาเพียงแค่สองสัปดาห์ งานวิวาห์ของชีโน่ และอลิน ก็ถูกจัดขึ้นมาอย่างเร่งด่วน และความเรียบง่าย มีแค่เพียงคนสนิท และญาติพี่น้อง ซึ่งจัดแค่พอเป็นพิธี ไม่ได้มีการเชิญนักข่าวมาทำสื่อแต่อย่างใด ตามความต้องการของบ่าว-สาว เพราะชีโน่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะจัดงานสองครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติภรรยา และแม่ของลูกอลินที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว เพราะท้องลูกแฝด วันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ต้นข้าวได้ให้กำเนิดลูกสาว ซึ่งตรงกับวันหมั้นของพัสกรและปุยนุ่นพอดี แล้ววันนั้นทั้งปุยนุ่นและอลิน จึงนัดกันมาผูกขวัญหลานที่บ้านของนพคุณณ บ้านอัศวโสภณ“มากันแล้วเหรอ” ปุยเมฆเอ่ยถามเมื่อคนทั้งสี่ เดินเข้ามาพร้อมหน้ากันที่ห้องรับแขก และสัมภาระของรับขวัญหลานต่างๆ เต็มไม้ เต็มมือไปหมด“นี่...พากันซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะ ผมบอกแล้วไงครับ ว่าไม่ต้องซื้ออะไรมา” ปุยเมฆพูดขึ้นมาอีกครั้ง ที่เห็นของเต็มไปหมด ที่ทั้งสี่มอบให้“นุ่นก็อยากซื้อมาฝากหลานนี้เมฆ” ปุยนุ่นพูดขึ้นมา เพราะเธออยากมีเป็นของตัวเอง แต่จนป่านนี้แล้วเธอก็ยังไม่ตั้งท้องสักที“ทุกคนตามสบายเลยน่ะครับ