ทางด้านปุยนุ่น พัสกรขับรถมาส่งเธอที่บ้านของพ่อแม่เธอ ซึ่งบ้านหลังนี้พัสกรสามารถเดินเข้าออกได้ทุกซอกทุกมุมเหมือนกับว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านอีกหลังของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะนรวิชญ์ เอ็นดูชายหนุ่มเหมือนกับลูกคนหนึ่งแถมยังมาสนิทกับปุยนุ่นอีก ทำให้นรวิชญ์เชื่อใจและไว้ใจพัสกรได้ และเขาก็เชื่อว่าพัสกรจะสามารถดูแลปุยนุ่นได้ หากเกิดว่าทั้งสองจะชอบพอกันขึ้นมาจริงๆ
“นุ่น...ถึงบ้านแล้วครับ” เสียงนุ่มเอ่ยเรียกเมื่อขับรถเข้ามาภายในบ้านของหญิงสาว แต่เจ้าของบ้านกับเจ้าของรถ หลับสนิทไม่รู้เรื่องอะไรเลย
พัสกรพยายามปลุกหญิงสาวอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ร่างสูงจึงจำต้องอุ้มหญิงสาวขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน ซึ่งก็คือห้องนอนของหญิงสาวนั้นเอง พัสกรวางร่างบางลงอย่างเบาๆมือ เมื่อมาถึงห้องนอนของปุยนุ่น แล้วตวัดผ้าห่มมาคลุมตัวให้แก่หญิงสาว และเดินออกจากห้องของหญิงสาวไป
“อานิชาสวัสดีครับ” ชายหนุ่มพนมมือขึ้นเมื่อเปิดประตูห้องออกมาเจอเข้ากับณัฐณิชา แม่ของหญิงสาวที่ยืนรออยู่พอดี
“พัดกลับยังไง...” นิชาเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนขับรถของลูกสาวเธอมาส่งปุยนุ่นที่บ้าน
“เอ่อ...ผมเรียกแท็กซี่กลับก็ได้ครับ” พัสกรเอ่ยตอบ เพราะไม่อยากรบกวน และเกรงใจเพราะนี้ก็ดึกมากแล้ว
“มันดึกแล้วค้างที่นี่เถอะน่ะ...” นิชาพูดขึ้นมา
“คงไม่ดีมั้งครับอานิชา...เดี๋ยวปุยนุ่นรู้จะเป็นเรื่องเอา” พัสกรรีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้ปุยนุ่นรู้ และพลอยโกรธเขาไปมากกว่านี้อีก ลำพังเรื่องเก่าก็ยังไม่สะส่าง เขาไม่อยากก่อเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกให้หญิงสาวไม่สบายใจ
“พัด...อาเห็นพัดเหมือนลูกอาคนหนึ่งน่ะ แล้วอาก็ดูออกว่าทั้งพัดและนุ่น ทำไมถึงเป็นแบบนี้กัน” นิชาจ้องมองหน้าพัสกร แล้วพูดออกมา เพราะเธอก็ดูอาการของเด็กทั้งสองออก
“ผมขอโทษน่ะครับ...ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะหยามเกียรติของอาทั้งสองเลย แต่ว่า...” พัสกรเมื่อเห็นว่าแม่ของหญิงสาวรู้เรื่องนี้ รีบคุกเข่าลงต่อหน้านิชาทันที แล้วเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิด ที่ล่วงเกินลูกสาวท่าน
“อาเข้าใจพัดน่ะ...ลุกขึ้นก่อนเถอะ” นิชาพยายามบอกให้พัสกรรีบลุกขึ้น
“มีอะไรกัน...ลงไปคุยกันข้างล่างหน่อย” เสียงเข้มของนรวิชญ์พูดขึ้น เมื่อเปิดประตูออกมาเห็นพัสกรกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าภรรยาของตน
ทั้งสามคน ลงมานั่งคุยกันอยู่ที่ด้านล่างซึ่งเป็นห้องโถงของบ้านที่เป็นห้องไว้สำหรับรับแขกนั้นเอง และเป็นนรวิชญ์ที่เริ่มเอ่ยปากถามขึ้นมาก่อน
“เรื่องมันเป็นมายังไง ไหนเล่าให้อาฟังสิ”
“เรื่องก็มีอยู่ว่า...” พัสกรจ้องมองหน้าทั้งสองท่าน พร้อมกับเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
“แล้วพัดคิดยังไงกับเรื่องนี้...” นิชาเป็นฝ่ายถามขึ้น เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่พัสกรเอ่ยให้ฟัง
“หลังจากนั้น ผมก็ขอนุ่นเป็นแฟน แต่นุ่นไม่ยอมตกลง บอกให้ผมลองจีบเธอดูก่อน แถมยังให้ผมช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอีกครับ” พัสกรเอ่ยบอกกับท่านทั้งสอง
“แล้วพัดคิดยังไงกับลูกสาวอา...ชอบปุยนุ่นหรือเปล่า” นรวิชญ์เป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง
“ผมไม่รู้ว่าผมชอบนุ่นไหมครับ...”
“งั้นอาขอถามใหม่...สาเหตุอะไรที่ทำให้พัดเป็นแบบนี้ เออ...หมายถึงทำกับนุ่นแบบนี้”
“คือ...นุ่นพยายามหลบหน้าผมไม่อยากเจอหน้า อยากจะตัดขาดจากผม แถมยังจะออกจากงานอีก ผมเลย...” พัสกรเอ่ยตอบตามตรงโดยไม่คิดที่จะปิดบังเลย
“เอาล่ะ...อาพอจะรู้แล้วแหล่ะ” นรวิชญ์จึงเป็นฝ่ายสรุปเรื่องราวทั้งหมดเอง เพราะเขาก็ดูออกว่าคนทั้งสองชอบพอกัน แต่แค่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ใจตัวเองก็แค่นั้น
“ยังไงค่ะ...พี่ไปร์” นิชาถามสามีขึ้นทันที เพราะเธอก็ยังไม่เข้าใจ
“ก็เจ้าพัดน่ะ...รักหนูนุ่นเข้าให้แล้วแหล่ะ” เสียงนุ่มเอ่ยบอกภรรยาของเขา
“แล้ว...ผมต้องทำยังไงต่อครับ” พัสกรเอ่ยถาม เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรต่อจริงๆกัยเรื่องนี้
“ทำตามที่ความรู้สึกต้องการก็พอ...รักก็บอกว่ารัก ชอบก็บอกว่าชอบไปเลยตรงๆ” นรวิชญ์เอ่ยแนะนำไป ให้พัสกรพูดตามที่ใจต้องการ
“ผมกลัวถูกนุ่นปฏิเสธครับอา...”
“เฮ้อะ...ไอ้หลานชาย มาถึงขนาดนี้แล้ว ลูกสาวอาคงไม่ปฏิเสธหรอกมั้ง แค่ปากเก่งไปอย่างนั้นเเหล่ะ ดีไม่ดี อาว่าอาอาจจะได้อุ้มหลานเร็วๆนี้ด้วยซ้ำ”
“...” พัสกรก้มหน้าลงเล็กน้อย
“หรือว่าไม่จริง” นรวิชญ์ถามย้ำ
“ครับ เพราะผมก็ไม่ได้ป้องกันเลย แล้วผมก็คิดว่านุ่นก็ไม่น่าจะกินยาด้วย” พัสกรเอ่ยตอบอย่างมั่นใจ
“งั้นคืนนี้ก็ค้างที่นี่แล้วกัน” นรวิชญ์เอ่ยบอก พร้อมกับเตรียมตัวจะลุกขึ้น
“แต่...” พัสกรยังคงอ้ำอึ้ง
“ใจเสาะไปได้น่ะเรา...ขึ้นไปพักเถอะ นอนห้องลูกสาวอานั้นแหล่ะ เรื่องเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องแยกห้องกันแล้วมั้ง” นรวิชญ์ตบไหล่พัสกรเบาๆ แถมเอ่ยแซวขึ้นมา
“ขอบคุณครับ...อาไปร์” พัสกรเอ่ยของคุณ พร้อมกับเตรียมตัวลูกขึ้น
“หวังว่า เช้ามาอาจะได้ยินข่าวดีน่ะ” นรวิชญ์เสริมขึ้นมาอีกประโยค
“ครับ...” พัสกรรับคำ แล้วรีบขึ้นไปชั้นบนของบ้าน เป้าหมายคือห้องนอนของหญิงสาว
“ง้อกันให้หายล่ะ” นรวิชญ์ตะโกนไล่ตามหลัง
“พี่ไปร์...” นิชาเอ่ยเรียกสามีขึ้น เมื่อพัสกรเดินจากไปแล้ว
“ครับ”
“พี่คิดว่าตาพัด จะโดนหนูนุ่นไล่ออกมาไหมค่ะ” นิชาถามสามีขึ้น เพราะรู้จักนิสัยลูกสาวเธอดี
“พี่ว่า...คงไม่หรอกครับ” นรวิชญ์เอ่ยตอบอย่างมั่นใจ
“อะไรทำให้พี่มั่นใจขนาดนั้นค่ะ” นิชาหันไปถามความเห็นจากสามี
“ง้อหนักๆ ยังไงล่ะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ภรรยา แล้วช้อนตัวขึ้นมาทันที
“ว้ายยย...พี่ไปร์ เล่นอะไรค่ะ อายุพี่ก็จะเกษียรอยู่แล้วน่ะ”
“ครับ...พี่จะยอมแก่ง่ายๆ ได้ยังไงกัน ก็เมียพี่ยังสาว ยังสวย แถมยังฟิตขนาดนี้ แล้วตอนนี้ พี่ก็จะง้อนิชาหนักๆเหมือนกัน เตรียมโตเด้ออีหล่า” นรวิชญ์เอ่ยบอก พร้อมกับเเซวภรรยาขึ้นมาทันทีในภาษาบ้านเกิดของหญิงสาวที่ชอบแซวเล่นกันเป็นประจำ
“อ้ายไปร์...ปล่อยก่อน เดี๋ยวนิชาตก” นิชาเอ่ยบอกเป็นภาษาบ้านเกิดทันที
“บ่ครับ...คืนนี้อ้ายสิฮักเมีย” เสียงนุ่มเอ่ยตอบ พร้อมกับอุ้มภรรยายังสาวเดินขึ้นบันไดบ้านไปยังชั้นสอง ห้องนอนของทั้งคู่
บทส่งท้าย(ตอบจบ)สามเดือนต่อมาวันนี้ครบกำหนดที่เจ้าแฝดจะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ชีโร่พาภรรยาสุดสวยมานอนรอทำการผ่าคลอด เพราะหญิงสาวมีความเสี่ยงในหลายๆอย่าง หมอจึงลงความเห็นให้ใช้วิธีคลอดแบบผ่าเอา“ตื่นเต้นไหมครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับไม่ยอมอยู่ห่าง และละมือออกจากมือของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เมื่อทั้งคู่อยู่ในห้องที่อลินนอนรออยู่บนเตียงแล้ว“...” อลินได้แต่พยักหน้ารับ โดยไม่ได้ตอบอะไร“ไม่ต้องกลัวน่ะ เค้าจะอยู่กับลิน และรอดูลูกออกมาพร้อมๆกันกับลินครับ” เสียงนุ่มเอ่ยปลอบพร้อมกับลูบศรีษะเธอเบาๆ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนเพื่อเป็นการให้กำลังใจกันใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้าเด็กแฝดก็ได้ออกมาทั้งสองอย่างปลอดภัย น้ำตาแห่งความยินดีของทั้งคู่ไหลออกมาพร้อมกันทันที เมื่อได้ยินแค่เสียงร้อง อุแว้ ดังขึ้นมา ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่ม พร้อมกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาปัดคราบน้ำตาที่หางตาของหญิงสาวให้ด้วยความอ่อนโยนอย่างเบาๆ“ลูกเราออกมาแล้วครับ...ขอบคุณน่ะครับ ที่อดทนยอมเจ็บเพื่อลูก เค้ารักลินมากน่ะครับที่รัก จุ๊บ” เสียงนุ่มเอ่ยขอบคุณ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนของหญิงสาวอีกครั้งภาพเหตุการณ์ในห้องคลอดเหล่า
จัดการเองNCสัปดาห์ต่อมาวันนี้ถึงวันที่ปุยนุ่นจะต้องมาถ่ายแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ทางปุยเมฆได้จัดการเตรียมเอาไว้ให้แล้ว“หาคนอื่นแทนไม่ได้เหรอ...นุ่นท้องอยู่น่ะ” พัสกรเอ่ยถามปุยเมฆขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนั่งอยู่ที่สตูดิโอกันเพียงสองคน เพราะรอปุยนุ่นได้แต่งตัวก่อน“ไม่ได้แล้วครับพี่...และอีกอย่าง เมียพี่พึ่งจะท้องได้แค่สองเดือนเอง ท้องยังไม่โตเลย หุ่นกำลังดีครับ”“เมฆ...นั้นพี่สาวนายน่ะ นายไม่คิดจะห่วงบ้างเลยหรือไง”“เรื่องห่วงก็ส่วนเรื่องห่วงครับ...เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงานครับ พี่ช่วยแยกแยะหน่อยนะครับ”ร่างบางเดินออกจากห้อแต่ตัว ด้วยเสื้อคลุมไว้ เพราะด้านในมีเพียงกางเกงจีสตริง และชั้นในปิดแค่เพียงจุกอวบเท่านั้น“เปิดเสื้อให้พี่ดูหน่อยครับ...” พัสกรพูดขึ้น พร้อมกับจับหญิงสาวหันหน้ามาทางเขา แล้วเปิดเสื้อดูสำรวจก่อนที่จะถ่ายจริง“พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ตอนนี้ มอมาที่เธอตาค้างมันวาวอยู่ แถมไม่พูดอะไรออกมา พร้อมกับกลืนน้ำลายฝืดลงคออีก“ไอ้เมฆ...สั่งทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากห้องนี้ให้หมด รวมถึงนายด้วย แล้วสั่งปิดกล้องวงจรที่ห้องนี้ทุกตัวทิ้ง ส่วนตากล้องพี่ถ่ายเอง” พัสกรหันมาสั่งท
สำเร็จ สายของวันสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียว ที่ยังหลับสนิทอยู่บนที่นอนกว้าง ร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน เพราะเสียงกดออดที่หน้าห้องดังขึ้นมา ร่างสูงขยับลุกขึ้นมาแต่งตัว แล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลืมที่จะเก็บของนอกห้องไว้เป็นที่ เป็นทางเสียก่อน จึงค่อยเดินไปเปิดประตูให้แก่คนที่มากดออกอ๊อด อ๊อด อ๊อด“พี่ก็นึกว่าใครที่ไหนมากดออดอยู่หน้าห้องพี่” เสียงเข้มพูดขึ้นมาทันที ที่เปิดประตูออก“แหม่...ถ้าพี่ไม่ปิดมือถือ ผมก็คงไม่ต้องถ่อมาหาพี่ถึงที่นี่หรอกครับ พอๆกันเลยทั้งผัวทั้งเมีย” ปุยเมฆพูดขึ้น เพราะว่าไม่สามารถติดต่อพัสกรได้ จึงได้มาหาที่คอนโดแทน เพราะรู้ว่าชายหนุ่มพาพี่สาวมาค้างที่นี่อยู่แล้ว“มีเรื่องอะไร หรือเปล่า” พัสกรเอ่ยถามด้วยสีหน้ามีึนงง“เรื่องที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยครับ โฆษณาที่เราถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อน ทางนั้นจะขอส่วนแบ่งเรื่องค่าตัวพรีเซนเตอร์ครับ ผมตัดสินใจเองไม่ได้เลยต้องมาปรึกษาพี่ ว่าจะเอายังไงต่อ ส่วนตัวผมคิดว่าผมหาคนมาแทนได้ครับ แต่อยากมาถามความเห็นพี่ก่อน” ปุยเมฆเอ่ยบอกไป ถึงเขาจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจในทุกเรื่องของบริษัท แต่ชายหนุ่มก็ยังให้เกียรติพัสกรอยู่ดี
วันไข่ตกNCคอนโดหรูของพัสกรพัสกรพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดของเขา แทนที่จะไปที่บ้านของหญิงสาว เพราะว่าวันนี้ปุยเมฆและต้นข้าวเอาปุยฝ้ายไปฝากไว้ให้อยู่ที่บ้านกับพ่อแม่อีก และทั้งคู่ก็หน้าจะกลับไปค้างที่บ้านหลังนั้นด้วยเลย พัสกรจึงตัดสินใจพาปุยนุ่นมาที่คอนโดเขาแทน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่น และไม่ให้ใครมารบกวนพวกเขาด้วย“ทำไมเราไม่กลับ ไปที่บ้านกันล่ะค่ะ พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยถามไปด้วยใบหน้างงๆ เพราะร้อยวันพันปี พัสกรไม่เคยพาเธอมาค้างที่นี่เลย เพราะส่วนใหญ่จะค้างที่บ้านกันมากกว่า“จะกลับไปรบกวนคนที่บ้านทำไมกันครับ...ที่บ้านคนเยอะจะตาย คืนนี้เป็นเวลาของเราน่ะ โทรบอกคนที่บ้านด้วยครับ แล้วก็ปิดเครื่องห้ามใครรบกวน” เสียงนุ่มของพัสกรเอ่ยสั่งร่างบางขึ้นมาทันที พร้อมกับสวมกอดหญิงสาวท จากทางด้านหลังเอาไว้ปุยนุ่นทำตามที่พัสกรบอกอย่างว่าง่าย และปิดทุกอย่างตามที่ชายหนุ่มบอก แล้วก็วางทุกอย่างลงที่โชฟาตัวยาวข้างตัวที่เธอยืนอยู่ร่างสูงพุ่งเข้าไปชิงจูบอย่างดุดันทันที เมื่อหญิงสาววางทุกอย่างลง และทำตามที่เขาบอก โดยไม่อาจทนรออีกต่อไปได้ และจัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจนหมดอย่างไม่รีรอ ตามด้วยเสื้อผ้าของ
ประธานบริษัทฯคนใหม่หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ธนาจะทำการเปิดตัวประธานคนใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทของเขาเป็นบริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งส่งออกไปยังประเทศต่างๆ และตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งธนาเองก็เคยมีเพื่อนฝูงมากมาย และหุ้นส่วนกันกับโรงพยาบาลต่างๆ และเคยมีธุรกิจสีเทามาก่อนตอนสมัยที่ยังหนุ่มๆ หรือที่เรียกง่ายๆก็คือ เคยเป็นมาเฟียเก่ามาก่อนนั้นเอง“ขอบคุณทุกท่านมากน่ะครับที่วันนี้ ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดี เปิดตัวประธานคนใหม่ของผม” ธนาพูดขึ้นมา เมื่ออยู่บนเวที“วันนี้เป็นวันที่ผมในนามประธานบริษัท ขอเปิดตัวประธานคนใหม่ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผมเองครับ ชีโน่ ชิษณุพงศ์ ปัญญาพิวัฒน์” ธนาเอ่ยแนะนำตัว พร้อมพรีเซนต์ตัวลูกชายไปพร้อมๆกัน“พร้อมน่ะครับ...ไปครับ” เสียงนุ่มเอ่ยกับอลินหญิงสาวข้างกาย ที่วันนี้พามาเปิดตัวพร้อมกันด้วยเลยเสียงปรบมือดังขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน เมื่อทั้งคู่เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกัน และที่ต้องทำให้ทุกคนตกใจนั้นก็คือ อลินพนักสาวของบริษัท ที่พึ่งจะเจ้ามาทำงานได้ไม่นาน และตอนนี้หญิงสาวกำลังตั้งท้องอยู่ แต่ไม่มีใครทราบว่าเธอคือใคร บวกกับเดียน่าที่ไม่ยอมปริปาก
เยี่ยมหลานสาวหนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่งานพัสกรและปุยนุ่นในวันนั้น ผ่านมาเพียงแค่สองสัปดาห์ งานวิวาห์ของชีโน่ และอลิน ก็ถูกจัดขึ้นมาอย่างเร่งด่วน และความเรียบง่าย มีแค่เพียงคนสนิท และญาติพี่น้อง ซึ่งจัดแค่พอเป็นพิธี ไม่ได้มีการเชิญนักข่าวมาทำสื่อแต่อย่างใด ตามความต้องการของบ่าว-สาว เพราะชีโน่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะจัดงานสองครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติภรรยา และแม่ของลูกอลินที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว เพราะท้องลูกแฝด วันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ต้นข้าวได้ให้กำเนิดลูกสาว ซึ่งตรงกับวันหมั้นของพัสกรและปุยนุ่นพอดี แล้ววันนั้นทั้งปุยนุ่นและอลิน จึงนัดกันมาผูกขวัญหลานที่บ้านของนพคุณณ บ้านอัศวโสภณ“มากันแล้วเหรอ” ปุยเมฆเอ่ยถามเมื่อคนทั้งสี่ เดินเข้ามาพร้อมหน้ากันที่ห้องรับแขก และสัมภาระของรับขวัญหลานต่างๆ เต็มไม้ เต็มมือไปหมด“นี่...พากันซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะ ผมบอกแล้วไงครับ ว่าไม่ต้องซื้ออะไรมา” ปุยเมฆพูดขึ้นมาอีกครั้ง ที่เห็นของเต็มไปหมด ที่ทั้งสี่มอบให้“นุ่นก็อยากซื้อมาฝากหลานนี้เมฆ” ปุยนุ่นพูดขึ้นมา เพราะเธออยากมีเป็นของตัวเอง แต่จนป่านนี้แล้วเธอก็ยังไม่ตั้งท้องสักที“ทุกคนตามสบายเลยน่ะครับ