ชีโน่ที่พลางตัวเป็นคนขับเรือของทางฝั่งกลุ่มเพื่อนของปุยนุ่น เมื่อเรือมาถึงยังจุดหมาย อลินรีบเดินเข้าไปถามทันที
“คุณค่ะ มีทางไหนที่จะช่วยติดต่อคนบนฝั่งได้บ้างไหมค่ะ พอดีโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลยค่ะ” อลินถามคนตรงหน้าขึ้นทันที เมื่อยเครื่องยนต์เรือดับลง
ชายหนุ่มที่ตอนนี้เริ่มเห็นว่าปลดกลุ่มเพื่อนชายของหญิงสาวแล้ว จึงถอดหมวก และแว่นตาออก ทำให้คนร่างบางตรงหน้าแทบช็อคทันที ที่ได้เห็น
“ชิ ชีโน่!”
“ครับ ผมเอง ทำไม ตกใจยังกับว่าเห็นผี ผีอะไรจะหล่อขนาดนี้” ชายหนุ่มแกล้งแซวหญิงสาวขึ้นมาทันที
“แหว่ะ หลงตัวเอง”
“ครับ ยอมรับ”
“แล้วคุณมาได้ยังไง อย่าบอกน่ะว่า ที่ออกเรือมาก่อน เป็นแผนของคุณกับผู้จัดการฯของคุณรวมหัวกัน” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับนึกขึ้นมาได้ทันที
“หว่า...โดนจับได้เสียแล้ว ฉลาดนี้ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเล่า” ชีโน่เอ่ยแซวขึ้นมาทันที
“ผู้จัดการคุณ ติดจะทำอะไรเพื่อนของฉัน” เมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้นอลินจึงถามดาราหนุ่มขึ้นมาทันที
“พี่พัดเขาไม่ทำอะไรเพื่อนของคุณหรอกครับ คุณน่ะไม่ต้องห่วงคนอื่น ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ผู้หญิงตัวคนเดียว บนเรือนี้มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาพร้อมกับที่ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอขึ้นมาทันที
เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อของหญิงสาว ดาราหนุ่มที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเขาเป็นใคร รีบดันร่างบางตรงหน้าประชิดเข้ากำแพง และรีบก้มลงประกบปากกับหญิงสาวทันที เพื่อที่จะไม่ให้คนที่เดินเข้ามาจากทางด้านอก ได้เห็นใบหน้าของเขานั้นเอง
“อลิน เฮ้ย!”
ดาราหนุ่มรีบเบือนหน้าหลบทันที เพราะไม่อยากให้คนเห็นใบหน้าของเขา ส่วนหญิงสาวที่ตอนนี้ยังคงอึ้ง ยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก เพราะโดนดาราหนุ่มขโมยจูบแรกไป
“ฉันขอโทษหว่ะอลิน ไม่คิดว่าแกจะไวไฟได้ขนาดนี้” นาคินเอ่ยขอโทษเพื่อน แล้วแซวขึ้นมาทันที
“นะ นายมีอะไร หรือเปล่าคิน” อลินถามกลับ
“เปล่า เราแค่จะมาถามเธอ ว่าติดต่อปุยนุ่นได้ยัง แต่เราไม่รู้ว่าเธอจะมี เอ่อ...งั้นเราขอตัวก่อนน่ะ แกตามสบายเลยอลิน” นาคินรีบเดินกลับไปหายังกลุ่มเพื่อนของตนทันที
“ฟู่ว์...” ชายหนุ่มเป่าลมปากทันที อย่างโล่งอก ที่นาคืนไม่รู้ว่าเขาคือใคร
“ไอ้บ้า!...กล้าดียังไงมาจูบฉัน เพี้ยะ” หญิงสาวรีบผลักดาราหนุ่มออกทันที ที่นาคินเดินออกไป แล้วตบหน้าของคนตรงหน้าอย่างแรง
“โอ้ย...นี่คุณ!” ชีโน่เอามือกุมแก้มทันที
“ใครใช้ให้คุณมาจูบฉันโดยไม่ขออนุญาตล่ะ” หญิงสาวรีบเอาหลังมือเช็ดปากทันที
“หึ หวงตัวขนาดนี้ อย่าบอกน่ะว่าเป็นจูบแรก”ชีโน่เอ่ยถามเมื่อเห็นอาการห่วงเนื้อห่วงตัวของหญิงสาว
“...” อลินไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ก้มหน้าหนีไปทางอื่น
“ใช่จริงๆสิน่ะ อายุขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยเสียจูบแรก คุณจะเก็บไว้ทำไมกัน”
“มันเรื่องของฉัน”
“แต่คุณกล้าดีมากเลยน่ะที่กล้าตบผม รู้ไหม ว่าคนที่ทำร้ายผม จะเจอกับอะไร” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวทันทีอย่างดุดัน
“แล้วใครใช้ให้คุณมาจูบฉันล่ะ” หญิงสาวสวนคำพูดกลับคืนอย่างไม่ยอมแพ้
“ก็ไม่ได้อยากจูบนักหรอก แต่สถานการณ์มันจำเป็น” ชีโน่ตอบกลับไป
“หึ สถานการณ์จำเป็นงั้นเหรอ แล้วถ้าฉันจะไปป่าวประกาศบอกกับคนอื่น ก็สถานการณ์จำเป็นเหมือนกันสิน่ะ” หญิงสาวทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนี้
“กล้าเดินออกจากตรงนี้ก็ลองดูสิ” เสียงเข้มเอ่ยขู่ขึ้นมาเสียก่อน
“ไอ้เด็กบ้า”
“คำก็บ้า สองคำก็เด็กบ้า แล้วอยากโดนเด็กบ้าคนนี้ลงโทษดูบ้างไหมล่ะ” ดาราหนุ่มก้มหน้ามาใกล้ๆกับร่างบางตรงหน้า
“คะ คุณถอยออกไปได้แล้ว ฉันจะออกไปหาเพื่อนๆ” หญิงสาวเอ่ยบอกเสียงเบา พร้อมกับถอยหลังหนี และมือดันหน้าอกชายหนุ่มไว้
“เข้าไปอยู่ด้านในห้อง เพื่อนมีแต่ผู้ชายจะออกไปได้ยังไง แล้วดูแต่งตัวมาสิ ล่อเสือล่อจระเข้ขนาดนี้” พร้อมกับสายตาที่สำรวจมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“มาทะเล คุณจะให้ฉันนุ่งผ้าถุงหรือ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น
“เก่งเหลือเกินน่ะ ต่อปากต่อคำเนี้ย เข้าไปด้านใน ไม่ได้ยินเหรอ” เสียงเอ่ยสั่งอีกที
“ไปก็ได้ ชิ...” หญิงสาวรีบเดินกระแทกเท้าดังๆ เข้าไปด้านใน ซึ่งก็คือห้องนอนที่อยู่ภายในเรือนั้นเอง
ส่วนทางด้านผู้จัดการหนุ่มอย่างพัสกร ได้แต่นั่งคิดทบทวนอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนจวบเวลาใกล้กับพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ชายหนุ่มจึงลงมาตามหาหญิงสาว ที่ตอนนี้ก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง
หญิงสาวยืนถ่ายรูปคนเดียว โดยตั้งกล้องถ่ายเอง รอยยิ้มสดใสของหญิงสาวบนใบหน้าทำให้เขาคิดถึงเรื่องเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เรื่องราวของเขาและปุยนุ่น เพราะเรื่องราวเหล่านั้น ที่ทำให้หญิงสาว ที่เขาสองคนนับถือว่าจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป
“นี้พี่จะเดินมาเข้าเฟรมของนุ่นทำไม” หญิงสาวถามขึ้น เมื่อร่างสูงเดินข้ามาหาเธอ เพราะทุกการกระทำ หญิงสาวได้ตั้งกล้องไว้
“พี่ถ่ายด้วยสิ” ชายหนุ่มเอ่ยขอ พร้อมกับเดินเข้าไปหาหญิงสาว แล้วสอดเเขนเข้าไปที่เอวคอดของเธอทันที
“ถ่ายก็ถ่ายสิ แต่พี่มากอดเอวนุ่นทำไม” หญิงสาวเอ่ยบอก และพยายามที่จะแกะมือของชายหนุ่มออก
“...” ร่างสูงไม่ได้ตอบกลับอะไร ทำหน้ามึนใส่หญิงสาวทันที พร้อมกับหันหน้าไปทางกล้องที่ตั้งไว้ แล้วหันมาส่งยิ้มหวานเยิ้มให้หญิงสาวอีกที
“เอ่อ...พี่ปล่อยนุ่นได้แล้วค่ะ ตอนนี้แสงก็หมดแล้ว นุ่นจะไปหาอะไรดื่ม” เสียงหวานเอ่ยบอก พร้อมกับพยายามแกะมือของชายหนุ่มออก
“พี่ไปเป็นเพื่อน นี้ก็เริ่มมืดแล้ว” เสียงนุ่มเอ่ยบอก แล้วช่วยหญิงสาวเก็บอุปกรณ์ถ่ายรูปลงกระเป๋า แล้วพาหญิงสาวเดินลงไปยังห้องนอนของเรือ
“ทำไมพี่ มีของใช้อะไรครบทุกอย่างเลยล่ะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อเข้ามายังห้องนอน กลับพบสิ่งของ และของใช้ต่างไป ของชายหนุ่มเต็มไปหมด แถมยังเตรียมเสื้อผ้ามาให้เธออีก
“ทำการใหญ่ ใจต้องนิ่ง” เสียงนุ่มเอ่ยกระซิบบอกที่ข้างใบหูของหญิงสาว
“พะ พี่พัด!”
“ครับ...เรียกชื่อผัวทำไมนักหนา กลัวลืมเหรอ” เสียงเอ่ยเย้าแหย่ร่างบางทันที
“ผัวอะไร บอกแล้วว่าไม่ใช่” หญิงสาวรีบหันหนาหนีไปทางอื่นทันที
“ถ้าอย่างนั้น...เรามาลองดูกันไหมล่ะ”
“ละ ลองอะไร”
“ทบทวนความจำของนุ่นไงครับ” ร่างสูงย่างสามขุมเข้าหาหญิงสาว แล้วช้อนตัวเธอขึ้นมาใสท่าเจ้าสาวทันที
“ว้าย!!”
บทส่งท้าย(ตอบจบ)สามเดือนต่อมาวันนี้ครบกำหนดที่เจ้าแฝดจะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ชีโร่พาภรรยาสุดสวยมานอนรอทำการผ่าคลอด เพราะหญิงสาวมีความเสี่ยงในหลายๆอย่าง หมอจึงลงความเห็นให้ใช้วิธีคลอดแบบผ่าเอา“ตื่นเต้นไหมครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับไม่ยอมอยู่ห่าง และละมือออกจากมือของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เมื่อทั้งคู่อยู่ในห้องที่อลินนอนรออยู่บนเตียงแล้ว“...” อลินได้แต่พยักหน้ารับ โดยไม่ได้ตอบอะไร“ไม่ต้องกลัวน่ะ เค้าจะอยู่กับลิน และรอดูลูกออกมาพร้อมๆกันกับลินครับ” เสียงนุ่มเอ่ยปลอบพร้อมกับลูบศรีษะเธอเบาๆ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนเพื่อเป็นการให้กำลังใจกันใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้าเด็กแฝดก็ได้ออกมาทั้งสองอย่างปลอดภัย น้ำตาแห่งความยินดีของทั้งคู่ไหลออกมาพร้อมกันทันที เมื่อได้ยินแค่เสียงร้อง อุแว้ ดังขึ้นมา ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่ม พร้อมกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาปัดคราบน้ำตาที่หางตาของหญิงสาวให้ด้วยความอ่อนโยนอย่างเบาๆ“ลูกเราออกมาแล้วครับ...ขอบคุณน่ะครับ ที่อดทนยอมเจ็บเพื่อลูก เค้ารักลินมากน่ะครับที่รัก จุ๊บ” เสียงนุ่มเอ่ยขอบคุณ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนของหญิงสาวอีกครั้งภาพเหตุการณ์ในห้องคลอดเหล่า
จัดการเองNCสัปดาห์ต่อมาวันนี้ถึงวันที่ปุยนุ่นจะต้องมาถ่ายแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ทางปุยเมฆได้จัดการเตรียมเอาไว้ให้แล้ว“หาคนอื่นแทนไม่ได้เหรอ...นุ่นท้องอยู่น่ะ” พัสกรเอ่ยถามปุยเมฆขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนั่งอยู่ที่สตูดิโอกันเพียงสองคน เพราะรอปุยนุ่นได้แต่งตัวก่อน“ไม่ได้แล้วครับพี่...และอีกอย่าง เมียพี่พึ่งจะท้องได้แค่สองเดือนเอง ท้องยังไม่โตเลย หุ่นกำลังดีครับ”“เมฆ...นั้นพี่สาวนายน่ะ นายไม่คิดจะห่วงบ้างเลยหรือไง”“เรื่องห่วงก็ส่วนเรื่องห่วงครับ...เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงานครับ พี่ช่วยแยกแยะหน่อยนะครับ”ร่างบางเดินออกจากห้อแต่ตัว ด้วยเสื้อคลุมไว้ เพราะด้านในมีเพียงกางเกงจีสตริง และชั้นในปิดแค่เพียงจุกอวบเท่านั้น“เปิดเสื้อให้พี่ดูหน่อยครับ...” พัสกรพูดขึ้น พร้อมกับจับหญิงสาวหันหน้ามาทางเขา แล้วเปิดเสื้อดูสำรวจก่อนที่จะถ่ายจริง“พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ตอนนี้ มอมาที่เธอตาค้างมันวาวอยู่ แถมไม่พูดอะไรออกมา พร้อมกับกลืนน้ำลายฝืดลงคออีก“ไอ้เมฆ...สั่งทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากห้องนี้ให้หมด รวมถึงนายด้วย แล้วสั่งปิดกล้องวงจรที่ห้องนี้ทุกตัวทิ้ง ส่วนตากล้องพี่ถ่ายเอง” พัสกรหันมาสั่งท
สำเร็จ สายของวันสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียว ที่ยังหลับสนิทอยู่บนที่นอนกว้าง ร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน เพราะเสียงกดออดที่หน้าห้องดังขึ้นมา ร่างสูงขยับลุกขึ้นมาแต่งตัว แล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลืมที่จะเก็บของนอกห้องไว้เป็นที่ เป็นทางเสียก่อน จึงค่อยเดินไปเปิดประตูให้แก่คนที่มากดออกอ๊อด อ๊อด อ๊อด“พี่ก็นึกว่าใครที่ไหนมากดออดอยู่หน้าห้องพี่” เสียงเข้มพูดขึ้นมาทันที ที่เปิดประตูออก“แหม่...ถ้าพี่ไม่ปิดมือถือ ผมก็คงไม่ต้องถ่อมาหาพี่ถึงที่นี่หรอกครับ พอๆกันเลยทั้งผัวทั้งเมีย” ปุยเมฆพูดขึ้น เพราะว่าไม่สามารถติดต่อพัสกรได้ จึงได้มาหาที่คอนโดแทน เพราะรู้ว่าชายหนุ่มพาพี่สาวมาค้างที่นี่อยู่แล้ว“มีเรื่องอะไร หรือเปล่า” พัสกรเอ่ยถามด้วยสีหน้ามีึนงง“เรื่องที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยครับ โฆษณาที่เราถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อน ทางนั้นจะขอส่วนแบ่งเรื่องค่าตัวพรีเซนเตอร์ครับ ผมตัดสินใจเองไม่ได้เลยต้องมาปรึกษาพี่ ว่าจะเอายังไงต่อ ส่วนตัวผมคิดว่าผมหาคนมาแทนได้ครับ แต่อยากมาถามความเห็นพี่ก่อน” ปุยเมฆเอ่ยบอกไป ถึงเขาจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจในทุกเรื่องของบริษัท แต่ชายหนุ่มก็ยังให้เกียรติพัสกรอยู่ดี
วันไข่ตกNCคอนโดหรูของพัสกรพัสกรพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดของเขา แทนที่จะไปที่บ้านของหญิงสาว เพราะว่าวันนี้ปุยเมฆและต้นข้าวเอาปุยฝ้ายไปฝากไว้ให้อยู่ที่บ้านกับพ่อแม่อีก และทั้งคู่ก็หน้าจะกลับไปค้างที่บ้านหลังนั้นด้วยเลย พัสกรจึงตัดสินใจพาปุยนุ่นมาที่คอนโดเขาแทน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่น และไม่ให้ใครมารบกวนพวกเขาด้วย“ทำไมเราไม่กลับ ไปที่บ้านกันล่ะค่ะ พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยถามไปด้วยใบหน้างงๆ เพราะร้อยวันพันปี พัสกรไม่เคยพาเธอมาค้างที่นี่เลย เพราะส่วนใหญ่จะค้างที่บ้านกันมากกว่า“จะกลับไปรบกวนคนที่บ้านทำไมกันครับ...ที่บ้านคนเยอะจะตาย คืนนี้เป็นเวลาของเราน่ะ โทรบอกคนที่บ้านด้วยครับ แล้วก็ปิดเครื่องห้ามใครรบกวน” เสียงนุ่มของพัสกรเอ่ยสั่งร่างบางขึ้นมาทันที พร้อมกับสวมกอดหญิงสาวท จากทางด้านหลังเอาไว้ปุยนุ่นทำตามที่พัสกรบอกอย่างว่าง่าย และปิดทุกอย่างตามที่ชายหนุ่มบอก แล้วก็วางทุกอย่างลงที่โชฟาตัวยาวข้างตัวที่เธอยืนอยู่ร่างสูงพุ่งเข้าไปชิงจูบอย่างดุดันทันที เมื่อหญิงสาววางทุกอย่างลง และทำตามที่เขาบอก โดยไม่อาจทนรออีกต่อไปได้ และจัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจนหมดอย่างไม่รีรอ ตามด้วยเสื้อผ้าของ
ประธานบริษัทฯคนใหม่หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ธนาจะทำการเปิดตัวประธานคนใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทของเขาเป็นบริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งส่งออกไปยังประเทศต่างๆ และตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งธนาเองก็เคยมีเพื่อนฝูงมากมาย และหุ้นส่วนกันกับโรงพยาบาลต่างๆ และเคยมีธุรกิจสีเทามาก่อนตอนสมัยที่ยังหนุ่มๆ หรือที่เรียกง่ายๆก็คือ เคยเป็นมาเฟียเก่ามาก่อนนั้นเอง“ขอบคุณทุกท่านมากน่ะครับที่วันนี้ ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดี เปิดตัวประธานคนใหม่ของผม” ธนาพูดขึ้นมา เมื่ออยู่บนเวที“วันนี้เป็นวันที่ผมในนามประธานบริษัท ขอเปิดตัวประธานคนใหม่ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผมเองครับ ชีโน่ ชิษณุพงศ์ ปัญญาพิวัฒน์” ธนาเอ่ยแนะนำตัว พร้อมพรีเซนต์ตัวลูกชายไปพร้อมๆกัน“พร้อมน่ะครับ...ไปครับ” เสียงนุ่มเอ่ยกับอลินหญิงสาวข้างกาย ที่วันนี้พามาเปิดตัวพร้อมกันด้วยเลยเสียงปรบมือดังขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน เมื่อทั้งคู่เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกัน และที่ต้องทำให้ทุกคนตกใจนั้นก็คือ อลินพนักสาวของบริษัท ที่พึ่งจะเจ้ามาทำงานได้ไม่นาน และตอนนี้หญิงสาวกำลังตั้งท้องอยู่ แต่ไม่มีใครทราบว่าเธอคือใคร บวกกับเดียน่าที่ไม่ยอมปริปาก
เยี่ยมหลานสาวหนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่งานพัสกรและปุยนุ่นในวันนั้น ผ่านมาเพียงแค่สองสัปดาห์ งานวิวาห์ของชีโน่ และอลิน ก็ถูกจัดขึ้นมาอย่างเร่งด่วน และความเรียบง่าย มีแค่เพียงคนสนิท และญาติพี่น้อง ซึ่งจัดแค่พอเป็นพิธี ไม่ได้มีการเชิญนักข่าวมาทำสื่อแต่อย่างใด ตามความต้องการของบ่าว-สาว เพราะชีโน่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะจัดงานสองครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติภรรยา และแม่ของลูกอลินที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว เพราะท้องลูกแฝด วันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ต้นข้าวได้ให้กำเนิดลูกสาว ซึ่งตรงกับวันหมั้นของพัสกรและปุยนุ่นพอดี แล้ววันนั้นทั้งปุยนุ่นและอลิน จึงนัดกันมาผูกขวัญหลานที่บ้านของนพคุณณ บ้านอัศวโสภณ“มากันแล้วเหรอ” ปุยเมฆเอ่ยถามเมื่อคนทั้งสี่ เดินเข้ามาพร้อมหน้ากันที่ห้องรับแขก และสัมภาระของรับขวัญหลานต่างๆ เต็มไม้ เต็มมือไปหมด“นี่...พากันซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะ ผมบอกแล้วไงครับ ว่าไม่ต้องซื้ออะไรมา” ปุยเมฆพูดขึ้นมาอีกครั้ง ที่เห็นของเต็มไปหมด ที่ทั้งสี่มอบให้“นุ่นก็อยากซื้อมาฝากหลานนี้เมฆ” ปุยนุ่นพูดขึ้นมา เพราะเธออยากมีเป็นของตัวเอง แต่จนป่านนี้แล้วเธอก็ยังไม่ตั้งท้องสักที“ทุกคนตามสบายเลยน่ะครับ