ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นลืมตาขึ้นมาก่อน แต่ยังก็พบหญิงสาวข้างกายที่ยังคงหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของเขา สายตาคมจ้องมองไปยังใบหน้าหวานของหญิงสาว มือหนาเลื่อนมาลูบที่แก้มนวลนั้นเบาๆวนไปมา จนร่างบางรู้สึกตัวขึ้นมา ลืมตาจ้องมองร่างสูงกลับ
“ตื่นแล้วหรือครับ อรุณสวัสดิ์น่ะครับคุณแฟนคนสวย” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับกระซิบบอกที่ข้างหูของหญิงสาว
“ใคร? เป็นแฟนค่ะ ยังไม่ได้ตอบตกลงเสียหน่อย” เสียงหวานเอ่ยตอบ พร้อมกับหลบสายตาไปทางอื่น
“นุ่นนี้ไงครับ ไม่อยากเป็นแฟน ถ้าอย่างนั้น ก็มาเป็นเมียเลยก็ได้น่ะ พี่ไม่ติด” เสียงนุ่มเอ่ยบอกพร้อมกับชี้ไปที่ตัวของหญิงสาว
“พี่มัดมือชกกันชัดๆเลย นุ่นไม่คุยกับพี่แล้ว นุ่นจะไปเข้าห้องน้ำ” หญิงสาวพูดจบก็กำลังจะลุกออกจากอ้อมกอดนั้นของชายหนุ่ม
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม” เสียงนุ่มเอ่ยถามขึ้นมา
“ไม่ค่ะ! โอ้ยยย ซี๊ดดด” ร่างบางรีบลุกขึ้น แต่ต้องซีดปากร้องเจ็บขึ้นมา เพราะความเจ็บแสบจากช่วงล่างของร่างกายที่พร้อมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
“นุ่น! ยังเจ็บอยู่เหรอ?” ชายหนุ่มรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที แล้วถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยหญิงสาว
“...” หญิงสาวหันไปมอง และพยักหน้ารับให้แก่ชายหนุ่ม เพราะเธอไม่กล้าขยับตัวเลย
“มาครับ พี่ช่วย” ร่างสูงลุกขึ้น ช้อนร่างบางขึ้นแนบอกทันที ในท่าเจ้าสาว
“พี่พัด”
“อายทำไม เมื่อคืนก็ยังทำมากกว่าเห็นอีก” เสียงนุ่มเอ่ยบอก แล้วสาวท้าวยาวเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที
“...” หญิงสาวไม่พูดอะไร เพราะมัวแต่เขินอาย มุดหน้าซบอยู่กับอกแกร่ง แล้วโอบกอดคอของร่างสูงไว้แน่น เพราะกลัวตก
อีกด้าน
ทางด้านดาราหนุ่มชีโน่และเพื่อนสาวของปุยนุ่น อย่างอลินตอนนี้ยังคงหลับสนิทไม่รู้เรื่องกันทั้งคู่ จนเรือจอดเทียบท่าเรียบร้อย เพื่อนชายทั้งสามลงจากเรือไปกันหมดแล้ว เหลือเพียงแค่สองร่างเปลือยเปล่า ที่ยังนอนกอดกันหมดสภาพอยู่บนที่นอนที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย จนคนขับเรือเอ่ยเรียก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณครับ เรือจอดแล้วน่ะครับ”
ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายลุกขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงคนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง และเปิดประตูแงมออกเพียงเล็กน้อย ชะโงกดู ก่อนจะเอ่ยบอก
“ผมขออยู่ที่นี่อีกคืนนะครับ นี้ครับค่าเช่าเรือ” ชีโน่เอ่ยบอกพร้อมกับยื่นเงินจำหนึ่งให้แก่ชายคนขับเรือ ไป แล้วรีบปิดประตูกลับคืนทันที แล้วเดินกลับไปหาหญิงสาว ที่ยังคงหลับสนิทอยู่บนที่นอน
มือหนาลูบวนบนใบหน้าของหญิงสาวอยู่สักพักอย่างพินิจพิจารณา จนหญิงสาวรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย
“หาว!...เช้าแล้วเหรอ” เสียงหวานเอ่ยถาม พร้อมกับอาการหาวจากการพึ่งจะตื่นนอน
“เช้าบ้าอะไรล่ะ นี้มันบ่ายแล้ว” ชีโน่เอ่ยตอบ ด้วยน้ำเสียงที่อย่างประชดประชัน
“ฮ้ะ...บ่ายโมง!” หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้น รีบดีดตัวลุกขึ้นมานั่งทันที พร้อมกับจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างรอคำตอบยืนยันอีกที
“...” ชีโน่ได้แต่พยักหน้ารับ เชิงเป็นคำตอบอีกที
“แล้วทำไม คุณไม่ปลุกฉันเล่า” หญิงสาวเริ่มโมโหขึ้นมาทันที และเริ่มมีสีหน้ากังวลขึ้นมา
“ผมเห็นคุณหลับสบายนี้ เลยไม่อยากรบกวน แต่ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเพื่อนๆคุณกลับลงไปกันหมดแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยบอก โดยไม่ได้รู้สึกรู้สา และวิตกอะไรแม้แต่น้อย
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นสักหน่อย ฉันหมายถึงเรื่อง...” หญิงสาวไม่รู้จะพูดบอกยังไง ได้แต่อ้ำอึ้ง จ้องมองหน้าของชายหนุ่ม
“เรื่องอะไร? ถ้าเป็นเรื่องเมื่อคืน” ชีโน่เลิกคิ้วมองกลับมา เพราะไม่รู้ว่าหญิงสาวจะพูดเรื่องอะไรก่อน แต่ถ้าเป็นเรื่องเมื่อคืน เขาก็พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง
“เห้ย...ไม่ได้การล่ะ นี้มันกี่โมงกี่ยามแล้ว” หญิงสาวเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ จึงรีบคว้าผ้าห่มพันตัว แล้วลุกขึ้นจากที่นอนทันทีอย่างรีบร้อน
“โอ้ยยย ซี๊ดดด” ร่างบางร้องซีดปากออกมาทันที เมื่อเท้าแตะถึงพื้น และล้มลงพับกองอยู่กับพื้นทันทีเพราะความเจ็บส่วนนั้นของร่างกาย
“คุณ!” ร่างสูงรีบพุ่งตัวเข้าไปหาหญิงสาวทันที
“ไม่ต้องมามองเลย...เพราะใครกันล่ะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาอย่างรู้สึกน้อยใจ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ซ่าดีนัก เป็นยังไงล่ะ” ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่ทำหน้าเหมือนเด็กงอแงอยู่ตอนนี้ ก็หัวเราะขำออกมาทันทีอย่างเอ็นดู
“ไม่รีบช่วย แล้วยังจะมาหัวเราะอีกน่ะ ไอ้เด็กบ้า” หญิงสาวตวาดตามอง พร้อมพ่นคำด่าออกมาทันที
“แล้วดึงลงมาด้วยทำไม ไอ้ผ้าห่มเนี้ย หืม” ชายหนุ่มเอ่ยแซว พร้อมกับพยายามจะดึงผ้าห่มออกจากร่างบาง
“ก็...”
“อายเหรอ? ผมไม่เห็นจะอายคุณเลย” ชีโน่พูดออกมาแบบกวนๆ และไม่ได้รู้สึกอะไร
“นี่ ตกลงจะช่วยไหม พูดมากอยู่ได้” อลินเริ่มขึ้นเสียงใส่ทันที เมื่อเห็นชายหนุ่มเริ่มร่ายยาว
“ครับ คุณผู้หญิง” เสียงนุ่มเอ่ยรับปาก พร้อมกับมือดึงผ้าห่มที่หญิงสาวคลุมตัวออก แล้วรีบช้อนร่างบางขึ้นมาในท่าเจ้าสาวทันที
“ว้ายยย” หญิงสาวรีบโอบคอชายหนุ่มไว้แน่นด้วยสัญชาตญาณเพราะกลัวตก โดยไม่ได้สนใจร่างกายอันเปลือยเปล่าของตัวเองเลยแม้แต่น้อยนิด แล้วรีบมุดหัวแนบอกชายหนุ่มทันที
ชีโน่จ้องมองร่างบางในอ้อมกอด แล้วส่ายหน้าให้เบาๆ พร้อมกับยกยิ้มขึ้นมา อย่างรู้สึกเอ็นดูคนที่ทำตัวตรงกันข้ามกับอายุเสียเหลือเกิน แล้วพาเดินไปยังห้องน้ำทันที ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
สักพักเมื่อทั้งคู่ทำธุระส่วนตัวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็รีบแต่งตัว หญิงสาวกำลังจะเดินออกจากห้องตรงนี้ไป แต่ถูกแขนแกร่งของชายหนุ่มรั้งไว้เสียก่อน
“มีอะไร” อลินถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเรียบนิ่ง แล้วจ้องมองหน้าชายหนุ่มเมื่อโดยรั้งแขนไว้
“คุยกันก่อนสิ” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้น พร้อมกับปล่อยแขนลงออกจากหญิงสาว
“ถ้าจะคุยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คุณไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ถือว่าเป็น One Night ก็แล้วกัน ฉันจะลืมมันไป ถือว่าวินๆกันทั้งคู่” อลินพยายามพูดออกมาให้เป็นปกติที่สุด
“One Night อย่างงั้นเหรอ? อลินคุณคิดอะไรอยู่” ชีโน่ถามย้ำขึ้นมาทันที เมื่อหญิงสาวพูดเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร
“ฉันก็พูดความจริงไง แล้วจะให้ฉันคิดเป็นแบบไหนได้ คุณเป็นใคร แล้วฉันเป็นใคร ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ว่าฉันจะ BlackMail คุณแน่นอน” หญิงสาวพูดออกมาโดยไม่มองหน้าชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
“อลิน นั้นมันครั้งแรกของคุณเลยน่ะ” ชีโน่เริ่มขึ้นเสียงใส่กับหญิงสาว
“ครั้งแรก แล้วยังไง เสียไปแล้วมันเอากลับมาคืนไม่ได้หรอกค่ะ”
“ครับถึงมันจะเอากลับคืนมาไม่ได้ แต่ว่า...”
“เอาเป็นว่าตามนี้แหล่ะ บ้าย บาย น่ะ น้องชาย” หญิงสาวตัดปัญหา เอ่ยพูดขึ้นมา แล้วเดินจากไปทันที ปล่อยให้ดาราหนุ่มยืนอึ้งอยู่ภายในห้องคนเดียว
“One Night งั้นเหรอ? มีผู้หญิงแบบนี้ด้วยเหรอว่ะ เสียตัวครั้งแรก แต่ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย เหมือนกูโดนฟันแล้วทิ้งเลยเว้ย เสียเชิงชายหมด....เชี่ยเอ้ยยย ลืมได้ไงว่ะ หวังว่าคุณก็คงไม่ลืมน่ะอลิน”
บทส่งท้าย(ตอบจบ)สามเดือนต่อมาวันนี้ครบกำหนดที่เจ้าแฝดจะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ชีโร่พาภรรยาสุดสวยมานอนรอทำการผ่าคลอด เพราะหญิงสาวมีความเสี่ยงในหลายๆอย่าง หมอจึงลงความเห็นให้ใช้วิธีคลอดแบบผ่าเอา“ตื่นเต้นไหมครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับไม่ยอมอยู่ห่าง และละมือออกจากมือของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เมื่อทั้งคู่อยู่ในห้องที่อลินนอนรออยู่บนเตียงแล้ว“...” อลินได้แต่พยักหน้ารับ โดยไม่ได้ตอบอะไร“ไม่ต้องกลัวน่ะ เค้าจะอยู่กับลิน และรอดูลูกออกมาพร้อมๆกันกับลินครับ” เสียงนุ่มเอ่ยปลอบพร้อมกับลูบศรีษะเธอเบาๆ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนเพื่อเป็นการให้กำลังใจกันใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้าเด็กแฝดก็ได้ออกมาทั้งสองอย่างปลอดภัย น้ำตาแห่งความยินดีของทั้งคู่ไหลออกมาพร้อมกันทันที เมื่อได้ยินแค่เสียงร้อง อุแว้ ดังขึ้นมา ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่ม พร้อมกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาปัดคราบน้ำตาที่หางตาของหญิงสาวให้ด้วยความอ่อนโยนอย่างเบาๆ“ลูกเราออกมาแล้วครับ...ขอบคุณน่ะครับ ที่อดทนยอมเจ็บเพื่อลูก เค้ารักลินมากน่ะครับที่รัก จุ๊บ” เสียงนุ่มเอ่ยขอบคุณ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนของหญิงสาวอีกครั้งภาพเหตุการณ์ในห้องคลอดเหล่า
จัดการเองNCสัปดาห์ต่อมาวันนี้ถึงวันที่ปุยนุ่นจะต้องมาถ่ายแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ทางปุยเมฆได้จัดการเตรียมเอาไว้ให้แล้ว“หาคนอื่นแทนไม่ได้เหรอ...นุ่นท้องอยู่น่ะ” พัสกรเอ่ยถามปุยเมฆขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนั่งอยู่ที่สตูดิโอกันเพียงสองคน เพราะรอปุยนุ่นได้แต่งตัวก่อน“ไม่ได้แล้วครับพี่...และอีกอย่าง เมียพี่พึ่งจะท้องได้แค่สองเดือนเอง ท้องยังไม่โตเลย หุ่นกำลังดีครับ”“เมฆ...นั้นพี่สาวนายน่ะ นายไม่คิดจะห่วงบ้างเลยหรือไง”“เรื่องห่วงก็ส่วนเรื่องห่วงครับ...เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงานครับ พี่ช่วยแยกแยะหน่อยนะครับ”ร่างบางเดินออกจากห้อแต่ตัว ด้วยเสื้อคลุมไว้ เพราะด้านในมีเพียงกางเกงจีสตริง และชั้นในปิดแค่เพียงจุกอวบเท่านั้น“เปิดเสื้อให้พี่ดูหน่อยครับ...” พัสกรพูดขึ้น พร้อมกับจับหญิงสาวหันหน้ามาทางเขา แล้วเปิดเสื้อดูสำรวจก่อนที่จะถ่ายจริง“พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ตอนนี้ มอมาที่เธอตาค้างมันวาวอยู่ แถมไม่พูดอะไรออกมา พร้อมกับกลืนน้ำลายฝืดลงคออีก“ไอ้เมฆ...สั่งทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากห้องนี้ให้หมด รวมถึงนายด้วย แล้วสั่งปิดกล้องวงจรที่ห้องนี้ทุกตัวทิ้ง ส่วนตากล้องพี่ถ่ายเอง” พัสกรหันมาสั่งท
สำเร็จ สายของวันสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียว ที่ยังหลับสนิทอยู่บนที่นอนกว้าง ร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน เพราะเสียงกดออดที่หน้าห้องดังขึ้นมา ร่างสูงขยับลุกขึ้นมาแต่งตัว แล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลืมที่จะเก็บของนอกห้องไว้เป็นที่ เป็นทางเสียก่อน จึงค่อยเดินไปเปิดประตูให้แก่คนที่มากดออกอ๊อด อ๊อด อ๊อด“พี่ก็นึกว่าใครที่ไหนมากดออดอยู่หน้าห้องพี่” เสียงเข้มพูดขึ้นมาทันที ที่เปิดประตูออก“แหม่...ถ้าพี่ไม่ปิดมือถือ ผมก็คงไม่ต้องถ่อมาหาพี่ถึงที่นี่หรอกครับ พอๆกันเลยทั้งผัวทั้งเมีย” ปุยเมฆพูดขึ้น เพราะว่าไม่สามารถติดต่อพัสกรได้ จึงได้มาหาที่คอนโดแทน เพราะรู้ว่าชายหนุ่มพาพี่สาวมาค้างที่นี่อยู่แล้ว“มีเรื่องอะไร หรือเปล่า” พัสกรเอ่ยถามด้วยสีหน้ามีึนงง“เรื่องที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยครับ โฆษณาที่เราถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อน ทางนั้นจะขอส่วนแบ่งเรื่องค่าตัวพรีเซนเตอร์ครับ ผมตัดสินใจเองไม่ได้เลยต้องมาปรึกษาพี่ ว่าจะเอายังไงต่อ ส่วนตัวผมคิดว่าผมหาคนมาแทนได้ครับ แต่อยากมาถามความเห็นพี่ก่อน” ปุยเมฆเอ่ยบอกไป ถึงเขาจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจในทุกเรื่องของบริษัท แต่ชายหนุ่มก็ยังให้เกียรติพัสกรอยู่ดี
วันไข่ตกNCคอนโดหรูของพัสกรพัสกรพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดของเขา แทนที่จะไปที่บ้านของหญิงสาว เพราะว่าวันนี้ปุยเมฆและต้นข้าวเอาปุยฝ้ายไปฝากไว้ให้อยู่ที่บ้านกับพ่อแม่อีก และทั้งคู่ก็หน้าจะกลับไปค้างที่บ้านหลังนั้นด้วยเลย พัสกรจึงตัดสินใจพาปุยนุ่นมาที่คอนโดเขาแทน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่น และไม่ให้ใครมารบกวนพวกเขาด้วย“ทำไมเราไม่กลับ ไปที่บ้านกันล่ะค่ะ พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยถามไปด้วยใบหน้างงๆ เพราะร้อยวันพันปี พัสกรไม่เคยพาเธอมาค้างที่นี่เลย เพราะส่วนใหญ่จะค้างที่บ้านกันมากกว่า“จะกลับไปรบกวนคนที่บ้านทำไมกันครับ...ที่บ้านคนเยอะจะตาย คืนนี้เป็นเวลาของเราน่ะ โทรบอกคนที่บ้านด้วยครับ แล้วก็ปิดเครื่องห้ามใครรบกวน” เสียงนุ่มของพัสกรเอ่ยสั่งร่างบางขึ้นมาทันที พร้อมกับสวมกอดหญิงสาวท จากทางด้านหลังเอาไว้ปุยนุ่นทำตามที่พัสกรบอกอย่างว่าง่าย และปิดทุกอย่างตามที่ชายหนุ่มบอก แล้วก็วางทุกอย่างลงที่โชฟาตัวยาวข้างตัวที่เธอยืนอยู่ร่างสูงพุ่งเข้าไปชิงจูบอย่างดุดันทันที เมื่อหญิงสาววางทุกอย่างลง และทำตามที่เขาบอก โดยไม่อาจทนรออีกต่อไปได้ และจัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจนหมดอย่างไม่รีรอ ตามด้วยเสื้อผ้าของ
ประธานบริษัทฯคนใหม่หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ธนาจะทำการเปิดตัวประธานคนใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทของเขาเป็นบริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งส่งออกไปยังประเทศต่างๆ และตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งธนาเองก็เคยมีเพื่อนฝูงมากมาย และหุ้นส่วนกันกับโรงพยาบาลต่างๆ และเคยมีธุรกิจสีเทามาก่อนตอนสมัยที่ยังหนุ่มๆ หรือที่เรียกง่ายๆก็คือ เคยเป็นมาเฟียเก่ามาก่อนนั้นเอง“ขอบคุณทุกท่านมากน่ะครับที่วันนี้ ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดี เปิดตัวประธานคนใหม่ของผม” ธนาพูดขึ้นมา เมื่ออยู่บนเวที“วันนี้เป็นวันที่ผมในนามประธานบริษัท ขอเปิดตัวประธานคนใหม่ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผมเองครับ ชีโน่ ชิษณุพงศ์ ปัญญาพิวัฒน์” ธนาเอ่ยแนะนำตัว พร้อมพรีเซนต์ตัวลูกชายไปพร้อมๆกัน“พร้อมน่ะครับ...ไปครับ” เสียงนุ่มเอ่ยกับอลินหญิงสาวข้างกาย ที่วันนี้พามาเปิดตัวพร้อมกันด้วยเลยเสียงปรบมือดังขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน เมื่อทั้งคู่เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกัน และที่ต้องทำให้ทุกคนตกใจนั้นก็คือ อลินพนักสาวของบริษัท ที่พึ่งจะเจ้ามาทำงานได้ไม่นาน และตอนนี้หญิงสาวกำลังตั้งท้องอยู่ แต่ไม่มีใครทราบว่าเธอคือใคร บวกกับเดียน่าที่ไม่ยอมปริปาก
เยี่ยมหลานสาวหนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่งานพัสกรและปุยนุ่นในวันนั้น ผ่านมาเพียงแค่สองสัปดาห์ งานวิวาห์ของชีโน่ และอลิน ก็ถูกจัดขึ้นมาอย่างเร่งด่วน และความเรียบง่าย มีแค่เพียงคนสนิท และญาติพี่น้อง ซึ่งจัดแค่พอเป็นพิธี ไม่ได้มีการเชิญนักข่าวมาทำสื่อแต่อย่างใด ตามความต้องการของบ่าว-สาว เพราะชีโน่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะจัดงานสองครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติภรรยา และแม่ของลูกอลินที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว เพราะท้องลูกแฝด วันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ต้นข้าวได้ให้กำเนิดลูกสาว ซึ่งตรงกับวันหมั้นของพัสกรและปุยนุ่นพอดี แล้ววันนั้นทั้งปุยนุ่นและอลิน จึงนัดกันมาผูกขวัญหลานที่บ้านของนพคุณณ บ้านอัศวโสภณ“มากันแล้วเหรอ” ปุยเมฆเอ่ยถามเมื่อคนทั้งสี่ เดินเข้ามาพร้อมหน้ากันที่ห้องรับแขก และสัมภาระของรับขวัญหลานต่างๆ เต็มไม้ เต็มมือไปหมด“นี่...พากันซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะ ผมบอกแล้วไงครับ ว่าไม่ต้องซื้ออะไรมา” ปุยเมฆพูดขึ้นมาอีกครั้ง ที่เห็นของเต็มไปหมด ที่ทั้งสี่มอบให้“นุ่นก็อยากซื้อมาฝากหลานนี้เมฆ” ปุยนุ่นพูดขึ้นมา เพราะเธออยากมีเป็นของตัวเอง แต่จนป่านนี้แล้วเธอก็ยังไม่ตั้งท้องสักที“ทุกคนตามสบายเลยน่ะครับ