“นี่มันแค่เริ่มต้น! อยากเป็นของพี่เอง! พี่ไม่ได้ร้องขอ!”
เสียงทุ้มแหบพร่าตอบกระเส่าไปด้วยความเสียวซ่านปวดหนึบ คิมหันต์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มือหนาจับร่างเล็กไว้ พร้อมกดแก่นกายใหญ่จ้วงลึกอีกครั้งอย่างหนักหน่วงลึกจนสุดลำ! น้ำสีขุ่นเข้มไหลไปตามช่องรักคับแคบนั่น ‘เพราะความบริสุทธิ์’
“ฮึก! กรี๊ดดดดดด!! เจ็บ! ปล่อยนะ! ฮึก!”
เมนิลากรีดร้องอย่างสุดเสียง ความเจ็บปวดแทบขาดใจของเธอนั้น ทำให้ริมฝีปากบางสั่นระริก นิ้วเรียวบางจิกเขากับไหล่กว้างทันที! น้ำตารินไหลจากหางตาทั้งสองข้าง ‘เธอเลือกเอง เธอจะต้องผ่านไปให้ได้!’
“โอ๊ะ!” ร่างกำยำสั่นเทากับความคับแน่นที่บีบรัดท่อนเอ็นของเขาเอาไว้ เอวหนากดแท่งร้อนขึ้นลงช้าๆ เนิบนาบเพื่อให้ช่องทางรักคับแคบนั้นคุ้นชิน ไหล่กว้างปวดแสบเพราะเล็บอันแหลมคมนั้นกรีดลงไปทำให้โลหิตไหลซึมออกมาทั่วไหล่กว้าง!
“ไม่! จะ-เจ็บ! ฮึก! จะ-เจ็บ อ๊ะ!”
“โอ๊ะ โอ๊ะ!”
เมื่อดุ้นมังกรใหญ่เริ่มคุ้นชินกับช่องทางรักนั้นจึงเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ดึงเข้าออกไปมาโดยไม่สนว่าร่างเล็กจะดีดดิ้นหนีเพียงใด ความเจ็บปวดนี้มิได้มีเพียงเราคนเดียว พี่เองก็ไม่ได้แตกต่างจากเธอเลย...ยูจิน
ตั่บ! แก่นกายใหญ่จ้วงลึกกระแทกกระทั้นเข้ากับช่องทางรักคับแคบนั้นอย่างดุดัน!
“ฮึก! เจ็บ! ปล่อยนะ! อ๊ะ!”
ร่างหนาเร่งขยับสะโพกเร็วและแรง เสียงหอบหายใจดังกระเส่า ความใหญ่โตดุดันของความเป็นชายชาตรีนั้นยังคงกระแทกตอกตรึงดุเดือด ร่างเล็กสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกของแก่นกายใหญ่บนโซฟาที่มีพื้นที่จำกัด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคขวางกั้นความต้องการของชายหนุ่มแต่อย่างใด
ร่างหนายังคงโหมแรงกระแทกกระทั้นลงมาอย่างต่อเนื่อง ความปวดหนึบต้องการระบายออก ความกระสันบวกผสมกับฤทธิ์ยากำหนัด ทำให้เอวหนาดีดเด้งกระแทกเพิ่มแรงขึ้นไปอีก โดยไม่สนคนใต้ร่างที่ดีดดิ้นหนี เรียวขาเล็กเกยบนท่อนแขนของอีกฝ่าย สั่นสะท้านสะเทือนเพราะถูกแรงกระแทกโหมกระหน่ำแบบรัวๆ
“โอววว์ ซี๊ดด!!”
“จะ-เจ็บ อ๊ะ!” ความร้อนจากบางอย่างปะทุขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดอีกครั้ง ความเสียวเสียดก่อวนไปที่ท้องน้อยของเธอ ความเจ็บหนึบและเจ็บปวดแทบแตกดับผสมกันอยู่ในนั้น เมนิลาต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ริมฝีปากบางกัดเม้มเข้าหากันจนเลือดซิบออกมา ‘เธอเลือกเอง’
ตั่บ! เอวหนากระแทกอย่างดุเดือด!
“โอวว์ ซี๊ด โอววว์ โอ๊ะ!” ความเสียวซ่านทะยานไปที่ปลายกระบอกแท่งร้อน
“ฮึก! อึก” เมื่อไหร่บทรักนี้จะจบลงซะที เมนิลาพอแล้ว ความบอบช้ำทางร่างกายและจิตใจของเธอตอนนี้ มันแตกสลายไปจนหมดแล้ว ‘บทเรียนความบ้าดีเดือดของเธอเอง’
ตั่บ! แก่นกายใหญ่กระแทกจ้วงลึก!
“โอวว์! โอ๊ะ!” ดุ้นมังกรใหญ่ยังคงกระแทกเดือด
บทรักบรรเลงบนโซฟาใหญ่ เกิดขึ้นอย่างดุเด็ด เผ็ดมัน ร่างใหญ่โหมแรงกระแทก จนทำให้ร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน กว่าที่ชายหนุ่มจะเดินทางไปถึงปลายฝัน ก็ทำเอาร่างเล็กแทบสลบคามือ บทรักร้อนแรงแรกจบลง เพียงไม่กี่นาที บทรักใหม่ก็เริ่มขึ้นมาอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด โดยที่ผู้กำกับบทรักนั้น ไม่อาจหยุดบทละครรักของตัวเองได้ จากโซฟาใหญ่ ห้องน้ำ บนเตียงหรือแม้กระทั่งบนพื้น นับสิบครั้ง และจวบจนกว่าฤทธิ์ของยานั้นจะหมดไปจากกายร้อน นั่นก็ทำให้ร่างเล็กอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง และหมดสติลงในที่สุด...
[สายวันต่อมา]
“อุ้ย!” เสียงร้องของเมนิลาดังขึ้นเพราะความเจ็บปวดรวดร้าวระบมในร่างกาย เมื่อเธอกำลังประคับประคองร่างอันบอบช้ำของตัวเองลงจากเตียงกว้าง เสียงลมหายใจของคนตัวใหญ่ ยังคงสม่ำเสมอ ร่างกายไม่ไหวติง
‘เมนิลาไม่อาจอยู่เผชิญหน้ากับเขาได้อีกแล้ว’ เธอรู้ผลจากสิ่งที่ตัวเองทำลงไปแล้ว ‘พี่คิมไม่ได้รักเธอจริงๆ’
ร่างของเมนิลาเดินออกมาจากห้องนอนใหญ่ด้วยผ้าขนหนูพันกายผืนใหญ่ เธอมองหาชุดเสื้อผ้า ที่เธอพอจะใส่ออกจากห้องนี้ไปได้ ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่ตู้เสื้อผ้าเจ้าของห้อง ‘คงต้องใส่เสื้อผ้าพี่คิม’
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! เสียงแอพพลิเคชั่นแชทดังขึ้นรัวๆ
ณิชา : คิมคะ ตื่นหรือยังคะที่รัก
ณิชา : [สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ]
ณิชา : วันนี้เรามีนัดกันนะคะ คิมจะพาณิชาไปเที่ยว ยังจำได้ไหมเอ่ย รับสายณิชาหน่อยสิคะ [อิโมจิรูปหัวใจ]
ขอบตาสวยร้อนผ่าว เมื่อชะโงกหน้าเหลือบมอง และอ่านข้อความแชทนั้น ‘นี่คือเหตุผลที่แท้จริงสินะ ที่ทำให้พี่คิมเลิกรักเรา’
ตึ๊ด! ตึ๊ด! ตึ๊ด! เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เมนิลารีบคว้าเอาไปวางไว้บนเบาะโซฟา เพื่อไม่ให้เสียงสั่นเรียกเข้านั้นดัง จนทำให้เจ้าของห้องตื่น
มือบางสั่นระริก ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นไหลเป็นทางยาวลากผ่านสองแก้มสวย ม่านน้ำตาบดบังจนทำให้เมนิลาที่กำลังแหวกหาเสื้อผ้าในตู้มองไม่เห็น ความเจ็บปวดในหัวใจ มันมากจนจุกตันในลำคอ
แกร๊ก! เสียงประตูอัตโนมัติถูกเปิด พร้อมกับร่างอันบอบช้ำ ของหญิงสาวเดินจากไป โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
‘ขอบคุณความกล้าของตัวเอง ที่ทำให้เมนิลารู้ว่า เมนิลาไม่ได้เป็นที่รักของพี่คิมอีกต่อไปแล้ว เมนิลาพอแล้ว คำว่าพี่คิมจะแต่งงานกับยูจิน ไม่มีอีกต่อไป ทุกอย่างเป็นเพียงภาพจำ ในวัยเด็กเท่านั้น’
[บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น]
“ยะ-ยูจิน” น้ำเสียงอันสั่นเครือเอ่ยขึ้น เมื่อร่างของเพื่อนรักปพิชญาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ แววตาอันเจ็บช้ำแสดงออกมาอย่างชัดเจน ‘ไม่ต้องบอก ปพิชญาก็รู้ ว่าเกิดอะไรขึ้น’
“ฉะ-ฉัน ขออยู่บ้านแกสักพักได้ไหม นานิ”
น้ำเสียงอันแหบแห้งเอ่ยร้องขอ เรียวขาสั่นระริกเพราะเริ่มทรงตัวเองไม่อยู่
“มาสิ เพื่อนรัก ฉันจะดูแลแกเอง”
ปพิชญาโผเข้าไปโอบกอดเพื่อนรักเอาไว้ น้ำตาแห่งความสงสารไหลออกมาอัตโนมัติ ซึ่งถูกตั้งไว้จากก้นบึ้งในหัวใจ
[คฤหาสน์เชาวกรกูล]
“เคน ติดต่อยูจินได้มั้ยลูก พ่อโทรหาเป็นสิบสายแล้ว ไม่เห็นน้องจะรับสาย น้องเป็นอะไรหรือเปล่า ความจริงวันนี้เป็นวันเสาร์นี่ ไม่ได้ไปเรียน แล้ววันนี้ไปไหน”
คมกล้ามีธุระที่จะต้องคุยกับบุตรสาวบุญธรรม เรื่องที่จะส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศ คมกล้าเองไม่อยากบังคับลูกสาวแล้ว เขาเลี้ยงเธอมาอย่างอิสระ และการตัดสินใจทั้งหมด นั่นก็ขึ้นอยู่กับเธอเอง ถึงแม้จะต้องขัดใจกับภรรยาของเขาบ้างก็ตาม
“ผมโทรไปหายูจินหลายรอบแล้วครับพ่อ แชทไปก็ไม่อ่าน ผมกำลังค้นเบอร์เพื่อนสนิทของยูจินอยู่ครับ”
ความร้อนรนใจ ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้เป็นพ่อคนเดียวเสียเมื่อไหร่ เวธัสเองก็ร้อนใจไม่แพ้กัน เมื่อคืนเขานั่งรอเมนิลาจนดึก แต่ก็ไร้วี่แววว่าเธอจะกลับเข้าบ้าน วันนี้ตอนเช้าเขาเลยต้องโทรหาเมนิลาอีกครั้ง
..................................
“อืม ลองดูซิ ว่าน้องไปอยู่ไหน ปกติยูจินไม่เคยไปค้างที่ไหนนะ ถ้าจะไป น้องจะโทรบอกตลอด” “ครับพ่อ” เพื่อนในเฟสของเมนิลานั้นหาไม่ยาก เพราะมีเพียงไม่กี่คน นิ้วเรียวแกร่งเลื่อนกดดูไปเรื่อยๆ จนสะดุดเข้ากับเด็กสาวคนหนึ่ง ที่หน้าตาออกจะคล้ายคลึงกับเมนิลามาก โพสต์ท่าคู่กัน ทั้งรูปร่าง สัดส่วนใกล้เคียงกัน เวธัสตัดสินใจ พิมพ์แชททันที ‘สวัสดีครับ ผมเวธัส เป็นพี่ชายของยูจินนะครับ ถ้าได้อ่านข้อความนี้แล้ว โปรดตอบกลับมาหาผมหน่อยครับ ทางบ้านเป็นห่วงยูจินมากครับ’ ติ๊ง! เสียงแอพพลิเคชั่นแชทดังขึ้น ‘ใครกัน?’ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน เมื่อเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งจากคนนิรนาม ‘พี่เคน’ นานิ : ยูจินอยู่ที่บ้านนานิค่ะพี่เคน เมื่อคืนยูจินนอนที่นี่ค่ะ ตอนนี้หลับอยู่ค่ะ เดี๋ยวถ้ายูจินตื่นเมื่อไหร่ จะบอกยูจินให้นะคะ ปพิชญาหันไปมองเพื่อนรัก ที่หลับสนิทอยู่บนเตียงของเธอ ปพิชญาไม่ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนรักแม้แต่น้อย เธอทราบดีว่า เมนิลาเจ็บปวดเพียงใด ปพิชญาก็ได้แต่ให้กำลังใจกับเพื่อนรักของตัวเองเท่านั้น อย่างที่บอก ปพิชญาไม่เคยมีความรัก
“หือ? อะไรนะ! ลูกตัดสินใจจะไปเรียนต่อ ลูกคิดดีแล้วหรือยูจิน มีใครบังคับหนู หรือพูดอะไรกับหนูหรือเปล่า”คมกล้าชะงักกับคำตอบของบุตรสาว เขาไม่คิดว่า เมนิลาจะยอมไปโดยง่ายดายขนาดนี้ “ไม่มีใครบังคับลูกค่ะคุณพ่อ ยูจินตัดสินใจเองค่ะ”ความเจ็บช้ำต่างหาก ที่เป็นตัวตัดสินใจเรื่องนี้ให้กับเธอ เพราะเธออยากหลีกหนีเรื่องราวทุกอย่าง ทิ้งความเจ็บทั้งหมดที่เกิดขึ้นไว้ที่นี่ “พ่อตกใจจริงๆ เลยนะ ทั้งที่พี่เคนของลูก บอกพ่อว่าหนูไม่อยากไปเรียนต่อด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรขึ้นกับหนู หือ บอกพ่อได้มั้ยลูก” “มะ-ไม่มีค่ะคุณพ่อ ยูจินตัดสินใจเองค่ะ ไม่เกี่ยวกับใครค่ะ” “หรือเป็นเพราะพี่คิมไปพูดอะไรกับลูกหรือเปล่า พ่อเห็นป้าของหนูบอกว่า หนูกับพี่คิมมีปัญหากัน มันเรื่องอะไรลูก พ่อว่าจะถามลูก เมื่อวันก่อน ลูกทั้งสองก็ไม่ได้มาทานข้าวร่วมกันเหมือนทุกครั้ง” “ยูจินไม่ได้เจอพี่คิมเลยค่ะคุณพ่อ และระหว่างยูจินกับพี่คิมก็ยังเหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน เราแค่โตขึ้น พี่คิมก็ทำงาน ส่วนยูจินก็เรียนหนักค่ะ” เมนิลาไม่อยากพาดพิงอะไรกับเขาอีกแล้ว จบคือจบ เธอได้คำตอบแล้ว และว
ดูเหมือนจะพูดปลอบใจตัวเอง แต่จริงๆ แล้วกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย แต่ในเมื่อเมนิลาตัดสินใจแล้ว เธอก็จะทำให้ได้ “แล้วพี่คิมแกรู้หรือยัง?”รู้ว่ามันขยี้ใจเพื่อน แต่ปพิชญาก็ยังแอบหวัง ว่าเมนิลากับพี่คิม จะปรับความเข้าใจกันได้ “ไม่รู้สิ คงไม่รู้ และไม่ได้อยากรู้หรอก พี่คิมบอกฉันแล้ว ว่าไม่เคยรักฉัน และไม่คิดจะรัก ฉันเองต่างหาก ที่ไม่ยอมเข้าใจ ยังหลงคิดว่าพี่คิมแกล้งหยอก” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ทีไร ใจของเมนิลาเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ทำยังไงได้ แผลยังสดใหม่อยู่นี่ “แกคงไม่ญาติดีกับพี่คิมอีกแล้วใช่มั้ยยูจิน” “ฉันไม่โกรธพี่คิมหรอกนะ ฉันเข้าใจ ความรักแบบเด็กๆ มันไม่ได้มีค่าสำหรับผู้ใหญ่หรอก พี่คิมก็แค่พูดเล่นๆ แค่นั้นเอง ฉันซะอีก ที่ดันคิดจริงจัง”คำยืนยันที่ชัดเจนที่สุดคือ เขาเลือกไปกับแฟนเขา และไม่เคยสนใจที่จะติดต่อกลับ ‘เลิกคิดได้แล้วเมนิลา เธอไม่ได้มีค่ามากมายขนาดนั้น’[เย็นวันศุกร์ คฤหาสน์เชาวกรกูล] “วันนี้น่าจะพร้อมหน้ากันนะ เห็นว่าวันนี้ตาคิมจะแวะมาทานข้าวที่บ้าน”คมกล้าเอ่ยขึ้น ในระหว่างรอบุคคลที่กำลังเอ่ยถึง “นั่นสิคะคุณพ
[ห้องรับแขก] หลังจากมื้อเย็นผ่านไป ทุกคนแยกย้ายไปจนหมด คิมหันต์ก็ให้เมนิลาอยู่ก่อน เขามีเรื่องต้องเคลียร์กับเธอ “ไหนเราลองบอกเหตุผลที่แท้จริงของเรา มาให้พี่ฟังอีกทีซิ ยูจิน ทำไมเราถึงตัดสินใจแบบนี้” คิมหันต์เปิดประเด็นสงสัยทันที “ไปเพราะอยากไปค่ะพี่คิม พี่ยังไม่เข้าใจอะไรอีกคะ”ดวงตากลมจ้องมองไปยังใบหน้าคมเข้มอันหล่อเหลา เมื่อก่อนเมนิลายังแอบคิด ว่าพี่คิมของเธอเหมือนกับดาราเกาหลี หล่อ ขาว ใส ริมฝีปากชมพู รูปร่างสูง น่าจะ 187 เซ็นต์ หุ่นล่ำบึก ซิกแพคเต็มหน้าท้อง จนกระทั่งตอนนี้ พี่คิมของเมนิลา ก็ยังเหมือนดาราเกาหลีคนนั้น แต่เพิ่มเติม คือมาดเข้มมากขึ้น แต่ว่าพี่คิมก็ไม่ใช่ของเธออีกต่อไปแล้ว T-T “ยูจิน พี่ถามเรา ไม่ได้ยินเหรอ” “ห๊ะ! อะไรนะคะ” เมนิลาตกใจเสียงของพี่ชาย ที่ปลุกภวังค์ความคิดของเธอ “เราเป็นอะไร พี่ถามว่ายูจินโกรธพี่ใช่มั้ย เรื่องนั้น” “ไม่ค่ะ ยูจินไม่โกรธ เพราะยูจินเป็นคนสร้างเรื่องมาเอง พี่คิมไม่ต้องห่วงค่ะ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้อย่างแน่นอน และไม่ต้องกังวล ว่ายูจินจะท้องหรอกค่ะ ยูจินเตรียมเรื่องทุกอย่างหมดแล
[อีกเกือบ 5 ปีต่อมา] นานิ : แก! ฉันเจอพี่เคนด้วยแหละ วันนี้พี่เคนมาเป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ที่มหา’ลัยของฉัน สาวๆ กรี๊ดกันสนั่นเลยนะ พี่เคนถามฉันเรื่องแก ว่าพักนี้ทำไมแกไม่ตอบแชทพี่เขาล่ะ นานิ : [สติ๊กเกอร์] ยูจิน : จริงเหรอ! แล้วพี่เคนคุยอะไรกับแกต่อหรือเปล่า หรือพาแกไปทานข้าวมั้ย พักนี้ฉันเรียนหนัก และอยู่ในช่วง Extern (คำเรียกของนักศึกษาแพทย์ปีหก เป็นปีสุดท้ายของการเรียนแพทย์) ยูจิน : ฉันเลยไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ เรียนหนักมากแก แต่ก็อีกไม่กี่เดือนแล้ว ฉันจะได้กลับบ้านแล้วนะ นานิ : แกใจเด็ดมากเลยยูจิน แกอยู่ได้ยังไงเกือบหกปี โดยไม่ยอมกลับมาบ้านเลย ยูจิน : ฉันอยู่ที่นี่ ก็เหมือนอยู่ที่บ้านแหละ ทั้งแก พ่อกล้า พี่เคน ต่างก็คอยแชทหาฉันทุกวัน คุยกับฉันตลอด ฉันก็เลยรู้สึกเหมือนตัวเองได้อยู่บ้านแหละนะ นานิ : ดีจัง อีกไม่กี่เดือนเราก็เจอกันแล้วนะ อืม แล้วตอนแกเรียนจบ ลุงกล้ากับพี่เคน จะไปร่วมแสดงความยินดีกับแกหรือเปล่ายูจิน ยูจิน : พ่อกับพี่เคนก็อยากมานะ แต่ฉันปฏิเสธไปแล้ว เพราะฉันเองไม่อยากให้ยุ่งยากอะไร เลยบอก
“งั้น ยูจินต้องคารวะท่านหัวหน้าแล้วแหละค่ะ ^^” “ไม่เปลี่ยนเลยนะเรา เป็นเด็กตลอด” “พี่เคนเตรียมของขวัญให้ยูจินหรือยังคะ” “อืม เราอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ ถึงถามพี่แบบนี้” “นั่นสิ แต่พ่อเตรียมเรียบร้อยแล้วนะลูก ยูจินคงเปลี่ยนของขวัญพ่อไม่ได้แล้ว” “ยูจินอยากให้พี่เคน รับเพื่อนของยูจินมาทำงานที่โรงพยาบาลเราด้วยค่ะพี่เคน นานิไงคะพี่เคน นางก็จบพร้อมกับยูจินเหมือนกันค่ะ นี่ไงคะของขวัญของยูจิน” “แค่นี้เองหรือลูก ขอทั้งที ต้องขอให้เยอะกว่านี้สิลูก เรื่องเพื่อนของยูจิน ไม่ต้องขอหรอก พี่เคนรับอยู่แล้ว” “ครับพ่อ” “ไม่รู้ค่ะ ยูจินต้องขอไว้ก่อน ส่วนของขวัญอย่างอื่น ยูจินไม่รับแล้วค่ะ แค่คุณพ่อกับพี่เคน ช่วยเลี้ยงยูจินมาจนโต เรียนจบก็เพียงพอแล้วค่ะ” “ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะลูก ยูจินเป็นลูกของพ่อนะ และเป็นน้องสาวของพี่เคนด้วย เรื่องนี้พ่อกับพี่เคนก็ต้องเลี้ยงเราอยู่แล้ว เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะลูก” “นั่นสิยูจิน เอาเป็นว่าพี่เตรียมของขวัญไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องนานิ เพื่อนของเรา พี่จะร
“เห็นเราบอกว่าจะเริ่มทำงานอาทิตย์หน้า พี่คิดว่ายูจินน่าจะพักผ่อนสักพักก่อนก็ได้นะครับ ไปเรียนมาตั้งหกปี ออกไปเที่ยวสักเดือนสองเดือน ไม่เห็นต้องรีบทำงานเลยนี่ครับ”เวธัสมองน้องสาวบุญธรรมด้วยแววตาชื่นชมไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด เวธัสก็ยังรู้สึกอยู่เช่นเดิม อยู่อย่างนั้น “นั่นสิ พ่อก็เห็นด้วยกับพี่เคนนะลูก ยูจินพักผ่อนก่อน อย่าพึ่งเริ่มงานเลย ไปเที่ยวให้สนุกแล้วค่อยกลับมาทำงานก็ได้” “ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ พี่เคน ยูจินอยากทำงานแล้วค่ะ อีกอย่าง นานิ เพื่อนของยูจินก็พร้อมที่จะทำงานแล้วค่ะ ยูจินก็กะจะเริ่มพร้อมๆ กันกับเพื่อนค่ะ” “ถ้าอย่างนั้น ก็แล้วแต่หนูนะ พ่อเองก็แก่แล้ว ตอนนี้ก็ปล่อยให้ลูกๆ ดูแลกันไป ห่วงก็แต่ทำงานกันจนลืมมีหลานให้พ่อ ก็แค่นั้นแหละลูก” “คุณพี่ก็บอกลูกคุณพี่สิคะ ตอนนี้ตาคิมงอแง ไม่ยอมหมั้นกับหนูณิชาอีก ธีรตาก็ไม่รู้จะพูดกับลูกยังไงแล้วค่ะคุณพี่ เห็นทีต้องเป็นตาเคนแล้วมั้ง อายุก็เยอะแล้วไม่คิดจะมีครอบครัว แล้วจะมีทายาทสืบทอดตระกูลได้ยังไงกัน” “คุณเองก็คอยจัดการอยู่ไม่ใช่เหรอธีรตา เห็นเจ้ากี้เจ้าการ จับตา
[แผนกสูตินรี โรงพยาบาลเชาวกรกูล] “สวัสดีค่ะคุณหมอเวธัส” “เอ่อ สะ-สวัสดีครับ”เวธัสมองใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม “อะไรกันนานิ แกเรียกพี่เคนซะเต็มยศแบบนี้ พี่เคนทำตัวไม่ถูกแล้วนะเนี่ย” “ก็พี่เคนเขาเป็นหัวหน้า อีกอย่างก็เป็นเจ้าของที่นี่ แกจะให้ฉันเรียกแบบแกได้ยังไงยูจิน” ปพิชญากระซิบข้างหูเพื่อนสาว “ไม่เป็นไรครับ เรียกพี่ตามยูจินเถอะครับ นี่ห้องทำงานของยูจินกับนานินะครับ แผนกนี้มีทั้งหมอและพยาบาลเกือบยี่สิบคนครับ เดี๋ยวยังไงก็ค่อยๆ ทำความรู้จักกันนะครับ หมอพยาบาลที่นี่ส่วนใหญ่จะเข้าเวรเช้าบ่ายดึก จะไม่ค่อยเจอกันสักเท่าไหร่” “แล้วพี่เคนอยู่ฝ่ายบริหาร พี่เคนอยู่ห้องไหนคะ ยูจินจะได้ไปหาพี่เคนถูกค่ะ” “พี่ก็อยู่ห้องเดิมครับ ไม่ได้ย้ายไปไหน” “อุ้ย ดีเลยค่ะ ^^” “วันนี้ตอนเย็น หลังเลิกงาน พี่จะพาเราสองคนไปเลี้ยงต้อนรับนะครับ” “ว้าว ดีจังเลยค่ะพี่เคน มีหัวหน้าทั้งหล่อ และใจดีแบบนี้รักตายเลยค่ะ ใช่มั้ยนานิ ^^” “อ่อ เอ่อ ค่ะ” สายตาแบบจิกมองมาที่เพื่อนตัวแสบทันที “อืม วันนี้ยูจินกับนาน
ใบหน้าสวยร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงบทรักอันร้อนแรงของเธอกับพี่คิม ที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา ทั้งที่บ้านและเพนท์เฮ้าส์ของพี่คิม เมนิลาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าพี่คิมของเธอนั้น จะมีความต้องการมากขนาดนี้ ทุกที่ และเกือบทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน โซฟา บนพื้น หรือแม้กระทั่งในห้องครัว พี่คิมไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยสักครั้ง หนำซ้ำพลังยังล้นเหลือในตอนเช้าก่อนออกมาทำงานอีกด้วย ^^ “พี่รักเรานะ ยูจิน พี่คิมคนนี้รักยูจินนะครับ”เสียงทุ้มอันนุ่มนวลกระซิบข้างหู “ขอบคุณนะคะพี่คิม ที่พี่ทำตามสัญญาของพี่คิม ที่ให้กับยูจินไว้ เมื่อตอนห้าขวบค่ะ พี่คิมจะรักและดูแลยูจินตลอดไปจริงๆ นะคะ” “ตลอดไปชั่วชีวิต พี่สัญญาครับ” “ยูจินรักพี่คิมนะคะ รักมาตลอด ไม่เคยมีวันไหนเลยค่ะ ที่ยูจินจะหยุดรักพี่คิม ถึงแม้ตอนแรกอาจจะไม่เข้าใจพี่คิมสักเท่าไหร่ แต่ยูจินไม่เคยลืมพี่คิมเลยนะคะ กลับคลั่งรักพี่ไปอีก จนพี่คิมรำคาญ ไล่ยูจินให้ไปไกลๆ” “พี่ขอโทษครับ ต่อไปนี้ พี่คิมคนนี้ จะไม่ทำแบบนั้นกับยูจิน ของพี่อีกแล้วครับ จะรักและดูแลภรรยาคนนี้ตลอดไปครับ” “ยูจินก็เช่นกันค่
“อ๊า! นายนี่มัน อ๊ะ!” ญาณิศาไม่อาจต้านทานความรู้สึกกระสันรัญจวนนี้ได้อีกต่อไป ‘สักครั้งในชีวิต ญาณิศาขอทำตามใจตัวเองสักครั้ง ถ้าครั้งนี้พลาดอีก เธอจะไม่มีรักอีกแล้ว ตลอดชีวิต’ มือบางกดศีรษะของชายหนุ่มแนบลำตัว ทำให้ปากร้อนยิ่งละเลงปลายลิ้นไปที่ยอดปทุมสวย พรึ่บ! ชายหนุ่มผละออก พร้อมกับรีบถอดพันธนาการของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว มือหนาสั่นเทาในขณะที่กำลังปลดตะขอกางเกงออก เพราะความต้องการมันอัดแน่นเต็มเป้ากางเกงใหญ่ บวกกับความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างหนา “นายจะต้องรับผิดชอบฉันตลอดไป ถ้านายยังไม่หยุด!”เสียงหวานร้องเตือนคนตัวใหญ่ เมื่อสายตาของเธอ เหลือบเห็นแท่งใหญ่นั้น ผงาดอยู่ตรงหน้าของเธอ ใบหน้าสวยร้อนเห่อ เมื่อเห็นถึงความใหญ่โตของแท่งร้อนนั่น “ทั้งชีวิตเลยครับ ที่รัก โอววว์” ดุ้นใหญ่ลากไล้ไปมาตรงร่องกุหลาบสวย เพื่อแสดงให้เจ้าของร่างอวบอิ่ม ได้รับรู้ว่า เขารักเธอมากเพียงใด ความชื้นแฉะของร่องรัก ทำให้แท่งร้อนไล้ไปมาได้อย่างสะดวก “มันจะเจ็บไหม นายต้องอ่อนโยนกับฉันนะ อื้อ...”เจ้าของร่างเล็กยังคงคร่ำครวญไม่หยุด ญาญิศากึ่งกลัวกึ่งกล้า เธอไม่ใช่สาวแรกรุ่น ที
[ชลบุรี] “คุณยังไม่ให้คำตอบผมเลยนะครับ ว่าคุณจะแต่งงานกับผมหรือเปล่า ณิชา”สายตาคมมองร่างบาง ที่กำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างร้อนใจ วันนี้ครบกำหนดที่เธอกับเขาจะต้องกลับแล้ว “นายจะบ้าหรือไง พึ่งจะตกลงคบกันไปเมื่อวาน วันนี้นายก็มาขอฉันแต่งงานเนี่ยนะ”ญาณิศามองหนุ่มหน้าขาวใสสไตล์เกาหลี ดวงตากลมโตกวาดไปทั่วใบหน้าอันหล่อคมนั้นอย่างชั่งใจ เธอไม่รู้ว่าตัวเองเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน ญาณิศายอมรับว่าเธอไม่มั่นใจ ในความรักครั้งใหม่ของตัวเองมากนัก ก็อย่างที่เธอเคยบอกไว้ ว่าญาณิศาไม่ชอบคบเด็ก เธอชอบผู้ชายที่อายุมากกว่าเธอ สเปคของเธอก็คือแนวโอป้าเท่านั้น “ผมเริ่มรู้สึกว่าคุณ ไม่ได้อยากคบกับผมเลยนะครับ”สายตาอันหวาดระแวง กวาดไปทั่วดวงหน้าขาวใสของเธอ “นายหมายความว่ายังไง” “คุณก็แค่รำคาญที่ผมตื้อคุณใช่มั้ย ณิชา” “ไม่นะ...ฉันก็แค่ไม่ชอบคบผู้ชาย ที่อ่อนกว่าฉันก็เท่านั้นเอง ถ้านายแก่กว่าฉันสักสามปี หรืออายุเท่ากัน ฉันก็คงไม่ติดอะไร แต่เอาเป็นว่า ฉันจะพิจารณาคำขอแต่งงานของนายก็แล้วกันนะ หลังจากนี้ฉันขอเวลาสักพักนะ” “จะพิจารณาง
ริมฝีปากหนาจูบเข้าที่ขมับขวาของหญิงสาว ก่อนที่กอดร่างบางเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยเกยกับไหล่กว้าง เรียวแขนของเธอคล้องคอของเขาเอาไว้ หลังจากที่บทรักอันเร่าร้อนจบลง แต่ก็เพียงไม่นาน ความร้อนระอุประทุขึ้นแทรกเรือนกายของเธออีกครั้ง“พี่คิม มะ-มาอีกแล้วค่ะ อ๊ะ!”“เอาสิที่รัก สำหรับเรา พี่พร้อมเสมอ ยูจิน”บทรักบรรเลงอีกครั้ง อย่างดุเดือด ราวกับพายุในฤดูร้อนและอีกครั้งจนกว่าฤทธิ์ยากำหนัดนั้นจะสูญสิ้น!สองชั่วโมงผ่านไป…บนเตียงกว้าง...สองร่างอันเปลือยเปล่านอนแน่นิ่งแผ่หรา หลังจากมรสุมรักดุเดือดนั้นจบลง เสียงหอบหายใจปนกระเส่าของคนทั้งสองแผ่วเบาและลดลงตามลำดับ“ยูจิน…”“คะ?”“แต่งงานกับพี่เถอะ นะครับ พี่รักเรา”“ห๊ะ! อะไรนะพี่คิม”ร่างบางพลิกตัวขึ้นมาทับทาบผู้เป็นพี่ทันที ‘เมนิลาอยากเห็นสีหน้าของเขา นี่เธอฝันไปหรือว่าหูฝาดกันแน่’“พี่บอกว่า พี่รักเรา ยูจิน พี่รักน้องสาวตัวแสบคนนี้”นิ้วแกร่งจิ้มไปที่หน้าผากมน พร้อมกับผงกศีรษะขึ้น เพื่อจุ๊บไปที่หน้าผากหนึ่งที“ตอนไหนคะ?” ดวงตากลมโตกวาดไปทั่วใบหน้าของผู้เป็นพี่ เพื่อต้องการหาความจริงที่แสดงจากสีหน้า แววตาของคนพูด“ห้าขวบ”“พี่คิม!”“พี่รักเรา ตั้งแต่เร
“อ๊า! พะ-พี่คิม อื้อ” เมนิลาสะท้านไปทั่วเรือนร่าง สัมผัสร้อนจากมือของเขา ทำให้เรือนร่างของเธอร้อนระอุ เพราะความต้องการที่ถาโถมถูกกระตุ้นด้วยฤทธิ์ยา ผสมกับความกระสันสวาทที่แสนจะรัญจวนของเธอ ทำให้เมนิลารู้สึกวาบไหวจนช่องท้องหดเกร็ง “อึ้มม์” ริมฝีปากปากลากไล้เรื่อยมาตรงซอกคอขาวผ่อง จูบซับดูดเม้ม ใช้ฟันคมครูดเบาๆ ตรงเนื้ออ่อน จากนั้นไล่เรื่อยลงมาพร้อมกับมือหนาปลดกระดุม แหวกสาบเสื้อตัวสวย จนเจอเนินเนื้ออวบขาวสองก้อนใหญ่ “อร๊าง! พี่คิม อื้ออ” เสียงหวานร้องคราง พร้อมกับมือบางที่เกาะเกี่ยวไหล่กว้างเอาไว้แน่น เมนิลาต้องการ เธอต้องการผู้ชายคนนี้ “ครับ” ปากหนางับไปที่ปลายถันสีชมพูทันที หลังจากที่เขาปลดพันธนาการออกจนหมดสิ้น โดยท่อนบนเปลือยเปล่าปรากฎแก่สายตาของชายหนุ่ม ลิ้นสากลากไล้ละเลงไปที่ปลายถันแบบระรัว ฟันคมครูดเบาๆ ไปที่ลูกเชอรี่แดงสด “อ๊ะ! พะ-พี่คิม” นิ้วเรียวสวยแทรกไปยังกลุ่มผมดกดำของชายหนุ่ม ที่โน้มลงมา และกำลังดูดดื่มเต้าใหญ่ จากซ้ายไปขวา มือข้างหนึ่งบีบเคล้นเต้าขาว ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยไปที่ยอดปทุมแข็งชัน “ยะ-ยูจิน” เสียงแหบพร่าพึมพำกับยอด
[15 นาทีต่อมา...เพนท์เฮ้าส์] ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงกดรหัสหน้าประตู แกร๊ก! ประตูบานใหญ่ถูกเปิด ‘อยู่หรือเปล่าเนี่ย?’ เมนิลากวาดสายตา เข้าไปยังบริเวณภายในห้องใหญ่ ที่มีแสงไฟสลัวเปิดอยู่ เธอมองหาพี่ชายตัวแสบของเธอ ไปทั่วบริเวณห้องรับแขก ด้านนอก หรือแม้กระทั่งในห้องนอนใหญ่ ก็ไม่พบร่องรอยของพี่คิม มีเพียงแก้วกับขวดน้ำ วางอยู่บนโต๊ะ ดูจากสภาพแล้ว น่าจะพึ่งถูกเปิดอย่างแน่นอน แกร๊ก! เสียงประตูห้องน้ำใหญ่ถูกเปิด เมนิลาจ้องไปยังต้นเหตุเสียงนั้นทันที “พี่คิม!”ร่างสูงเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันรอบเอว หยอดน้ำเกาะแพรวพราวทั่วเรือนร่างกำยำ แผงอกกว้างที่มีขนหน้าอกขึ้นประปราย กล้ามเนื้อที่งดงามแข็งแกร่งแบ่งตัวเป็นมัดๆ ไล่ลงไปคือกล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวยงามแข็งแกร่ง อย่างคนสุขภาพดี “อืม” สายตาคมจับจ้องไปที่ร่างอวบอิ่ม ที่ยืนตะลึงค้างเติ่งอยู่กลางห้อง ริมฝีปากบางเผยอค้างไว้ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง และจ้องมองกลับมาที่เขา “ทำไม พี่คิมไม่รับโทรศัพท์คุณป้าคะ ยูจิน เอ่อ คุณป้าให้ยูจินมาดูพี่คิม ตะ-แต่ตอนนี้ พะ-พี่คิมน่าจะสบายดี งั้น ยูจ
“ก็ไม่นะ เฉยๆ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะได้ทุรนทุราย” “ก็นี่ไงครับ คุณไม่ได้เจ็บมาก คุณแค่เสียใจก็เท่านั้นเอง ถ้าคุณรักหมอคิมมากๆ คุณจะไม่เป็นแบบนี้หรอกครับ สภาพของคุณจะต้องแย่กว่านี้แน่นอนครับ” “อืม สรุป ฉันไม่ได้อกหักใช่มั้ย” “คนอกหักไม่ได้อยู่สภาพแบบคุณหรอกครับ”ราเชนทร์ส่งยิ้มให้กับหญิงสาวกับความน่ารักน่าเอ็นดูของเธอ จริงๆ เธอไม่ได้โตเลยสักนิด กลับเป็นเด็กมากกว่าอายุจริงเสียอีก “อ่าว เหรอ งั้น นายจะยังไงกับฉันต่อล่ะ ฉันมาคุยพ่อกับแม่นายแล้ว ไม่เห็นว่าท่านจะไม่โอเคกับฉันเลย หรือนายเป็นลูกคนเดียว ท่านเลยตามใจนาย เลยตามเลย” “คุณพ่อกับคุณแม่ท่านรักผมครับ ไม่ว่าผมจะรักใคร ท่านก็รักตามผมหมดแหละครับ ดังนั้น ผมรักคุณ ชอบคุณ ท่านก็รักและชอบคุณเหมือนกันครับ ^^” “จริงเหรอ...พูดก็พูดนะ ฉันยังแปลกใจไม่หายเลย กับหน้าตาและทุกอย่างที่เป็นนาย ฉันมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ว่านายชอบฉันตรงไหนกัน ทั้งที่ฉันไม่ได้ดูดีอะไรขนาดนั้น” “ผมก็พูดกับคุณเป็นร้อยครั้งแล้วนะครับ ว่าผมชอบคุณที่เป็นคุณครับ คุณเป็นคนตรงไปตรงมา ผมชอบคุณที่เป็นแบบนี้ครับ นี
[เช้าวันต่อมา] ‘นี่เวลาเกือบเก้าโมงแล้วนะ ทำไมยัยนานิ ถึงไม่ออกมาซะที’ เมนิลายืนลังเลอยู่หน้าห้อง 701 เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าที่จะเคาะประตูเรียกคนทั้งสองเลย เมื่อคืนเธอวางแผนทุกอย่างสำเร็จ แต่ไม่รู้ว่าที่เหลือ เพื่อนของเธอจะทำสำเร็จหรือเปล่า ได้แต่ลุ้นอยู่หน้าห้องของพี่ชายอยู่แบบนี้ ‘หรือจะโทรเข้าไปเรียก จะดีมั้ยนะ ยัยนานิ กับพี่เคนจะอายกันหรือเปล่าเนี่ย โอย! จะเอายังไงดี’ เมนิลาเดินไปเดินมา ราวกับไม่รู้ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไรดี [ด้านในห้อง] “นานิ นานิตื่นเถอะครับ”เวธัสรู้สึกตัวเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ค่ำคืนที่ผ่านมา เขาและเธอมีความสุขอย่างที่สุด การร่วมรักนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ร่างบางอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง และไม่ยอมตื่นจากการนิทราหลับใหล “อืม...ขอนอนอีกหน่อยนะ ยูจิน”เสียงเล็กอันแหบแห้งโต้กลับ ทั้งที่ดวงตายังปิดสนิทอยู่ “แต่เรามีกิจกรรมต่อนะครับวันนี้ ตื่นเถอะครับ”สายตาคมเข้ม จ้องไปยังใบหน้าขาวนวลเนียน อันบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอในยามหลับใหล จากนี้เขาจะรีบจัดการ เรื่องของเธอกับเขา การแต่งงานอาจถูกกำหนดไว้เร็วๆ
“อุ้ย พี่เคน อื้อ” เสียงใสร้องครางทันที เมื่อมีบางอย่างสัมผัสที่ต้นขาของเธอ มือทั้งสองข้างของเธอเกาะเกี่ยวลำคอแกร่งเอาไว้แน่น ความซาบซ่านแผ่ไปรอบกายอวบอิ่ม ร่างเล็กเบียดแซะเร่งคนตัวใหญ่ อย่างกล้าหาญ “นานิ โอวว์” จูบร้อนบดขยี้อย่างรุนแรง ความปรารถนาแผ่ซ่านทั่วร่างกำยำ มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังขาวเนียนไร้อาภรณ์ วกกลับมาด้านหน้า ก็พบกับปทุมลูกใหญ่ มือหนาบีบเคล้นอย่างหนักหน่วง จนร่างบางสะท้านขึ้นมาทันใด “อ๊า! พะ-พี่เคน อูยย์” ร่างบางห่อปากอย่างสุดสยิว ความหวามไหว มวนอยู่ตรงช่องท้องของเธอ ทำให้ร่างบางดีดตัวขึ้น พร้อมกับกระดกปทุมใหญ่ขึ้น เข้าไปที่ปากหนาทันที “นานิ อึ้มม์” ปลายลิ้นใหญ่ตวัดไปที่ปลายถันสีชมพูสด ดูดเม้ม ละเลงไปที่ลูกเชอรี่อย่างเมามัว มืออีกข้างบีบเคล้นอกใหญ่จนทะลักล้นมือ “อร๊าง! อ๊า พี่เคนคะ นานิ สะ-เสียวค่ะ อื้ออ” มือบางขยุ้มไปที่กลุ่มผมดกดำของชายหนุ่ม ความรู้สึกซาบซ่านแทรกขึ้นตามลำดับ ร่างบางเด้งเข้าหาปากร้อนอย่างลืมตัว “คะ-ครับ นานิ โอวว์ ซี๊ดดดด” มือหนาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอันงดงาม ขาวโพลน ยามต้องแสงไฟบนหัวเตียง ทำให้เร่งคว