กานต์สิชาอยากจะขับรถกลับกรุงเทพเสียตั้งแต่ตอนนี้ แต่เพราะเห็นว่ามันดึกก็เลยจะรอให้ถึงเช้า แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืนนี้ตัวเองจะนอนหลับหรือเปล่า
เมื่อมาถึงห้องก็หยิบเบียร์ในตู้เย็นมาสองกระป๋องจากนั้นก็เดินลงมานอนบนอาบแดดข้างสระว่ายน้ำ เธอแหงนมองพระจันทร์ดวงโตแล้วยิ้มให้กับมันด้วยน้ำตา
หลังจากเบียร์กระป๋องแรกหมดหญิงสาวก็เปิดกระป๋องที่สองตอนนี้บริเวณสระว่ายน้ำไม่มีใครเลยนอกจากเธอคนเดียว
กานต์สิชามองพระจันทร์และคิดเรื่องของตนเองแต่ก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงเหมือนคนกระโดดน้ำ เธอหันไปมองก็เห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์
ชายหนุ่มว่ายน้ำกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบก็เห็นว่าตอนนี้มีคนนั่งอยู่ริมสระเขาก็รีบว่ายเข้ามาใกล้
“ผมขอโทษทำให้บรรยากาศเงียบๆ ขอบคุณพังลงเพราะเสียงว่ายน้ำของผม ผมคิดว่าตัวเองลงมาว่ายน้ำเวลาดึกขนาดนี้ก็คงจะไม่รบกวนใครแต่ก็ไม่คิดเลยว่าจะมีคนนั่งอยู่ด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“ทำไมคุณมานั่งอยู่ตรงนี้คือคนเดียวล่ะ มันดึกมาแล้วนะครับ”
“ค่ะมันดึกมาก แล้วเราทำไมคุณถึงมาว่ายน้ำเวลานี้ล่ะคะ” หญิงสาวถามกลับ
“เพราะช่วงหัวค่ำคนเยอะครับ ผมว่ามาว่ายตอนที่ไม่มีใครมันน่าจะดีกว่า อีกอย่างคืนนี้พระจันทร์ก็สวยมาก ผมว่ามันดีที่ได้ว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางพระจันทร์ดวงโตแบบนี้”
“ใช่ค่ะคืนนี้พระจันทร์สวยมาก” หญิงสาวพูดแล้วแหงนมองมองพระจันทร์ที่มันสวยมากหากในยามปกติเธอคงรู้สึกดีกว่านี้
แสงไฟจากโคมไฟจากบริเวณข้างสระว่ายน้ำทำให้ชายหนุ่มเห็นว่าตอนนี้เธอมีคราบน้ำตาเกาะอยู่
เขาไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้กำลังเศร้าหรือเสียใจเรื่องอะไรแต่เขาก็ไม่ชอบเลยที่เห็นใครเศร้าท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามในคืนพระจันทร์เต็มดวงแบบนี้
“ให้ผมขึ้นไปนั่งคุยกับคุณด้วยได้ไหม”
“ได้สิ” เพราะตอนนี้เธอกำลังอยากจะคุยกับใครสักคนจึงตอบตกลงให้เขามาคุยด้วยทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
เมื่อหญิงสาวอนุญาตชายหนุ่มก็รีบว่ายน้ำไปยังจุดแรกที่ตนเองโดดลงมาเขาหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำขึ้นมาสวมก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ หญิงสาวและถือกระป๋องเบียร์ของตนเองมาด้วย
“คุณก็ดื่มเหมือนกันเหรอครับ”
“ค่ะ”
หญิงสาวตอบและเมื่อเขายื่นกระป๋องเบียร์มาให้เธอก็เอากระป๋องของตนเองไปชน
“ผมขอรู้ชื่อคุณได้ไหม”
“ครีมค่ะ”
“ผมเปรมครับชื่อจริงคือ....” ปุริมปรัชญ์ยังพูดไม่จบเธอก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ครีมว่าบอกแค่ชื่อเล่นก็พอค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคุณครีม”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะคุณเปรม”
“วันนี้เป็นวันลอยกระทงคุณไปลอยกระทงแล้วเหรอครับ” ชายหนุ่มชวนคุย
“ค่ะครีมไปลอยกระทงมาแล้ว แล้วคุณล่ะ”
“ผมไม่ได้ไปลอยกระทงเหรอครับคนเยอะผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่” ปุริมปรัชญ์ไม่ค่อยชอบออกไปเจอคนเยอะๆ เขาชอบอยู่เงียบๆ อย่างวันนี้เขาก็รอให้คนกลับขึ้นห้องกันหมดแล้วจึงลงมาว่ายน้ำ
“คนเยอะจริงอย่างที่คุณพูดนั่นแหละค่ะ แต่งานลอยกระทงมีแค่ปีละครั้งครีมก็เลยออกมาลอยกระทงค่ะ” หญิงสาวอยากจะพูดต่อเหลือเกินว่ามันเป็นลอยกระทงที่เธอจะจำไปตลอด
“แล้วงานไม่สนุกเหรอครับ”
“ทำไมคุณถึงคิดว่างานไม่สนุกล่ะ”
“ก็สีหน้าคุณตอนนี้มันดูไม่ดีเลย”
“สีหน้าของครีมสังเกตง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ใช่ครับสีหน้าคุณตอนนี้มันดูไม่มีความสุขเลย มีอะไรหรือเปล่าเล่าให้ผมฟังได้นะ”
“แต่เราเพิ่งเจอกันครีมคงไม่เอาเรื่องส่วนตัวไปให้ไปเล่าให้คุณฟังหรอกนะคะระหว่างเรามันก็คือคนแปลกหน้า”
“มันก็ดีไม่ใช่เหรอครับเล่าเรื่องให้คนแปลกหน้าฟังเพราะคุณจะเล่าเรื่องอะไรมาผมก็ได้แต่รับฟังและไม่เอาเรื่องของคุณไปพูดให้คนอื่นฟังอย่างแน่นอน”
“คุณกำลังทำตัวเหมือนนักจิตวิทยาเลยนะคะ”
หญิงสาวนึกถึงคำพูดของน้องสาวที่มักจะพูดกับคนที่เข้ารับคำปรึกษาเพราะทุกครั้งที่ได้ฟังเรื่องราวน้องสาวของเธอก็ไม่เคยจะเอามาเล่าให้ใครๆ ฟังเพราะทุกอย่างมันถือเป็นความลับแล้วมันคงดีไม่น้อยถ้าเธอได้เล่าเรื่องแบบนี้ให้ใครสักคนฟังโดยที่อีกคนจะไม่เอาเรื่องของเธอไปพูดต่อ ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้รู้จักเธอมาก่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ทำให้เธอเสียใจนั้นเป็นใครถ้าหากเธอได้ระบายออกไปบ้างมันก็คงจะดี
“ผมยินดีจะเป็นนักจิตวิทยาของคุณนะ แล้วจะเล่าให้ผมฟังไหม”
“มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะมันก็เป็นเรื่องโง่ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่ง”
“คุณคงไม่ได้หมายถึงตัวเองใช่ไหมครีม”
“ครีมหมายถึงตัวเองนั่นแหละค่ะ”
“ทำไมถึงว่าตัวเองโง่แบบนั้นล่ะครับ”
“ก็มันจริงนี่คะคุณถ้ารู้ว่าเรื่องที่ครีมจะเล่าเป็นเรื่องของผู้หญิงโง่ๆ แล้วคุณอยากจะฟังมันไหม”
“ผมจะไม่ตัดสินว่ามันจะเป็นเรื่องโง่หรือเปล่าจนกว่าผมจะได้ฟังเรื่องของเธอ”
“ครีมจะเล่าให้คุณฟังก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่อยากจะฟังหรือเบื่อที่จะฟังก็บอกให้ครีมหยุดได้ตลอดนะ เพราะเรื่องที่ครีมจะเล่ามันยาวและน่าเบื่อหรือมันอาจจะทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดก็ได้”
“ลองเล่ามาก่อนนะครับอย่าเพิ่งกังวลเลย”
เมื่อกลับมาที่เมืองไทยกานต์สิชาก็พาปุริมปรัชญ์ไปยังบ้านคุณยายของเธอเพื่อบอกถึงเรื่องที่ตนเองจะแต่งงานคุณยายอวยพรให้ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขแต่ท่านไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานด้วยเพราะสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ กานต์สิชาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะปกติแล้วก็ไม่ได้ผูกพันกับคุณยายมากนักบิดามารดาของปุริมปรัชญ์เป็นคนไปหาฤกษ์จะชินแสชื่อดัง ฤกษ์ที่ได้มาก็ทำให้ปุริมปรัชญ์พอใจเป็นอย่างมากเนื่องจากอีกไม่ถึงสามเดือนเขาก็จะได้แต่งงานกับการต์สิชาและได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างถูกต้องวันนี้ทั้งสองมาถ่ายพรีเวดดิ้งในสตูแห่งหนึ่งโดยมีการต์ชิสาและเขมณัฏฐ์มาร่วมถ่ายด้วย เพราะเจ้าสาวทั้งสองคนอยากมีรูปที่ใส่ชุดแต่งงานคู่กัน“หมอเปรมรู้ไหมว่าคนไหนคือเค้กคนไหนคือครีม” เขมณัฏฐ์หันมาถามคู่เขยที่นั่นกำลังนั่งมองคนรักโพสต์ท่าถ่ายรูปอยู่“ผมคิดว่าผมรู้นะ ถ้ามองไกลๆ อาจจะไม่เห็นถึงความแตกต่างแต่ถ้าอยู่ใกล้ผมก็รู้ว่าคนไหนคือคนรักของผมก็เหมือนกับคุณนั่นแหละที่มองออกว่าคนไหนคือเค้ก”“ผมเองก็ไม่คิดหรอกนะว่าตัวเองจะแยกแยะคนที่หน้าตาเหมือนกันมากได้ ผมเคยมีเพื่อนเป็นฝาแฝดไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีผมก็ยังไม่เคยจำพวกเขาได้แต่เค้กกับ
หลังจากปรับความเข้าใจและตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วปุริมปรัชญ์และกานต์สิชาก็เดินทางมาที่ประเทศอังกฤษพร้อมกับการกานต์ชิสาน้องสาวฝาแฝดและเขมณัฏฐ์คนรักของเธอเพื่อพูดคุยกับบิดาของหญิงสาวเรื่องที่เขาจะขออนุญาตแต่งงานกับแฝดผู้พี่คุณสุทินบิดาของแฝดสาวอนุญาตให้ว่าที่ลูกเขยทั้งสองเข้าพบทีละคนโดยเริ่มจากเขมณัฏฐ์ก่อนชายหนุ่มเข้าไปห้องทำงานเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังของร้านอาหารเพื่อคุยกับคุณสุทินตามลำพังส่วนคนที่เหลือนั้นรออยู่ทางด้านนอกเขมณัฏฐ์หายเข้าไปไม่นานก็เดินออกจากห้องมาพร้อมกับรอยยิ้ม ปุริมปรัชญ์เห็นแล้วก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง“เป็นข่าวดีใช่ไหมคุณเข้ม” เขาถามคู่เขยคนน้อง“ครับเป็นข่าวดีมากๆ เลยผมก็ขอให้หมอเปรมได้ฟังคำตอบที่ดีเหมือนผมนะ”“ผมก็หวังอย่างั้น”“ขออวยพรให้คุณโชคดีนะครับ” เขมณัฏฐ์เองก็อยากให้ปุริมปรัชญ์ได้แต่งงานกับกานต์สิชาเพราะถ้าหากแฝดพี่ไม่แต่งงานแฝดน้องอย่างคนรักของเขาก็คงไม่ยอมแน่ๆ“สู้ๆ นะคะหมอเปรม พ่ออาจจะดูน่ากลัวไปบ้างแต่พ่อเป็นคนใจดีค่ะ เค้กว่าพ่อต้องอนุญาตแน่ๆ” กานต์ชิสาแฝดน้องที่สนิทกับบิดาบอกกับปุริมปรัชญ์ที่เป็นทั้งเจ้านายและว่าที่พี่เขย“ขอบคุณครับ”“ผมว่าคุณรีบเข้าไปเถอะเ
เมื่อมาถึงบ้านของชายหนุ่มแล้วกานต์สิชาก็เดินตรงเข้าไปในห้องครัวเพราะตอนอยู่ในงานเธอไม่ได้ดื่มน้ำเลยหญิงสาวหยิบน้ำขึ้นมาดื่มพอหันหลังกลับปุริมปรัชญ์ก็เดินตามเข้ามา“หิวน้ำเหรอคะ”“เปล่าหรอกพี่ครีมมากกว่า”“พี่เปรมพูดอะไรแบบนี้น่าเกลียด”“ก็หิวจริงวันนี้ครีมของพี่แต่งตัวเซ็กซี่มากเลยนะ” ชายหนุ่มมองเดรสปาดไหล่สีครีมที่มันแทบจะกลืนไปกับผิวของหญิงสาวด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย“พี่จะต้องสั่งเลขาแล้วว่าเวลาหาชุดให้ครีมต้องมิดชิดมากกว่านี้”“ทำไมคะ ชุดนี้มันโป๊เหรอคะ”“ก็นิดหน่อยพี่อยากพี่ไม่อยากให้คนอื่นมองแฟนของพี่เลย”“พี่เปรมขาคนอื่นเขาก็ได้แค่มอง”“พี่รู้แต่พี่ก็ไม่ชอบอยู่ดี ครีมของพี่สวยจริงๆ” เขาเกลี่ยไปนิ้วบริเวณใบหน้าจับปอยผมที่ปรกหน้าทัดหูแล้วมองหน้าเธอด้วยความรัก ปุริมปรัชญ์ไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะรักใครได้มากมายขนาดนี้“พี่รักครีมนะเราจะแต่งงานกันหลังจากกลับจากอังกฤษ ครีมจะแต่งงานกับพี่ใช่ไหม”“พี่เปรมกำลังขอครีมแต่งงานอยู่ใช่ไหม”“ครีมจะตกลงไหมล่ะ แต่วันนี้ไม่มีแหวนนะเขาทำไม่ทันน่ะ”“เขาทำไม่ทันพี่เปรมหมายถึงอะไรคะ”“พี่สั่งทำแหวนแล้วแต่ทางนั้นเขาทำไม่ทันพี่ขอติดไว้ก่อนนะ”“ครีมไม่ได้ซี
“อะไรนะคะเราเพิ่งตกลงเซ็นสัญญากันเมื่อวานแล้ววันนี้คุณจะมายกเลิกสัญญาแบบนี้น้ำหวานก็เสียหายสิคะ คนอื่นก็รู้กันแล้วว่าน้ำหวานกำลังจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโรงพยาบาลของคุณ”“แต่คุณก็ยังไม่ได้เริ่มงานกับทางโรงพยาบาลเลย เมื่อวานก็แค่ออกงานร่วมกันนะครับเพราะตามสัญญาแล้วคุณจะเริ่มงานอาทิตย์หน้า”“แต่ถ้าคนอื่นรู้ว่าน้ำหวานถูกยกเลิกสัญญาน้ำหวานจะต้องเสียหายนะคะ” ผู้จัดการของดาราสาวไม่ยอมเพราะถ้าเขาจะยกเลิกสัญญาเธอก็จะต้องได้ค่าฉีกสัญญา“คุณอยากได้ค่าเสียหายเท่าไหร่ล่ะ” ปุริมปรัชญ์ถามขึ้น“หมอเปรมคิดว่าจะเอาเงินมาฟาดหัวกันง่ายๆ เหรอคะ เงินแค่ไหนก็แลกกับชื่อเสียงไม่ได้หรอกค่ะ” น้ำหวานพูดด้วยความไม่พอใจแต่ลึกๆ ก็อยากรู้ว่าเขาจะให้เงินเท่าไร่“ห้าล้านบาทกับการยกเลิกสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์คุณจะรับไหมล่ะคุณน้ำหวาน ถ้ารับก็เซ็นชื่อลงในกระดาษสองแผ่นนี้ถ้าไม่รับเราก็คงจะต้องคุยกันอีกที”“เพราะข่าวนั้นเหรอคะคุณถึงยกเลิกสัญญาของน้ำหวาน” หญิงสาวหันไปถามเจ้าของโรงพยาบาลที่นั่งอยู่ทางหัวโต๊ะ“คำตอบมันก็อยู่ในคำถามที่คุณถามผมมาแล้วนะ ครับคุณน้ำหวานผมไม่อยากให้ลูกชายผมต้องมีข่าวเสียหายไม่ว่าจะกับใครทั้งนั้น”“แ
เมื่อวางสายจากคนรักแล้วปุริมปรัชญ์ก็เข้าไปคุยกับบิดาอีกครั้งเพื่อหาทางออกกับข่าวที่เกิดขึ้น“ตกลงหนูครีมจะไปงานวันมะรืนกับลูกใช่ไหม” คุณประพันธ์ถามลูกชายเพราะเขาไม่สบายใจกับข่าวนั้นและอยากให้ลูกชายพาว่าที่ลูกสะใภ้ไปออกงานเพื่อกลบข่าวเรื่องชายหนุ่มกับดาราสาว“ครับพ่อ ครีมตกลงจะไปงานกับผม พ่อคิดว่ามันจะได้ผลใช่ไหมครับ”“ได้ผลสิ พ่อว่าจากนนี้หนูครีมคงจะต้องออกงานคู่กับลูกบ่อยหน่อยนะคนจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วใครกันแน่คือเป็นแฟนของลูกและหนูครีมก็เป็นผู้หญิงที่สวยพ่อว่าถ้าได้แต่งหน้าแต่งตัวก็จะยิ่งสวย ลูกจัดการเรื่องชุดให้เธอด้วยนะ พ่ออยากให้การออกงานครั้งแรกของเธอกับลูกเป็นที่สนใจ พ่อว่าคงต้องแจ้งนักข่าวไว้สักหน่อยว่าลูกจะไปออกงาน”“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้งครับพ่อ”“เราไม่ใช่ดารานะเปรม คงไม่นักข่าวไปรอสัมภาษณ์เหมือนกับวันที่ออกงานกับน้ำหวานหรอก เขาจัดฉากได้เราก็จัดฉากได้ เดี๋ยวเรื่องนี้พ่อจะให้เลขาพ่อจัดการเองเปรมก็แค่ต้องเตรียมตอบคำถาม”“พ่อจะบอกนักข่าวเยอะไหมครับ”“ไม่หรอก บอกแค่คนเดียวเดี๋ยวพวกเขาก็ไปกระจายข่าวกันเอง ตอนนี้คนกำลังสนใจเรื่องลูกกับน้ำหวานถ้าพ่อบอกว่าเปรมจะออกงานกันแฟนตัวจริง
ปุริมปรัชญ์ติวางสายจากดาราสาวไปแล้วก็หันนะหันมามองคนข้างๆ“ได้ยินชัดแล้วใช่ไหมพี่บอกเธอไปแล้วว่าพี่มีแฟนแล้ว”“พี่คิดว่าจากนี้เธอไม่น่าจะยุ่งวุ่นวายกับพี่”“แต่เธอก็บอกอยู่นี่ค่ะว่าเธออยากเป็นแฟนพี่”“แต่พี่ไม่ได้อยากเป็นแฟนเธอนี่”“ครีมเชื่อใจพี่นะ ถ้าพี่อยากจะคบหากับเธอจริงๆ พี่จะไม่พูดแบบนั้นกับเธอเด็ดขาด”“ถ้าหากเธอเป็นคนธรรมดาทั่วไปครีมก็จะไม่เครียดเท่าไหร่แต่คุณน้ำหวานเธอทั้งสาวทั้งสวยและหุ่นดีมากๆ เวลายืนข้างๆ พี่เปรมมันดูเหมาะสมกันจริงๆ ค่ะ” กานต์สิชารู้ว่ารูปลักษณ์ของเธอนั้นสู้กับดาราสาวคนนั้นไม่ได้เลย“เธออาจจะสวยและผู้ชายหลายคนชอบแต่พี่ไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลย ครีมก็อย่าคิดมากเลยนะนอนกันเถอะพรุ่งนี้จะต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า”“พี่คิดว่าพรุ่งนี้จะมีข่าวอะไรเกี่ยวกับพี่ออกมาอีกไหมคะ”“คงไม่แล้ว ถ้าครีมโดนผู้ชายปฏิเสธแบบนี้ครีมจะทำยังไงล่ะ”“ถ้าเป็นครีมก็น่าจะถอยค่ะ แต่ฟังจากเสียงคุณน้ำหวานแล้วเหมือนเธอจะไม่ยอมถอยเลย”“เธอจะทำอะไรก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเธอเพราะพี่ไม่ได้สนใจพี่ก็บอกแล้วพี่มีครีมคนเดียวนอนนะพี่ง่วงจริงๆ” เขาเอื้อมมือปิดไฟที่หัวตัวเองและดึงคนรักเข้ามากอดไม่นานนักทั้ง