กองทัพนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ข้างกายมีสาวสวยห้อมล้อมเต็มไปหมด แต่สายตากลับจับจ้องแต่ผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีขาวทรวดทรงองค์เอวไม่ต้องพูดถึง
‘นมแทบทะลักออกมา เขามองแต่นมจนเมานมมากกว่าเมาเหล้า’
“ไอ้เหี้*ย ทัพมึงจะจ้องน้องเขาอีกนานมั้ย” ไต้ฝุ่นไม่อยากจะเชื่อว่าสาวสวยคนนั้นพอแต่งตัวออกมาแล้ว สวยราวกับนางฟ้า
“กูก็ชอบมองคนสวยไปเรื่อย”
“กูเห็นมึงมองแต่นมน้องเขา” แม็กนัสคิดอะไรออกจึงเรียกเดือนเมษามาที่โต๊ะตัวเองนั่งอยู่ และให้น้องนั่งชงเหล้าให้พวกเขาแทน แม็กนัสยิ่งชอบใจที่เห็นกองทัพเริ่มอยู่ไม่นิ่ง
“น้องเมษามากับใครครับ กลับกับพี่มั้ย”
“น้องเมษาอย่าไปกับมัน...มันเงี่ยนบ่อยไปกับพี่ดีกว่าส่งถึงห้องพักเลย” แม็กนัสพูดสวนขึ้นมาหากปล่อยไปกับไต้ฝุ่น อนาคตของน้องดับแน่
“กูเพื่อนมึงมั้ยครับ น้องเมษาว่าใครหล่อกว่ากันครับ พี่ ไอ้แม็ก หรือไอ้คนที่มันนั่งอมตีนอยู่นั่น”
เดือนเมษามองไปคนสุดท้ายที่ไต้ฝุ่นพูดถึง คือกองทัพที่นั่งนิ่งทำเหมือนว่าถูกใครบังคับมางานปาร์ตี้นี่ด้วย ตั้งแต่เธอมานั่งชงเหล้าให้เขาดื่มหมดไปหลายแก้ว จนดวงตาฉ่ำวาวไปหมด
“ให้หนูตอบจริงๆ เหรอคะ”
“ตอบมาเลยพวกพี่ไม่เสียใจหรอก”
“พี่ก็แล้วกันค่ะ” เดือนเมษาชี้ไปที่แม็กนัสเพราะเขาดูสภาพที่สุดในกลุ่ม แถมยังไม่ค่อยได้ยินข่าวลือเสียๆ หายๆ จากเขาเลย
“พี่เสียใจแย่พี่ไม่หล่อเหรอครับ”
“หล่อค่ะแต่สำส่อนไปหน่อย”
ไต้ฝุ่นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อน้องเขาพูดความจริง เห็นหน้าสวยๆ แบบนี้พอได้พูดแล้วรู้สึกเจ็บจี้ดไปถึงทรวงอก
“เขาไม่เรียกว่าสำส่อนพอดีเนื้อคู่พี่มันเยอะไปหน่อย พี่เลยเอาทุกคนเลย”
“แล้วคนนี้หล่อมั้ย?” แม็กนัสชี้ไปที่กองทัพตั้งแต่น้องมานั่งด้วยมันไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำ เขาเลยอยากแกล้งมัน
เดือนเมษามองสบตากับเขาแต่ต้องรีบหลบสายตา ไม่รู้ว่าเขาเกลียดอะไรเธอมาก่อนหรือเปล่า ถึงได้ทำหน้าเหมือนไม่ชอบขี้หน้าเธอแบบนั้น
“ไม่ค่ะขี้เก๊กไปหน่อยเกือบหล่อแล้วค่ะ”
“แต่ติดตรงที่เกือบแต่ไม่หล่อ” ไต้ฝุ่นกับแม็กนัสหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ครั้งแรกที่มีผู้หญิงมาพูดว่ากองทัพไม่หล่อ
ปึก!
กองทัพวางแก้วกระแทกกับโต๊ะจนเกิดเสียงดัง ทำให้ทุกคนต้องหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น เขาปรายตามองเดือนเมษานิดหนึ่งและหันกลับมาสนใจเพื่อนต่อ
“อะไรของมึงวะ”
“เหล้าหมดชงให้หน่อย”
“วันนี้มึงเมามากแล้วพอได้แล้วมั้ง”
“กูจองห้องไว้ให้มึงแล้วขึ้นไปนอนไป” ไต้ฝุ่นไม่เคยเห็นกองทัพเมาขนาดนี้มาก่อน ทำตัวยังกับคนอกหักสาวไม่รักอย่างนั้น
อีกด้านบีนั่งจ้องมองกลุ่มของกองทัพอยู่เธอเกลียดเดือนเมษา ทำไมมันต้องได้ไปนั่งชงเหล้าให้หนุ่มๆ ไม่ว่าจะรุ่นพี่หรือรุ่นน้องมักจะหลงเสน่ห์มันไปหมดเลย
เธอต้องหาทางแกล้งเดือนเมษา เมื่อคิดอะไรออกจึงหยิบของที่อยู่ในกระเป๋าออกมา ดีที่วันนี้เธอเตรียมมาด้วยกะว่าจะเอาไว้ใช้กับกองทัพ
“ใช้กับแกก่อนแล้วกัน”
บีหันไปชงเหล้าและหยดยาลงไปสามหยดและรีบเก็บไว้ที่เดิม เมื่อเห็นว่าเดือนเมษาเดินแยกตัวออกมา จึงรีบเดินเข้าไปทักทาย
“ร้อนเงินถึงขั้นยอมมาทำงานแบบนี้แล้วเหรอ”
“บีเธอมาด้วยเหรอ”
“มาในฐานะแขกไม่ใช่สินค้า” บีมองเดือนเมษาตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่คิดว่าคนแบบนี้จะมาทำงานแบบนี้เพราะคืนนี้ไม่ใช่แค่เอนเตอร์เทนลูกค้าธรรมดา แต่ต้องเอนเตอร์เทนกันถึงเตียงเลยทีเดียว
“หลีกทางด้วยฉันต้องทำงาน”
“โดนใครมอมเหล้ามาละ”
“...”
“ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยสินิดเดียวเอง” บีไม่ยอมแพ้คะยั้นคะยอให้เดือนเมษาดื่ม
“ถ้าฉันดื่มเธอจะเลิกวุ่นวายกับฉันใช่มั้ย”
“ตามนั้น”
เธอจึงคว้าเหล้าแก้วนั้นมาดื่มแต่ดื่มไปแค่นิดเดียวจึงพอ เธอยื่นแก้วให้บีและออกมาจากตรงนั้นแต่งานครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด เพราะสายตาที่มองมา
“มึงจะไปกับน้องเขามั้ยวันนี้”
“ทำไมกูต้องไปด้วยวะ” กองทัพไม่เข้าใจไหนว่าเป็นเด็กทุน แล้วมารับงานนี้ทำไมที่เขาดื่มเหล้าจนไม่สนใจพูดคุยกับใครก็เพราะเดือนเมษาคนเดียว
“ก็เผื่อว่าน้องเขาจะ...”
“กูไม่สนใจ”
“เออๆ ไม่สนใจก็ไม่สนใจทำไมต้องดุด้วย” ไต้ฝุ่นเลยเงียบเปลี่ยนเรื่องคุยต่อ สักพักเขาเห็นเดือนเมษากลับมาที่โต๊ะแต่ใบหน้าของเธอเหมือนจะไม่ไหว
“ไหวมั้ยครับ”
“ไหวค่ะ” เธอเริ่มมึนหัวแต่งานยังไม่จบเลยพยายามฝืนทำต่อให้เสร็จ อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงรับเงินมาแล้วต้องทำงานให้เต็มที่
“ไม่ไหวบอกพี่ได้นะ”
เดือนเมษาทำงานไปสักพักรู้สึกเริ่มร้อนหนาวสั่นเหมือนจะไม่สบาย ลมหายใจเริ่มติดขัดเธอเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อมองไปรอบๆ เห็นชายหญิงหลายคู่กำลังกอดจูบลูบคลำ
เดือนเมษาพยายามสะบัดไล่ความคิดตัวเอง ทำไมเห็นพวกเขาทำแบบนั้น เธออยากทำบ้างจึงแอบหนีมาเข้าห้องน้ำ ใช้ความเย็นล้างใบหน้า
“คืนนี้แกไม่รอดแน่”
“เธอพูดอะไร”
“ก็งานนี้ขายสวยไม่พอนะต้องหายตัวด้วย” บีเห็นอาการของเดือนเมษาแล้ว ยาน่าจะเริ่มออกฤทธิ์หญิงสาวยิ้มอย่างพึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองทำ
“หลีกไปอย่ามายุ่งกับฉัน”
“อยากเหรอบอกฉันได้นะ เดี๋ยวฉันหาคนมาระบายความอยากให้”
“ฉันไม่อยาก...” เดือนเมษาตัดสินใจเดินออกมาจากห้องน้ำ และเดินออกไปสูดอากาศที่บริสุทธิ์และเริ่มรู้ว่าร่างกายตัวเองมีความต้องการมากขึ้น จนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ไหว
“อ๊ะ ปะ...ปล่อย”
“อืม มาขวางทางทำมายยย” กองทัพที่เมาจนควบคุมสติไม่ได้เขาคว้าตัวหญิงสาวมากอด และพรึมพรำออกมา เขากำลังจะกลับห้องพักตัวเอง
“อื้อ อะ อย่าบีบก้น”
“อ่าส์ นุ่มมือมาก”
ตอนนี้ทั้งสองเริ่มไม่มีสติเดือนเมษากลับปล่อยให้เขาได้ทำตามอำเภอใจ เธอเองก็มีความสุขไม่น้อยที่เขาทำแบบนั้น ปากหนาโน้มลงมาจูบปากของหญิงสาว
“อื้ออออ”
“อืม”
กองทัพครางออกมาอย่างพอใจในรสจูบของคนตัวเล็ก ปกติเขาไม่เคยจูบกับใครเพราะเขาไม่ชอบ แต่กับผู้หญิงคนนี้เขาถูกใจเธอมาก
“ไปกับฉัน”
เดือนเมษาไม่ปฏิเสธเลยสักนิดเธอกลับเดินตามแรงของเขา จนเขาพามาหยุดที่ห้องพักในโรงแรมสุดหรูซึ่งอยู่ติดกับสนามแข่งรถ
ปากหนาไม่ยอมห่างจากปากนุ่มนั้น เขาล้วงมือลงไปคว้านหาคีย์การ์ดและรีบเปิดมันออกมา ตอนนี้เขาต้องการคนตรงหน้ามาก ซึ่งไม่ต่างจากเดือนเมษาไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ยินยอมไปหมด
เดือนเมษาตั้งท้องเข้าสู่ไตรมาสสุดท้าย กองทัพจึงยอมทิ้งชีวิตที่หรูหราในเมืองหลวง พาเดือนเมษากลับมาเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดอยู่นานเกือบเดือน “เหนื่อยไหมคะดื่มน้ำก่อน” “ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนแต่สนุกดีครับ” “ไม่ไหวก็พอนะคะ”ช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านต้องทำนากัน ซึ่งเป็นการทำนาตามช่วงฤดูการ กองทัพมาช่วยพ่อตาดำนาจนตัวเขาดำไปหมด ปกติก็เป็นคนผิวสีน้ำผึ้งอยู่แล้วไม่พอเพียงแค่นั้นหลังจากเสร็จการดำนา เขาอาสาเข้าไปเก็บไข่เป็ดในคอก และช่วงเช้าต้องปล่อยเป็ดให้ออกไปเดินเล่นและต้องกลับมารดน้ำปลูกผักอะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องทำ เขาถึงได้รู้คุณค่าของเงินว่ากว่าจะได้มาแต่ละบาทต้องแลกกับหยาดเหงื่อ“โอ๊ย”“พี่ทัพหนูบอกแล้วไงคะว่าไม่ไหวอย่าฝืน” เธออยากจะตีเขานักดื้อด้านจนตัวเองต้องเจ็บตัว เธอรีบพาเขาไปล้างมือ กองทัพขุดดินจนมือพุพองจากการเสียดสีของด้ามจอบ“แสบมั้ย”“นิดหน่อยแต่ทนได้”“ไม่ต้องทำแล้วค่ะตัวดำหมดแล้ว”กลับไปกรุงเทพครั้งนี้ใครจะทำเขาได้ กองทัพลูกชายนักธุรกิจชื่อดัง ต้องมาทำนาที่ต่างจังหวัดกับเมียตากแดดจนตัวดำแดดไปหมด“พี่อยากลองทำดูครับ”“ไปพักผ่อนนะคะอีกไม่กี่วันก็จะกลั
หลายเดือนต่อมา กองทัพนอนอยู่บนเตียงกว้างเขาเอาหูแนบกับท้องของเดือนเมษาที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว ซึ่งเขาได้ลูกสาวสมใจที่อยากได้ เขาชอบเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอนเป็นแบบนี้ทุกคืน ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานก็ตาม เขาเลิกเที่ยวและตั้งใจทำงานตอนนี้เขาฝึกงานจบแล้ว ในวันข้างหน้าก็จะเป็นวันที่เขาต้องทำงานหาเลี้ยงดูลูกกับเมีย ส่วนเมษานั้นดร็อปเรียนอย่างไม่กำหนด แต่กองทัพนั้นไม่คิดจะทำร้ายอนาคตของเธอ เขารอให้เธอคลอดและจะให้กลับไปเรียนเช่นเคย ตอนเช้าอีกวันเดือนเมษานัดทานข้าวกับเพื่อนสาวที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน นิดาและฟารีญาจะยุ่งกับการเรียกเพราะทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายแล้ว “ไม่น่าเชื่อเลยพี่ทัพจะเป็นคนที่แสนดีขนาดนี้” “อิจฉาแกจังเลยอ่ะ” “เขาสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ต้องรอดูกันไปนานๆ” นี่เพิ่งเริ่มต้นเพราะการแต่งงานมีครอบครัวไม่ใช่วันสุดท้ายของชีวิต แต่เป็นการเริ่มต้นต่างหาก “บางคนสันดานเปลี่ยนตอนมีลูก” นิดาได้ยินข่าวมาเยอะการที่เมียท้องและผัวแอบไปมีคนอื่น บางคนพอรู้ว่ามีลูกก็เผยตัวตนออกมา “ยัยบีเพื่อนเลิฟ
“พี่ทัพยิ้มอะไรคะ” ตั้งแต่เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จกองทัพก็นั่งส่งยิ้มให้เธอ จนเธอรู้สึกหลอนไปด้วย “บักห่าหนิ” เขาเปล่งเสียงออกมาไม่รู้ว่าตัวเองออกเสียงถูกหรือเปล่า แต่เห็นสีหน้าตกใจของเดือนเมษา “พูดอะไร” “แปลว่าหล่อไม่ใช่เหรอ” “ใครบอกคะ?” “ก็พ่อตาบอกยังพูดกับพี่อยู่เลย” เธอกลั้นเสียงหัวเราะไว้คงจะถูกพ่อของเธอหลอกตาด่ามาแน่ แต่เธอไม่ยอมบอกว่าคำที่เขาพูดมาไม่ได้แปลว่าหล่อตามที่เขาเข้าใจ “หัวเราะอะไร” “เปล่าค่ะ” . งานวิวาห์กะทันหันก็เกิดขึ้นจัดในหมู่บ้าน ด้วยน้ำเงินของคุณย่าเนรมิตงานใหญ่พอ ๆ กับงานวัด ซึ่งพ่อกับและพี่ชายของเขาก็มางานด้วย สินสอดทองหมั้นถูกจัดเตรียมมาพร้อมกับแก้วแหวนเงินทองและโฉนดที่ดิน ชาวบ้านต่างพากับอิจฉาเพราะแถวบ้านต่างจังหวัดค่าสินสอดหนึ่งแสนถือว่าเยอะมากแล้ว แต่นี่เงินสินสอดมากถึงสิบล้านแถมยังเป็นเงินสดถูกวางไว้ตรงหน้าพ่อแม่เจ้าสาว กองทัพนั่งยิ้มหน้าบานที่งานถูกจัดขึ้นมา ถือว่าเป็นการมัดมือชกเดือนเมษา พ่อแม่เขาได้ลูกสะใภ้ไม่ยังแถมหลานในท้องมาให้อีก “ทัพสวมแหวน
เดือนเมษาตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเมื่อคืนกองทัพแอบเข้ามานอนกับเธอ แต่คุณย่ากลับนำเอาเรื่องนี้พูดขึ้นมาต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ “ไหนๆ เด็กๆ ก็รักกันฉันอยากจะพูดคุยเรื่องนี้” ดูจากหลานชายแล้วน่าจะรักเดือนเมษามาก ถึงได้ยอมตามมาไกลถึงที่นี่ “เด็กๆ เขารักกันฉันอยากจะสู่ขอหนูเมษาจ๊ะ” “คุณย่าคะ?” “เด็กทั้งสองได้เสียกันแล้วหมั้นกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย” เดือนเมษาน้ำท่วมปากพูดไม่ออกเพราะกองทัพก็ไม่ปฏิเสธ เธอเกิดสับสนขึ้นมาเพราะคิดว่ายังไงแล้วกองทัพก็ไม่รักเธอ แค่อยากเอาชนะเธอก็เท่านั้น “บางทีในท้องของเมษาอาจจะมีลูกผมอยู่ในนั้นแล้วก็ได้ครับ” กองทัพพูดขึ้นเพราะเห็นว่าเธอเงียบ “พวกเราขอคุยกับลูกเป็นการส่วนตัวก่อนนะจ๊ะ” บุปผาพาเดือนเมษาออกมา และซักถามว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร ทำไมลูกถึงไม่ดีใจที่มีคนมาสู่ขอ “แต่งเลยลูกเขารวย” บัญชาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นขอแค่ลูกสาวสบายก็พอแล้ว จะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้ขึ้นกับคนทั้งสอง “พี่เงียบเลยนะ” “แม่จ๋าหนู...” “ทะเลาะอะไรกันลูก” “เปล่าจ๊ะ” มีแต่เธอ
“ทัพพาย่ามาที่ไหน ทำไมไม่บอกอะไรย่าเลย” แจ่มศรีถูกหลานชายสุดที่รักพาขึ้นรถมาในเช้าตรู่มุ่งหน้าออกต่างจังหวัด “ใกล้ถึงแล้วครับ” แล้วดูจีพีเอสซึ่งมองออกไปมีแต่ทุ่งนาและป่ามีหมูบ้านเล็กๆ อยู่ไม่ถึงร้อยหลังเขาไม่รู้ว่าหลังไหนเป็นบ้านของเดือนเมษา “แล้วพาย่ามาหาใคร?” “บรรยากาศเหมือนหนังผีในละครเลยค่ะคุณย่า” บัวที่ถูกบังคับให้ตามาดูคุณย่าคุณย่าด้วย ถึงกับขนลุกเพราะตอนนี้ใกล้มืดค่ำแล้ว “ขอโทษนะครับบ้านของเมษาไปทางไหนครับ” ดีที่ยังเห็นชาวบ้านผ่านไปผ่านมา จึงพอให้ถามได้ไม่อย่างนั้นคงจะหลงทางอยู่แบบนี้ “บ้านไผ๋ละ?” (บ้านใครละ) “เดือนเมษาครับ” “อ๋อ บ้านบักบัญชาติขับตรงไปกะฮอตแล้ว” (ขับตรงไปก็ถึงแล้ว) “ขอบคุณครับ” ถึงแม้จะฟังไม่ค่อยออกเท่าไรแต่เห็นจากการชี้ก็น่าจะใกล้ถึงแล้ว เขาขับตรงมาเรื่อยๆ จนมาถึงบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้หลังหนึ่ง “คุณย่ารออยู่ในรถก่อนนะครับ” “รีบมานะย่าเมื่อยมาก” เขาจะเดินลงไปถามไปใช่บ้านของเดือนเมษาไหม แต่โชคชะตาดันเข้าข้างเพราะเขาเห็นเดือนเมษากำลังทำอะไรสักอย่าง ความดีใจทำให้เข
“แค่คนคุยเหรอ” “…” ที่เขาเงียบเพราะกำลังถามใจตัวเองอยู่ว่าเขานั้นรักเดือนเมษา หรือแค่รู้สึกถูกใจแต่เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน “ถ้าไม่จริงจังเรากลับมาคบกันได้มั้ย” เธอยอมรับแบบไม่อายใครเลยว่าต้องการกลับมาคืนดีกับกองทัพ และรับไม่ได้หากเขามีคนรัก “…” “ทัพที่ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา” เธอพูดถึงเรื่องวันวาน ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ปีสามส่วนกองทัพนั้นเพิ่งเขาเรียนปีหนึ่งความรักของทั้งคู่นั้นสวยงามจนเธอถูกใจหนุ่มรุ่นพี่และเลิกรากับกองทัพไป “ผมรักน้องเขา…ผมกลับไปหาพี่ไม่ได้หรอก” เขาแกะมือของดาด้าออก และออกไปจากตรงนั้นเขาต้องรีบไปง้อเดือนเมษา และต้องรีบอธิบายให้ฟังทุกอย่าง แต่เขากลับมาสายไปเพราะเดือนเมษาเก็บกระเป๋ามุ่งหน้ากลับบ้านที่ต่างจังหวัดไปแล้ว เขาตามจะตามไปแต่เพื่อนกับห้ามไว้ “ปล่อยให้น้องเขาใจเย็นก่อน” “เออ ถ้าน้องเขาใจเย็นก็จะรับสายมึงเองแหละ” ไต้ฝุ่นมองเพื่อนที่พยายามโทรหาเดือนเมษาเป็นร้อยสาย มันไม่ยอมลดละความพยายาม “พวกมึงไม่เข้าใจกู” เขาอยากอธิบายอยากคุยกับเดือนเมษาใจจะขาด หากจะตามไปที่บ้านได้เ