แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูสูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนทำเป็นใจเย็น

เธอมองไปที่โจวอวี๋ชู “คุณโจว คุณเป็นแม่แท้ ๆ ของซืออวี่จริงเหรอคะ?”

โจวอวี๋ชูสบตากับเสิ่นชิงซู ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน “เนื่องจากหน้าที่การงานของฉันกับสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท เมื่อห้าปีก่อนฉันก็เลยต้องปกปิดความสัมพันธ์แม่ลูกกับซืออวี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้น่ะค่ะ”

เสิ่นชิงซูลมหายใจติดขัดไปชั่วขณะ “ถ้างั้นพ่อของซืออวี่…”

“ซืออวี่เป็นลูกของฉันกับซือเหยียนค่ะ”

น้ำเสียงของโจวอวี๋ชูแผ่วเบาและอ่อนโยน ทว่าคำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมานั้นกลับแปรสภาพเป็นมีดคมแล้วปักลงกลางใจเสิ่นชิงซูอย่างจัง!

เสิ่นชิงซูหายใจติดขัด ความเจ็บปวดที่หน้าอกราวกับหายใจไม่ออก ทำให้เธอสีหน้าซีดเผือดในชั่วพริบตา

เด็กที่เธอเห็นเหมือนเป็นลูกในไส้และพยายามเลี้ยงดูอย่างใส่ใจมาตลอดห้าปีนี้ กลับเป็นลูกที่เกิดจากฟู่ซือเหยียนกับโจวอวี๋ชู!

ดังนั้น ฟู่ซือเหยียนโกหกเธอมาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ

เขาไม่ได้นอกใจหลังแต่งงาน แต่โกหกและหลอกใช้เธอตั้งแต่แรกมาโดยตลอด!

“คุณเสิ่น ต้องขอโทษด้วยที่ปิดบังคุณมานานจนป่านนี้ ความจริงฉันเองก็แนะนำกับซือเหยียนตั้งแต่แรกแล้วว่าให้บอกคุณไปตามตรง แต่ซือเหยียนรู้สึกว่ายิ่งมีคนนอกที่รู้เรื่องนี้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดีน่ะค่ะ”

คำพูดทุกคำของโจวอวี๋ชูล้วนเป็นเหมือนเสียงปีศาจที่ดังก้องซ้ำ ๆ อยู่ในหัวเธอไม่หยุด

ที่แท้เธอก็เป็นคนนอกในสายตาของฟู่ซือเหยียน

เธอนึกว่าระหว่างพวกเขาที่อยู่ร่วมกันมาห้าปี ทั้งยังช่วยกันดูแลลูกชายด้วยกัน นอกจากจะไม่มีความรัก ก็พอนับได้ว่าเป็นคนในครอบครัวที่เชื่อใจกันและกันแล้ว

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคนเคียงหมอนของเธอจะเอาแต่ระวังเธอเพราะเห็นเป็นคนนอกมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้

เธอคิดไม่ตก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมฟู่ซือเหยียนต้องโกหกเธอด้วย?

หากฟู่ซือเหยียนบอกความจริงกับเธอตั้งแต่ต้น แล้วเธอจะปล่อยให้ตัวเองถลำลึกเข้าไปได้อย่างไร...

“คุณเสิ่น ห้าปีมานี้ลำบากคุณแล้ว ฉันกับซือเหยียนต่างก็ซาบซึ้งใจกับความทุ่มเทที่คุณมีให้ซืออวี่มาก”

โจวอวี๋ชูมองเสิ่นชิงซู “คุณอบรมสั่งสอนซืออวี่มาดีมาก ในฐานะแม่แท้ ๆ ของซืออวี่ ฉันรู้สึกขอบคุณคุณจากใจจริงเลยละค่ะ”

เสิ่นชิงซูจ้องโจวอวี๋ชูนิ่ง

ริมฝีปากซีดเซียวเม้มไว้แน่นมาก ภายนอกเธอดูสงบนิ่ง ทว่ามือข้างนั้นที่โอบฟู่ซืออวี่อยู่กลับสั่นเทาเล็กน้อย

“ไม่จริง! คุณโกหก ผมมีแม่คนเดียว ผมต้องการแม่ของผมเท่านั้น!”

ฟู่ซืออวี่ตวาดใส่โจวอวี๋ชูด้วยความโกรธ “คุณมันเป็นนางมารร้าย! คุณมีสิทธิ์อะไรมาเป็นแม่ผม! ผมไม่ต้องการให้คุณเป็นแม่ผม!”

โจวอวี๋ชูตะลึงงัน

จากนั้นเธอที่ดวงตาแดงก่ำก็เอามือปิดปากไว้ ท่าทางที่กำลังอดกลั้นความน้อยเนื้อต่ำใจนั้นทำให้แค่มองก็รู้สึกปวดใจ

ฉินฟางสีหน้าเย็นเยียบทันควัน ก่อนจะลุกขึ้นมาดุด่าว่ากล่าวเสิ่นชิงซู “เธอสั่งสอนเด็กแบบนี้เหรอ? ไม่เห็นหัวผู้หลักผู้ใหญ่ซะบ้างเลย!”

ตอนนี้เสิ่นชิงซูความคิดฟุ้งซ่านเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีแรงเหลือสำหรับใช้โต้เถียงกับฉินฟางแล้วจริง ๆ

แต่เป็นเพราะนึกถึงจิตใจของเด็กน้อย ในท้ายที่สุดแล้วเธอจึงพูดออกไปคำหนึ่ง “ซืออวี่ยังเด็ก พวกคุณควรให้เวลาเขาได้ทำความเข้าใจหน่อยนะคะ”

“เชอะ นึกว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเธอคิดอะไรอยู่?” ฉินฟางแค่นเสียงเย็นก่อนกล่าว “เสิ่นชิงซู เราต่างก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน อย่าได้คิดว่าฉันมองลูกไม้ตื้น ๆ พวกนั้นของเธอ ไม่ออก!”

“เหล่าฟู่!"

ลุงฟู่ที่เป็นพ่อบ้านได้ยินก็รีบเดินปรี่เข้ามา “คุณผู้หญิง มีอะไรเหรอครับ?”

“ลากตัวคุณชายน้อยกลับมาซะ อย่าให้ผู้หญิงที่มีเจตนาร้ายแอบแฝงคนนี้หลอกใช้เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลฟู่ได้!”

ลุงฟู่ได้ฟังดังนั้น แม้จะเผยสีหน้าย่ำแย่ แต่ก็ไม่ยังเดินมาดึงตัวฟู่ซืออวี่ออกจากอ้อมอกของเสิ่นชิงซูไป

“ไม่เอา! ปล่อยผมนะ! แม่ครับ ผมจะกลับบ้านกับแม่…”

เสิ่นชิงซูขมวดคิ้ว ทำใจทนดูฟู่ซืออวี่ร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้ไม่ได้

“ซืออวี่เป็นโรคหอบหืด พวกคุณอย่าใช้วิธีรุนแรงแบบนี้บีบเขาจะได้ไหมคะ?”

พอได้ยินดังนั้น ฉินฟางพลันสีหน้าชะงักค้าง

โจวอวี๋ชูลุกขึ้นเดินไปจับแขนของฉินฟาง พลางพูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก “น้าคะ รีบบอกให้ลุงฟู่ปล่อยซืออวี่เถอะค่ะ หนูไม่เป็นไร เป็นหนูเองที่ไม่ได้ทำหน้าที่แม่อย่างเต็มที่ ก็สมควรแล้วที่ลูกจะไม่ยอมรับในตัวหนู”

ฉินฟางได้ฟังก็ถอนหายใจหนึ่งที ด้วยกลัวว่าโรคหอบหืดของฟู่ซืออวี่จะกำเริบขึ้นมาอีก จึงโบกมือไปทางลุงฟู่

ลุงฟู่ปล่อยตัวฟู่ซืออวี่ออก

“แม่!”

ฟู่ซืออวี่ร้องไห้พลางกระโจนไปทางเสิ่นชิงซู

เสิ่นชิงซูถูกเขากระโจนใส่จนร่นถอยหลังไปก้าวหนึ่งจึงค่อยประคองร่างให้มั่นคงได้อย่างทุลักทุเล

ในตอนที่ฟู่ซืออวี่พุ่งตัวเข้ามาเมื่อครู่นี้ได้กระแทกเข้าที่ท้องของเธอ

พอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นในบริเวณท้อง เสิ่นชิงซูก็ถึงกับต้องหน้าซีดลงไปอีกหลายส่วน

“แม่ ย่าโกหกใช่หรือเปล่า แม่ของผมคือแม่ต่างหาก! ผมไม่ต้องการแม่คนอื่น ผมจะให้แม่เป็นแม่ของผมคนเดียว!”

ฟู่ซืออวี่ร้องไห้สะอึกสะอื้น

เสิ่นชิงซูลูบศีรษะของเขาอย่างปวดใจ

เด็กคนนี้ร่างกายอ่อนแอแต่เล็ก ซ้ำยังเป็นโรคหอบหืดแต่กำเนิด จะร้องไห้อาละวาดหนักไม่ได้

ไม่ว่าจะอย่างไรก็เป็นเด็กที่เธอเลี้ยงมาเองกับมือ สุดท้ายก็ยังทำใจทิ้งเขา ไม่สนใจเขาไม่ได้

“ซืออวี่เป็นเด็กดีนะ แม่ไม่ได้จะทิ้งลูกไปไหน ไม่ร้องแล้วนะ โอเคไหม?”

เสิ่นชิงซูคิดเพียงแค่ว่าอยากจะปลอบใจให้ฟู่ซืออวี่สงบสติลงเท่านั้น

แต่พอฉินฟางได้ยินแล้ว กลับมองว่ามีเจตนาอื่นแอบแฝง

“เสิ่นชิงซู นี่เธอยังมียางอายอยู่ไหม? ฟู่ซืออวี่ไม่ใช่ลูกที่เธอคลอดออกมาด้วยซ้ำ! เธอกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมาได้ยังไง?”

ฉินฟางที่เคยชินกับการวางมาดเป็นผู้ดีสูงส่ง ยามนี้กลับไม่ปกปิดความชิงชังที่มีต่อเสิ่นชิงซูแม้แต่นิดเดียว เผยความหยาบคายออกมาเต็มประดา

“ฉันก็ว่าทำไมหลายปีมานี้ซืออวี่ถึงไม่ใกล้ชิดกับฉันสักที ยังไงก็จะให้เธอเป็นแม่ให้ได้ ตอนนี้ฉันเข้าใจสักที เธอคงแอบล้างสมองเขาแน่!”

ปรักปรำกันด้วยข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงขนาดนี้ ต่อให้เสิ่นชิงซูจะนึกถึงใจเด็กแค่ไหนก็สีตึงในพริบตาอยู่ดี

“คุณหญิงฟู่ ตอนนั้นฉันกับฟู่ซือเหยียนแต่งงานกันโดยไม่ได้ขอความเห็นชอบจากคุณก่อน ดังนั้นถึงคุณจะไม่รับลูกสะใภ้อย่างฉันคนนี้ ฉันก็ไม่บังคับฝืนใจ แต่เวลาอยู่ต่อหน้าเด็กห้าขวบ คุณคิดทบทวนดูหน่อยดีไหมว่าตัวเองเป็นแบบอย่างที่ดีหรือเปล่า? เป็นฉันที่ไม่เคารพผู้ใหญ่ หรือว่าคุณที่ทำตัวไม่น่าเคารพ?”

“แก!” ฉินฟางคาดไม่ถึงว่าเสิ่นชิงซูจะเถียงเธอต่อหน้าทุกคน จึงโกรธจัด “นี่แกกำลังท้าทายฉันอยู่เหรอ?”

“ฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกค่ะ”

เสิ่นชิงซูมองตรงเข้าไปในแววตาของฉินฟาง ท่าทางวางตัวเหมาะสม “จะหย่าหรือไม่หย่ามันก็เป็นเรื่องของฉันกับฟู่ซือเหยียน พวกคุณจะเก็บซืออวี่ไว้ก็ได้ ฉันไม่แย่งกับพวกคุณหรอก”

“ไม่เอา ๆ!” พอฟู่ซืออวี่ได้ยินว่าตัวเองจะถูกทอดทิ้งก็กอดเสิ่นชิงซูแน่นขึ้นไปอีก พร้อมกับปล่อยโฮเสียงดังกว่าเดิม

“แม่อย่าทิ้งผมไป! ผมไม่ชอบบ้านย่า! และผมก็ไม่ชอบนางมารร้ายคนนั้นด้วย! ผมจะกลับบ้านกับแม่ แม่พาผมกลับบ้านเถอะนะครับ?”

ฟู่ซืออวี่ร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง

เธอเลี้ยงฟู่ซืออวี่มาห้าปี ไม่เคยทำให้เขาต้องร้องไห้หนักแบบนี้มาก่อน

เสิ่นชิงซูถอนหายใจ แล้วมองฉินฟาง “ตอนนี้เขาสะเทือนใจจนไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น ฉันจะพาเขากลับไปก่อน พอเขาอารมณ์นิ่งแล้ว ฉันจะอธิบายให้เขาเข้าใจเองค่ะ”

พูดจบ เสิ่นชิงซูก็จูงมือฟู่ซืออวี่แล้วหมุนกายเดินออกไปด้านนอก

ฟู่ซืออวี่อยากจะรีบไปให้พ้นจากที่นี่ จึงเดินซอยเท้าฉับ ๆ กลัวว่าถ้าช้าไปแค่นิดเดียวจะถูกเสิ่นชิงซูทิ้งไว้ตรงนี้

“ซืออวี่!”

โจวอวี๋ชูตะโกนออกมาเสียงหนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งตามออกมา

ภายในลานบ้าน โจวอวี๋ชูคว้าแขนของฟู่ซืออวี่ไว้ได้

“ซืออวี่ ลูกอย่าไป แม่ผิดไปแล้ว ตอนนั้นแม่มีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น แต่ว่าแม่รักลูกนะ!”

“นางมารร้าย! ปล่อยผมนะ!” ฟู่ซืออวี่ดิ้นรนอยากจะสะบัดมือของโจวอวี๋ชูออก ทว่าโจวอวี๋ชูจับแน่นมาก

จนทำเอาเขารู้สึกเจ็บแขนขึ้นมาแล้ว

“แม่ครับ! แม่รีบช่วยผมที นางมารร้ายคนนี้จะจับตัวผมไปแล้ว!”

เสิ่นชิงซูมองโจวอวี๋ชูที่จับแขนฟู่ซืออวี่ไว้ไม่ยอมปล่อยมือ สีหน้าพลันดูซับซ้อนเล็กน้อย

โจวอวี๋ชูดึงรั้งตัวฟู่ซืออวี่ไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นเสิ่นชิงซู

เธอมองเสิ่นชิงซู ใบหน้างดงามอันน่าชื่นชมนั้นถูกอาบด้วยน้ำตา ดูแล้วช่างน่าสงสารจับใจ

“คุณเสิ่น ฉันขอร้องละ ซืออวี่เป็นลูกที่ฉันอุ้มท้องสิบเดือนเสี่ยงตายคลอดออกมา ฉันรู้ว่าห้าปีที่ผ่านมาคุณมีบุณคุณที่เลี้ยงดูเขามา แต่เขาไม่ใช่เครื่องมือที่คุณจะใช้พันธนาการ ฉันขอร้องละนะ อย่าหลอกใช้เขาแบบนี้เลยได้ไหม?”

เสิ่นชิงซูมองโจวอวี๋ชูอย่างเหลือเชื่อ

เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองไปทำอะไรถึงฉินฟางกับโจวอวี๋ชูถึงเอาแต่หาว่าเธอหลอกใช้เด็ก

เวลานี้ฉินฟางก็ตามออกมาแล้ว เห็นว่าเสิ่นชิงซูจับฟู่ซืออวี่ไว้ไม่ปล่อย จึงตะโกนเรียกคนรับใช้ให้มาผลักตัวเสิ่นชิงซูออกทันที

เสิ่นชิงซูถูกแรงผลักทำให้โซซัดโซเซจนเกือบจะล้มลง

เธอกุมท้องที่ปวดหน่วงรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไว้ ขมวดคิ้วพลางมองฟู่ซืออวี่ที่ถูกพวกสาวใช้ลากตัวกลับไปยังข้างกายของโจวอวี๋ชูกับฉินฟาง

ฟู่ซืออวี่ร้องไห้แทบขาดใจ “ปล่อยผมนะ! ผมจะกลับบ้านกับแม่ผม! แม่…”

เสิ่นชิงซูมองเหตุการณ์ตรงหน้า ทันใดนั้นก็รู้สึกมีใจแต่ไร้กำลังขึ้นมา

คนหนึ่งคือย่าแท้ ๆ ของเด็ก ส่วนอีกคนเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด

เมื่อเทียบกันแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่กำลังจะหย่ากับฟู่ซือเหยียน ก็เป็นคนนอกจริงนั่น ๆ แหละ

ทันใดนั้น รถเบนท์ลีย์สีดำแล่นเข้ามาภายในบริเวณบ้าน

เมื่อได้ยินเสียงรถ เสิ่นชิงซูจึงหันศีรษะไป

ประตูรถด้านหลังเปิดออก ฟู่ซือเหยียนลงมาจากภายในตัวรถ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
wjnterzer0
ชีวิตนางเอกชีช้ำเว่อ ถ้าได้เอาคือ ขอเอาคืนแรง ๆ เลยนะ ...
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 733

    “เธอมีพรสวรรค์ดีมาก ด้วยฐานะทางบ้านอย่างเธอ สามารถหาอาจารย์เก่ง ๆ มาชี้แนะได้สบาย”ชีเยว่วาดไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็ได้ยินประโยคนี้หลุดจากปากเสิ่นชิงซูเขาชะงักมือ เงยหน้าขึ้นมองเธอเสิ่นชิงซูสีหน้าเย็นชา “แกลเลอรีของฉันไม่รับเธอ เธอกลับไปซะเถอะ”ชีเยว่วางพู่กันลง จ้องมองเสิ่นชิงซู “เป็นเพราะลุงฟู่แต่งงานกับแม่ผม คุณถึงไม่ชอบผมเหรอครับ?”“ใช่” เสิ่นชิงซูมองเด็กชายที่มีความคิดความอ่านเกินเด็กแปดขวบไปไกล น้ำเสียงยังคงเย็นยะเยือก “เพราะชีหมิงเสวียน และเพราะฟู่ซือเหยียน คนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยทั้งนั้น”ชีเยว่เริ่มร้อนใจ ขมวดคิ้วรีบอธิบาย “ลุงฟู่รักคุณมากนะครับ เขากับแม่ผมแค่ร่วมมือกันทางธุรกิจเฉย ๆพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันด้วยซ้ำ”เสิ่นชิงซูเพียงแค่นยิ้มเย็น “ฉันไม่สนหรอก เธอเป็นเด็ก ฉันไม่อยากใจร้ายกับเธอเกินไป แต่ขอให้เธออย่ามาที่นี่อีก”ชีเยว่มองเสิ่นชิงซูตาละห้อยเสิ่นชิงซูละสายตากลับมา หันไปสั่งผู้อำนวยการเซวีย “ฉันไปก่อนนะคะ ถ้าเขายังดื้อไม่ยอมกลับ คุณก็แจ้งตำรวจให้มาจัดการได้เลย”ผู้อำนวยการเซวียพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้วครับ”เสิ่นชิงซูหันหล

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 732

    เมื่อสบตากัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดชีเยว่จ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงลุกขึ้นยืน มองหน้าเสิ่นชิงซู แล้วถามว่า “คุณเป็นเจ้าของแกลเลอรีนี้เหรอครับ?”เสิ่นชิงซูเดินเข้ามา มองเด็กชายที่มีท่าทางแก่แดดเกินวัย นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ถึงเอ่ยปาก “เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถ้าจะสมัครเรียน ต้องให้ผู้ปกครองมาด้วยถึงจะสมัครได้นะ”“แม่ไม่สนใจผมหรอกครับ” ชีเยว่มองเสิ่นชิงซู ทั้งที่อายุแค่แปดขวบ แต่คำพูดคำจากลับดูเป็นผู้ใหญ่ “ผมตัดสินใจเองได้ ทุกบ่ายวันอาทิตย์ผมจัดสรรเวลาเองได้ครับ”เด็กคนนี้อายุน้อยแค่นี้ แต่กลับมีบุคลิกความเป็นผู้นำแผ่ออกมาพูดง่าย ๆ ก็คือ สุขุมเกินวัยแต่เขาเป็นลูกชายของชีหมิงเสวียน และเป็นลูกเลี้ยงของฟู่ซือเหยียนเสิ่นชิงซูไม่ได้อยากรับเขาไว้นัก“ขอโทษนะ ตามกฎแล้ว แกลเลอรีของเรารับผู้เยาว์เข้าเรียนโดยที่ผู้ปกครองไม่ยินยอมไม่ได้” เสิ่นชิงซูใช้น้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“เป็นเพราะแม่ผมคือชีหมิงเสวียน คุณถึงไม่อยากรับผมใช่ไหมครับ?”เสิ่นชิงซูชะงัก “ใช่ เพราะงั้นอย่าฝืนใจคนอื่นเลย ฉันเปิดประตูทำธุรกิจก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จำเป็นต้อ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 731

    “หานหมิงอวี่” ชีหมิงเสวียนเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกหานหมิงอวี่ชะงักนิ่งไป“แปดปีแล้วสินะ” ชีหมิงเสวียนหัวเราะในลำคอ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา “ที่แท้คุณก็ยังจำเขาได้ ที่แท้คุณก็จำได้ว่าชีเยว่เป็นลูกของเขา ที่แท้คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณกับฉี่ซือเนี่ยนเป็นพี่น้องกัน”หานหมิงอวี่ขมวดคิ้ว กำโทรศัพท์แน่นขึ้นปลายสาย เสียงของชีหมิงเสวียนยังคงดังต่อเนื่อง “งั้นทำไมตลอดแปดปีมานี้ คุณถึงไม่เคยมาดูดำดูดีพวกเราแม่ลูกเลย? ฉี่ซือเนี่ยนตายไปแล้ว ความเป็นพี่น้องก็ตายตามไปด้วยเหรอ? ทำไม? ทำไมถึงปล่อยให้พวกเราแม่ลูกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในขุมนรกตระกูลชีตามยถากรรม?”หานหมิงอวี่นิ่งอึ้ง“หานหมิงอวี่ ตอนนี้คุณจะมาแกล้งทำเป็นรักลึกซึ้งอะไรกับเสิ่นชิงซู?” ชีหมิงเสวียนแค่นหัวเราะ “ความจริงแล้ว คุณต่างหากที่เป็นคนเลือดเย็นที่สุด”เสียงของผู้หญิงลอดผ่านโทรศัพท์เข้าสู่โสตประสาทของชายหนุ่มท่ามกลางความเงียบสงัดในศาลบรรพชน ลมหายใจของหานหมิงอวี่เริ่มติดขัดแพขนตากะพริบถี่รัววินาทีถัดมา ชายหนุ่มก็กดตัดสายอย่างร้อนรนราวกับคนหนีความผิด......หลังจากวันนั้น เสิ่นชิงซูเก็บตัวอยู่ในวิลล่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 730

    ฟู่ซือเหยียนมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยแต่เสิ่นชิงซูไม่แยแสเขาอีก หันหลังเดินตรงเข้าบ้านไปประตูหน้าบ้านปิดลงเสียงดังปัง ตัดขาดสายตาของผู้ชายคนนั้นฟู่ซือเหยียนจ้องประตูที่ปิดสนิทบานนั้น แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า…...คฤหาสน์ตระกูลหานหลังจากหานหมิงอวี่ส่งญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่กลับถึงบ้าน ก็อธิบายเรื่องราวให้พวกเขาฟังตามฉบับที่ตกลงกับเสิ่นชิงซูไว้ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เขาคาด ต้องไปคุกเข่ารับโทษที่ศาลบรรพชนคุณปู่หานพอได้ยินว่าหลานชายตัวดีเป็นคนทำผิดต่อฝ่ายหญิง ทำให้เธอต้องคลอดลูกโดยไร้สถานะ เป็นเหตุให้หลานคนโตของตระกูลหานต้องตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกด้วยความโมโห คุณปู่เลยฟาดไม้เท้าใส่หลังหานหมิงอวี่ไปหนึ่งทีหานหมิงอวี่กัดฟันแน่นไม่ร้องสักแอะคุณย่าหานปวดใจแทนหลาน ปากก็ดุด่าความผิดของหลาน สั่งให้คนลากตัวไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน แต่ความจริงคือหาทางปกป้องหลาน กลัวว่าคุณปู่เลือดขึ้นหน้าจะฟาดซ้ำอีกหลายไม้หานหมิงอวี่ถูกทำโทษให้คุกเข่าสำนึกผิดในศาลบรรพชนคุณปู่หานยื่นคำขาด ต้องคุกเข่าถึงพรุ่งนี้ ใครกล้ามาช่วยพูด ให้ไปคุกเข่าเป็นเพื่อนเขาด้วย!พ่อหานแม่หานส่ายหน้าถอนหายใจผู้ชายอกสาม

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 729

    ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง “อาซู ผมรู้ว่าเรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ ให้เวลาผมหน่อย เรามาคุยกันเถอะ”หานหมิงอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวเข้าไปขวางหน้าเสิ่นชิงซูไว้ “ฟู่ซือเหยียน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังกล้าเอาลูกมาขู่เธออีก หน้าไม่อายไปหน่อยมั้ง?”ฟู่ซือเหยียนแค่นเสียงหัวเราะ “ผมเอาลูกมาบีบเธอ? หรือเป็นคุณกันแน่ที่มีเจตนาแอบแฝง?”สายตาของหานหมิงอวี่วาวโรจน์ จ้องเขม็งอย่างไม่ลดละสองหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันยืนประจันหน้า บรรยากาศตึงเครียดจนแทบหยุดหายใจเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ตระกูลหานได้แต่ยืนอึ้งทำตาปริบ ๆสุดท้ายพ่อหานจึงต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากไกล่เกลี่ย“ดูท่าวันนี้พวกเราจะคิดน้อยไปหน่อยจริง ๆ” พ่อหานมองเสิ่นชิงซู น้ำเสียงอ่อนโยน “คุณเสิ่น ต้องขอโทษด้วยที่พวกเราบุ่มบ่าม เรื่องของพวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็ตัดสินใจกันเองน่าจะดีกว่า เอาอย่างนี้ สินสอดพวกเราจะฝากไว้ให้ก่อน ถ้าคุณเสิ่นกับหมิงอวี่มีวาสนาต่อกัน ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าพวกคุณยังไม่อยากแต่งงาน... สินสอดพวกนี้ก็ถือซะว่าเป็นของรับขวัญที่พวกเราให้เสี่ยวเนี่ยนเนี่ยนก็แล้วกัน”พ่อหานพูดจาได้อย่างสวยหรูไร้ที่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 728

    เสิ่นชิงซูถึงกับไปไม่เป็นลีลาของคุณย่าหานช่างดุดันเหลือเกิน จนเธอไปไม่เป็น ได้แต่หันหน้าไปมองหานหมิงอวี่หานหมิงอวี่ยกมือนวดหว่างคิ้ว เอ่ยกับคุณย่าว่า “คุณย่าครับ ใจเย็น ๆ ก่อน สถานการณ์ระหว่างเราซับซ้อนนิดหน่อย คุณย่าทำแบบนี้ ชิงซูจะลำบากใจเอานะครับ”“อะไรคือสถานการณ์ซับซ้อน?” คุณย่าหานขมวดคิ้วมองหลานชาย “หรือว่า พวกหลานแอบไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว?”หานหมิงอวี่ “...”เสิ่นชิงซู “...”ฟู่ซือเหยียนที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหว“อาซู” ฟู่ซือเหยียนก้าวเข้ามา เมินเฉยคนอื่นรอบข้าง สายตาคมเข้มจับจ้องเพียงเสิ่นชิงซู “เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?”เสิ่นชิงซูมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ขอโทษนะคะคุณฟู่ เกรงว่าตอนนี้ฉันคงไม่ว่างต้อนรับคุณ”คุณย่าหานและแม่หานมองฟู่ซือเหยียน แม่ผัวลูกสะใภ้ลอบสบตากันแวบหนึ่งความจริงก่อนจะบุกมาที่นี่ พวกเขาสืบประวัติของเสิ่นชิงซูมาเรียบร้อยแล้วเรื่องที่เสิ่นชิงซูและฟู่ซือเหยียนเคยเป็นสามีภรรยากัน แม้ทั้งคู่จะไม่เคยเปิดเผย แต่สำหรับตระกูลหาน การสืบเรื่องแค่นี้มันง่ายมากเสิ่นชิงซูเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แถมยังมีลูกชายหญิงกับฟู่ซือเหยียนอีกหนึ่งคู่ แม้คนตระ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status