แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: หรงหรงจื่ออี
ฟู่ซือเหยียนอยู่ในชุดสูทสีดำ ดูหล่อเหลาเย็นชา สูงส่งและทะนงตน

เขากวาดสายตามองผ่านดวงหน้าของเสิ่นชิงซูไปอย่างเรียบเฉย ก่อนที่สายตาจะไปตกอยู่บนใบหน้าของฟู่ซืออวี่ที่ร้องไห้อาละวาดไม่หยุด

“ซืออวี่มานี่” เขาโบกมือเรียกฟู่ซืออวี่

เมื่อได้ยินเช่นนั้น บรรดาสาวใช้ต่างหน้าเปลี่ยนสี รีบพากันคลายมือออกอย่างลนลาน

ฟู่ซืออวี่วิ่งปรี่เข้าไปหาฟู่ซือเหยียนทันที

“พ่อ! ฮือ ๆ ๆ… ในที่สุดพ่อก็มาสักที!”

ฟู่ซือเหยียนลูบหัวเขาเบา ๆ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้มนุ่มนวล “บอกพ่อมา เกิดอะไรขึ้น?”

ฟู่ซืออวี่ยังไม่ทันได้พูดอะไร โจวอวี๋ชูก็เดินเข้ามาแล้ว

เธอปาดน้ำตาบนใบหน้า น้ำเสียงอ่อนโยนระคนด้วยความตำหนิตัวเองอยู่หลายส่วน

“ต้องโทษฉัน โผล่มากะทันหันโดยไม่คิดให้รอบคอบก่อน ซืออวี่ยังยอมรับเรื่องที่ฉันเป็นแม่เขาไม่ได้ ก็เลยสะเทือนใจหน่อยน่ะค่ะ”

“คุณไม่ใช่แม่ของผมอยู่แล้ว!” ฟู่ซืออวี่ยกมือขึ้นมาผลักโจวอวี๋ชูออกไปอย่างแรง “คุณเป็นนางมารร้าย! คุณไม่ใช่แม่ของผมสักหน่อย!”

โจวอวี๋ชูร้องอุทานออกมา รองเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าเกิดพลิกขึ้นมา เธอกำลังจะล้มลงอยู่รอมร่อแล้ว

ในช่วงเวลาคับขัน ฟู่ซือเหยียนเข้าไปช้อนร่างโจวอวี๋ชูมาแนบไว้ในอก

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

โจวอวี๋ชูออกแรงที่ขาข้างหนึ่งไม่ได้ “เหมือนจะข้อเท้าพลิกแล้วละ แต่ฉันไม่เป็นไรค่ะ ความรู้สึกของซืออวี่สำคัญที่สุด”

ฟู่ซือเหยียนวางมาดขึงขัง โน้มตัวไปอุ้มโจวอวี๋ชูขึ้นมา “ผมพาคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อย”

พอหมุนตัวกลับ เขากับเสิ่นชิงซูก็สบตากัน

เสิ่นชิงซูดวงตาแดงระเรื่อ จ้องเขานิ่ง “เธอเป็นแม่แท้ ๆ ของซืออวี่จริงเหรอคะ?”

“เสี่ยวชูเป็นแม่ของซืออวี่จริง ๆ”

ฟู่ซือเหยียนมองหน้าเสิ่นชิงซูตรง ๆ แววตาลุ่มลึกเย็นชาราบเรียบ

เสิ่นชิงซูมองไม่เห็นถึงความรู้สึกผิดของคนโกหกจากใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย

หัวใจที่ถูกทิ่มแทงด้วยความเย็นยะเยือกค่อย ๆ จมดิ่งลงไปช้า ๆ

“ซืออวี่ค่อนข้างเชื่อฟังคุณ คุณพาเขากลับไปก่อน และพยายามช่วยเกลี้ยกล่อมเขาให้เข้าใจที”

ฟู่ซือเหยียนพูดทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้แล้วอุ้มโจวอวี๋ชูขึ้นรถไป

รถเมย์บัคสีดำแล่นออกไปจากตระกูลฟู่

เสิ่นชิงซูก้มหน้าลง ดวงตาบวมเป่ง ริมฝีปากที่ซีดเผือดเผยอออกเล็กน้อย พยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อยู่หลายทีถึงค่อยกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้

“แม่”

มือเล็ก ๆ ของฟู่ซืออวี่จับมือเสิ่นชิงซูไว้ “แม่ แม่ตาแดงจัง แม่ร้องไห้แล้วใช่ไหม?”

เสิ่นชิงซูย่อตัวนั่งลง ลูบดวงหน้าของฟู่ซืออวี่เบา ๆ ก่อนจะส่งรอยยิ้มอันไร้สีสันที่ฝืนเค้นออกมาไปให้เขา

“แม่ไม่ได้ร้องจ้ะ แม่จะพาลูกกลับบ้านก่อนนะ” เสิ่นชิงซูลุกขึ้น มองไปยังฉินฟาง “คุณเองก็ได้ยินที่ฟู่ซือเหยียนพูดแล้วนะคะ”

ฉินฟางโกรธขึ้งจ้องเธอตาเขม็ง

แม้จะเจ็บใจ แต่ฟู่ซือเหยียนพูดมาแบบนั้นแล้ว เธอจะรั้งตัวฟู่ซืออวี่ให้อยู่ต่อก็ไม่ได้

อย่างไรตอนนี้โจวอวี๋ชูก็กลับมาแล้ว ฟู่ซือเหยียนจะต้องหย่ากับเสิ่นชิงซูทันทีแน่ ถึงตอนนั้นเสิ่นชิงซูก็อย่าหวังว่าจะใช้ฟู่ซืออวี่เป็นข้ออ้างอยู่ที่ตระกูลฟู่ต่อได้อีก!

เมื่อนึกได้อย่างนี้ ฉินฟางก็อารมณ์ดีขึ้นมาก

……

เสิ่นชิงซูลองพยายามอธิบายฐานะของโจวอวี๋ชูให้ฟู่ซืออวี่ฟังระหว่างทางกลับบ้าน

แต่ฟู่ซืออวี่ต่อต้านมาก พูดได้ไม่กี่คำก็ร้องไห้ขึ้นมาอีก

เสิ่นชิงซูทั้งจนปัญญาทั้งปวดใจ จึงได้แต่ปลอบใจเขาไปก่อน

ฟู่ซืออวี่ร้องไห้จนหมดแรง จึงผล็อยหลับไปก่อนจะถึงบ้านเสียอีก

เสิ่นชิงซูเพิ่งจะวางตัวฟู่ซืออวี่ที่หลับสนิทลงบนเตียงในห้องนอนเด็ก ก็มีเสียงรถยนต์ดังแว่วขึ้นมาจากชั้นล่าง

เธอช่วยห่มผ้าให้ฟู่ซืออวี่

ขณะลงมาชั้นล่าง ฟู่ซือเหยียนก็ผลักประตูเดินเข้ามาพอดี

คนทั้งสองประสานสายตากัน บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย

“ซืออวี่ล่ะ?” ฟู่ซือเหยียนถาม

“นอนอยู่ข้างบนค่ะ”

ฟู่ซือเหยียนตอบรับเสียงหนึ่ง ก่อนจะเดินผ่านเสิ่นชิงซูแล้วมุ่งหน้าตรงขึ้นไปยังชั้นสอง

เสิ่นชิงซูหมุนตัวกลับ ขณะมองแผ่นหลังของเขา มือที่แนบอยู่ข้างกายพลันกำหมัดแน่น

เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายยังสาวเท้าเดินตามขึ้นไป

อยู่เคียงข้างกันฉันสามีภรรยามาห้าปี มีความพัวพันกันหลายค่ำคืน เธอจึงคิดว่าตนก็น่าจะมีสิทธิ์ขอคำอธิบายจากเขาสักคำ

ชั้นสอง ฟู่ซือเหยียนผลักประตูห้องนอนเด็กออกแล้วเดินเข้าไป

ก่อนจะอุ้มฟู่ซืออวี่ที่กำลังหลับลึกขึ้น แล้วหมุนกายเดินกลับออกมา

เสิ่นชิงซูยืนมองเขาจากด้านนอก “คุณจะพาซืออวี่ไปไหนคะ?”

“เสี่ยวชูเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนี้เธอต้องการซืออวี่”

ฟู่ซือเหยียนทิ้งท้ายไว้ด้วยคำอธิบายสั้น ๆ แล้วอุ้มร่างฟู่ซืออวี่เดินจากไป

เสิ่นชิงซูยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น

จนกระทั่งเสียงรถยนต์ห่างออกไปไกลแล้ว เธอค่อยดึงสติกลับมาได้

เขาจะไปจะมาก็ทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ถึงขั้นไม่แม้แต่จะให้เธอมีโอกาสได้ทวงถามสักคำ

เสิ่นชิงซูกวาดตามองบ้านที่ว่างเปล่า

หัวเราะ

หัวเราะไปหัวเราะมา น้ำตาพลันไหลล้นออกมาจากเบ้าตา

..….

เขตโครงการบ้านหรูกลางเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องบริการระบบรักษาความปลอดภัย บนที่ดินราคาแพงหูฉี่ในเมืองเป่ย

รถเมย์บัคสีดำไต่เขาขึ้นมาจอดลงใน ‘คฤหาสน์เหยาเยว่’ ซึ่งบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ

ภายในรถ ฟู่ซืออวี่ตื่นขึ้นมาแล้ว

ฟู่ซือเหยียนกอดเขาพลางพูดอธิบายกับเขาว่าโจวอวี๋ชูเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด ส่วนเสิ่นชิงซูเป็นแค่แม่เลี้ยงที่ดูแลเขามาห้าปีเท่านั้น

ฟู่ซืออวี่ครั้นฟังแล้วก็ไม่ได้อาละวาดอีก ถามเพียงคำเดียวว่า “งั้นต่อไปผมจะมีแม่สองคนใช่ไหมครับ?”

ฟู่ซือเหยียนตอบ ‘อืม’ ด้วยเสียงเรียบ ตามด้วยการพูดเน้นย้ำอีกว่า “แม่เสี่ยวชูลำบากมากกว่าจะคลอดลูกออกมาได้ เธอรักลูกมากนะ ดังนั้นลูกต้องไปขอโทษเธอ และเรียกเธอว่าแม่ด้วย จำได้หรือยัง?”

ฟู่ซืออวี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย

พอเข้าบ้านมาแล้ว โจวอวี๋ชูนั่งอยู่บนโซฟา คลุมผ้าห่มไว้บนท่อนขา เท้าสองข้างที่โผล่ออกมาข้างนอก มีข้างหนึ่งที่ข้อเท้าพลิกถูกผ้าก๊อซพันไว้จนหนาเตอะ

เมื่อเห็นพวกเขา ดวงหน้างดงามประณีตของโจวอวี๋ชูประดับรอยยิ้มหวานในชั่วพริบตาเดียว

“ซือเหยียน ซืออวี่ มากันแล้วเหรอ”

ฟู่ซืออวี่ที่จูงมือฟู่ซือเหยียนอยู่แหงนหน้ามองฟู่ซือเหยียน

“ไปเถอะ” ฟู่ซือเหยียนลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ

ฟู่ซืออวี่ได้รับกำลังใจแล้ว จึงเดินเข้าไปหาโจวอวี๋ชู

โจวอวี๋ชูยื่นมือมาหาเขา “ซืออวี่ มาให้แม่กอดหน่อยได้ไหม?”

ฟู่ซืออวี่ลังเลเล็กน้อย ทว่าสุดท้ายก็เดินเข้าไปอยู่ดี

โจวอวี๋ชูกอดเขาไว้ พลางน้ำตาโรยริน

“ลูกรัก ขอโทษนะ แม่ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่รับลูกเป็นลูก ห้าปีมานี้แม่คิดถึงลูกทุกวันเลยนะ…”

ร่างเล็กของฟู่ซืออวี่ที่โดนเธอกอดดูแข็งทื่อเล็กน้อย

เขาได้กลิ่นหอมของดอกไม้จากน้ำหอมบนตัวโจวอวี๋ชู

แตกต่างจากกลิ่นหวานสดชื่นจาง ๆ บนตัวเสิ่นชิงซูโดยสิ้นเชิง…
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 733

    “เธอมีพรสวรรค์ดีมาก ด้วยฐานะทางบ้านอย่างเธอ สามารถหาอาจารย์เก่ง ๆ มาชี้แนะได้สบาย”ชีเยว่วาดไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็ได้ยินประโยคนี้หลุดจากปากเสิ่นชิงซูเขาชะงักมือ เงยหน้าขึ้นมองเธอเสิ่นชิงซูสีหน้าเย็นชา “แกลเลอรีของฉันไม่รับเธอ เธอกลับไปซะเถอะ”ชีเยว่วางพู่กันลง จ้องมองเสิ่นชิงซู “เป็นเพราะลุงฟู่แต่งงานกับแม่ผม คุณถึงไม่ชอบผมเหรอครับ?”“ใช่” เสิ่นชิงซูมองเด็กชายที่มีความคิดความอ่านเกินเด็กแปดขวบไปไกล น้ำเสียงยังคงเย็นยะเยือก “เพราะชีหมิงเสวียน และเพราะฟู่ซือเหยียน คนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยทั้งนั้น”ชีเยว่เริ่มร้อนใจ ขมวดคิ้วรีบอธิบาย “ลุงฟู่รักคุณมากนะครับ เขากับแม่ผมแค่ร่วมมือกันทางธุรกิจเฉย ๆพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันด้วยซ้ำ”เสิ่นชิงซูเพียงแค่นยิ้มเย็น “ฉันไม่สนหรอก เธอเป็นเด็ก ฉันไม่อยากใจร้ายกับเธอเกินไป แต่ขอให้เธออย่ามาที่นี่อีก”ชีเยว่มองเสิ่นชิงซูตาละห้อยเสิ่นชิงซูละสายตากลับมา หันไปสั่งผู้อำนวยการเซวีย “ฉันไปก่อนนะคะ ถ้าเขายังดื้อไม่ยอมกลับ คุณก็แจ้งตำรวจให้มาจัดการได้เลย”ผู้อำนวยการเซวียพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้วครับ”เสิ่นชิงซูหันหล

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 732

    เมื่อสบตากัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดชีเยว่จ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงลุกขึ้นยืน มองหน้าเสิ่นชิงซู แล้วถามว่า “คุณเป็นเจ้าของแกลเลอรีนี้เหรอครับ?”เสิ่นชิงซูเดินเข้ามา มองเด็กชายที่มีท่าทางแก่แดดเกินวัย นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ถึงเอ่ยปาก “เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถ้าจะสมัครเรียน ต้องให้ผู้ปกครองมาด้วยถึงจะสมัครได้นะ”“แม่ไม่สนใจผมหรอกครับ” ชีเยว่มองเสิ่นชิงซู ทั้งที่อายุแค่แปดขวบ แต่คำพูดคำจากลับดูเป็นผู้ใหญ่ “ผมตัดสินใจเองได้ ทุกบ่ายวันอาทิตย์ผมจัดสรรเวลาเองได้ครับ”เด็กคนนี้อายุน้อยแค่นี้ แต่กลับมีบุคลิกความเป็นผู้นำแผ่ออกมาพูดง่าย ๆ ก็คือ สุขุมเกินวัยแต่เขาเป็นลูกชายของชีหมิงเสวียน และเป็นลูกเลี้ยงของฟู่ซือเหยียนเสิ่นชิงซูไม่ได้อยากรับเขาไว้นัก“ขอโทษนะ ตามกฎแล้ว แกลเลอรีของเรารับผู้เยาว์เข้าเรียนโดยที่ผู้ปกครองไม่ยินยอมไม่ได้” เสิ่นชิงซูใช้น้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“เป็นเพราะแม่ผมคือชีหมิงเสวียน คุณถึงไม่อยากรับผมใช่ไหมครับ?”เสิ่นชิงซูชะงัก “ใช่ เพราะงั้นอย่าฝืนใจคนอื่นเลย ฉันเปิดประตูทำธุรกิจก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จำเป็นต้อ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 731

    “หานหมิงอวี่” ชีหมิงเสวียนเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกหานหมิงอวี่ชะงักนิ่งไป“แปดปีแล้วสินะ” ชีหมิงเสวียนหัวเราะในลำคอ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา “ที่แท้คุณก็ยังจำเขาได้ ที่แท้คุณก็จำได้ว่าชีเยว่เป็นลูกของเขา ที่แท้คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณกับฉี่ซือเนี่ยนเป็นพี่น้องกัน”หานหมิงอวี่ขมวดคิ้ว กำโทรศัพท์แน่นขึ้นปลายสาย เสียงของชีหมิงเสวียนยังคงดังต่อเนื่อง “งั้นทำไมตลอดแปดปีมานี้ คุณถึงไม่เคยมาดูดำดูดีพวกเราแม่ลูกเลย? ฉี่ซือเนี่ยนตายไปแล้ว ความเป็นพี่น้องก็ตายตามไปด้วยเหรอ? ทำไม? ทำไมถึงปล่อยให้พวกเราแม่ลูกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในขุมนรกตระกูลชีตามยถากรรม?”หานหมิงอวี่นิ่งอึ้ง“หานหมิงอวี่ ตอนนี้คุณจะมาแกล้งทำเป็นรักลึกซึ้งอะไรกับเสิ่นชิงซู?” ชีหมิงเสวียนแค่นหัวเราะ “ความจริงแล้ว คุณต่างหากที่เป็นคนเลือดเย็นที่สุด”เสียงของผู้หญิงลอดผ่านโทรศัพท์เข้าสู่โสตประสาทของชายหนุ่มท่ามกลางความเงียบสงัดในศาลบรรพชน ลมหายใจของหานหมิงอวี่เริ่มติดขัดแพขนตากะพริบถี่รัววินาทีถัดมา ชายหนุ่มก็กดตัดสายอย่างร้อนรนราวกับคนหนีความผิด......หลังจากวันนั้น เสิ่นชิงซูเก็บตัวอยู่ในวิลล่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 730

    ฟู่ซือเหยียนมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยแต่เสิ่นชิงซูไม่แยแสเขาอีก หันหลังเดินตรงเข้าบ้านไปประตูหน้าบ้านปิดลงเสียงดังปัง ตัดขาดสายตาของผู้ชายคนนั้นฟู่ซือเหยียนจ้องประตูที่ปิดสนิทบานนั้น แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า…...คฤหาสน์ตระกูลหานหลังจากหานหมิงอวี่ส่งญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่กลับถึงบ้าน ก็อธิบายเรื่องราวให้พวกเขาฟังตามฉบับที่ตกลงกับเสิ่นชิงซูไว้ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เขาคาด ต้องไปคุกเข่ารับโทษที่ศาลบรรพชนคุณปู่หานพอได้ยินว่าหลานชายตัวดีเป็นคนทำผิดต่อฝ่ายหญิง ทำให้เธอต้องคลอดลูกโดยไร้สถานะ เป็นเหตุให้หลานคนโตของตระกูลหานต้องตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกด้วยความโมโห คุณปู่เลยฟาดไม้เท้าใส่หลังหานหมิงอวี่ไปหนึ่งทีหานหมิงอวี่กัดฟันแน่นไม่ร้องสักแอะคุณย่าหานปวดใจแทนหลาน ปากก็ดุด่าความผิดของหลาน สั่งให้คนลากตัวไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน แต่ความจริงคือหาทางปกป้องหลาน กลัวว่าคุณปู่เลือดขึ้นหน้าจะฟาดซ้ำอีกหลายไม้หานหมิงอวี่ถูกทำโทษให้คุกเข่าสำนึกผิดในศาลบรรพชนคุณปู่หานยื่นคำขาด ต้องคุกเข่าถึงพรุ่งนี้ ใครกล้ามาช่วยพูด ให้ไปคุกเข่าเป็นเพื่อนเขาด้วย!พ่อหานแม่หานส่ายหน้าถอนหายใจผู้ชายอกสาม

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 729

    ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง “อาซู ผมรู้ว่าเรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ ให้เวลาผมหน่อย เรามาคุยกันเถอะ”หานหมิงอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวเข้าไปขวางหน้าเสิ่นชิงซูไว้ “ฟู่ซือเหยียน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังกล้าเอาลูกมาขู่เธออีก หน้าไม่อายไปหน่อยมั้ง?”ฟู่ซือเหยียนแค่นเสียงหัวเราะ “ผมเอาลูกมาบีบเธอ? หรือเป็นคุณกันแน่ที่มีเจตนาแอบแฝง?”สายตาของหานหมิงอวี่วาวโรจน์ จ้องเขม็งอย่างไม่ลดละสองหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันยืนประจันหน้า บรรยากาศตึงเครียดจนแทบหยุดหายใจเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ตระกูลหานได้แต่ยืนอึ้งทำตาปริบ ๆสุดท้ายพ่อหานจึงต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากไกล่เกลี่ย“ดูท่าวันนี้พวกเราจะคิดน้อยไปหน่อยจริง ๆ” พ่อหานมองเสิ่นชิงซู น้ำเสียงอ่อนโยน “คุณเสิ่น ต้องขอโทษด้วยที่พวกเราบุ่มบ่าม เรื่องของพวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็ตัดสินใจกันเองน่าจะดีกว่า เอาอย่างนี้ สินสอดพวกเราจะฝากไว้ให้ก่อน ถ้าคุณเสิ่นกับหมิงอวี่มีวาสนาต่อกัน ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าพวกคุณยังไม่อยากแต่งงาน... สินสอดพวกนี้ก็ถือซะว่าเป็นของรับขวัญที่พวกเราให้เสี่ยวเนี่ยนเนี่ยนก็แล้วกัน”พ่อหานพูดจาได้อย่างสวยหรูไร้ที่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 728

    เสิ่นชิงซูถึงกับไปไม่เป็นลีลาของคุณย่าหานช่างดุดันเหลือเกิน จนเธอไปไม่เป็น ได้แต่หันหน้าไปมองหานหมิงอวี่หานหมิงอวี่ยกมือนวดหว่างคิ้ว เอ่ยกับคุณย่าว่า “คุณย่าครับ ใจเย็น ๆ ก่อน สถานการณ์ระหว่างเราซับซ้อนนิดหน่อย คุณย่าทำแบบนี้ ชิงซูจะลำบากใจเอานะครับ”“อะไรคือสถานการณ์ซับซ้อน?” คุณย่าหานขมวดคิ้วมองหลานชาย “หรือว่า พวกหลานแอบไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว?”หานหมิงอวี่ “...”เสิ่นชิงซู “...”ฟู่ซือเหยียนที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหว“อาซู” ฟู่ซือเหยียนก้าวเข้ามา เมินเฉยคนอื่นรอบข้าง สายตาคมเข้มจับจ้องเพียงเสิ่นชิงซู “เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?”เสิ่นชิงซูมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ขอโทษนะคะคุณฟู่ เกรงว่าตอนนี้ฉันคงไม่ว่างต้อนรับคุณ”คุณย่าหานและแม่หานมองฟู่ซือเหยียน แม่ผัวลูกสะใภ้ลอบสบตากันแวบหนึ่งความจริงก่อนจะบุกมาที่นี่ พวกเขาสืบประวัติของเสิ่นชิงซูมาเรียบร้อยแล้วเรื่องที่เสิ่นชิงซูและฟู่ซือเหยียนเคยเป็นสามีภรรยากัน แม้ทั้งคู่จะไม่เคยเปิดเผย แต่สำหรับตระกูลหาน การสืบเรื่องแค่นี้มันง่ายมากเสิ่นชิงซูเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แถมยังมีลูกชายหญิงกับฟู่ซือเหยียนอีกหนึ่งคู่ แม้คนตระ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status