Share

บทที่ 4

Author: หรงหรงจื่ออี
ฟู่ซือเหยียนอยู่ในชุดสูทสีดำ ดูหล่อเหลาเย็นชา สูงส่งและทะนงตน

เขากวาดสายตามองผ่านดวงหน้าของเสิ่นชิงซูไปอย่างเรียบเฉย ก่อนที่สายตาจะไปตกอยู่บนใบหน้าของฟู่ซืออวี่ที่ร้องไห้อาละวาดไม่หยุด

“ซืออวี่มานี่” เขาโบกมือเรียกฟู่ซืออวี่

เมื่อได้ยินเช่นนั้น บรรดาสาวใช้ต่างหน้าเปลี่ยนสี รีบพากันคลายมือออกอย่างลนลาน

ฟู่ซืออวี่วิ่งปรี่เข้าไปหาฟู่ซือเหยียนทันที

“พ่อ! ฮือ ๆ ๆ… ในที่สุดพ่อก็มาสักที!”

ฟู่ซือเหยียนลูบหัวเขาเบา ๆ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้มนุ่มนวล “บอกพ่อมา เกิดอะไรขึ้น?”

ฟู่ซืออวี่ยังไม่ทันได้พูดอะไร โจวอวี๋ชูก็เดินเข้ามาแล้ว

เธอปาดน้ำตาบนใบหน้า น้ำเสียงอ่อนโยนระคนด้วยความตำหนิตัวเองอยู่หลายส่วน

“ต้องโทษฉัน โผล่มากะทันหันโดยไม่คิดให้รอบคอบก่อน ซืออวี่ยังยอมรับเรื่องที่ฉันเป็นแม่เขาไม่ได้ ก็เลยสะเทือนใจหน่อยน่ะค่ะ”

“คุณไม่ใช่แม่ของผมอยู่แล้ว!” ฟู่ซืออวี่ยกมือขึ้นมาผลักโจวอวี๋ชูออกไปอย่างแรง “คุณเป็นนางมารร้าย! คุณไม่ใช่แม่ของผมสักหน่อย!”

โจวอวี๋ชูร้องอุทานออกมา รองเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าเกิดพลิกขึ้นมา เธอกำลังจะล้มลงอยู่รอมร่อแล้ว

ในช่วงเวลาคับขัน ฟู่ซือเหยียนเข้าไปช้อนร่างโจวอวี๋ชูมาแนบไว้ในอก

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

โจวอวี๋ชูออกแรงที่ขาข้างหนึ่งไม่ได้ “เหมือนจะข้อเท้าพลิกแล้วละ แต่ฉันไม่เป็นไรค่ะ ความรู้สึกของซืออวี่สำคัญที่สุด”

ฟู่ซือเหยียนวางมาดขึงขัง โน้มตัวไปอุ้มโจวอวี๋ชูขึ้นมา “ผมพาคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อย”

พอหมุนตัวกลับ เขากับเสิ่นชิงซูก็สบตากัน

เสิ่นชิงซูดวงตาแดงระเรื่อ จ้องเขานิ่ง “เธอเป็นแม่แท้ ๆ ของซืออวี่จริงเหรอคะ?”

“เสี่ยวชูเป็นแม่ของซืออวี่จริง ๆ”

ฟู่ซือเหยียนมองหน้าเสิ่นชิงซูตรง ๆ แววตาลุ่มลึกเย็นชาราบเรียบ

เสิ่นชิงซูมองไม่เห็นถึงความรู้สึกผิดของคนโกหกจากใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย

หัวใจที่ถูกทิ่มแทงด้วยความเย็นยะเยือกค่อย ๆ จมดิ่งลงไปช้า ๆ

“ซืออวี่ค่อนข้างเชื่อฟังคุณ คุณพาเขากลับไปก่อน และพยายามช่วยเกลี้ยกล่อมเขาให้เข้าใจที”

ฟู่ซือเหยียนพูดทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้แล้วอุ้มโจวอวี๋ชูขึ้นรถไป

รถเมย์บัคสีดำแล่นออกไปจากตระกูลฟู่

เสิ่นชิงซูก้มหน้าลง ดวงตาบวมเป่ง ริมฝีปากที่ซีดเผือดเผยอออกเล็กน้อย พยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อยู่หลายทีถึงค่อยกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้

“แม่”

มือเล็ก ๆ ของฟู่ซืออวี่จับมือเสิ่นชิงซูไว้ “แม่ แม่ตาแดงจัง แม่ร้องไห้แล้วใช่ไหม?”

เสิ่นชิงซูย่อตัวนั่งลง ลูบดวงหน้าของฟู่ซืออวี่เบา ๆ ก่อนจะส่งรอยยิ้มอันไร้สีสันที่ฝืนเค้นออกมาไปให้เขา

“แม่ไม่ได้ร้องจ้ะ แม่จะพาลูกกลับบ้านก่อนนะ” เสิ่นชิงซูลุกขึ้น มองไปยังฉินฟาง “คุณเองก็ได้ยินที่ฟู่ซือเหยียนพูดแล้วนะคะ”

ฉินฟางโกรธขึ้งจ้องเธอตาเขม็ง

แม้จะเจ็บใจ แต่ฟู่ซือเหยียนพูดมาแบบนั้นแล้ว เธอจะรั้งตัวฟู่ซืออวี่ให้อยู่ต่อก็ไม่ได้

อย่างไรตอนนี้โจวอวี๋ชูก็กลับมาแล้ว ฟู่ซือเหยียนจะต้องหย่ากับเสิ่นชิงซูทันทีแน่ ถึงตอนนั้นเสิ่นชิงซูก็อย่าหวังว่าจะใช้ฟู่ซืออวี่เป็นข้ออ้างอยู่ที่ตระกูลฟู่ต่อได้อีก!

เมื่อนึกได้อย่างนี้ ฉินฟางก็อารมณ์ดีขึ้นมาก

……

เสิ่นชิงซูลองพยายามอธิบายฐานะของโจวอวี๋ชูให้ฟู่ซืออวี่ฟังระหว่างทางกลับบ้าน

แต่ฟู่ซืออวี่ต่อต้านมาก พูดได้ไม่กี่คำก็ร้องไห้ขึ้นมาอีก

เสิ่นชิงซูทั้งจนปัญญาทั้งปวดใจ จึงได้แต่ปลอบใจเขาไปก่อน

ฟู่ซืออวี่ร้องไห้จนหมดแรง จึงผล็อยหลับไปก่อนจะถึงบ้านเสียอีก

เสิ่นชิงซูเพิ่งจะวางตัวฟู่ซืออวี่ที่หลับสนิทลงบนเตียงในห้องนอนเด็ก ก็มีเสียงรถยนต์ดังแว่วขึ้นมาจากชั้นล่าง

เธอช่วยห่มผ้าให้ฟู่ซืออวี่

ขณะลงมาชั้นล่าง ฟู่ซือเหยียนก็ผลักประตูเดินเข้ามาพอดี

คนทั้งสองประสานสายตากัน บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย

“ซืออวี่ล่ะ?” ฟู่ซือเหยียนถาม

“นอนอยู่ข้างบนค่ะ”

ฟู่ซือเหยียนตอบรับเสียงหนึ่ง ก่อนจะเดินผ่านเสิ่นชิงซูแล้วมุ่งหน้าตรงขึ้นไปยังชั้นสอง

เสิ่นชิงซูหมุนตัวกลับ ขณะมองแผ่นหลังของเขา มือที่แนบอยู่ข้างกายพลันกำหมัดแน่น

เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายยังสาวเท้าเดินตามขึ้นไป

อยู่เคียงข้างกันฉันสามีภรรยามาห้าปี มีความพัวพันกันหลายค่ำคืน เธอจึงคิดว่าตนก็น่าจะมีสิทธิ์ขอคำอธิบายจากเขาสักคำ

ชั้นสอง ฟู่ซือเหยียนผลักประตูห้องนอนเด็กออกแล้วเดินเข้าไป

ก่อนจะอุ้มฟู่ซืออวี่ที่กำลังหลับลึกขึ้น แล้วหมุนกายเดินกลับออกมา

เสิ่นชิงซูยืนมองเขาจากด้านนอก “คุณจะพาซืออวี่ไปไหนคะ?”

“เสี่ยวชูเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนี้เธอต้องการซืออวี่”

ฟู่ซือเหยียนทิ้งท้ายไว้ด้วยคำอธิบายสั้น ๆ แล้วอุ้มร่างฟู่ซืออวี่เดินจากไป

เสิ่นชิงซูยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น

จนกระทั่งเสียงรถยนต์ห่างออกไปไกลแล้ว เธอค่อยดึงสติกลับมาได้

เขาจะไปจะมาก็ทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ถึงขั้นไม่แม้แต่จะให้เธอมีโอกาสได้ทวงถามสักคำ

เสิ่นชิงซูกวาดตามองบ้านที่ว่างเปล่า

หัวเราะ

หัวเราะไปหัวเราะมา น้ำตาพลันไหลล้นออกมาจากเบ้าตา

..….

เขตโครงการบ้านหรูกลางเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องบริการระบบรักษาความปลอดภัย บนที่ดินราคาแพงหูฉี่ในเมืองเป่ย

รถเมย์บัคสีดำไต่เขาขึ้นมาจอดลงใน ‘คฤหาสน์เหยาเยว่’ ซึ่งบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ

ภายในรถ ฟู่ซืออวี่ตื่นขึ้นมาแล้ว

ฟู่ซือเหยียนกอดเขาพลางพูดอธิบายกับเขาว่าโจวอวี๋ชูเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด ส่วนเสิ่นชิงซูเป็นแค่แม่เลี้ยงที่ดูแลเขามาห้าปีเท่านั้น

ฟู่ซืออวี่ครั้นฟังแล้วก็ไม่ได้อาละวาดอีก ถามเพียงคำเดียวว่า “งั้นต่อไปผมจะมีแม่สองคนใช่ไหมครับ?”

ฟู่ซือเหยียนตอบ ‘อืม’ ด้วยเสียงเรียบ ตามด้วยการพูดเน้นย้ำอีกว่า “แม่เสี่ยวชูลำบากมากกว่าจะคลอดลูกออกมาได้ เธอรักลูกมากนะ ดังนั้นลูกต้องไปขอโทษเธอ และเรียกเธอว่าแม่ด้วย จำได้หรือยัง?”

ฟู่ซืออวี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย

พอเข้าบ้านมาแล้ว โจวอวี๋ชูนั่งอยู่บนโซฟา คลุมผ้าห่มไว้บนท่อนขา เท้าสองข้างที่โผล่ออกมาข้างนอก มีข้างหนึ่งที่ข้อเท้าพลิกถูกผ้าก๊อซพันไว้จนหนาเตอะ

เมื่อเห็นพวกเขา ดวงหน้างดงามประณีตของโจวอวี๋ชูประดับรอยยิ้มหวานในชั่วพริบตาเดียว

“ซือเหยียน ซืออวี่ มากันแล้วเหรอ”

ฟู่ซืออวี่ที่จูงมือฟู่ซือเหยียนอยู่แหงนหน้ามองฟู่ซือเหยียน

“ไปเถอะ” ฟู่ซือเหยียนลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ

ฟู่ซืออวี่ได้รับกำลังใจแล้ว จึงเดินเข้าไปหาโจวอวี๋ชู

โจวอวี๋ชูยื่นมือมาหาเขา “ซืออวี่ มาให้แม่กอดหน่อยได้ไหม?”

ฟู่ซืออวี่ลังเลเล็กน้อย ทว่าสุดท้ายก็เดินเข้าไปอยู่ดี

โจวอวี๋ชูกอดเขาไว้ พลางน้ำตาโรยริน

“ลูกรัก ขอโทษนะ แม่ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่รับลูกเป็นลูก ห้าปีมานี้แม่คิดถึงลูกทุกวันเลยนะ…”

ร่างเล็กของฟู่ซืออวี่ที่โดนเธอกอดดูแข็งทื่อเล็กน้อย

เขาได้กลิ่นหอมของดอกไม้จากน้ำหอมบนตัวโจวอวี๋ชู

แตกต่างจากกลิ่นหวานสดชื่นจาง ๆ บนตัวเสิ่นชิงซูโดยสิ้นเชิง…
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 307

    เสี่ยวเนี่ยนอันขมวดคิ้วไม่ได้พูด แต่ก้มหน้ามองตะเกียบเด็กที่ตัวเองถืออยู่ในมือท่าทางการจับตะเกียบของเขาไม่ถูกเสี่ยวอันหนิงจึงหยุดแล้วสอนเขาว่าต้องใช้ตะเกียบเด็กอย่างไรด้วยตัวเอง“เอานิ้วโป้งไว้ตรงนี้ นิ้วชี้ไว้ตรงนี้...ใช่แล้ว เสี่ยวเนี่ยนอันเก่งจังเลย งั้นตอนนี้ลองดูสิ ทำเหมือนกับฉัน คีบเนื้อ คีบขึ้นมา อ้าปาก อ้ำ~ภายใต้การสอนด้วยความอดทนของเสี่ยวอันหนิง เสี่ยวเนี่ยนอันใช้ตะเกียบเด็กคีบเนื้อชิ้นหนึ่งเข้าปากได้สำเร็จเสี่ยวอันหนิงวางตะเกียบลงทันที ตามด้วยปรบมือ “เสี่ยวเนี่ยนอันสุดยอดไปเลย! ตอนที่ฉันเพิ่งเริ่มใช้ตะเกียบนี่ต้องเรียนตั้งหลายวันแน่ะถึงจะเป็น แต่เสี่ยวเนี่ยนอันเป็นอัจฉริยะน้อย เรียนครั้งเดียวก็เป็นแล้ว!”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงอาย ใบหน้าเล็ก ๆ แดงระเรื่อเขามองไปทางเฟิงอวิ๋นเฉียนด้วยความอายเล็กน้อยเฟิงอวิ๋นเฉียนดื่มเหล้านิดหน่อย มึนนิด ๆเมื่อกี้เขาเห็นการแสดงอันยอดเยี่ยมของลูกชายแล้วเขาวางแก้วเหล้าลง แล้วยกมือใหญ่ยีหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน “เนี่ยนอันก้าวหน้ามากเลยนะ”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงดีใจมาก ยกมุมปาก แย้มยิ้มขี้อายเสิ่นชิงซูสังเกตปฏิสัมพันธ์ขอ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 306

    เวินจิ่งซีเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทางหนักอกมีดในมือเสิ่นชิงซูร่วงตกลงพื้น“ระวัง!”เวินจิ่งซีรีบไปดึงเธอออกไป๋เจี้ยนเหวินตกใจกับเสียงจึงรีบปิดไฟกระทะผัดแล้วหันมามองเสิ่นชิงซูเห็นเธอมีสีหน้าแปลกไป ไป๋เจี้ยนเหวินจึงขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไปน่ะ?”เสิ่นชิงซูหน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำโจวอวี๋ชูทำให้ลูกชายของเธอตายแต่เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป?เมื่อกี้เธอยังอุ้มเด็กคนนั้น...เสิ่นชิงซูหลับตาลง ข่มอารมณ์แล้วพูด “ให้เฟิงอวิ๋นเฉียนพาเด็กคนนั้นไป เอาไปเดี๋ยวนี้!”เธอรู้ว่าเด็กบริสุทธิ์แต่แม่ของเด็กคนนั้นคือฆาตกรที่ทำให้ลูกชายของเธอตาย!ไป๋เจี้ยนเหวินพยุงเสิ่นชิงซูพลางมองเวินจิ่งซี “ยังยืนเฉยทำไม รีบไปสิ!”เวินจิ่งซีถอนหายใจและหมุนตัวออกจากห้องครัว เกือบได้เจอกับเฟิงอวิ๋นเฉียนแล้วเฟิงอวิ๋นเฉียนอยากเข้าห้องครัว แต่เวินจิ่งซีขวางเขาไว้ทัน“คุณทำอะไรน่ะ?”เวินจิ่งซีขมวดคิ้วจ้องเขา “อาซูรู้แล้วว่าเสี่ยวเนี่ยนอันคือลูกของคุณกับโจวอวี๋ เธอไม่ให้อภัยชูโจวอวี๋ชู ถ้าคุณยังมีหัวใจเหลืออยู่ก็รีบพาลูกชายของคุณไสหัวไปเถอะ!”เฟิงอวิ๋นเฉียนมองเวินจิ่งซีด้วยสายตาราบเรียบ “เนี่ยนอันเป็นลูกช

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 305

    เสี่ยวเนี่ยนอันพยักหน้าเสิ่นชิงซูนั่งยองลงอีกครั้ง มองเขาแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “เสียงของเสี่ยวเนี่ยนอันไพเราะมาก น้าอยากฟังอีกจังเลย ได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันอ้าปาก ค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมาคำหนึ่งช้า ๆ “ครับ”“เก่งจังเลย!” เสิ่นชิงซูลูบศีรษะของเขา ตามด้วยมองเสี่ยวอันหนิง “ลูกพาเสี่ยวเนี่ยนอันไปเล่นก่อนเถอะ”“ได้ค่ะ!”เสี่ยวอันหนิงจูงมือเสี่ยวเนี่ยนอันวิ่งไปเล่นที่ห้องรับแขกอย่างสุขสันต์ทันทีเสี่ยวเนี่ยนอันยินดีตามเสี่ยวอันหนิงไปเสี่ยวอันหนิงขนกล่องของเล่นตัวเองออกไปแล้วเทของออกทั้งหมด “เสี่ยวเนี่ยนอัน ของเล่นพวกนี้เลือกได้ตามสบายเลยนะ ชอบอันไหนฉันจะให้ แต่เลือกได้แค่ชิ้นเดียวนะ~”เด็กสองคนเล่นกันเอง ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องกังวลเสิ่นชิงซูลุกขึ้นยืนมองจางอวิ๋นและถาม “เสี่ยวเนี่ยนอันกี่ขวบแล้วคะ?“เดือนที่แล้วเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบสามปีไปค่ะ”เสิ่นชิงซูพยักหน้า “งั้นก็เด็กกว่าเสี่ยวอันหนิงไปปีหนึ่ง สามขวบยังเด็ก พวกคุณอย่ายอมแพ้กับเขานะ อย่างอื่นเขาฟังรู้เรื่องหมด แค่ว่าจิตใจอ่อนไหวกว่าเด็กคนอื่น ผู้ใหญ่ต้องแนะนำด้วยความอดทนเป็นเวลานาน“คุณพูดถูกค่ะ เจ้านายรักคุณชายน้อยมาก เขา

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 304

    เสี่ยวเนี่ยนอันมีตรวจพบว่ามีแนวโน้มปิดกั้นตัวเองตั้งแต่สองขวบนับจากตรวจพบ จางอวิ๋นกับครูพี่เลี้ยงอีกคนหนึ่งเพียรพยายามแนะนำเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ตลอด กลับได้ผลผิดจากที่หวังทว่าเวลานี้ เสี่ยวอันหนิงกับเสิ่นชิงซูกลับเปลี่ยนแปลงเสี่ยวเนี่ยนอันได้อย่างง่ายดายจางอวิ๋นรู้สึกว่าอัศจรรย์ใจมาก!ไม่เพียงจางอวิ๋น แม้แต่เจี่ยงเหวินจิ่นกับเวินจิ่งซีก็ประหลาดใจมากเหมือนกันเวินจิ่งซีกระซิบบ่น “มิน่าฟู่ซือเหยียนถึงไม่ยอมหย่าสักที ดวงสมพงษ์กับเด็กที่มีมากอย่างนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไหนบ้างจะไม่หวั่นไหว!”เจี่ยงเหวินจิ่นถลึงตาใส่เขา “วันดี ๆ อย่าพูดถึงตัวซวย!”เวินจิ่งซี “...ก็ได้ครับ!”เสิ่นชิงซูนั่งยองลงมองเสี่ยวเนี่ยนอันด้วยความอ่อนโยน “เสี่ยวเนี่ยนอัน น้าอุ้มหนูได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันกะพริบตาปริบ ๆ หน้าเป๋อเหลอนาทีนี้บรรยากาศเงียบกริบทันใดทุกคนกำลังรอปฏิกิริยาของเสี่ยวเนี่ยนอันแม้แต่เสี่ยวอันหนิงก็ไม่กล้าพูดสักแอะ แค่ยืนจ้องเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ด้านข้างเงียบ ๆเวลาผ่านไปทุกนาที เสี่ยวเนี่ยนอันยังไม่ตอบสนองพวกผู้ใหญ่ต่างเข้าใจ การขอแบบนี้เป็นการฝืนเสี่ยวเนี่ยนอันเกินไป“ไม่เป็นไ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 303

    เสิ่นชิงซูลูกชิ้นหัวสิงโตที่เพิ่งทำเสร็จออกมาจากห้องครัว“เสี่ยวอันหนิงอย่าเข้ามา ระวังร้อนนะ”เสี่ยวอันหนิงได้ยินหย่างนั้นจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันหลบไปอีกทางหนึ่งทันทีกระทั่งเห็นเสิ่นชิงซูวางอาหารไว้บนโต๊ะแล้ว เสี่ยวอันหนิงจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันเดินไปตรงหน้าเสิ่นชิงซู“แม่คะ แม่ดูสิ นี่คือเสี่ยวเนี่ยนอัน!”เสี่ยวอันหนิงผลักเสี่ยวเนี่ยอันไปตรงหน้าเสิ่นชิงซูเสิ่นชิงซูยิ้ม ลูกสาวเป็นพวกเข้าสังคมเก่งคนหนึ่ง ชอบพาเพื่อนมาที่บ้าน เธอชินกับเรื่องแบบนี้นานแล้วเธอนั่งยองลงเหมือนทุกที คิดจะทักทายกับเด็กน้อย แต่จังหวะที่เห็นดวงตาดำขลับกลมโตของเสี่ยวเนี่ยนอันกลับชะงักงันความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายถาโถมเข้ามาในหัวใจเสี่ยวเนี่ยนอันก็มองเสิ่นชิงซูเหมือนกันดวงตาเด็กน้อยดำขลับสะท้อนใบหน้าของเสิ่นชิงซู ดวงหน้าทื่อ ๆ เล็ก ๆ ยังคงไม่มีอารมณ์ใดเสี่ยวอันหนิงเดินไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูของเสิ่นชิงซู “แม่คะ เสี่ยวเนี่ยนอันไม่ค่อยเหมือนกับเด็กทั่วไปค่ะ น้าจางบอกว่าเขาไม่ชอบพูด”พอเสิ่นชิงซูได้ฟังก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ค่อยเหมือน?ตอนนี้เอง เวินจิ่งซี เจี่ยงเหวินจิ่นและจางอวิ๋นเดินเข้ามาจากข้างน

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 302

    เสี่ยวเนี่ยนอันชอบเสี่ยวอันหนิงมากจริง ๆ เวลาที่เขาอยู่กับเสี่ยวอันหนิง แม้จะไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่แค่เสี่ยวอันหนิงถามเขา เขาก็จะตั้งใจตอบทุกครั้งจะพูดง่าย ๆ ไม่กี่คำจางอวิ๋น เวินจิ่งซีเจี่ยงและเหวินจิ่นซึ่งเป็นผู้ใหญ่สามคนยืนมองอยู่ข้างนอก รู้สึกว่าภาพที่เด็กสองคนอยู่ด้วยกันช่างเป็นการเยียวยาที่แสนสวยงามเหลือเกิน“จะว่าไปก็แปลกนะคะ ฉันดูแลคุณชายน้อยมาสองปี นอกจากเจ้านายเรา ยังเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขายอมสนิทสนมกับใครก่อนเลย”“จะเป็นไปได้ไหมว่าลูกสาวผมน่ารักมาก?” เวินจิ่งซีเลิกคิ้วด้วยความภาคภูมิใจเต็มประดา “อยู่ที่โรงเรียนอนุบาล เธอเป็นเด็กที่พ็อปที่สุดเลยนะ”พอจางอวิ๋นได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะพูด “งั้นคุณมีความสุขมากเลยนะคะ มีลูกสาวน่ารักอย่างนี้ ภรรยาของคุณต้องเป็นคนดีมากเลยค่ะ เธอเลี้ยงดูเสี่ยวอันหนิงได้ดีมาก”เวินจิ่งซีกระแอมกระไอ “นี่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของผมครับ เป็นลูกสาวบุญธรรม”“หา อย่างนี้นี่เอง....” จางอวิ๋นก็อีหลักอีเหลืออยู่บ้างเหมือนกัน จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ถ้าข้างตัวคุณชายน้อยมีเพื่อนน่ารัก ๆ อย่างเสี่ยวอันหนิง อาการของเขาต้องดีขึ้นมากแน่ค่ะ”“พวกคุณก็อยู่ที่เมืองเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status