Share

บทที่ 4

Author: หรงหรงจื่ออี
ฟู่ซือเหยียนอยู่ในชุดสูทสีดำ ดูหล่อเหลาเย็นชา สูงส่งและทะนงตน

เขากวาดสายตามองผ่านดวงหน้าของเสิ่นชิงซูไปอย่างเรียบเฉย ก่อนที่สายตาจะไปตกอยู่บนใบหน้าของฟู่ซืออวี่ที่ร้องไห้อาละวาดไม่หยุด

“ซืออวี่มานี่” เขาโบกมือเรียกฟู่ซืออวี่

เมื่อได้ยินเช่นนั้น บรรดาสาวใช้ต่างหน้าเปลี่ยนสี รีบพากันคลายมือออกอย่างลนลาน

ฟู่ซืออวี่วิ่งปรี่เข้าไปหาฟู่ซือเหยียนทันที

“พ่อ! ฮือ ๆ ๆ… ในที่สุดพ่อก็มาสักที!”

ฟู่ซือเหยียนลูบหัวเขาเบา ๆ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้มนุ่มนวล “บอกพ่อมา เกิดอะไรขึ้น?”

ฟู่ซืออวี่ยังไม่ทันได้พูดอะไร โจวอวี๋ชูก็เดินเข้ามาแล้ว

เธอปาดน้ำตาบนใบหน้า น้ำเสียงอ่อนโยนระคนด้วยความตำหนิตัวเองอยู่หลายส่วน

“ต้องโทษฉัน โผล่มากะทันหันโดยไม่คิดให้รอบคอบก่อน ซืออวี่ยังยอมรับเรื่องที่ฉันเป็นแม่เขาไม่ได้ ก็เลยสะเทือนใจหน่อยน่ะค่ะ”

“คุณไม่ใช่แม่ของผมอยู่แล้ว!” ฟู่ซืออวี่ยกมือขึ้นมาผลักโจวอวี๋ชูออกไปอย่างแรง “คุณเป็นนางมารร้าย! คุณไม่ใช่แม่ของผมสักหน่อย!”

โจวอวี๋ชูร้องอุทานออกมา รองเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าเกิดพลิกขึ้นมา เธอกำลังจะล้มลงอยู่รอมร่อแล้ว

ในช่วงเวลาคับขัน ฟู่ซือเหยียนเข้าไปช้อนร่างโจวอวี๋ชูมาแนบไว้ในอก

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

โจวอวี๋ชูออกแรงที่ขาข้างหนึ่งไม่ได้ “เหมือนจะข้อเท้าพลิกแล้วละ แต่ฉันไม่เป็นไรค่ะ ความรู้สึกของซืออวี่สำคัญที่สุด”

ฟู่ซือเหยียนวางมาดขึงขัง โน้มตัวไปอุ้มโจวอวี๋ชูขึ้นมา “ผมพาคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อย”

พอหมุนตัวกลับ เขากับเสิ่นชิงซูก็สบตากัน

เสิ่นชิงซูดวงตาแดงระเรื่อ จ้องเขานิ่ง “เธอเป็นแม่แท้ ๆ ของซืออวี่จริงเหรอคะ?”

“เสี่ยวชูเป็นแม่ของซืออวี่จริง ๆ”

ฟู่ซือเหยียนมองหน้าเสิ่นชิงซูตรง ๆ แววตาลุ่มลึกเย็นชาราบเรียบ

เสิ่นชิงซูมองไม่เห็นถึงความรู้สึกผิดของคนโกหกจากใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย

หัวใจที่ถูกทิ่มแทงด้วยความเย็นยะเยือกค่อย ๆ จมดิ่งลงไปช้า ๆ

“ซืออวี่ค่อนข้างเชื่อฟังคุณ คุณพาเขากลับไปก่อน และพยายามช่วยเกลี้ยกล่อมเขาให้เข้าใจที”

ฟู่ซือเหยียนพูดทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้แล้วอุ้มโจวอวี๋ชูขึ้นรถไป

รถเมย์บัคสีดำแล่นออกไปจากตระกูลฟู่

เสิ่นชิงซูก้มหน้าลง ดวงตาบวมเป่ง ริมฝีปากที่ซีดเผือดเผยอออกเล็กน้อย พยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อยู่หลายทีถึงค่อยกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้

“แม่”

มือเล็ก ๆ ของฟู่ซืออวี่จับมือเสิ่นชิงซูไว้ “แม่ แม่ตาแดงจัง แม่ร้องไห้แล้วใช่ไหม?”

เสิ่นชิงซูย่อตัวนั่งลง ลูบดวงหน้าของฟู่ซืออวี่เบา ๆ ก่อนจะส่งรอยยิ้มอันไร้สีสันที่ฝืนเค้นออกมาไปให้เขา

“แม่ไม่ได้ร้องจ้ะ แม่จะพาลูกกลับบ้านก่อนนะ” เสิ่นชิงซูลุกขึ้น มองไปยังฉินฟาง “คุณเองก็ได้ยินที่ฟู่ซือเหยียนพูดแล้วนะคะ”

ฉินฟางโกรธขึ้งจ้องเธอตาเขม็ง

แม้จะเจ็บใจ แต่ฟู่ซือเหยียนพูดมาแบบนั้นแล้ว เธอจะรั้งตัวฟู่ซืออวี่ให้อยู่ต่อก็ไม่ได้

อย่างไรตอนนี้โจวอวี๋ชูก็กลับมาแล้ว ฟู่ซือเหยียนจะต้องหย่ากับเสิ่นชิงซูทันทีแน่ ถึงตอนนั้นเสิ่นชิงซูก็อย่าหวังว่าจะใช้ฟู่ซืออวี่เป็นข้ออ้างอยู่ที่ตระกูลฟู่ต่อได้อีก!

เมื่อนึกได้อย่างนี้ ฉินฟางก็อารมณ์ดีขึ้นมาก

……

เสิ่นชิงซูลองพยายามอธิบายฐานะของโจวอวี๋ชูให้ฟู่ซืออวี่ฟังระหว่างทางกลับบ้าน

แต่ฟู่ซืออวี่ต่อต้านมาก พูดได้ไม่กี่คำก็ร้องไห้ขึ้นมาอีก

เสิ่นชิงซูทั้งจนปัญญาทั้งปวดใจ จึงได้แต่ปลอบใจเขาไปก่อน

ฟู่ซืออวี่ร้องไห้จนหมดแรง จึงผล็อยหลับไปก่อนจะถึงบ้านเสียอีก

เสิ่นชิงซูเพิ่งจะวางตัวฟู่ซืออวี่ที่หลับสนิทลงบนเตียงในห้องนอนเด็ก ก็มีเสียงรถยนต์ดังแว่วขึ้นมาจากชั้นล่าง

เธอช่วยห่มผ้าให้ฟู่ซืออวี่

ขณะลงมาชั้นล่าง ฟู่ซือเหยียนก็ผลักประตูเดินเข้ามาพอดี

คนทั้งสองประสานสายตากัน บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย

“ซืออวี่ล่ะ?” ฟู่ซือเหยียนถาม

“นอนอยู่ข้างบนค่ะ”

ฟู่ซือเหยียนตอบรับเสียงหนึ่ง ก่อนจะเดินผ่านเสิ่นชิงซูแล้วมุ่งหน้าตรงขึ้นไปยังชั้นสอง

เสิ่นชิงซูหมุนตัวกลับ ขณะมองแผ่นหลังของเขา มือที่แนบอยู่ข้างกายพลันกำหมัดแน่น

เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายยังสาวเท้าเดินตามขึ้นไป

อยู่เคียงข้างกันฉันสามีภรรยามาห้าปี มีความพัวพันกันหลายค่ำคืน เธอจึงคิดว่าตนก็น่าจะมีสิทธิ์ขอคำอธิบายจากเขาสักคำ

ชั้นสอง ฟู่ซือเหยียนผลักประตูห้องนอนเด็กออกแล้วเดินเข้าไป

ก่อนจะอุ้มฟู่ซืออวี่ที่กำลังหลับลึกขึ้น แล้วหมุนกายเดินกลับออกมา

เสิ่นชิงซูยืนมองเขาจากด้านนอก “คุณจะพาซืออวี่ไปไหนคะ?”

“เสี่ยวชูเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนี้เธอต้องการซืออวี่”

ฟู่ซือเหยียนทิ้งท้ายไว้ด้วยคำอธิบายสั้น ๆ แล้วอุ้มร่างฟู่ซืออวี่เดินจากไป

เสิ่นชิงซูยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น

จนกระทั่งเสียงรถยนต์ห่างออกไปไกลแล้ว เธอค่อยดึงสติกลับมาได้

เขาจะไปจะมาก็ทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ถึงขั้นไม่แม้แต่จะให้เธอมีโอกาสได้ทวงถามสักคำ

เสิ่นชิงซูกวาดตามองบ้านที่ว่างเปล่า

หัวเราะ

หัวเราะไปหัวเราะมา น้ำตาพลันไหลล้นออกมาจากเบ้าตา

..….

เขตโครงการบ้านหรูกลางเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องบริการระบบรักษาความปลอดภัย บนที่ดินราคาแพงหูฉี่ในเมืองเป่ย

รถเมย์บัคสีดำไต่เขาขึ้นมาจอดลงใน ‘คฤหาสน์เหยาเยว่’ ซึ่งบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ

ภายในรถ ฟู่ซืออวี่ตื่นขึ้นมาแล้ว

ฟู่ซือเหยียนกอดเขาพลางพูดอธิบายกับเขาว่าโจวอวี๋ชูเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด ส่วนเสิ่นชิงซูเป็นแค่แม่เลี้ยงที่ดูแลเขามาห้าปีเท่านั้น

ฟู่ซืออวี่ครั้นฟังแล้วก็ไม่ได้อาละวาดอีก ถามเพียงคำเดียวว่า “งั้นต่อไปผมจะมีแม่สองคนใช่ไหมครับ?”

ฟู่ซือเหยียนตอบ ‘อืม’ ด้วยเสียงเรียบ ตามด้วยการพูดเน้นย้ำอีกว่า “แม่เสี่ยวชูลำบากมากกว่าจะคลอดลูกออกมาได้ เธอรักลูกมากนะ ดังนั้นลูกต้องไปขอโทษเธอ และเรียกเธอว่าแม่ด้วย จำได้หรือยัง?”

ฟู่ซืออวี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย

พอเข้าบ้านมาแล้ว โจวอวี๋ชูนั่งอยู่บนโซฟา คลุมผ้าห่มไว้บนท่อนขา เท้าสองข้างที่โผล่ออกมาข้างนอก มีข้างหนึ่งที่ข้อเท้าพลิกถูกผ้าก๊อซพันไว้จนหนาเตอะ

เมื่อเห็นพวกเขา ดวงหน้างดงามประณีตของโจวอวี๋ชูประดับรอยยิ้มหวานในชั่วพริบตาเดียว

“ซือเหยียน ซืออวี่ มากันแล้วเหรอ”

ฟู่ซืออวี่ที่จูงมือฟู่ซือเหยียนอยู่แหงนหน้ามองฟู่ซือเหยียน

“ไปเถอะ” ฟู่ซือเหยียนลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ

ฟู่ซืออวี่ได้รับกำลังใจแล้ว จึงเดินเข้าไปหาโจวอวี๋ชู

โจวอวี๋ชูยื่นมือมาหาเขา “ซืออวี่ มาให้แม่กอดหน่อยได้ไหม?”

ฟู่ซืออวี่ลังเลเล็กน้อย ทว่าสุดท้ายก็เดินเข้าไปอยู่ดี

โจวอวี๋ชูกอดเขาไว้ พลางน้ำตาโรยริน

“ลูกรัก ขอโทษนะ แม่ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่รับลูกเป็นลูก ห้าปีมานี้แม่คิดถึงลูกทุกวันเลยนะ…”

ร่างเล็กของฟู่ซืออวี่ที่โดนเธอกอดดูแข็งทื่อเล็กน้อย

เขาได้กลิ่นหอมของดอกไม้จากน้ำหอมบนตัวโจวอวี๋ชู

แตกต่างจากกลิ่นหวานสดชื่นจาง ๆ บนตัวเสิ่นชิงซูโดยสิ้นเชิง…
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 100

    แกร้ง!เสียงมีดผ่าตัดหล่นลงพื้นดังขึ้นอย่างชัดเจนแพทย์วิสัญญีที่กำลังจะฉีดยาก็ชะงักทันที!หัวหน้าเจียงขมวดคิ้ว มองไปยังผู้ช่วยคนที่หนึ่ง “เธอเป็นอะไรไป?”ผู้ช่วยคนที่หนึ่งทำหน้าไร้เดียงสา “ไม่ใช่ฉันนะคะ นี่มัน...”ทันใดนั้นแพทย์วิสัญญีก็ดึงเข็มฉีดยาออก “แผ่นดินไหว!”เสิ่นชิงซูเบิกตาโพลงขึ้นทันที......ไฟผ่าตัดเหนือศีรษะกะพริบติด ๆ ดับ ๆ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เตียงผ่าตัดใต้ร่างกำลังสั่นไหว!ในวินาทีต่อมา เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นทั่วทั้งโรงพยาบาล!“หยุดการผ่าตัด! อพยพไปทางหนีไฟเร็วเข้า...”เสิ่นชิงซูงุนงงไปหมด ถูกเฉียวซิงเจียและแพทย์วิสัญญีประคองลงจากเตียงผ่าตัดประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ทางเดินเต็มไปด้วยผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ สถานการณ์วุ่นวายอยู่พักหนึ่งเวินจิ่งซีเห็นพวกเธอออกมาก็รีบเข้าไปหา“เป็นยังไงบ้าง? ผ่าตัดไปหรือยัง?”“ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” เฉียวซิงเจียพูดพร้อมกับประคองเสิ่นชิงซูเวินจิ่งซีพยักหน้า ร่างสูงใหญ่ของเขาคอยป้องกันพวกเธอขณะเดินไปยังทางหนีไฟ...โชคดีที่แผ่นดินไหวหยุดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ทั้งทางหนีไฟและทางเดินต่างเต็มไปด้วยผู้คนถึงแ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 99

    เสิ่นชิงซูต้องตรวจเจอว่าท้องตั้งนานแล้วแน่ ๆ และที่สำคัญคือเธอไม่เคยคิดจะบอกเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ!ฟู่ซือเหยียนนึกถึงวันนั้น...วันนั้นทั้งลมทั้งหิมะรุนแรงขนาดนั้น ท่าทีของเสิ่นชิงซูก็เด็ดเดี่ยวขนาดนั้น ทำให้เขาในตอนนั้นถูกความโกรธเข้าครอบงำจนหน้ามืดตามัว กลับมองข้ามรายละเอียดที่สำคัญที่สุดไป!รถเมย์บัคแล่นด้วยความเร็วสูงอยู่บนถนนในเมือง เปลี่ยนเลนอย่างอันตรายอยู่หลายครั้ง แต่ความเร็วกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย!ภายในรถ มือที่กุมพวงมาลัยของฟู่ซือเหยียนเกร็งแน่น ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงเย็นชานี่เสิ่นชิงซูวางแผนที่จะหย่าทั้ง ๆ ที่ท้องลูกของเขา แล้วไปคบกับเวินจิ่งซีอย่างนั้นเหรอ?เธอคิดจะให้ลูกของเขาเรียกคนอื่นว่าพ่องั้นเหรอ?ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่เม้มแน่นอยู่พลันโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน“เหอะ เสิ่นชิงซู คุณนี่มันแน่จริง ๆ!”ฟู่ซือเหยียนกุมพวงมาลัยด้วยมือเดียว เปิดรายชื่อผู้ติดต่อ แล้วโทรออกหาฉินเยี่ยนเฉิง“เสิ่นชิงซูอยู่ที่โรงพยาบาลพวกนาย นายรีบช่วยฉันเช็คประวัติการรักษาของเธอให้หน่อยสิ...”ปรี๊น ปรี๊น...ทันใดนั้นก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ฝ่าไฟแดงพุ่งออกมาจากสี่แยกข้างหน้า!ฟู่ซือ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 98

    เฉียวซิงเจียช่วยเสิ่นชิงซูทำเรื่องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อน จากนั้นก็พาเธอไปที่ห้องผู้ป่วยเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดของโรงพยาบาลหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นอีกสองสามอย่างผลตรวจจะออกในอีกครึ่งชั่วโมงเวลาแห่งการรอนั้นยาวนานและทรมาน เสิ่นชิงซูยืนอยู่ริมหน้าต่าง ไม่พูดอะไรสักคำเฉียวซิงเจียและเวินจิ่งซีอยู่เป็นเพื่อนเธอเงียบ ๆ ไม่ได้เข้าไปรบกวนครึ่งชั่วโมงผ่านไป ผลตรวจออกมา ทุกอย่างเป็นปกติ สามารถทำการผ่าตัดได้ในขณะเดียวกัน ทางห้องผ่าตัดก็ส่งข่าวมาว่าเตรียมพร้อมแล้ว“อาซู” เฉียวซิงเจียเรียกเธอ “เราต้องไปที่ห้องผ่าตัดแล้วนะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ขนตาของเสิ่นชิงซูก็สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หันกลับมาเฉียวซิงเจียเดินเข้ามาสวมกอดเธอ “ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”เสิ่นชิงซูตอบรับเสียงเบา “อืม”เวินจิ่งซียืนเงียบอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักทั้งสามคนมาถึงหน้าห้องผ่าตัด เวินจิ่งซีหยุดเดินเฉียวซิงเจียควงแขนเสิ่นชิงซูเดินเข้าไป ประตูห้องผ่าตัดปิดลงอย่างหนักหน่วง......ศาลประชาชนเมืองเป่ย ผู

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 97

    “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ” เสิ่นชิงซูเม้มปากถอนหายใจเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า “ฉันขอบคุณในความหวังดีของคุณมากนะ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว”เวินจิ่งซีลุกขึ้นยืนตาม จ้องมองเธอแล้วถามย้ำ “แน่ใจแล้วเหรอครับ?”“อืม” เสิ่นชิงซูพยักหน้า น้ำเสียงหนักแน่น “ตอนแรกฉันยังคิดอยู่เลยว่าหลังผ่าตัดจะปิดบังคุณยังไงดี แต่ในเมื่อตอนนี้คุณรู้แล้ว ก็ช่วยฉันเก็บเป็นความลับด้วยแล้วกันนะ”เวินจิ่งซีเห็นว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมอะไรต่อ“คุณวางใจได้เลย ผมช่วยคุณเก็บเป็นความลับแน่นอน” เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วถามต่อ “พรุ่งนี้คุณผ่าตัดกี่โมงเหรอ?”“เก้าโมงค่ะ”“งั้นพรุ่งนี้ผมไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”“ไม่ต้องหรอกค่ะ” เสิ่นชิงซูไม่อยากรบกวนเวินจิ่งซี “ซิงซิงอยู่ที่โรงพยาบาล เดี๋ยวเธอจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยเอง”“อาจารย์กับภรรยาของอาจารย์กำชับผมนักหนาก่อนที่เขาจะไป ว่าต้องดูแลคุณให้ดี” เวินจิ่งซีพูด “คุณจะให้ผมช่วยเก็บเป็นความลับ งั้นอย่างน้อยผมก็ต้องอยู่เฝ้าคุณ ให้แน่ใจว่าการผ่าตัดของคุณเรียบร้อยดี ผมถึงจะวางใจได้!”เสิ่นชิงซูยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เวินจิ่งซีก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นก่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 96

    ฟู่ซือเหยียนพาฟู่ซืออวี่จากไป พร้อมกับแมวพันธุ์แร็กดอลล์ที่โจวอวี๋ชูย้ำนักย้ำหนาว่าเสิ่นชิงซูจะต้องชอบหลังจากพวกเขาไปแล้ว เสิ่นชิงซูที่ฝืนทนมาตลอดก็ล้มพับลงเวินจิ่งซีรับร่างที่อ่อนแรงของเธอไว้ แล้วอุ้มเธอไปวางบนโซฟาในห้องทำงานเสิ่นชิงซูพิงโซฟา มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก หายใจหอบถี่ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษนี่คืออาการหายใจเร็วเกินไปที่เกิดจากอารมณ์ที่รุนแรงเกินไปเวินจิ่งซีใช้มือปิดปากเธอ แล้วแนะนำอย่างใจเย็น “คุณหายใจเร็วเกินไป ปิดปาก แล้วทำตามจังหวะผมนะ หนึ่ง สอง หายใจ ใช่ แบบนั้นแหละ หนึ่ง สอง หายใจ...”ด้วยความช่วยเหลือของเวินจิ่งซี ในที่สุดการหายใจของเสิ่นชิงซูก็กลับมาเป็นปกติเวินจิ่งซีรินน้ำอุ่นแก้วหนึ่ง ส่งไปจ่อที่ริมฝีปากเธอ “ดื่มน้ำหน่อยนะ”เสิ่นชิงซูพิงโซฟาอยู่ หลังจากดื่มน้ำอุ่นไปครึ่งแก้ว ร่างกายที่เกร็งอยู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงเวินจิ่งซีคว้าหมอนอิงใบหนึ่งมารองหลังให้เธอ “พิงไว้จะสบายขึ้นหน่อย”เสิ่นชิงซูมองเวินจิ่งซี ริมฝีปากที่ซีดเซียวเม้มขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณค่ะ”จากการที่ได้อยู่ด้วยกันมาหลายวันนี้ เธอพบว่าถึงแม้เวินจิ่งซีจะปากร้ายไปหน่อย แต

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 95

    เสิ่นชิงซูมองฟู่ซือเหยียน ถ้อยคำของเขาแทงใจจนเธอต้องยิ้มทั้งน้ำตา“ฟู่ซือเหยียน ลูกชายของคุณเขามีแม่ของเขาอยู่แล้ว แม่ของเขาชื่อโจวอวี๋ชู ไม่ใช่ฉันเสิ่นชิงซู! แล้วก็ ในเมื่อคุณคิดว่าฉันอารมณ์ไม่ดี ไม่ใช่แม่ที่ได้เรื่อง งั้นก็ได้ ฉันยอมรับ! เป็นฉันเองที่ไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของฟู่ซืออวี่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เชิญคุณพาลูกชายของคุณไสหัวออกไปจากที่ของฉันได้แล้ว!”เสิ่นชิงซูพูดรวดเดียวจบ ก็รู้สึกหน้ามืดตาลาย ร่างบางโงนเงนเหมือนจะล้มเวินจิ่งซีรีบเข้าไปประคองเธอไว้ ก้มลงกระซิบถามข้างหูเบา ๆ “คุณยังโอเคไหม?”เสิ่นชิงซูสูดหายใจลึก ภาพที่พร่ามัวกลับมาชัดเจนขึ้น เธอส่ายหน้า “ยังไหว”ฟู่ซือเหยียนมองการกระทำของคนทั้งสอง สันกรามล่างเกร็งแน่น แววตาเย็นเยียบในขณะที่ฟู่ซืออวี่กำลังจ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอย ปากเล็ก ๆ ยังอ้าค้างอยู่ แต่กลับลืมไปแล้วว่าต้องร้องไห้เมื่อกี้แม่พูดว่าอะไรนะ?แม่...ไม่ต้องการเขาแล้วจริง ๆ เหรอ?ความหวาดกลัวอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาในใจของฟู่ซืออวี่ มือที่โอบคอฟู่ซือเหยียนอยู่กระชับแน่นขึ้น “พ่อครับ แม่แค่พูดประชดใช่ไหมครับ? แม่เป็นแม่ของผม แม่ไม่มีทางไม่ต้องการผมใช่ไหมค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status