Home / วาย / คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม) / 11. ไม่ได้ชอบและไม่มีทางชอบ

Share

11. ไม่ได้ชอบและไม่มีทางชอบ

Author: Lastlatte.
last update Last Updated: 2025-11-04 21:52:53

"อืมม...หมีน้อยของฉัน" เสียงละเมอของธนัททำให้ณดลที่เป็นคนตื่นง่ายลืมตาตื่นขึ้นมา ความรู้สึกแรกที่แล่นเข้ามาจู่โจมคือความเจ็บระบมที่ช่วงล่างและตามมาด้วยอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย สาเหตุก็คงไม่ใช่อะไรนอกจากกิจกรรมเข้าจังหวะที่เขากับธนัททำกันไปเมื่อคืน มันรู้สึกดี...ดีมากเสียจนเขากลายเป็นคนใจแตกและเป็นฝ่ายขึ้นคุมเกมเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกอาย…อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน จะกล้าสู้หน้ากับธนัทได้ยังไงในเมื่อเขามีอะไรกับเจ้านายของตัวเองไปแล้ว

เจตนาแรกที่เอ่ยปากช่วยเขาคิดแค่ว่าจะใช้แค่มือทำเรื่องแบบนั้นให้ แต่ไปๆมาๆดันโดนสั่งให้แก้ผ้าแล้วใช้ปากทำแทนจนสุดท้ายก็ทำกันไปจนถึงขั้นนั้นจนได้แถมเขากลับชอบมันซะอีก

"ณดลนะณดล เป็นคนมักมากในกามไปแล้วเหรอ ซี๊ดด...เจ็บชะมัด" ณดลพูดบ่นกับตัวเอง เมื่อพยายามจะขยับตัวแต่ยิ่งขยับก็ยิ่งเจ็บร้าวระบบไปทั้งตัว ส่วนคนข้างกายก็ยังคงนอนหลับอย่างสบายใจ ใบหน้าหล่อที่ไม่ว่าจะตอนไหนก็ดูดีจนเขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัส

"ไม่ว่าจะตอนไหน คุณก็ดูดีเสมอเลย" ณดลมองใบหน้าของธนัทอยู่สักพักก่อนจะพยายามใช้แรงที่พอมีขยับลุกพาร่างของตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ โชคดีที่ธนัททำความสะอาดให้ก่อนนอนเลยไม่รู้สึกเหนอะหนะอะไร

"ณดล! ณดล!! เธออยู่ไหน" เพราะก้อนความอบอุ่นข้างๆหายไปเลยทำให้ธนัทลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับร้องหาด้วยความตกใจและเป็นห่วง

"อยู่นี่ครับ อ้ะ! โอ๊ยย!!" ณดลที่กำลังอาบน้ำชำระร่างกายอยู่ขานรับแต่ก็ดันมาเสียหลักลื่นล้มก้นกระแทก

"ณดล!!" เมื่อได้ยินเสียงร้องดังออกมาจากห้องน้ำ ธนัทก็รีบเปิดประตูเข้ามาโชคดีที่ณดลไม่ได้ล็อคประตู เขารีบพุ่งเข้าไปหาร่างเปลือยของณดลที่นั่งทรุดอยู่กับพื้นห้องพร้อมกับใบหน้าที่เหยเก

"ฮึก..."

"เจ็บมากเลยใช่ไหม หมีน้อยของฉัน" ธนัทขยับเข้าไปกอดปลอบโดยไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะเปียก ขอเพียงแค่ได้กอดสัมผัสเพื่อปลอบโยนคนที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็พอ

"จ...เจ็บมากเลยครับ"

"ฉันขอโทษที่รุนแรง ครั้งแรกของเธอฉันควรจะทะนุถนอมเธอมากกว่านี้ ขอโทษนะ" ธนัทบรรจงจูบลงที่ขมับแล้วไล่ลงมาที่ดวงตา จมูกก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากแล้วประกบจูบอย่างอ่อนโยน

"อืมม.."

"ไปโรงพยาบาลกันไหม" ธนัทถอนจูบออกแล้วเอ่ยถาม ก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับรอยช้ำตามใบหน้าและลำตัวที่เขามั่นใจว่ามันไม่ใช่รอยที่เขาเป็นคนทำ รอยพวกนั้นขึ้นเป็นสีม่วงช้ำขนาดใหญ่โดยเฉพาะที่ข้างแก้มซ้ายและหูข้างขวาที่เคยมีเครื่องช่วยฟังสวมอยู่กลับไม่มี ถ้าจะบอกว่าถอดตอนอาบน้ำก็อาจจะใช่ แต่ภาพในหัวเมื่อคืนที่แล่นเข้ามาตอนเขากำลังซุกไซ้ไล่จูบไปทั่วลำคอของณดล เขาไม่เห็นมันตั้งแต่ตอนนั้น ทว่าเป็นเพราะอารมณ์ความต้องการมันมีมากกว่าเลยทำให้เขาไม่ได้ถามอะไรมัวแต่จ้องจะจับหมีน้อยตรงหน้ากินเพียงอย่างเดียว

"ไม่เป็นไรครับ ถ้าไปคนเขาก็ต้องสงสัยว่าผมเป็นแบบนี้เพราะอะไร ขออนุญาตลาพักสักวันแทนได้ไหมครับ" ณดลบอกเพราะกลัวว่าจะมีคนรู้เรื่องที่เขากับธนัทมีอะไรกัน

"เธอไหวแน่เหรอ ตัวก็รุ่มๆเหมือนจะมีไข้นะ"

"ไหวครับ ผมขอลาหนึ่งวัน คุณหักเงินได้เลยครับ"

"ใครจะไปหักเงินเธอลง…ว่าแต่เครื่องช่วยฟังของเธอหายไปไหน แล้วรอยช้ำพวกนี้มันไม่ได้ใช่รอยดูดของฉันแน่ๆมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง ถึงเมื่อคืนจะรุนแรงไปบ้างแต่ฉันมั่นใจว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอ" ธนัทถาม

"คือผมโดนคนของคุณแพรลากออกไปตอนที่จะเอาน้ำให้คุณ แล้วพวกเขาก็รุมทำร้ายผมเครื่องช่วยฟังน่าจะหลุดไปตอนนั้น"

"จำหน้าพวกมันได้ไหม" ธนัทช่วยพยุงให้ณดลลุกขึ้นมาแนบชิดกับตัวเขาแล้วช่วยอาบน้ำให้

แม้ณดลจะรู้สึกเขินแต่ก็ทำได้เพียงยืนนิ่งให้ธนัทจัดการทุกอย่างให้พร้อมกับเล่าเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“ฉันให้คนไปตามหาเครื่องช่วยฟังของเธอแต่ไม่เจอ คิดว่าแม่บ้านอาจจะเก็บเอาไปทิ้งแล้วหรือไม่ก็พวกมันนั่นแหละที่เอาไป” ธนัทบอกหลังจากวางสาย เขาเดินมานั่งลงข้างเตียงที่ตอนนี้ณดลกำลังนั่งตาแป๋วดูละครย้อนหลังพร้อมกับกินราดหน้าทะเลชามใหญ่ไปด้วย

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็พอได้ยินอยู่ แต่อาจจะต้องรบกวนให้คุณช่วยพูดทางด้านซ้าย” ณดลบอกพลางตักกุ้งตัวโตเข้าปาก

“ได้สิ” ธนัทขยับเข้าไปกระซิบข้างหูซ้ายของณดล

“จั๊กจี้นะครับ” ณดลหดคอหนี

“ฉันก็ทำตามที่เธอบอกไง” ธนัทแกล้ง

“เหมือนคุณแกล้งกันมากกว่า”

“รู้ทัน เธอไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะให้คนตามหาไอ้สองคนนั้นที่มันทำร้ายเธอ”

“ไม่ต้องก็ได้ครับ ที่สองคนนั้นทำร้ายผมก็เพราะเจ้านายเขาสั่งมา เป็นลูกน้องก็ต้องทำตามคำสั่งเจ้านายพวกเขาไม่มีทางเลือกหรอกครับ”

“งั้นฉันจะจัดการเจ้านายของพวกมัน เธอคงโอเคนะ” ธนัทถามความเห็น

“แล้วจะไม่มีปัญหาตามมาเหรอครับเพราะคนที่สั่งก็คือคุณแพรพิไลที่คุณ…ดูจะชอบเธอ” ณดลพูดออกมาตามที่รู้สึกเพราะวันนั้นธนัทดูจะสนใจแพรพิไลมาก…มากเสียจนลืมไปเลยว่าพูดอะไรไว้ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเพราะเป็นลูกน้องก็มีหน้าที่ทำตามความต้องการของเจ้านาย

“ใครชอบแพรพิไล” ธนัทถามเสียงแข็ง

“ก…ก็คุณไงครับ”

“ฉันเมาแล้วพูดเหรอ” ธนัทมั่นใจว่าต่อให้เมาเขาก็ไม่น่าจะพูดอะไรแบบนั้นออกไป ถ้าเผลอหลุดปากบอกชอบณดลน่าจะเป็นไปได้และมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่า

“เปล่าครับ ผมคิดเอง”

“อะไรทำให้เธอคิดแบบนั้น”

“ก็คุณดูสนใจคุณแพร แถมยังดูคุยถูกคอกัน ผมก็เลยคิดว่าคุณน่าจะชอบคุณแพร” ณดลบอกตามที่คิด

“ไม่เลยณดล ฉันไม่ได้ชอบแพรเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีความรู้สึกนั้นเลยสักนิด” ธนัทรีบปฏิเสธทันที

“ผมก็นึกว่าคุณชอบ เพราะเธอทั้งสวยและมีเสน่ห์มากเลยนะครับ ผมเห็นตอนที่เธอมองมาที่คุณ มะ…”

“ฉันไม่อยากฟัง เธอจำเอาไว้ว่าฉันไม่ได้ชอบแพรพิไลและไม่มีวันที่จะชอบ” ธนัทพูดเสียงแข็งอย่างไม่พอใจ

“ขอโทษครับ” ณดลรีบขอโทษ

“ไม่เป็นไร แต่อย่าพูดเรื่องอะไรแบบนี้อีกก็พอ” ธนัทสั่งก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องคุย

ณดลมีไข้อ่อนๆกับอาการระบมที่ช่วงล่างธนัทจึงให้นอนพักอยู่ที่บ้านใหญ่จนกว่าจะมั่นใจว่าหายดี โชคดีที่ร่างกายของเขาฟื้นตัวได้ดีเพียงแค่สองวันก็หายกลับมาเป็นปกติ ธนัทจึงยอมปล่อยให้กลับมาที่ห้องตัวเองและอนุญาตให้กลับมาทำงานได้

“อ้าว กูก็นึกว่าจะไปนอนเสวยสุขอยู่ที่บ้านใหญ่ไม่ลงมาคลุกคลีกับพวกรากหญ้าอย่างเราซะแล้ว” ป้าสายบัวพูดขึ้นทันทีที่เห็นณดลเดินเข้ามาที่โรงครัวตอนเช้าคนเดียวเนื่องจากนทีไม่อยู่

“แหม ป้าก็พูดไป คุณเขาเฉดหัวกลับลงมารึเปล่า” กระแตพูดเสริม

“ขอโทษนะครับ คือกับข้าวหมดแล้วเหรอครับ” ณดลเมินคำพูดส่อเสียดเหล่านั้นแล้วเอ่ยถามขึ้นเมื่อเปิดหม้อดูแล้วมีเพียงแค่น้ำแกงก้นหม้อ แต่ที่โต๊ะของพวกป้าสายบัวกลับมีถ้วยกับข้าววางอยู่พูนจาน

“เหลือแค่ไหนก็แค่นั้นแหละ” ป้าสายบัวตอบก่อนจะหันไปตักกับข้าวกินอย่างสบายอารมณ์

“มึงจะทำอะไร” กระถินรีบลุกขึ้นไปขวางเมื่อเห็นว่าณดลกำลังจะเปิดตู้เย็น

“จะเอาไข่มาทอดกินครับ”

“ไม่ได้ ของในตู้ไว้สำหรับทำอาหารแต่ละมื้อจะมาหยิบใช้ตามใจชอบไม่ได้ มีเหลือแค่ไหนก็แดกแค่นั้นแหละหรือว่าแดกไม่ได้” กระถินพูดรัว

“แต่คุณธนัทบอกว่า…”

“บอกอะไร ถ้าแดกไม่ได้ก็ขึ้นไปขอข้าวที่บ้านใหญ่กินไปเดี๋ยวคุณเขาก็คงทำทานให้เหมือนทุกที” กระแตพูดไล่

“ทำตัวน่าสงสารเดี๋ยวคุณเขาก็ทำทานให้” กระถิน

ณดลที่ไม่อยากมีปัญหาจึงตักข้าวเปล่าที่เหลือใส่จานแล้วเดินกลับห้องไป เขาได้แต่คิดหนักเพราะข้าวที่ได้มามันแค่หนึ่งทัพพีนิดๆซึ่งปกติแล้วเขามักจะตักสามทัพพีพูนๆเพราะเป็นคนที่กินจุ ก่อนจะนึกได้ว่าในห้องของเขามีกระติกน้ำร้อนกับบะหมี่กึ่งที่ซื้อยกลังมาไว้สำหรับมื้อดึก

มื้อเช้าก่อนไปทำงานวันนี้เลยเป็นเมนูที่ณดลคุ้นเคยเป็นอย่างดีบะหมี่กึ่งรสโปรดกับข้าวสวยที่เมื่อก่อนเขากินเป็นประจำเพราะทั้งประหยัดและอิ่มท้อง บางทีก็จะมีไข่ใส่เพิ่มไปด้วยแต่น่าเสียดายที่มื้อนี้ไม่มี ถึงจะรู้ว่ามันไม่ค่อยจะมีสารอาหารอะไรมากนักแต่เพราะความจนทำให้เลี่ยงไม่ได้

ขณะที่ณดลกำลังนั่งซดน้ำอย่างเอร็ดอร่อย ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับธนัทที่เดินถือจานขนมเข้ามา

“เธอกินอะไร” ธนัทเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้วมองทันที

“อร่อยนะครับ” ณดลยกชามข้าวของตัวเองให้ดู

“ทำไมไม่ไปกินข้าวที่โรงครัว”

“พอดีกับข้าวหมดแล้วครับ เหลือแต่ข้าวสวย”

“หมด? หมดได้ไง” ธนัทถามอย่างแปลกใจ

“ผมก็ไม่รู้ครับ ไปเปิดหม้อดูแล้วเหลือแต่น้ำแกงก้นหม้อ ข้าวก็ขูดมาได้แค่ทัพพีกว่าเองครับ วันนี้พี่ๆเขาอาจจะกินจุกัน” ณดลคิดในแง่ดี

“แล้วในตู้เย็น ไม่มีอะไรเลยเหรอ ทำไมไม่เอามาทำกิน” ธนัทรู้สึกได้ว่ามันจะต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่ๆ

“ตอนแรกก็ว่าจะทอดไข่กินครับ แต่พี่แม่ครัวเขาบอกว่ามันเป็นวัตถุดิบสำหรับทำอาหารในแต่ละมื้อ”

“หยุดกิน แล้วไปกินมื้อเช้ากับฉัน”

“ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้เมื่อก่อนผมก็กินประจำก่อนออกไปทำงาน” ณดลบอกอย่างเกรงใจแม้จะแอบติดใจรสชาติของอาหารบ้านใหญ่ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเสนอตัวขอไปกินข้าวที่นั่นเพราะรู้ดีว่าสถานะของตัวเองนั่นคืออะไร แค่ได้เคยมีโอกาสลิ้มลองก็นับว่าดีแล้ว

“แต่ฉันเป็น…เธอมาอยู่กับฉันต้องสุขสบายขึ้นกว่าเดิมสิ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามต้องสบายขึ้น”

“ต..แต่”

“ไม่มีแต่ ลุกขึ้นณดล” ธนัทพูดซ้ำด้วยน้ำเสียงที่เริ่มดุ ณดลจึงต้องเอาอาหารที่กินอยูไปเททิ้งที่ครัว

“ทำไมแค่ข้าวเปล่ากระแดะแดกไม่ลงเหรอวะ”

“สงสัยจะแดกไม่ได้มั้งป้า ต้องแดกแต่พวกอาหารดีๆที่คุณธนัทเขาทำทานให้มั้ง”

“หัวมันสูงจนเลยหลังคาโรงครัวแล้ว แค่ข้าวราดน้ำแกงทำมาแดกไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนแม้แต่น้ำแกงก้นหม้อก็ไม่มีให้แดกเหรอวะ” ป้าสายบัว กระถินและกระแตพูดคุยกันอย่างสนุกปากโดยที่ไม่รู้เลยว่าธนัทกำลังยืนฟังอยู่

“ฉันจ่ายเงินจ้างให้มาเป็นแม่ครัวทำอาหารไม่ใช่ให้มาจุ้นจ้านว่าใครจะต้องกินอะไร ที่กับข้าวหมดเหลือแต่น้ำแกงก้นหม้อเพราะว่านี่รึเปล่า ตักมาพูนจานเหมือนว่าจะเป็นมื้อสุดท้าย” ธนัทพูดขึ้นทำเอาสามสาวสะดุ้มเฮือก

“ของในตู้เย็นนี่ฉันหยิบไปใช้ได้ไหม” ธนัทถามต่อ

“ด…ได้ค่ะ คุณธนัทจะ…”

“แล้วทำไมณดลถึงหยิบไปใช้ไม่ได้ ในเมื่อทุกอย่างในนี้ก็เป็นเงินของฉัน และฉันก็บอกทุกคนว่าของในนี้หยิบใช้ได้ตามใจ”

“คือณดลเขาจะหยิบใข่ไปใช้แต่ว่าพวกเรากลัวว่าจะไม่พอทำไข่พะโล้มื้อเย็น พวกคนงานเขาขอให้ทำให้” ป้าสายบัวรีบแก้ตัว

“ถ้าแค่หยิบใช่ไม่กี่ฟองมันจะไม่พอก็ไปซื้อสิ หรือไม่ก็โทรเรียกให้เขามาส่ง เหตุผลฟังไม่ขึ้น” ธนัทว่า

“คือ…”

“ไม่ต้องพูดแล้ว หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก นี่ถือว่าเป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง”

“พ…พวกเรา ขะ...”

“ไปได้แล้วณดล” ธนัทไม่สนใจที่ฟังคำแก้ตัวของพวกเธอ เขาเลือกที่จะตัดบทด้วยการเรียกณดลให้ไปที่บ้านใหญ่ด้วยกัน

“คุณธนัทอย่าโกรธพวกป้าสายเลยนะครับ กับข้าวมันอาจจะหมดจริงๆ”

“หมดอะไร เธอไม่เห็นเหรอว่าพวกนั้นตักกับข้าวมากินกันจนพูนจาน ดูก็รู้ว่าจงใจแกล้ง” ธนัทบ่นก่อนจะสั่งให้ป้าชม้อยเตรียมเพิ่มอีกหนึ่งที่

“ครับ”

“ไม่ต้องสนใจ ต่อจากนี้เธอมากินข้าวที่นี่กับฉันจะได้จบปัญหา”

“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับไปกินโรงครัวเหมือนเดิมดีกว่า ผมเกรงใจ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า เราไม่ได้เป็นแค่เจ้านายลูกน้องธรรมดาแล้วนะ อีกอย่างฉันก็ไม่ชอบให้ใครมารังแกคนของฉัน เข้าใจไหม” ธนัทถามเสียงนุ่ม ถ้านทีอยู่ตรงนี้ด้วยอาจจะมีการกลอกตามองบนแล้วมองบนอีกหลายรอบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   29. ความสุขในชีวิต [End]

    ณดลสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน หลังจากที่เขาตัดสินใจใช้สถานะแฟนกับธนัทอย่างเป็นทางการ จากทุกครั้งที่เวลาเดินผ่านเอาเอกสารไปให้เขามักจะถูกเหล่าพนักงานมองเหยียดหรือไม่ก็หันไปพูดซุบซิบนินทา หนักหน่อยก็พูดว่าขึ้นมาลอยๆซึ่งเขาก็ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่าคนพวกนั้นต่างพากันส่งยิ้มมาให้เขาแม้จะเป็นรอยยิ้มแห้งๆก็ตาม บางคนเมื่อก่อนเดินแทบจะชนเหมือนกับว่ามองไม่เห็น ตอนนี้กลับก้มหัวให้เขาแล้วรีบเดินไปและที่สำคัญไม่มีใครใช้ประโยคและน้ำเสียงที่พูดดูถูกหรือจิกหัวใช้เหมือนก่อนหน้านี้กับเขาอีกเลย คนที่จะไขข้อสงสัยได้ก็มีเพียงแค่คุณแฟนของเขาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ “คุณธนัทครับ ผมมีอะไรอยากถาม” “ว่าไงครับที่รัก” ธนัทตอบรับเสียงหวานพร้อมสรรพนามที่ทำเอาณดลจั๊กจี้ทุกครั้งที่ได้ยิน “ต้องเป็นฝีมือของคุณแน่ๆเลยใช่ไหมครับ ที่ทำให้คนอื่นมีท่าทางแปลกๆกับผม พวกเขาดูเกร็งแล้วก็ไม่แกล้งผมเหมือนเมื่อก่อน” “ฉันทำอะไร…ไม่ได้ทำอะไรเลย” ธนัทปฏิเสธ “ไม่เชื่อครับ บอกผมมาเลยนะถ้าไม่ยอมบอก ไม่ให้นอนกอด” ณดลพูดขู่ “พวกนั้นคงเห็นโพสต์ของฉันละมั้ง” ธนัทขยับเก้าอี้เลื่อนมาอยู

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   28. ชอบเธอไปทั้งตัว [NC18+]

    ในทุกครั้งที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน ธนัทมักจะชอบเอ่ยขออนุญาตอยู่เสมอเป็นเหมือนการถามความยินยอม แม้ว่าส่วนใหญ่จะเปลื้องผ้าเหลือแต่ตัวเปลือยๆกันแล้วก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นความน่ารักของเจ้าตัวที่ทำให้เขาแอบประทับใจ “ครับ” ณดลตอบตกลง ลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดดูดดึงยอดอกของณดลทั้งสองข้างจนมันชุ่มไปด้วยหยาดน้ำสีใสแถมยังตั้งชูชันขึ้นอย่างน่าอาย แต่เขากลับกลายเป็นคนลามกที่ชอบให้ธนัทให้ลิ้นห่อแล้วดูดดึงมันเล่น และเพียงแค่นั้นส่วนกลางกายของเขาก็เริ่มแข็งมีอารมณ์ขึ้นมา “แค่ดูดนมเธอก็แข็งซะแล้วหมีน้อย” ธนัทเอ่ยแซวด้วยความเอ็นดูก่อนจะลากลิ้นขยับลงมาจนถึงท่อนเอ็นอวบ “อ๊าา…อื้ออ บ...แบบนี้” “อื้ออ…อ่ะอ่าา” ณดลร้องครางพลางแอ่นสะโพกสู้ริมฝีปากของธนัทที่กำลังครอบครองท่อนเอ็นของเขาเข้าไป “อืมม…อึกก” “อื้ออ…อ่ะอ้าา…ส...เสียวนะครับ” “อืม…จ๊วบบ…แผล่บๆ…แผล่บ” ธนัทถอนริมฝีปากออกแล้วใช้มือกำท่อนเอ็นไว้ ก่อนจะเปลี่ยนมารัวลิ้นที่ส่วนหัวแดงจนณดลครางเสียงดังกระเส้า สองมือหนาที่เขาเฝ้าถนอมช่วยบำรุงจนเริ่มกลับมานิ่มขึ้นจิกลงบนหัวของเขาเพื่อระบายความเสียว “อื้ออ...เสียว…อ่าา…คุณธนัทอื้อออ” สะโพกมนส่ายร่าไปมา ก่อ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   27. คำสารภาพของคนปากแข็ง

    ณดลเข้าไปให้ปากคำเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา โดยที่ทางเจ้าหน้าที่นำตัวของผู้ต้องหาทั้งสี่เขาฝากขังไว้ก่อน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดูอันตรายพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายผู้เสียหาย “เป็นไงบ้าง” เป็นภวิตาที่เอ่ยถาม ส่วนธนัทที่ถึงแม้จะเป็นห่วงแต่ก็แค่มองมาเฉยๆไม่ได้พูดอะไร “ผมเล่าเรื่องทุกอย่างที่ถูกกระทำให้ทางตำรวจหมดแล้วครับ เล่าทุกอย่างเลย…” ณดลบอก “กลับได้แล้วใช่ไหม” ภวิตาถาม ณดลพยักหน้าหงึกๆเป็นคำตอบ “งั้นกลับกันเถอะ นี่ก็เก๊กหน้านิ่งอยู่ได้” ภวิตาหันไปบ่นลูกชายของตัวเอง “อารมณ์ไม่ดีครับ” ธนัทตอบมาสั้นๆ “ขอโทษครับ” ณดลบอกแต่ธนัททำเมิน “ทำทรงไปงั้นแหละ เชื่อแม่” ภวิตาพูดให้กำลังใจณดลที่ทำหน้าเหมือนหมีหงอยอยู่ “คุยกันดีๆ แม่ไปพักก่อน” เมื่อกลับมาถึงบ้านภวิตาก็รีบปลีกตัวออกไปเพื่อให้ลูกทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกัน “จะกลับห้องตัวเองหรือจะขึ้นไปห้องฉัน” ธนัทถามโดยที่ไม่แม้แต่จะชายตามอง “ขออนุญาตไปห้องของคุณได้ไหมครับ” “งั้นก็ตามมา” ธนัทเดินนำขึ้นไปที่ห้องโดยที่ไม่ได้เดินรอเหมือนอย่างทุกที “ขอโทษครับ/เธอไม่เชื่อใจฉันเหรอ” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันทันทีที่เข้ามาในห้อง “เ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   26. เพราะไว้ใจคนผิด

    “วันนี้มันไม่อยู่เหรอวะ” ป้าสายบัวพูดขึ้นเมื่อยืนเคาะประตูห้องของณดลมาพักใหญ่แต่ไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้ “มันหลบอยู่เปล่า ก็ป้าเล่นไปขู่จะแทงตามันอ่ะ” กระแตพูด “จริงๆตัวมันก็ใหญ่นะแต่เสือกใจเซาะกลัวพวกเราซะงั้น” กระถินพูดขึ้นเพราะณดลตัวใหญ่กว่าแค่ตบพวกเธอทีเดียวน่าจะหลับไปหลายวัน “ก็ดีแล้วที่มันใจเซาะเราจะได้ไถเงินมันได้ แถมยังได้กินของดีๆที่คุณเขาซื้อมาให้มันอีก ถึงว่าไม่มาแดกข้าวที่โรงครัวเลยเพราะติดหรูกินแต่อาหารดีๆนี่เอง” “พวกมึงมาทำอะไรที่หน้าห้องไอ้ณดล!” เสียงของตาทองที่ตะโกนถามทำเอาสามสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ป้าสายบัวรีบพูดกระซิบให้ทำตัวให้เป็นปกติ “เอ้า! กูถามไม่ตอบหูตึงกันแล้วรึไง” ตาทองพูด “ทำอะไร กูไม่ได้ทำอะไร แค่มาดูไอ้ณดลมันเป็นยังไงบ้าง” ป้าสายบัวตอบ “คนอย่างมึงน่ะเหรอจะมาดูดำดูดีไอ้ณดล” ตาทองไม่เชื่อคำพูดของอีกฝ่าย “ทำไม กูก็อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง เห็นวันนี้เงียบๆไม่มีใครเอาอะไรมาให้มัน กลัวมันจะอดตาย” “มันไปทำงานกับคุณธนัทแล้ว” “อ่อ งั้นกลับไปทำงานกันต่อเถอะพวกเรา” สามสาวที่ได้คำตอบก็แยกย้ายกลับไปทำงานที่โรงครัวต่อ แต่ตาทองยังคงสงสัยและรู้สึกแปลกใจ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   25. คำโกหก

    “เรียกอีกทีเอาแบบไม่เกร็ง” ภวิตาบอกพร้อมยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู “เอ่อ…เกร็งครับ” ณดลยอมรับออกมาตรงๆ “ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่าครับแม่ ณดลยังคงปรับตัวไม่ทัน” ธนัทช่วยพูด “ก็ได้ๆ ตอนนี้ก็เรียกตามที่สะดวกใจไปก่อนแล้วกัน สนิทกันขึ้นเมื่อไหร่ค่อยเรียกแม่” ภวิตารับฟังก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องด้วยการเอาขนมที่เธอซื้อมาฝากมาป้อนให้ณดล “อร่อยมากเลยครับ” “อร่อยก็กินเยอะๆ ถ้าชอบเดี๋ยวแม่เหมามาให้” ภวิตาเริ่มแทนตัวเองว่าแม่เพื่อละลายพฤติกรรมระหว่างกัน “เกรงใจครับ แค่นี้ก็ดีใจมากๆแล้วครับ” “ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก เราคนกันเอง” ยิ่งบอกว่าคนกันเองณดลยิ่งรู้สึกเกร็ง แผลของณดลไม่มีอาการติดเชื้อและค่อยๆแห้งทำให้หมออนุญาตให้กลับบ้านได้โดยนัดวันที่จะตัดไหมอีกที มีแค่ดวงตาข้างซ้ายที่ยังไม่หายดีทำให้ยังไม่สามารถกลับไปทำงานได้ เขาจึงขอย้ายกลับมาที่ห้องพักของตัวเองเพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้ชีวิตระหว่างที่ธนัทต้องไปทำงาน โดยมีตาทองคอยช่วยเอาอาหารมาให้เพราะภวิตาต้องไปช่วยงานธนัทแทนณดล ก๊อก ก๊อก “ครับๆ ตาทองเหรอครับ…เมื่อกี้พี่ตุ่นเอาข้าวมาให้ผมแล้วนะครับ” ณดลค่อยๆเดินมาเปิดประตูให้เพราะคิดว่าเป็นตาทองที่มาหา

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   24. เรียนรู้และเริ่มต้นใหม่

    “ฉันพูดจาไม่ดีกับณดลไว้มาก ไม่รู้เลยว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง…ฉัน” ภวิตาที่เริ่มสำนึกคิดได้พูดออกมา “คุณหญิงไม่รู้ไม่ผิดครับ แต่ที่ผิดคือการไปพูดจาดูถูกทำร้ายจิตใจกัน ถ้าเราเป็นเหมือนมันแล้วโดนพูดแบบนั้นใส่เป็นผมคงเสียใจไม่น้อยเลยครับ มันเป็นแบบนั้นก็นับว่าโชคร้ายแล้วเราอย่าไปทำตัวใจร้ายบั่นทอนใจมันเลยนะครับ” ภวิตาพยักหน้ารับฟังในสิ่งที่ตาทองพูด “อีกอย่างที่ผมอยากจะบอกคือเราอย่าไปตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ต้องศึกษาเนื้อในของเขาก่อนแล้วค่อยตัดสินว่าคนนั้นเป็นยังไง และไม่ใช่เอาแต่เชื่อคำพูดยุยงของคนอื่น ลองได้มารู้จักเจ้าณดลก่อนแล้วคุณหญิงก็จะเข้าใจว่าทำไมคุณธนัทถึงเลือกมัน” ตาทองพูดสอน “ฉันเข้าใจแล้ว…ฉันเอาแต่คิดว่าสิ่งที่ฉันเลือกมันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก แต่จริงๆสิ่งที่ฉันควรสนใจมากกว่านั้นคือความสุขของเขา ถ้าเขาอยู่กับใครแล้วมีความสุขฉันก็ควรสนับสนุนเขาในฐานะแม่ ฉันผิดเองที่เอาแต่เชื่อคำพูดของคนอื่นแล้วตัดสินณดลจากสิ่งที่ได้ยิน” ภวิตานั่งคิดทบทวนตัวเองสักพักก่อนจะพูดออกมา ที่ผ่านมาเธอไม่ชอบณดลเพราะฟังคำของป้าชม้อยแม่บ้านคนสนิทที่คอยโทรรายงาน ซึ่งแน่นอนว่ามีแต่เรื่องไม่ดีที่ณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status