Home / วาย / คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม) / 4. อย่าทำแบบนี้…เดี๋ยวจะวูบไม่รู้ตัว

Share

4. อย่าทำแบบนี้…เดี๋ยวจะวูบไม่รู้ตัว

Author: Lastlatte.
last update Last Updated: 2025-10-30 15:55:34

“ณดล…ตื่นรึยัง” นี่คือประโยคแรกของวันที่ธนัทเอ่ยถามนทีที่พึ่งเดินมาถึง

“คำถามต่อไปเลยครับ” นทีพูดแกล้ง

“ผู้ช่วยคนใหม่เชิญเลยครับ คนเก่าเฉดหัวทิ้งแล้ว” ธนัทพูดแกล้งกลับไปบ้าง ระหว่างเขากับนทีมักจะชอบพูดแกล้งกันแบบนี้เป็นปกติเพราะทำงานด้วยกันมาสิบกว่าปีตั้งแต่สมัยที่เขาเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆก็ได้นทีที่เป็นเด็กใหม่เหมือนกันมาเป็นผู้ช่วยจนกลายเป็นเพื่อนสนิทและเป็นคู่ปรับลับฝีปากเล่นกันจนถึงทุกวันนี้

“ณดลตื่นแล้วครับ เห็นตากผ้าอยู่ที่ระเบียง”

“แล้วกินข้าวรึยัง” ธนัทถามต่อ

“ผมกินแล้วครับ เช้านี้มีข้าวมันไก่”

“ฉันหมายถึงณดล” นทียิ้มขำเขาจงใจตอบกวนเพราะรู้ว่าคนที่ธนัทถามถึงคือณดลไม่ใช่เขา

“ถ้าเป็นห่วงขนาดนั้นทำไมไม่เดินไปดูเลยละครับ”

“คุณธนัท! อรุณสวัสดิ์ครับ แฮ่กๆผมนึกว่าจะมาไม่ทันแล้ว” เป็นเสียงของณดลที่ดังแทรกขึ้นมาพร้อมกับร่างหนาที่วิ่งเข้ามาด้วยท่าทางที่ดูรีบร้อน

“ว่าไงณดล” ธนัทพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มที่อ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ได้เจอณดลก่อนไปทำงาน จนนทีต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพื่อแอบกรอกสายตามองบนด้วยความหมั่นไส้

“พ…พอดีว่าผมยืมจักรยานของพี่คนงานไปปั่นตอนเช้าแล้วเจอร้านน้ำเต้าหู้ดูน่ากินมากก็เลยซื้อมาฝากครับ” ถุงน้ำเต้าหู้ถูกยื่นมาให้ ธนัทก็รีบเอื้อมมือไปรับพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทันที

“ขอบคุณนะ เดี๋ยวฉันจะกินให้หมดเลย”

“อันนี้ของพี่นทีนะครับ”

“ว้าวๆ มีของพี่ด้วยเหรอ ขอบใจมากเลยนะ” นทีบอกก่อนจะหันไปทำหน้าทำตาใส่ธนัทเพื่อเยาะเย้ยว่าณดลไม่ได้ซื้อมาฝากแค่ธนัทคนเดียว

“งั้นผมไปก่อนนะครับ ไม่รบกวนแล้ว” ณดลบอกก่อนจะรีบเดินออกไปเพราะเห็นสายตาที่ไม่พอใจของป้าชม้อยที่ยืนมองมาจากในห้องครัว

“เอามาให้ฉัน” ธนัทพุ่งเข้าไปแย่งถุงน้ำเต้าหู้ในมือของนที แต่นทีไหวตัวทันจึงรีบถอยหลังแล้วหยิบถุงน้ำเต้าหู้มากัดแล้วดูดกินทันที

“อร่อยจัง น้ำเต้าหู้จากน้องณดลเนี่ย ชื่นใจที่สุด”

“กวนประสาท แต่เมื่อกี้ท่าวิ่งของณดลก็น่ารักดีนะ”

“ไปทำงานกันไหมครับ” นทีแกล้งเปลี่ยนเรื่อง

“ขัดอารมณ์ ฉันกำลังชื่นชมความน่ารักของณดลอยู่” ธนัทมองแรง

“ผมก็น่ารักนะครับ” นทีบอกพร้อมทำท่าแอ๊บแบ๊วชูสองนิ้ว

“ฉันเสียดายข้าวเช้าที่พึ่งกินเข้าไป”

“แรงมาก ผมเสียใจ”

“พักงานไปฮีลใจไหมละ”

“หายดี พร้อมทำงานแล้วครับ งานจ๋าา นทีกำลังไปหานะ” ธนัทได้แต่ส่ายหัวกับความทะเล้นของอีกฝ่าย

“สวัสดีครับคุณตา ผมชื่อณดลนะครับ” หลังจากที่นั่งเรียนฝึกอ่านและเขียนตั้งแต่เช้าลากยาวมาจนบ่ายสองเสียงท้องก็ร้องประท้วง ทำให้ณดลต้องลุกเดินออกมาหาอะไรกินที่โรงครัว โชคดีที่ยังมีกับข้าวเหลือให้กินอยู่บ้าง

ขณะที่นั่งกินข้าวอยู่สายตาของเขาก็ดันไปเห็นชายสูงวัยผมสีเกลาที่กำลังนั่งพรวนดินอยู่คนเดียวกลางแดด ทันทีที่กินเสร็จเขาก็เดินไปหยิบน้ำและผ้าเย็นแล้วรีบเอาไปให้ทันที

“เออๆ ข้าชื่อทอง เอ็งมีอะไร” ตาทองตอบและถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ติดรำคาญเพราะชอบทำงานคนเดียว ไม่ชอบวุ่นวายกับใครและไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับตัวเอง

“พอดีผมเห็นคุณตานั่งทำงานกลางแดดอยู่คนเดียวเลยเอาน้ำกับผ้าเย็นมาให้ครับ แล้วก็มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้บ้างไหมครับ”

“ขอบใจข้ารับแค่ของแล้วกัน ข้าชอบทำงานคนเดียวเอ็งมีอะไรก็ไปทำเถอะ” ตาทองบอกพร้อมโบกมือไล่

“แต่ผมอยากช่วยนะครับ ให้ผมทำอะไรก็ได้ ยก หาบ แบก หรือขนได้หมดเลยครับ อีกอย่างผมเองก็ยังไม่มีอะไรทำด้วย” ณดลพยายามเสนอตัว

“เอ็งนี่พูดไม่รู้เรื่อง อยู่ว่างๆก็ดีอยู่แล้วไม่ชอบรึไง” ตาทองพูดบ่น

“อยู่เฉยๆมันก็ดีครับ แต่ผมเกรงใจคุณธนัทอะไรที่ผมพอจะทำได้ก็อยากจะทำครับ”

“งั้นเอ็งก็ไปขนถุงดินที่อยู้ข้างประตูหน้าบ้านมาไว้ตรงนี้ให้ข้าแล้วกัน” ตาทองบอก

“ได้เลยครับ”

ณดลใช้เวลาช่วงบ่ายที่เหลือกับการเป็นลูกมือช่วยงานตาทอง จากตอนแรกที่ตาทองพยายามปฏิเสธไม่อยากพูดคุยหรือยุ่งเกี่ยวด้วย แต่สุดท้ายกลับเข้ากันได้ดีในเวลาอันรวดเร็วราวกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน

“ทำอะไรกันอยู่ครับ” เป็นเสียงของธนัทที่เอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าณดลกำลังนั่งช่วยงานตาทองอยู่โดยที่ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ

“อ้าว กลับไวนะครับวันนี้” ตาทองเอ่ยทัก

“ช่วงบ่ายมีแค่คุยงานอย่างเดียวครับ” ธนัทบอกก่อนจะเบนสายตาไปมองทางณดลที่ตอนนี้สภาพเหมือนหมีน้อยที่เล่นดินจนเนื้อตัวมอมแมม

“ไอ้เจ้านี่มันไม่มีอะไรทำเลยมาขอช่วยงานตา เนี่ยพวกแปลงตรงนี้มันก็ทำเองคนเดียวเลยนะ” ตาทองบอก

“คุณตาช่วยสอน แล้วผมก็ทำตามครับ” ณดลบอกอย่างถ่อมตัว

“เก่งมาก ไปล้างหน้าล้างตัวได้แล้ว ส่วนตาทองก็พักได้แล้วนะครับผมซื้อของมาฝาก นทีกำลังเอาไปไว้ให้ที่บ้าน” ธนัทบอกเพราะบ้านของตาทองอยู่ข้างในสวนด้านหลังปลีกวิเวกไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร

“ขอบคุณครับๆ” ตาทองบอกก่อนจะรีบเก็บของแล้วปั่นจักรยานกลับบ้านพักของตัวเองไป

“คุณธนัทให้ผมช่วยถือไหมครับ” ณดลเอ่ยถามอย่างมีน้ำใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ธนัทถือของอยู่เต็มสองมือ

“ไม่เป็นไร เรากลับห้องเธอกันเถอะ”

“คุณจะเข้ามาเหรอครับ” ธนัทเดินแทรกตัวเข้าไปในห้องเป็นคำตอบ

“นอนหลับสบายดีไหม ฉันลืมถามเลย” ธนัทถามในขณะที่สายตาก็กวาดมองไปรอบห้องก็เห็นว่าห้องของณดลค่อนข้างโล่งคงเพราะเจ้าตัวนั้นของน้อยไม่ค่อยมีอะไรมาก

“นอนสบายมากเลยครับ ผมไม่ได้โม้หรือพูดเว่อร์นะครับ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้นอนหลับสบายขนาดนี้มาก่อน แถมยังได้นอนตากแอร์ด้วย”

“ดีแล้วล่ะ ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มก็บอกฉันได้เลยนะ”

“แค่นี้ก็มากพอแล้วครับ ผมมีอะไรจะให้คุณดูด้วย”

“ส่งการบ้านเหรอเด็กชายณดล” ธนัทพูดแซว เมื่อณดลเดินไปหยิบเอาสมุดคัดลายมือที่ตั้งใจคัดมาให้เขาดูหลายเล่ม

“ใช่ครับ แรกจะยึกๆยือๆเหมือนไส้เดือนหน่อยนะครับ ไม่ได้เขียนมานานแล้ว” ธนัทนั่งลงบนเตียงและเปิดสมุดดู คล้ายกับคุณครูที่กำลังตรวจการบ้าน ส่วนณดลก็แอบรู้สึกเขินที่อายุตั้ง 27แล้วแต่ยังมานั่งฝึกคัดลายมืออยู่

“ค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีเลยนะ เอาไปสักสี่ดาวแล้วกันนะเด็กชายณดล” ธนัทหยิบปากกาที่เหน็บอยู่ตรงกระเป๋าเสื้อมาวาดดาวให้คะแนนพร้อมลงลายเซ็นเป็นผู้ตรวจ

“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมขอตัวอาบน้ำก่อนนะครับ ตัวเหม็นแล้วก็สกปรกมากเลย” ณดลบอกก่อนที่ธนัทจะขยับยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วขยับจมูกฟุดฟิดเพื่อดมกลิ่น

“ไม่เห็นจะเหม็นเลย”

“อย่าทำแบบนี้ครับ เดี๋ยวจะวูบไม่รู้ตัวนะ” ณดลพูดเตือน

“จ…จะต่อยฉันเหรอ” ธนัทรีบขยับถอยมาตั้งหลักเพื่อเตรียมรับมือ

“ไม่ใช่นะครับ ผมจะต่อยคุณทำไม” ณดลรีบปฏิเสธ

“ก็เธอบอกเดี๋ยวจะวูบไม่รู้ตัว”

“ผมหมายถึงว่าเดี๋ยวจะเป็นลมครับ ก็คุณยื่นหน้ามาใกล้แล้วก็ดมแบบนั้น”

“อ่อ ตกใจ ใจหายใจคว่ำหมด”

“งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ณดลหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

เวลาผ่านไปสิบนาทีณดลก็เดินออกมาพร้อมกลิ่นหอมของสบู่ที่ลอยเข้ามาเตะของจมูกของธนัทที่ตอนนี้กำลังกางโต๊ะญี่ปุ่นที่ไปขโมยมาจากห้องของนที

“ทำอะไรเหรอครับ” ณดลถามขึ้น

“จัดโต๊ะกินมื้อเย็นกับเธอไง ฉันซื้อมาเยอะแยะเลยนะ” ธนัทชี้ให้ดูเหล่าถุงของกินที่ถูกวางอยู่ข้างโต๊ะ

“มันจะดีเหรอครับ คือคุณเป็นเจ้านายจะมานั่งกินข้าวกับลูกน้องแบบนี้” ณดลถามด้วยความกังวล

“แล้วทำไมมันจะไม่ดีละ”

“น…นั่นสิครับ”

“ฉันไม่ได้ถือสักหน่อยว่าเจ้านายกับลูกน้องจะนั่งกินข้าวด้วยกันไม่ได้ นี่ฉันไปปล้นโต๊ะกับจานชามช้อนของนทีมาเลยนะเนี่ย”

“ชวนพี่นทีมากินด้วยกันดีไหมครับ”

“นทีกินเสร็จแล้วน่ะสิ ตอนที่ฉันไปยืมโต๊ะกำลังนอนขึ้นอืดลูบท้องอยู่เลย”

“งั้นเดี๋ยวผมช่วยแกะใส่จานนะครับ” ณดลบอกก่อนจะรีบมานั่งช่วยแกะถุงกับข้าวเทใส่จาน

“ทำอะไรน่ะ” ธนัทถามเมื่อเห็นณดลเอาผ้ามาพับๆขนาดกำลังพอดีแล้ววางปูไว้ข้างตัวเขา

“พื้นมันแข็งผมกลัวคุณจะนั่งไม่สะดวก ห้องผมไม่มีเบาะนิ่มๆเลย”

“ไม่เป็นไร ฉันนั่งพื้นได้”

“อย่าเลยครับ นั่งบนนี้ดีกว่า” ณดลบอกพลางตบฝ่ามือลงบนผ้าที่ตั้งใจพับและวางปูให้

“ก็ได้ๆ แต่ครั้งหน้าเราจะมีเบาะนิ่มๆนั่งกันนะ”

“ได้ครับ วันนี้มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย” ณดลกลืนน้ำลายลึกคออึกใหญ่พร้อมมือที่ยกขึ้นมาลูบท้องของตัวเองไปมา

เหมือนลูกหมีที่กำลังหิวเลยแหะ ธนัทคิดในใจ

“คอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่วร้านนี้อร่อยมาก ฉันอยากให้เธอได้ลอง” ธนัทบริการตักคอหมูย่างใส่จานให้ณดลพร้อมกับราดน้ำจิ้มให้

“ขอบคุณครับ อร่อยมากๆเลยครับ” ณดลยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข ธนัทรู้สึกได้ว่าโลกของเขามันดูสดใสขึ้นทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มของอีกคน

“อร่อยก็กินเยอะๆเลยนะ”

“คุณก็กินเยอะๆด้วยนะครับ”

มื้อเย็นของวันนี้ธนัทมีความสุขและอิ่มใจเป็นพิเศษเมื่อได้เห็นท่าทางของณดลที่ดูเอร็ดอร่อยกับของกินที่เขาซื้อมาให้ แต่เพราะไม่รู้จะซื้ออะไรและไม่รู้ว่าณดลชอบกินอะไรเลยซื้อทุกอย่างที่คิดว่าน่ากินมา ทว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าณดลชอบกินคอหมูย่างมาก

“ผมขยับตัวไม่ได้แล้ว” ณดลนั่งทิ้งตัวพิงข้างเตียงพร้อมกับยกมือลูบท้องของตัวเองไปมาด้วยความอิ่ม

“หาอะไรดูระหว่างที่รอข้าวย่อยกันดีกว่า” ธนัทชวน

“ไม่กลับบ้านใหญ่เหรอครับ”

“ฉันยังไม่อยากลับเลยหรือว่าเธออึดอัด?” ธนัทถามด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูหงอย ทำเอาณดลรู้สึกผิดที่ถามแบบนั้นออกไป

“ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้อึดอัดอะไรเลย”

“ถ้าเธออึดอัด ไม่ชอบที่ฉันมาวุ่นวายก็บอกกันมาตรงๆได้เลยนะ ฉันไม่ว่าอะไร”

“ไม่เลยครับ” ณดลรีบปฏิเสธ

“งั้นเหรอ”

“ผมแค่อยากให้คุณกลับไปพักผ่อน กลัวที่นี่จะไม่สะดวกสบายเท่าห้องของคุณ” ณดลรีบอธิบาย

“กลับไปฉันก็เหงาไม่มีใครคุยด้วยเพราะแม่ก็หนีไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนๆ ส่วนพวกเพื่อนของฉันก็อยู่ต่างประเทศคนละโซนเวลา ฉันตื่นมันนอน พอมันนอนฉันตื่น บางคนก็งานรัดตัวแทบจะไม่มีเวลาให้ตัวเอง…” ธนัทพูดขอความเห็นใจเพื่อที่จะได้อยู่กับณดลต่อ แต่ที่เขาพูดมาทั้งหมดนั้นคือความจริง

“เข้าใจแล้วครับ ผมจะช่วยคลายเหงาให้คุณเอง” ณดลบอกอย่างเห็นใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   29. ความสุขในชีวิต [End]

    ณดลสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน หลังจากที่เขาตัดสินใจใช้สถานะแฟนกับธนัทอย่างเป็นทางการ จากทุกครั้งที่เวลาเดินผ่านเอาเอกสารไปให้เขามักจะถูกเหล่าพนักงานมองเหยียดหรือไม่ก็หันไปพูดซุบซิบนินทา หนักหน่อยก็พูดว่าขึ้นมาลอยๆซึ่งเขาก็ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่าคนพวกนั้นต่างพากันส่งยิ้มมาให้เขาแม้จะเป็นรอยยิ้มแห้งๆก็ตาม บางคนเมื่อก่อนเดินแทบจะชนเหมือนกับว่ามองไม่เห็น ตอนนี้กลับก้มหัวให้เขาแล้วรีบเดินไปและที่สำคัญไม่มีใครใช้ประโยคและน้ำเสียงที่พูดดูถูกหรือจิกหัวใช้เหมือนก่อนหน้านี้กับเขาอีกเลย คนที่จะไขข้อสงสัยได้ก็มีเพียงแค่คุณแฟนของเขาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ “คุณธนัทครับ ผมมีอะไรอยากถาม” “ว่าไงครับที่รัก” ธนัทตอบรับเสียงหวานพร้อมสรรพนามที่ทำเอาณดลจั๊กจี้ทุกครั้งที่ได้ยิน “ต้องเป็นฝีมือของคุณแน่ๆเลยใช่ไหมครับ ที่ทำให้คนอื่นมีท่าทางแปลกๆกับผม พวกเขาดูเกร็งแล้วก็ไม่แกล้งผมเหมือนเมื่อก่อน” “ฉันทำอะไร…ไม่ได้ทำอะไรเลย” ธนัทปฏิเสธ “ไม่เชื่อครับ บอกผมมาเลยนะถ้าไม่ยอมบอก ไม่ให้นอนกอด” ณดลพูดขู่ “พวกนั้นคงเห็นโพสต์ของฉันละมั้ง” ธนัทขยับเก้าอี้เลื่อนมาอยู

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   28. ชอบเธอไปทั้งตัว [NC18+]

    ในทุกครั้งที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน ธนัทมักจะชอบเอ่ยขออนุญาตอยู่เสมอเป็นเหมือนการถามความยินยอม แม้ว่าส่วนใหญ่จะเปลื้องผ้าเหลือแต่ตัวเปลือยๆกันแล้วก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นความน่ารักของเจ้าตัวที่ทำให้เขาแอบประทับใจ “ครับ” ณดลตอบตกลง ลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดดูดดึงยอดอกของณดลทั้งสองข้างจนมันชุ่มไปด้วยหยาดน้ำสีใสแถมยังตั้งชูชันขึ้นอย่างน่าอาย แต่เขากลับกลายเป็นคนลามกที่ชอบให้ธนัทให้ลิ้นห่อแล้วดูดดึงมันเล่น และเพียงแค่นั้นส่วนกลางกายของเขาก็เริ่มแข็งมีอารมณ์ขึ้นมา “แค่ดูดนมเธอก็แข็งซะแล้วหมีน้อย” ธนัทเอ่ยแซวด้วยความเอ็นดูก่อนจะลากลิ้นขยับลงมาจนถึงท่อนเอ็นอวบ “อ๊าา…อื้ออ บ...แบบนี้” “อื้ออ…อ่ะอ่าา” ณดลร้องครางพลางแอ่นสะโพกสู้ริมฝีปากของธนัทที่กำลังครอบครองท่อนเอ็นของเขาเข้าไป “อืมม…อึกก” “อื้ออ…อ่ะอ้าา…ส...เสียวนะครับ” “อืม…จ๊วบบ…แผล่บๆ…แผล่บ” ธนัทถอนริมฝีปากออกแล้วใช้มือกำท่อนเอ็นไว้ ก่อนจะเปลี่ยนมารัวลิ้นที่ส่วนหัวแดงจนณดลครางเสียงดังกระเส้า สองมือหนาที่เขาเฝ้าถนอมช่วยบำรุงจนเริ่มกลับมานิ่มขึ้นจิกลงบนหัวของเขาเพื่อระบายความเสียว “อื้ออ...เสียว…อ่าา…คุณธนัทอื้อออ” สะโพกมนส่ายร่าไปมา ก่อ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   27. คำสารภาพของคนปากแข็ง

    ณดลเข้าไปให้ปากคำเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา โดยที่ทางเจ้าหน้าที่นำตัวของผู้ต้องหาทั้งสี่เขาฝากขังไว้ก่อน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดูอันตรายพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายผู้เสียหาย “เป็นไงบ้าง” เป็นภวิตาที่เอ่ยถาม ส่วนธนัทที่ถึงแม้จะเป็นห่วงแต่ก็แค่มองมาเฉยๆไม่ได้พูดอะไร “ผมเล่าเรื่องทุกอย่างที่ถูกกระทำให้ทางตำรวจหมดแล้วครับ เล่าทุกอย่างเลย…” ณดลบอก “กลับได้แล้วใช่ไหม” ภวิตาถาม ณดลพยักหน้าหงึกๆเป็นคำตอบ “งั้นกลับกันเถอะ นี่ก็เก๊กหน้านิ่งอยู่ได้” ภวิตาหันไปบ่นลูกชายของตัวเอง “อารมณ์ไม่ดีครับ” ธนัทตอบมาสั้นๆ “ขอโทษครับ” ณดลบอกแต่ธนัททำเมิน “ทำทรงไปงั้นแหละ เชื่อแม่” ภวิตาพูดให้กำลังใจณดลที่ทำหน้าเหมือนหมีหงอยอยู่ “คุยกันดีๆ แม่ไปพักก่อน” เมื่อกลับมาถึงบ้านภวิตาก็รีบปลีกตัวออกไปเพื่อให้ลูกทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกัน “จะกลับห้องตัวเองหรือจะขึ้นไปห้องฉัน” ธนัทถามโดยที่ไม่แม้แต่จะชายตามอง “ขออนุญาตไปห้องของคุณได้ไหมครับ” “งั้นก็ตามมา” ธนัทเดินนำขึ้นไปที่ห้องโดยที่ไม่ได้เดินรอเหมือนอย่างทุกที “ขอโทษครับ/เธอไม่เชื่อใจฉันเหรอ” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันทันทีที่เข้ามาในห้อง “เ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   26. เพราะไว้ใจคนผิด

    “วันนี้มันไม่อยู่เหรอวะ” ป้าสายบัวพูดขึ้นเมื่อยืนเคาะประตูห้องของณดลมาพักใหญ่แต่ไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้ “มันหลบอยู่เปล่า ก็ป้าเล่นไปขู่จะแทงตามันอ่ะ” กระแตพูด “จริงๆตัวมันก็ใหญ่นะแต่เสือกใจเซาะกลัวพวกเราซะงั้น” กระถินพูดขึ้นเพราะณดลตัวใหญ่กว่าแค่ตบพวกเธอทีเดียวน่าจะหลับไปหลายวัน “ก็ดีแล้วที่มันใจเซาะเราจะได้ไถเงินมันได้ แถมยังได้กินของดีๆที่คุณเขาซื้อมาให้มันอีก ถึงว่าไม่มาแดกข้าวที่โรงครัวเลยเพราะติดหรูกินแต่อาหารดีๆนี่เอง” “พวกมึงมาทำอะไรที่หน้าห้องไอ้ณดล!” เสียงของตาทองที่ตะโกนถามทำเอาสามสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ป้าสายบัวรีบพูดกระซิบให้ทำตัวให้เป็นปกติ “เอ้า! กูถามไม่ตอบหูตึงกันแล้วรึไง” ตาทองพูด “ทำอะไร กูไม่ได้ทำอะไร แค่มาดูไอ้ณดลมันเป็นยังไงบ้าง” ป้าสายบัวตอบ “คนอย่างมึงน่ะเหรอจะมาดูดำดูดีไอ้ณดล” ตาทองไม่เชื่อคำพูดของอีกฝ่าย “ทำไม กูก็อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง เห็นวันนี้เงียบๆไม่มีใครเอาอะไรมาให้มัน กลัวมันจะอดตาย” “มันไปทำงานกับคุณธนัทแล้ว” “อ่อ งั้นกลับไปทำงานกันต่อเถอะพวกเรา” สามสาวที่ได้คำตอบก็แยกย้ายกลับไปทำงานที่โรงครัวต่อ แต่ตาทองยังคงสงสัยและรู้สึกแปลกใจ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   25. คำโกหก

    “เรียกอีกทีเอาแบบไม่เกร็ง” ภวิตาบอกพร้อมยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู “เอ่อ…เกร็งครับ” ณดลยอมรับออกมาตรงๆ “ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่าครับแม่ ณดลยังคงปรับตัวไม่ทัน” ธนัทช่วยพูด “ก็ได้ๆ ตอนนี้ก็เรียกตามที่สะดวกใจไปก่อนแล้วกัน สนิทกันขึ้นเมื่อไหร่ค่อยเรียกแม่” ภวิตารับฟังก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องด้วยการเอาขนมที่เธอซื้อมาฝากมาป้อนให้ณดล “อร่อยมากเลยครับ” “อร่อยก็กินเยอะๆ ถ้าชอบเดี๋ยวแม่เหมามาให้” ภวิตาเริ่มแทนตัวเองว่าแม่เพื่อละลายพฤติกรรมระหว่างกัน “เกรงใจครับ แค่นี้ก็ดีใจมากๆแล้วครับ” “ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก เราคนกันเอง” ยิ่งบอกว่าคนกันเองณดลยิ่งรู้สึกเกร็ง แผลของณดลไม่มีอาการติดเชื้อและค่อยๆแห้งทำให้หมออนุญาตให้กลับบ้านได้โดยนัดวันที่จะตัดไหมอีกที มีแค่ดวงตาข้างซ้ายที่ยังไม่หายดีทำให้ยังไม่สามารถกลับไปทำงานได้ เขาจึงขอย้ายกลับมาที่ห้องพักของตัวเองเพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้ชีวิตระหว่างที่ธนัทต้องไปทำงาน โดยมีตาทองคอยช่วยเอาอาหารมาให้เพราะภวิตาต้องไปช่วยงานธนัทแทนณดล ก๊อก ก๊อก “ครับๆ ตาทองเหรอครับ…เมื่อกี้พี่ตุ่นเอาข้าวมาให้ผมแล้วนะครับ” ณดลค่อยๆเดินมาเปิดประตูให้เพราะคิดว่าเป็นตาทองที่มาหา

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   24. เรียนรู้และเริ่มต้นใหม่

    “ฉันพูดจาไม่ดีกับณดลไว้มาก ไม่รู้เลยว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง…ฉัน” ภวิตาที่เริ่มสำนึกคิดได้พูดออกมา “คุณหญิงไม่รู้ไม่ผิดครับ แต่ที่ผิดคือการไปพูดจาดูถูกทำร้ายจิตใจกัน ถ้าเราเป็นเหมือนมันแล้วโดนพูดแบบนั้นใส่เป็นผมคงเสียใจไม่น้อยเลยครับ มันเป็นแบบนั้นก็นับว่าโชคร้ายแล้วเราอย่าไปทำตัวใจร้ายบั่นทอนใจมันเลยนะครับ” ภวิตาพยักหน้ารับฟังในสิ่งที่ตาทองพูด “อีกอย่างที่ผมอยากจะบอกคือเราอย่าไปตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ต้องศึกษาเนื้อในของเขาก่อนแล้วค่อยตัดสินว่าคนนั้นเป็นยังไง และไม่ใช่เอาแต่เชื่อคำพูดยุยงของคนอื่น ลองได้มารู้จักเจ้าณดลก่อนแล้วคุณหญิงก็จะเข้าใจว่าทำไมคุณธนัทถึงเลือกมัน” ตาทองพูดสอน “ฉันเข้าใจแล้ว…ฉันเอาแต่คิดว่าสิ่งที่ฉันเลือกมันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก แต่จริงๆสิ่งที่ฉันควรสนใจมากกว่านั้นคือความสุขของเขา ถ้าเขาอยู่กับใครแล้วมีความสุขฉันก็ควรสนับสนุนเขาในฐานะแม่ ฉันผิดเองที่เอาแต่เชื่อคำพูดของคนอื่นแล้วตัดสินณดลจากสิ่งที่ได้ยิน” ภวิตานั่งคิดทบทวนตัวเองสักพักก่อนจะพูดออกมา ที่ผ่านมาเธอไม่ชอบณดลเพราะฟังคำของป้าชม้อยแม่บ้านคนสนิทที่คอยโทรรายงาน ซึ่งแน่นอนว่ามีแต่เรื่องไม่ดีที่ณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status