Share

3. สวัสดิการจากคุณธนัท

Author: Lastlatte.
last update Last Updated: 2025-10-30 15:55:31

“จะว่าไป เธอใส่ชุดแบบนี้ก็ดูเหมาะเหมือนกันนะ” ธนัทพูดชมขณะที่ใช้สายตามองพินิจพิจารณาณดลตั้งแต่หัวจรดเท้า หลังจากที่ให้เจ้าตัวมาลองชุดสูทของเขาเพื่อเตรียมสำหรับการทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัว

ณดลที่เปลี่ยนจากเสื้อยืดตัวเก่ากับกางเกงยางยืดตัวโปรดมาเป็นชุดสูททางการที่ค่อนข้างเข้ารูป ในสายตาของธนัทนั้นดูดีมากโดยเฉพาะช่วงเอวที่มีส่วนเว้าโค้งกับบั้นท้ายยกกลมงอนที่ดูแน่นหนึบหนับสะดุดตาจนอยากจะตีสักทีด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่เขาก็ต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมาเพราะรู้สึกได้ว่าจะเผลอมองจ้องนานเกินไป และไม่อยากดูเป็นคนโรคจิตในสายตาของณดล

“แต่ผมว่ามันแปลกๆนะครับ” ณดลบอกด้วยท่าทางที่ดูไม่ค่อยไม่มั่นใจเพราะชุดที่ได้ลองใส่เป็นชุดสูทราคาแพงที่ค่อนข้างจะพอดีตัวไปสำหรับเขา ทำให้รู้สึกแน่นเวลาขยับตัวแต่ก็แอบดีใจที่ธนัทเอ่ยชมว่า เขาดูเหมาะกับชุดนี้

“แปลกยังไงฉันว่าดูดีออก” ธนัทลุกขึ้นมาช่วยจัดปกเสื้อและเนคไทให้กับณดล

“ขอบคุณครับ ว่าแต่งานที่คุณธนัทจะให้ผมทำคืองานอะไรเหรอครับ ต้องใส่ชุดรัดพุงแบบนี้ตลอดเลยรึเปล่า” ณดลเอ่ยถามออกมาด้วยความซื่อ

“เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของฉัน ส่วนเรื่องชุดจะขยับเพิ่มไซส์ให้ ไม่ต้องกลัวว่าจะรัดพุงนะ”

“ผู้ช่วยส่วนตัว!? มันจะดีเหรอครับ ผมโง่หนังสือให้ไปทำงานเป็นคนสวนหรืออะไรอย่างอื่นก็ได้ครับ” ณดลบอกอย่างรู้ตัวว่าเขาไม่ได้มีความสามารถมากพอที่จะทำงานอะไรแบบนั้นได้

“อย่าดูถูกตัวเองสิ”

“ผมไม่ได้ดูถูกตัวเองครับ แค่รู้ว่าความสามารถของผมมันมีแค่ไหน กลัวว่าถ้าไปทำงานนั้นจะทำให้คุณอับอายมากกว่าที่มีผู้ช่วยที่ไม่ได้เรื่องเรียนจบแค่ป.6อย่างผม แถมหน้าตาก็อัปลักษณ์ ตัวก็ใหญ่ ผิวก็ดำคล้ำแล้วยังพิการไม่สมประกอบอีก ผมขอบคุณมากเลยนะครับที่คุณธนัทเมตตาแต่คนอย่างผมไม่คู่ควรหรอกครับ” ณดลพูดอย่างเจียมตัว

“นี่แหละคือการดูถูกตัวเอง ถ้าเธอจะอ้างว่าเพราะอ่านไม่ค่อยออก เขียนไม่ค่อยได้หรือเรียนมาน้อยเลยคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากพอ แต่ทุกอย่างมีครั้งแรกเสมออยู่ที่ว่าเราอยากจะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองไหม ฉันก็ไม่ได้มองว่าร่างกายของเธอที่บกพร่องจะเป็นอุปสรรคในการทำงานเลยนะ” ธนัทบอกพร้อมรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนทำเอาณดลต้องหลุบตามองต่ำเพราะรู้สึกร้อนที่หน้าแปลกๆ

“เธอเป็นคนเก่งนะณดล รู้ตัวรึเปล่า” ณดลส่ายหัว

“ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ณดล”

“ขอบคุณนะครับที่เชื่อในตัวผม…ผมไม่รู้ว่าจะทำได้ดีไหมแต่ผมจะพยายามให้ดีที่สุดเท่าที่คนอย่างผมจะทำได้เพื่อตอบแทนคุณ”

“ตอบแทนอะไรฉัน” ธนัทถามอย่างไม่เข้าใจ

“ก็ตอบแทนที่คุณธนัทเมตตาให้ที่อยู่ ที่กิน ให้งานให้เงินเดือนผม แถมยังเชื่อว่าคนอย่างผมจะทำงานแบบนั้นได้ บุญคุณครั้งนี้ผมจะมะ…” ณดลอธิบายเพราะขนาดยังไม่มีงานให้เขาทำธนัทยังยัดเงินสดใส่มือให้เขาตั้งหมื่น พร้อมบังคับให้รับโดยให้เหตุผลว่าไว้ใช้ซื้อของที่จำเป็นหรืออะไรที่อยากได้

“เป็นฉันต่างหากที่ติดหนี้บุญคุณชีวิตเธอ” ธนัทพูดแทรกขึ้นมา

“ผมไม่ได้คิดว่า…”

“ไม่ต้องเถียงกันหรอก มาวัดตัวดีกว่า ฉันจะได้ส่งไซส์ไปให้กับทางร้านตัดชุด” ธนัทพาเปลี่ยนเรื่อง

“ต้องยืนกางแขนแบบนี้ไหมครับ” ณดลยืนตัวตรงพร้อมกับยกแขนกางขึ้นทั้งสองข้าง

“ถูกต้อง” ธนัทหยิบสายวัดมาวัดตามส่วนต่างๆของณดลแล้วจดบันทึกไว้ ทำให้เขาได้ใกล้ชิดถึงขนาดที่ได้กลิ่นหอมสบู่อ่อนๆจากตัวของณดล และยังได้รู้ว่าถึงภายนอกจะดูตัวใหญ่แต่จริงๆแล้วสัดส่วนขอณดลก็จัดได้ว่าดีเลยทีเดียวทั้งช่วงเอวที่เข้ารูปกับสะโพกที่ผายออก

“เสร็จเรียบร้อยแล้ว”

“งานผู้ช่วยต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ เหมือนแบบในละครรึเปล่าที่ต้องเข้าไปปลุกตอนเช้า จัดเตรียมเสื้อผ้าให้อะไรแบบนี้” ณดลถามออกมาด้วยความไม่รู้จึงอ้างอิงมาจากละครหลังข่าวที่เคยดู

“ไม่ถึงขนาดนั้นก็ช่วยงานตามที่ฉันมอบหมายคล้ายกับพวกงานเลขานั่นแหละ เพียงแต่ว่าขึ้นตรงกับฉันแค่คนเดียวแล้วก็มีฉันที่ไหนก็ต้องมีเธอตามไปด้วยทุกที่”

“แล้วพี่นทีละครับ พี่เขาก็เป็นผู้ช่วยของคุณธนัทไม่ใช่เหรอครับ”

“นทีเป็นผู้ช่วยประธานช่วยในเรื่องงานบริหาร แต่เธอเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของฉันเพียงคนเดียว” ธนัทอธิบายเนื้องานให้ฟังคร่าวๆ

“เข้าใจแล้วครับ…ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดแต่ถ้าผมทำผิดคุณธนัทอย่าพึ่งดุกันนะครับ ถึงผมจะสมองทื่อสมองช้าแต่สัญญาว่าจะตั้งใจเรียนรู้และไม่ขี้เกียจแน่นอนครับ” ณดลบอกด้วยท่าทางที่ดูฮึกเหิม

“ฉันดูเป็นคนดุเหรอ หน้าตาออกจะใจดี”

“พ…พูดดักไว้ก่อนน่ะครับ ผมกลัวคุณจะโมโหเวลาที่สอนผมแล้วแต่ผมทำไม่ได้สักที”

“ฉันไม่ใช่คนดุแบบไม่มีเหตุผลนะ เอาเป็นว่าเวลาที่สอนงานจะค่อยๆสอน ส่วนเธอถ้าสงสัยอะไร ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามได้เลย ฉันยินดีที่จะอธิบายให้จนกว่าเธอจะเข้าใจ”

“แล้วเริ่มงานพรุ่งนี้เลยไหมครับ”

“ฮ่าๆ ใจร้อนซะจริง ต้องรอร้านตัดชุดของเธอให้เสร็จก่อน ระหว่างนี้ก็ถือว่าพักผ่อนหลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดไง” ธนัทเอ็นดูในความรีบอยากทำงานของณดล

“นานไหมครับ” ณดลถาม

“ไม่แน่ใจเพราะร้านนี้คิวเยอะมากอาจจะเป็นเดือน”

“งั้นให้ผมช่วยงานอะไรไปก่อนไหมครับ ผมอยู่เฉยๆแบบไม่ทำอะไรได้ไม่นานหรอกครับ มันไม่ค่อยชิน”

“ไม่มีงานให้ทำน่ะสิ”

“งานอะไรก็ได้ครับ งานบ้านทั่วไปผมก็ทำได้ครับ”

“เธอบอกว่าอ่านไม่ค่อยออกเขียนไม่ค่อยได้ งั้นก็ใช้ช่วงเวลาที่พักลองฝึกเรียนเขียนอ่านไปก่อนดีไหม เวลาทำงานจะได้มั่นใจในตัวเองขึ้น” ธนัทเสนอความคิด

“เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับ ได้เตรียมตัวให้ดีก่อนทำงาน” ณดลเห็นด้วย

“งั้นเราออกไปซื้อของกันสักหน่อยดีกว่า”

ธนัทพาณดลมาเดินที่ห้างสรรพสินค้าในเครือของ เพชรศิริ กรุ๊ปที่พ่อของเขายกให้น้องชายที่เกิดจาดภรรยาคนที่สองดูแลกิจการต่อ โดยที่เขาก็เป็นผู้ถือหุ้นอยู่แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องการบริหารรับเพียงเงินปันผลรายปีเท่านั้น

ณดลที่ไม่เคยได้มาเดินในสถานที่แบบนี้ก็เบิกตาโตกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่เห็นบ้านของธนัทเสียอีก

“นี่เหรอครับที่เขาเรียกว่า ห้างของคนเมืองกรุง ใหญ่โตมาก!! ข…ขอโทษครับ” ณดลที่เก็บอาการไม่อยู่เผลอพูดเสียงดังออกมาจึงรีบยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองแล้วหันไปพูดขอโทษธนัทที่ต้องมาตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างด้วยพฤติกรรมของเขา

“บ้านนอกเข้ากรุงครั้งแรกเหรอ”

“คงจะใช่ ดูจากสภาพแล้ว” เสียงหญิงสาวสองคนที่เดินผ่านไปพูดขึ้นพร้อมสายตาที่มองเหยียด ณดลได้แต่ทำหน้าหงอยเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ธนัทต้องมาอับอาย

“ฉันพามาเปิดหูเปิดตาทั้งทีต้องทำหน้าดีใจสิ” ธนัทยกมือขึ้นมาลูบหลังของณดลเบาๆเพื่อปลอบ

“นั่นสิครับ ได้มาเที่ยวในที่ใหม่ๆทั้งทีก็ต้องมีความสุข” ณดลสะบัดหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป

ธนัทพาเดินเข้ามาในร้านโทรศัพท์ที่มีพนักงานสาวสวยยืนยิ้มรอให้บริการอยู่ ทันทีที่เห็นว่าทั้งสองคนเดินเข้ามาเธอก็รีบเดินเข้ามาสวัสดีทักทายด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีค่ะ สอบถามได้นะคะ” เมื่อเห็นว่าลูกค้าที่เดินเข้ามานั้นเป็นธนัทหนึ่งในผู้ถือหุ้นของที่นี่ทำให้เธอต้องดูแลและให้บริการเพื่อความประทับใจเป็นพิเศษ

“อยากดูรุ่นใหม่ล่าสุดของยี่ห้อนี้ครับ” ธนัทบอกด้วยความสุภาพ

“เชิญทางนี้เลยค่ะ” พนักงานสาวเดินนำพาทั้งสองมาหยุดที่ตู้โชว์สินค้า ก่อนจะพูดแนะนำและอธิบายความแตกต่างและจุดเด่นของแต่ละรุ่นให้ฟังอย่างตั้งใจ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีแค่ธนัทที่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดเพียงคนเดียว ชายหนุ่มที่มาด้วยอีกคนเอาแต่กวาดสายตามองไปมารอบร้าน แล้วทำหน้าอึ้งเมื่อเธอบอกราคาของโทรศัพท์แต่ละเครื่องให้ฟัง

“เธอชอบเครื่องไหน” ธนัทหันมาถามณดลที่ไม่กล้าแม้แต่จะลองจับโทรศัพท์ที่พนักงานสาวยื่นมาให้ทดลองใช้เพราะกลัวว่าจะซุ่มซ่ามทำอะไรเสียหาย เงินเก็บที่มีในบัญชีตอนนี้ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของราคาเครื่องเลยด้วยซ้ำ

“ผมไม่กล้าชอบสักเครื่องเลยครับ” ณดลบอก

“งั้นช่วยเลือกมาสักเครื่องสิ” ธนัทพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนเป็นพิเศษ

“คุณจะซื้อให้ใครเหรอครับผมจะได้ช่วยเลือกถูก”

“ให้เธอ” เมื่อได้ยินคำตอบณดลก็ส่ายหัวรัวเป็นการปฏิเสธ

“ผมไม่เอาหรอกครับ โทรศัพท์ของผมก็มียังใช้ได้อยู่” ณดลหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าแบบปุ่มกดขึ้นมาให้ดู

“อย่าดื้อ ผู้ใหญ่ให้ของห้ามปฏิเสธ”

“ผมไม่มีเงินจ่ายครับ” ณดลพูดกระซิบเบาๆเพราะรู้สึกอายพนักงานสาว

“ใครจะให้เธอจ่าย ฉันจ่ายเอง”

“แบบนั้นยิ่งไม่เอาเลยครับ ผมเกรงใจ”

“งั้นผมเอาเป็นรุ่นนี้ครับ ส่วนเครื่องใหญ่เอาเป็นรุ่นนี้แล้วกันครับ สีนี้ทั้งสองเครื่องเลย” ธนัทตัดสินใจเลือกให้เองเพราะดูท่าแล้วณดลคงจะไม่ยอมง่ายๆ

“เดี๋ยวจะเอาเคสมาให้เลือกนะคะ เป็นของแถมค่ะ” พนักงานสาวรับบัตรเครดิตจากธนัทไป ก่อนจะรีบจัดแจงเตรียมของให้

“ผมไม่เอานะครับ”

“ซื้อให้แล้วก็ต้องเอา”

“งั้นหักจากเงินเดือนผมก็ได้แต่ขอผ่อนจ่ายนะครับ”

“ฉันซื้อให้”

“ได้ไงครับ ราคาตั้งแพง แพงมากๆด้วย”

“เป็นสวัสดิการจากฉันเอง” ธนัทพูดอ้าง

“จริงเหรอครับ” ณดลถามพร้อมขมวดคิ้วแล้วมองมาอย่างไม่เชื่อ

“จริงสิ”

“แปลว่าพนักงานทุกคนได้แบบนี้ด้วยเหรอครับ”

“มีแค่เธอ”

“อ้าว…” ณดลไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อพนักงานก็เอาเคสและของแถมอื่นๆมาให้เลือกพอดี

ทันทีที่ออกจากร้านขายโทรศัทพ์ธนัทก็พาณดลเดินเข้ามาที่ร้านขายหนังสือและเครื่องเขียนที่อยู่ใกล้ๆต่อ

“ซื้ออะไรเหรอครับ” ณดลถามด้วยความไม่รู้

“ซื้อหนังสือให้เธอฝึกเขียนไง เธอบอกว่าลายมือไม่ค่อยสวยไม่ใช่เหรอ” ธนัทบอกขณะที่กำลังเลือกดูหนังสือให้ณดล

“ขอบคุณนะครับ” ณดลยกมือไหว้อย่างซึ้งใจ

“อยากได้อะไรเพิ่มหยิบเลยเป็นสวัสดิการจากฉัน”

“สวัสดิการจากคุณธนัทอีกแล้วเหรอครับ”

“ใช่ อยู่ตรงนี้เธอเลือกไปก่อนเอาหลายๆเล่มเลย เดี๋ยวฉันไปดูพวกเครื่องเขียนให้”

“ได้ครับ”

“โอ้ะๆ ดูสิผมเจอใคร สวัสดีครับพี่ชาย” ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายธนัทที่กำลังยืนเลือกเครื่องเขียนอยู่ด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร(?)

“มีอะไรรึเปล่า” ธนัทถามกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่นิ่งเฉยราวกับไม่ยินดีที่ได้เจอ

“เปล่าครับ พอดีมีคนบอกมาว่าพี่มาเดินที่ห้างของผมก็เลยอยากจะแวะมาทักทาย” ธนพลน้องชายต่างแม่ของธนัทที่เกิดกับภรรยาคนที่สองจงใจพูดเน้นเสียงในคำว่าห้างของผมเพื่อตอกย้ำให้ธนัทรู้ว่าตอนนี้กำลังยืนอยู่ในสถานที่ของเขา

“ถ้าแกถือหุ้นของที่นี่ครบ100%เมื่อไหร่ค่อยมาใช้คำว่าห้างของผมกับฉัน เพราะที่นี่เป็นของทุกคนในเพชรศิริกุลตามพินัยกรรมที่พ่อทำไว้” ธนัทพูดตอบกลับไป

“แต่ก็ถือเยอะกว่าพี่ก็แล้วกัน แถมผมยังได้นั่งเก้าอี้ผู้บริหารอีก” ธนพลยิ้มเยาะ

“งั้นก็ฝากบริหารให้ได้กำไรเยอะๆหน่อยนะ ผู้ถือหุ้นอย่างฉันรอฟังข่าวดีตอนรับเงินปันผลอยู่” ธนัทพูดตัดบทและเดินหนีเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนที่ชอบเอาชนะอย่างธนพล

“เอาอะไรอีกไหม” ธนัทไปหาณดลและถาม

“นี่ใคร คนของพี่เหรอ” ธนพลชี้มาทางณดลแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ใช่ ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่”

“ห้ะ! ผู้ช่วยส่วนตัว ฮ่าๆๆ พี่อย่ามาตลกหน่อยเลย เอาคนสภาพแบบนี้มาเป็นผู้ช่วยเหรอ นายน่ะช่วยตัวเองให้รอดก่อนจะดีกว่าไหมอ่ะ” ธนพลหัวเราะออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องขบขัน

“เป็นผู้บริหารก็ควรจะวางตัวให้เหมาะสมกว่านี้นะ ทัศนคติที่มีก็ควรจะปรับเปลี่ยนได้แล้ว” ธนัทพูดเตือนด้วยความหวังดีและอยากปกป้องณดลที่ตอนนี้กำลังยืนหน้าหงอยอยู่ข้างๆ เขารู้ว่าณดลคงไม่พูดอะไรกลับไปแต่เขาจะไม่ยอมให้ใครมาพูดต่อว่าดูถูกคนของเขาได้ง่ายๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   29. ความสุขในชีวิต [End]

    ณดลสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน หลังจากที่เขาตัดสินใจใช้สถานะแฟนกับธนัทอย่างเป็นทางการ จากทุกครั้งที่เวลาเดินผ่านเอาเอกสารไปให้เขามักจะถูกเหล่าพนักงานมองเหยียดหรือไม่ก็หันไปพูดซุบซิบนินทา หนักหน่อยก็พูดว่าขึ้นมาลอยๆซึ่งเขาก็ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่าคนพวกนั้นต่างพากันส่งยิ้มมาให้เขาแม้จะเป็นรอยยิ้มแห้งๆก็ตาม บางคนเมื่อก่อนเดินแทบจะชนเหมือนกับว่ามองไม่เห็น ตอนนี้กลับก้มหัวให้เขาแล้วรีบเดินไปและที่สำคัญไม่มีใครใช้ประโยคและน้ำเสียงที่พูดดูถูกหรือจิกหัวใช้เหมือนก่อนหน้านี้กับเขาอีกเลย คนที่จะไขข้อสงสัยได้ก็มีเพียงแค่คุณแฟนของเขาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ “คุณธนัทครับ ผมมีอะไรอยากถาม” “ว่าไงครับที่รัก” ธนัทตอบรับเสียงหวานพร้อมสรรพนามที่ทำเอาณดลจั๊กจี้ทุกครั้งที่ได้ยิน “ต้องเป็นฝีมือของคุณแน่ๆเลยใช่ไหมครับ ที่ทำให้คนอื่นมีท่าทางแปลกๆกับผม พวกเขาดูเกร็งแล้วก็ไม่แกล้งผมเหมือนเมื่อก่อน” “ฉันทำอะไร…ไม่ได้ทำอะไรเลย” ธนัทปฏิเสธ “ไม่เชื่อครับ บอกผมมาเลยนะถ้าไม่ยอมบอก ไม่ให้นอนกอด” ณดลพูดขู่ “พวกนั้นคงเห็นโพสต์ของฉันละมั้ง” ธนัทขยับเก้าอี้เลื่อนมาอยู

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   28. ชอบเธอไปทั้งตัว [NC18+]

    ในทุกครั้งที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน ธนัทมักจะชอบเอ่ยขออนุญาตอยู่เสมอเป็นเหมือนการถามความยินยอม แม้ว่าส่วนใหญ่จะเปลื้องผ้าเหลือแต่ตัวเปลือยๆกันแล้วก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นความน่ารักของเจ้าตัวที่ทำให้เขาแอบประทับใจ “ครับ” ณดลตอบตกลง ลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดดูดดึงยอดอกของณดลทั้งสองข้างจนมันชุ่มไปด้วยหยาดน้ำสีใสแถมยังตั้งชูชันขึ้นอย่างน่าอาย แต่เขากลับกลายเป็นคนลามกที่ชอบให้ธนัทให้ลิ้นห่อแล้วดูดดึงมันเล่น และเพียงแค่นั้นส่วนกลางกายของเขาก็เริ่มแข็งมีอารมณ์ขึ้นมา “แค่ดูดนมเธอก็แข็งซะแล้วหมีน้อย” ธนัทเอ่ยแซวด้วยความเอ็นดูก่อนจะลากลิ้นขยับลงมาจนถึงท่อนเอ็นอวบ “อ๊าา…อื้ออ บ...แบบนี้” “อื้ออ…อ่ะอ่าา” ณดลร้องครางพลางแอ่นสะโพกสู้ริมฝีปากของธนัทที่กำลังครอบครองท่อนเอ็นของเขาเข้าไป “อืมม…อึกก” “อื้ออ…อ่ะอ้าา…ส...เสียวนะครับ” “อืม…จ๊วบบ…แผล่บๆ…แผล่บ” ธนัทถอนริมฝีปากออกแล้วใช้มือกำท่อนเอ็นไว้ ก่อนจะเปลี่ยนมารัวลิ้นที่ส่วนหัวแดงจนณดลครางเสียงดังกระเส้า สองมือหนาที่เขาเฝ้าถนอมช่วยบำรุงจนเริ่มกลับมานิ่มขึ้นจิกลงบนหัวของเขาเพื่อระบายความเสียว “อื้ออ...เสียว…อ่าา…คุณธนัทอื้อออ” สะโพกมนส่ายร่าไปมา ก่อ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   27. คำสารภาพของคนปากแข็ง

    ณดลเข้าไปให้ปากคำเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา โดยที่ทางเจ้าหน้าที่นำตัวของผู้ต้องหาทั้งสี่เขาฝากขังไว้ก่อน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดูอันตรายพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายผู้เสียหาย “เป็นไงบ้าง” เป็นภวิตาที่เอ่ยถาม ส่วนธนัทที่ถึงแม้จะเป็นห่วงแต่ก็แค่มองมาเฉยๆไม่ได้พูดอะไร “ผมเล่าเรื่องทุกอย่างที่ถูกกระทำให้ทางตำรวจหมดแล้วครับ เล่าทุกอย่างเลย…” ณดลบอก “กลับได้แล้วใช่ไหม” ภวิตาถาม ณดลพยักหน้าหงึกๆเป็นคำตอบ “งั้นกลับกันเถอะ นี่ก็เก๊กหน้านิ่งอยู่ได้” ภวิตาหันไปบ่นลูกชายของตัวเอง “อารมณ์ไม่ดีครับ” ธนัทตอบมาสั้นๆ “ขอโทษครับ” ณดลบอกแต่ธนัททำเมิน “ทำทรงไปงั้นแหละ เชื่อแม่” ภวิตาพูดให้กำลังใจณดลที่ทำหน้าเหมือนหมีหงอยอยู่ “คุยกันดีๆ แม่ไปพักก่อน” เมื่อกลับมาถึงบ้านภวิตาก็รีบปลีกตัวออกไปเพื่อให้ลูกทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกัน “จะกลับห้องตัวเองหรือจะขึ้นไปห้องฉัน” ธนัทถามโดยที่ไม่แม้แต่จะชายตามอง “ขออนุญาตไปห้องของคุณได้ไหมครับ” “งั้นก็ตามมา” ธนัทเดินนำขึ้นไปที่ห้องโดยที่ไม่ได้เดินรอเหมือนอย่างทุกที “ขอโทษครับ/เธอไม่เชื่อใจฉันเหรอ” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันทันทีที่เข้ามาในห้อง “เ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   26. เพราะไว้ใจคนผิด

    “วันนี้มันไม่อยู่เหรอวะ” ป้าสายบัวพูดขึ้นเมื่อยืนเคาะประตูห้องของณดลมาพักใหญ่แต่ไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้ “มันหลบอยู่เปล่า ก็ป้าเล่นไปขู่จะแทงตามันอ่ะ” กระแตพูด “จริงๆตัวมันก็ใหญ่นะแต่เสือกใจเซาะกลัวพวกเราซะงั้น” กระถินพูดขึ้นเพราะณดลตัวใหญ่กว่าแค่ตบพวกเธอทีเดียวน่าจะหลับไปหลายวัน “ก็ดีแล้วที่มันใจเซาะเราจะได้ไถเงินมันได้ แถมยังได้กินของดีๆที่คุณเขาซื้อมาให้มันอีก ถึงว่าไม่มาแดกข้าวที่โรงครัวเลยเพราะติดหรูกินแต่อาหารดีๆนี่เอง” “พวกมึงมาทำอะไรที่หน้าห้องไอ้ณดล!” เสียงของตาทองที่ตะโกนถามทำเอาสามสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ป้าสายบัวรีบพูดกระซิบให้ทำตัวให้เป็นปกติ “เอ้า! กูถามไม่ตอบหูตึงกันแล้วรึไง” ตาทองพูด “ทำอะไร กูไม่ได้ทำอะไร แค่มาดูไอ้ณดลมันเป็นยังไงบ้าง” ป้าสายบัวตอบ “คนอย่างมึงน่ะเหรอจะมาดูดำดูดีไอ้ณดล” ตาทองไม่เชื่อคำพูดของอีกฝ่าย “ทำไม กูก็อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง เห็นวันนี้เงียบๆไม่มีใครเอาอะไรมาให้มัน กลัวมันจะอดตาย” “มันไปทำงานกับคุณธนัทแล้ว” “อ่อ งั้นกลับไปทำงานกันต่อเถอะพวกเรา” สามสาวที่ได้คำตอบก็แยกย้ายกลับไปทำงานที่โรงครัวต่อ แต่ตาทองยังคงสงสัยและรู้สึกแปลกใจ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   25. คำโกหก

    “เรียกอีกทีเอาแบบไม่เกร็ง” ภวิตาบอกพร้อมยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู “เอ่อ…เกร็งครับ” ณดลยอมรับออกมาตรงๆ “ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่าครับแม่ ณดลยังคงปรับตัวไม่ทัน” ธนัทช่วยพูด “ก็ได้ๆ ตอนนี้ก็เรียกตามที่สะดวกใจไปก่อนแล้วกัน สนิทกันขึ้นเมื่อไหร่ค่อยเรียกแม่” ภวิตารับฟังก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องด้วยการเอาขนมที่เธอซื้อมาฝากมาป้อนให้ณดล “อร่อยมากเลยครับ” “อร่อยก็กินเยอะๆ ถ้าชอบเดี๋ยวแม่เหมามาให้” ภวิตาเริ่มแทนตัวเองว่าแม่เพื่อละลายพฤติกรรมระหว่างกัน “เกรงใจครับ แค่นี้ก็ดีใจมากๆแล้วครับ” “ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก เราคนกันเอง” ยิ่งบอกว่าคนกันเองณดลยิ่งรู้สึกเกร็ง แผลของณดลไม่มีอาการติดเชื้อและค่อยๆแห้งทำให้หมออนุญาตให้กลับบ้านได้โดยนัดวันที่จะตัดไหมอีกที มีแค่ดวงตาข้างซ้ายที่ยังไม่หายดีทำให้ยังไม่สามารถกลับไปทำงานได้ เขาจึงขอย้ายกลับมาที่ห้องพักของตัวเองเพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้ชีวิตระหว่างที่ธนัทต้องไปทำงาน โดยมีตาทองคอยช่วยเอาอาหารมาให้เพราะภวิตาต้องไปช่วยงานธนัทแทนณดล ก๊อก ก๊อก “ครับๆ ตาทองเหรอครับ…เมื่อกี้พี่ตุ่นเอาข้าวมาให้ผมแล้วนะครับ” ณดลค่อยๆเดินมาเปิดประตูให้เพราะคิดว่าเป็นตาทองที่มาหา

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   24. เรียนรู้และเริ่มต้นใหม่

    “ฉันพูดจาไม่ดีกับณดลไว้มาก ไม่รู้เลยว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง…ฉัน” ภวิตาที่เริ่มสำนึกคิดได้พูดออกมา “คุณหญิงไม่รู้ไม่ผิดครับ แต่ที่ผิดคือการไปพูดจาดูถูกทำร้ายจิตใจกัน ถ้าเราเป็นเหมือนมันแล้วโดนพูดแบบนั้นใส่เป็นผมคงเสียใจไม่น้อยเลยครับ มันเป็นแบบนั้นก็นับว่าโชคร้ายแล้วเราอย่าไปทำตัวใจร้ายบั่นทอนใจมันเลยนะครับ” ภวิตาพยักหน้ารับฟังในสิ่งที่ตาทองพูด “อีกอย่างที่ผมอยากจะบอกคือเราอย่าไปตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ต้องศึกษาเนื้อในของเขาก่อนแล้วค่อยตัดสินว่าคนนั้นเป็นยังไง และไม่ใช่เอาแต่เชื่อคำพูดยุยงของคนอื่น ลองได้มารู้จักเจ้าณดลก่อนแล้วคุณหญิงก็จะเข้าใจว่าทำไมคุณธนัทถึงเลือกมัน” ตาทองพูดสอน “ฉันเข้าใจแล้ว…ฉันเอาแต่คิดว่าสิ่งที่ฉันเลือกมันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก แต่จริงๆสิ่งที่ฉันควรสนใจมากกว่านั้นคือความสุขของเขา ถ้าเขาอยู่กับใครแล้วมีความสุขฉันก็ควรสนับสนุนเขาในฐานะแม่ ฉันผิดเองที่เอาแต่เชื่อคำพูดของคนอื่นแล้วตัดสินณดลจากสิ่งที่ได้ยิน” ภวิตานั่งคิดทบทวนตัวเองสักพักก่อนจะพูดออกมา ที่ผ่านมาเธอไม่ชอบณดลเพราะฟังคำของป้าชม้อยแม่บ้านคนสนิทที่คอยโทรรายงาน ซึ่งแน่นอนว่ามีแต่เรื่องไม่ดีที่ณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status