 LOGIN
LOGIN
“ตัวเบาออกมาเชียวนะมึง” เสียงทักทายปนเสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นท่ามกลางเสียงคลื่นที่กระแทกเข้ามาเป็นระยะ ไบรอันเดินออกมาจากห้องส่วนตัวหลังจากที่หายเข้าไปถึงสามชั่วโมงเต็มด้วยการสวมเพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียว เปลือยอกเดินออกมาคว้ากระป๋องแอลกอฮอล์ในถังไปยกขึ้นดื่มเพื่อดับกระหายโดยมีสายตาเฮียทั้งสองมองอยู่“รอยเล็บเยอะฉิบหาย ขอบคุณกูสักหน่อยไหม?” ไคเลอร์ยักคิ้วยียวน สบตาคนที่อายุน้อยสุดที่ตอนนี้รอยขีดข่วนเต็มแขน แดงไปทั้งตัว “ขอบคุณที่เฮียมอบความบรรลัยให้น่ะเหรอ?”“กวนตีน จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่กล้าช่วยมึงทั้งที่เจอกันครั้งแรกแบบนั้น ในฐานะที่เกิดก่อน กูควรสั่งสอนมึงใช่ไหมว่าผู้หญิงประเภทไหนควรเก็บไว้ใกล้ตัว” “รู้ แต่วิธีอื่นก็เยอะแยะไหม เฮียแม่งใช้วิธีที่โคตรบรรลัย โคตรเกินไปเลย” “ถ้าจะเล่นกูขนาดนี้นะ อย่าเรียกกูว่าเฮียเถอะ เรียกไอ้เลยไหม?” “ได้…” “ไอ้เหี้ยไบรท์!” อลันดึงแขนไอ้เด็กแสบเป็นพัลวัน ขืนเรียกเฮียเลอร์แบบนั้นมึงโดนเฮียจับทุ่มลงน้ำแน่ อย่าได้ริอ่านท้าทายระบบไคเลอร์เลยเชียว“ได้หยุดหายใจดิเฮีย ใครจะไปกล้าเรียกเฮียเลอร์ว่าไอ้กัน” ไบรอันตอบกลับเฮียลันที่มองอย่างระแวง“แล้วไอ้ที่บ
“ระหว่างฉันกับเฮียเลอร์ เธอกลัวใคร” ถามออกไปพร้อมกับหยุดสายตามองที่ใบหน้าจิ้มลิ้ม ร้องไห้จนตาบวม ถ้าเป็นเวลาปกติเขาไล่ออกไปให้พ้นหน้าแล้ว ไม่ทนยืนมองน้ำตาของใครให้มันเสียเวลาแน่นอน“กลัวเฮียเลอร์” “ก็แปลว่าเธอต้องเลือกฉัน จะกลัวอะไรนักหนา ทำเหมือนกับว่าไม่เคยไปได้” พูดออกไปอย่างหงุดหงิกก่อนจะดึงร่างบอบบางเข้ามาประชิก ริมฝีปากหยักได้รูปตะโบมดูดดุนลงไปบนปากนุ่ม กวาดสายตามองคนที่เขากำลังจูบเห็นเธอหลับหูหลับตา ทำราวกับว่าโคตรฝืนใจ เซ็งฉิบหาย ได้กับกูแล้วอย่ามาติดใจเรียกร้องเอานู่นเอานี่ทีหลังก็แล้วกัน! “อื้ออ!” เสียงหวานพยายามทักท้วงเมื่อลิ้นสากสอดควานเข้าไปในโพรงปากบางก่อนตวัดโลมเลียตักตวงความหวาน ไบรอันใช้ความชำนาญที่มีมากกว่าลูบไล้ส่วนเว้าส่วนโค้งพร้อมกับการปลดเปลื้องอาภรณ์ของเธอออกทีละชิ้น จัดการจนเปลือยเปล่าก่อนจะลากไปที่เตียงพร้อมกัน “นอนกับฉันมันฝืนใจเธอมากหรือไง”“คะ..คนไม่ได้รักกัน มันนอนด้วยกันไม่ได้หรอก” “จะจินตนาการเป็นหน้าแฟนเธอตอนเอากับฉันก็ได้นะ ฉันไม่ติด”“มันไม่เหมือนกัน” “เรื่องมาก แก้ผ้าจนเห็นทุกอย่างแบบนี้แล้วยังจะให้ฉันหยุดไหม ได้นะ แค่เธอบอกออกมาคำเดียว” ใบหม่
ไบรอันถอนลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อคนที่เริ่มเห็นต่างไปคนละทางผลักเขาออกอย่างแรงก่อนจะก้าวขาออกไปจากห้อง ใบหน้าคมคายหลุดความหงุดหงิด ลิ้นสากดุนดันเข้าหากระพุ้งแก้มก่อนจะก้าวขาเดินตามออกไป“ยังไม่โยนให้เป็นอาหารปลาอีกเหรอไบรท์ มึงจะโยนหรือให้กูโยน” ไคเลอร์ควงแก้วไวน์ในมือพร้อมกับยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ดวงตาคมกริบกวาดมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าพานกระตุ้นความหวานกลัวจนเนื้อตัวของใบหม่อนสั่นเทิ้ม“เฮียเลอร์ใจร้าย เอาอะไรมาคิดว่าหนูเป็นได้แค่อาหารปลา” คนกล้าต่อปากต่อคำสบตากับมาเฟียหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว กลับกันยิ่งทำให้คนตัวโตนึกขำ“ก็ตัวเธอนุ่มนิ่มเหมือนขนมปัง ไม่ให้ปลากินเธอ จะให้เฮียกินเธอแทนไหมล่ะ”“เฮียเลอร์!”“ไม่เอาน่า อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง พูดกันดีๆ ตกลงกันดีๆ ก็ได้ เอางี้ ถ้าเธอไม่อยากโดนปลากัดกินจนตัวเละ มาให้เฮียกินเธอแทนไหมล่ะ เฮียจะกินแบบทะนุถนอม เฮียกินไม่นานหรอก สักสามวันสามคืนก็คงพอ” คนฟังถอยหลังกรูด น้ำตารื้นจากตากลมสวยก่อนที่ใบหน้าจิ้มลิ้มจะหันกลับไปหาคนที่ตามหลังเธอออกมาแทน ใบหม่อนดึงแขนไบรอันมากอดจนแน่น หลับหูหลับตาร้องไห้พร้อมกับส่ายหน้ารัวๆ “อย่าให้เฮียเลอร์เข้าใกล้หม่อนนะพี่ไบ
“ไม่”“ไม่ตอบ?”“ไม่เสือกจะดีกว่า” คำตอบแบบตรงไปตรงมาตามประสาคนใจร้อนและไม่กลัวใครอย่างไบรอันเรียกรอยยิ้มจากทุกคนได้เป็นอย่างดี “น้องมึงกวนตีนดีนะ นิสัยพวกมึงมันเหมือนกัน” ไมเคิลชี้หน้าตัวการที่เป็นพี่ใหญ่สุดอย่างไคเลอร์ แต่สำหรับไคเลอร์แล้ว ต่อให้น้องเขาอย่างไบรอันมันจะปีนเกลียวใส่ใคร มันก็ไม่ได้มีเหตุผลที่คนอย่างเขาต้องเข้าข้างคนอื่นอยู่ดี น้องกูก็คือน้องกู จะแสบจะซ่าก็น้องกูอยู่ดี!“อย่ายุ่งกับมันเลยดีกว่า ไม่มีใครเอามันลงนะ” อลันเตือนยิ้มๆ“พวกเหี้ย กูแค่ถามมันเฉยๆ ว่าเด็กหรือเมีย”“คำตอบมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว อย่าเสือก!” อลันตอบกลับพลางปรายสายตามองหน้าคนที่อารมณ์ไม่ดี ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีปัญหาอะไร แต่จังหวะนั้นไบรอันหยัดตัวลุก ดึงแขนคนที่มันพามาด้วยออกจากห้องไปพร้อมกัน ไม่สนใครหน้าไหนเลยเหมือนกัน“ถ้าไม่อยากเห็นในสิ่งที่เธอไม่อยากเห็นก็เข้าไปพักในห้องนั้น และไม่ต้องออกมาถ้าฉันไม่ได้สั่ง” “สุดท้ายแล้วต่อให้หม่อนอยู่กับพี่ไบรท์เพราะเงิน หากเดือดร้อนขึ้นมาจริงๆ คงไม่มีใครคิดฟังเหตุผลของหม่อนอยู่ดี” “ถ้ากลัวขนาดนั้นเธอกลัวการว่ายน้ำเข้าฝั่งหรือเปล่าล่ะ ถ้าความกลัวมันมีน้อยกว่าคว
“…ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า” ไบรอันหันหน้าไปถามลูกน้องคนสนิทในตอนที่รถจอดเทียบท่าเรือ นิ้วยาวเหยียดหมุนนาฬิกาข้อมือพร้อมกับเหลือบตามองเวลาในขณะที่ประตูรถเปิดออกพอดี“เรียบร้อยดีครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” “ดี” ตอบกลับลูกน้องก่อนจะหันไปรั้งข้อมือของคนที่นั่งรถมาด้วยกันตลอดทาง ดึงเธอลงจากรถพร้อมเขาก่อนที่ทุกคนจะมุ่งตรงไปยังเรือที่จอดเทียบฝั่งรออยู่ “นะ…นี่เราจะนั่งเรือกันเหรอคะ” ตากลมโตกลอกกลิ้งมองไปรอบๆ บริเวณอย่างหวาดระแวง สุดท้ายไบรอันคือที่พึ่งเพียงคนเดียวที่เธอไว้ใจได้ พลันความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว มือบางลวงตากระตุกท่อนแขนแกร่งอย่างแรงพร้อมกับดันตัวเข้าไปกอดแขน ส่งผลให้มาเฟียหนุ่มหยุดเดินทันที “อะไร”“หม่อนว่ายน้ำไม่เป็นค่ะ” “เดี๋ยวนะ โตขนาดนี้เธอบอกว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็น?” คนถูกถามพยักหน้าหงึกหงักพร้อมกับมองอีกฝ่ายตาใส “ไอ้ที่กอดฉันแน่นนี่เพราะกลัวน้ำ หรือในความคิดเธอ เธอคิดว่าฉันจะส่งเธอไปขายกันแน่”“มะ…ไม่”“ไม่ได้คิดแบบที่ฉันพูด?”“พี่ไบรท์ไม่คิดแบบนั้นหรอก อย่างหม่อนจะขายได้สักกี่บาท ไม่มีใครเขาซื้อหรอก ขืนซื้อไปก็เอาไปเป็นภาระเปล่าๆ” “แล้วไม่บอกแบบนี้ตั้งแต่วันที่
“…ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยค่ะ” คนที่เพิ่งวางแกงจืดวุ้นเส้นลงบนโต๊ะอาหารเอ่ยปากขอบคุณคนตัวโตที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว“เรื่อง?”“เรื่องที่พี่ช่วยใจดีกับหม่อนและครอบครัวไงคะ เมื่อก่อนนะคะ ถ้าฝนตกฟ้าร้องแบบนี้ เคยอยู่กันอย่างสงบสุขซะที่ไหน ไปทางไหนฝนก็รั่วแหละ” “ขนาดมุมไหนก็รั่วยับเยิบขนาดนั้นมนุษย์ป้ายังออกแนวขี้งกเฉยอ่ะนะ” คำพูดคำจาของคนตัวสูงทำคนตัวเล็กกว่ายิ้มกว้าง“ก็ไม่อยากจะเม้าส์อ่ะนะ แต่จะว่าใช่ก็ใช่แหละ”“อย่าบอกนะว่าโดนแบบนี้ประจำ”“ก็ถ้าจ่ายช้าป้าแกก็จะมาโวยวายประมาณนี้ แต่ทุกทีแกก็ไม่ได้ไล่ออกหรอกนะ เหมือนแค่อยากมาทะเลาะกับแม่มากกว่า เถียงจนพอใจแกก็กลับนั่นแหละ ไม่เคยทำรุนแรงอะไร”“แล้วคำว่าไม่รุนแรงของเธอมันเป็นแบบไหน แล้วไอ้การที่เขาใช้คำพูดเพื่อกระแทกแดกดันทำให้เจ็บใจนี่มันน่าหมั่นไส้ไหม” คำถามส่งผลให้คนฟังนั่งคอตกพร้อมกับกลืนน้ำลายเหนียวลงคอนึกออกทันทีว่าความเป็นไปได้ มันน่าจะมาจากคำพูดประโยคไหน ก็คงไม่พ้นที่ป้าเจ้าของที่แซะเธอแรงจัดเรื่องที่ครอบครัวพี่เคนไม่ต้อนรับเธอ เหตุผลเพราะเธอและเขามันต่างกันนั่นแหละ “หรือเธอเป็นยัยชี ไม่เจ็บ ไม่รู้สึก”“ก็แล้วถ้








