แชร์

3

ผู้เขียน: พันพราย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-24 16:34:49

“เออ... ก็ไปสิ แต่รถพ่อให้ครูเหนือยืมไปใช้ รถหนูพ่อเอาไปถ่ายน้ำมันเครื่อง ไปกับพี่เตเขานะ” เข้าแผนนายพิภพที่กำลังจะหาลูกเขยสักคนนั่นแหละ แต่เท่านี้ไม่สามารถทำอะไรอริสา หากเธอได้พูดแล้วว่าไม่ ก็คอยดูกันไป

            “ค่ะ”

            สีหน้าสุดแสนเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งขั้วโลกเหนืออยู่ในสายตาของเตชิน เป็นธรรมดาที่เขาคงต้องมีไม่พอใจ และก็อยากจะรู้ว่าเธอจะแน่สักแค่ไหน จึงลุกขึ้นตามไป

            ซึ่งหญิงสาวกลับกลายเป็นคนละคน พอก้าวไปนั่งพับเพียบลงบนพื้นหน้าสุนัขตัวโปรด มันส่ายหางไปมาอย่างดีใจแม้ร่างกายไม่สู้ดี

            “ที่รัก.. แม่จะพาหนูไปหาหมอนะลูก” ทั้งน้ำเสียงและแววตาอ่อนโยน มือเล็กลูบไล้ขนสีบรอนซ์ทองสลวย มันก็ร้องครางอ้อนเจ้านาย

            เจ้าที่รักเป็นสุนัขสายพันธุ์ดีจากฟาร์มที่มีชื่อเสียงในเมืองโคราช อริสาตัดสินใจซื้อมันมาด้วยอารมณ์เบื่อเซ็ง ๆ  เล่นอินเตอร์เน็ตแล้วพบเข้าโดยบังเอิญเห็นว่ามันน่ารักดี พอเลี้ยงไปจึงเกิดความรู้สึกเมตตา มันเติมเต็มชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายในแต่ละวันให้มีสีสัน จนถึงทุกวันนี้ดันขาดมันไม่ได้สักวัน

            “อ้าว.. เดี๋ยวนี้น้องอริสมีลูกเป็นหมา?” คนถามเลิกคิ้วขึ้นมองร่างบางในเดรสคุณหนูนั่งราบอยู่บนพื้น เจ้าของบ้านตอบให้แทน

            “อย่างนั้นแหละ สองแม่ลูกรักกันปานจะกลืนกิน ตัวติดกันเป็นตังเม ไม่รู้วันไหนแต่งงานมีผัว จะนอนกับหมาหรือนอนกับผัว”

            ‘ผัว’ ย้ำให้ลูกสาวได้ยินแต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจ ไม่ต่อปากต่อคำกับพ่อเหมือนเคย แต่พูดกับหมา

            “ลูกเดินไม่ไหว เดี๋ยวแม่อุ้มหนูนะลูก”

            เจ้าหมาตัวโตกำลังแลบลิ้นน้ำลายเลอะเทอะไปหมด มันไม่สบายยังได้รับกำลังใจจากเจ้านายสาวที่ใจดีกับมันเสมอ แขนเรียวสอดเข้าช่วงท้องด้านหน้า ค่อย ๆ ยกเจ้าหมาเข้าหาอ้อมอก แนบไว้กับตัวอย่างนุ่มนวล

            “ให้ช่วยไหมคุณ?” คำถามของเตชินได้รับการตอบรับด้วยสายตาเย็นยะเยียบของคนที่ตวัดหางตามอง

            แน่ว่าการอุ้มสุนัขพันธุ์ใหญ่น้ำหนักกว่าสามสิบกิโลกรัมอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งจำเป็น ด้วยความเคยชินกับการอุ้มเจ้าตัวแสบมาแต่เล็กจนโตเต็มวัย มันจึงไม่ใช่ปัญหา

            ใบหน้าสวยสะบัดกลับไปอย่างเชิดหยิ่ง ก่อนที่เธอจะเดินนำลิ่วไป เตชินส่ายหน้าไปมาอย่างเอือม ๆ ยกมือไหว้ลาเจ้าของบ้าน รับหน้าที่สารถีขับรถยนต์พาทั้งคนทั้งหมาไปโรงพยาบาลสัตว์

            โรงพยาบาลสัตว์เอกชนบริการระดับมาตรฐาน มีคลินิกสัตว์เล็กใหญ่ครบวงจร อริสาเลือกที่จะมาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ ตั้งแต่เจ้าที่รักรับวัคซีนเข็มแรก ซื้อของใช้จุกจิกของสุนัข ฝากเลี้ยง หรือแม้แต่นำสัตว์อื่น ๆ ที่ฟาร์มมารักษา

          หลังจากที่เจ้าที่รักนั่งซมซุกตักส่งเสียงครวญครางตลอดทางกว่ายี่สิบกิโลฯ เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์สนทนากับคนขับรถจำเป็น ถามคำก็ตอบคำจนชายหนุ่มต้องนั่งกุมพวงมาลัยไปเงียบ ๆ 

            บรรยากาศชวนน่าอึดอัดของคนทั้งคู่ยังคงอยู่จนนั่งรอคิวในคลินิก ผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวเข้ามาไถ่ถามอาการ

            “เจ้าที่รักเป็นอะไรมาคะ? คุณอริสา”

            “ที่รักซึม ตัวร้อนเป็นไข้ค่ะ” รีบตอบด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ขณะนั่งกอดประคองกอดสุนัขในสภาพอิดโรยไว้บนตัก มันป่วยถึงขั้นว่าไม่มีอารมณ์วิ่งเล่นในสถานที่ที่มันชื่นชอบการทักทายสุนัขตัวอื่น ๆ ไปทั่ว และเจ้านายก็จะดุมัน

            “หมามันตัวร้อนได้ด้วยเหรอครับ?” คำถามของเตชินถูกมองค้อนขวับ ก่อนจะได้รับคำตอบให้หายข้องใจ

            “ได้สิคะคุณ น้องหมาที่เป็นไข้ส่วนใหญ่แล้วที่หูกับเท้าจะร้อนจัด ลองใช้มือหรือหลังมือของเราจับดูที่หูหรือที่เท้าของน้องหมาดูว่าร้อนมากไหม ให้ลองเทียบกับตัวเราดู โดยปกติแล้วหมาจะตัวอุ่นกว่า หรือจะใช้ปรอทวัดไข้วัดดูก็ได้ค่ะ”

            เตชินถึงกับร้องอ๋อ ให้สีหน้าคลายความสงสัยไม่มีอะไรค้างคาใจอีก

            “น้องมีอาการอะไรอีกไหมคะ? คุณอริสา อาเจียนไหม ทานข้าวได้ไหมคะ เป็นไข้มากี่วันแล้ว?”

            “ไม่อาเจียนค่ะ ทานข้าวได้อยู่แต่ทานได้น้อยลง ขนมไม่ค่อยจะกิน เมื่อวานมันไปเล่นน้ำฝน ตื่นเช้ามามีไข้ ไม่แน่ใจว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือเปล่า ฉันเลยรีบพามันมา เผื่อคุณหมอตรวจเลือดดูจะได้แน่ใจค่ะ”

            คนรักสัตว์ลอบยิ้มกับความเอาใจใส่ของลูกค้าขาประจำ ก่อนผายมือเชื้อเชิญ “พาเจ้าที่รักมาทางนี้เลยค่ะ”

            ผู้ชายตัวโตเตรียมให้ความช่วยเหลือเจ้าของหมาที่ทำท่าจะลุก ขณะที่เธอดันไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงตลอดเวลา ยังออกคำสั่ง

            “คุณเตชินเฝ้ากระเป๋าฉันไปแล้วกัน”            

            ชายหนุ่มย่นคิ้วเข้าหากัน เมื่อกระเป๋าสะพายหนังสีขาวถูกปลดจากบ่า ปลายนิ้วกรีดกรายดันมันไว้แนบติดกางเกงยีน เธอหลุบมองมันครั้งหนึ่งด้วยสายตาเฉียบคม

            “กรุณาให้ความสำคัญกับมันด้วย เพราะกระเป๋าฉันแพงมาก ขอบคุณค่ะ”

            ความหมายของเธอไม่ได้ประชดประชันเขาเลยเพราะกระเป๋าหนังจระเข้รุ่นนี้ก็ประมาณแสนกว่าบาทได้ ชายหนุ่มหน้ากระตุก จับมันวางไว้บนตักอย่างไม่ค่อยพอใจ

            ร่างบางค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นพร้อมสุนัขซึ่งได้รับการโอบอุ้มอย่างนุ่มนวล มันรับรู้ได้ว่าข้างหน้ามีอะไร จึงเริ่มส่งเสียงครางด้วยความหวาดกลัวจับใจเหมือนทุกครั้งคราวเข้าห้องตรวจ

ในห้องที่มีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตลบอบอวลไปทั่ว พอผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวเดินหลีกไปในอีกทางหนึ่ง ดวงตาคู่กลมโตส่ายมองหาคุณหมอ และโต๊ะตัวใหญ่สำหรับวางสุนัข พอดีกับที่สายตาเหลือบไปเห็น

เจ้าของวงหน้าหล่อเหลาคมคายในชุดกาวน์แขนสั้นกำลังก้มหน้าอยู่กับแฟ้มและกระดาษกองหนึ่ง ไล่จากจมูกโด่งเป็นสันคม แม้เห็นใบหน้าของเขาเพียงเสี้ยวเดียว สัญชาตญาณของเธอบอกว่าพ่อคุณน่าจะเอาเรื่อง!

            “วางน้องหมาลงเลยครับ”

เสียงทุ้มนุ่มละมุนผ่านหู ไม่ต่างจากนักร้องบอยแบนด์ยืนจับไมโครโฟน ลี้ดกีตาร์เท่ ๆ มีสาวกแม่ยกยืนกรี้ดคอแตก ก้อนเนื้อในอกสาวกระตุกไม่เป็นจังหวะทุกย่างก้าว เธอคงไม่มีทางเลือกที่จะถอยไปข้างหลัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   62

    “ลูก...?” เป็นคำถามแรกของอริสา ที่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดในวินาทีที่เธอไม่ควรพรวดพราดออกไปหาอันตรายอย่างนั้น ไอศูรย์พยักหน้าเบา ๆ พาความปลื้มปิติขึ้นในหัวใจ เรี่ยวแรงของเธอตอนนี้ทำได้แค่ยกมือข้างที่เต็มไปด้วยสายน้ำเกลือขึ้นสะกิดบ่าแกร่ง แม้ว่าอยากกอดเขาแน่น ๆ สักแค่ไหน “ฉันขอโทษ... พี่... เป็นห่วงฉันมากเลยใช่ไหม?” “ไม่เป็นไร... เราไม่เป็นไรพี่ก็ดีใจแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาเกรอะคราบน้ำตาผละออกมองดวงหน้าซีดขาวราวกระดาษ เบียดตัวนั่งลงข้างเตียง กุมมือน้อยไว้แผ่วเบา ไม่ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บแม้สักนิดกับรอยเข็มบนนั้น “ไม่เป็นไรทำไมตาแดงคะ? กินข้าวหรือยัง ได้นอนบ้างหรือเปล่าเนี่ย?” เสียงพร่าของคนป่วยตัดพ้อ อริสาสัมผัสได้ถึงมืออันอบอุ่นของชายทั้งสอง ไม่ลืมหันไปทางอีกคนที่คงหวาดกลัวไม่ต่าง จากดวงตาแดงก่ำที่พายุความโศกเศร้าได้สงบลงไปสักพัก “ไม่เป็นไรแล้วนะลูกพ่อ” ใบหน้างามพริ้มระบายยิ้มจาง ๆ “หนูไม่เป็นไร... พ่ออย่าร้องไห้ เวลาพ่อร้องไห้ พ่อจะมองอะไรไม่เห็น...” แล้วเลื่อนสายตาไปทางชายที่ยังคงจ้องหน้าเธออยู่ไม่ห่าง ไม่ได้มองคน

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   61

    กว่าสิบชั่วโมงที่ผ่านมาเขาไม่ต่างจากคนเสียสติ ในวินาทีที่อุ้มร่างโชกเลือดไปหาอาจารย์ในโรงพยาบาลสัตว์ หยาดน้ำตาเปียกชุ่มใบหน้าอย่างที่ตัวเขาเองไม่เคยจะร้องไห้ให้ใครได้เท่านี้ แม้แต่ในวันที่แม่จากไป เขาเสียใจแต่ยังคงความเป็นบุรุษที่เข้มแข็งเช่นพ่อ รถพยาบาลที่มาได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่ละนาทีช่างยาวนาน ผู้ชายตัวโต ๆ อย่างเขาแค่นั่งสั่นอยู่ตรงนั้นไม่รับรู้สิ่งใดแม้เสียงเรียกของเพื่อนที่คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด เขายังจินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไม่ได้เห็นรอยยิ้ม ใบหน้าสวย ๆ ของผู้หญิงคนนี้อีกตลอดไป ชีวิตที่เหลือจะเป็นอย่างไร กับลูกที่ได้เห็นหน้าเพียงครั้งผ่านจอสีเทาดำ สิ่งมีชีวิตที่ทำให้เขารักแต่แรกพบเหมือนอริสา... ความหวังอันเบาบาง เด็กที่เกิดจากความรักของเขาและเธอยังรอปาฏิหาริย์ “พี่จะรีบกลับมานะ... เราไม่ต้องห่วงพี่ พี่จะดูแลตัวเอง...” ในน้ำเสียงและแววตาแสนอ่อนโยน มือหนาค่อยเลื่อนขึ้นปัดไรผมบนขมับอย่างที่เขาชอบทำ ก่อนจะหยัดกายลุกจากเก้าอี้ที่นั่งมานานนับชั่วโมง มองเปลือกตาที่ยังคงปิดอยู่อย่างนั้น ก่อนออกจากห้องไป ชายหนุ่มตั้งใจจะตรงกลับบ้าน

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   60

    “ไหวไหมลุงชา?” ใบหน้าซีดขาวของชายวัยหกสิบขยับเบา ๆ มือกระชับอาวุธในมือไว้เหนือเข่า แม้เลือดโชกชุ่มกาย ตัวต้นเหตุของบาดแผลฉกรรจ์นั้นนอนอยู่ข้าง ๆ ถึงห้าตัว พวกมันสามารถมีน้ำหนักตัวสูงสุดได้ถึงหกสิบสองกิโลกรัม มีอุ้งเท้าอันใหญ่โต แรงกัดมหาศาลด้วยกรามอันทรงพลังยังออกล่าเป็นฝูง หมาป่าสีเทาเกรวูฟที่กำลังหิวโหยดุร้ายถูกลักลอบมากับรถบรรทุกไม่มีป้ายทะเบียน ไม่ไกลจากฟาร์มของพิภพมากนัก คำขอความช่วยเหลือของพลตำรวจเอกปรีชา ประจวบเหมาะพอดีกับหญิงสาวจะออกไปตามล่าหาเสือโคร่ง ดันได้รางวัลเป็นหมาป่าขย้ำคอคนแก่อยู่กับลูกปืนจากพวกลักลอบค้าของเถื่อน ปัง! ปัง! กระสุนแสกผ่านเหล็กหนา เมอร์เซเดสเบนซ์สีดำสนิทรุ่นกันกระสุนของท่านนายพลอยู่ในสภาพยับเยิน ผู้หมวดสาวในร่างชายหนุ่มยิงสวนกลับไปเพียงครั้ง ก่อนแนบหลังไว้กับที่กำบัง หันไปถามนายตำรวจใหญ่ “ท่านรองกำลังเสริมใกล้ถึงรึยัง? กระสุนจะหมด...” “อือ... ข้างหน้า...” แรงตอบเฮือกสุดท้ายของพลตำรวจเอกปรีชาที่เอนร่างลงนอนพักไหล่ของหญิงสาว สติพร่าเลือนเต็มที “ลุงชา ๆ !” เรียกเสียงดัง มือเรียวเขย่าบ

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   59

    มือหนากำหมัดแน่นแม้จะมีแค่รีโมตในมือ แววตาวาวโรจน์สาดประกายไปยังรายการตลก ซึ่งเขาไม่มีอารมณ์จะดูมันเหมือนทุก ๆ วัน “ถ้าแกจะมาตอกย้ำฉันก็ไปเถอะ… ไปไหนก็ไป...” “โธ่… พ่อ… ไอ้เมธพนธ์มันโคตรร้ายเลยนะพ่อ หนูไม่ชอบมัน ทำไมพ่อต้องเป็นแบบนี้ด้วย หนูไม่เข้าใจ” พ่อที่พูดไม่รู้เรื่องยังดีกว่าคุณพ่อเซ็งโลก ทำหูทวนลม อริสาพยายามเซ้าซี้เรื่องเดิม ๆ อยู่อย่างนั้น ทว่าคงไม่มีคำตอบจากร่างสูงในสภาพอิดโรย ขอบตาดำคล้ำด้วยความที่คงนอนคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง จนเธอถึงกับถอนหายใจเสียงดัง ยกมือขึ้นลูบบ่าลูบหลังปลอบประโลม “พ่ออกหักยังไงพ่อยังมีหนู หนูไม่ทิ้งพ่ออยู่แล้ว... พ่อเหนื่อย พ่อหยุดงานไปนะ ดูตลกดูหนัง หนูไปทำป๊อปคอร์นให้” พิภพยิ้มเจื่อน ไม่ได้ดีใจกับคำปลอบของลูกสาวเลย ในที่สุดเขาก็ต้องถาม “อะไรนะ? แกบอกว่าฉันอกหัก?” “ใช่... พ่ออกหักแน่นอน ถ้าพ่อยังนั่งอยู่แบบนี้นะ เอาจริง ๆ ถ้าหนูเป็นพ่อ หนูปล้ำน้องพายไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เสือโหยคาบไป ป่านนี้กินอิ่มท้องไปแล้วมั้ง เอาเถอะ...ไว้หนูแนะนำเพื่อนสาว ๆ สวย ๆ เอ๊าะ ๆ ให้พ่อใหม่ส

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   58

    “เซ็นแล้ว... ผมมีของขวัญให้พี่สาวคุณด้วยนะ แต่ว่า... มันอยู่ในมือถือ ไม่รู้ว่าอยากดูไหม?” “คุณ... หมายความว่าไง?” ขณิกาหน้าชาวาบ เพียงชายตรงหน้าสลัดคราบเทพบุตรเป็นซาตานร้ายใช่... ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมาขณิการู้ว่าถ้าเขาร้าย เขาจะร้ายได้แค่ไหน! “พี่ยักษ์ก็หมายความอย่างที่พูด ของขวัญให้คนรักไอ้พิภพอย่างน้องพาย อืม... แต่พี่ว่านะ มันรักลูกสาวกับเมียเก่าที่สุด ไม่มีเศษซากความรักเหลือเผื่อแผ่ให้ส่วนเกินหรอก” “คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะคุณเมฆ อย่าไปยุ่งกับพี่อริสเลย... ที่แล้วมาก็ให้แล้วกันไปเถอะนะ พายขอ” ทั้งน้ำเสียงและแววตาเว้าวอน มือเรียวเอื้อมไปแตะลงบนท่อนแขนแกร่งที่สะบัดออกอย่างไม่ไยดี “อย่ามาแตะต้องตัวผม...” ท่าทางเย็นชาของเขาสั่นคลอนหัวใจอย่างรุนแรง ริมฝีปากคู่งามเม้มเข้าหากันจนเหยียดตรง ยามสบมองวงหน้าหล่อเหลาของคนที่เคยอบอุ่น อ่อนโยนกับเธอมาเสมอ “พี่สาวคุณก็ทำร้ายคนของผมนะอย่าลืม ที่เล่นอะไรแบบเด็ก ๆ น่ะ คุณเมฆไม่ทำ ผมเป็นคนเล่นใหญ่” “คุณเมฆ... คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย... คุยกับพายดี ๆ ได้ไหม

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   57

    นายหัวฟาร์มม้าดูจะทำตัวหม่นหมองลงทุกวันจนคนรอบกายพลอยเครียดตาม สิ่งหนึ่งที่เธอชื่นชมขณิกาคือไม่หวั่นไหวไปกับผู้ชายมากคารมอย่างเมธพนธ์ที่ไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ยังมีฐานะร่ำรวยกับธุรกิจสีเทาที่จับอยู่ ความเจ้าเล่ห์ของนายเมธพนธ์นับว่าเป็นตัวร้ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่อีกคนไม่ได้เข้าใจในความหมายของเธอเลย หันกลับไปทางภรรยาที่เสียชีวิตในวัยสามสิบเจ็ดปี “แกไม่รักแม่แกแล้วหรือ? อริส” หญิงสาวสะบัดศีรษะอย่างหัวเสีย และที่ว่าจะไม่พูดก็ไม่น่าไหว... “แม่ตายไปตั้งกี่ปีแล้วพ่อ นี่คือชีวิตของคนเป็น คนที่ต้องเอาใจใส่คือคนที่ยังอยู่ ไม่ใช่คนตาย” หัวใจหนุ่มใหญ่พลันกระตุกวาบกับคำพูดตรง ๆ ของลูกสาว เขาไม่เคยสนใจความสุขนั้นเลย ยังพยายามยัดเยียดความคิดให้ลูกแต่งงานกับเตชิน เพราะเป็นความต้องการของคนตาย... เพราะเขาเป็นฆาตกร... ยังไม่สามารถทำตามคำสั่งเสียสุดท้ายของภรรยาได้ ดวงตาคู่คมเอ่อคลอหยดน้ำใสกับทุกความรู้สึกผิดในอดีต เสียงทุ้มสั่นเครือ “มาไหว้แม่ก่อน” หน้าเจดีย์ที่มีกระเบื้องหลากสีใต้ร่มไม้ พ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status