“ก็เบบี๋ เล่นจับมังกรของเฮียแบบนี้ ใครจะไปทนไหวได้เล่า” เค้กหัวเราะคิกคักก่อนกดจมูกน้อยลงบนแก้มบาสเตียนหนักๆ“ถึงคอนโดก่อนค่อยว่ากันนะเฮีย” แต่กระนั้นมือน้อยๆ ของเธอยังคงลูบไล้แก่นกายใหญ่จากภายนอกอย่างสนุกมือ@คอนโดเค้ก“เฮียพรุ่งนี้เค้กขอไปส่งที่สนามบินนะ” สะโพกกลมนั่งลงที่หน้าตักแกร่ง ขณะที่บาสเตียนนั่งดูงานในไอแพดอยู่บนโซฟาอย่างถือวิสาสะ มือหนาวางไอแพดไว้ที่โต๊ะกระจกเล็กข้างโซฟา ก่อนจัดท่าทางของหญิงสาวในท่าหันหน้าเข้าหากัน“อืมมม~” ยังไม่ทันได้พูดอะไรบาสเตียนโน้มใบหน้าหญิงสาวลงมาประกบปากจูบดูดดื่ม เรียวลิ้นสากสอดแทรกเข้าควานหาความหวานในโพรงปากเรียวบาง มือเล็กยกขึ้นลูบแผงอกแกร่งก่อนใช้ปลายเล็บจิกลง สร้างความกระสันให้เขาและเธอไม่น้อย“อยู่ๆ ก็มาจูบ อาการมันเป็นยังไงคะเฮีย” ทันทีที่ริมฝีปากผละออกจากกัน หญิงสาวก็เป็นฝ่ายเอ่ยแซวบาสเตียน“เบบี๋ อย่านอกใจเฮียนะ” บาสเตียนเอ่ยคำขอก่อนประกบปากจูบหญิงสาวอีกครั้ง มือหนาเลื่อนหยอกเย้ากับดอกไม้งามที่กำลังเบ่งบาน อย่างทะนุถนอมก่อนแปรเปลี่ยนเป็นสัมผัสเร่าร้อน“อ่าา~ ผัวเค้กแซ่บขนาดนี้ เค้กจะไปมีใครได้ไง” เค้กเอ่ยขึ้นเมื่อริมฝีปากผละออกจากกัน มือหน
[เช้าวันถัดมา]“เฮียจะเอาอะไรไปบ้าง” ส่วนใหญ่บาสเตียนจะอยู่กับเค้กที่คอนโด เพราะเค้กไม่อยากไปอยู่ที่คฤหาสน์ เนื่องด้วยอะไรหลายๆ อย่างแต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาเพราะเปิดใจให้เขาบ้างแล้ว“เฮียให้ลูกน้องเตรียมไว้บ้างแล้ว” บาสเตียนว่าจบยิ้มภูมิใจที่เห็นเค้กกุลีกุจอ จัดของให้เขา ถ้าเธอยอมแต่งงานกับเขามันคงจะดีไม่น้อย แต่เขายังไม่กล้าพอที่จะขอเธอแต่งงาน“เฮีย ไปที่โน่นอะ ต้องโทรหาเค้กบ่อยๆ นะ ว่างปุ๊บเฮียต้องโทรทันทีเลยนะ” เค้กเดินตรงไปนั่งบนหน้าตักแกร่งอย่างถือวิสาสะ ในขณะที่บาสเตียนเช็กงานจากในไอแพดอยู่บาสเตียนวางไอแพดลงก่อนโอบรัดรอบเอวบางไว้หลวมๆ “เฮียไม่อยากไปเลย อยากอยู่กับเบบี๋มากกว่า” อาการออดอ้อนของบาสเตียนทำให้เค้กหลุดยิ้มขึ้นมาน่ารัก ผู้ชายคนนี้ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งน่ารัก มือบางโอบรอบลำคอหนา เค้กใช้หน้าผากมนชนกับหน้าผากกว้างของบาสเตียน “เค้กก็ไม่อยากให้เฮียไป” ว่าจบเค้กเป็นฝ่ายกดจูบลงที่ริมฝีปากหนาก่อน“อย่านอกใจเฮียนะ” บาสเตียนกลัวเหลือเกิน กลัวว่าช่วงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันจะทำให้เค้กประทับใจไม่ได้ กลัวเธอจะทิ้งเขาไป “เค้กจะรอเฮียกลับมานะ”เค้กเดินตรงไปยังห้องนอนอีกครั้งเพื่อเช็กข้าวขอ
ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้หญิงสาวที่หลับไหลอยู่บนที่นอนนุ่มต้องเอื้อมมือมารับสาย “ฮัลโหล”(ยัยเค้ก หายสาบสูญไปแล้วหรืิอยะ หรือตาย)“ใครเนี่ย”(“ตอนรับสายไม่ได้ดูชื่อหน้าจอหรือยะ) เค้กเอาโทรสับออกห่างจากใบหูเพื่อดูชื่อหน้าจอที่กำลังปรากฎ[นิว]“กรี๊ด! ยัยนิว”(เออนะซิฉันเอง นอกจากฉันแกยังมีคนอื่นอีกหรือไง)“แหม่ๆ ตั้งแต่มีผัวเป็นตัวเป็นตนนี่ปากคอเราะร้ายขึ้นเยอะนะยะ ว่าแต่นี่โทรมามีอะไร”(คิดถึงซิยะ ถามแปลกๆ แกไม่น่าไปช่วยธุรกิจที่บ้านเลย ฉันอยากให้แกมาทำงานกับฉัน)“ฉันอยู่นี่แหละ ดีแล้ว ยังไงก็นัดเจอกันได้ป่ะ”(เออ คือ ฉันมีเรื่องอยากถาม)“เรื่องอะไรยะ”(กะ แกกับพี่บาสเตียนคบกันอย่างที่ข่าวว่าไหม)เมื่อถูกเพื่อนสนิทเอ่ยถามใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรือ เมื่อนึกถึงเรื่องต่างๆ ที่เธอกับบานเตียนได้ทำร่วมกัน เรียกว่าคบแล้วหรือยัง(ยัยเค้ก แกโดนโทศัพท์ดูดตายแล้วใช่ไหม)“เออ ดะ ดูๆ กันอยู่อะ”(แกหายเกลียดพี่เขาแล้วหรอ เอางี้วันนี้เจอกันไหม ที่ผับ xxx )“อื้อ” ทันทีที่วางสายเสียงแจ้งเตืิอนข้อความจากใครบางคนก็ดังขึ้นผ่านแอพพลิเคชั่นดัง[เฮียบาสเตียน]: เฮียถึงแล้วนะเบบี๋ กำลังเอาขอ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป แรกๆ บาสเตียนโทรหาเค้กแทบจะตลอดเวลา แต่ทุกครั้งก็ถูกเค้กรำคาญใส่ เขาเองก็เหนื่อยงาน เธอเองก็คงเหนื่อยเช่นกัน แต่เขาก็ยังคงโทรหาเธอเหมือนเดิม แค่ไม่บ่อยเท่าเดิมเค้กรู้สึกเหมือนถูกบาสเตียนคุมขังเพราะเขาเล่นโทรหาเธอแทบจะตลอดเวลาจนไม่ได้ทำอะไร เธอหนีไปเที่ยวกับเพื่อนก็ถูกพสุรายงานบาสเตียนอยู่ตลอดเวลา ทำให้การใช้ชีวิตของเธอหน้าเบื่อหน่ายต่างจากบาสเตียนที่กลัวความห่างเหิน เขายังคุยงานไม่เสร็จจากเดิมกำหนดแค่หนึ่งสัปดาห์เลื่อนมาเป็นหนึ่งเดือนเพราะการเจรจาธุรกิจครั้งนี้มีผู้มีอำนาจร่วมวงสนทนาด้วยมากมาย“เห้อออ เหนื่อยงานแล้วยังต้องมาเหนื่อยกับเมียอีก นี่งอนอะไรอีกแล้วก็ไม่รู้” บาสเตียนบ่นให้กายลูกน้องคนสนิทฟังช่วงนี้เขา และเค้กค่อนข้างห่างกัน เวลาโทรหาเค้กชอบทำรำคาญใส่“หรือเมียกูมีชู้ว่ะไอ้กาย ไอ้พสุทำไมมันไม่รายงานกูว่ะ หรือมันเป็นชู้ซะเอง ไอ้ห่านี่เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ” คนรักเมียอย่างบาสเตียนกำลังคิดกระวนกระวาย ตั้งแต่เขาบอกเค้กไปว่าต้องอยู่ทำงานอีกหนึ่งเดือน เค้กก็เปลี่ยนไป ไม่สนใจเขาเหมือนเดิม“พสุ เค้กจะไปผับxxx กับนิวนะ อยากจะรายงานเฮีย ก็เชิญ” หญิงสาวเริ่มเกิดความ
“เฮียไม่ต้องมาพูดเลย เฮียไม่อยากกลับมาหาเค้กใช่ไหม ถ้าไม่อยากมาก็ไม่ต้องกลับมาอีกเลยนะ!!” ด้วยความน้อยใจเธอพลั้งเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรออกไปโดยไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองก่อน(เบบี๋ หนูอย่ามาประชดเฮียแบบนี้นะ เฮียต้องทำงานหาเงินให้หนูใช้ไง) บาสเตียนพยายามข่มอารมย์อธิบายเหตุผลให้หญิงสาวปลายสายฟัง“เฮียไม่ทำตามสัญญา เฮียบอกว่าจะไปแค่อาทิตย์เดียว เฮียติดเมียแหม่มแล้วใช่ไหม” เธอพลั่งพลูความน้อยใจออกมาเป็นคำพูด และน้ำเสียงสั่นเครือ เธอรู้ตัวเองดีกำลังงี่เง่าใส่เขา แต่จะทำอย่างไรได้เล่าในเมื่อเธอไม่ได้เจอเขามานานมากแล้ว(เบบี๋ ไม่งอแงได้ไหมอ่ะ เฮียทำงานที่นี่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะทำไมเบบี๋ไม่เข้าใจ) บาสเตียนเริ่มหงุดหงิดแต่ก็ยังพยายามข่มอารมย์ เขาเพิ่งกลับมาจากการเจรจาธุรกิจโดยที่ยังไม่ได้พักเลย ก็รีบโทรหาเค้กทันทีด้วยความคิดถึง“เฮีย!!! เฮียกำลังด่าว่าเค้กงี่เง่าอยู่นะ” หญิงสาวเริ่มไม่ใช้เหตุผลในการพูดคุยเธอกำลังใช้อารมย์ในการคุยกับบาสเตียน และตอนนี้เธอกำลังไม่สบอารมย์กับการกระทำของเขา( “ ... “ )“ถ้าเฮียจะโทรมาเงียบใส่เค้ก เฮียก็วางไปเลยไป ไปนอนกกเมียแหม่มของเฮียโน่น”(เบบี๋ อย่ามาประชดประชันเฮีย
“ไม่เสือกไม่ได้วะ นั่นผู้หญิงของนายกู” พสุเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมทำท่าทางขึงขังจนชายหนุ่มกลุ่มดังกล่าวถอยเลี่ยงออกไป เขาหันมองนายหญิงของตัวเองอีกครั้งอย่างเหนื่อยใจ เขาเข้าใจทั้งทางบาสเตียน และเข้าใจเค้กที่เป็นฝ่ายรอ“คนรอก็ท้อเป็น รู้ไว้ด้วย” น้ำเสียงสั่นเครือตะโกนดังลั่นผับเสียงของเธอทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบกริบไปชั่วครู่ ก่อนเสียงระเบ็งเซ็งแซ่จะดังครึกโครมอีกครั้ง น้ำตาใสไหลอาบแก้มจนดวงตาคู่สวยแดงก่ำบวมเบ่งด้วยความเสียใจ“พสุ ทำไมเฮียถึงไม่ง้อฉัน หรือฉันมันหน้ารำคาญ ฉันมันงี่เง่าใช่ไหม ฮื้อออออ...... ฉันไม่น่าเผลอใจให้เขาเลย ฮื้อออออ.......” ใบหน้านวลเนียนซุกลงที่แผงอกแกร่งของพสุ หากนายได้เห็นภาพนี้มีหวังเขาได้ตายแบบไม่ต้องร่ำลาเลยมือหนาลูบแผ่นหลังเล็กแผ่วเบาเป็นการปลอบใจ “ฮื้อออออออ พสุ ทำไมเฮียถึงทำแบบนี้ นี่มันหลายชั่วโมงแล้วนะที่เฮียไม่ติดต่อมาเลย ฮื้อออออ........” เขาเองก็จนปัญญาไม่รู้จะพูดอย่างไรให้หญิงสาวเข้าใจหากบาสเตียนได้ทำงานสำคัญอยู่นั้นความจริงแล้วเขาจะไม่แม้แต่พกโทรศัพท์ด้วยซ้ำการที่บาสเตียนโทรหาเธอตลอดเวลาที่ว่างนั้นหมายถึงเธอคือคนสำคัญกับเขาจริงๆ “นายหญิงครับ ผมขอพู
“มึงถามพสุหรือยังเค้กเป็นยังไงบ้าง” เมื่อถึงห้องพักบาสเตียนรีบถามกายทันทีเขาอยากรู้ว่าผู้หญิงของเขาจะคิดถึงเขาบ้างไหม “นายหญิง เอ่อ ... คือ .... ร้องไห้ฟูมฟายหนักมากครับนาย”เพียงแค่ได้ยินว่าหญิงสาวคนรักกำลังร้องไห้ฟูมฟาย หัวใจแกร่งก็สั่นไหวมากเกินกว่าจะทานทน เขาทำให้เธอร้องไห้เสียน้ำตา “อืม มึงไปพักเถอะ เดี๋ยวมีอะไรกูเรียกเอง” กายโค้งคำนับผู้เป็นนายก่อนเดินออกจากห้องพักภายในเรือยอร์ชที่หรูหราโดยไม่ลืมล็็อคประตูให้ผู้เป็นนายเพื่อความเป็นส่วนตัวบาสเตียนหย่อนสะโพกนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างริมหน้าต่างเขาจ้องมองออกไปนิ่งๆ ร่วมครึ่งชั่วโมงได้ บาสเตียนและเค้กไม่ได้คุยกันมานานหลายวันแล้ว เขาต้องการคำตอบว่าเธอสบายดีไม่ใช่ร้องไห้ฟูมฟายเพราะผู้ชายอย่างเขา “เบบี๋ รอเฮียหน่อยนะ” รอบดวงตาแดงก่ำ เพียงแค่คิดว่าหญิงสาวกำลังเจ็บปวด หัวใจแกร่งก็เหมือนจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆหลายวันที่ผ่านมาเค้กไม่ได้รับการติดต่อจากบาสเตียนเลยเธอเริ่มรู้สึกว่าคอนโดนี้ช่างกว้างเกินไปสำหรับการอาศัยอยู่คนเดียว การที่บาสเตียนหายไปมันยิ่งทำให้เธอคิดถึง คิดถึงเขาเหลือเกิน คิดถึงเสียงโทรศัพท์ที่คอยโทรถามทั้งวัน คิดถึงการวีดีโอคลอก่อน
เค้กยังคงกดโทรศัพท์โทรออกอยู่อย่างนั้น แม้จะรู้ว่าไร้ความหมายก็ตาม “ฮื้ออออออ คะ คิดถึงเฮีย” เค้กปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้นพสุที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของหญิงสาวรีบเปิดประตูห้องทำงานของเธออย่างถือวิสาสะ “นายหญิง ปะ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ภาพตรงหน้าที่เห็นคือนายหญิงของตัวเองกำลังก้มหน้าร้องไห้ฟูมฟายออกมาอย่างดัง“ฮื้อออออ. พสุ ฉะ ฉันเอง ฉันงี่เง่าเอง เฮียถึงได้หายไปแบบนี้” พสุไม่รู้จะปลอบผู้เป็นนายอย่างไร ได้แค่ยืนฟังเธอร้องไห้ และพูดจาไม่เป็นภาษานานนับชั่วโมงอาการซึมเศร้าของหญิงสาวทำให้พสุเป็นทุกข์ใจไม่น้อย หากนายกลับมาเห็นสภาพนี้ เขาอาจจะถูกไล่ออกก็เป็นได้ที่ดูแลนายหญิงไม่ดี“นายหญิงครับ ไปหาอะไรทานดีไหมครับ” พสุเอ่ยถามขณะที่กำลังขับรถกลับคอนโด“ ... ““เออ นายหญิงดูผอมไป เดี๋ยวนายกลับมาเห็นผมต้องตายแน่ๆ เลยครับ” เขาเอ่ยอีกครั้ง หวังให้นายหญิงของเขาได้ทานข้าวทานปลาบ้าง“ ... “หญิงสาวมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย เธอไม่อยากรับฟังอะไรจากใครทั้งนั้น คนเดียวที่เธออยากได้ยินเสียงตอนนี้คือ บาสเตียนเท่านั้นเมื่อพสุเห็นนายหญิงมีอาการไม่สู้ดี เขาคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไร เค้กไม่ทานอะไรเลยมาห
[สามปีต่อมา]ฤดูใบไม้ร่วงที่อบอวลไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้อันร่มรื่น ภายในสวนจัดงานรื่นเริงที่หน้าปิติยินดี ผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมาภายใต้บรรยากาศที่แสนอบอุ่น ใจกลางสวนดอกไม้มีโดมสีขาวประดับประดาไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวสลับแดงสายลมพัดพาให้วันนี้มาถึง วันที่หน้ายินดีของคู่บ่าวสาวที่คนทั้งประเทศจับตามอง ร่างกำยำยืนท่ามกลางผู้คนใจกลางสวนหน้าโดมสีขาวโดยมีบาทหลวงในชุดสูทสีดำยืนเพื่อรอทำพิธีสำคัญเด็กหญิงตัวเล็กวัยสามขวบเดินเตาะแตะอยู่หน้าร่างอรชรในชุดเจ้าสาวสีขาวนวลเรียบง่าย ในมือของเด็กน้อยวัยน่ารักถือกลีบดอกไม้สำหรับโปรยทางให้เจ้าสาวเดินตรงไปยังเจ้าบ่าวแขนข้างซ้ายของเธอคล้องกับแขนของชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำเดินมุ่งตรงไปยังหน้าลานพิธี โดยเด็กหญิงตัวเล็กในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนประดับด้วยดอกไม้สีสวยรอบเอวเดินนำหน้ามาจนถึงหน้าลานพิธี”แดะ~.... (แด๊ด)” เด็กหญิงตะโกนก้องหน้าลานพิธีวิ่งเตาะแตะหาเจ้าบ่าวที่ยืนหน้าแท่นพิธีอย่างใจจดใจจ่อ บาสเตียนในชุดเจ้าบ่าวย่อตัวลงในท่านั่งย่อขาอุ้มเด็กหญิงขึ้นมาก่อนกดหอมฟอดใหญ่ฟอดดดดดดดดดดดดด!”อื้ออออ .... มี (มี๊)”พฤติกรรมของเธอต่างเรียกเสียงหัวเราะให้กับแขกที่มาในงา
@เพนท์เฮาส์บาสเตียน ”อือออ ...” หญิงสาวที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงของชายหนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเมื่อถูกบางอย่างรบกวนการนอนที่กำลังสบายในยามราตรี บางอย่างที่นุ่มนิ่มเปียกแฉะแต่อบอุ่น”เฮียขอนะ เบบี๋” เห้อนี่กูกำลังพยายามลักหลับเมียตัวเองเหรอวะเนี่ย บาสเตียนค่อยๆ ลูบไล้หน้าท้องของแฟนสาวแผ่วเบาก่อน มือกำลังปลดเปลื้องอาภรณ์ของหญิงสาวออกทุกชิ้นอย่างใจเย็น และเบามือที่สุดริมฝีปากหนาประทับสัมผัสหัวไหล่มนด้วยความหลงไหล “อืมม ... หอมจัง” บาสเตียนยังคงพรมประทับรอบจูบไปทั่วบริเวณใบหน้าและลำคออย่างแผ่วเบา “อืมมม ...” เสียงครางในลำคอของคนตัวเล็กบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจที่ถูกรบกวนยามราตรีแบบนี้เมื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ของแฟนสาวออกจนหมดทุกชิ้นบาสเตียนรีบปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองออกทันที ทำให้ตอนนี้บาสเตียนและเค้กกำลังเปลือยเปล่าทั้งคู่ฝ่ามือหนาจับเรียวขาของแฟนสาวตั้งขึ้นเป็นรูปตัวเอ็ม ก่อนเลื่อนตัวเองลงไปยังกลางกายของหญิงสาวสูดดมกลิ่นดอกไม้ราตรีด้วยความหลงไหล บาสเตียนจับเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกันเผยให้เห็นดอกไม้งานที่กำลังเบ่งบานจากการปรนเปรอของเขาเมื่อครู่ “หึ ขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมตื่นอีกหรอ” สิ้นส
“คิดจะวัดรอยเท้ากับฉัน ต้องรู้ก่อนนะว่ากระดูกเรามันคนละเบอร์ อีหน้าด้าน!!” ว่าจบเค้กจับศรีษะเล็กของโรสกระแทกกับขอบโต๊ะอาหาร“โอ้ยยยยย!!!”ความเจ็บปวดของโรสยังไม่เท่ากับความเจ็บปวดใจที่โรสพยายามแทรกตัวเองเข้ามาระหว่างเธอกับบาสเตียนยิ่งคิด ยิ่งแค้น ยิ่งแค้นความรุนแรงยิ่งเพิ่มขึ้น“เบบี๋ พอแล้ว โรสสลบไปแล้ว พอเถอะเฮียขอ พวกมึงมาเอาโรสออกไปดิ๊ ยืนทำห่าไรกัน!!!!” ประโยคแรกเขาพูดกับแฟนสาว ประโยคหลังสั่งลูกน้องคนสนิทให้แยกเค้กออกจากโรสทันทีที่จับทั้งสองคนแยกออกมาได้ บาสเตียนพาเค้กขึ้นรถทันที ส่วนโรสเป็นหน้าที่รับผิดชอบของกาย และพสุ บาสเตียนรั้งตัวหญิงสาวให้ขึ้นมานั่งทาบทับบนหน้าตักแกร่ง โดยจัดท่าทางให้เธอหันหน้าเข้าหากันสองมือแกร่งกอดปลอบหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นเทิ้มด้วยความโมโห “ไม่เป็นไรนะครับเบบี๋ เฮียอยู่นี่นะ เฮียอยู่กับเบบี๋นะครับ” เขาใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ กว่าเค้กจะอารมย์ลงได้ ก่อนขับรถยนต์คันหรูออกมาจากลานจอดรถ@คอนโดเค้ก“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องกังวนเดี๋ยวเฮียจัดการเองนะ ไม่เป็นไรครับ” มือหนาปลอบประโลมลูบไล้แผ่นหลังบางอย่างหวงแหน เขาไม่มีวันให้เค้กเป็นอะไรไปแน่นอนบาสเตียนอุ้มเค้กขึ้นมานั
หลายสัปดาห์ต่อมาที่เค้กต้องทนอึดอัดใจ เพราะโรสยังคงวนเวียนมาหาบาสเตียนอยู่เสมอโดยอ้างเรื่องงานเพื่อเข้าหาบาสเตียนได้อย่างเนียนๆ“หน้าด้าน!!” เค้กเอ่ยขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของบาสเตียน แต่ก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้เมื่อเดินเข้ามาแล้วพบกับโรสที่นั่งอยู่ตรงโซฟารับแขกด้วยเสื้อผ้าที่เธอใส่มานั้นมันเหมือนมายั่วผู้ชายมากกว่ามาทำงาน“น้องงงงงเค้กกก พี่โรสคิดถึงจังเลยค่ะ มาให้พี่หอมหน่อยเร็ววว” หึ ตอแหลจริงๆ ไม่เคยเจอใครหน้าด้านหน้าทนเท่ายัยโรสนี่เลย“งานการไม่มีทำเหรอคะ ถึงต้องเร่มาหาผัวชาวบ้านถึงที่” เค้กพูดขณะเดินไปนั่งหย่อนสะโพกลงบนหน้าตักแกร่งของบาสเตียน โดยที่บาสเตียนยังง่วนอยู่กับเอกสารสำคัญตรงหน้าแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเค้กและเริ่มชินกับการที่เค้กกับโรสปะทะฝีปากกันแล้ว“แหม่เรียกผัวได้เต็มปากเต็มคำดีนะคะ ถ้ายังไม่แต่งงานกันโรสก็ยังถือว่าบาสเตียนยังโสด” หน้าด้าน หน้าทน หน้าหนา เสียจริงแม่นี่“...” เค้กได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ เคืองบาสเตียนเห็นอย่างนั่นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมากลัวว่าตัวเองอาจจะซวยอีกเพราะทุกครั้งเค้กก็จะไปลงที่เขาเสมอ จังหวะที่บาสเตียนกำลังมองสีหน้าเ
@ห้างสรรพสินค้า“แกๆ นั่นๆ คุณมอร์แกนกับคุณเค้ก เขามาสวีทกันอีกแล้วเว้ยแก”“คุณเค้กตัวเล็กนิดเดียวเองอ่า น่ารักวะ”“อยากให้แต่งเลยอะ เหมาะสมกันดีเนาะ”“อยากเห็นโมเมนต์หวานๆ อ่ะ”บาสเตียนเดินจับมือเค้กเข้าไปในร้านอาหารหรูกลางห้างดังอย่างเช่นที่เคยทำประจำ “สั่งเลยเบบี๋ เดี๋ยวป๋าเปย์เอง” คำพูดเหมือนครั้งที่เคยพาเธอมาครั้งแรก แต่กลับให้ความรู้สึกที่ต่างกัน“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ยังไงเฮียต้องเลี้ยงเค้กแน่ๆ ละ” เค้กยิ้มจนตาหยีออกมาราวกับเด็กน้อยที่ได้ขนมชิ้นโปรดมากินภายในร้านอาหารการกระทำและข่าวของทั้งคู่อยู่ในสายตาสาธารณะชนทุกอย่าง ข่าวเรื่องของทั้งคู่โหมแรงหนักมาก กลบข่าวดาราซุปตาร์หลายๆ คนเสียด้วยซ้ำเนื่องจากธุระกิจที่ทั้งคู่ทำเป็นธุรกิจชั้นนำและสร้างรายได้มหาสาร“เบบี๋ เสร็จแล้วไปดูหนังกันนะ” เค้กยังไม่ทันตอบตกลงอะไรบาสเตียนก็ลากเธอไปยังหน้าโรงหนังเรียบร้อยแล้วกว่าสามชั่วโมงที่ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้า เค้กก้มมองนาฬิกาที่ตอนนี้บ่งบอกเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว “กลับกันเถอะค่ะเฮีย จะได้พักผ่อนเนอะ”ปึก!เสียงปิดประตูรถที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินดังขึ้น เมื่อทั้งคู่เข้ามาอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
บาสเตียนจับแฟนสาวให้หันหน้าเข้าหาเขา อีกมือจับลำเอ็นตั้งตรงเตรียมตัวออกศึกพร้อมรบ“อย่าลืมครางดังๆ นะเบบี๋”“เกะกะ” เป็นเค้กเองที่ปัดมือเขาออกจากการเกาะกุม แล้วเป็นฝ่ายจับแก่นกายของบาสเตียนรูดขึ้น รูดลง ก่อนนำมาจ่อที่ปากทางเข้าร่องสวาทถูวนไปมากับดอกกุหลาบแย้มปริ่มที่มีน้ำเกสรไหลออกมาเป็นทางยาว “อ่าาา ... เซ็กซี่จังที่รัก...ซี้ดดดด”“อ๊าา ... ฮะ เฮียเป็นของเค้ก” หญิงสาวเอ่ยครางเสียงหวานก่อนจับตัวตนของซีอีโอหนุ่มกดเข้าร่องสวาทแค่ส่วนหัว “ซี้ดดดด .... ครับ เฮียเป็นของเบบี๋คนเดียว ... อ่าา”มุมปากบางยกยิ้มพึงพอใจก่อนกดสะโพกพรวดเดียวจนมิดท่อนลำเอ็น “โอ้ววว .... ซี้ดดดด ปะ ไปโกรธใครมาเนี่ยเบบี๋ ... อ่าาา ... เฮียเสียวนะ” เค้กยังคงบดคลึงร่องสวาทหมุนควงไปมาให้แก่นกายใหญ่สำรวจช่องทางรักคับแคบเป็นวงกลม“ซี้ดดดด ..... โกรธผู้หญิงคน นะ นั้นคะ ...อ๊าาา” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเปล่งเสียงครางหวานกระเส่า ขณะที่ชายหนุ่มจับสะโพกสาวไว้มั่น เขาพึงพอใจกับการปรนเปรอของเธอเป็นที่สุด“อ่าาา .... มาลงที่เฮียก็ได้ ระบายกับเฮียมาเลยเบบี๋ ... อ่าาา” เสียงคำรามก้องด้วยความเสียวซ่านของหนุ่มสาวทำให้ผู้ที่ยืนอยู่ข้างนอก
“คุยงานเรียบร้อยนะคะ ยังไงเค้กขอเชิญนะเค้กอยากมีเวลาส่วนตัวกับคนของเค้กบ้าง นี่ไม่ได้ไล่นะ อย่าเข้าใจผิดนะ” โรสกำมือแน่นด้วยความโกรธเกลียด เกลียดจริงๆ เกลียดทุกอย่างที่เป็นผู้หญิงคนนั้น“โรสขอตัว!!” โรสกระแทกน้ำเสียงแดกดันราวกับคนที่เก็บอาการไม่อยู่ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้แล้วหันกลับไปพูดกับเจ้าของร่างบางที่นั่งอยู่บนหน้าตักแกร่งของคนที่เธอแอบชอบมานานแสนนาน“อ่อ คุณเค้กคะอะไรที่มีอยู่ก็กอดไว้แน่นๆ นะคะ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแค่ของที่คุณเคยมี” พูดจบเจ้าของร่างอรชรผลักประตูออกไปก่อนออกเธอไม่ลืมปรายตามองหญิงสาวที่เธอเกลียดชังตั้งแต่ยังไม่รู้จัก ยิ่งตอนนี้รู้จักก็ยิ่งเกลียด เกลียดที่เธอได้ยืนตรงนั้น เกลียดที่บาสเตียนให้ความอ่อนโยนแค่กับเธอ“เฮียแอบไปกินกันมาแล้วปะเนี่ย” ทันทีที่แขกไม่ได้รับเชิญกลับออกไปหญิงสาวก็หันมาแหวใส่แฟนหนุ่มโดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว “เฮียเปล่า” บาสเตียนรีบปฎิเสธทันควันก่อนที่ไฟจะไหม้บ้านเขาไปมากกว่านี้มือหนารั้งเอวคอดกิ่วของหญิงสาวไว้แน่น ซบใบหน้าคมคายลงบนหัวไหล่มนอย่างออดอ้อน “ไม่ต้องมาอ้อนเลย” แค่เพียงบาสเตียนออดอ้อนเค้กก็ใจอ่อนลงมาแล้วจากที่คิดเอาไว้ว่าจะจัดการ
กว่าหนึ่งสัปดาห์ที่เค้ก และบาสเตียนไปเที่ยวมัลดีฟด้วยกัน เขา และเธอต่างมอบความสุขให้กันและกันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ขณะที่บาสเตียน และเค้กเดินกินไอศครีมอยู่ริมชายหาดเหมือนดังคู่รักทั่วๆ ไป ทามกลางแสงแดดสาดส่อง ไม่เพียงสภาพอากาศที่อบอุ่นเท่านั้นแต่ภายในจิตใจของคนทั้งคู่ต่างก็อบอุ่นไม่ต่างกันครืด ครืด ครืด“ว่า” บาสเตียนกดรับสายโทรศัพท์เมื่ิอกายลูกน้องคนสนิทโทรเข้ามา(นายครับ ที่บริษัท มีปัญหานิดหน่อยครับ)“ถ้ามันนิดหน่อยมึงก็จัดการไปดิ จะโทรมาหากูทำพระแสงอะไร”(คุณโรสมาครับ)“แล้ว?”(เขาต้องการพบนายครับ)“แล้ว?”(เธอบอกว่า ถ้านายไม่มาเคลียร์เธอจะติดต่อไปทางนายหญิงครับ)“วุ่นวายฉิบหาย กูกลับพุ่งนี้” พูดจบบาสเตียนกดตัดสายลงทันที พลางครุ่นคิดโรสต้องการอะไรกันแน่ในเมื่อเขาชัดเจนไปทุกอย่างแล้ว จะว่าเป็นเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกันก็ไม่หน้าจะใช่เพราะมันไม่ได้มีปัญหาอะไร คงมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น คือเรื่องที่เขาทำให้เธออับอายบนเรือนั่นท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่แล้วยังไงละ เขารักเมียเขามันไม่น่าผิดอะไรใช่ไหมละ“มีอะไรหรือเปล่าคะเฮีย” เค้กถามเมื่อบาสเตียนวางสายลงด้วยสีหน้าเคร่งขึม“เรากลับพรุ่งนี้นะ เ
อุณหภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อนระอุ กับแสงแดดที่สาดส่องเจิดจ้าลงมากระทบผิวหนังของชายหนุ่มที่นอนอาบแดดระหว่างรอคนรักลงไปเล่นน้ำ บาสเตียนพลิกตัวขึ้นบนผ้าที่ปูลงบนหาดทรายละเอียดสีขาว เขาหยัดกายลุกขึ้นใช้สองแขนแกร่งค้ำยั้นบนผืนผ้า เหยียดท่อนขาตรงข้างหนึ่งอีกข้างขึ้นหยัดตั้งขึ้นมองแฟนสาวที่กำลังเดินนวยนาดมาหาภายใต้แว่นกันแดดแบรนด์ดังหญิงสาวในชุดบิกินี่สีดำขับให้ผิวขาวผ่องจนหน้าสัมผัสหน้าอกอวบอิ่มที่นูนออกมาจนแทบทะลักส่วนที่ปกปิดไว้ด้านบน ทรวดทรงงามระหงดั่งนางแบบที่เดินอยู่บนแคทวอล์คเธอรวบผมเป็นหางม้าใส่หมวกแก็ปสีขาวส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มมาหาแฟนหนุ่มเค้กนั่งลงข้างๆ บาสเตียนซบใบหน้าสวยงามลงบนบ่าแกร่งมือน้อยๆ ของเธอเริ่มซุกซนลูบไล้หน้าท้องแกร่งของซีอีโอหนุ่มที่ไม่ได้มีอาภรณ์ปกปิด “อย่ายั่ว” บาสเตียนเอ่ยปรามเมื่อเขารู้สึกได้ถึงความเป็นชายที่กำลังผงาดง้ำอยู่ภายใต้กางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีขาว“เค้กยั่วตรงไหนคะ” มือเล็กยังคงซุกซนด้วยการใช้ปลายเล็บขูดหน้าท้องแกร่งแผ่วเบาเพียงแค่ต้องการให้เกิดรอยขณะที่เธอเชยคางมนไว้ที่บ่าแกร่งแทนทำให้บาสเตียนหันหน้ามาจูบจมูกน้อยพอดิบพอดี บาสเตียนพยายามข่มอารมย์ที่กำลังพล