Share

บทที่ 7

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-02-05 12:44:13

จินเยว่ที่เจ็บข้อมืออยู่ก็คุกเข่าลงทันที พร้อมกับร้องในใจ ฉิบหายแล้ว นางเจ็บข้ามือจนเหงื่อไหลซึมออกมา ตนในงานคิดว่านางหวาดกลัวเรื่องที่นางทำ คงมีเพียงจ้าวตงหยางที่รู้เรื่องดี เขายกสุราขึ้นดื่มอย่างนึกสนุก

หลิวเหล่ยถลึงตามองจ้าวตงหยาง เขาเดินลุกไปที่จินเยว่นั่งคุกเข่าอยู่

"แม่นางเสวี่ย เจ้าเป็นอันใดหรือไม่" 

จินเยว่เงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับกัดฟันแน่น นางส่ายหน้าให้เขาว่านางมิได้เป็นอันใด แต่ก่อนที่หลิวเหล่ยจะขอดูข้อมือนาง ฝ่ามือของเว่ยซืออิงก็ตบลงบนใบหน้านางเสียก่อน 

หลิวเหล่ยมิทันได้เข้าช่วยใบหน้าของจินเยว่ก็บวมแดงขึ้นรอยมือเสียแล้ว เว่ยซืออิงเหมือนยังไม่พอใจ นางหยิบกาน้ำชาสาดใส่จินเยว่จนเสื้อผ้าของนางเปียกไปหมด หลิวเหล่ยรีบเข้ามาขวางมิให้เว่ยซืออิงลงมือได้อีก ก่อนที่สาวใช้ของเว่ยซืออิงจะดึงนางออกไปจากงานเลี้ยง

จ้าวตงหยางตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาไม่คิดว่าเว่ยซืออิงจะกล้าลงมือต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ หลิวเหล่ยถอดเสื้อคลุมให้จินเยว่แล้วพานางออกจากงานเลี้ยงไป

"ขอบคุณเจ้าค่ะ" จินเยว่ก้มหน้าขอบคุณหลิวเหล่ย

"แม่นางเสวี่ยมิต้องขอบคุณข้า ข้าแซ่หลิว นามเหล่ย" นางยิ้มขอบคุณให้เขา 

เสี่ยวหงที่ถูกจ้าวตงหยางสั่งให้มาดูจินเยว่ก็รีบเข้ามาพานางไปเปลี่ยนเสื้อผ้า 

"เจ็บหรือไม่" เสี่ยวหงทายาให้จินเยว่แล้วถามขึ้นอย่างเห็นใจ

"ไม่มากเท่าใดนัก ข้าไม่เป็นอันใดแล้ว ขอตัวกลับก่อน" 

"ประเดี๋ยว ท่านแม่ทัพให้เจ้ารอพบก่อน"

จินเยว่หันไปขอบคุณเสี่ยวหง แล้วเดินออกมาจากจวนท่านแม่ทัพทันที นางไม่จำเป็นต้องรอให้เขารังแกนางเพิ่มอีกแล้ว เรื่องที่ข้อมือนางได้รับบาดเจ็บนางมิรู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ก็คงเดาได้ไม่ยาก คนที่อยากให้นางอับอายก็มีเพียงเขาเท่านั้น แล้วนางจะอยู่รอเพื่อให้เขาโบยนางหรืออย่างไร

จินเยว่เดินออกจากเรือนก็พบกงจือรออยู่แล้ว เขาตกใจที่เห็นใบหน้าของนางบวมแดง แล้วข้อมือของนางยังบวมมากอีกด้วย

"แม่นางเสวี่ยเหตุใดเจ้าถึงเป็นเช่นนี้"

"กงจือ ท่านพาข้าไปโรงหมอก่อนได้หรือไม่ หากท่านไม่สะดวกข้าไปเองได้ ท่านเพียงแค่บอกว่าโรงหมออยู่ที่ใดก็พอ"

"ได้ ได้ ข้าพาท่านไปเดี๋ยวนี้เลย" กงจือรีบเรียกรถม้าแล้วพาจินเยว่ไปส่งที่โรงหมอ คนของจ้าวตงหยางที่ออกมาตามจินเยว่ก็พบว่าพวกเขาได้ออกไปแล้ว

"ครั้งนี้เจ้าทำเกินไปแล้วตงหยาง" หลิวเหล่ยต่อว่าจ้าวตงหยางเสร็จก็เดินออกจากจวนไปทันที เขาถามคนเฝ้าประตูว่ากงจือพาจินเยว่ไปที่ใดแล้วตามออกไปที่โรงหมอ

เมื่อจินเยว่มาถึงโรงหมอ นางก็รีบให้ท่านหมอทำดูข้อมือของนาง เพราะนางปวดเกินกว่าที่จะเคล็ดหรือเจ็บ นางกลัวว่ากระดูกจะร้าว แต่ข้อมือของนางเพียงแค่เคล็ดเท่านั้น นางจึงวางใจและขอให้ท่านหมอช่วยให้ประคบใบหน้าของนางให้ยุบโดยเร็ว หากกลับเรือนเช่นนี้บิดามารดาของนางได้ปวดใจอีกแน่

หลิวเหล่ยที่ตามมาถึงโรงหมอก็สอบถามอาการของจินเยว่จากท่านหมอแล้วเขาถึงได้วางใจ ก่อนจะกลับเข้าได้เดินเข้าไปดูนาง เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นอันใดแล้ว เขาจ่ายค่ารักษาและขอให้ท่านหมอจัดยาเพิ่มให้นางเขาถึงได้กลับไป

จ้าวตงหยางก็ตามมาด้วยเช่นกันแต่เขามิได้เข้าไป เมื่อรู้ว่านางไม่เป็นอันใดมาก ก็ยังอดที่จะเอ่ยวาจาแดกดันออกมาไม่ได้

"คิดว่าจะตายแล้วเสียอีก" หลิวเหล่ยปรายตามองจ้าวตงหยางอย่างไม่พอใจ เขาเดินไปขึ้นรถม้าของตนโดยไม่เอ่ยทักสหายเลยสักคำ

เมื่อกลับถึงจวนจ้าวตงหยางยังถูกมารดาเรียกไปต่อว่าเสียยกใหญ่ ครั้งนี้เพราะเขาเป็นคนผิดจึงไม่ได้เอ่ยปากโต้แย้งมารดา

จินเยว่เมื่อใบหน้ายุบลงแล้วก็กลับเรือน กงจือลอบมองนางไปตลอดทาง จนนางอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ 

นางเข้าไปแจ้งบิดามารดาว่ากลับมาแล้ว และเล่าเรื่องภายในงานนิดหน่อย แต่เรื่องที่นางต้องไปรับใช้เว่ยซืออิงกับเรื่องที่นางโดนกระทำนางมิได้พูดถึง

"ข้อมือของเจ้าเป็นอันใด" เกาซื่อเดินเข้ามาจับข้อมือจินเยว่

"ท่านแม่ข้ายกของหนักข้อมือจึงบวมเจ้าค่ะ แต่ท่านหมอดูให้แล้วมิได้เป็นอันใดมาก ท่านแม่อย่าได้กังวล" 

จินเยว่ที่รู้สึกตัวว่าตนจะมีไข้ก็รีบขอตัวจากบิดามารดา นางต้มยาตามคำแนะนำของหมอ เมื่ออาบน้ำดื่มยาก็ล้มตัวลงนอนทันที โดยมิได้กินอันใด 

แต่นางไม่รู้ว่าคืนนั้นมีคนลอบเข้ามาที่ห้องของนาง จ้าวตงหยาง นึกถึงแววตาที่จินเยว่มองมาที่ตน  ก่อนจะถูกหลิวเหล่ยพาออกจากงานเลี้ยงไป เขานอนไม่หลับจนต้องควบม้าออกจากจวนมาที่เรือนของนาง

จ้าวตงหยางกระโดดข้ามกำแพงเข้ามาที่ห้องของจินเยว่ ตอนนี้นางกำลังหนาวสั่นเพราะพิษไข้ ผ้าห่มของนางดูเหมือนจะอบอุ่นไม่เพียงพอ จินเยว่จึงคว้าหาผ้าห่มเพิ่มตามนิสัยเก่าของนาง แต่นางคงลืมไปว่าที่เรือนนี้ในห้องมีผ้าห่มแค่ผืนเดียว

จินเยว่คว้าไปเจอชายเสื้อของจ้าวตงหยางเข้าจึงดึงเข้ามาหาตัว จ้าวตงหยางตกใจจนล้มลงไปนอนข้างจินเยว่ เขายังไม่ทันได้สติจินเยว่ก็ดึงเขาเข้าไปกอดไว้เสียแล้ว นางเอ่ยว่าหนาวเบาราวกับยุงบินผ่าน 

"หึ สงสารเจ้าจึงปล่อยให้เจ้ากอด หากไม่ใช่ว่าเจ้าไม่สบายข้าคงได้ตัดมือเจ้าทิ้งเสียแล้ว" จ้าวตงหยางเอ่ยกระซิบข้างหูจินเยว่ 

แต่ตอนนี้นางไร้สติเพราะพิษไข้จะมาสนใจอันใดได้ ในเมื่อมีเตาอุ่นในอ้อมกอดจินเยว่จึงหลับสบายขึ้น

จ้าวตงหยางเปลี่ยนจากที่นางกอดเขามาเป็นเขาดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตนแทนและหลับไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Ploy Panyapat
ผู้เลวแบบนี้เอาเป็นพระเอกจริงดิ คนเขียนคิดไรอยู่ ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายจิตใจ แล้วยังมาล่วงเกินเอาเปรียบอีก โครตแย่
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 49 (ตอนจบ)

    จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 48

    แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 47

    กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 46

    "อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 45

    ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 44

    หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status