Home / อื่น ๆ / จิ๊ดริดที่รัก / 10. แรกเจอหน้าของเด็ก ๆ

Share

10. แรกเจอหน้าของเด็ก ๆ

last update Last Updated: 2025-08-22 12:00:41

“ผึ้ง ช้าง ไหว้สวัสดียายสายกับน้าวรรณสิ อีกหน่อยต้องได้เจอกันบ่อย”

เด็กหญิงชายท่าทางแก่นแก้วทั้งสองยกมือไหว้อย่างว่าง่าย

“นี่หลานของฉันเอง คนโตชื่อผึ้ง อายุห้าขวบ ส่วนคนเล็กชื่อช้าง อายุสามขวบ” น้ำเสียงของยี่สุ่นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข วันนี้เป็นวันแรกที่ครอบครัวลูกสาวย้ายมาอยู่ที่บ้านสวนกับเธอ กอปรกับที่สายและวรรณารีไม่ได้ออกไปไหนในช่วงนี้เพราะต้องอยู่เฝ้าการก่อสร้างบ้านและร้านที่ตอนนี้เสร็จไปแล้วกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อเห็นโอกาสดี ยี่สุ่นจึงไม่ลืมที่จะพาหลานทั้งสองคนมาที่บ้านท้ายสวนเพื่อทำความรู้จักกันไว้

“ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะผึ้ง ช้าง วันไหนเบื่อก็มานั่งเล่นกับหนูจิ๊ดริดของน้าได้ แล้วน้าจะทำขนมอร่อย ๆ ให้กิน” วรรณารีพูดแทนสายที่เอาแต่นั่งมองเด็กทั้งสองอย่างเงียบ ๆ

อลิสราและคชาภัทรแม้จะรู้สึกเกรงกลัวสายตาของสายอยู่บ้าง แต่ด้วยบุคลิกไม่กลัวใครเป็นทุนเดิม ทั้งคู่ก็อดสอดส่ายสายตามองไปทั่วอย่างสนอกสนใจไม่ได้ กระทั่งมาหยุดอยู่ที่เด็กหญิงวัยห้าเดือนในอ้อมแขนของวรรณารี ตัวเด็กหญิงเองก็กำลังจ้องมองสองพี่น้องตาแป๋วด้วยเช่นกัน

วรรณารีเห็นสายตาของทั้งคู่ก็อมยิ้ม “จิ๊ดริด ทักทายพี่ผึ้งกับพี่ช้างสิลูก”

“จาจะ...” ที่รักทักออกมาเสียงดังแถมยังยื่นมือขวาอวบ ๆ ไปทางอลิสราและคชาภัทรด้วย เสียงและท่าทางแบบนี้ของเธอได้สร้างความสนใจให้กับสองพี่น้องยิ่งขึ้นอีก

“อยากเห็นน้องใกล้ ๆ ไหม”

เมื่อได้ยินคำชักชวนของวรรณารี อลิสราและคชาภัทรต่างแย่งกันปีนขึ้นไปบนแคร่ไม้และมองตุ๊กตารูปร่างอ้วนขาว ตาเรียวเล็กเหมือนตุ๊กตาจีนที่อยู่เบื้องหน้าอย่างชอบอกชอบใจ

เพราะยังรู้สึกแปลกหน้าจึงไม่กล้าที่จะเอื้อนเอ่ยคำใดออกมา แต่ถึงอย่างนั้น สายตาที่ทั้งคู่ใช้จ้องมองวรรณารีนั้นกลับแฝงไปด้วยการกล่าวหานิด ๆ ที่ไม่ยอมปล่อยตุ๊กตาอ้วนออกจากอ้อมแขนมาเล่นกับทั้งคู่เสียที

วรรณารีอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “รอแป๊บนะจ๊ะ น้าขอปูผ้าบนพื้นก่อน น้องยังเล็ก ผิวยังบางอยู่” เมื่อจัดแจงปูผ้าเรียบร้อยแล้ว วรรณารีจึงวางที่รักลง หลังจากนั้น สองพี่น้องก็คลานมาห้อมล้อมเด็กหญิงในทันที

ที่รักกางแขนกางขานอนบนผ้าอย่างสบายตัวพร้อมกับขยับแขนขาตีกับพื้นแคร่อย่างมีความสุข เธอหัวเราะคิกคักเล่นกับตัวเองอย่างอารมณ์ดีจนลืมสนใจเด็กชายและหญิงสองคนไปเสียสนิท

คชาภัทรนั่งมองตุ๊กตาตัวกลมที่ขยับดุกดิกอยู่เบื้องหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก เขาเขยิบเข้าไปใกล้เธออีกนิด ตาจับจ้องอยู่ที่แก้มยุ้ยทั้งสองข้างด้วยอยากเอานิ้วไปลองจิ้มใจแทบขาด อยากรู้ว่าจะนุ่มนิ่มเหมือนตาเห็นไหม

ไม่คิดเปล่า มือของเด็กชายได้ค่อย ๆ เคลื่อนไปยังแก้มที่อยู่ใกล้ และก่อนที่จะทันได้สัมผัสอย่างใจนึก สายตาเขาก็ไปปะทะกับดวงตาเล็ก ๆ คู่นั้นของเธอเสียก่อน

ที่รักที่กำลังนอนเล่นอย่างอารมณ์ดี รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของมือข้างนั้น เธอหันขวับมาจ้องหน้าเจ้าของมืออย่างสนอกสนใจ แล้วริมฝีปากเล็กสีชมพูก็พลันแย้มยิ้มพร้อมกับขยิบตาข้างขวาให้อีกหนึ่งที

“กี้...” หลังจากนั้นก็ส่งเสียงทักไปแบบกรุบกริบ

คชาภัทรสะดุ้งเล็กน้อยก่อนขยับถอยห่างและหรี่ตามองอย่างไม่ใคร่ไว้ใจเท่าไร

ผู้ใหญ่ต่างกลั้นขำกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า

“ท่าทางจิ๊ดริดจะตกหลุมรักหลานคุณนายเข้าอย่างจังแล้วนะคะ” วรรณารีหัวเราะเบา ๆ

ยี่สุ่นหัวเราะออกมาอย่างเต็มเสียงแบบน้อยครั้งที่จะได้เห็น ส่วนสายเพียงแค่อมยิ้มจาง ๆ ออกมาเท่านั้น

คชาภัทรใบหน้าแดงก่ำ สำหรับเด็กวัยสามขวบอย่างเขาที่ตอนนี้ฟังคำผู้ใหญ่พูดเข้าใจหมดแล้ว คำว่ารัก ๆ ชอบ ๆ ดูเหมือนจะสร้างความรู้สึกทางใจมากเกินไปสักหน่อย แม้จะรู้สึกอายไม่ใช่น้อยแต่สายตายังคงจ้องไปที่เด็กประหลาดคนนี้เขม็ง

“เป็นไงลูก น้องน่ารักใช่ไหม ยายบอกแล้วว่าถ้าผึ้งกับช้างมาเจอจะต้องชอบ”

“น้องตัวสั้นจัง” อลิสราเอ่ยปากพูดประโยคแรก

คชาภัทรกวาดตามมองไปทั่วตัวที่รักและพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่สาว นอกจากสั้นแล้วยังอ้วนด้วย

“ตอนผึ้งกับช้างอายุเท่าน้องก็ตัวป้อม ๆ สั้น ๆ แบบนี้แหละ เมื่อน้องโตขึ้นก็จะเหมือนหลานทั้งคู่เอง”

คชาภัทรมองทั่วร่างเด็กหญิงอีกครั้งด้วยสายตาที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งต่อคำพูดของยาย เรื่องสูงเขาไม่เถียง แต่เรื่องอ้วนนี่สิ

“มัมมะ” ที่รักพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับหันไปมองแม่ตาละห้อย

“หิวแล้วสิ” วรรณารีพูดอย่างรู้ใจ เธอลุกเดินไปหยิบขวดนมที่ชงเตรียมไว้แล้ว ต่อจากนั้นก็เตรียมอุ้มเด็กหญิงขึ้นตัก แต่คราวนี้ที่รักกลับปฏิเสธ

“ทำไมล่ะลูก แม่จะอุ้มหนูหม่ำ ๆ นมไง”

เด็กหญิงปัดแขนแม่ทิ้ง ขณะที่มืออีกข้างชี้ไปที่ขวดนมและทำท่ากวักมือเพื่อขอ

“สงสัยเริ่มอยากนอนกินคนเดียว” ยี่สุ่นเดา

วรรณารียิ้มและทดลองส่งนมให้ลูกสาว

เด็กหญิงใช้มือทั้งสองข้างจับขวดนมไว้มั่นก่อนจะนำจุกนมส่งเข้าปากพร้อมกับดูดส่งเสียงจุ๊บจั๊บอย่างน่าอร่อยโดยมีสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูของผู้ใหญ่มองมา

คชาภัทรมองแก้มป่อง ๆ ที่กำลังดูดนมอย่างดุเดือดของเธออย่างคันไม้คันมือ อารมณ์อยากพิสูจน์ความนุ่มกลับมาอีกครั้ง นั่งลังเลอยู่ครู่ใหญ่ก็ทำใจกล้าค่อย ๆ ยื่นปลายนิ้วชี้ขยับเข้าไปใกล้แก้มของเด็กหญิง

ตุบ...

แต่ยังไม่ทันได้จิ้มสมใจ เท้าสั้น ๆ อวบ ๆ ของเธอกลับยกขึ้นมาพาดบนตักของเขาเสียก่อน คชาภัทรนั่งตัวแข็งทื่อ ดวงตาจ้องไปยังปลายนิ้วเท้าเล็ก ๆ ทั้งห้าที่กระดุกกระดิกไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก

ใจอยากจะผลักเท้านี้ไปให้พ้นตัว แต่เมื่อเห็นเด็กหญิงทำตาปรือคล้ายกำลังจะหลับ คชาภัทรจึงตัดใจยอมนั่งนิ่ง ๆ และควักช็อกโกแลตแท่งโปรดจากกระเป๋ากางเกงมานั่งกินอย่างเงียบ ๆ

ภาพของเด็กชายที่อุทิศตักของตัวเองให้เด็กหญิงใช้เท้าพาดได้สร้างความประทับใจให้กับยี่สุ่นและวรรณารีเป็นอย่างยิ่ง แววตาของทั้งคู่ต่างเผยถึงความชอบใจออกมาอย่างเต็มที่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จิ๊ดริดที่รัก   75. ชวนไปฉลองวันเกิด

    “เอกสารที่ผมรวบรวมไว้ช่วงที่ท่านไม่อยู่ครับ” ไวพจน์มาหาพีรายุที่โรงพยาบาลในเช้าวันต่อมาได้หอบเอกสารเป็นตั้งมาด้วย “ในนี้เป็นสำเนาระบุสเปกวัสดุก่อสร้างที่มีลายเซ็นของจินดารากับเสี่ยทรงยศ แล้วยังมีรูปถ่ายที่ทั้งสองไปเจอกันตามที่ต่าง ๆ ด้วย ที่เหลือคือชื่อของพนักงานในบริษัททั้งหมดที่เป็นคนของจินดาราครับ”พีรายุไล่เปิดเอกสารดูหน้าเครียด “แล้วตอนนี้เริ่มทำคำสั่งซื้อพวกนี้หรือยัง”“เริ่มสั่งไปบ้างแล้วครับ รายละเอียดอยู่ด้านล่างสุด เสี่ยทรงยศจะเริ่มลงไซต์งานอาทิตย์หน้าแล้ว ผมว่าคำสั่งซื้อทั้งหมดน่าจะเรียบร้อยภายในอาทิตย์นี้”“ขอบคุณคุณไวพจน์มากนะครับที่เหนื่อยมาหลายอาทิตย์ เอกสารพวกนี้ทิ้งไว้ที่ผม ผมจะจัดการที่เหลือต่อเอง คุณไม่ต้องทำอะไรแล้ว”“ให้ผมช่วยเถอะครับ ท่านออกโรงคนเดียวจะเป็นอันตรายได้”“เรื่องนี้ผมต้องทำคนเดียว ถ้าประธานบริษัทเป็นคนถือเอกสารไปหาผู้ใหญ่ของกระทรวงนั้นเองจะดูน่าเชื่อถือกว่า”“ไม่อันตรายแน่นะครับ”“ไม่เป็นไร ผมจะระวังตัว”ไวพจน์กลับไปแล้วแต่พีรายุยังคงนั่งอ่านเอกสารเหล่านั้นอย่างไม่ละสายตาจนไม่

  • จิ๊ดริดที่รัก   74. จิ๊ดริดมีพ่อชื่อพีรายุ 2

    สายเดินเข้ามาใกล้สองพ่อลูกแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับหลาน “ตอนนี้เราปล่อยให้พ่อกับแม่พักก่อนดีกว่านะ แล้วพรุ่งนี้ยายจะพามาหาแต่เช้า”แม้ไม่เต็มใจแต่พีรายุก็ยอมคลายอ้อมกอดจากลูกแต่โดยดี เช่นเดียวกับที่รัก เธอมองมายังพีรายุอย่างเสียดาย เด็กหญิงเอียงหน้าไปหอมแก้มพีรายุฟอดใหญ่ก่อนยิ้มให้ “พรุ่งนี้จิ๊ดริดจะมาหาพ่อตั้งแต่เช้า พ่อกับแม่นอนดี ๆ อย่าทะเลาะกันนะ”วรรณารีนั่งหน้าแดงมองตามสองยายหลานจนแผ่นหลังของทั้งคู่ลับสายตาไปเธอจึงได้ถอนสายตากลับเพื่อมาเจอกับแววตาลุ่มลึกของอีกคนที่ยังอยู่ในห้อง“ผมขอบคุณคุณมากนะครับที่ยอมเปิดโอกาสให้ผมอีกครั้ง”“ฉันแค่อนุญาตให้ลูกเรียกพ่อ ตอนนี้ฉันยอมรับคุณแค่เป็นพ่อของลูกเท่านั้น”รอยยิ้มของพีรายุลดลง เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ “แล้วเรื่องของเราล่ะครับ”วรรณารีจ้องเขาด้วยใจที่แปลบปร่า “ฉันไม่สามารถทำใจรับคุณมาเป็นคู่ชีวิตได้อีก”“วรรณครับ เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตคุณก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ในใจผมไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มีแค่คุณเท่านั้น ยอมให้โอกาสเราทั้งคู่มาเป็นครอบครัวกันอีกครั้งเถอะนะครับ”วรร

  • จิ๊ดริดที่รัก   73. จิ๊ดริดมีพ่อชื่อพีรายุ 1

    “แม่วรรณ เธอมันบ้าบิ่นเกินไปนะ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ถ้าเกิด...ถ้าเกิด...” สายเอ่ยตำหนิวรรณารีทันทีหลังจากที่หมอและพยาบาลออกจากห้องไปแล้ววรรณารีที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ได้หลุบตานิ่งอย่างสำนึกผิด ใบหน้าและลำตัวเธอมีแต่รอยฟกช้ำโดยเฉพาะตรงลำคอที่แดงช้ำอย่างน่ากลัว “วรรณใจร้อนเกินไปจริง ๆ ค่ะ วรรณขอโทษ”“คนที่เธอควรจะขอโทษก็คือจิ๊ดริดกับคุณพีต่างหาก” สายชี้ไปยังที่รักซึ่งยืนสำนึกผิดอยู่ข้างเตียงและพีรายุซึ่งนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ที่อยู่ติดกัน“ผมไม่เป็นอะไรครับ แค่แผลถาก ๆ” พีรายุรีบพูดช่วย“แม่จ๋า จิ๊ดริดไม่ดี จิ๊ดริดช่วยแม่ไม่ได้” ที่รักน้ำตาเตรียมจะหยดแหมะออกมาเต็มที่วรรณารีรีบกอดปลอบลูก “ไม่ใช่ความผิดจิ๊ดริด แม่หาเรื่องเอง ถ้าแม่ไม่เข้าไปในนั้นแม่ก็จะไม่โดนทำร้าย”“แต่จิ๊ดริดเตือนแม่ไม่ได้ จิ๊ดริดไม่เห็นอะไรเลย”“ก็เพราะหนูไม่สบายอยู่ อย่าโทษตัวเองสิลูก แล้วแม่ก็ไม่ได้บาดเจ็บเยอะแยะ อีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จิ๊ดริดเสียอีกที่ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ ไข้จะได้ไม่กลับมา”“จิ๊ดริดหายแล้ว ไม่มีไข้แล้ว”“หายก็ก

  • จิ๊ดริดที่รัก   72. วรรณารีโดนทำร้าย

    “เอ็งแน่ใจนะว่าไม่มีใครอยู่ที่ร้านแน่”บานชื่นถามสามีอย่างกระวนกระวายใจ ส่วนมือนั้นยังคงสาละวนดึงทองแดงจากกองใหญ่มาใส่ในรถเข็นของตัวเอง“แน่สิวะ ข้ามาแอบดูหลายคืนแล้ว ในร้านไม่มีคนเฝ้าเลยสักคน พวกคนงานไปอยู่ที่บ้านพักฝั่งตรงข้ามหมด ถ้าจะมีก็มีแต่ผีเท่านั้นแหละ”“เอ็งอย่าพูดสิ ยิ่งมืด ๆ อยู่”“กลัวอะไรกับผี อย่ามัวแต่พูด รีบขนขึ้นรถเร็วเข้า เอาไปให้ได้มากที่สุด พรุ่งนี้จะได้เอาไปขายที่ร้านเฮียอุย คุณภาพดีแบบนี้ได้หลายหมื่นแน่มึง” โชติยิ้มย่องเมื่อเห็นทองแดงเกรดดีที่กองเป็นภูเขาอยู่ตรงหน้าเพราะเอาเงินไปลงทุนกับเหล็กจนหมด แต่เหล็กกลับขายไม่ออกช่วงนี้ ทำให้เขาและภรรยาอดอยากปากแห้งมาหลายสัปดาห์ กระทั่งมาได้ยินคนงานในร้านของวรรณารีคุยกันเรื่องทองแดงกองพะเนินในร้านที่มีลูกค้าติดต่อขอซื้อเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสร้างรายได้ให้วรรณารีเป็นล้านบาทโชติและบานชื่นแค้นใจจนแทบกระอักเลือด ขณะที่พวกเขาตกต่ำจนแทบไม่มีหนทางให้เดิน แต่ศัตรูอย่างวรรณารีกลับเจริญไม่หยุด แบบนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาด พวกเขาต้องดึงผลประโยชน์ที่วรรณารีได้มาเป็นของตัวเองส่วนหนึ่ง

  • จิ๊ดริดที่รัก   71. จิ๊ดริดไม่สบาย 2

    “แม่จ๋า อุ้ม” เมื่อเห็นวรรณารีเดินเข้าบ้าน ที่รักจึงอ้าแขนตัวเองออกเพื่ออ้อนให้คนเป็นแม่อุ้มวรรณารีเดินยิ้มตรงมาหาเธอและสวมกอดลูกเอาไว้อย่างอ่อนโยน “เพราะไม่สบายแน่เลยใช่ไหมถึงอ้อนให้แม่อุ้มแบบนี้” ว่าพลางยกร่างที่ไม่เบาของลูกขึ้นมาจากที่นอนและอุ้มเอาไว้อย่างง่ายดาย “ลูกสาวแม่หนักขึ้นอีกแล้ว อีกหน่อยแม่คงอุ้มไม่ไหวแล้วมั้ง ตัวยังรุมอยู่เลยนะ ปวดหัวไหมลูก”“นิดนึง” ที่รักตอบพลางเงยหน้ามองแม่ “แม่จ๋า จิ๊ดริดเหมือนปวดจิ๊ด ๆ ตรงนี้” เด็กหญิงชี้ไปที่อกซ้ายของตัวเองวรรณารีมีสีหน้ากังวลขึ้นมา “ปวดตรงไหน ปวดมากไหม หายใจสะดวกไหมลูก หรือจะไปหาหมอดี”ที่รักส่ายหน้า “จิ๊ดริดไม่ได้ปวดแบบนั้น จิ๊ดริดบอกไม่ได้ว่าทำไม แต่จิ๊ดริดรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนกำลังจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่ดี แต่จิ๊ดริดไม่รู้ว่าเป็นอะไร มันเลยปวดจิ๊ด ๆ ตรงหน้าอก”สายที่เดินเข้ามากับพีรายุถึงกับขมวดคิ้ว เธอวางแก้วนมลงที่โต๊ะก่อนหันมาถาม “จิ๊ดริดรู้สึกว่าจะมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นใช่ไหมลูก”พีรายุสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่เคร่งเครียดขึ้นทันตาของสายก็ขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

  • จิ๊ดริดที่รัก   70. จิ๊ดริดไม่สบาย 1

    ที่รักลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ “หนูเป็นอะไร”“จิ๊ดริดเป็นไข้ กินยาเดี๋ยวก็หายนะลูก” แม้ปากจะปลอบแต่วรรณารียังคงกังวลอยู่ไม่คลายเพราะตั้งแต่เล็กจนโตลูกสาวของเธอไม่เคยเป็นไข้เลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกและดูหนักหนาเอาการเลยทีเดียว“ทำไมหนูเป็นไข้”“ตอนวันเกิดเมื่อวานหนูคงวิ่งกลางแดดร้อน ๆ มากเกินไป แล้วยังกินน้ำหวานใส่น้ำแข็งมากเกินไปด้วย ต่อไปไม่ทำแบบนี้แล้วนะลูก เป็นไข้แล้วไม่สบายตัวเลยใช่ไหม”“อื้อ หนูไม่ทำแล้ว หนูไม่อยากเป็นไข้” ที่รักสะลึมสะลือตอบก่อนจะค่อย ๆ หลับไปเพราะสบายตัวมากขึ้นหลังจากที่แม่เช็ดตัวให้คืนนี้ วรรณารีไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะที่รักไข้สูงเป็นระยะต้องคอยเช็ดตัวให้ตลอดเวลาจนอาการค่อยทุเลาในช่วงเช้ามืดของอีกวัน“ทำไมหน้าซีดแบบนี้ ไม่สบายหรือเปล่า” สายถามขึ้นตอนเห็นวรรณารีเดินออกจากห้องในตอนเช้า“จิ๊ดริดเป็นไข้สูงค่ะ เลยไม่ได้นอนทั้งคืน”“อะไรนะ ลูกเป็นไข้ตั้งแต่เมื่อไหร่” พีรายุที่เพิ่งเดินเข้าบ้านมาเอ่ยถามเสียงตื่นใจอยากจะมองเมิน แต่เมื่อเห็นสีหน้าทุกข์ร้อนของเขา วรรณารีจึงตอบออกไปเสียงห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status