หลังจากพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึงสองวัน เจ้าขาก็ได้รับอนุญาตจากคุณหมอเจ้าของไข้ให้ออกจากโรงพยาบาลได้ เพียงแต่ให้เฝ้าระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ ซึ่งระหว่างสองวันที่ผ่านมา บรรดาเหล่าคุณครูที่โรงเรียนที่ทราบเรื่อง ก็นำกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมเธอตั้งแต่วันแรก และกำชับว่าไม่ต้องกังวลอะไร พักให้หายดีก่อนแล้วค่อยกลับไปสอน
เธอก็ได้แต่ยิ้มขอบคุณ อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ทันคาดคิด เธอไม่ได้อยากที่จะเจ็บตัวอยู่อย่างนี้เลยแต่คงเพราะวันนั้นเธอดวงซวยจริงๆ และแขกที่ได้เห็นตั้งแต่วันแรกอย่างคุณอาหนุ่มสุดหล่อและลูกศิษย์ตัวเล็กของเธอก็แวะมาเยี่ยมอยู่ทุกเย็น เด็กหญิงเล่าเรื่องราวที่โรงเรียนให้เธอฟัง ว่าเหล่าบรรดาลูกศิษย์ต่างถามไถ่หาคุณครูคนสวยใจดีว่าเมื่อไหร่จะกลับไปสอน
ที่จริงเธออยากจะบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก และสามารถกลับไปสอนได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่คนที่พาเธอมาหาคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้เธอไปสอนเด็ดขาด เพราะเขายังไม่มั่นใจกับอาการบาดเจ็บของเธอ เธอก็ได้แต่งงว่าเขาจะมาห่วงอะไรเธอนักหนา จึงพยายามคิดแบบไม่เข้าข้างตนเองว่า เขาเป็นห่วงเพราะลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอ
“คุณครูเจ้าขา สวัสดีค่ะ” เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นที่หน้าประตู
ร่างเล็กๆ เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้อย่างอ่อนช้อย คุณครูสาวอดที่จะเอ็นดูลูกศิษย์ตัวน้อย และอดที่จะชื่นชมคุณอาสุดหล่อของลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้ ที่เขาเลี้ยงหลานมาได้เป็นอย่างดี
“สวัสดีค่ะน้องน้ำหวาน เพิ่งเลิกเรียนหรือคะ” เจ้าขาส่งยิ้มทักทายไปยังลูกศิษย์ตัวน้อยและไม่ลืมเผื่อแผ่ไปยังคนตัวโตด้านหลังด้วย เขาส่งยิ้มกลับมาให้เธอเช่นกัน
“ใช่แล้วค่ะ คุณอาณดลเพิ่งไปรับน้องน้ำหวานมาค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยตอบคุณครูคนสวยพร้อมรอยยิ้มอย่างน่ารัก
“วันนี้คุณครูก็ได้กลับบ้านแล้วค่ะ ไม่เห็นต้องลำบากมาเยี่ยมเลย” เจ้าขาบอกลูกศิษย์ตัวน้อยและคุณอาของเธอ
“ไม่ลำบากเลยค่ะ วันนี้คุณอาณดลจะมารับคุณครูเจ้าขาไปส่งที่บ้านเองค่ะ” กามเทพตัวน้อยเริ่มทำงานทันที เจ้าขามองไปทางด้านหลังก็เห็นชายหนุ่มส่งยิ้มหล่อเหลามาให้พร้อมกับพยักหน้าขึ้นลงเพื่อบอกว่าที่หลานสาวของเขาพูดนั้นถูกต้อง
“ขอบคุณ คุณณดลมากเลยนะคะ ที่คอยช่วยดิฉัน ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เลย” คุณครูสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขาด้วยความซึ้งใจ เขาไม่จำเป็นต้องคอยมาดูแลเธอด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนที่ชนเธอ แต่เขากลับให้ความช่วยเหลือเธอมาตั้งแต่ต้น
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” ชายหนุ่มยกมือรับไหว้ก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม
และแล้วคุณครูเจ้าขาก็ได้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่คุณหมอตรวจเสร็จ ณดลจัดการเคลียร์ค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้คุณครูสาวโดยอ้างว่าทางคู่กรณีให้เงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเงินส่วนตัวของเขาเอง
คุณครูสาวถูกประคองโดยร่างสูงไปยังรถเบนซ์สีดำคันหรู อีกข้างหนึ่งเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่คอยช่วยถือของให้คุณครูคนสวยอย่างไม่อิดออด พอจัดแจงพากันขึ้นรถเสร็จ ณดลก็ได้โอกาสชวนคุณครูคนสวยไปทานข้าวเย็นด้วยกัน
เขาอ้างว่าหลานสาวตัวน้อยหิวแล้ว ซึ่งน้องน้ำหวานก็เออออห่อหมกไปกับคุณอาหนุ่มด้วย เพราะว่าตั้งแต่เลิกเรียนมา เธอก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย คุณครูสาวเห็นอย่างนั้นก็ละความเกรงใจทิ้งไป
ณดลพาคุณครูสาวไปทานอาหารที่ร้านอาหารของตนในห้างสรรพสินค้าที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนี้เท่าไหร่ ทันทีที่มาถึง เขาก็พาทั้งสองสาวตรงไปที่โต๊ะประจำของครอบครัว พนักงานต่างทักทายเขาไม่ขาดสาย พร้อมกับมองมาที่ผู้หญิงสวยอีกคนที่เดินมาพร้อมเจ้านายและหลานสาว
“ใครอะ แฟนบอสหรอ” เสียงของพนักงานคนหนึ่งเอ่ยถามเพื่อนพนักงานด้วยกัน
“ใช่มั้ง ก็ร้อยวันพันปีแกเคยเห็นบอสพาผู้หญิงมาที่ร้านปะล่ะ ถ้าไม่ใช่คุณแม่ของท่าน” พนักงานอีกคนบอกขณะที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่
“ถ้าใช่จริงก็ดีนะ ตอนแรกฉันนี่แอบคิดว่าบอสของเราเป็นเกย์ ผู้ชายอะไรชอบทำอาหาร แถมทำอร่อยมากอีกต่างหาก ที่สำคัญไม่เคยควงผู้หญิงคนไหนเลยตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่มา” พนักงานคนแรกบอกก่อนที่จะหันกลับไปสนใจงานในมือต่อ เพื่อนอีกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
คุณครูสาวมองไปรอบๆ ร้านอาหารที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้แล้วก็รู้สึกชอบในการดีไซด์ รูปแบบร้านดูน่ารัก ให้ฟิลครอบครัว ขณะที่เธอกำลังสำรวจมองไปรอบๆ ร้านอยู่นั้นเสียงของลูกศิษย์ตัวน้อยก็เรียกสติของคุณครูสาวทันที
“ร้านของคุณอาณดลของน้องน้ำหวานเองค่ะ คุณอาณดลทำอาหารอร่อยมากๆ เลยค่ะคุณครูเจ้าขา” เด็กน้อยตอบพร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้คุณครูคนสวย เธอชอบคุณครูเจ้าขาจริงๆ คุณครูสวย ใจดี และอ่อนโยน น้องน้ำหวานชอบ
“ค่ะ คุณอาของหนูเก่งมากเลยค่ะ” เจ้าขาเอ่ยชมณดลอย่างเปิดเผย
“สองสาวจะทานอะไรกันดีครับ” ณดลเดินออกมาพร้อมชุดเชฟ เจ้าขาแอบลอบมองหนุ่มหล่อในชุดเชฟแล้วอดที่จะปลื้มเขาไม่ได้ ผู้ชายอะไรทั้งหล่อ ทั้งมีสเน่ห์ ยิ่งสวมชุดเชฟแบบนี้ยิ่งน่าดูน่ามอง ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่คิดแบบนี้ ลูกค้าสาวๆ ภายในร้านก็คิดเช่นเดียวกัน
“คุณแนะนำมาได้เลยค่ะ ดิฉันทานอะไรก็ได้” เจ้าขาตอบพร้อมส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่ม เขารู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะที่มองเห็นรอยยิ้มของคนที่ทำให้เขาใจกระตุกวันละหลายๆ รอบ เห็นทีคงจะต้องทำคะแนนกันสักหน่อยแล้วล่ะ ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนที่จะหันไปถามหลานสาวต่อ
“แล้วน้องน้ำหวานล่ะคะ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมเอ่ย” เสียงทุ้มนุ่มฟังแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นซาบซ่านดังมาจากปากหยักหนาของเชฟหนุ่ม ทำเอาเจ้าขาแอบมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“น้องน้ำหวานชอบทานปีกไก่ทอดของคุณอาณดลค่ะ” เด็กหญิงตอบผู้เป็นอาอย่างเอาใจ และลอบมองสองหนุ่มสาวที่ส่งยิ้มให้กัน
ถึงน้องน้ำหวานจะยังเด็กแต่น้องน้ำหวานก็พอจะเคยเห็นฉากแบบนี้มาจากละครทีวี เวลาที่พระเอกจีบนางเอก เอ หรือว่าอาของเธอจะจีบคุณครูเจ้าขาจริงๆ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นคุณอาณดลของเธอสนใจหรือพาใครมาใกล้ชิดเธอเลย เด็กน้อยคิดในใจก่อนที่จะยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์
ผ่านไปไม่นานอาหารหลากหลายชนิดก็ถูกลำเลียงมาจัดวางที่โต๊ะของคุณครูสาวกับเด็กหญิงตัวน้อย เหล่าพนักงานลอบมองใบหน้าสวยหวานผู้หญิงของบอสอย่างอิจฉา
เจ้าขาเป็นผู้หญิงที่สวยชนิดที่ว่าผู้หญิงด้วยกันยังมอง ใบหน้าฟ้าประทาน ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวเนียนราวกับลูกผู้ดี แต่งตัวดูเหมาะสมและสวยงาม แม้จะมีบาดแผลอยู่บนศีรษะและหัวเข่า ก็ยังไม่สามารถบดบังรัศมีออร่าความสวยที่คุณครูสาวมีได้
“อู้หู เยอะจังเลยค่า” น้องน้ำหวานอุทานขึ้น แล้วทำปากจู๋ตาโตอย่างน่ารัก จนเจ้าขาและคนรอบๆ อดที่จะยิ้มขำเพราะเอ็นดูไม่ได้
“มื้อพิเศษไงคะ หลานสาวสุดที่รักของคุณอา” เขาบอกก่อนที่จะกดจูบลงบนกลุ่มผมเล็กๆ ของหลานสาวที่เขารักดังแก้วตาดวงใจ
“ดิฉันเห็นด้วยกับน้องน้ำหวานนะคะ คุณณดลทำเยอะจัง เราจะทานกันหมดไหมคะ อีกอย่างเจ้าขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ด้วย” เธอตอบเขาไปอย่างเกรงใจ เอาจริงๆ เธอก็ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แต่ก็ทนเสียงรบเร้าจากเขาและลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้
เขาไม่ได้ตอบอะไร แต่เลือกที่จะตักอาหารใส่จานบริการให้เธอ ก่อนที่จะแนะนำแต่ละเมนูที่มีหน้าตาแปลกประหลาดแต่ก็ดูน่ากิน สาวสวยแทบจะกลืนคำพูดลงคอที่ว่าไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่เธอได้ทานอาหารรสมือของเขาแล้ว เธอก็ต้องยอมรับว่าผู้ชายตรงหน้าทำอาหารได้อร่อยสมชื่อจริงๆ
เจ้าขาทานข้าวหมดไปสองจาน น้องน้ำหวานเองก็เช่นกัน ส่วนคนทำก็ทานไปแค่จานเดียวเพราะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจที่เห็นสาวๆ ทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย วันนี้เขาทำคะแนนกับคุณครูคนสวยได้พอสมควร นึกได้แบบนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏที่มุมปากหยักหนา ลูกน้องที่มองมาต้องขยี้ตาแทบไม่ทัน เพราะนานๆ ทีถึงจะได้เห็นรอยยิ้มของบอส แสดงว่าผู้หญิงคนนี้คงเป็นคนสำคัญของบอสจริงๆ
เวลาผ่านไปเพียงยี่สิบนาที อาหารจานด่วน คือข้าวผัดการ์ตูนของน้องน้ำหวานถูกนำมาเสิร์ฟก่อน เจ้าขามองไปที่จานของลูกศิษย์ตัวน้อยแล้วก็อดที่จะยิ้มให้กับความน่ารักของอาหารในจานไม่ได้ ก็ข้าวผัดการ์ตูนของน้องน้ำหวานนั้น มันมีผักต่างๆ แกะสลักเป็นรูปตัวการ์ตูนตัวเล็กๆ ปะปนกับหมู และไข่ดูแล้วน่าทาน และน่าจะหลอกล่อเด็กๆ ได้ดีทีเดียว เธอยอมรับว่าณดลเป็นคนมีพรสวรรค์ในเรื่องนี้จริงๆ ไม่แปลกใจที่ร้านอาหารของเขาจะขายดิบขายดี น้องน้ำหวานหยิบช้อนก่อนที่จะตักข้าวผัดการ์ตูนขึ้นมาแล้วยื่นปากน้อยๆ ไปเป่าลมช้าๆ แล้วส่งข้าวเข้าปากอย่างเรียบร้อย“หืม............อร่อยจังค่ะ” เสียงเล็กๆ เอ่ยขึ้นหลังจากกลืนข้าวที่เคี้ยวลงคอเรียบร้อยแล้ว“ครูเจ้าขาอยากชิมไหมคะ” ลูกศิษย์ตัวน้อยเอ่ยเชิญชวน ด้วยอยากนำเสนอเมนูนี้ให้ครูเจ้าขาได้ทาน“ครูชิมได้หรือคะ ครูกลัวน้องน้ำหวานจะทานไม่อิ่มค่ะ” เจ้าขาบอกยิ้มๆ“ไม่เป็นไรค่ะ น้ำหวานทานบ่อยๆ แบ่งให้ครูเจ้าขาบ้างน้ำหวานไม่หวงค่ะ”เด็กหญิงตัวน้อยบอกก่อนที่จะใช้ช้อนกลางตักข้าวผัดในจานของตนใส่จานของคุณครูคนสวย เจ้าขามองการกระทำของเด็กน้อยแล้วยิ้มออกมากับความน่ารัก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมี
รถเบนซ์คันหรูที่มีผู้โดยสารเป็นสองสาวต่างวัยกับหนึ่งหนุ่มหล่อผู้เป็นคนขับถูกขับเคลื่อนเข้ามาในบริเวณห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนของเด็กหญิงพิชญ์สินีมากนัก เจ้าขารู้สึกผ่อนคลายเพราะได้คุยกับลูกศิษย์ตัวน้อยที่คอยเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้เธอฟังไม่หยุด ไม่เงียบเหมือนกับผู้เป็นอาที่เอาแต่ตั้งใจขับรถจนมาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งนี้“น้องน้ำหวานพาคุณครูเจ้าขาไปรอคุณอาด้านในก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณอาจะเอารถไปจอดก่อน” ณดลบอกหลานสาวเสียงนุ่ม“ได้ค่ะ คุณอาณดลไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ น้องน้ำหวานรู้จักห้างนี้ทุกซอกทุกมุม” เด็กหญิงตัวน้อยบอกคุณอาหนุ่มด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะจูงมือเจ้าขาเดินไปรอด้านในณดลมองตามสองสาวต่างวัยจนกระทั่งลับร่างของทั้งสองคน เขาจึงขับเคลื่อนรถเบนซ์คันหรูของตนไปยังชั้นสำหรับจอดรถ“คุณอาของน้องน้ำหวานเขาไม่มีคนรักหรือคะ”เจ้าขาอดที่จะถามลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้ขณะที่กำลังเดินตรงไปที่ร้านอาหาร เธออดสงสัยไม่ได้ก็เขาพาเธอมาทานอาหารที่นี่สองครั้งแล้ว เธอยังไม่เคยเห็นแฟนของเขาเลย เธอไม่ได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับวงการธุรกิจมากนัก เธอรู้เพียงว่า ณดล เสสกุลคือเจ้าของร้านอาหารอ
บนเตียงนอนลายเจ้าหญิงสีชมพู ที่รายล้อมไปด้วยตุ๊กตามากมาย มีร่างเล็กๆ บอบบางของเด็กหญิงพิชญ์สินี เสสกุลหรือน้องน้ำหวานนอนหลับตาพริ้มอยู่ ก่อนที่คนตัวเล็กจะรู้สึกตัวตื่นจากเสียงของนาฬิกาปลุกที่ผู้เป็นอาได้ตั้งเวลาเอาไว้เพื่อปลุกหลานสาวน้องน้ำหวานเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของณดล เสสกุล ผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารอร่อยเหาะ ที่มีกิจการอยู่ในห้างสรรพสินค้าหลายสาขาทั่วประเทศ ด้วยวัยเพียง 27 ปีจึงทำให้เขาเนื้อหอมเป็นพิเศษ เพศตรงข้ามต่างทอดสะพานให้เขา เพราะนอกจากที่เขาจะหล่อแล้ว เขายังรวยมากอีกต่างหาก แต่เขาก็ไม่สนใจใครเพราะอยากที่จะโฟกัสเวลาให้กับหลานสาวเพียงคนเดียว แต่ดูในวันนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ววันนี้มีกิจกรรมกีฬากระชับมิตรระหว่างนักเรียนและผู้ปกครอง โรงเรียนจึงเชิญให้ผู้ปกครองเข้าร่วมด้วย น้องน้ำหวานเลยตื่นเต้นที่จะได้ทำกิจกรรมร่วมกับคุณอาของตน“คุณอาณดลขา....” เสียงเรียกของหลานสาวดังมาจากชั้นสองของบ้าน ณดลที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวเสร็จพอดีจึงรีบปิดแก๊ส ล้างมือและเดินออกมาดู“ว่าไงคะคนเก่ง น้องน้ำหวานตื่นนานแล้วหรือคะ” เสียงทุ้มดังขึ้นขณะที่เดินออกไปหาหลานสาวตัวน้อย“ตื่นนานแล้วค่ะคุณอาณด
หลังจากวันที่ณดลไปรับคุณครูเจ้าขาออกจากโรงพยาบาลและพาไปทานอาหารฝีมือของเขาที่ร้านของตัวเองแล้ว ครูเจ้าขาก็ได้เจอกับณดลแทบจะทุกวันที่เธอเข้าเวรตอนเช้า และตอนเย็น คุณครูสาวอดที่จะแปลกใจกับท่าทีคุณอาหนุ่มของลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้ แต่เธอก็ไม่อยากที่จะคิดเอาเองว่าเขาชอบเธอ“สวัสดีค่ะคุณครูเจ้าขา”เสียงของลูกศิษย์ตัวน้อยดังมาแต่ไกล มือป้อมๆ ยกกระพุ่มไหว้คุณครูเจ้าของชื่ออย่างสวยงาม วันนี้เจ้าขาเป็นเวรเฝ้าหน้าประตู คอยรับเด็กนักเรียนที่มาถึงโรงเรียนในตอนเช้า“สวัสดีค่ะน้องน้ำหวาน” เธอรับไหว้ลูกศิษย์ตัวน้อย ก่อนที่จะทักทายกลับด้วยความเอ็นดู“สวัสดีครับคุณครูเจ้าขา นี่หายดีแน่แล้วใช่ไหมครับ” น้ำเสียงห่วงใยดังมาจากคนที่เดินตามมาด้านหลัง วันนี้ณดล เลือกที่จะเดินลงจากรถมาส่งหลานสาวให้ถึงมือคุณครูเวรด้วยตนเอง“อ้าว สวัสดีค่ะคุณณดล ค่ะ ดิฉันหายดีแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่คอยช่วยเหลือและถามไถ่อาการตลอด ไหนจะอาหารที่ฝากน้องน้ำหวานมาให้ทุกวันด้วย” คุณครูสาวตอบด้วยน้ำเสียงขอบคุณพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ รอยยิ้มที่เขาได้มองกี่ทีกี่ทีก็อดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” ชายหนุ่มตอบพร้อมส่งยิ้มที่เผยให้เ
หลังจากพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึงสองวัน เจ้าขาก็ได้รับอนุญาตจากคุณหมอเจ้าของไข้ให้ออกจากโรงพยาบาลได้ เพียงแต่ให้เฝ้าระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ ซึ่งระหว่างสองวันที่ผ่านมา บรรดาเหล่าคุณครูที่โรงเรียนที่ทราบเรื่อง ก็นำกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมเธอตั้งแต่วันแรก และกำชับว่าไม่ต้องกังวลอะไร พักให้หายดีก่อนแล้วค่อยกลับไปสอน เธอก็ได้แต่ยิ้มขอบคุณ อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ทันคาดคิด เธอไม่ได้อยากที่จะเจ็บตัวอยู่อย่างนี้เลยแต่คงเพราะวันนั้นเธอดวงซวยจริงๆ และแขกที่ได้เห็นตั้งแต่วันแรกอย่างคุณอาหนุ่มสุดหล่อและลูกศิษย์ตัวเล็กของเธอก็แวะมาเยี่ยมอยู่ทุกเย็น เด็กหญิงเล่าเรื่องราวที่โรงเรียนให้เธอฟัง ว่าเหล่าบรรดาลูกศิษย์ต่างถามไถ่หาคุณครูคนสวยใจดีว่าเมื่อไหร่จะกลับไปสอน ที่จริงเธออยากจะบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก และสามารถกลับไปสอนได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่คนที่พาเธอมาหาคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้เธอไปสอนเด็ดขาด เพราะเขายังไม่มั่นใจกับอาการบาดเจ็บของเธอ เธอก็ได้แต่งงว่าเขาจะมาห่วงอะไรเธอนักหนา จึงพยายามคิดแบบไม่เข้าข้างตนเองว่า เขาเป็นห่วงเพราะลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอ“คุณครูเจ้าขา สวัสดีค่ะ” เสียงของเด็กน
วันนี้เป็นอีกวันที่เด็กๆ ต้องไปร่ำเรียนหนังสือเช่นเดียวกับพวกผู้ใหญ่ที่ต้องออกไปทำงาน คุณอาหนุ่มรูปหล่อตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหารให้กับหลานสาวสุดที่รัก เขามักจะทำแบบนี้เสมอมา เรียกได้ว่าถึงแม้จะมีแม่บ้าน หรือคนรับใช้ เขาก็ยังคงลงมือทำอาหารเพื่อหลานสาวตัวน้อยของเขาด้วยตนเอง ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อฝีมือของแม่บ้านที่จ้างมา แต่เป็นเพราะเขาอยากจะรังสรรค์เมนูให้กับหลานสาวของเขาได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกวัน“อร่อยจังเลยค่ะคุณอาณดลขา นี่เค้าเรียกว่าเมนูอะไรคะ” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามคุณอาหนุ่ม“อันนี้เขาเรียกว่าคุณหมูห่มผักค่ะ” เสียงทุ้มนำเสนอเมนูให้หลานรักอย่างภูมิใจ“อร่อยก็ทานเยอะๆ นะคะ ผักมีประโยชน์ จะทำให้น้องน้ำหวานมีร่างกายแข็งแรงและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไวๆ” คุณอาหนุ่มบอกกับหลานสาวก่อนที่จะยื่นมือไปลูบศีรษะทุยด้วยความรักหลานสาวของเขาเป็นเด็กที่น่าสงสาร สูญเสียบิดามารดาไปตั้งแต่อายุสามขวบ ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุเพียงยี่สิบสามปีเท่านั้น เพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรีได้เพียงไม่นานก็ต้องมาพบกับข่าวร้าย รถยนต์ที่ครอบครัวของพี่ชายนั่งมาเกิดอุบัติเหตุรถสิบล้อเบรกแตกขับมาชนเข้าที่ด้านคนขับ พี่ชายของเขาเส