เข้าสู่ระบบหลังจากพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึงสองวัน เจ้าขาก็ได้รับอนุญาตจากคุณหมอเจ้าของไข้ให้ออกจากโรงพยาบาลได้ เพียงแต่ให้เฝ้าระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ ซึ่งระหว่างสองวันที่ผ่านมา บรรดาเหล่าคุณครูที่โรงเรียนที่ทราบเรื่อง ก็นำกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมเธอตั้งแต่วันแรก และกำชับว่าไม่ต้องกังวลอะไร พักให้หายดีก่อนแล้วค่อยกลับไปสอน
เธอก็ได้แต่ยิ้มขอบคุณ อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ทันคาดคิด เธอไม่ได้อยากที่จะเจ็บตัวอยู่อย่างนี้เลยแต่คงเพราะวันนั้นเธอดวงซวยจริงๆ และแขกที่ได้เห็นตั้งแต่วันแรกอย่างคุณอาหนุ่มสุดหล่อและลูกศิษย์ตัวเล็กของเธอก็แวะมาเยี่ยมอยู่ทุกเย็น เด็กหญิงเล่าเรื่องราวที่โรงเรียนให้เธอฟัง ว่าเหล่าบรรดาลูกศิษย์ต่างถามไถ่หาคุณครูคนสวยใจดีว่าเมื่อไหร่จะกลับไปสอน
ที่จริงเธออยากจะบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก และสามารถกลับไปสอนได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่คนที่พาเธอมาหาคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้เธอไปสอนเด็ดขาด เพราะเขายังไม่มั่นใจกับอาการบาดเจ็บของเธอ เธอก็ได้แต่งงว่าเขาจะมาห่วงอะไรเธอนักหนา จึงพยายามคิดแบบไม่เข้าข้างตนเองว่า เขาเป็นห่วงเพราะลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอ
“คุณครูเจ้าขา สวัสดีค่ะ” เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นที่หน้าประตู
ร่างเล็กๆ เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้อย่างอ่อนช้อย คุณครูสาวอดที่จะเอ็นดูลูกศิษย์ตัวน้อย และอดที่จะชื่นชมคุณอาสุดหล่อของลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้ ที่เขาเลี้ยงหลานมาได้เป็นอย่างดี
“สวัสดีค่ะน้องน้ำหวาน เพิ่งเลิกเรียนหรือคะ” เจ้าขาส่งยิ้มทักทายไปยังลูกศิษย์ตัวน้อยและไม่ลืมเผื่อแผ่ไปยังคนตัวโตด้านหลังด้วย เขาส่งยิ้มกลับมาให้เธอเช่นกัน
“ใช่แล้วค่ะ คุณอาณดลเพิ่งไปรับน้องน้ำหวานมาค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยตอบคุณครูคนสวยพร้อมรอยยิ้มอย่างน่ารัก
“วันนี้คุณครูก็ได้กลับบ้านแล้วค่ะ ไม่เห็นต้องลำบากมาเยี่ยมเลย” เจ้าขาบอกลูกศิษย์ตัวน้อยและคุณอาของเธอ
“ไม่ลำบากเลยค่ะ วันนี้คุณอาณดลจะมารับคุณครูเจ้าขาไปส่งที่บ้านเองค่ะ” กามเทพตัวน้อยเริ่มทำงานทันที เจ้าขามองไปทางด้านหลังก็เห็นชายหนุ่มส่งยิ้มหล่อเหลามาให้พร้อมกับพยักหน้าขึ้นลงเพื่อบอกว่าที่หลานสาวของเขาพูดนั้นถูกต้อง
“ขอบคุณ คุณณดลมากเลยนะคะ ที่คอยช่วยดิฉัน ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เลย” คุณครูสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขาด้วยความซึ้งใจ เขาไม่จำเป็นต้องคอยมาดูแลเธอด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนที่ชนเธอ แต่เขากลับให้ความช่วยเหลือเธอมาตั้งแต่ต้น
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” ชายหนุ่มยกมือรับไหว้ก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม
และแล้วคุณครูเจ้าขาก็ได้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่คุณหมอตรวจเสร็จ ณดลจัดการเคลียร์ค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้คุณครูสาวโดยอ้างว่าทางคู่กรณีให้เงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเงินส่วนตัวของเขาเอง
คุณครูสาวถูกประคองโดยร่างสูงไปยังรถเบนซ์สีดำคันหรู อีกข้างหนึ่งเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่คอยช่วยถือของให้คุณครูคนสวยอย่างไม่อิดออด พอจัดแจงพากันขึ้นรถเสร็จ ณดลก็ได้โอกาสชวนคุณครูคนสวยไปทานข้าวเย็นด้วยกัน
เขาอ้างว่าหลานสาวตัวน้อยหิวแล้ว ซึ่งน้องน้ำหวานก็เออออห่อหมกไปกับคุณอาหนุ่มด้วย เพราะว่าตั้งแต่เลิกเรียนมา เธอก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย คุณครูสาวเห็นอย่างนั้นก็ละความเกรงใจทิ้งไป
ณดลพาคุณครูสาวไปทานอาหารที่ร้านอาหารของตนในห้างสรรพสินค้าที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนี้เท่าไหร่ ทันทีที่มาถึง เขาก็พาทั้งสองสาวตรงไปที่โต๊ะประจำของครอบครัว พนักงานต่างทักทายเขาไม่ขาดสาย พร้อมกับมองมาที่ผู้หญิงสวยอีกคนที่เดินมาพร้อมเจ้านายและหลานสาว
“ใครอะ แฟนบอสหรอ” เสียงของพนักงานคนหนึ่งเอ่ยถามเพื่อนพนักงานด้วยกัน
“ใช่มั้ง ก็ร้อยวันพันปีแกเคยเห็นบอสพาผู้หญิงมาที่ร้านปะล่ะ ถ้าไม่ใช่คุณแม่ของท่าน” พนักงานอีกคนบอกขณะที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่
“ถ้าใช่จริงก็ดีนะ ตอนแรกฉันนี่แอบคิดว่าบอสของเราเป็นเกย์ ผู้ชายอะไรชอบทำอาหาร แถมทำอร่อยมากอีกต่างหาก ที่สำคัญไม่เคยควงผู้หญิงคนไหนเลยตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่มา” พนักงานคนแรกบอกก่อนที่จะหันกลับไปสนใจงานในมือต่อ เพื่อนอีกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
คุณครูสาวมองไปรอบๆ ร้านอาหารที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้แล้วก็รู้สึกชอบในการดีไซด์ รูปแบบร้านดูน่ารัก ให้ฟิลครอบครัว ขณะที่เธอกำลังสำรวจมองไปรอบๆ ร้านอยู่นั้นเสียงของลูกศิษย์ตัวน้อยก็เรียกสติของคุณครูสาวทันที
“ร้านของคุณอาณดลของน้องน้ำหวานเองค่ะ คุณอาณดลทำอาหารอร่อยมากๆ เลยค่ะคุณครูเจ้าขา” เด็กน้อยตอบพร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้คุณครูคนสวย เธอชอบคุณครูเจ้าขาจริงๆ คุณครูสวย ใจดี และอ่อนโยน น้องน้ำหวานชอบ
“ค่ะ คุณอาของหนูเก่งมากเลยค่ะ” เจ้าขาเอ่ยชมณดลอย่างเปิดเผย
“สองสาวจะทานอะไรกันดีครับ” ณดลเดินออกมาพร้อมชุดเชฟ เจ้าขาแอบลอบมองหนุ่มหล่อในชุดเชฟแล้วอดที่จะปลื้มเขาไม่ได้ ผู้ชายอะไรทั้งหล่อ ทั้งมีสเน่ห์ ยิ่งสวมชุดเชฟแบบนี้ยิ่งน่าดูน่ามอง ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่คิดแบบนี้ ลูกค้าสาวๆ ภายในร้านก็คิดเช่นเดียวกัน
“คุณแนะนำมาได้เลยค่ะ ดิฉันทานอะไรก็ได้” เจ้าขาตอบพร้อมส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่ม เขารู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะที่มองเห็นรอยยิ้มของคนที่ทำให้เขาใจกระตุกวันละหลายๆ รอบ เห็นทีคงจะต้องทำคะแนนกันสักหน่อยแล้วล่ะ ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนที่จะหันไปถามหลานสาวต่อ
“แล้วน้องน้ำหวานล่ะคะ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมเอ่ย” เสียงทุ้มนุ่มฟังแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นซาบซ่านดังมาจากปากหยักหนาของเชฟหนุ่ม ทำเอาเจ้าขาแอบมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“น้องน้ำหวานชอบทานปีกไก่ทอดของคุณอาณดลค่ะ” เด็กหญิงตอบผู้เป็นอาอย่างเอาใจ และลอบมองสองหนุ่มสาวที่ส่งยิ้มให้กัน
ถึงน้องน้ำหวานจะยังเด็กแต่น้องน้ำหวานก็พอจะเคยเห็นฉากแบบนี้มาจากละครทีวี เวลาที่พระเอกจีบนางเอก เอ หรือว่าอาของเธอจะจีบคุณครูเจ้าขาจริงๆ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นคุณอาณดลของเธอสนใจหรือพาใครมาใกล้ชิดเธอเลย เด็กน้อยคิดในใจก่อนที่จะยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์
ผ่านไปไม่นานอาหารหลากหลายชนิดก็ถูกลำเลียงมาจัดวางที่โต๊ะของคุณครูสาวกับเด็กหญิงตัวน้อย เหล่าพนักงานลอบมองใบหน้าสวยหวานผู้หญิงของบอสอย่างอิจฉา
เจ้าขาเป็นผู้หญิงที่สวยชนิดที่ว่าผู้หญิงด้วยกันยังมอง ใบหน้าฟ้าประทาน ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวเนียนราวกับลูกผู้ดี แต่งตัวดูเหมาะสมและสวยงาม แม้จะมีบาดแผลอยู่บนศีรษะและหัวเข่า ก็ยังไม่สามารถบดบังรัศมีออร่าความสวยที่คุณครูสาวมีได้
“อู้หู เยอะจังเลยค่า” น้องน้ำหวานอุทานขึ้น แล้วทำปากจู๋ตาโตอย่างน่ารัก จนเจ้าขาและคนรอบๆ อดที่จะยิ้มขำเพราะเอ็นดูไม่ได้
“มื้อพิเศษไงคะ หลานสาวสุดที่รักของคุณอา” เขาบอกก่อนที่จะกดจูบลงบนกลุ่มผมเล็กๆ ของหลานสาวที่เขารักดังแก้วตาดวงใจ
“ดิฉันเห็นด้วยกับน้องน้ำหวานนะคะ คุณณดลทำเยอะจัง เราจะทานกันหมดไหมคะ อีกอย่างเจ้าขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ด้วย” เธอตอบเขาไปอย่างเกรงใจ เอาจริงๆ เธอก็ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แต่ก็ทนเสียงรบเร้าจากเขาและลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้
เขาไม่ได้ตอบอะไร แต่เลือกที่จะตักอาหารใส่จานบริการให้เธอ ก่อนที่จะแนะนำแต่ละเมนูที่มีหน้าตาแปลกประหลาดแต่ก็ดูน่ากิน สาวสวยแทบจะกลืนคำพูดลงคอที่ว่าไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่เธอได้ทานอาหารรสมือของเขาแล้ว เธอก็ต้องยอมรับว่าผู้ชายตรงหน้าทำอาหารได้อร่อยสมชื่อจริงๆ
เจ้าขาทานข้าวหมดไปสองจาน น้องน้ำหวานเองก็เช่นกัน ส่วนคนทำก็ทานไปแค่จานเดียวเพราะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจที่เห็นสาวๆ ทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย วันนี้เขาทำคะแนนกับคุณครูคนสวยได้พอสมควร นึกได้แบบนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏที่มุมปากหยักหนา ลูกน้องที่มองมาต้องขยี้ตาแทบไม่ทัน เพราะนานๆ ทีถึงจะได้เห็นรอยยิ้มของบอส แสดงว่าผู้หญิงคนนี้คงเป็นคนสำคัญของบอสจริงๆ
สองสัปดาห์ต่อมาวันปิดภาคเรียนแรกมาถึง ณดลพาครอบครัวเสสกุลซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าขา น้องน้ำหวาน น้องเจ้าขุน น้องณดา และป้าชื่นแม่บ้านเดินทางด้วยรถตู้ครอบครัวที่เพิ่งออกมาใหม่เมื่อสองปีก่อนตอนเขามีบุตรสาวคนเล็กเดินทางไปที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สถานที่ที่เขาเคยขอเจ้าขาแต่งงาน“อีกนานไหมฮะกว่าจะถึง” น้องเจ้าขุนเอ่ยถามพี่สาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ตน“อืม....อีกไม่นานแล้วค่ะ” น้องน้ำหวานเปิดจีพีเอสในสมาร์ทโฟนของตนดูก่อนที่จะตอบน้องชาย“ตื่นเต้นหรอเรา ดูน้องณดาสิหลับปุ๋ยเลย” เจ้าขาหันไปถามบุตรชายก่อนที่จะหันไปมองบุตรสาวที่นอนหลับอยู่ในเบาะคาร์ซีทข้างๆ“ฮะ เจ้าขุนอยากเล่นน้ำทะเล ที่สำคัญ เจ้าขุนอยากทานกุ้งเผาฮะคุณแม่” เด็กน้อยตอบมารดาอย่างกระตือรือร้น“ฮ่าๆๆๆ เจ้าขุนลูกรู้ไหมครับว่าตอนคุณแม่ท้องลูก คุณแม่ก็อยากทานแต่กุ้งเผาเหมือนกัน สงสัยจะชอบมาตั้งแต่ในท้องเลยนะเราเนี่ย”เจ้าขาอดที่จะขำออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงตอนที่เธอตั้งท้องบุตรชาย เธอสั่งให้สามีซื้อกุ้งเผากลับมาให้ทานที่บ้านอยู่บ่อยๆ ซึ่งณดลก็ไม่เคยขัดใจเธอเลยสักครั้ง ณดลที่ขับรถอยู่ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ภรรยาตั้งค
เสียงเชียร์ดังขึ้นอยู่ที่ข้างสนามฟุตบอล นางสาวพิชญ์สินี เสสกุลหรือน้ำหวานนั่งไม่ติดเพราะกำลังลุ้นที่เพื่อนชายนั้นเตะฟุตบอลไปใกล้ประตูและในที่สุดยอร์ชก็เตะลูกฟุตบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม“กรี๊ด.................เย้ๆ” เสียงกรี๊ดแสดงถึงความดีใจดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือ ยอร์ชหันมามองที่เพื่อนสาวก่อนน้ำหวานจะชูนิ้วโป้งให้“วู้วๆๆ พี่ยอร์ชเท่ชะมัดยาดเลย” เด็กชายขุนพล เสสกุลหรือน้องเจ้าขุนที่นั่งอยู่ข้างๆ พี่น้ำหวานเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น ก่อนที่เด็กน้อยจะปรบมือให้กับความเก่งเพื่อนของพี่สาว“พี่ยอร์ชเก่งใช่ไหมล่ะน้องเจ้าขุน” น้ำหวานเอ่ยถามน้องชายขึ้น“เก่งมากเลยฮะ” เจ้าขุนเห็นด้วยกับพี่สาว“พ่อก็ว่างั้นๆ แหละ” ณดลสวนขึ้นทันที วันนี้เขามาดูแลหลานสาวและบุตรชายที่ขออนุญาตมาดูเพื่อนชายแข่งฟุตบอล คุณอาขี้หวงจึงไม่ปล่อยให้หลานสาวมากับน้องชายตามลำพัง“คุณพ่อเตะฟุตบอลเป็นไหมฮะ เจ้าขุนอยากจะเตะฟุตบอลเก่งๆ บ้าง” น้องเจ้าขุนเอ่ยถามบิดาขึ้นมาทันที“ตั้งแต่พี่โตมาจนสิบห้าปี พี่ยังไม่เคยเห็นพ่อเราไปเตะฟุตบอลเลยเจ้าขุน” น้ำหวานเอ่ยขึ้นทันทีจนคนเป็นอาจ้องตาเขม็ง“ทำไมจะเตะไม่เป็น มันจะไปยากอะไร ตอนหนุ่มๆ สมัย
“คุยอะไรกันจ๊ะเด็กๆ” เจ้าขาเดินมาพร้อมกับคุณครูอมิตาและคุณครูวัลลภ“เด็กสมัยนี้โตวัยเนอะ ลูกสาวที่บ้านก็เพิ่งจะขวบกว่าๆ แต่รู้เยอะเหลือเกิน” คุณครูอมิตาอดที่จะคิดถึงบุตรสาวตัวน้อยที่มีบิดาคอยดูแลอยู่ที่บ้านไม่ได้“ใช่ค่ะ อย่างน้องณดานั่นก็รู้หมด แค่สองขวบเองนะคะ” เจ้าขาเอ่ยถึงบุตรสาวคนเล็กขึ้นบ้าง“สวัสดีค่ะคุณครูวัลลภ คุณครูอมิตา คุณครูเจ้าขา” เด็กทั้งสามยกมือไหว้ทักทายคุณครูทั้งสาม“คุณแม่ฮะ พี่ยอร์ชชวนพี่น้ำหวานกับน้องเจ้าขุนมาดูพี่ยอร์ชแข่งฟุตบอลเดือนหน้าครับ” เด็กน้อยรีบรายงานคนเป็นแม่ทันที“อ๋อ แล้วน้องน้ำหวานกับน้องเจ้าขุนอยากดูเพื่อนกับพี่เขาแข่งไหมล่ะลูก” เจ้าขาเอ่ยถามหลานสาวและบุตรชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“น้ำหวานต้องมาดูอยู่แล้วค่ะ เพราะยอร์ชเป็นเพื่อนของน้ำหวาน” นางสาวพิชญ์สินีตอบคุณอาคนสวย“น้องเจ้าขุนก็จะมากับพี่น้ำหวานครับ คุณพ่อบอกว่าน้องเจ้าขุนเป็นผู้ชายต้องคอยปกป้องดูแลผู้หญิงให้ดี”คำตอบของเด็กชายทำเอาคุณครูทั้งสามหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู ส่วนน้องน้ำหวานก็ได้แต่ยิ้มให้กับความไร้เดียงสาน่าเอ็นดูของน้องชาย ยอร์ชขอตัวไปซ้อมต่อ ก่อนที่จะยกมือไหว้ลาคุณครูทั้งสามและเอ่ยลาน้อ
2 ปีต่อมา“น้องณดาขา พี่เจ้าขุนไปโรงเรียนก่อนนะคะ เลิกเรียนแล้วพี่จะกลับมาเล่นด้วยนะคะคนสวย”เด็กชายขุนพล เสสกุล หรือน้องเจ้าขุน อายุ5ขวบ บุตรชายคนโตของณดลกับคุณครูเจ้าขาเข้ามาหอมแก้มน้องสาววัยสองขวบก่อนที่จะบอกกับน้องด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะอ่อนหวาน“พี่น้ำหวานก็ไปโรงเรียนก่อนนะคะ เดี๋ยวเลิกเรียนพี่จะมาพาไปปั่นจักรยานเล่น” นางสาวพิชญ์สินี เสสกุลในวัย 15ปีเอ่ยกับน้องสาวคนเล็กของบ้านเช่นกัน“ค่ะ ณดาจะรอน้า” สาวน้อยตอบก่อนที่จะยิ้มหวานให้กับพี่ๆ“ไปกันได้แล้วเด็กๆ เดี๋ยวสาย คุณพ่อไปก่อนนะคะลูกสาว” ณดลเอ่ยขึ้นขณะที่เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพร้อมกับภรรยาคนสวย“กอดหน่อย”เด็กหญิงตากลมกางแขนให้บิดากอด ณดลมองบุตรสาวด้วยแววตาเอ็นดูก่อนที่จะอุ้มร่างเล็กขึ้นมาแนบอกแล้วกดจมูกโด่งลงบนแก้มนุ่มทั้งซ้ายและขวา“คุณแม่กอดหนูด้วย”เด็กหญิงกางแขนออกให้มารดารับเธอไปอุ้มบ้าง เจ้าขายื่นแขนไปรับตัวบุตรสาวมาจากสามีก่อนที่จะกดจมูกของเธอลงไปบนแก้มนุ่มทั้งสองข้างเช่นกัน“คุณแม่ไปสอนหนังสือก่อนนะคะ อยู่กับคุณย่าชื่นอย่าซนนะลูก” เจ้าขาบอกบุตรสาวขณะที่วางร่างเล็กลงให้ยืนที่พื้น“ค่ะคุณแม่ บ๊ายบายค่ะ”น้องณดารับคำก่อน
โรงเรียนของน้องน้ำหวาน“น้ำหวาน น้องสาวน่ารักจัง” มนเพื่อนสนิทของน้องน้ำหวานเอ่ยขึ้นหลังจากดูรูปของน้องสาวเพื่อนสนิท“อืม โตมาสวยเหมือนคุณครูเจ้าขาแน่นอน” น้องน้ำหวานตอบยิ้มๆ“น้ำหวานก็สวยนะ มนยังชอบหน้ากับปากของน้ำหวานเลย” น้องมนเอ่ยขึ้นขณะสำรวจใบหน้าสวยของเพื่อนสนิทวัยสิบสามปี“มนก็สวยนะ เริ่มสวยแล้ว ยิ่งโตยิ่งสวย” สองเพื่อนสนิทแซวกันไปแซวกันมาก่อนที่จะพากันหัวเราะขำตัวเอง“น้ำหวาน เพื่อนของเราซื้อนมมาฝาก” หนุ่มห้องหนึ่งยื่นนมเปรี้ยวขวดหนึ่งส่งให้น้องน้ำหวานก่อนที่จะชี้ไปที่เพื่อนคนหนึ่งที่กำลังยืนเขินสาวน้อยอยู่ สองสาวมองไปที่เด็กหนุ่มคนที่ยืนเขินอยู่อย่างงงๆ“ซื้อมาฝากเราทำไมอะ ขอโทษนะเรารู้จักกันหรอ” น้องน้ำหวานเอ่ยขึ้น เด็กชายละความอายก่อนที่จะเดินเข้ามาหา“เราเพิ่งย้ายมาจากเชียงรายน่ะ” เด็กหนุ่มหน้าใสดัดฟันตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้ ก่อนที่น้องน้ำหวานจะสังเกตเด็กหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง“ยอร์ช ใช่ยอร์ชปะ”น้องน้ำหวานเอ่ยถามขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น ยอร์ชคือเพื่อนใหม่ของเธอ ตอนที่เธอไปเที่ยวหาปู่และย่าที่จังหวัดเชียงราย เธอเจอเขาตอนอายุ11ขวบ ตอนนั้นพ่อแม่ของยอร์ชพาเขามาเที่ยวที่ไร่ของครอ
7 เดือนต่อมาเจ้าขาได้ให้กำเนิดบุตรสาวที่เธอตั้งชื่อไว้ว่าน้องณดา เด็กหญิงภัสลดา เสสกุล พี่สาวและพี่ชายนั้นเห่อน้องสาวคนเล็กเป็นอย่างมาก คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายก็เดินทางมาจากภาคเหนือเพื่อมารับขวัญหลานสาวคนเล็ก ณดลทำหมันตามที่รับปากกับภรรยาไว้จนเจ้าขาอดที่จะปลื้มใจและขอบคุณสามีไม่ได้“อุ๊ย น่ารักน่าชังจริงๆ เลย โตมาต้องสวยมากแน่ๆ เลย คุณณดลเตรียมไว้หนวดได้เลยนะคะเนี่ย” คุณครูอมิตาเอ่ยขึ้นหลังจากที่มาเยี่ยมคุณครูสาวรุ่นน้องที่คลอดลูกคนที่สองแล้ว และตอนนี้เธอเองก็กำลังตั้งครรภ์หลังจากที่เพิ่งจะแต่งงานกับพอล ปองพลตั้งแต่สามเดือนก่อน“แน่นอนครับ แค่ตอนนี้หลานสาวเริ่มโตก็ต้องเริ่มไว้ได้แล้ว” ณดลเอ่ยออกมาขณะที่มองไปที่หลานสาววัยกำลังเข้าสู่วัยรุ่นของตน“คุณอาณดลขา น้องน้ำหวานน่าหวงขนาดนั้นเลยหรอคะ” เด็กหญิงพิชญ์สินีเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม“หวงสิ เลี้ยงมาตั้งแต่สามขวบ ใครจะมาขอเราเป็นแฟนต้องผ่านด่านคุณอาก่อน” ณดลบอกเสียงขรึมจนคนที่อยู่ภายในห้องต้องหัวเราะออกมาอย่างขำขัน“แบบนี้น้องน้ำหวานเตรียมขึ้นคานได้เลยลูก เพราะเท่าที่คุณอารู้จักคุณอาณดลของน้องน้ำหวานมา มันไม่มีทางเลิกหวงแน่นอนฮ่าๆๆๆๆ” พอล ปอง







