เจนถือถาดเข้ามาในสวนเพื่อจะเก็บแก้วและถ้วยจานทั้งหมดไปล้างสาวใช้เดินมาเรื่อยๆ จนเธอเห็นรองเท้าส้นสูงสีชมพู เจนรีบถือรองเท้าไปหาคุณหนูของเธอทันที
“อย่าบอกนะว่านี่คือรองเท้าของเบล?” “ข้าค่อนข้างจะมั่นใจค่ะ เพราะข้าเห็นเลดี้เบลล่าตอนลงรถม้า เลดี้รวบกระโปรงขึ้นไปทำให้ข้าเห็นรองเท้าที่เธอสวม” คิร่ามองไปที่พี่ชายของเธอ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แขกทั้งหมดก็ทยอยกลับไปจนเกือบหมด “กัส!! ไปที่คฤหาสน์เมบิลหน่อย สอบถามคนที่นั่นว่าเบลกลับไปที่บ้านรึยัง…” เซอร์กัสปาก้มหน้าลงก่อนที่เขาจะรีบขี่ม้าไปที่คฤหาสน์เมบิลทันที “ข้ามาจากคฤหาสน์เคนเนดี้ ไม่ทราบว่าเลดี้เมบิลถึงบ้านรึยังครับ” เซ็ดดริกเดินออกไปก่อนจะยกยิ้มให้กัสปา “คุณหนูกลับมาแล้วครับ ท่านกลับมาถึงก็อาบน้ำเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ฝากขอบคุณท่านเคาน์ด้วยครับที่เป็นห่วง” กัสปาพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก่อนที่เขาจะขี่ม้ากลับไปรายงานให้ท่านเคาน์ทราบ ในใจของโคลด์นั้นมันกำลังบอกว่าเธอไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์เมบิลแน่นอน… ดยุคโอเว่น…ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าท่านจะแน่สักแค่ไหนเชียว! ……. เลโอเริ่มถอดเสื้อของเบลล่าออกมาช้าๆ เขาแกะเชือกที่มัดอยู่บนชุดของเธอออกอย่างแผ่วเบา เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากมันราวกับว่ามีอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอของเขา เธอนั้นงดงาม มิใช่เพียงแค่ใบหน้า แต่ส่วนต่างๆ ของร่างกายเธอก็งดงามเช่นกัน เขายกมือขึ้นมากอบกุมเนินอกอวบอิ่มของเธอ ก่อนจะออกแรงบีบเคล้นมันเบาๆ มันนุ่มนิ่มจนเขาไม่อยากจะเอามือออกเลย…เลโอแลบลิ้นออกมาก่อนจะโลมเลียที่ยอดอกของเธอสลับกับดูดกลืนเบาๆ แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาในห้องนี้มันทำให้เขาเห็นใบหน้าที่งดงามของเธอได้ชัดเจน ราวกับว่าแสงจันทร์นี้กำลังเป็นพยาน ของการกระทำในค่ำคืนนี้ ในคราแรกเขาเพียงจะเปลี่ยนชุดให้เธอเช่นนั้น เหตุใดถึงได้เลยเถิดมาจนถึงขนาดนี้ “อื้อ!!” เธอร้องครางออกมาทั้งๆ ที่ดวงตาของเธอยังคงหลับสนิท เรื่องอย่างว่าสำหรับเลโอนั้นเขาทำมาจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทว่าในครั้งนี้มือของเขากำลังสั่นเทาเพราะความตื่นเต้น การได้สัมผัสเธอแต่ละที่มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปจนเขาอยากจะสัมผัสเธอไปทุกส่วน เลโอลุกขึ้น ก่อนจะถอดเสื้อผ้าออก ตัวตนของเขามันตื่นขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะในใจของเขามันกำลังอัดแน่นไปด้วยความปรารถนา ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าตื่นมาพรุ่งนี้เธอจะกร่นด่าหรือเรียกร้องสิ่งใด เขารู้เพียงว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมาเติมเต็มความต้องการที่อันแน่นในใจของเขา ต่อให้พรุ่งนี้เธอจะเรียกร้องสิ่งใดจากเขาก็ตามที เขายินดีที่จะหามาให้เธอตามที่เธอนั้นปรารถนา เลโอขึ้นไปบนเตียง เขาคล่อมทับร่างของเธอเอาไว้ก่อนจะก้มหน้าลงทาบทับริมฝีปากของเขากับริมฝีปากบางของเธอ เลโอส่งลิ้นของเขาเข้าไปปลุกเร้าเธออย่างร้อนแรง ขณะเดียวกันเขาก็ขยับตัวตนที่มันตื่นขึ้นมาไปถูไถกับส่วนล่างของเธอด้วย เบลล่ารู้สึกแปลก..มันหนัก..และนี่มันราวกับว่าเธอจะหายใจไม่ออกเลย มีบางอย่างที่กำลังฉกฉวยลมหายใจไปจากเธอ และที่น่าตกใจกว่านั้นคือเธอรู้สึกเฉอะแฉะตรงหว่างขามันราวกับว่ามีบางอย่างกำลังไหลซึมออกมา เธอพยายามรวบรวมสติที่จางหายไปให้กลับขึ้นมา เบลล่าค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธอก็พบกับสายตาร้อนแรงที่กำลังมองเธอในระยะประชิด อีกทั้งลิ้นของเขามันกำลังเข้ามาในปากของเธอ เธอรีบยกมือผลักเขาออก แต่ทว่าด้วยเรี่ยวแรงที่น้อยนิดของเธอไม่อาจจะผลักเขาออกไปได้เลย เบลล่ากำลังคิดว่าเหตุการณ์นี้มันคืออะไรกันแน่? “อื้อ!!” เธอรู้สึกร้อนที่ส่วนล่าง มันมีบางอย่างที่อุ่นร้อนกำลังเสียดสีอยู่กับจุดกึ่งกลางของเธอ แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทำให้เธอเห็นใบหน้าของชายที่อยู่บนร่างได้ชัดขึ้น อันที่จริงเธอพอจะเดาได้ตั้งแต่เธอจับไปเจอเส้นผมที่ยาวประบ่าของเขาแล้ว ดยุคโอเว่น!! “อื้ม!!…อื้อ!!” แววตาของเขามันเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นเธอกำลังต่อสู้กับเขา แววตาที่ร้อนแรงในตอนแรกเปลี่ยนเป็นแววตาที่กำลังนึกสนุก..เลโอผละออกจากริมฝีปากของเบลล่าอย่างเชื่องช้าราวกับว่าเขานั้นกำลังเสียดาย เธอรีบยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำลายที่เปื้อนอยู่บนริมฝีปากออก เราทั้งสองสบตากันอยู่เนิ่นนานก่อนที่เบลล่าจะกล่าวขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ “ท่านดยุคกำลังทำอะไรกันคะ?” “….ก็แค่ทำ..ในสิ่งที่อยากทำ” เบลล่ากำมือแน่น เพราะในระหว่างที่พูดเขายังคงขยับเอวช้าๆ เพื่อให้ส่วนล่างของเราสัมผัสกัน มันเสียดสีและแนบชิดกันอย่างน่าละอาย เธอกำลังอดกลั้นเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงร้องครางออกมา “ท่านควรจะหยุด!!” “เบล เจ้าแฉะขนาดนี้แล้ว จะให้ข้าหยุดได้ยังไง?” “ท่านไม่ควรจะ…อื้อ!!..ทะ..ทำเช่นนี้” เลโอกดที่ปลายหัวหยักของเขา ก่อนจะนำมันไปถูวนที่ปากทางรักที่หวานของเธอ เบลล่าหายใจเข้าลึกๆ เพราะเธอในตอนนี้มันราวกับว่าจะไร้เรี่ยวแรงเอาดื้อๆ เลโอดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตักของเขา “ลองจับมันสิ…” เขาจับมือของเธอให้ไปจับที่ตัวตนของเขา เบลล่าตกใจกับขนาดของมัน มือของเธอนั้นไม่สามารถที่จะกำได้เลย เธอรีบปล่อยมือออกก่อนจะลุกขึ้นหนีจากอ้อมกอดของเลโอ “เป็นอะไรไป? ..เจ้าหวาดกลัวอย่างนั้นเหรอ?” “ข้าไม่เข้าใจท่านดยุคเลยจริงๆ ท่านกับข้าเปรียบเสมือนเจ้านายกับลูกน้องนะคะ ท่านมาทำเช่นนี้..มัน..ออกจะ…” “ใครอยากจะเป็นเจ้านายของเจ้า?” เบลล่าถอนหายใจ “เบล..เจ้าไม่รู้สึกดีรึไง เวลาที่มันเสียดสีอยู่ด้านนอก เจ้าไม่รู้สึกว่าอยากให้มันเข้าไปในตัวของเจ้างั้นหรือ?” “ไม่ค่ะ…ตอนนี้ข้าอยากจะกลับบ้าน!!” เป็นครั้งแรก…ที่การชักชวนของเขาไม่ได้ผล นี่เธอไม่ได้สนใจเขาเลยรึไง! ทั้งที่เลโอนั้นค่อนข้างมั่นใจในใบหน้าที่หล่อเหลาของเขามาโดยตลอด มิมีสตรีใดเคยปฏิเสธการร่วมเตียงกับเขามาก่อนเลย เลโอพลิกตัวของเบลล่าให้นอนคว่ำลงก่อนที่เขาจะยกขาของเธอให้คุกเข่า “เจ้าจะได้ออกจากห้องนี้ก็เมื่อเจ้าทำให้ข้าเสร็จสม…หากว่าข้าไม่เสร็จก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปเลย” เขาก้มหน้าลงไปก่อนจะเริ่มดูดเบาๆ ที่เม็ดทับทิมของเธอ เลโอละเลงลิ้นที่ส่วนกึ่งกลางของเธออย่างตะกละตะกาม…เขาแหวกกลีบดอกไม้ของเธอออกก็พบว่าด้านในของเธอนั้นยังปิดสนิทอยู่… เลโอชะงักเล็กน้อยเพราะเขาไม่คิดว่าสตรีที่งดงามเช่นเธอ แถมยังโตมาในตระกูลสวะอย่างแลนเดอร์ จะถือครองพรหมจรรย์อยู่ เธอไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนอย่างนั้นหรือ เขาลุกขึ้นก่อนจะจับที่ตัวตนของเขามาเสียดสีที่ปากทางเข้าของเธอ…จากด้วยขนาดแล้วนี่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเข้าไป.. “ข้าจะไม่พูดกับท่านดยุคอีกเลยหากท่านใส่มันเข้าไป!!” เลโลชะงักเล็กน้อย..อ่า..เขาควรจะเปลี่ยนแผนการเสียใหม่ เพราะการที่เธอไม่เคยทำมันมาก่อน นั่นอาจจะเป้นปัญหา..เขานอนลงข้างๆ เบลล่าก่อนจะดึงเธอเข้ามาโอบกอดจากด้านหลัง “ขอโทษ..เจ้ากลัวงั้นหรือ?” ใบหน้าที่งดงามของเบลล่าขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ “ข้า..คิดว่านี่มันไม่เหมาะสม ในตำรากล่าวเอาไว้ว่าเราควรจะทำ..เรื่องอย่างว่ากับคนที่รักในวันแต่งงานเท่านั้นค่ะ” ตำราเล่มไหนกัน เขาจะรีบไปเอามาเผาทิ้งซะ!! “มันก็ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปหรอกเบล เอาเป็นว่าวันนี้ข้าจะไม่ใส่เข้าไปดีไหม หากว่าทำแค่ด้านนอกก็คงจะไม่เป็นไรใช่ไหม?” เบลล่าไม่เข้าใจว่าทำด้านนอกที่เขาว่านั้นมันคือยังไง แต่เธอยังไม่ทันได้กล่าวปฏิเสธท่านดยุคก็หุบขาเธอเข้าด้วยกันก่อนที่เขาจะใส่ตัวตนเข้ามาที่หว่างขาของเธอ ขนของเธอนั้นลุกชันด้วยความหวาดกลัว เธอพยายามจะลุกขึ้นเพื่อหนีเขาอีกทว่าก็ไม่เป็นผล คราวนี้เขาจับเธอให้นอนคว่ำอีกครั้ง สิ่งที่น่าหงุดหงิดคือเบลล่าจะหนีทุกครั้งที่มีโอกาส เธอขัดขืนเขาตลอดเวลา แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความปรารถนาในใจของเขาลดลงเลย มันกลับทำให้เขารู้สึกสนุกและปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนในใจของเขาออกมาด้วยซ้ำ !! เขาจับเธอนอนหงาย แล้วใช้ผ้ามัดมือของเธอเอาไว้กับหัวเตียง “ท่านดยุคคะ!!” “หากขัดขืนอีกข้าจะใส่มันเข้าไปจริงๆด้วย” เบลล่าเม้มปากแน่น เพราะเธอเห็นท่าทางที่น่ากลัวของท่านดยุค เขามิได้ล้อเล่นเลย..เลโอยกขาของเธอให้เป็นรูปตัวเอ็มก่อนที่เขาจะขยับเข้าไปใกล้เธอ เขาวางตัวตนที่แข็งขืนเอาไว้บนเนินเนื้ออับอวบอิ่มที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำรัก เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดเสียว ให้ตายความยาวเมื่อเขาวางลงมานั้นเกือบจะถึงสะดือของเธอ เบลล่ามองหน้าของเลโอด้วยความหวาดหวั่นในใจ เลโอเริ่มขยับเอว ทุกครั้งที่เขาขยับมันก็ครูดไปกับส่วนล่างของเธอ เบลล่าเลือกที่จะหันมองไปทางอื่นเพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องมองหน้าเขา แต่ทว่าเลโอไม่ยอม เขาจับหน้าของเธอให้หันมามองหน้าเขา เราต้องสบตากันสิ ในตอนที่เรากำลังสุขสม…เธอควรจะมองมาที่ใบหน้าของเขาเท่านั้น เธอจะได้จดจำในทุกสัมผัสที่เขามอบให้ เลโอใช้นิ้วกดที่ตัวตนของเขาเบาๆ เพื่อให้มันมุดเข้าไปด้านในของเธอ “อื้อ!!..ท่านดยุคคะ!!” เบลล่านั้นรีบร้องออกมาอย่างตกใจเพราะเธอรู้สึกว่าตัวตนของเขามันกำลังจะมุดเข้ามา…แต่พอเธอกรีดร้องเขาก็ดึงมันออกไปถูด้านนอกต่อ “ก็เจ้าแฉะเกินไป..มันก็เลย..มุดเข้าไป” เธอเม้มปากแน่นเพราะตอนนี้นิ้วของเขากำลังถูวนช้าๆ ที่ติ่งเสียวของเธอ..เลโอเร่งจังหวะนิ้วเพราะเขารู้ว่าเธอกำลังจะถึง “หากว่าเจ้าไม่มองหน้าข้าตอนที่เสร็จสม…ข้าจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าจะมองหน้าข้า” เบลล่าหายใจหอบเหนื่อย! ท่านดยุคนี่ช่างเลวร้ายจริงๆ! แต่ทว่าในใจของเธอก็กลัวว่าเขาจะทำอีกหลายรอบ…เธอจึงพยายามสบตาเขาเอาไว้ แต่ทว่านี่มันก็น่าอายเกินไป!! ให้ตายเถอะ เลโอแสยะยิ้มอย่างพอใจที่เธอสบตาเขาเอาไว้ตลอด เขาขยับนิ้วที่คลึงส่วนล่างของเธอให้มันเร็วขึ้น “อ๊ะ..อื้อ!!!” เธอรู้สึกราวกับว่าตัวของเธอนั้นเบาบางจนล่องลอยได้…เบลล่าสัมผัสได้ถึงน้ำหล่อลื่นจำนวนมากที่มันไหลออกมาจากด้านในจนมันเปรอะเปื้อนขาของเธอไปหมด เธอหายใจหอบเหนื่อย…แต่ทว่าเธอก็ยังคงมองหน้าของเขา เลโอยกนิ้วที่เปื้อนไปด้วยน้ำรักของเธอขึ้นมาเลียช้าๆ โดยที่เขายังคงมองสบตาของเบลล่าอยู่ หัวใจของเธอกำลังสั่นไหวและเต้นแรงเพราะสายตาที่เขามองมาที่เธอ เลโอใช้นิ้วของเขาถูวนรอบๆ จุดกึ่งกลางของเธออีกครั้ง เขายกมือที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำรักของเธอมาชักรูดที่ตัวตนของเขาจนมันเปียกชุ่มไปหมด… และทุกการกระทำสุดวาบหวามของเขามันอยู่ในสายตาของเบลล่าทั้งหมด เธอไม่กล้าละสายตาจากใบหน้าของเขาเลย ในตอนแรกเพราะว่าเธอกลัวคำขู่ของเขา แต่ตอนนี้มันเป็นเพราะแรงดึงดูดมหาศาลจากใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เธอจ้องมองทุกสัมผัสและทุกการกระทำของเขาอย่างหลงใหล ราวกับว่าเขาคือความจริงหนึ่งเดียวในตอนนี้เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ