เพลงถูกบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับท่านเคาน์และคิร่าที่เดินเข้าไปเต้นรำเปิดฟอล์อตามธรรมเนียม
สองพี่น้องตระกูลเคนเนดี้นั้นตรึงตาตรึงใจผู้คนในห้องนี้ได้เป็นอย่างดี ความหล่อเหลาและความงดงามของทั้งสองคนทำเอาบรรดาบุรุษและสตรีในห้องจัดเลี้ยงหน้าแดงไปตามๆ กัน เลโอกอบกุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขารู้สึกไม่พอใจเลยที่เธอกำลังยิ้มเมื่อมองดูสองพี่น้องนั่นเต้นรำ เธอชอบเคาน์เคนเนดี้รึไง!! หมอนั่นมีอะไรดีกัน!! เลโอคิดว่าเขาอาจจะต้องทบทวนเรื่องการทำงานของเธอในครั้งนี้ใหม่เสียแล้ว หรือไม่เขาก็ควรจะปฏิเสธค่าจ้างของดยุคแม็คซิมัสออกไปซะ เธอจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเคาน์เคนเนดี้อีก!! พอเพลงแรกจบก็ถึงคราวที่ผู้คนในห้องจัดเลี้ยงจะจูงมือคู่เต้นรำเข้าไปที่ฟลอร์ เบลล่าส่งยิ้มให้ท่านดยุคพอเป็นพิธีก่อนที่เขาจะเข้ามาโอบเอวเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว เราใกล้กันจนเธอได้กลิ่นน้ำหอมยี่ห้อดังของเขา ใบหน้าของท่านดยุคในตอนนี้ช่างดูโดดเด่นกว่าทุกวัน สารภาพในใจว่าตอนที่พบเจอกันเธอตกใจจนลืมมองไปเลยว่าเขาในวันนี้ช่างหล่อเหลากว่าทุกครั้งที่เจอ.. ดวงตาดุจพญาเหยี่ยวของเขาจับจ้องมองที่เธอราวกับว่าเธอนั้นเป็นเพียงเหยื่อตัวน้อยๆ ของเขาเท่านั้น เบลล่าพยายามหันมองท่านอื่นเพื่อไม่ให้หัวใจของเธอเต้นแรงไปกว่านี้ แต่ทว่าด้วยระยะที่ต้องใกล้ชิดกันตลอดมันทำให้เธอนั้นหลีกเลี่ยงที่จะมองหน้าเขาได้ยากมากทีเดียว “ท่านพี่ปล่อยให้เบลเต้นรำกับคนน่ากลัวเช่นนั้นได้ยังไงกันคะ?” คิร่าเอ่ยถามโคลด์ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ท่านดยุคโอเว่นเป็นเจ้านายเก่าของเบล นางอาจจะเอ่ยปฏิเสธได้ยากก็เลยยอมเต้นรำกับเขา” “อ๊า!!..เช่นนั้นเบลที่น่ารักของข้ากำลังถูกบังคับงั้นหรือ!!” “คงไม่ถึงกับถูกบังคับหรอกน่า นางเต้นรำกับท่านดยุคไปตามมารยาท…” “เช่นนั้นจบเพลงนี้ท่านพี่จะต้องไปขอเบลเต้นรำให้ได้นะคะ!!” โคลด์ส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้น้องสาว “เข้าใจแล้วน่า..เจ้าเองก็เลือกคนที่จะเต้นรำด้วยหน่อยนะ..พี่เป็นห่วง!” “วางใจเถอะค่ะ เบลสอนข้าแล้วว่าให้เลือกคนที่หน้าตาดีที่สุดก่อน!” โคลด์หัวเราะเบาๆ “ตามใจเจ้าเลย..วันนี้เป็นวันของเจ้านี่นา” คิร่ายกยิ้มให้ท่านพี่ของเธออย่างมีความสุข เบลล่ากำลังคิดว่าเพลงนี้มันช่างยาวนาน…สายตาที่ท่านดยุคมองมามันก็ช่าง ชวนให้หัวใจของเธอสั่นไหว “เจ้า..งดงามกว่าทุกครั้งที่เจอ” เบลล่าส่งยิ้มให้ท่านดยุค ก่อนที่เขาจะจับเธอหมุน แล้วดึงตัวของเธอเข้าไปในอ้อมกอดของเขา “ทะ..ท่านดยุค!” “ก็แค่ท่าเต้น..เหตุใดต้องตกใจเช่นนั้น?” “ข้าไม่เห็นมีใครจะเต้นท่านี้เลย!” “แล้วทำไมถึงต้องเต้นตามคนอื่น” “มันไม่เหมาะสม!!..ท่านโอบกอดข้าเอาไว้เช่นนี้แล้วคนอื่นจะคิดเช่นไร จะมีใครกล้ามาขอข้าเต้นรำอีกไหมคะ!” เลโอมองเบลล่าก่อนจะปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด “ทำไมถึงต้องเต้นรำกับคนอื่นอีก ข้าบอกให้เจ้ากลับบ้านพร้อมข้า…” เบลล่ารู้สึกว่าหัวของเธอมันกำลังจะระเบิดออกมา!! เธอกำลังทำงานให้เขาไม่ใช่เรอะ!! แล้วเหตุใดเขาจะต้องมาขัดขวางงานของเธอที่เขาเป็นคนสั่งให้เธอทำด้วยฟะ!! “ข้ากำลังทำงานให้ท่านดยุคนะคะ แล้วสิ่งที่ท่านกำลังทำตอนนี้มันกำลังทำให้แผนการที่ข้าวางมาทั้งหมดพังทลายลง…” เลโอหันมองไปทางอื่น “ข้าไม่เห็นว่าแค่เจ้ากลับเร็ว…มันจะทำให้เสียแผนตรงไหน..” เพลงจบลงพอดี เบลล่าก็เลยถือโอกาสเดินหนีออกมาจากเขาซะเลย เธอยกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้ ให้ตายเถอะ!! การใกล้ชิดที่มันเกินพอดีนี้ ทำเอาหัวใจของเธอมันจะระเบิดออกมาเลยทีเดียว!! “เบล…เต้นรำกับท่านพี่สักเพลงสิ” คิร่าเดินมาหาเธอพร้อมทั้งจูงมือของท่านเคาน์มาด้วย… เบลล่าในตอนนี้รู้สึกว่า…เธอน่าจะกลับบ้านไปอย่างที่ท่านดยุคกล่าว แต่ทว่าเธอนั้นก็ทำได้เพียงยกยิ้มและส่งมือให้ท่านเคาน์เท่านั้น พอเธอและท่านเคาน์เดินจากมา ก็มีบุรุษเดินมาขอคิร่าเต้นรำ “ท่านเคาน์ไม่หวงคิร่าเหรอคะ?” โคลด์ยกมือขึ้นมาโอบเอวของเบลล่าเอาไว้ “หวงทำไมกัน…วันนี้วันของนางนะ อีกทั้งคิร่าเข้าพิธีบรรลุนิติภาวะแล้ว ต่อจากนี้คงจะมีจดหมายขอแต่งงานมาอย่างไม่ขาดสายแน่นอน…” อืม..ที่ท่านเคาน์กล่าวก็ถูกต้อง ตอนนี้เธอก็จะต้องทำให้คิร่าตกลงแต่งงานกับดยุคแม็กซิมัส งานของเธอก็จะจบลง รับหนึ่งแสนเหรียญกลับไปนอนกอดที่บ้าน เบลล่ามองไปที่คิร่า เธอกำลังยกยิ้มให้ชายผู้หนึ่งที่กำลังเต้นรำกับเธอ…. ดยุคแม็คซิมัสเป็นคนยังไงนะ เขาจะดูแลเธอดีรึเปล่า อีกอย่างคิร่าพึ่งจะเปิดใจรับการเข้าสังคม ชายผู้นั้นจะเข้าใจคิร่าไหมนะ…. ไม่ได้เบลล่า!!! เธอไม่ใช่เพื่อนของคิร่าจริงๆ สักหน่อย!! เธอแค่มาทำงานเท่านั้น พอจบงานเธอก็จะเดินออกไปจากที่นี่!! เธอทำเพื่อเงินหนึ่งแสนเหรียญทองต่างหาก!! ห้ามใส่ความรู้สึกลงไปโดยเด็ดขาด ลืมเป้าหมายที่จะเป็นคนร่ำรวยที่สุดในจักรวรรดิไปแล้วรึไง!!เบลล่าถอนหายใจก่อนจะยกยิ้มให้ท่านเคาน์ “ใบหน้าของเจ้ามันราวกับว่าเจ้ากำลังมีเรื่องที่หนักใจ…” “อ๊ะ..อื้ม!..ค่ะ ส่งสัยจะเป็นเช่นนั้น ท่านแม่ของข้าพึ่งเปิดร้านตัดเสื้อข้าก็เลย…กังวลกับกิจการของท่านแม่นิดหน่อย…” “เบลของข้า ช่างเป็นลูกที่ดีจังเลยนะ” “ท่านเคาน์ก็เช่นกันค่ะ ท่านเองก็เป็นพี่ชายที่ดีเช่นกัน….” โคลด์เริ่มกระชับอ้อมกอดเพื่อให้ระยะห่างของเขาและเบลล่าน้อยลง “เมื่อไหร่จะเรียกข้าว่าท่านพี่?” เบลล่าส่งยิ้มแห้งๆ ให้ท่านเคาน์ “ข้าไม่กล้าจะเรียกท่านเคาน์เช่นนั้นหรอกค่ะ…ด้วยอะไรหลายๆ อย่างมันทำให้ข้าต้องเจียมตัว…” “ข้าไม่ได้สนใจเรื่องฐานะหรอกนะ ข้าชอบเจ้า…ในฐานะน้องสาวก็คือชอบแค่นั้น” เบลล่ารู้สึกว่าหัวใจของเธอมันหล่นไปที่ตาตุ่มตอนที่เขาบอกว่าชอบเธอ ละคือจะต้องเว้นวรรคอะไรนานขนาดนั้น!! “ขอบคุณท่านเคาน์ที่เมตตา” เพลงจบลง เบลล่าก้มหน้าเพื่อทำความเคารพคู่เต้นรำ ก่อนที่เธอจะเดินไปหาคิร่า “เลดี้ผู้งดงามนี้ ให้เกียรติเต้นรำกับข้าสักเพลงนะครับ…” อ่า..พ่อหนุ่มหล่อบาดใจผู้นี้กล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ เบลล่ามองไปที่คิร่า ทางนั้นก็ถูกขอเต้นรำไม่หยุดไม่หย่นเช่นเดียวกัน เธอจึงยื่นมือไปวางบนมือของเขา “ข้าไม่เคยพบเจ้าหน้าเลดี้มาก่อนเลย…” “ข้าพึ่งย้ายมาค่ะ” ชายผู้นั้นส่งยิ้มให้เบลล่าอย่างอ่อนโยน และก็เป็นเช่นนี้ราวอีกห้าเพลง เธอถูกขอเต้นรำไม่หยุดจนต้องปลีกตัวออกมานั่งเล่นในสวน เบลลาถอดรองเท้าส้นสูงออกเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่ส้นเท้าและตรงนิ้ว เธอมองที่รองเท้าคู่สวยเงียบๆ ก่อนจะยกยิ้มให้ตัวเอง ไม่ไหว!! มันคาใจ เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าดยุคแม็คซิมัสเป็นคนยังไง!! “เจ็บเท้าหรือครับ?” เบลล่ามองไปที่เจ้าของเสียง ทว่ามันทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์ เธอพึ่งพบเจอใบหน้าของชายที่งดงามเช่นนี้ ผิวของเขานั้นขาวเนียนราวกับหิมะ ดวงตาหวานล้ำและริมฝีปากกระจับสีชมพู สิ่งที่ช่วยเสริมให้ใบหน้านั้นดูโดดเด่นมากๆ คงจะเป็นผมสีเงินที่แสนจะงดงามนั่น “…ท่านเป็นเทวดาเหรอคะ?” ชายผู้นั้นตกใจกับคำพูดของเธอ จนกลายเป็นว่าเขาหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน “หากว่าข้าเป็นเทวดา เลดี้ก็คือนางฟ้าใช่ไหมครับ?” ใบหน้าของเบลล่านั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ พระเจ้า! เธอไม่ใช่คนที่จะหวั่นไหวเพียงเพราะหน้าตาที่หล่อเหลา แต่กับบุรุษผู้นี้มันเกินไปจริงๆ ออร่าความหล่อของเขามันช่างจ้าซะเหลือเกิน! เขานั่งลงก่อนจะจับที่เท้าของเบลล่า “อ๊ะ!!..ไม่เป็นไรค่ะ” ชายผู้นั้นหยิบยาออกมาจากกระเป๋าเสื้อเพื่อทารอยแผลที่เกิดจากการถูกรองเท้ากัด “ข้าไม่อยากให้ร่างกายที่งดงามของเลดี้ต้องเป็นแผล…นี่ครับยาทา” “ท่านเป็นหมอเหรอคะ?” เขาส่งยิ้มให้เธอ “ข้าเป็นเพียงคนที่ชอบหกล้มเท่านั้นครับ ก็เลยพกยาติดตัวเอาไว้ หวังว่าเจอกันครั้งหน้าข้าจะได้เต้นรำกับเลดี้บ้างนะครับ” เบลล่าส่งยิ้มเขินๆ ให้เขา นี่เขาคงจะเห็นเธอเต้นรำกับคนอื่นจนขาขวิดสินะ…พอพูดจบเขาก็ส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอก่อนจะเดินจากไป.. เบลล่ายังคงนั่งถอดรองเท้าเช่นนั้น เพราะเธอคิดว่าจะรอจนยาที่ทาซึมเข้าไปในแผลก่อนค่อยใส่รองเท้า ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะมืดแล้ว แต่ในห้องจัดเลี้ยงยังคงบรรเลงเพลงอย่างต่อเนื่องให้บุรุษและสตรีไปเต้นรำด้วยกัน ดยุคโอเว่นเดินมาพร้อมแก้วไวน์ เขาส่งแก้วไวน์ในมือให้เบลล่า “ข้าคิดว่าท่านดยุคกลับไปแล้ว…” “…ข้ารอกลับพร้อมเจ้า” “เราไม่ได้มาพร้อมกัน หากท่านดยุคอยากจะกลับ ก็เชิญกลับไปก่อนได้เลยค่ะ” เบลล่ากล่าวพร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม เลโอนั่งลงข้างเบลล่า “กลับกันเถอะน่า…” อยู่ๆ ภาพรอบๆ ข้างของเบลล่าก็พร่ามัว เธอพยายามจะลืมตาขึ้นมาแต่เปลือกตาของเธอมันกำลังหนักจนเธอยกไม่ขึ้น ภาพสุดท้ายที่เบลล่าเห็นก็คือรอยยิ้มของท่านดยุค เลโออุ้มเบลล่าออกมาจากงาน เขาพาเธอไปขึ้นรถม้าของโอเว่นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ทุกคนมัวแต่วุ่นอยู่กับงานเต้นรำจึงไม่มีใครมาสนใจเขาเท่าไหร่ เขากอดเบลล่าที่กำลังหลับพริ้มด้วยหัวใจที่เต้นแรง เขาเฝ้ามองเธอเต้นรำกับบุรุษคนอื่นคนแล้วคนเล่า จนความอดทนของเขามันใกล้จะหมดลง แต่โชคดีที่เธอเดินออกไปในสวนก่อน มิเช่นนั้นเขาอาจจะเดินไปซัดหน้าใครสักคนที่มาของเธอเต้นรำ เราเดินทางไม่นานก็ถึงคฤหาสน์โอเว่น เลโออุ้มเบลล่าขึ้นไปที่ห้องนอนของเขา “ไปเตรียมชุดนอนมาให้นาง สั่งพ่อครัวให้เตรียมอาหารเอาไว้ด้วยนางตื่นมาอาจจะหิว…” อับบาสมองท่านดยุคของเขา ก่อนจะมองไปที่สตรีงดงามที่หลับไหลไม่ได้สติอยู่บนเตียง “ข้าให้ท่านดยุคไปขอสตรีเต้นรำ นี่อย่าบอกนะครับว่าท่านไปดักตีหัวนางมา!!” เลโอถอนหายใจ “รีบออกไปเตรียมของที่ข้าสั่งเถอะน่า!!” พ่อบ้านรีบเดินออกมาจากห้องเพราะเขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นของท่านดยุค “เมื่อครู่ข้าคิดว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด เลโออุ้มสตรีกลับมาอย่างนั้นหรือ?” แกรนด์ดัชเชสกล่าวถามอับบาส “ครับเป็นเช่นนั้น สตรีผู้นั้นงดงาม ทว่านางกำลังหลับไหลไม่ได้สติ…” หญิงชราหัวเราะเบาๆ “วางใจเถอะน่าอับบาส เลโอไม่ใช่คนที่จะฉุดสตรีตามข้างทางมาหรอกน่า เจ้าเคยเห็นเขาพาสตรีมาที่คฤหาสน์ไหมล่ะ” พ่อบ้านส่ายหน้า “จะว่าไปก็มีนะครับ ครั้งที่แล้วพาเลดี้มาคนหนึ่ง…” แกรนด์ดัชเชสยกยิ้มอีกครั้ง “เชื่อใจเลโอเถิด…เขาน่าจะกำลังหาว่าที่ดัชเชสอยู่ แต่วิธีที่เขาทำอาจจะรวบรัดขั้นตอนไปหน่อย เจ้าก็ช่วยทำเป็นไม่เห็นก็แล้วกัน…”เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ