เข้าสู่ระบบคิร่ายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอปรายตามองพี่ชายด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น
“เหตุใดถึงมองพี่เช่นนั้น?” “ท่านพี่บอกว่าจะพาข้ากับเบลไปเที่ยวงาน แล้วท่านพี่…กลับ..!” คิร่ายกมือขึ้นมากำแน่น ตอนนี้เธอรู้สึกโกรธท่านพี่มากๆ เธออุตส่าห์รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพราะนัดกับเบลเอาไว้ พอมาถึงเธอก็พบกับเบลที่นอนสลบอยู่บนเตียงพร้อมกับหมอหลวงที่กำลังจับชีพจรนาง ในคราแรกเธอตกใจจนแทบสิ้นสติเพราะคิดว่าเบลเป็นโรคอะไร ที่ไหนได้นางสลบเพราะท่านพี่รังแกนางมากเกินไปต่างหาก!! “อย่าโกรธพี่นักเลย…พี่ก็แค่…” “ท่านพี่ใช้คำว่าก็แค่งั้นเหรอคะ! หากเบลตื่นขึ้นมาข้าจะยุนางให้โกรธท่านพี่เสียให้เข็ด แล้วท่านพี่คิดเรื่องหลังจากนี้เอาไว้รึยัง เรื่องการจัดงานหมั้น วันแต่ง ยังจะไปพบท่านแม่ของนางอีก ท่านพี่เป็นผู้ชายที่รังแกนางแล้วควรจะรับผิดชอบนางด้วยเกียรติของเคนเนดี้นะคะ เบลต้องเป็นเคาน์เตสเท่านั้นมิเช่นนั้นข้าไม่ยอมเด็ดขาด!!!” ไปกันใหญ่แล้ว โคลด์นั้นทำได้เพียงส่งยิ้มให้น้องสาวเท่านั้น “เรื่องนี้ข้าจะไปคุยกับนางเอง วางใจเถอะ นี่เจ้าเห็นพี่เป็นคนยังไงกัน?” “ท่านพี่ไม่รู้หรอกค่ะว่าเบลเสน่ห์แรงแค่ไหน ยังจะท่านดยุคโอเว่นอีก หากเบลไม่เลือกท่านพี่เพราะความโลภมากของท่าน ข้าก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว!!!” นี่น้องสาว หรือว่าแม่กันแน่… “นี่เจ้าไม่คิดจะเข้าข้างพี่สักหน่อยเหรอ..นี่พี่ชายของเจ้านะ!!” คิร่าส่ายหน้าเบาๆ อย่างเหนื่อยหน่ายก่อนที่เธอจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ……. ฮันน่าส่งยิ้มให้เจคอป ถึงเบลล่าจะบอกว่าเขาคือทหารรับจ้างแต่เธอดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่ เขาน่าจะเป็นพวกอัศวินหรือว่าขุนนางที่สืบราชการลับอะไรพวกนั้นมากกว่า “ได้ยินจากเบลว่าท่านจะเปิดร้านตัดเสื้อ…” “ค่ะ การตัดชุดสวยๆ เพื่อให้คนที่สวมใส่มีความสุข นั่นคืองานของข้า” “ใบหน้าของเคาน์เตสนั้น ไม่เหมือนคนที่จะทำงานพวกนี้เลยนะครับ ท่านดูสูงส่งราวกับเจ้าหญิง…” ฮันน่าหัวเราะเบาๆ “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เมบิลไม่ได้มีพื้นฐานที่ร่ำรวย ข้าและลูกสาวกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องช่วยกันสร้างมันขึ้นมา….” แม่กับลูก..ไม่เหมือนกันเลยแฮะลูกสาวน่ารักเฉลียวฉลาดอีกทั้งมากไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ส่วนแม่นั้นอ่อนหวาน อ่อนโยนแต่ทว่าในแววตานั้นมิได้อ่อนแอ ท่าทางว่าสองแม่ลูกนี่น่าจะผ่านความเจ็บปวดมาอย่างแสนสาหัสสินะ ถึงได้แข็งแกร่งกันขนาดนี้ “ข้าพอจะรู้จักร้านขายผ้าไหมที่ราคาไม่แพง หากเคาน์เตสไม่รังเกียจข้าจะพาท่านไปชม..” ฮันน่ายกยิ้ม “ข้าชื่อฮันน่าค่ะ ดูจากที่เบลเรียกท่านว่าท่านลุงหมายความว่านางคงจะไว้วางใจในตัวท่านเจคอประดับหนึ่ง ท่านเรียกข้าว่าฮันน่าเถอะค่ะ เมบิลไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดที่ท่านจะต้องเรียกข้าว่าเคาน์เตสหรอก ฟังดูห่างเหินเปล่าๆ” “ได้ครับ..เช่นนั้นเราไปกันเลยไหม ฮันน่า” “ด้วยความยินดีค่ะ” เจคอปเดินนำฮันน่าออกมาเพื่อจะพาเธอไปขึ้นรถม้า.. การกระทำทุกอย่างของคนทั้งสอง…อยู่ในสายตาของเซ็ดดริกทั้งหมด เขายืนมองฮันน่าเดินเคียงคู่กับชายหน้าบากผู้นั้น เธอเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะงดงาม…. …… “มีหมอหลวงไปรักษาเบลล่าที่เคนเนดี้อย่างนั้นหรือ? รีบไปเชิญตัวหมอหลวงผู้นั้นมาพาข้าเดี๋ยวนี้!!!” เซอร์เฮลการ์ดก้มหน้าลงก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว บรรยากาศในห้องทำงานของเลโอเย็นเยียบจนอับบาสไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ออกไป เขาวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะก่อนจะรีบเดินออกมา “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าอับบาส?” แกรนด์ดัชเชสที่ได้ยินเลโอทำเสียงดัง กล่าวถามพ่อบ้านที่กำลังเดินมา “เซอร์เฮลการ์ดรายงานเกี่ยวกับเลดี้เมบิลครับ..” แกรนด์ดัชเชสถอนหายใจอย่างโล่งอก “โล่งอกไปทีนึกว่ามีเรื่องอะไรร้ายแรง” “ท่านหญิงมั่นใจแล้วใช่ไหมครับ ว่าเลดี้เมบิลคือสตรีที่ท่านดยุคเลือก” หญิงชราหัวเราะ “ผิดแล้วอับบาส เลโอไม่ได้เลือกเบลล่าหรอก ดูท่าทางกระสับกระส่ายเช่นนั้นข้าก็รู้ได้เลยว่าแม่หนูเบลล่าจะต้องอยู่กับชายอื่นเป็นแน่ ดีเหมือนกันให้เจ้าตัวแสบนั่นรู้จักเจ็บปวดกับความรักซะบ้าง” พ่อบ้านขมวดคิ้ว “ท่านดยุคไม่ได้เลือกเลดี้เมบิล แต่ท่านดยุคกำลังรอให้เลดี้เมบิลมาเลือกท่านใช่ไหมครับ?” “คนอย่างเลโอ เขาอดทนกับอะไรไม่เป็นหรอก…ข้าว่าอีกไม่นานเขาจะต้องทำอะไรสักอย่างกับเคนเนดี้ พอรู้เช่นนี้เรื่องไฟไหม้ที่กาสิโนก็คงหนีไม่พ้นฝีมือของเคนเนดี้แน่นอน” “อ่า..หนุ่มสาวสมัยนี้หยอกกันรุนแรงเหมือนกันนะครับ” หญิงชราหัวเราะร่ากับคำกล่าวของอับบาส “แล้วนั่นใครนั่งอยู่ที่ริมสระน้ำ..ไปดูหน่อยสิอับบาส” พ่อบ้านวัยหกสิบปีพยายามเดินแบบที่เขาคิดว่ารวดเร็วที่สุดไปยังสระน้ำ เพราะชายที่ยืนอยู่ริมสระน้ำทำท่าราวกับว่าเขาจะกระโดดลงไป “ให้ตายเถอะเซ็ดดริก!!! เหตุใดถึงมานั่งหมดอาลัยตายอยากเช่นนี้!!” พอเซ็ดดริกเงยหน้าขึ้นมา พ่อบ้านก็ต้องตกใจอีกครั้ง พระเจ้า!!! นั่นเซ็ดดริกร้องไห้งั้นรึ!! หมอหลวงกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นบันไดเพื่อไปหาท่านดยุคโอเว่น “รายงานอาการของเบลล่ามาอย่างละเอียด อย่าให้ขาดแม้แต่นิดเดียว!!” หมอหลวงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ดยุคโอเว่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอยู่แล้ว หากว่าเขาพูดไม่ถูกใจอาจจะไร้ชีวิตที่จะกลับไปหาลูกและภรรยาได้ เขารีบหยิบสมุดจดประวัติการรักษาขึ้นมาอ่าน “เลดี้เมบิล มีอาการเหนื่อยล้าครับ นางเป็นลมเพราะว่าร่างกายของนางถูกใช้งานอย่างหนัก…” “ใช้งานหนักยังไง! ใครมันกล้าใช้เธอทำงาน!” “คะ..คือว่าไม่ใช่ทำงานหนักครับ…” “แล้วมันใช้งานหนักแบบไหนเล่า!” เลโอถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้เพราะเขารู้สึกโมโหกับท่าทีอึกอักของหมอหลวงผู้นี้ซะเหลือเกิน “คือว่า..คะ..คือว่า..นะ..นาง…” “หากเจ้ายังพูดติดอ่างอีกข้าจะตัดลิ้นเจ้าซะ!!!” เลโอดึงดาบออกมาก่อนจะจ่อไปที่คอของหมอหลวง “นางถูกร่วมรักเป็นเวลานานครับ นางกับท่านเคาน์เคนเนดี้ทำเรื่องอย่างว่ากันมากเกินไป!” “เคร้ง!!!!!” เสียงดาบหล่นลงที่พื้นดังสนั่น พร้อมกับใบหน้าที่ราวกับว่าสติของเลโอได้หลุดออกไปจากร่างแล้ว… เซอร์เฮลการ์ดรีบเข้ามาพาหมอหลวงออกไป พร้อมทั้งก้มเก็บดาบเอาไปไว้ที่เดิม… เขาเหลือบมองท่านดยุคที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างเป็นห่วง “จะรับไวน์สักแก้วไหมครับ?” “เฮลการ์ด…ไปเผาเคนเนดี้” “อะไรนะครับ?” “ข้าบอกให้เจ้าไปเผาเคนเนดี้ซะ!!” ………… กว่าเบลล่าจะตื่นก็คือเช้าวันรุ่นขึ้น เธอลุกขึ้นมาก็พบว่าท่านเคานมานอนอยู่ข้างๆ เบลล่าจะเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา ทว่าเธอก็ต้องชะงักเมื่อก้าวขาลงจากเตียง เจ็บ!! ความเจ็บปวดที่จุดกึ่งกลางโจมตีเธอทันทีที่เธอเดินลงจากเตียง เบลล่ามองไปที่ท่านเคาน์อย่างโกรธแค้น!! โคลด์รู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาราวกับจะฆ่าเขา นี่แสดงว่าเบลล่าตื่นแล้วแน่นอน เขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ “ตื่นแล้วงั้นเหรอ?” เบลล่าเลือกที่จะไม่ตอบเขา เธอลุกขึ้นเพื่อเดินไปที่ห้องน้ำอีกครั้ง โคลด์รีบเดินเข้าไปหาเบลล่าก่อนที่เขาจะช้อนตัวเธอขึ้นมาอุ้ม “ข้าเป็นคนทำให้เจ้าใช้ชีวิตลำบาก ให้โอกาสข้ารับผิดชอบหน่อยน่า วันนี้จะโกรธหรือไม่พูดกับข้าก็ได้แต่ต้องยอมให้ข้าดูแลเจ้า ตกลงไหม?” เบลล่าไม่ได้ตอบอะไรเขา….แต่คำพูดของเขา..มันกำลังเข้าไปสั่นคลอนหัวใจของเธอช้าๆ คิร่ามองหน้าท่านพี่ของเธอที่เอาแต่ตักอาหารใส่จานเบลแบบไม่หยุดไม่หย่อน ส่วนเบลก็มองไปทางอื่นบ้าง กินน้ำบ้างแต่ไม่ยอมพูดกับท่านพี่เลย คิร่ายกยิ้มจางๆ…นี่มันก็ น่ารักดีแฮะ ท่านพี่และเบล ในมุมที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน โคลด์อุ้มเบลล่ามาส่งที่ห้องเรียนของคิร่าก่อนที่เขาจะเดินออกไป “ให้ตายเถอะ..ข้าไม่คิดเลยว่าท่านพี่จะมุมนี้ด้วย…” “เปิดหนังสือไปหน้าสามเถอะน่า…” “ข้าไม่มีอารมณ์จะเรียนแล้ววันนี้ ขอคุยกับเจ้าก่อน ท่านพี่ขอเจ้าแต่งงานรึยัง?” เบลล่าส่ายหน้าเบาๆ คิร่ารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไปคุยกับท่านพี่ให้เอง” เบลล่ารีบคว้ามือของคิร่าเอาไว้ “ไม่ใช่แบบนั้นคิร่า ข้ายังไม่อยากแต่งงานตอนนี้..” “จะไม่แต่งได้ยังไงกัน ท่านพี่ล่วงเกินเจ้าไปแล้ว!! ข้าไม่ยอมหรอกนะ!!” “คิร่า ข้าในตอนนี้ไม่คู่ควรกับท่านเคาน์หรอก อีกอย่างเรื่องราวที่มันเกินเลยมานี้บางทีมันอาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของข้าและท่านเคาน์ ข้าอยากจะแต่งงานในตอนที่ข้าพร้อมทุกอย่าง ระหว่างนี้เราทั้งสองคนจะได้ใช้เวลาทบทวนความรู้สึกที่มีต่อกันไปด้วย…” “ให้ตาย…ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ข้าเคารพการตัดสินใจของเจ้านะ “ เบลล่ายกยิ้ม “ขอบคุณมากๆ” เธอสอนคิร่าอย่างหนัก ในสองวันที่เหลือ เพราะถือเป็นการชดเชยวันแรกที่ขาดเรียน เย็นวันนี้เธอมารอรับเงินเดือนกับท่านเคาน์เพราะวันนี้เธอต้องกลับบ้าน “นี่เป็นเงินเดือนของเจ้า ข้าได้สั่งกัสปาไปฝากใส่บัญชีของเจ้าแล้ว” เบลล่าหยิบกระดาษมาดูก็พบว่าเงินสามล้านถูกฝากไปที่บัญชีของเธอ “ท่านเคาน์ นี่มันมากไปค่ะ!!” ปกติค่าสอนพิเศษจะอยู่ที่ หลักพันเท่านั้น สามล้านนี่มันเยอะเกินไปมากทีเดียว!! “ถือว่าเป็นค่าดูแลที่ข้าควรจะให้เจ้า…เบลข้าเป็นคนมีความรับผิดชอบมากนะ ถึงทางกฎหมายเจ้าจะยังไม่ใช่ภรรยาของข้า แต่ในทางปฏิบัติเจ้าถือเป็นภรรยาของข้าแล้ว สามีที่ดีก็ควรดูแลภรรยาสิ” “ถึงอย่างนั้น….” “หากคิดว่ามันมากไป ก็ตอบแทนข้าด้วยการอยู่ที่นี่อีกสักคืนสิ…” “ไม่มีทาง!..ขอบคุณสำหรับค่าจ้างค่ะ ข้าขอตัวก่อน..” “กล่าวปฏิเสธทันทีเช่นนี้ ใจร้ายจังน้า~” เบลล่ารีบเดินออกมาโดยไม่สนใจเสียงตัดพ้อของโคลด์เลย… สามล้านเหรียญทอง..เขาจะให้ด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างแต่ก็ถือว่าเขาให้มาแล้ว อ่า..ความฝันของเธออยู่อีกไม่ไกลแล้วสินะ อีกเพียงแค่หนึ่งล้านเก้าแสนเหรียญเท่านั้น!! หากเธอบอกคนอื่นว่าเธอมีความฝันเอาไว้ว่าจะซื้อที่ดินบนภูเขาเออเกรย์ด้วยเงินสามสิบล้านเหรียญคนที่ได้ยินก็คงจะหัวเราะ… เงินสามสิบล้านสามารถซึ่งที่ดินในเมือง ทำโรงแรมหรือว่าร้านอาหารขนาดใหญ่ได้สบายเลย แต่เธอเลือกจะเอาไปซื้อที่บนภูเขาเช่นนั้น…อาจจะดูเหมือนคนโง่อยู่บ้าง เบลล่าไม่เคยบอกใครถึงที่ดินบนภูเขาเออเกรย์…เพราะเธอกลัวว่ามันจะมีคนล่วงรู้ถึงความลับว่าที่นั่นคือภูเขาที่มีแต่เพชรเต็มไปหมด… รออีกหน่อยนะเพชรจ๋า พี่สาวคนนี้จะไปครอบครองเจ้าเอง!!!เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







