LOGINคิร่ายืนอยู่ที่สวนด้านหน้าของพระราชวัง เธอหยิบกรรไกรมาตัดดอกกุหลาบสีแดงที่บานสะพรั่งไปใส่ในแจกัน ตอนนี้สิ้นสุดฤดูฝนแล้ว วันนี้อากาศค่อนข้างดี ที่น่าเศร้าคือเธอมีอาการไม่กล้ากินอะไรตั้งแต่วันนั้น คิร่าจะทานอาการที่ถูกส่งมาจากเคนเนดี้เท่านั้น เธอรู้ว่ามันค่อนข้างยุ่งยาก แต่เธอก็ไม่อาจฝืนตัวเองได้สักที ความสัมพันธ์ของเธอและวัลโด้ก็เช่นเดิม เขายังคงดูแลเธอดีเหมือนเดิม ทว่ามีบางอย่างมันเกิดขึ้นในใจ ราวกับว่าเธอยังใช้อำนาจของจักรพรรดินีไม่คุ้มเลย คนที่ฆ่าลูกของเธอยังคงลอยนวล และยังสืบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือใคร สาวใช้ผู้นั้นก็ตายไปตั้งแต่วันนั้นเพราะทนการทรมานที่แสนสาหัสของแกรนด์ดยุคโอเว่นไม่ไหว คิร่าส่งดอกกุหลาบให้สาวใช้ด้านหลัง เริ่มจากตรงไหนก่อนดีนะ สาวใช้ผู้นั้นเข้ามาได้ยังไง? ถูกอนุญาตให้เข้ามาในห้องของเธอได้ยังไงในเมื่อมีอัศวินยืนเฝ้าหน้าห้องตลอด ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกจริงๆ ราวกับเรื่องที่เธอสงสัย มันอยู่แค่ปลายจมูก.. “เรียกบารอนเนสเอเลเกอร์มาเข้าพบข้าที” สาวใช้ก้มหน้าลงพร้อมทั้งเดินออกไปทำตามที่เธอสั่ง ความสัมพันธ์ของเธอกับบารอนเนสเอเลเกอร์ค่อนข้างจะสับสนอยู่บ้าง ในตอนนั้นเธอทนการกล่าวดูถูกของบารอนเนสไม่ไหว แต่สถานการณ์มันกดดัน ทำให้เธอไม่สามารถเถียงหรือว่าฆ่าสตรีผู้นั้นได้… สิ่งที่คิร่าทำคือการวางยาพิษ พิษจากดอกแดฟเน่ที่งดงาม เพียงแค่กินเข้าไปนิดเดียวอาจจะทำให้มีอาการแสบร้อนภายในจนถึงตายได้ แต่เธอมิอาจจะฆ่าสตรีผู้นั้นได้ จึงทำได้เพียงแค่ทรมานให้เงียบปาก หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของเธอกับบารอนเนสเอเลเกอร์ก็เกิดเป็นความบิดเบี้ยวขึ้นมา สตรีผู้นั้นรับใช้เธอแลกกับเงินทอง แน่นอนว่าข่าวที่บารอนเนสหามาให้เชื่อถือได้ราวแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องแลกมาด้วยการพร้อมที่จะถูกหักหลังทุกเมื่อ ความสัมพันธ์มันซับซ้อนจริงๆ ด้วยสินะ คิร่าตัดดอกกุหลาบออกมา เธอมองที่หนามแหลมคมบริเวณก้านของมัน นี่สิ! ดอกไม้ที่ควรค่าได้รับการยกย่อง ในความงดงามนั้นยังมีอันตรายอยู่ ไม่ว่าใครก็มิอาจจะสัมผัสได้ เธอนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะหยิบแก้วชาขึ้นมาดื่ม ชีวิตที่แสนจะเลิศเลอของสตรีที่มีอำนาจมากที่สุดในจักรวรรดิ ไร้ค่า และเจ็บปวด เธอไม่ถนัดการใช้สมองสู้กับใครเหมือนเบล เธออยากอยู่เงียบๆ สงบๆ ในที่ของเธอก็พอ เธอไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับใคร ขอเพียงแค่นั้น ยังไม่ได้เลย การเสียลูกในท้องคือจุดเปลี่ยนของชีวิตคิร่า เธอไม่อาจเป็นคนรักสงบเช่นเดิมได้อีกแล้ว… บารอนเนสเอเลเกอร์ทำความเคารพก่อนจะนั่งตรงข้ามเธอ คิร่าโบกมือไล่สาวใช้ให้ออกไป “ขอแสดงความเสียใจ…” “รู้ว่าข้าเสียใจ แล้วเหตุใดถึงไม่คิดมาเยี่ยมบ้าง?” บารอนเนสก้มหน้านิ่ง “เอาเถอะ ความสัมพันธ์ของเราไม่ใช่คนที่จะมาปลอบใจกันเมื่ออีกฝ่ายเสียใจสักหน่อย ข้ามีเรื่องให้ท่านไปสืบ..” คิร่ายื่นกระดาษพร้อมกับถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ “หวังว่าจะได้รับข่าวดีในเร็ววันนะ…” หญิงชราลุกขึ้นพร้อมกับหยิบถุงเงินและกระดาษเดินจากไป คิร่ามองที่ทุ่งดอกกุหลาบขนาดใหญ่ด้านหน้าของเธอ เธอแค่นยิ้มให้กับตัวเอง… ….เธอกำลังหลอกตัวเองอยู่ พยายามอย่างหนักที่จะบอกตัวเองว่ามันไม่เป็นไร เธอต้องเดินต่อไปให้ได้ทั้งที่พึ่งเสียลูกไป ถึงจะหวาดกลัวไปหมดแม้แต่อาหารจานเล็กๆ ตรงหน้านี้ แต่ชีวิตต้องเดินไปต่อ และเธอไม่ควรยอมแพ้… วัลโด้ส่งยิ้มพร้อมทั้งเดินเข้ามาหาเธอ “ปาร์ตี้น้ำชาในสวนงั้นหรือ น่าสนุกจังเลยนะ” เขาส่งยิ้มให้เธอ ยิ้มที่เหมือนกับว่าระหว่างเรามันคือคนรัก “อาหารมากมายนี่เจ้ากินคนเดียวเลยงั้นหรือคิร่าน้อยของข้า ระวังจะอ้วนเกินไปนะ บางทีข้าคิดว่าเจ้าควรจะจัดงานเลี้ยงน้ำชาแบบเป็นเรื่องเป็นราวและเชิญสตรีชนชั้นสูงพวกนั้นมาพบปะพูดคุย เบลล่าไม่อาจจะว่างมาอยู่กับเจ้าได้ตลอด เจ้าอาจจะพบเจอเพื่อนคนใหม่ ในบรรดาสตรีพวกนั้น…” คิร่ายกยิ้มจางๆ “ข้าจะลองเอาไว้คิดดูค่ะ ขอบคุณนะคะ” เขาส่งยิ้มให้เธอก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไปเพราะราชเลขามาเรียกเขาไปเข้าประชุม คิร่ายกยิ้มที่แสนจะเศร้าหมองให้ตัวเอง หากว่าเขาสังเกตสักนิด เขาควรจะรู้สิว่าเธอผอมลง เขาควรจะรู้ว่าอาหารมากมายบนโต๊ะนี่มันไม่มีร่องรอยของการกินเลย และเขาน่าจะรู้จักเธอดีกว่าใคร ว่าเธอเกลียดการเข้าสังคมแค่ไหน!!! งานเลี้ยงน้ำชางั้นหรือ? เธอพึ่งสูญเสียลูกไป เขาคิดว่าเธอยังสามารถจัดงานเลี้ยงได้งั้นเหรอ วัลโด้…ท่านไม่เคยใส่ใจ หรือว่าท่านไม่คิดจะใส่ใจข้ากันแน่!! ……. “เอาล่ะ ลองบอกมาสิว่า ใครเป็นคนว่าจ้างพวกท่านทั้งสองคน?” “ข้าไม่รู้จริงๆ!! ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาใส่ชุดดำปกคลุมใบหน้า…ข้าพูดจริงๆ นะ!!” เลโอถอนหายใจ เขาถามมาราวร้อยรอบแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาก็คือคำตอบเช่นเดิม “หากว่าพวกท่านตอบแบบเดิมอีกครั้ง ในครั้งนี้ข้าจะเริ่มตัดนิ้วของพวกท่านทีละนิ้ว…” แกริคกลัวจนตัวสั่น คำกล่าวถึงแกรนด์ดยุคโอเว่นใครๆ ก็รู้ดีถึงความโหดเหี้ยมของเขา ทว่าเขาไม่รู้จริงๆ ว่าผู้ว่าจ้างเป็นใคร!! “ข้าสาบาน สาบานได้เลย!! ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเป็นใคร!!” เลโอมองหน้าเอซ เขารู้ว่านี่คือพ่อของเบลล่า…ก็เลยอยากจะเมตตาสักหน่อย แต่ว่าการไม่ได้ข้อมูลอะไรไปให้นางเลยเขาอาจจะถูกนางโกรธเอาได้!! “พวกท่านมาที่นี่ได้ยังไง ?” เอซกล่าวถามพร้อมทั้งนั่งลงข้างเลโอ “หลังจากที่ลูกชายของข้าตาย….เขาชื่อซีโน่น่ะ หลังจากซีโน่ตายเราสองคนสามีภรรยา ก็ไร้หนทางที่จะอยู่ในเมืองเพราะเราไม่มีเงินมากพอที่จะมาจ่ายค่าเช่าบ้าน จึงถูกขับไล่ออกมา เราก็เลยอาศัยรถม้าส่งของนั่งมาเรื่องๆ จนถึงเดเลี่ยน…หวังจะมาตั้งรกรากใหม่ที่นี่” เลโอถอนหายใจ “พวกท่านอยู่ที่นี่ได้กี่วัน ถึงได้เจอคนที่ว่าจ้างให้แพร่โรคระบาด แล้วไปเจอเขาได้ยังไง?” เลโอถามพร้อมทั้งชักมีดสั้นออกมา แกริคและวัลด้ามองมีดในมือของเลโออย่างหวาดกลัว!! “คะ…คือว่าเราพบเขาโดยบังเอิญที่บ่อนกาสิโนในเมือง เขาเข้ามาหาเราราวกับว่าเขากำลังรอเราอยู่..” เลโอเลิกคิ้วมองแกริค “เขาจ่ายค่าการพนันที่เราค้างเอาไว้กับบ่อนให้ แล้วก็ซื้อบ้านและของจำเป็นให้เรา ก่อนที่เขาจะยื่นข้อเสนอ..แบบกึ่งบังคับให้ เราต้องทำงานให้เขาเพราะว่าเขาจ่ายเงินให้เรามาแล้ว…ทั้งหนี้สินที่เราค้างเอาไว้กับค่าบ้าน…” เลโอก้มมองคมมีดในมือที่มันสะท้อนใบหน้าของเขาอยู่ เขากำลังทำหน้าราวกับอยู่ในเขาวงกต “พวกท่านติดโรคมาได้ยังไง แล้วเขาให้อะไรท่านพกติดตัวมาอีกรึเปล่า มันควรจะมีของอะไรที่ทำให้พวกท่านไม่ตายเพราะคนที่ติดโรคระบาดคนแรกๆ ล้วนแล้วแต่สิ้นใจไปหมดแล้ว!!” เอซลุกขึ้นยืนเพราะเขากำลังรู้สึกโมโหอย่างมาก!! ฆ่าสองคนนี่ยังไม่เพียงพอกับชีวิตของผู้บริสุทธิ์ที่เสียไปเลย… “เขาให้เราดื่มโพชั่นสีดำคนละขวด พอเราตื่นขึ้นมาก็ป่วยจนแทบจะลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหว…ขะ เขาให้โพชั่นรักษากับเรามาสองขวดด้วยเราค่อยๆ กินทีละนิด ให้พอมีชีวิตต่อไปได้..” “เอาขวดโพชั่นมาให้ข้า!! เอาขวดโพชั่นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!!” เลโอลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหาแกริค.. “มะ..มันอยู่ที่บ้านของเราครับ ข้าเก็บมันเอาไว้ที่บ้าน บนโต๊ะหัวเตียง…” เลโอรีบสั่งให้ทหารไปบ้านของแกริคทันที เขายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ พระเจ้า..ได้โปรดเถิด อย่าให้ที่ข้าคิดมันเป็นความจริง… เอซตบไหล่เลโอเพื่อจะบอกให้เขาใจเย็นๆ ก่อน “มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้เลโอ เราควรจะใจเย็น” “ข้ากำลังภาวนาอยู่ ขออย่าให้เป็นเช่นนั้น!” ทหารวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับขวดโพชั่นในมือ..ขวดโพชั่นรักษาสีแดง… เลโอถึงกับทรุดลงกับพื้น ส่วนเอซเขายื่นมือที่สั่นเทาไปรับโพชั่นขวดนั้นมาถือเอาไว้ พร้อมกับหลับตาลง… “พาพวกเขาไปที่บ้านพักบนภูเขา นำเงินให้พวกเขาทั้งสองไปด้วยห้าพันเหรียญ” เอซเดินเข้าไปหาเซอร์โรเจอร์ก่อนจะกระซิบบอกอย่างแผ่วเบา “ตัดลิ้นพวกเขาออก..อย่าให้พวกเขาไปโกหกใครได้อีก และตัดเส้นเอ็นข้อเท้าและข้อมือออกด้วย อย่าให้เขาได้มีโอกาสไปทำร้ายใคร….” “ครับท่านดยุค” เซอร์โรเจอร์พาแกริคและวัลด้าเดินตามเขาออกไป “ขอบคุณท่านดยุคที่ไว้ชีวิต ขอบคุณครับ!!” “ข้าต้องไว้ชีวิตพวกท่านอยู่แล้ว เพราะว่าความตาย…มันไม่เพียงพอต่อการชดใช้ นับจากนี้ไปใช้ลมหายใจที่เหลืออยู่ของพวกท่านชดใช้ให้กับผู้บริสุทธิ์ที่ต้องตายเถอะ…” เอซมองไปที่แกริคและวัลด้าจนลับสายตา ก่อนจะพาเลโอลุกขึ้นมา “ไปหาเบลกันเถอะ..” เบลล่ายื่นมือไปรับขวดโพชั่นทั้งสี่ขวดที่เลโอส่งมาให้ เธอหลับตาลงอย่างเจ็บปวด…. เหตุใดมันถึงเป็นขวดโพชั่นของอาเชอร์? นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน? ………. เจคอปยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ฮันน่านอนหลับไปแล้วเขาจึงแอบออกมานั่งชมวิวด้านนอกพร้อมทั้งดื่มเหล้าไปด้วย “ไม่เจอกันนานนะครับ พ่อทูนหัว….” เจคอปยกยิ้มขึ้นมา มันคือรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจที่ได้เห็นเด็กชายที่เขาชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กมาหาเขาอีกครั้ง
เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ






![I'll follow Apollo [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
