Masukเทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้น ทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไป เทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆ สกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือน อยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมา เป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก… และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ ฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียว สองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิงผู้สูงศักดิ์.. เทรย์เวอร์มิได้นึกรังเกียจแวนดี้ เขายอมรับเด็กน้อยผู้นี้ให้ลูกสาวของเขา ถึงจะเกิดจากสตรีที่เขาไม่ได้รัก แต่ลูกก็คือลูก ค่ำคืนที่หิมะตกลงมาอย่างหนัก เขาไปหาสกาเล็ตพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ เธอกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สองให้เขาอยู่ “ท่านพ่อครับ!!” วัลโด้วัยหกขวบวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความดีใจ ทว่าสกาเล็ตกลับมองเขาด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด “ท่านคือองค์จักรพรรดิงั้นหรือคะ?!!” “ที่รักฟังข้าก่อน…” “เทรย์เวอร์ ในตอนนี้เป็นท่านที่ควรจะฟังข้า ข้าคือสกาเล็ต ฟาทีเรียส…แล้วท่านคือองค์จักรพรรดิที่ล้มล้างและร่ายคำสาปใส่ตระกูลของข้า!!” เทรย์เวอร์รู้สึกราวกับว่าเขากำลังขาดอากาศหายใจ เขากำลังเจ็บปวดเพราะใบหน้าของสกาเล็ตมองเขาอย่างกำลังโกรธแค้น เธอมองหน้าวัลโด้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะร่ายเวทย์ขึ้นมาแล้วหนีจากเทรย์เวอร์ไปตลอดกาล เขาสูญเสียสกาเล็ตไปพร้อมกับหัวใจที่แหลกสลาย เทรย์เวอร์พาวัลโด้มาที่พระราชวัง เขาสืบจนรู้ว่าฮาเดียน่าส่งคนไปบอกกล่าวกับสกาเล็ตเรื่องที่เขาเป็นองค์จักรพรรดิ ด้วยความโมโหเขาจึงแต่งตั้งวัลโด้ขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาท ไม่มีเสียงคัดค้านจากฮาเดียน่าเพราะเธอรู้ว่าเขากำลังโกรธ หลังจากนั้นเวลาก็ทำหน้าที่เยียวยาทุกสิ่ง ระหว่างเทรย์เวอร์และฮาเดียน่าก็กลับกลายมาเป็นคนที่ต้องพึ่งพากันและกัน ส่วนสกาเล็ตก็จากไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับลูกในท้อง ฮันน่าเกิดมาพร้อมกับพลังแม่มดที่ยิ่งใหญ่ เธอมองเห็นอนาคตและเห็นได้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงที่มาจากมือของเด็กตัวเล็กๆ ที่จะเกิดในอีกหกเดือนข้างหน้า เธอจึงได้หนีออกจากเมเบโล่…หนีตามบารอนกระจอกๆ อย่างแกริคออกมา พร้อมกับโกหกทุกคนว่าเธอตั้งท้อง เธอไม่ยินยอมให้แกริคแตะต้องตัวเธอแม้แต่ปลายเล็บเพราะว่าเธอขยะแขยงแลนเดอร์เต็มทน!! หกเดือนต่อมา ฮันน่าเดินทางไปหาสกาเล็ต… ในคราแรกเธอตั้งใจว่าจะฆ่าสตรีผู้นั้นแล้วแย่งเอาเด็กมา แต่กลับกลายเป็นว่าเธอไม่ต้องลงมือฆ่าเลย เพราะกว่าเธอจะมาถึงสกาเล็ตก็ไร้ลมหายใจไปแล้ว มีเพียงเด็กน้อยที่นอนร้องไห้อยู่ในกองเลือด ฮันน่าจัดการฝังศพของสกาเล็ตให้เรียบร้อย พร้อมกับตั้งชื่อเด็กน้อยในอ้อมกอดว่า เบลล่า แลนเดอร์ ทุกสิ่งเป็นไปตามที่เธอคิดเอาไว้ เด็กน้อยผู้นี้รักเธอมากที่สุด ไม่เสียแรงที่เธอเลี้ยงดูอย่างดีมาตลอด… ท่านแม่ยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะใช้เธอเป็นหมาก ในการแต่งงานกับอาร์ชดยุคกูเรี่ยน ความทรงจำแย่ๆ เกี่ยวกับเมเบโล่ในหัวของเธอยังแจ่มชัด…และคนที่จะโค่นล้มเมเบโล่ได้ก็คือเบลล่า ฮันน่าจัดการวางแผนทุกอย่างด้วยตัวของเธอเอง เป็นแม่ที่อ่อนโยนและแสนดี ทว่าเธอดันอินกับบทบาทมากเกินไป จนเธอหลงรักเบลล่าเข้าจริงๆ เรื่องราวมันก็เลยบิดเบี้ยวไปตามอารมณ์ของเธอ แต่ข้างกายเบลล่ามีสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่อย่างอาเชอร์ เพราะเขาสามารถมองเห็นอนาคตได้ นั่นเปรียบเสมือนภัยร้ายของเธอ เธอจะต้องทำให้อาเชอร์กับเบลล่าผิดใจกัน…ก็เลยมีแผนการโรคระบาดขึ้นมา คนที่เธอใช้ก็คือคนคุ้นเคยอย่างแกริคและวัลด้า คนโง่พวกนั้นรับเงินไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนสั่ง และเธอไม่ได้ทำการคนเดียว… คนที่ช่วยเธอก็คือ เซ็ดดริก…ความรักคือหายานะที่แท้จริง เบลล่ายกมือขึ้นมาปาดน้ำตา อาเชอร์ใช้พลังมองเห็นอนาคตครั้งสุดท้ายให้เธอดูเรื่องราวทั้งหมด…และคนที่วางแผนทั้งหมดก็คือท่านแม่ วางแผนแสร้งว่าตัวเองอ่อนแอเป็นผู้ถูกกระทำที่ไร้ทางสู้ เพื่อให้เธอต้องแข็งแกร่งเพื่อมาปกป้องท่านแม่ เธอควรจะต้องรู้สึกยังไงกับเหตุการณ์นี้ แต่หากวันนั้นท่านแม่ไม่ไปช่วยเธอจากแม่แท้ๆ ที่ตายไป เธออาจจะตายตามท่านแม่ไปแล้วก็ได้ป่านนี้ แล้วเธอยังเป็นพี่น้องกับวัลโด้ พ่อของเธอก็คือคนในตระกลูที่ฆ่าล้างโครตท่านแม่… เบลล่าถอนหายใจ เธอลุกขึ้นพร้อมกับคว้าขวดเหล้าขึ้นมาเพื่อจะดื่มแต่มันกลับถูกเอซแย่งไป “เบล เจ้าเจ็บปวดเช่นนี้ไม่ดีเลย….” เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเอซเอาไว้ “นั่นสิ ไม่ดีเอาซะเลยเอซ ข้าเจ็บปวด ข้าเจ็บปวดเหมือนจะขาดใจเลย อึก!!” เขาดึงเธอมากอดไว้แน่น พร้อมทั้งก้มลงจุมพิตเธออย่างแผ่วเบา.. เบลล่ายกยิ้มทั้งที่ใบหน้าของเธอมันเปื้อนไปด้วยน้ำตา “ขอบคุณ หากเป็นไปได้ข้าอยากจะหลับสักปี…” เธอหลับ ในอ้อมกอดของเขา เขาป้อนโพชั่นยานอนหลับของอาเชอร์ให้เธอ เบลล่าในตอนนี้เหนื่อยล้ามากทีเดียว เธอควรจะได้พักผ่อนสักระยะ ให้หัวใจของเธอมันบรรเทาความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ลง… เลโอนั่งลงบนโซฟา เขายังคงยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มอย่างใช้ความคิด “ตอนนี้เราสามารถควบคุมสถานการณ์ที่นี่ได้หมดแล้ว ท่านคิดว่าเราจะเอายังไงต่อ” โคลด์กล่าวถามเลโอ.. “ในเมื่อเบลไม่มีสายเลือดของเมเบโล่ แสดงว่าคำสาปสายเลือดไม่มีผลต่อเธอ เช่นนั้นการฆ่าล้างตระกูลเมเบโล่ก็สามารถทำได้แล้วสินะ….” เลโอกล่าวพร้อมกับวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ “ต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะเรามีโอกาสเพียงครั้งเดียว แม่ของเบลเป็นแม่มดที่มีพลังแข็งแกร่ง พลังของนางจะอ่อนลงก็ต่อเมื่อวันที่นางคลอดลูก….” อาเชอร์มองไปที่เลโอ “เช่นนั้นให้เบลพักอยู่ที่นี่ก่อน ฝากเอซดูแลนางด้วย โคลด์เดินทางไปพบองค์จักรพรรดิ…รายงานแค่ว่าเราหาหลักฐานในการล้มตระกลูเมเบโล่แล้ว…” โคลด์พยักหน้า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้..” “ข้าไปด้วยครับ! ข้าต้องการไปที่วิหารด้วย ถึงยังไงเมเบโล่ก็คือตระกูลแม่มดที่เก่าแก่ นักบวชและนักบุญที่วิหารจะต้องยอมช่วยเหลืออยู่แล้ว!” อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งเดินไปหาโคลด์ “อืม เดินทางปลอดภัย ไปเจอกันที่เมืองหลวง!” …….. เบลล่าลืมตาขึ้นมา เธอหันมองเอซที่กำลังหลับอยู่ข้างๆ สิ่งที่น่าตกใจก็คือ เธอดันมีพลังศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนในร่างกายเธอไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะโพชั่นของอาเชอร์ที่ทำให้เธอนอนไปหนึ่งเดือนเต็มๆ รึเปล่า แต่ตอนนี้เธอรู้สึกอุ่นที่ปลายนิ้ว มันมีแสงสีทองเปล่งออกมา ถึงจะยังใช้ไม่เป็นก็ตาม แต่เธอมั่นใจว่าต่อไปนี้โพชั่นของอาเชอร์จะไม่สามารถทำอะไรเธอได้แน่นอน เบลล่าหอมแก้มเอซเบาๆ “เบล!! เจ้าตื่นขึ้นมาได้ยังไง อาเชอร์บอกว่าเจ้าจะหลับยาวนานราวสามเดือน!!” นี่พวกเขาตั้งใจจะให้เธอหลับไปสามเดือนเลยเรอะ!! “หากจะไปทำลายเมเบโล่ ข้าต้องไปด้วยสิ คนพวกนั้นมีความแค้นกับข้าด้วยนะ!” เอซถอนหายใจ เขารู้ดีว่าตัวเองไม่อาจรั้งเธอเอาไว้ได้… “วางใจเถอะที่รัก ข้าจะปลอดภัยและกลับมาหาท่าน” เบลล่ากล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาโอบกอดคอของเอซเอาไว้ เธอทาบทับริมฝีปากของเขาช้าๆ เป็นจุมพิตที่อ่อนโยนและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน “ข้ากำลังเสียใจที่ตามเจ้าไปไม่ได้…” “ถึงแม้การต่อสู้ที่ไร้ท่านข้างกายจะทำให้ข้าเจ็บปวด แต่อย่างน้อยข้าจะสู้ชนะคนพวกนั้น เพราะข้ารู้ว่ามีท่านที่รอคอยข้าอยู่” “ฟังดูดีจังเลยนะ…” “หรือหากว่าข้าพ่ายแพ้และข้าต้องตาย อย่างน้อยก็จะมีท่านที่วางดอกกุหลาบไว้บนหลุมศพของข้า…”
เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







