Share

บทที่ 5 เซ่นไหว้หลุมศพ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-05 20:25:17

เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนค่ำ เสี่ยวจิ่วฮวาเผลอนอนหลับไปจนถึงตอนมืด เมื่อตื่นขึ้นมาก็รู้สึกปวดหัวไม่น้อย นางลุกขึ้นจากเตียงนอน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบกาชาและรินชาขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหาย แล้วจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะบิดกายไปมาครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยเรียกหูเป่า

"หูเป่า หูเป่า"

หูเป่าที่ได้ยินเจ้านายเรียกก็รีบเข้ามาในห้องทันที ก่อนจะรีบก้มหน้างุด แต่ไหนแต่ไรมาคุณหนูรองไม่ชอบให้บ่าวไพร่สบตากับนาง หูเป่ารู้เรื่องนี้ดี เสี่ยวจิ่วฮวาถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอ่ย

"เงยหน้าขึ้นมามองข้า ข้าไม่ตีเจ้าหรอก"

"บ่าวไม่กล้าเจ้าค่ะ"

"บอกให้เงยหน้าขึ้นมาก็ทำสิ!!!"

หูเป่ารีบเงยหน้าขึ้นมามองเสี่ยวจิ่วฮวาทันที เสี่ยวจิ่วฮวาที่มองเห็นแววตาหวาดกลัวของหูเป่าก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปประคองหูเป่าให้ลุกขึ้นมา และเอ่ยกับสาวใช้อย่างอ่อนโยน

"ต่อไปเจ้าไม่ต้องหวาดกลัวข้าขนาดนี้ ข้าเองก็จะไม่เอาโทสะมาลงที่เจ้าอีก ขอเพียงเจ้าอย่าเผลอยั่วโมโหข้าจนทนไม่ไหวก็พอ"

หูเป่าที่ได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าหงึกหงัก เสี่ยวจิ่วฮวาหาวออกมา ก่อนจะเอ่ยถามหูเป่า

"มีสิ่งใดกินบ้าง ข้าหิวแล้ว"

"บ่าวเตรียมไว้ให้แล้วเจ้าค่ะ"

"อืม"

เสี่ยวจิ่วฮวาพยักหน้า ก่อนจะเดินไปกินอาหารที่โต๊ะอาหาร เมื่อกินอิ่มแล้ว นางจึงออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้ในจวน วันนี้บรรยากาศค่อนข้างดีไม่น้อย เสี่ยวจิ่วฮวาชื่นชอบฤดูใบไม้ผลิที่สุด นางชอบเวลาที่ดอกไม้ต้นไม้ในจวนผลิบานมีใบไม้เขียวชะอุ่ม มันดูมีชีวิตชีวา ไม่เหี่ยวแห้งอึมครึม

ที่สำคัญนางไม่ชอบฤดูหนาว ยามที่หิมะตกนางรู้สึกหดหู่หวาดกลัว และคิดถึงเรื่องราวในคืนนั้นที่เกิดขึ้น

คืนที่นางตายอย่างโดดเดี่ยวและหิมะตกลงมาทับถมตัวนาง!!!

เสี่ยวจิ่วฮวาส่ายหน้าไปมาพยายามไม่ไปคิดถึงเรื่องราวน่ากลัวเช่นนั้นอีก นางเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบไม่ร้อน เดินมาได้ไม่นานก็พบกับเสี่ยวเย่วหยาที่เดินผ่านมาพอดี เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นเสี่ยวจิ่วฮวาก็มีท่าทางลนลาน รู้สึกว่ามือเท้าเกร็งไปหมด นางพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่พบเจอน้องสาวผู้นี้ แต่จวนตระกูลเสี่ยวแคบออกปานนี้ย่อมยากที่จะหลีกเลี่ยงการพบปะหน้ากันได้

เสี่ยวจิ่วฮวารับรู้ได้ถึงท่าทีอึดอัดใจที่เสี่ยวเย่วหยามีต่อนาง หากเป็นเมื่อก่อนท่าทางเช่นนี้ของพี่สาวคงทำให้นางโมโหและหาเรื่องทุบตีไปนานแล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน

เสี่ยวเย่วหยาเมื่อหลีกหนีไม่พ้น จึงเดินเข้ามาหาเสี่ยวจิ่วฮวา ก่อนจะเอ่ย

"อาจิ่ว เจ้าออกมาเดินเล่นหรือ วันนี้อากาศดีมาก ข้าก็ออกมารับลมเช่นเดียวกัน"

เสี่ยวเย่วหยาแม้ใบหน้าจะยิ้มแยม แต่ในใจกลับประหม่าไม่น้อย เสี่ยวจิ่วฮวาสัมผัสได้ถึงท่าทีนั้นของพี่สาวตน นางจึงเพียงพยักหน้า ก่อนจะเอ่ย

"อืม อากาศดีจริงๆ"

เสี่ยวเย่วหยาชะงักไปเล็กน้อย ทุกครั้งที่ได้เจอกัน เสี่ยวจิ่วฮวามักปรายตามองนาอย่างเกลียดชัง และมักพูดเสมอว่านางมาแย่งความรักไปจากท่านแม่ แต่วันนี้เสี่ยวจิ่วฮวากลับเพียงพยักหน้าเล็กน้อย และไม่ได้เอ่ยวาจาหาเรื่องนางเลยด้วยซ้ำ

เสี่ยวจิ่วฮวาเองก็ประหม่าไม่น้อยเช่นเดียวกัน หากเป็นในอดีตนางคงบอกว่าเสี่ยวเย่วหยาเสแสร้งจอมปลอม วางตัวเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่แย่งความรักของแม่ไปจากนาง

บรรยากาศกระอักกระอ่วนนี้ช่างน่ากดดันไม่น้อย เสี่ยวจิ่วฮวาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

"ข้าจะไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ข้ามีธุระต้องไปจัดการ"

"อืม อาจิ่วเดินดีดีล่ะ"

"อืม"

เสี่ยวเย่วหยายิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินหลับเรือนของตนไป ด้านเสี่ยวจิ่วฮวาเมื่อกลับมาถึงเรือนก็เข้านอน แต่คืนนั้นนางนอนไม่หลับ ในหัวคิดถึงแต่เรื่องในชาติก่อน นางรู้สึกว่าเหมือนมีใครบางคนในความทรงจำที่นางลืมเลือนไป แต่คนผู้นั้นคือใครนางพยายามนึกเท่าใดก็นึกไม่ออกเสียที คิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว จวบจนค่อนคืนจึงข่มตาหลับลงได้

รุ่งเช้าวันต่อมา เมื่อไปคารวะท่านแม่ยามเช้าแล้ว นางจึงเดินทางออกจากจวนไปที่วัดไป๋หวาทันที เสี่ยวฮูหยินที่ได้ทราบข่าวก็เรียกสาวใช้ของตนมาเอ่ยถามทันที

"นี่ เจ้าได้ถามไหมว่าอาจิ่วนางจะไปที่ใด"

สาวใช้น้อยส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ยตอบ

"บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ คุณหนูรองบอกเพียงว่ามีธุระต้องไปจัดการ เสร็จแล้วจะรีบกลับเจ้าค่ะ"

"ไม่ใช่ไปก่อเรื่องข้างนอกหรอกนะ!! ข้าจะสั่งสอนนางอย่างไรดี"

ด้านเสี่ยวเย่วหยาที่คอยบีบนวดให้เสี่ยวฮูหยินก็เอ่ยขึ้นมา

"ท่านแม่ บางคราน้องรองอาจจะเพียงอยากไปเที่ยวเล่นน่ะเจ้าค่ะ อาจจะไม่มีเรื่องใดก็ได้ ท่านแม่อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะเจ้าคะ"

"เห้อ เย่วหยา หากอาจิ่วประพฤติตนได้ดีเท่าเจ้าสักเล็กน้อย ข้าคงเบาใจ"

"ท่านแม่ อย่าเอ่ยเช่นนี้ต่อหน้าน้องรองเชียวนะเจ้าคะ"

เสี่ยวฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะจับมือของเสี่ยวเย่วหยาเอาไว้

"เย่วหยา ถึงแม้เจ้าจะไม่ใช่ลูกของข้า แต่ข้าก็รักเจ้ามากนะ หากไม่ใช่เพราะบ่าวไพร่ปากมากพูดกัน เจ้าก็คงไม่รู้ว่าข้าไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเจ้า"

"ท่านแม่ ท่านคือท่านแม่ของข้านะเจ้าคะ"

"อืมๆ เด็กดี เจ้ารักษาตัวให้ดีเล่า อีกสามวันแม่จะพาเจ้าไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าจวนตระกูลไป๋ บางคราอาจจะมีข่าวดีเรื่องงานหมั้นหมายของเจ้า"

เสี่ยวเย่วหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย ก่อนจะครุ่นคิดถึงงคุณชายจวนตระกูลไป๋ผู้นั้นขึ้นมา

ด้านเสี่ยวจิ่วฮวานั้นนางนั่งรถม้ามาได้ราวครึ่งชั่วยาม รถม้าก็หยุดลง หูเป่าลงไปก่อน หวังจะช่วยประคองเสี่ยวจิ่วฮวาลงมา แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ช่วยประคอง เจ้านายของตนก็กระโดดลงมาจากรถม้าก่อนเสียแล้ว หูเป่าถอนหายใจออกมาก่อนจะเอ่ย

นี่แหละนิสัยที่แท้จริงของคุณหนูรอง ไม่สนกฎระเบียบ ไม่ยึดถือธรรมเนียมปฎิบัติใดใดทั้งสิ้น

เสี่ยวจิ่วฮวามองขึ้นไปบนวัดไป๋หวา จากที่รถม้าจอดตรงนี้ต้องเดิินขึ้นบันไดไปอีกหลายสิบก้าว แต่นางยังไม่คิดที่จะขึ้นไปไหว้พระโพธิสัตว์ตอนนี้ เสี่ยวจิ่วฮวาเดินตรงไปอีกด้านหนึ่ง หูเป่าที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งตามมาทันที

"คุณหนูรองเจ้าคะ ท่านจะไปทางนั้นได้อย่างไรกัน ที่นั่นมันคือสุสานศพไร้ญาตินะเจ้าคะ"

"ไม่ต้องถามมาก ตามข้ามา เอาของที่ข้าสั่งมาด้วยหรือไม่"

"เอามาแล้วเจ้าค่ะ"

"ดี"

เสี่ยวจิ่วฮวาเร่งฝีเท้าเดินมาจนถึงหน้าสถานที่แห่งหนึ่ง มันเป็นสถานที่ฝังศพของเหล่าศพไร้ญาติ นางมองซ้ายมองขวา ก่อนจะมองเห็นป้ายหลุมศพป้ายหนึ่ง

ฉินหวั่น

เสี่ยวจิ่วฮวาจ้องมองป้ายสุสานนั้นด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ก่อนจะหันไปเอ่ยกับหูเป่า

"ส่งของมาให้ข้า"

"ฮือ คุณหนู บ่าวกลัวเจ้าค่ะ"

เสี่ยวจิ่วฮวาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเอ่ย

"ผีไม่น่ากลัวเท่าใจคนหรอกนะ หากเจ้ากลัวก็รอตรงนี้ ข้าไปไม่นานอีกเดี๋ยวจะรีบกลับมา"

"ฮือ คุณหนู"

เสี่ยวจิ่วฮวาคร้านจะสนใจสาวใช้จอมขี้ขลาดของตนอีก นางเดินตรงไปหยุดอยู่ที่หน้าลุมศพของฉินอี๋เหนียง ก่อนจะค่อยๆ ย่อกายนั่งลง แล้วจึงนำอาหารอย่างดี ขนม ผลไม้ น้ำชามาจัดวางตรงหน้าหลุมศพ แล้วจึงจุดธูปปักลงไปที่กระถางธูปหน้าป้ายสุสานของฉินอี๋เหนียง

"แม่เล็ก ข้าหวังว่าท่านที่อยู่ในปรโลกจะได้พบกับบุตรที่แท้จริงของตนเองแล้ว เรื่องราวที่ผ่านมาข้าจะไม่โทษท่าน แม้จะอยากสาปแช่งท่านมากเพียงใดก็ตาม แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า ความแค้นและความอิจฉาริษยาทำให้ข้าไม่อาจพบจุดจบที่ดีได้ นับแต่นี้ข้าจะเริ่มต้นใหม่ ทุกสิ่งที่ผ่านมาข้าจะเก็บเอาไว้เป็นบทเรียน ส่วนท่าน ข้าขอบคุณที่ท่านเคยเลี้ยงดูข้ามา แม้จะไม่เคยเลี้ยงด้วยความรักเลยก็ตาม แต่ครั้งหนึ่งข้าก็เคยรักท่านเสมือนมารดาแท้ๆ ของข้า ท่านจงอยู่ในปรโลกอย่างสงบสุขเถอะ ระหว่างเราทั้งสองไม่มีสิ่งใดติดค้างพัวพันต่อกันอีก"

หลังจากจบคำพูดของเสี่ยวจิ่วฮวา ก็คล้ายกับมีสายลมเย็นวูบหนึ่งพัดผ่านตัวของนางไป เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะจัดการเก็บของและเดินออกมาจากสุสาน หูเป่าที่ยืนรออยู่เมื่อเห็นว่าเจ้านายตนออกมาแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก

"คุณหนูรอง บ่าวกลัวแทบแย่ หากท่านยังไม่ออกมาอีก บ่าวจะร้องไห้แล้วนะเจ้าคะ"

เสี่ยวจิ่วฮวายื่นตะกร้าส่งให้กับหูเป่า ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย

"ข้าบอกแล้วว่าผีไม่น่ากลัวเท่าใจคนหรอก ไปได้แล้ว ข้าจะไปไหว้พระโพธิสัตว์บนวัด"

"เอ่อ คุณหนูรองเจ้าคะ"

"มีสิ่งใดอีกเล่า"

"เอ่อ ท่านอย่าก่อเรื่องในวัดเลยนะเจ้าคะ ไต้ซือในวัดเป็นที่นับถือของเหล่าราษฎร คือว่า...."

"ข้ารู้แล้ว ข้าไม่ด่าไต้ซือหรอก หากเจ้าไม่หยุดพูดมากข้าจะด่าเจ้าแทน"

เสี่ยวจิ่วฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินขึ้นไปบนวัดอย่างไม่รีบไม่ร้อน แล้วจุดธูปไหว้พระโพธิสัตว์ ถวายเงินค่าธูปเทียน และยังได้ยันต์คุ้มภัยมาอีกด้วย บรรยากาศในวัดค่อนข้างร่มรื่น คงเพราะนางมาตั้งแต่เช้าจึงยังไม่มีผู้คนพลุกพล่านมากนัก

เสี่ยวจิ่วฮวารู้สึกเหนื่อยแล้วจึงคิดอยากจะกลับจวนไปพักเสียหน่อย แต่ในขณะที่นางกำลังเดินลงจากบันได ก็มีคนผู้หนึ่งกำลังเดินออกมาจากหอปฎิบัติธรรมของวัดพอดี เสี่ยวจิ่วฮวาไม่ได้สนใจจะมองสิ่งใดอีกเพราะนางรู้สึกง่วงแล้ว แต่ทว่าบุรุษผู้นั้นกลับมองนางอย่างไม่ละสายตา จนกระทั่งนางเดินจากไปไกลแล้วเขาก็ยังจ้องมองนางอยู่เช่นนั้น

นั่นใช่สตรีที่ข้าเห็นในฝันมาตลอดหลายสิบคืนใช่หรือไม่ นางมีตัวตนอยู่จริงๆ อย่างนั้นหรือ?

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 10

    เมื่อได้ยินว่าบุตรชายกลับมาถึงวังหลวงแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็ดีใจไม่น้อย นางโผเข้ากอดบุตรชาย ก่อนจะจ้องมองฮวาชิงเหยี่ยนที่ถูกคนหามเข้ามาคราหนึ่ง และจึงเอ่ยถามเติ้งจื่อหยวน"นางคือ?""เสด็จแม่ นางคือสตรีของข้า ข้ารักนาง ท่านอย่าให้นางไปที่ใดเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"เสี่ยวจิ่วฮวาหันไปสบตากับเติ้งหมิงซีคราหนึ่ง เห็นว่าสามีเพียงพยักหน้าเล็กน้อย ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ก่อนจะสั่งให้หมอหลวงในวังมาตรวจดูอาการของคนทั้งสองหลายวันต่อมาอาการของฮวาชิงเหยี่ยนก็ดีขึ้นมากแล้ว วันต่อมาก็มีนางกำนัลเข้ามาบอกว่า เสี่ยวฮองเฮาเรียกนางให้เข้าไปพบฮวาชิงเหยี่ยนไม่ได้ครุ่นคิดสิ่งใดให้มากความ นางตรงไปที่ตำหนักคุณหนิงในทันที เมื่อเข้ามาถึงก็พบกับเสี่ยวฮองเฮาที่กำลังนั่งจิบชาร้อนอย่างไม่รีบไม่ร้อนอยู่ภายในตำหนัก"ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินก็มองฮวาชิงเหยี่ยนเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ลุกขึ้นเถิด หูเป่าหาที่นั่งให้นาง""เพคะฮองเฮา"ฮวาชิงเหยี่ยนรู้สึกประหม่าไม่น้อย นางมาที่นี่เดิมทีก็ใช้ชีวิตไม่ง่าย เมื่อมาอยู่ในวังและยังมีกฎเกณฑ์มากมายจึงยิ่งไม่คุ้นชิน เสี่ยวจิ่วฮวาเองก็พอจะมองออก จึงไม่ได้แสดงท่าทีกดดันนางเท่าใดนัก"

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 9

    เติ้งหมิงซีลงมือจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง ส่วนเสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ทราบข่าวก็เริ่มกระวนกระวายเพราะห่วงบุตรชาย โชคดีที่ได้ความช่วยเหลือจากทั้งเจียงซวี่และหลี่จิ่ง ทำให้ไม่กี่วันต่อมาก็สามารถสืบพบกบฏเหล่านั้นได้ และจัดการถอนรากถอนโคนพวกมันทิ้งไปเสีย แต่น่าเสียดายที่คนตระกูลฮวาเกือบทั้งหมดไม่มีใครรอดชีวิตเลยนอกจากฮวาชิงเหยี่ยน เมื่อสอบสวนอย่างละเอ่ียด ก็พบว่าคนพวกนั้นเดิมทีเป็นกลุ่มคนที่เคยขึ้นตรงต่อเติ้งเจี๋ยมาก่อน และหวังจะแก้แค้นแทนเจ้านายของตน ส่วนคนตระกูลฮวานั้นก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ไม่ได้เรื่องได้ราว และถูกหลอกใช้ให้ส่งข่าวความเป็นไปในเมืองหลวงให้ทราบเพียงเท่านั้น ยามนี้สกุลฮวาตายสิ้น บุตรชายเขาและบุตรสาวนักโทษนางนั้นก็ยังหายไปด้วยกันอีกเมื่อจัดการเรื่องนี้จบแล้ว ก็มีฎีการ้องเรียนไม่หยุดว่าเติ้งจื่อหยวนมีใจคิดไม่ซื่อ มีใจคิดก่อกบฏ เพราะเหตุนี้เติ้งหมิงซีจึงสั่งลงโทษพวกขุนนางเหล่านั้น จนเหล่าขุนนางต่างเงียบปากไม่กล้าเอ่ยปากพูดเรื่องใดออกมาอีกด้านเติ้งจื่อหยวนและฮวาชิงเหยี่ยนนั้น ยามนี้คนทั้งสองหลบมาอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่ด้านนอกเมืองหลวง ฮวาชิงเหยี่ยนรู้สึกเจ็บเท้าไม่น้อยเล

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 8

    เช้าวันต่อมาก็มีคนพบศพของชายวัยกลางคนผู้นั้นที่โรงเตี๊ยม แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้หวาดหวั่นยิ่งกว่าก็คือ ในตัวเขามีจดหมายฉบับหนึ่ง เนื้อหาในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า เขากำลังติดต่อกับคนที่เติ้งจื่อหยวนและฮวาชิงเหยี่ยนพบเจอ และดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่ร่วมมือกับกบฏนอกวังหลวงเติ้งจื่อหยวนรู้สึกว่ามันเกินความคาดหมายไปไม่น้อยเลย แต่เรื่องนี้จะเก็บเงียบไม่ได้ย่อมต้องกราบทูลเสด็จพ่อ เมื่อเติ้งหมิงซีรู้จึงสั่งตรวจสอบคนใกล้ชิดกับชายผู้นั้นทันทีไม่เว้นแม้แต่จวนสกุลฮวาสุดท้ายแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาพบว่าฮวาหยวนเองก็มีส่วนสมคบคิดกับชายผู้นั้นเช่นเดียวกัน เขาเป็นคนส่งเรื่องราวและความเป็นไปของในเมืองหลวงให้แก่เหล่ากบฏ เพื่อแลกกับเงินไปใช้จ่ายในโรงพนันเขาคิดว่าอย่างไรย่อมไม่มีคนสาวมาถึงตัวเขา แต่ฮวาชิงเหยี่ยนบุตรสาวตัวดีกลับไปรู้เรื่องเข้า เขาตัดใจฆ่านางไม่ลง จึงสั่งให้นางแต่งงานกับบุรุษผู้นั้นไปเสีย เมื่อแต่งงานออกไปไกลแล้ว ย่อมไม่สามารถก่อคลื่นลมใดได้อีกแต่เรื่องราวกลับไม่เป็นดังที่ใจของเขาคิด สุดท้ายตระกูลฮวาทั้งตระกูลกำลังจะถูกสั่งประหารชีวิตโทษฐานกบฏแต่เพราะเติ้งจื่อหยวนไปขอร้องบิดา ทำให

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 7

    เติ้งจื่อหยวนหันมาสบตากับฮวาชิงเหยี่ยนอีกครา คนทั้งสองมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเป็นฮวาชิงเหยี่ยนที่เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน"ข้าเคยมาหาของป่าที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ท่านกับข้าเราต้องลงเขาไปด้วยกันในเวลานี้ ซึ่งมีเพียงทางเดียวคือกระโดดลงไปในแม่น้ำด้านล่างนั่นถึงจะหนีได้ ท่านกลัวหรือไม่"เติ้งจื่อหยวนรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ให้ตายเถอะ ประโยคนี้ควรเป็นเขาที่ถามนางมากกว่าสิ เหตุใดจึงกลายเป็นนางมาเอ่ยถามเขาเช่นนี้เล่ายามนี้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องเช่นนี้แล้ว เขาต้องเร่งหนีออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เมื่อคิดได้เช่นนั้นเติ้งจื่อหยวนจึงหันมาเอ่ยกับฮวาชิงเหยี่ยนในทันที"ข้าไม่เคยกลัวสิ่งใด เราไปกันเถอะ""อืม"เติ้งจื่อหยวนจับมือของฮวาชิงเหยี่ยนเอาไว้แน่น ในขณะที่คนทั้งสองกำลังจะพากันกระโดดหนีไปนั้น ก็มีธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาเฉียดที่แขนของฮวาชิงเหยี่ยน จนนางเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะหันไปมอง ทำให้สบตากับคนที่ยิงธนูใส่นางได้อย่างชัดเจน แต่ทว่ากลับไม่เห็นอีกคนที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลัง เติ้งจื่อหยวนที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจไม่น้อย เขาใช้มีดสั้นที่มักพกติดกายมาด้วยเขวี้ยงใส่คนผู้นั้นจนได้รับบาดเจ็บ และสั่งให้อง

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 6

    ฮวาชิงเหยี่ยนที่ถูกจู่โจมอย่างกะทันหันก็ตั้งรับไม่ทัน นางพยายามดิ้นให้หลุดจากเงื้อมมือของเฉินเย่ แต่ทว่าเฉินเย่เหมือนจะระวังตัวและเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี จึงไม่เหลือทางให้นางได้จัดการเขาเลย "ดิ้นรนไปเถิด เจ้าไม่รอดเงื้อมมือของข้าหรอก ข้าชอบเจ้ามากนะชิงชิง เป็นของข้าเถอะ" พูดจบก็โน้มใบหน้าเข้ามาคิดจะจูบที่หน้าผากของนาง แต่ทว่าเฉินเย่ยังไม่ทันได้ทำเช่นนั้นก็ถูกใครบางคนลากไปจัดการเสียก่อน แสงเทียนที่สลัวรางทำให้มองเห็นทุกอย่างได้บ้าง ฮวาชิงเหยี่ยนมองเห็นว่าเติ้งจื่อหยวนกำลังจัดการเฉินเย่อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ฝีมือของเขาดีมาก เฉินเย่ไม่ทันได้เอ่ยปากร้องขอความเมตตาก็โดนซ้อมจนสลบเหมือดไปเสียแล้ว เมื่อซ้อมคนเสร็จเติ้งจื่อหยวนก็สั่งให้คนของเขาลากเฉินเย่ไปโยนเอาไว้ที่ตลาดในสภาพเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ ต้องสั่งสอนให้รู้จักความอัปยศและความอับอายเสียบ้างเมื่อจัดการคนเรียบร้อย เติ้งจื่อหยวนก็หันมาเอ่ยถามฮวาชิงเหยี่ยนในทันที "เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่"ฮวาชิงเหยี่ยนส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย "เจ้าสาม ท่านมาได้อย่างไรกัน"เติ้งจื่อหยวนจ้องมองฮวาชิงเหยี่ยนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 5

    เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ฮวาชิงเหยี่ยนก็ดีใจเป็นอย่างมาก นางหันมามองเติ้งจื่อหยวนอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนหน้านี้นางด่าเขาในใจเอาไว้มากมาย ยามนี้เมื่อได้เขาช่วยเหลือจนได้เงินคืนมาก็รู้สึกผิดในใจ"ท่านจะให้ข้าตอบแทนเช่นไรก็ว่ามา"เติ้งจื่อหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมามองฮวาชิงเหยี่ยนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย "เลี้ยงบะหมี่ข้าก่อน แล้วข้าจะบอก"ฮวาชิงเหยี่ยนคิดว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด นางจึงพาเขาไปกินบะหมี่ที่ร้านลุงหลี่ตามเดิม หลี่จิ่งมองดูคนทั้งสองก่อนจะยกยิ้มมุมปากคราหนึ่งเห็นทีอาจิ่วคงกำลังจะมีลูกสะใภ้คนที่สามเสียแล้ว!!เมื่อกินอิ่มแล้ว เติ้งจื่อหยวนจึงเอ่ยถามฮวาชิงเหยี่ยนทันที"เจ้าชื่ออันใด""ฮวาชิงเหยี่ยน เรียกชิงชิงก็ได้ ท่านเล่า""เรียกข้าว่า เจ้าสามก็ได้"ฮวาชิงเหยี่ยนพยักหน้าคราหนึ่ง ชื่อแปลกพิลึกดีเติ้งจื่อหยวนจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะเอ่ย"ภาพเหล่านั้นเจ้าวาดได้เช่นไรกัน มันไม่เหมือนกับยุคสมัยนี้เลย ข้าชอบมาก มันคือที่ใดกัน"ฮวาชิงเหยี่ยนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเอ่ยเช่นไรดี นางคิดใคร่ครวญคำพูด ก่อนจะเอ่ยออกมา"ความจริงมันก็เป็นเรื่องที่เหลือเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status