Share

บทที่ 2 แก้ไขเส้นทางนางร้าย

last update Last Updated: 2025-05-29 22:14:12

หลายวันมานี้ฮุ่ยหมิงวุ่นวายอยู่กับการคิดหาทางออกให้ตัวเอง เท่าที่นางจำได้หลังจากวันเกิดของจางลี่เซียนสิบวัน นางจะพบกับองค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงโดยบังเอิญที่ร้านขายผ้าตอนนางไปสั่งตัดชุดใหม่ ในตอนนั้นเขาได้สารภาพรักกับนางรวมทั้งขอนางหมั้นหมาย เนื่องจากได้รับราชโองการให้ไปปราบกลุ่มโจรบนภูเขา โจรกลุ่มนี้ฝีมือเก่งกาจไม่มีผู้ใดสามารถจัดการลงได้ ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว เรื่องนี้จึงร้อนมาถึงเขาที่ต้องไปจัดการ

ในครั้งนั้นฮุ่ยหมิงปฏิเสธหวงเฟยหลงไปอย่างไม่ไยดี นางบอกว่าไม่ได้รักเขา คนที่นางรักคือหวงเฟยเทียน ผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึงองค์รัชทายาท ฮุ่ยหมิงอยากเป็นชายาของว่าที่ฮ่องเต้ ไม่ใช่องค์ชายผู้ไร้อนาคตอย่างเขา และขอให้เขาออกไปจากชีวิตของนางเสียอย่าได้เข้ามาใกล้ นางไม่อยากให้หวงเฟยเทียนเข้าใจผิด

หลังจากได้ฟังสิ่งที่นางต้องการองค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงก็ทำตามที่นางบอกไว้ได้เป็นอย่างดี เขาไม่เคยเข้าใกล้ให้นางวุ่นวายใจอีก ได้แต่ถามข่าวคราวอยู่ห่างๆ

จนกระทั่งฮุ่ยหมิงได้แต่งงานเป็นพระชายาของหวงเฟยเทียน ทำให้คนไม่กระหายอำนาจอย่างเขาต้องลุกขึ้นมาต่อสู้แย่งชิง หลังจากแต่งงานหวงเฟยเทียนไม่เคยรักหรือให้เกียรติฮุ่ยหมิงเลย เขาต้องทนเห็นนางเจ็บปวดร้องไห้ทุกวัน และยิ่งเห็นนางดิ้นรนต่อสู้ทำความผิดต่างๆ นานา เขาก็ยิ่งปวดใจ ความอดทนสุดท้ายของเขาสิ้นสุดลงเมื่อฮุ่ยหมิงถูกจับโทษฐานวางแผนสังหารพระชายารองอย่างจางลี่เซียนและองค์ชายในครรภ์ โทษทัณฑ์ของนางคือประหารชีวิต หนทางเดียวที่เขาจะช่วยฮุ่ยหมิงเอาไว้ได้จึงมีเพียงการชิงบัลลังก์

แต่ก็สายเกินไปเมื่อเขาแย่งชิงบัลลังก์มาได้นางกลับโดนประหารไปก่อนเพียงไม่กี่นาที บัลลังก์มังกรในตอนนั้นไม่มีความหมายสำหรับหวงเฟยหลงอีกต่อไป ทำให้เพียงไม่นานพระเอกอย่างหวงเฟยเทียนและนางเอกอย่างจางลี่เซียนก็แย่งชิงบัลลังก์กลับคืนมาได้ ส่วนหวงเฟยหลงมีโทษประหารชีวิตตายในตอนจบ

“เฮ้อ เขาต้องรักข้ามากขนาดไหนกันถึงยอมทำได้ขนาดนี้ ส่วนข้า ไม่ใช่สิ จางฮุ่ยหมิงคนก่อนก็โง่งมเสียเหลือเกิน ถ้าเจ้าเลือกองค์ชายใหญ่อย่างหวงเฟยหลงตั้งแต่แรกคงกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดไปแล้ว ไม่ต้องมาตายอนาถเช่นนี้ แต่ช่างเถอะข้ามาอยู่ในร่างเจ้าแล้ว ข้าจะแก้ไขเส้นทางนางร้ายของเจ้าเสียใหม่ อยู่ให้ถูกที่ถูกทาง เจ้าจะเป็นผู้หญิงที่สามีรัก สามีหลง สามีตามใจ จนใครเห็นเป็นต้องอิจฉาเจ้าทุกคน ที่สำคัญข้าไม่ต้องการไปอยู่ในวังให้แม่สามีโขกสับ รวมถึงสู้รบกับเหล่าสนมของหวงเฟยเทียนอย่างเจ้าหรอกนะยัยตัวร้ายผู้โง่เง่า ฮ่าฮ่าฮ่า” จางฮุ่ยหมิงยืนเท้าสะเอวหัวเราะด้วยความสุขแบบนางร้าย ตอนนี้นางมีความสุขมาก แต่ผู้คนที่ได้ยินเสียงหัวเราะของนางกลับขนลุกขนชันไปทั้งตัว หัวใจเกิดความหวาดกลัวไปเสียอย่างนั้น

“คุณหนูมีความสุขอันใดเจ้าคะ ข้าได้ยินเสียงหัวเราะของคุณหนูมาแต่ไกล” เฟยเฟิ่งเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มขณะจัดสำรับอาหารเช้า เรื่องอันใดกันที่ทำให้คุณหนูของนางมีความสุขได้เช่นนี้

“ไม่มีอันใดมาก แล้ววันนี้มีอะไรกินหรือ” ฮุ่ยหมิงถามเฟยเฟิ่งขณะไปล้างมือเตรียมตัวกินอาหารเช้า

“เอ่อ คุณหนูเจ้าคะ อาหารเช้านี้เป็นข้าวต้มเช่นเดิมเจ้าค่ะ” เฟยเฟิ่งตอบคำถามของฮุ่ยหมิงด้วยน้ำเสียงสั่นปนเหนื่อยใจ นางไม่อยากทำลายเช้าอันสดใสของคุณหนูเลย

“ข้าก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึว่าข้าหายป่วยแล้ว เหตุใดยังมีแต่ข้าวต้มกับผัดผักอยู่ หรือเจ้าลืมบอกตามที่ข้าสั่ง” ฮุ่ยหมิงเมื่อเห็นข้าวต้มเช่นทุกวัน จากที่นางอารมณ์ดีก็เริ่มอารมณ์ขุ่นมัว นางไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียงสักหน่อยจะกินแต่ข้าวต้มได้อย่างไร แถมรสชาติไม่อร่อยจนนางกลืนไม่ลง หากต้องทนกินข้าวต้มต่อไปคงได้กัดลิ้นตัวเองตายสักวัน

“ข้าบอกตามที่คุณหนูสั่งแล้วเจ้าคะ แต่ฮูหยินยืนยันจะให้ท่านกินข้าวต้ม แถมยังบอกอีกว่าข้าวต้มมีประโยชน์มากกับคนป่วย หากท่านกินอาหารซี้ซั้วแล้วเกิดป่วยขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร” เฟยเฟิ่งพูดไปก็เบะปากมองบนไป นางรู้ว่าจางฮูหยินต้องการกลั่นแกล้งคุณหนูของนาง เนื่องจากแค้นเคืองที่คุณหนูใหญ่ทำคุณหนูรองตกน้ำ

“หึหึ ยัยแม่เลี้ยงต้องการแกล้งข้าสินะ ข้าว่าจะอยู่ของข้าดีๆ ไม่หาเรื่องแล้วแท้ๆ แต่นางดันอยากหาเรื่องข้าก่อน ได้เลย ข้าจะทำให้นางได้ดูว่านางร้ายจริงๆ เป็นยังไง” ฮุ่ยหมิงโมโหหิวมาก ในชาติก่อนนางชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ จะเรื่องอะไรนางก็ไม่โมโหเท่ากับเรื่องกิน ฮึ่ม เจ้ากระตุกหนวดข้าเสียแล้วยัยแม่เลี้ยง

“เฟยเฟิ่ง เจ้าไปโรงครัวกับข้า ข้าอยากกินต้องได้กิน ไม่ว่าใครก็ขัดขวางข้าไม่ได้ทั้งนั้น” เรื่องกินเป็นเรื่องที่ฮุ่ยหมิงคนนี้ยอมไม่ได้ นางเดินนำเฟยเฟิ่งเข้าไปที่โรงครัวอย่างรวดเร็ว ฮุ่ยหมิงต้องการกินอาหารอร่อย มีเนื้อ มีไข่ มีผัก สารอาหารครบห้าหมู่ ไม่ใช่ข้าวต้มใส่เกลือเคียงผักดองและผัดผักน้ำมันเยิ้มแบบนี้

บรรดาบ่าวรับใช้ชายหญิงต่างมองฮุ่ยหมิงที่เดินจ้ำอ้าวเข้ามาในครัวด้วยสายตาตื่นตระหนกตกใจ ร้อนรนจนจับสิ่งใดถูกผิดไปหมด ร้อยวันพันปีคุณหนูใหญ่ไม่เคยเฉียดกรายเข้ามาใกล้โรงครัวแห่งนี้สักครั้ง เหตุใดวันนี้ถึงเข้ามาได้ มองจากสีหน้าคุณหนูใหญ่แล้วไม่ได้อารมณ์ดีเท่าไหร่ ไม่พ้นวันนี้คงโดนระเบิดลงหากทำสิ่งใดไม่ถูกใจ ไม่โดนด่าทอก็ทุบตีเป็นแน่ สาเหตุคงมาจากฮูหยินใหญ่ที่สั่งให้นางทานได้แค่ข้าวต้ม และก็ไม่ผิดคาดเมื่อคุณหนูใหญ่ผู้ร้ายกาจของจวนเอ่ยปากขึ้นมา

“พวกเจ้าทำเป็นแต่ข้าวต้มกันหรือไง ข้าต้องการกินอาหารอย่างอื่นเหตุใดถึงไม่ทำให้ข้า” ฮุ่ยหมิงแสร้งถามออกมาแม้นางจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นคำสั่งของจางฮูหยิน นางอยากรู้ว่าพวกบ่าวไพร่ในจวนมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อนาง หากพวกเขาอยู่ในโอวาทของฮูหยินทั้งหมด วันหน้าหากนางต้องใช้ชีวิตอยู่ในจวนคงลำบากไม่น้อย

“เอ่อ เป็นคำสั่งของฮูหยินเจ้าค่ะ คุณหนูยังไม่หายป่วยจึงให้พวกบ่าวทำอาหารอ่อนๆ ให้” สาวใช้นางหนึ่งใจกล้าตอบคำถาม

“ตอนนี้ข้าหายดีแล้ว ต้องการกินอาหารอย่างอื่นไปเอาวัตถุดิบในครัวมาให้ข้าทั้งหมด ข้าจะทำอาหาร” หลังจากฮุ่ยหมิงพูดจบสาวใช้หลายคนต่างอ้าปากค้างรวมถึงเฟยเฟิ่งด้วย คุณหนูของนางทำอาหารเป็นตั้งแต่เมื่อใดกัน สาวใช้หลายคนหลังเห็นสายตาพิฆาตของฮุ่ยหมิงก็กุลีกุจอไปหาวัตถุดิบในครัวมาให้ แต่ระหว่างที่ฮุ่ยหมิงกำลังจะเลือกวัตถุดิบสำหรับทำอาหารอยู่นั้น ก็มีสาวใช้หน้าตาอวดดีนางหนึ่งเข้ามาแย่งวัตถุดิบจากนางพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า

“คุณหนูไม่สบายจนลืมเลือนไปหรือไม่ วัตถุดิบทุกอย่างในครัวก่อนทำอาหารต้องเบิกกับฮูหยินใหญ่ถึงจะนำมาทำได้ ข้าว่าคุณหนูไปเบิกกับฮูหยินก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ ถึงจะเป็นคุณหนูใหญ่ก็ต้องทำตามกฎใช่หรือไม่”

“ข้าไม่ไป ของที่ข้าใช้พวกเจ้าก็เห็น เมื่อข้าทำเสร็จแล้วพวกเจ้าค่อยไปขอเบิก หรือเมื่อข้าเลือกวัตถุดิบเสร็จให้สาวใช้คนไหนไปเบิกก็ย่อมได้” ฮุ่ยหมิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาติดฉุนนิดหน่อย นางแค่จะทำกับข้าวกินจะอะไรกันนักหนา

“ไม่ได้เจ้าค่ะ หากคุณหนูไม่เบิกก็ไม่สามารถนำวัตถุดิบมาทำอาหารได้ คุณหนูใหญ่ไม่ทำตามกฎเกณฑ์ผู้คนจะครหาเอาได้นะเจ้าคะว่าไม่มีผู้ใดสั่งสอน” บ่าวรับใช้ผู้ถือดีนามว่า เจียอี พูดขึ้นมา เจียอีเป็นสาวรับใช้ที่ฮูหยินใหญ่ไว้ใจไม่น้อยนางจึงไม่ได้เกรงกลัวต่อ ฮุ่ยหมิง เนื่องจากมีฮูหยินใหญ่คอยถือหาง

หน็อยแน่ สาวใช้นางนี้ช่างกล้าหาญอวดดีจริงนะ ฮุ่ยหมิง ขบเขี้ยวเงี้ยวฟันอยู่ในใจ นางตั้งใจจะมาทำอาหารกิน ไม่ได้จะมาหาเรื่องสักหน่อย แต่สาวใช้นางนี้ดันมาหลอกด่านางว่าไม่มีพ่อแม่สั่งสอน

“อย่างนั้นรึ ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำให้ดูว่าคนที่ไม่มีผู้ใดสั่งสอนเขาทำกันแบบไหน” พูดจบฮุ่ยหมิงก็สาวเท้าเข้าไปใกล้เจียอี จากนั้นจึงกระชากผมนางให้ล้มลง ตบสั่งสอนไปสองสามที ก่อนจะใช้เท้าถีบให้พ้นจากประตูห้องครัว หน็อยแน่ ชาติก่อนฉันเป็นมวยนะยะจะมาหลอกด่ากันแบบนี้ไม่ได้

“เจ้าเป็นบ่าวข้าเป็นนาย เจ้ากล้าสั่งสอนข้าขนาดนี้ เห็นทีคงมีคนถือหางอยู่หล่ะสิ รีบแจ้นไปบอกเจ้านายของเจ้าด้วยหล่ะว่าข้าทำอะไรบ้าง หากอยากมีเรื่องก็มาหาข้าที่นี่ได้เลย” ฮุ่ยหมิงมองใบหน้าบวมแดงของสาวใช้นางนั้นด้วยความสะใจ ข้าอยู่ของข้าดีๆ เจ้ามาหาเรื่องเองก็โดนซะบ้าง เจียอีมองหน้านางด้วยสายตาเคียดแค้นก่อนจะวิ่งหายไปทางเรือนใหญ่ คงไปฟ้องเจ้านายสิท่า ฮุ่ยหมิงไม่ได้สนใจเจียอีอีก นางหันมาเตรียมวัตถุดิบทำอาหารต่อ วันนี้จะทำหมูตุ๋น น้ำซุปไก่ กับผัดกุ้ยช่ายกินให้อร่อยสักหน่อย

ผ่านไปไม่นานฮุ่ยหมิงก็ทำอาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ยกเว้นหมูสามชั้นตุ๋นที่นางต้องยืนรอให้เปื่อยอีกสักพัก แต่แล้วก็ดันได้ยินเสียงแม่เลี้ยงตัวแสบดังขัดอารมณ์ขึ้นจนได้

“ฮุ่ยหมิง เจ้าออกมาคุยกับข้าให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้ นางแค่บอกให้เจ้าไปเบิกวัตถุดิบกับข้า เหตุใดเจ้าต้องทำรุนแรงกับสาวใช้ถึงเพียงนี้ ทำไมเจ้าถึงได้เลวร้ายเยี่ยงนี้ เจ้าถูกโบยไปยังไม่เข็ดหลาบอีกหรือ ฟื้นขึ้นมาก็หาเรื่องทำร้ายผู้อื่นเลย” จางฮูหยินพูดกับนางด้วยน้ำเสียงเดือดดาลไม่น้อย แค่ได้ยินเรื่องที่สาวใช้มาฟ้องนางก็โมโหจนแทบทนไม่ไหว

“แหมท่านป้า ท่านมาถึงก็หาว่าข้าร้ายกาจอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ท่านไม่ถามข้าหน่อยหรือว่าทำไมถึงทำร้ายนาง อ้อแล้วนางได้บอกท่านด้วยหรือไม่ว่านางเป็นบ่าวรับใช้กลับกล้าพูดต่อว่าข้า ว่าข้าไม่มีผู้ใดสั่งสอน”

“ฮึ มันก็จริงของนางมิใช่รึหากเจ้ามีผู้ใดสั่งสอน เหตุใดจะเป็นผู้หญิงร้ายกาจหน้าไม่อายเยี่ยงนี้ได้” จางฮูหยินพูดกับฮุ่ยหมิงด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“อ้อ ถ้าอย่างนั้นบ่าวรับใช้ที่ได้รับการสั่งสอนอย่างนาง กล้าว่าเจ้านายเช่นข้า ผู้ที่สั่งสอนนางคงไม่มีความรู้ความสามารถกระมังถึงได้สั่งสอนได้แย่เยี่ยงนี้ หากไม่มีความสามารถทำให้นางอยู่ในโอวาทได้สักวันคงได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนหัวผู้สั่งสอนเป็นแน่”

“นี่เจ้า เจ้าว่าข้าอย่างนั้นหรือ ข้าจะฟ้องพ่อเจ้าว่าเจ้าร้ายกาจขนาดไหน”

“อุ้ย ข้ายังไม่ได้ว่าท่านป้าสักคำเลยนะเจ้าคะ มีแต่ท่านที่ร้อนตัวไปเอง” ฮุ่ยหมิงเอามือป้องปากหัวเราะน้อยๆ อย่างอารมณ์ดี ทำให้จางฮูหยินโกรธจนถึงขั้นหน้ามืดเป็นลม แหมมม ข้าคนนี้ไม่ใช่ฮุ่ยหมิงคนเดิมที่เอาแต่ร้องกรี๊ดเวลาโมโห ไล่ตบตีคนอื่นอย่างหน้ามืดตามัวหรอกนะ ข้าฉลาดกว่านั้น แต่คงเหมือนกันตรงที่ชอบตบตีคนอื่นนี่แหละเพราะข้าเป็นคนไม่ชอบยอมแพ้ ถ้ารังแกมาข้าก็สู้ไม่ถอยเหมือนกัน ดูซิจะทำยังไงต่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 36 ขอบคุณ (ตอนจบ)

    เวลาสิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตของ ฮุ่ยหมิงจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ตอนนี้นางมีสามีแสนที่ดีและครอบครัวที่อบอุ่น (จริงหรือ) อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน“หมิงเออร์เจ้าคิดสิ่งใดอยู่ พี่เห็นเจ้าเหม่อลอยนานแล้ว” หวงเฟยหลงพึ่งพาลูกชายทั้งสามคนกลับมาจากในเมืองเอ่ยถามขึ้น เขาเห็นนางนั่งใจลอยตั้งแต่อยู่หน้าบ้าน“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ แล้วลูกชายทั้งสามของท่านหล่ะ คงไม่ได้ไปก่อเรื่องให้ข้าปวดหัวอีกใช่หรือไม่” ฮุ่ยหมิงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายหลังจากคลอดลูกชายคนแรกได้เพียงหนึ่งปีนางก็ตั้งครรภ์เจ้าก้อนแป้งคนที่สองและสามตามมา ท้องนี้เล่นเอานางเกือบแย่เหมือนกัน นางแพ้ท้องหนักมากและตอนคลอดก็ลำบากเช่นกันเพราะเป็นลูกชายฝาแฝด หลังจากท้องครั้งนั้นฮุ่ยหมิงก็เข็ดขยาดไม่ยอมมีเจ้าก้อนแป้งอีกเลย แม้ว่าคุณพ่อลูกสามอย่างหวงเฟยหลงจะอ้อนวอนขอลูกสาวจากนางทุกเมื่อเชื่อวันก็ตามที“หือ ลูกไม่ได้ก่อเรื่องอะไรนี่” หวงเฟยหลงตอบเสียงสูงออกมาอย่างมีพิรุธ“อย่าให้ข้ารู้แล้วกันว่าลูกของท่านไปก่อเรื่องอะไรมา” ฮุ่ยหมิงมองหน้าเขาอย่างคาดโทษ เหตุผลที่นางชอบพูดว่าลูก ของเขา ก็เพราะลูกชายทั้งสามคนที่นางอุ้มท้องและคลอ

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 35 ข้าโชคดีที่เลือกท่าน

    หลังจากหมอชราได้ตรวจสอบดูอาการของฮุ่ยหมิงอย่าง ถี่ถ้วนแล้ว เขาก็หันมาแสดงความยินดีกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างรวดเร็ว“ยินดีด้วยนายท่าน ฮูหยินตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้ว” หมอชราเอ่ยบอกกับหวงเฟยหลงด้วยรอยยิ้มยินดี“จริงหรือท่านหมอ ขะ ข้าจะได้เป็นพ่อคนแล้วจริงหรือ” หวงเฟยหลงไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขารอคอยวันนี้มานานในที่สุดก็กลายเป็นจริง“จริงนายท่าน ข้าเอาหัวเป็นประกัน เดี๋ยวข้าจัดยาบำรุงครรภ์ไว้ให้ฮูหยินด้วยเลย” หมอชรายืนยันให้หวงเฟยหลงฟังอีกครั้ง ก่อนลงมือจัดเทียบยาจนเรียบร้อยเสร็จสรรพ“ท่านหมอ แล้วข้าต้องดูแลนางยังไงบ้าง” หวงเฟยหลงสอบถามเรื่องการดูแลฮุ่ยหมิงระหว่างตั้งครรภ์ออกมา เขากังวลว่าตนเองจะทำอะไรผิดพลาดจนกระทบไปถึงเจ้าก้อนแป้งในครรภ์ เขาต้องการให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี“ในช่วงสองถึงสามเดือนอาการเบื้องต้นของฮูหยินมีเพียงแพ้ท้อง เบื่ออาหาร อ่อนเพลียง่าย อารมณ์แปรปรวน ท่านต้องดูแลเอาใจใส่ให้ดี อย่าให้ฮูหยินเดินเหินมากเกินไปและหลีกเลี่ยงการ ยกของหนักเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว” หมอชราอธิบายรายละเอียดให้ หวงเฟยหลงฟังอย่างครบถ้วน“ข้าจะดูแลนางให้ดี หากมีอันใดคงต้องรบกวนท่านอีก

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 34 เริ่มต้นใหม่

    ข่าวการตายของหวงเฟยหลงหรือที่รู้จักกันในนามฮ่องเต้ทรราชแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดิน แม้จะได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ทรราชแต่ขณะที่เขาครองราชย์ประชาชนทั้งหลายกลับมิได้อดอยากอย่างเช่นที่ผ่านมา ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้นไม่น้อยเนื่องจากขุนนางทั้งหลายถูกส่งออกมายังหัวเมือง ปัญหาเรื้อรังที่มีอยู่จึงได้รับการแก้ไข การจากไปของหวงเฟยหลงได้รับความอาลัยจากราษฎรกว่าครึ่งแผ่นดินหลังจากสังหารพี่ชายหวงเฟยเทียนก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ของแผ่นดิน ส่วนฮองเฮาคู่บัลลังก์ก็ยังคงเป็นเฉินอ้ายเหม่ย อย่างในอดีตที่ผ่านมา เหตุการณ์บ้านเมืองกลับมาสงบสุขอีกครั้ง วิถีชีวิตของผู้คนก็เป็นไปอย่างปกติวิสัย เช่นเดียวกันกับครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านเชิงเขาอันเงียบสงบ“ฮ่าๆๆๆ ท่านอย่าแกล้งข้า หยุดเดี๋ยวนี้ ฮ่าๆๆ” ฮุ่ยหมิงหัวเราะออกมาไม่หยุดเมื่อโดนสามีอย่างหวงเฟยหลงปลุกด้วยการจั๊กจี้“ก็เจ้าไม่ยอมตื่นเสียที สายจนตะวันโด่งขนาดนี้แล้ว เจ้าไม่สบายหรือเปล่า” หวงเฟยหลงหยุดมือที่กำลังจั๊กจี้บนเอวนางไว้ แล้วเลื่อนขึ้นมาแตะบนหน้าผากแทน“ข้าสบายดีเจ้าค่ะ มิได้ตัวร้อนหรือเจ็บปวดอันใดแค่อ่อนเพลียนิดหน่อย สงสัยใกล้เข้าหน

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 33 บัลลังก์ที่ไม่อยากได้

    การปกครองของหวงเฟยหลงดำเนินไปด้วยความไม่พอใจของขุนนางหลายฝ่าย และนับวันความไม่พอใจก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากหวงเฟยหลงไม่ยอมฟังผู้ใด เขาไม่ยอมพัฒนากองทัพ แต่เลือกส่งทหารประจำการเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยทางธรรมชาติแทน หมอหลวงถูกส่งไปยังพื้นที่โรคระบาด ขุนนางทั้งหลายถูกไล่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเมืองเพื่อดูแลช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยหนาว ภัยความแห้งแล้ง ขุนนางหลายคนต้องลำบากลำบนไปยังหัวเมืองห่างไกล พวกเขาจึงเกิดความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด ไม่เคยมีฮ่องเต้องค์ใดกระทำการเช่นนี้มาก่อน มีเพียงหวงเฟยหลงเท่านั้นการต่อต้านในราชสำนักเกิดขึ้นอย่างลับๆ แต่ถึงแม้จะลับเพียงใดก็ยังไม่รอดพ้นสายตาของหวงเฟยหลง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคลื่อนไหวต่างตกอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด หวงเฟยหลงเลือกเงียบเอาไว้ ในยามนี้เขาไม่ต้องการตอบโต้อันใด เพียงรอคอยให้ถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจะสะสางเรื่องทั้งหมดให้จบลงในคราเดียวเมื่อฮ่องเต้ผู้นั่งบัลลังก์คนปัจจุบันไม่เป็นที่พึงพอใจ ขุนนางทั้งหลายจึงคิดหาทางนำตัวฮ่องเต้องค์ก่อนอย่างหวงเฟยเทียนกลับมา พวกเขาวางแผนสืบเสาะหาและติดต่อกับหวงเฟยเทียนอย่างลับๆ การไปมาหาสู่กันในช่วงเวลายาก

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 32 ฮ่องเต้ทรราช

    หวงเฟยหลงขึ้นครองราชย์มาได้เกือบสองปีแล้วแต่ยังไร้วี่แววของฮองเฮาคู่บัลลังก์ เหล่าขุนนางทั้งหลายในราชสำนักจึงพยายามเสนอบุตรหลานของตนเองให้เขาเต็มที่ แต่หวงเฟยหลงหาได้สนใจใครเขายังคงดื้อด้านไม่ยอมแต่งงานใหม่ พร้อมกันนั้นก็ดำเนินการสร้างตำหนักแสนสวยงามขึ้นมาเพื่อระลึกถึงพระชายาที่จากไป ขุนนางและเหล่าราษฎรทั้งหลายต่างรับรู้กันถ้วนหน้าว่า หวงเฟยหลงรักปักใจต่อพระชายาเอกอย่างจางฮุ่ยหมิงมากเพียงใด“ฮ่องเต้พะยะค่ะ เรื่อง เอ่อ เรื่อง” ขุนนางในราชสำนักคนหนึ่งมีท่าทีกระอักกระอ่วนเมื่อต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมา“มีอันใด เจ้าพูดออกมาเถอะ วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์สั่งประหารใคร” หวงเฟยหลงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ การประชุมในท้องพระโรงวันนี้เลยกำหนดเวลามากว่าครึ่งค่อนวันแล้ว เขาอยากกลับไปพักผ่อนเต็มที“ระ เรื่องฮองเฮาพะยะค่ะ อะเอ่อ พระองค์ทรงครองราชย์มาได้เกือบสองปีแล้ว หากว่ายังไม่มีฮองเฮาเคียงบัลลังก์คงไม่เป็นการเหมาะสมเท่าไหร่ ตามโบราณราชประเพณีแล้ว”ยังไม่ทันที่ขุนนางคนนั้นจะพูดจบ หวงเฟยหลงก็ยกมือขึ้นปรามเป็นเชิงบอกให้เขาหยุดพูดทันที“เจ้าช่างใจกล้าดีจริง สงสัยอยากถูกประหารเหมือนเสนาบดีกลาโหมคนก่อนกระมัง” หวง

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 31 หลบหนี

    หวงเฟยหลงเมื่อเห็นร่างของฮุ่ยหมิงร่วงหล่นลงไปต่อหน้าต่อตาก็ไม่อาจทำใจยอมรับได้ เขารู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังพังทลายลงตรงหน้า ไม่มีนางเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไร หวงเฟยหลงเคียดแค้นไทเฮาอย่างถึงที่สุด เขาไม่เคยคิดทำร้ายหวงเฟยเทียน เลยสักครั้ง หลีกเลี่ยงการแย่งชิงอำนาจมาตลอด แต่สิ่งที่เขาได้รับวันนี้มันคืออะไรในเมื่อคนพวกนี้ทำร้ายเขาให้เจ็บปวดอย่างสุดแสนเขาก็จะทำให้คนพวกนี้ได้รับรู้ถึงความทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน เมื่อตั้งสติได้หวงเฟยหลงก็ประกาศตัดขาดกับหวงเฟยเทียนอย่างไม่ไยดีทันที เขาสาบานว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันให้อภัยหวงเฟยเทียนกับไทเฮาเป็นอันเด็ดขาด จะตามล่าพวกเขาให้ได้รับรู้ถึงรสชาติของการอยู่ไม่สู้ตายเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างจบลงเช่นนี้หวงเฟยเทียนจึงรีบเร่งพาไทเฮาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลบหนีไป เขาได้รับการช่วยเหลือจากฮองเฮาจึงหลบหนีออกมาได้ ท่านพ่อของนางเป็นแม่ทัพใหญ่แม้ในตอนนี้ถูกยึดอำนาจไปแต่ก็ยังมีเหล่าทหารผู้จงรักภักดีพร้อมรับใช้อยู่หลังจากทหารของหวงเฟยหลงบุกเข้ายึดอำนาจภายใน วังหลวงได้ ท่านพ่อก็ให้ทหารบางส่วนพานางหนีออกมา พร้อมทั้งกำชับว่าต้องช่วยเหลือฮ่องเต้ให้ได้ โชค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status