"ว่าแต่ เมื่อคืนที่หออู๋โยวเกิดเรื่องใหญ่โตปานนั้น เหตุใดวันนี้ถึงไม่มีข่าวเลย?"กู้ชูหน่วนโพล่งถามขึ้น "ยังต้องเดาอีกหรือ? แน่นอนว่าเพราะเทพสงครามปิดข่าวน่ะสิ สำหรับพวกเขาแล้วมิใช่เรื่องเชิดหน้าชูตาสักเท่าไรอยู่แล้ว""ลูกพี่ เจ้าดู นั่นเยี่ยเฟิงมิใช่รึ?" อวี๋ฮุยเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจกู้ชูหน่วนช้อนตาขึ้นมอง ชายหนุ่มตรงหน้าแม้จะสวมชุดหน้าผ้าเนื้อหยาบ แต่ใบหน้าของเขานั้นหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง กลิ่นอายบัณฑิตคงแค่เรียนแผ่ซ่านทั้งยังให้ความรู้สึกเย็นชาสันโดษเครื่องหน้าของเขาชัดเจน รูปงามยิ่งนัก ทว่าใบหน้านั้นขาวซีดเพราะอาการป่วยเซียวอวี่เชียนเอ่ยพึมพำกับตัว "แปลกนัก เมื่อวานเยี่ยเฟิงยังดีๆ อยู่เลย หรือว่าเป็นเพราะเจ้าโถมตัวล้มใส่เขา เขาถึงเสียขวัญจนล้มป่วยเอาน่ะ"กู้ชูหน่วนมุมปากกระตุกนางสะดุดขาโต๊ะแล้วล้มทับเขาโดยไม่ทันระวังไหมเล่าอีกอย่าง ถึงเยี่ยเฟิงจะพยายามทำตัวเหมือนคนธรรมดา แต่ลมหายใจของเขานั้นไม่สม่ำเสมอ เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัสหลังจากพวกนางกลับไปเมื่อวานนี้ ใครทำร้ายเยี่ยเฟิงกัน?กู้ชูหน่วนพลันนึกถึงตอนที่นางล้มทับเยี่ยเฟิงเมื่อคืนวาน ความหวาดกลัวและรังสีอาฆาตฉายวาบ
"คุณหนูสามกู้ ข้าให้คนตุ๋นน้ำแกงลูกบัว ล้างตับดับร้อนใน เจ้าลองชิมดู"องค์หญิงตังตังยกน้ำแกงลูกบัวถ้วยหนึ่งยื่นให้กู้ชูหน่วนด้วยท่าทีแสนเย่อหยิ่ง แต่ใบหน้ากลับฉีกยิ้มกว้างสดใสทุกคนตกตะลึงเมื่อครู่องค์หญิงตังตังกับคุณหนูสามกู้แทบจะชักกระบี่ออกมาแทงกันอยู่แล้ว ยามนี้เหตุใดถึงยกน้ำแกงมาให้นาง เปลี่ยนสีเร็วเกินไปแล้วกระมังเซียวอวี่เชียนนี่นั่งข้างกู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว ใช้พัดขวางน้ำแกงของนางเอาไว้ "องค์หญิง ในน้ำแกงลูกบัวนี้ ได้ใส่เครื่องปรุงแปลกปลอมอะไรไปหรอกใช่ไหม""เรื่องก่อนหน้านี้ ข้าผิดเอง ไม่ควรระรานเจ้า ดังนั้นข้าถึงได้ให้คนเคี่ยวน้ำแกงถ้วยนี้มาให้ ข้าอยากสานสัมพันธ์อีกครั้ง คุณหนูสามกู้ เจ้าเป็นคนดีมีเมตตา คงไม่ถือโทษโกรธข้าใช่ไหม"องค์หญิงตังตังหน้าตาน่ารัก ยู่ปากออดอ้อนเช่นนี้ยิ่งดูใสซื่อไร้พิษภัย หากไม่รู้นิสัยชอบรังแกคนของนาง ทุกคนคงถูกภาพลักษณ์ภายนอกของนางล่อลวงเอาได้กู้ชูหน่วนมองไปที่น้ำแกงในมือของนาง สายตาเย็นชาหรี่ลง หันไปมองกู้ชูอวิ๋นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะยกยิ้มร้ายมีเลศนัยนางรับน้ำแกงลูกบัวมาด้วยความยินดี ก่อนจะยิ้มเอ่ย "องค์หญิงช่างจิตใจดีมีเมตตา ข้าจะถื
เยี่ยเฟิงพูดน้อยเหลือเกิน กู้ชูหน่วนชักรู้สึกเบื่อ นางยืดเอวบิดขี้เกียจ ความง่วงมาเยือน "ข้าของีบแป๊บหนึ่ง เริ่มเรียนแล้วปลุกข้าด้วย"นางว่าจบก็ขยับตาหาท่าสบาย ก่อนจะผล็อยหลับไปทุกคนต่างนิ่งอึ้งหลับอีกแล้ว?เหตุใดนางถึงได้หลับในคาบเรียนได้ทุกวี่ทุกวัน?หรือว่าคนเรียนเก่งจะเรียนตอนอยู่ในฝันด้วยเมื่อกู้ชูหน่วนสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา อาจารย์สวีกำลังสอนหนังสือไม่หยุดปากนางถูกปลุกขึ้นมาจากความง่วงไม่ได้ให้เซียวอวี่เชียนปลุกนางแล้วหรอกหรือ?ไม่รู้ว่าคราวนี้ตาแก่สวีจะหากเรื่องอะไรนางอีก"บัณฑิตเล่าเรียน ฟังด้วยหู รู้ด้วยใจ กายใจสอดประสาน กลายเป็นจริยวัตรงดงาม..."กู้ชูหน่วนขยี้ดวงตาปรือให้ตื่น ยังไม่ทันตั้งสติได้ว่าเกิดอะไรขึ้น กลับได้ยินอาจารย์สวีเอ่ยเสียงดีอกดีใจ"คุณหนูสามกู้ตื่นแล้ว เช่นนั้นให้คุณหนูสามกู้อธิบายต่อ"อธิบาย?อธิบายอะไร?กู้ชูหน่วนหันไปมองเซียวอวี่เชียนกะพริบตาปริบๆเซียวอวี่เชียนยกหนังสือขึ้นบังหน้า เบือนหน้าไปทางอื่นเสียอย่างนั้นอาจารย์สวีพูดพล่ามยาวเหยียด เขาจะรู้ได้ยังไงว่าอาจารย์สวีพูดเรื่องอะไรกู้ชูหน่วนหันไปทางเยี่ยเฟิง ส่งสายตาให้เขาไม่หยุด แต่
เซียวอวี่เชียนเหลียวมา เอ่ยกระซิบ "เจ้าคงไม่คิดจะวาดห้าสิบรอบจริงๆ ใช่ไหม""ข้าเป็นนักเรียนว่าง่าย อาจารย์สั่งการบ้าน จะไม่ตั้งใจทำได้อย่างไร"คำพูดพวกนี้หากเป็นคนอื่นพูด คงไม่แปลกอะไร แต่พอออกจากปากของกู้ชูหน่วน ใครก็รู้สึกว่ามีอะไรแอบแฝงกู้ชูหน่วนนั่งตรงกลาง เยี่ยเฟิงและเซียวอวี่เชียนนั่งขนาบนางซ้ายขวาทั้งสองหันมามองภาพที่นางวาดไม่เห็นไม่เท่าไหร่ ทว่าพอทั้งสองเห็นแล้ว ใบหน้าของเยี่ยเฟิงก็แดงก่ำ ส่วนเซียวอวี่เชียนก็ลุกพรวดขึ้น น้ำเสียงตื่นตกใจเอ่ย "ยัยขี้เหร่ เหตุใดเจ้าถึงวาดภาพต้องห้าม...ลามก...อนาจารเช่นนี้?"เซียวอวี่เชียนเสียงดังยิ่งนัก จนคนทั้งห้องเรียนได้ยินกันหมดแล้ว จึงพากันเหลียวมาทางเซียวอวี่เชียนและกู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนถลึงตาใส่เขาปากเปราะพูดอะไรไปเรื่อยนางยังทันไม่ได้ส่งภาพนี้ไปทั่วทั้งสำนักบัณฑิต หรือทั้งเมืองหลวงเลย คนอื่นจะรู้ได้อย่างไรว่าเทพสงครามกับอาจารย์ซ่างกวานนั้นรูปงามเพียงใด"กู้ชูหน่วน มาที่หน้าห้องแล้วเปิดภาพของเจ้า" อาจารย์ซ่างกวานยืนอยู่หน้ากระดาน เรียวคิ้วดำงามเลิกขึ้นเล็กน้อย มีลางสังหรณ์ว่าภาพนั้นจะเกี่ยวกับตัวเอง?"อาจารย์ เมื่อครู่ข้าหลั
กู้ชูหน่วนร้อนรนจะทำอะไรถูกนางหมายจะแย่งภาพวาดกลับมา แต่ซ่างกวานฉู่กลับเก็บเข้าไปในอกเสื้อต่อหน้าคนทั้งห้องเรียน จะให้นางแย่งภาพออกมาจากอกเสื้อของอาจารย์คงไม่ดีกระมังทว่าอาจารย์ซ่างกวานกลับยิ้มบางพลางเอ่ย "คุณหนูสามกู้วาดข้าเสียเหมือนจริงปานนั้น ใบหน้าของข้าคงตราตรึงอยู่ในหัวของคุณหนูสามมานานแล้วสินะ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นคุณหนูสามก็วาดภาพเหมือนของข้านี้อีกสักร้อยภาพก็แล้วกัน หากก่อนจบคาบบ่ายนี้ยังวาดไม่เสร็จ เหอะ...เช่นนั้นก็วิ่งรอบสำนักบัณฑิตหลวงห้าร้อยรอบแทนก็แล้วกัน"เพิ่งต้นฤดูใบไม้ผลิแท้ๆ แต่อาจารย์ซ่างกวานกลับยิ้มเย็นปานลมวสันต์พัดผ่าน ทำเอาทุกคนตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้กู้ชูหน่วนเขกหัวตัวเองนางพลาดแล้วชายผู้นี้หน้าหนากว่าที่คิดไว้เยอะห้าร้อยรอบอย่างนั้นหรือเหตุใดไม่พูดว่าให้นางวิ่งจนกว่าจะขาดใจตายไปเลยเล่า"เลิกเรียนได้ เยี่ยเฟิงตามข้าไปรับเครื่องแบบบัณฑิต" อาจารย์ซ่างกวานเอ่ย ก่อนจะออกไปจากห้องเรียนกู้ชูหน่วนนั่นลงอย่างสลดคนในห้องถกเถียงกันไปต่างๆ นานา"พวกเจ้าว่าเทพสงครามจะกินนางทั้งเป็นเลยหรือไม่?""แน่นอนสิ เทพสงครามฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตา มีเรื่องใดที่ทำไม
"เพ้อเจ้ออะไรของเจ้า รีบไปเอาของมา" กู้ชูหน่วนเตะหลิ่วเยว่ เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์เรื่องที่กู้ชูหน่วนวาดภาพหวานแหววระหว่างเทพสงครามและอาจารย์ แพร่ไปทั่วทั้งสำนักบัณฑิต รวมทั้งเรื่องที่อาจารย์ซ่างกวานลงโทษนางให้วาดภาพอีกร้อยรอบก็เป็นที่รู้กันแล้วด้วยคนไม่น้อยเข้ามามุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากดูว่าคุณหนูสามกู้ที่เล่าลือกันว่าเป็นยอดฝีมือนั้น จะวาดภาพของอาจารย์ซ่างกวานหนึ่งร้อยภาพภายในพักเที่ยงได้อย่างไรห้องเรียนถูกล้อมจนไม่มีทางเข้าออกพวกเขาคิดว่าคุณหนูสามกู้ต้องกำลังวาดอย่างเอาเป็นเอาตายแน่นอนคิดไม่ถึงเลยว่านางกำลังกินข้าวอย่างอ้อยอิ่ง กินข้าวเสร็จแล้วยังใช้มีดเล็กแกะสลักอะไรบางอย่างบนแผ่นไม้กระดานอีกทุกคนมึนงง"หรือว่าคุณหนูสามกู้กดดันจนยอมแพ้แล้ว""ข้าว่าเป็นไปได้ ตั้งร้อยภาพแหนะ ต่อให้เป็นเทพเซียนก็วาดไม่ได้หรอก ต่อให้วาดออกมาได้ เทพสงครามก็ไม่ไว้ชีวิตนางแน่ หากข้าเป็นนางก็คงไม่เสียช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตไปกับเรื่องพวกนี้หรอก""แปลกนัก เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าคุณสามกู้ถึงดูเหมือนไม่กลัวเลยสักนิด หรือว่าข้าตาฝาดไป""เจ้าว่าคุณหนูสามกู้แกะสลักอะไรอยู่?""จะแกะสลักอะไรได
เวลาสั้นๆ เพียงสิบห้านาที แม้แต่ภาพแรกยังวาดไม่เสร็จ แล้วจะวาดหนึ่งร้อยภาพเสร็จได้อย่างไรแล้วก็...เงินสิบล้านตำลึงนั้นมหาศาล...คุณหนูสามกู้รวยปานนั้นเชียวเซียวอวี่เชียนรั้งนางเอาไว้ น้ำเสียงร้อนใจ "ยัยขี้เหร่ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เงินตั้งสิบล้านตำลึง ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ""วางใจน่า แม่หญิงคนนี้เดิมพันแล้วย่อมชนะ ไม่มีทางแพ้หรอกน่า""ก็แค่หยกประดับ เจ้าอยากได้กี่อันข้าจะยกให้หมดเลย ไม่จำเป็นต้องเดิมพันเงินสิบล้านตำลึงกับหยกบ้าบอนั่นหรอก""ของที่เงินซื้อไม่ได้ ข้าชอบ"แววตาของกู้ชูหน่วนเปล่งประกายแปลกพิกลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบองค์หญิงตังตัง นางก็ถูกใจหยกจันทร์เสี้ยวที่ห้อยเอวอีกฝ่ายแล้วหยกชิ้นนี้แสนธรรมดา หากโยนลงไปในกองหยกคงจมมิดจนแยกไม่ออก แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นางถึงได้ชอบหยกชิ้นนี้นัก ยิ่งหลังจากได้กระดิ่งภินวิญญาณมาแล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกว่ากลิ่นอายของยกจันทร์เสี้ยวนี้ช่างเหมือนกับกระดิ่งภินวิญญาณเหลือเกินจากรูปการณ์แล้วองค์หญิงตังตังอยากจะตอบตกลงแต่พอนึกขึ้นได้ว่ากู้ชูหน่วนอาจใช้กลโกง ประกอบกับหยกประดับห้อยเอวนี้สำคัญกับนางมาก นั่นคือของดูต่างหน้าเพียงหนึ่งเดียวที่เสด็จพ
องค์หญิงตังตังสัมผัสได้ว่าทุกคนมองนางด้วยสายตาที่แปลกไป รู้สึกอับอายเหลือทน"กู้ชูหน่วน พูดจาเพ้อเจ้ออะไรของเจ้า ข้ามีระดูตั้งแต่เมื่อใด"กู้ชูหน่วนมองด้านหลังนางก่อนจะเอ่ยปากขมุบขมิบ "กระโปรงเปื้อนเลือดขนาดนั้น หรือว่าเจ้าบาดเจ็บล่ะ?"องค์หญิงตังตังเหลียวไปมองข้างหลัง กระโปรงขาวดุจหิมะของนางเปื้อนหยดเลือดจริงๆ ด้วย แต่ก็แค่หยดเดียว หากไม่เพ่งมองก็แทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำแต่ว่าเลือดหยดนั้น ก็พอที่จะทำให้นางสติแตกได้ บวกกับคำพูดเถรตรงแสลงหูของกู้ชูหน่วน องค์หญิงตังตังทั้งโกรธทั้งอาย แผดเสียงกรีดร้อง "กรี๊ดดด..."นางหันหลังแล้ววิ่งออกไปอย่างเสียสติกู้ชูหน่วนขวางทางนางไว้ได้ทันเวลา หัวเราะคิกคักพลางเอ่ย "เอาล่ะ หนึ่งร้อยแผ่นเสร็จแล้ว ข้าพิมพ์อีกร้อยแผ่นเผื่อให้เจ้า ไม่ต้องขอบคุณหรอก ส่งหยกประดับมาก็พอ"องค์หญิงตังตังไม่อยากมอบมันให้นาง หยกประดับนี้แม้นางจะไม่ถูกใจ แต่เสด็จแม่เห็นมันประหนึ่งสมบัติล้ำค่า บังคับให้นางห้อยติดตัวทุกวัน ทุกครั้งที่พบเสด็จแม่ นางจะตรวจสอบเสมอว่าหยกประดับยังอยู่หรือไม่หากเสด็จแม่รู้ว่านางแพ้เดิมพันจนต้องเสียหยกประดับ คงตีนางจนตายแน่ๆกู้ชูหน่วนยิ้มร้าย
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ