"หากไม่มีข้า อย่าว่าแต่ขาท่านสองข้างเลย เกรงว่าขาที่สามของท่านก็คงยืนไม่ได้"คำพูดนี้ไม่แรงเท่าใด แต่เป็นการดูถูกอย่างมากเย่จิ่งหานรู้สึกเย็นเยือกเขากัดฟันเอ่ย "เช่นนั้นเจ้าอยากลองดูหรือไม่ว่าขาที่สามของข้าจะใช้การได้หรือไม่"กู้ชูหน่วนหดคอ ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อรักษาระยะห่างจากเขา และเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "ท่านเก่ง ขาที่สามของท่านเก่งที่สุดแล้ว"คำพูดแสนธรรมดาของนางแทงใจดำเย่จิ่งหานอย่างยิ่งเย่จิ่งหานยื่นมือเรียวยาวคว้าตัวนางเข้าสู่อ้อมกอด กู้ชูหน่วนลื่นตัวออกไปราวกับปลาไหลแต่มือของเย่จิ่งหานราวกับมีตา ไม่ว่านางจะหลบอย่างไรก็ยังถูกเขาคว้าไว้ในอ้อมกอด และดิ้นไม่หลุดนี่คือความแตกต่างของพลังแม้เย่จิ่งหานจะสูญเสียพลังภายในไปมาก แต่นางก็ไม่อาจต่อกรกับเขาได้ด้วยวิทยายุทธเพียงขั้นสี่ลมหายใจของเขาพ่นรดใบหน้านางเมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของเย่จิ่งหานกู้ชูหน่วนรู้สึกได้ว่าลมหายใจของเขาหนักอึ้งขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น มองนางด้วยสายตาที่ซับซ้อนราวกับจะทำอะไรบางอย่างกับนาง แต่ก็ลังเลกู้ชูหน่วนจึงทำใจให้สบาย และยิ้มเอ่ยว่า "ท่านอ๋อง ท่านหน้าแดง"เย่จิ่งหานชั
"ท่านอ๋อง ท่านควรปล่อยข้าได้แล้ว"กู้ชูหน่วนพยายามผลักเย่จิ่งหานออก แต่เขาแข็งแกร่งราวกับกำแพงทองแดง ไม่สามารถผลักออกไปได้เลยทันใดนั้น เย่จิ่งหานก็โอบกอดนางอย่างเอาแต่ใจ และประทับรอยจูบกู้ชูหน่วนตกใจชายผู้นี้กล้าทำแบบนี้กับนางจริงๆกู้ชูหน่วนดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่ยิ่งนางต่อสู้ เย่จิ่งหานก็ยิ่งเอาแต่ใจกู้ชูหน่วนยกเท้าขึ้นด้วยความโกรธ และเตะไปที่จุดสำคัญของเขา"ซี้ด......"เย่จิ่งหานเจ็บปวด สูดหายใจเข้าด้วยความตะลึง และจ้องมองนางด้วยความโกรธ"เจ้าอยากให้ข้าสูญพันธุ์รึ?""คุณหนูอย่างข้าไม่ชอบถูกบังคับ ยิ่งไม่ชอบอยู่ข้างล่าง ข้าชอบอยู่ข้างบน"เอ่ยจบ กู้ชูหน่วนก็เอามือโอบคอของเขา และโจมตีเย่จิ่งหานกลับเย่จิ่งหานรู้สึกถึงความพินาศแล้วใครก็ได้บอกเขาหน่อยว่า เขาแต่งงานกับภรรยาแบบใดกัน?ทำไมเขารู้สึกเหมือนเขาเป็นภรรยาเสียเอง?บนรถม้าปรากฏบรรยากาศอันน่าอับอายคนขับรถม้าได้ยินก็หน้าแดงขณะที่พวกเขากำลังจะก้าวไปถึงขั้นสุดท้าย รถม้าก็กระแทกเข้ากับหินอย่างแรง เกือบจะพลิกคว่ำกู้ชูหน่วนเสียการทรงตัว และแทบจะกลิ้งตกลงจากรถม้าสีหน้าของเย่จิ่งหานมืดมนลง "หากเจ้ากล้าชนหินอีก
ตึง...กู้ชูหน่วนพลิกตัวลงจากม้า ท่าทางคล่องแคล่วว่องไว นางตวัดปลายเท้าเกี่ยวดาบเล่มหนึ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเข้าไปร่วมวงต่อสู้ผู้ที่มีชีพจรยุทธอยู่ที่ชั้นสี่เหมือนกัน ทว่ายังไม่ทันจะได้สัมผัสปลายเสื้อของกู้ชูหน่วนก็ถูกนางใช้มีดจ่อที่คอแล้วดวงตาของเย่จิ่งหานหรี่ลงเล็กน้อยวิธีการใช้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนช่างพิเศษไม่เหมือนใคร เขาดูอยู่นาน ก็ยังดูไม่ออกว่านางมาจากสำนักใดกันแน่ทว่านางเคลื่อนไหวว่องไว โจมตีและตั้งรับได้อย่างเหมาะสม จู่โจมเข้าที่จุดตายของอีกฝั่งโดยไม่ทันตั้งตัวอยู่บ่อยๆ ไม่เหมือนผู้ที่ไม่เคยฝึกวิทยายุทธมาก่อนชีพจรยุทธของนางอยู่เพียงแค่ชั้นสี่ แต่นางสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือขั้นหนึ่งได้อย่างสูสี ไม่ได้ด้อยไปกว่าเลยเย่จิ่งหานอดไม่ได้ที่จะชื่นชมนางยิ่งกว่าเดิมเรื่องที่เขาเดินทางมารักษาอาการบาดเจ็บที่เมืองอู๋ซวงครั้งนี้ เป็นความลับสุดยอดยามนี้ตัวตนถูกเปิดเผย ไอสังหารในดวงตาของเย่จิ่งหานฉายประกายวับหนึ่งเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่สะบัดแขนเสื้อ ยอดฝีมือขั้นหนึ่งหลายสิบคนก็สลายกลายเป็นหมอกเลือดทันที เหลือเพียงยอดฝีมือขั้นสามคนเดียวแต่ยอดฝีมือขั้นสามผู้นั้นวิ่งหน
ด้วยนิสัยของเยี่ยเฟิงไม่มีทางกล้าเปิดเผยตัวกับฮองเต้และฮองเฮาฉู่เป็นแน่หากนางพูดออกไปจริงๆ มีแต่จะบีบให้เยี่ยเฟิงตกที่นั่งลำบากร่างของฮองเฮาฉู่ซวนเซไปเล็กน้อย สีหน้าพลันขาวซีด เกือบจะเป็นล้มลมไปอีกรอบ"เจ้า...เจ้าเองก็ไม่รู้หรือว่าเขาอยู่ที่ใด""ข้าไม่รู้""เช่นนั้นเขาไปไหน เหตุใดข้าส่งคนตั้งมากมายออกไปตามหาก็ไม่พบร่องรอยของเขาเลย" เขาใช่ลูกน้อยผู้น่าสงสารของนางใช่หรือไม่"แม่นางกู้ ข้าขอร้องเจ้าให้คิดอีกที เขากับเจ้าสนิทชิดเชื้อกัน เจ้าจะต้องรู้ว่าปกติแล้วเขาชอบไปที่ใดใช่หรือไม่""ขออภัย ข้าไม่รู้จริงๆ ข้ากับเขาก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก ฮูหยิน ที่นี่คือป่าเขาลำเนาไพร ห่างไกลผู้คน ร่างกายท่านอ่อนแอ ไม่ควรอยู่ที่นี่ หาหมู่บ้านสักแห่งไปบำรุงรักษาตัวให้ดีก่อนเถอะ"ซิ่งเอ๋อร์พูดด้วยความเป็นห่วง "ฮูหยิน คุณหนูกู้พูดถูก หลายวันมานี้ พระวรกายของท่านอ่อนแอลงเรื่อยๆ ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ายังไม่ทันหาตัวคุณชายเยี่ยพบ พระวรกายของท่านจะทนไม่ไหวเสียก่อน"ฮองเฮาฉู่กวาดสายตามองดูองครักษ์ที่บาดเจ็บล้มตาย ความรู้สึกผิดพลันแล่นเข้ามาในหัว"ข้าเห็นแก่ตัวยิ่งนัก ทำให้พวกเจ้าต้องมา...ที่นี่อยู่
"เจ้านี่เอง เวลาสั้นๆ แค่นี้ เจ้าก็เลื่อนตำแหน่งแล้วหรือ ไม่เลวๆ" กู้ชูหน่วนตีไหล่หลีลั่วด้วยความสนิทสนมแววตาอันตรายของเย่จิ่งหานพลันหรี่ลงหลีลั่วตกใจ รีบผงะถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อรักษาระยะห่างกับกู้ชูหน่วน "ขอบพระทัยสำหรับคำชม"เดิมทีเขาก็เป็นหัวหน้าองครักษ์ลับของนายท่านแต่แรกอยู่แล้ว เป็นพระชายาที่เอาแต่คิดไปเองว่าเขาเป็นคนที่เพิ่งมาใหม่"พ่อหนุ่ม วันหลังข้าจะสอนเคล็ดลับให้ รับประกับเลยว่าเจ้าจะได้เพิ่มตำแหน่งเพิ่มเงินเดือนอย่างแน่นอน""ขอบพระทัยพระชายาที่ให้การสนับสนุน แต่ข้าน้อยพอใจกับตำแหน่งตอนนี้แล้วจริงๆ"หลีลั่วถอยหลังไปอีกครั้ง มองนางเป็นดั่งภัยพิบัติในทันทีเขาเป็นหัวหน้าสูงสุดขององครักษ์ลับแล้ว จะให้เลื่อนขั้นก็ไม่มีตำแหน่งอะไรให้เลื่อนแล้วแต่ขืนพระชายายังมีท่าทีสนิทสนมกับเขาแบบนี้ต่อไป เขากล้ารับประกันได้เลยว่านายท่านจะต้องปลดเขาออกจากตำแหน่งองครักษ์ลับเป็นแน่กู้ชูหน่วนเบ้ปากผู้ใต้บัญชาของเย่จิ่งหานแต่ละคนขี้ขลาดกันเสียเหลือเกิน ล้วนแต่กลัวนางกันทุกคนเลยรึ"ไปกันเถอะ" เย่จิ่งหานเอ่ยเขาแห่งนี้เป็นรูปทรงน้ำเต้า ปากน้ำเต้าด้านบนสุดเป็นแนวร่องน้ำธรรมชาติ ยากสำ
ทะเลโลหิตเหอะ......คนในอดีตเรียกมันว่าทะเลโลหิต ช่างน่ากลัวยิ่งนัก"ประครองเขาเข้าไปในถัง"กู้ชูหน่วนทำยาสมุนไพร พลางเอ่ยที่แห่งนี้ร้อนระอุสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเย่จิ่งหานแล้ว กลับไม่รู้สึกถึงความร้อนแต่อย่างใดเย่จิ่งหานเพิ่งเข้าไปในถัง อุณหภูมิในถังก็พลันเย็นเยียบกู้ชูหน่วนสาดตัวยาจำนวนไม่น้อยลงไปในถัง ก่อนจะตีน้องเก้าที่พันข้อมือนางอยู่เบาๆเย่จิ่งหานรีบคว้าพวกพ้องของตนเอาไว้ ถลึงตามองกู้ชูหน่วนด้วยความระวังตัว"เจ้าคิดจะทำอะไรอีก"กู้ชูหน่วนมองบนใส่ไปหนึ่งที "ท่านคิดว่าข้าจะทำอะไร"ที่นี่ร้อนจะตายอยู่แล้ว จะไปหามดมวกแมลงพิษที่ไหนมาให้เขาแช่"น้องเก้า ไป เอาน้ำจากทะเลโลหิตมาใส่ในถังหน่อย"ทุกคนตกตะลึงนั่นคือลาวาทะเลโลหิตเชียวนะลาวาทะเลโลหิตมีอุณหภูมิที่สูงจนคร่าชีวิตได้ แม้แต่หินเหล็กยังละลายได้หากนำน้ำจากทะเลโลหิตเข้ามาในถัง จะไม่ลวกนายท่านให้ตายทั้งเป็นเลยหรือ"พระชายา ท่านล้อกันเล่นใช่หรือไม่""เจ้าเห็นท่าทางข้าเหมือนกำลังล้อเล่นรึ" กู้ชูหน่วนพูดด้วยความจริงจังแววตาของนางเต็มไปด้วยความหนักแน่น ไม่มีแววหยอกล้อเลยแม้แต่น้อย"แต่...นั่นคือลาวาทะเลโลหิตเชี
มองไปที่ศีรษะของมันอีกที จากหนึ่งเป็นสาม จากสามเป็นห้า จากห้าเป็นเจ็ด จากเจ็ดเป็นเก้า...นี่มัน...นี่มันมีหัวใหญ่มหึมาเก้าหัวเลยรึฉางชิง องครักษ์ลับที่ยืนอยู่ข้างหลีลั่วพลันขาอ่อน ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดหลีลั่วเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าใดนักงูหลามยักษ์เก้าหัวที่สามารถแปลงร่างได้ ?นี่มันงูอะไรกันแน่หันไปดูอีกที หางงูสะบัดไปมา หินก้อนโตตกลงไปในลาวาทะเลโลหิตโครมคราม ทำให้ลาวาเดือดระอุกระเซ็นขึ้นมาลาวาหล่นลงในถังไม้พอดีอย่างไม่น่าเชื่อหลีลั่วและคนอื่นๆ มองด้วยความตะลึง หากทะเลโลหิตกระเซ็นใส่ร่างนายท่าน ทำให้ร่างของนายท่านถูกลวกตายจะทำเช่นไรตูมตูมตูม...น้องเก้าสลัดหินยักษ์ด้วยความสนุกสนานกู้ชูหน่วนได้แต่งงไปเลยเจ้านี่ สลัดหินจนติดใจแล้วรึลาวากระเซ็นเข้าถังไม้ไม่หยุด ทำให้อุณหภูมิในถังสูงขึ้นอย่างกะทันหัน แม้ไอหนาวในร่างของเขาทำลายความร้อนของลาวาไปแล้ว แต่ลาวาที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ก็ยังทำให้เขาทรมานจนยากจะรับไหวร้อนร้อนเกินไปไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนใส่ยาอะไรลงไปในถังบ้าง ไอเย็นในร่างของเขาค่อยๆ หายไป ไม่มีพละกำลังที่จะทำลายความอุ่นของลาวาในถังได้แล้วเหงื่อไหลล
นางไม่กังวลที่จะให้พวกเขายืมเกล็ดผลึกหิมะน้ำจากทะเลโลหิตในถังเริ่มเปลี่ยนจากสีเหลืองทองเป็นสีแดงเลือด ค่อยๆ กลายเป็นสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นคาวคุ้งกู้ชูหน่วนปาดเหงื่อ มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มแห่งความยินดีนางเดาไม่ผิด หากต้องการจะกดพิษในร่างของเขา ก็จำเป็นต้องหาวิธีที่รุนแรงเผด็จการกว่าภายในร่างของเขาตั้งแต่อดีตกาล น้ำกับไฟไม่ถูกกัน พิษเหมันต์ใช้ลาวาข่มเป็นดีที่สุดน้องเก้ายังคงตั้งใจนำน้ำจากทะเลโลหิตเข้าถังอย่างไม่ลดละหัวที่ใหญ่โตของมันส่ายไปมาไม่หยุด ราวกับไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่า อุณหภูมิของน้ำจากทะเลโลหิตสูงเพียงนี้ เหตุใดพอเข้าไปในถังไม้ก็ลดฮวบกะทันหัน"ตอนนี้ข้าจะฝังเข็มให้ท่าน เข็มนี้หากฝังลงไปแล้ว ในเจ็ดวัน กำลังภายในของท่านจะหายไปโดยสิ้นเชิง ท่านเตรียมพร้อมหรือยัง"ดวงตามืดดำคู่นั้นของเย่จิ่งหานกวาดไปมองทางหลีลั่วหลีลั่วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "นายท่านโปรดวางใจ ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว รับประกันได้ว่าไม่มีผู้ใดรู้ได้ว่าท่านและพระชายามาที่เมืองอู๋ซวง ยิ่งไม่มีผู้ใดรู้ได้ว่าท่านและพระชายาอยู่ที่นี่"เย่จิ่งหานกำมือแน่น พยายามจะระงับความเจ็บปวดภายในร่างกาย เขากัด
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ