“ก็ได้ พ่อคนฉลาด” ...ฉลาดจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร วาสินีสะบัดเสียงเข้าใส่ “ฉันจะแต่งงานกับคุณก็ได้ แต่ฉันมีข้อตกลงบางอย่างกับคุณ”
คิ้วดกหนาเลิกขึ้นสูง ดวงตาสีฟ้าสดจ้องหน้าคนพูดอย่างระแวง “ข้อเสนออะไร ถ้ามันไม่เกินความสามารถและไม่ทำให้ผมเดือดร้อน ผมอาจรับปากคุณ”
“มันไม่เกินความสามารถของคุณแน่”
วาสินีเริ่มทนความเจ้าอำนาจของเขาไม่ได้ ไหนสิตาภาเคยบอกว่าโอลิเวอร์แสนดี ยกย่องเธออย่างกับเจ้าหญิง ยอมให้จูงจมูกง่ายอย่างไรล่ะ ตอนนี้ผู้ชายที่สิตาภาเคยหลอกใช้เป็นเครื่องมือกลับทำท่าน่ากลัวจนไม่อยากเข้าใกล้
“ว่ามา ข้อตกลงที่คุณต้องการมีอะไรบ้าง” โอลิเวอร์กอดอก ตั้งท่ารับฟังเต็มที่
“เราจะแต่งงานกันแต่ในนามเท่านั้น ห้ามคุณล่วงเกินฉันแบบสามีภรรยาทั่วไป เอ่อ... ฉันหมายถึงห้ามคุณนอนกับฉัน” วาสินีกลั้นใจพูดออกไป ใบหน้างามแดงเรื่อเมื่อต้องเอ่ยปากพูดถึงเรื่องลึกซึ้งแบบนี้
“ผมเข้าใจ คุณเป็นเลสเบี้ยนไม่ชอบนอนกับผู้ชายอยู่แล้วนี่ ผมไม่ฝืนใจคุณหรอก เราจะอยู่ด้วยกันในฐานะพ่อแม่ของน้องเอื้อเท่านั้น เรื่องบนเตียงผมจะไม่ยุ่งกับคุณ”
โอลิเวอร์พยักหน้ายอมรับ เขาเข้าใจว่าเธอคงรังกียจสัมผัสจากผู้ชาย ซึ่งเขาเองก็คงไม่คิดจะมีอะไรกับเธออีก ครั้งนั้นเขาข่มเหงเธอเพราะแรงโทสะเธอไม่ได้เต็มใจ
วาสินีรู้สึกโล่งใจเมื่ออีกฝ่ายยอมรับปาก “ขอบคุณมาก ที่คุณเข้าใจฉัน” เธอแอบขอบคุณรสนิยมทางเพศของพี่สาวฝาแฝด ที่กลายเป็นเกราะป้องกันเธอจากผู้ชายคนนี้
“ผมก็มีเรื่องต้องตกลงกับคุณเหมือนกัน” เขาไม่ยอมเสียเปรียบฝ่ายเดียว
วาสินีกะพริบตาปริบๆ พยักหน้าให้เขา” ว่ามาค่ะ ถ้าฉันทำได้ฉันจะทำ” เธอยอมรอมชอมเพราะเห็นแก่ที่เขายอมรับข้อตกลงของเธอแล้ว
“เราแต่งงานกันในนามก็จริง แต่ผมไม่อยากให้ใครมองว่าคู่ของเราไม่สมบูรณ์ เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเราต้องสวมบทบาทสามีภรรยาที่รักกันมาก บางทีมันต้องมีแตะเนื้อต้องตัวกันบ้าง กอดหอมกันบ้างไม่คนอื่นสงสัย น้องเอื้อเองแกก็คงอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นพ่อแม่รักใคร่กัน” โอลิเวอร์บอกความต้องการของตัวเองให้เธอรู้
“ค่ะ ถ้าไม่มากกว่านี้ฉันไม่มีปัญหา” วาสินีพยักหน้ารับ ยอมทำตามที่เขาบอก
“ดีมาก ยังมีอีกข้อสำคัญมาก” เขาเน้นเสียง ก่อนจะเอ่ยถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมา “ในเมื่อคุณไม่สามารถทำหน้าที่บนเตียงได้ ผมก็มีสิทธิ์ไปปลดปล่อยความต้องการกับผู้หญิงคนอื่นเช่นกัน ผมไม่ใช่คนที่ยอมอดทนกับเรื่องพวกนี้หรอกนะสิตา ถ้าคุณให้ผมไม่ได้ผมก็ต้องหาจากคนอื่น คุณต้องยอมรับและห้ามหึงหวงผม”
วาสินีหน้าแดงจัด ไม่ใช่เขินอายแต่กำลังโมโหคนมักมาก เขาร้ายกาจนักอาศัยช่องโหว่จากข้อตกลงของเธอ เอาประโยชน์เข้าตัว
“ใครจะหึงคุณ เชิญตามสบาย จะไปนอนกับผู้หญิงที่ไหนกี่คนก็เรื่องของคุณ แต่อย่าให้คนอื่นเขามานินทาฉันเด็ดขาดว่าถูกสามีสวมเขา และอย่าให้ผู้หญิงของคุณมาระรานฉันด้วย” เธอเชิดหน้าบอกอย่างไม่ยีหระ
“โอเค เป็นอันว่าเราสองคนจะทำตามข้อตกลงนี้”
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืน มุมปากอมยิ้มน้อยๆ เมื่อปรายหางตา เห็นศีรษะเล็กของลูกชายอยู่ตรงหน้าต่างห้อง เจ้าตัวคงรอดูว่าพ่อของแกจะง้อแม่สำเร็จไหม
“ลูกแอบดูเราอยู่” โอลิเวอร์ บุ้ยบ้ายให้วาสินีดูที่หน้าต่าง
“อุ๊ย คุณจะทำอะไร”
หญิงสาวผุดลุกขึ้น ก่อนจะร้องอุทานด้วยความตกใจ เมื่อถูกวงแขนแข็งแรงตวัดเกี่ยวเอวคอดรั้งตัวเธอไปกอดไว้ เธอมองหน้าเขาอย่างหวาดหวั่น มือยกยันแผงอกหนาไว้ไม่ให้เข้ามาแนบชิด
“น้องเอื้อ คงอยากเห็นพ่อแม่คืนดีกัน” เขากดยิ้มตาพราว มองใบหน้าตื่นๆ ของหญิงสาว “เราต้องแกล้งแสดงให้ลูกเห็นว่าเราสองคนดีกันแล้ว”
“แสดงยังไงคะ”
วาสินีถามเสียงสั่น ใจเต้นแรงเมื่ออ้อมกอดของเขากระชับแน่นกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรยื่นมาหา ชวนใจสั่นสะท้าน เธอเป็นอะไรไปทำไมใจเต้นแรงราวกับตีกลองแบบนี้ กลิ่นน้ำยาโกนหนวดของเขาโชยเข้าจมูก ผสานกับไอร้อนจากแผงอกหนาล่ำสันด้วยกล้ามเนื้อแกร่งกำลังบดเบียดแนบชิดเธอ มันทำให้คนไม่เคยถูกเพศตรงข้ามแตะต้องเนื้อตัวรู้สึกประหลาดล้ำ
“กอดคอผม จากนั้นก็ยิ้มหวานๆ”
เขาจับมือเธอมาคล้องคอ เมื่อเธอยอมยิ้มหวานๆ เขาก็ยื่นหน้าก้มลงไปหา ก่อนจะกดจมูกโด่งงามบนพวงแก้มนุ่มหอมแรงๆ สองครั้งซ้อนทั้งแก้มซ้ายและแก้มขวา เสียงดังฟอด กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแป้งเด็กถูกสูดเข้าไปเต็มปอด มันให้ความรู้สึกสดชื่นหอมละมุนจนคนได้กลิ่นอดใจไม่ไหวก้มลงไปสูดกลิ่นอีกครั้ง
“หอมจังเมียผม” โอลิเวอร์พึมพำชิดใบหูขาวสะอาด เขาแย้มริมฝีปากกว้างเมื่อเห็นรอยแดงบนแก้มเนียน “หอมผมคืนด้วยสิ หอมสิ ลูกดูอยู่นะ”
วาสินีร้อนวูบไปทั้งหน้า แค่ถูกเขาหอมเธอก็แทบจะหัวใจวาย นี่ต้องมาหอมเขาคืนอีก โอย... จะเป็นลม
“ไม่... ไม่หอมได้ไหมคะ ฉัน...”
“คุณรังเกียจผมใช่ไหม” อารมณ์เคลิ้มๆ จางหายไปในทันทีเมื่อได้ยินเธอปฏิเสธ เขาน่าจะรู้ว่าเธอรังเกียจไม่ชอบสัมผัสของผู้ชายหรือแตะต้องเนื้อตัวผู้ชาย “ฝืนใจหน่อยสิตา เหมือนที่ผมฝืนใจหอมแก้มคุณ ท่องเอาไว้ทำเพื่อลูก”
“ก็ได้ ฉันหอมก็ได้”
วาสินีมองเห็นแววตาตัดพ้อจากดวงตาสีฟ้าคู่นั้นแล้วรู้สึกเห็นใจ สิตาภาทำร้ายเขาไว้มากโอลิเวอร์คงเจ็บช้ำไม่น้อย หญิงสาวสงสารคนตรงหน้าเหลือเกิน จนอยากชดใช้ให้เขาแทนพี่สาวฝาแฝด เธอสูดลมหายใจแรงๆ ก่อนจะกลั้นใจหลับตาแน่น ยื่นหน้าหมายแตะจมูกบนแก้มเขาพอเป็นพิธี แต่เหมือนกามเทพเล่นกลรักเมื่อโอลิเวอร์ก้มลงมา ริมฝีปากของเขาจึงถูกริมฝีปากนุ่มประทับพอดี
จุ๊บ !!!
ชายหนุ่มนิ่งงันในขณะที่วาสินีเบิกตากว้างตกใจ ริมฝีปากเผยอออกอย่างลืมตัว ดวงตาสองคู่ประสานกันในระยะใกล้ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดกันและกัน สัมผัสเพียงแผ่วเบากลับสร้างความวาบหวามให้เกิดขึ้นในหัวใจสองดวง วาสินีรู้สึกตัวก่อนรีบแอ่นหน้าถอยห่าง แต่ถูกมือหนาช้อนท้ายทอยกดดึงเข้ามาหา ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับลงมาปิดเสียงอุทานให้เลือนหายไปในคอระหง เรียวปากอิ่มได้รับจุมพิตแรกแห่งวัยสาวอย่างดูดดื่ม ร่างบางแข็งทื่อสมองพร่าพราย สองมือเหนี่ยวเกาะลำคอหนาไว้เป็นที่พึ่งไม่ให้เข่าทรุดลงไป ขณะเผลอไผลหลงอยู่ในมนตร์สะกดตกอยู่ในห้วงเสน่หาอย่างไม่รู้ตัว ว่ากำลังเผลอตัวจูบตอบเขาไป
หวาน... ทำไมหวานแบบนี้
โอลิเวอร์อุทานในใจ เมื่อได้ลิ้มชิมกลีบปากนุ่มหวานของหญิงสาว เขาเคยจูบสิตาภาสองหนครั้งแรกตอนกลับจากงานเลี้ยงที่อพาร์ตเมนท์ของโรสิตา ครั้งที่สองตอนที่เขารังแกเธอ ทั้งสองครั้งเธอไม่ได้ตอบสนองเขาแบบนี้ ชายหนุ่มหยุดคิดสงสัยเมื่อสอดปลายลิ้นเข้าไปกวาดต้อนความหวานล้ำในโพรงปากนุ่ม ลิ้นเล็กๆ ของเธอหลีกหลบปลายลิ้นร้อนของเขาอย่างไม่ประสา ก่อนจะถูกเขาเกี่ยวกระหวัดเอาไว้จนหนีไม่พ้น โอลิเวอร์ดูดดึงความหวานจากเรียวปากสวยของเธอทั้งบนและล่าง ยิ่งเธอตอบสนองเขายิ่งรุกเร้าร้อนแรงขึ้น มือหนาเลื่อนลูบไปทั่วแผ่นหลังเนียนขณะที่ริมฝีปากยังคงแระเล็มความหวานไม่ยอมหยุด เสียงลมหายใจหอบกระเส่าของเขาและเธอประสานกันตามอารมณ์ที่โลดแรง โอลิเวอร์ผละริมฝีปากออกช้าๆ ดวงตาวาววามจ้องมองใบหน้างามของหญิงสาว เธอปรือตามองเขาขบเม้มริมฝีปากที่เริ่มเจ่อนิดๆ จากรสจูบแสนเร่าร้อนเมื่อครู่ ร่างบางอ่อนระทวยในอ้อมแขนของเขาเย้ายวนหัวใจคนมองจนแทบควบคุมตัวเองไม่ไหว หากไม่ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วมา เขาคงสานต่อกับเธอจนสุดทาง
“ลูก... ลูกมองเราอยู่” วาสินีบอกเสียงสั่น เมินหน้าหลบสายตาของเขาอย่างอับอาย“เราออกไปหาลูกกันเถอะ ผมจะพาคุณไปหาพี่เอริกกับไอรีนด้วย” โอลิเวอร์ถอนหายใจแรงๆ ไล่อารมณ์คุคลั่งในกายทิ้ง เขาต้องบ้าแน่ๆ หากอยู่สองต่อสองกับเธอแบบนี้“ไปสิคะ คุณปล่อยฉันก่อนได้ไหมคะ”วาสินีดึงมือออกจากต้นคอเขาขยับตัวถอยห่าง แล้วเดินก้มหน้างุดๆ ออกมาก่อน เจ้าตัวน้อยยืนยิ้มเผล่รออยู่หน้าสนามหญ้า หลังจากแอบมองพ่อแม่หวานแหววกันจนพอใจ“น้องเอื้อ... หิวข้าวไหมลูก”วาสินีแกล้งถามกลบเกลื่อนความเขินอาย เธอเผลอตัวหลงเคลิ้มไปกับพ่อของน้องเอื้อได้อย่างไร หากไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของลูก เธอคงเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ น่าขายหน้าจริงๆ“ไม่หิวครับ”เด็กชายส่ายหน้า แกมองแก้มแดงๆ ของผู้เป็นแม่อย่างชอบใจ เมื่อกี้พ่อหอมแก้มแม่แรงมาก เสียงดังฟอดๆ แม่คงหายงอนพ่อเล้วเลยจุ๊บพ่อแบบนั้นแต่ทำไมแม่กับพ่อจุ๊บปากกันนานจัง ไม่เหมือนตอนที่แม่จุ๊บปากของแก แม่จุ๊บเร็วๆ แล้วเอาปากออก แต่กับพ่อจุ๊บกันนานมาก สงสัยจะคิดถึงกันเลยจุ๊บน้าน นาน คนเป็นลูกคิดตามประสาเด็ก“มาน้องเอื้อ พ่อจะพาไปหาคุณลุงกับคุณอานะครับ”โอลิเวอร์ตามมาหาสองแม่ลูก เขายกร่างเล็กของ
“ก็ได้ พ่อคนฉลาด” ...ฉลาดจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร วาสินีสะบัดเสียงเข้าใส่ “ฉันจะแต่งงานกับคุณก็ได้ แต่ฉันมีข้อตกลงบางอย่างกับคุณ”คิ้วดกหนาเลิกขึ้นสูง ดวงตาสีฟ้าสดจ้องหน้าคนพูดอย่างระแวง “ข้อเสนออะไร ถ้ามันไม่เกินความสามารถและไม่ทำให้ผมเดือดร้อน ผมอาจรับปากคุณ”“มันไม่เกินความสามารถของคุณแน่”วาสินีเริ่มทนความเจ้าอำนาจของเขาไม่ได้ ไหนสิตาภาเคยบอกว่าโอลิเวอร์แสนดี ยกย่องเธออย่างกับเจ้าหญิง ยอมให้จูงจมูกง่ายอย่างไรล่ะ ตอนนี้ผู้ชายที่สิตาภาเคยหลอกใช้เป็นเครื่องมือกลับทำท่าน่ากลัวจนไม่อยากเข้าใกล้ “ว่ามา ข้อตกลงที่คุณต้องการมีอะไรบ้าง” โอลิเวอร์กอดอก ตั้งท่ารับฟังเต็มที่ “เราจะแต่งงานกันแต่ในนามเท่านั้น ห้ามคุณล่วงเกินฉันแบบสามีภรรยาทั่วไป เอ่อ... ฉันหมายถึงห้ามคุณนอนกับฉัน” วาสินีกลั้นใจพูดออกไป ใบหน้างามแดงเรื่อเมื่อต้องเอ่ยปากพูดถึงเรื่องลึกซึ้งแบบนี้ “ผมเข้าใจ คุณเป็นเลสเบี้ยนไม่ชอบนอนกับผู้ชายอยู่แล้วนี่ ผมไม่ฝืนใจคุณหรอก เราจะอยู่ด้วยกันในฐานะพ่อแม่ของน้องเอื้อเท่านั้น เรื่องบนเตียงผมจะไม่ยุ่งกับคุณ”โอลิเวอร์พยักหน้ายอมรับ เขาเข้าใจว่
“พ่อใส่ชื่อพ่อของเจ้าเอื้อว่า โอลิเวอร์ เมดิสันไปแล้ว อย่าบอกสิตาให้รู้นะ ไม่อย่างนั้นมันจะอาละวาดพ่อ มันเกลียดผู้ชายคนนั้นมาก แต่เจ้าเอื้อควรได้รับสิทธิ์ตามชาติกำเนิดของแก ไอ้คนเป็นพ่อของมันต้องชดใช้ให้ลูกชายที่มันทำให้เกิดมา” นายชาญชัยลงชื่อบิดาในใบเกิดของหลานชายตามจริง ด้วยหวังในทรัพย์มหาศาลของตระกูลเมดิสัน ซึ่งจะต้องต้องเป็นของหลานชายในอนาคต โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังสร้างปัญหาให้วาสินีด้านสิทธิ์ในการเลี้ยงดูน้องเอื้อ“เวลาแม่งอนถ้าจะให้หาย พ่อต้องกอดแม่แน่นๆ แล้วก็หอมแก้มแรงๆ ทั้งสองแก้ม ทำแบบนั้นแม่จะหายงอนเลยครับ เชื่อเอื้อสิครับพ่อ”เจ้าตัวแสบแนะนำเคล็ดลับการง้อ ให้ผู้เป็นพ่อลองทำดู แกรู้ดีว่าต่อให้โกรธแค่ไหน แม่ก็ใจอ่อนทุกครั้งที่ถูกลูกกอดและหอม วิธีนี้น่าจะได้ผลหากคนเป็นพ่อนำไปใช้โอลิเวอร์รับฟังเคล็ดลับของลูกชายแล้วแอบขำ เจ้าตัวน้อยคงคิดตามประสาเด็กว่าทำแบบนี้แล้วแม่จะหายงอนพ่อ ซึ่งความจริงแล้วมันคงไม่ได้ผลเลยต่างหาก เขาจำต้องวางร่างเล็กของลูกชายลงบนพื้น ก้มลงกระซิบบอกแกว่า“น้องเอื้อไปเล่นข้างนอกก่อนนะลูก ขอเวลาพ่อง้อแม่ก่อนนะ ถ้าลูกอยู่ด้วยแม่จะไม่ยอมให้พ่อง้อ” เขาแสร้งบ
“พ่อ... พ่อคือพ่อโอลิเวอร์ของลูกยังไงล่ะครับ”โอลิเวอร์ผลักประตูก้าวเข้าไปหาลูกชาย เขาส่งยิ้มอบอุ่นให้เด็กน้อยที่ทำหน้าเหวอ ย่อตัวอ้าแขนออกสบตาสีเดียวกันแล้วพยักหน้าให้ น้องเอื้อนิ่งมองอยู่ครู่หนึ่งริมฝีปากสีสดเบะออกก่อนจะโผเข้าหาอ้อมกอดที่แกรอคอยมาทั้งชีวิต พร้อมกับปล่อยโฮลั่น“คุณพ่อ ฮือ... คุณพ่อเป็นพ่อโอลิเวอร์ของเอื้อจริงๆนะครับ” เจ้าตัวซุกหน้ากับอกอุ่น สองแขนกอดรัดลำตัวหนาไว้แน่น เมื่อถูกกอดรัดตอบหัวใจดวงน้อยก็พองโต น้ำตาไหลพรากออกมาแบบยั้งไม่อยู่ “น้องเอื้อรอคุณพ่อ น้องเอื้ออยากไปหาคุณพ่อ ฮือ... แม่สินีบอกว่าคุณพ่อทำงานอยู่เมืองนอกไกลมาก”โอลิเวอร์ตื้อในอกขอบตาร้อนผ่าวน้ำตาซึมเขากอดรัดร่างน้อยแนบอก มือข้างหนึ่งลูบแผ่นหลังที่กำลังสั่นสะท้านจากแรงสะอื้นอย่างเวทนา สิตาภาหลอกลูกว่าเขาอยู่ไกล ปล่อยให้ลูกโหยหาอ้อมกอดของคนเป็นพ่ออยู่นานหลายปี หากไม่บังเอิญเจอสองแม่ลูกเขาคงไม่รู้ว่ามีดวงใจน้อยดวงนี้เฝ้ารออยู่ และลูกก็คงจะรอพ่อเก้ออยู่นานแสนนาน อาจจะนานจนแกเติบใหญ่โดยที่เขาไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้ได้อุ้มชูสายเลือดในอก สายเลือดที่ติดท้องเธอไปในวันที่เขาพร่าผลาญร่างกายเธอ โอลิเวอร์สะท้อนในใจ
หญิงสาวเดินออกจากรถไปเปิดประตูห้องพัก เธอยังคงเหม่อลอยจ่อมจมในความคิดของตัวเองจนไม่สังเกตเห็นว่าเขาตามเธอไปด้านหลัง โอลิเวอร์ตะครุบร่างงามกอดรัดไว้แน่น ขณะลากดึงเธอเข้าไปด้านใน“คุณ คุณฟื้นแล้วเหรอ ปล่อยนะจะทำอะไรฉัน” สิตาภาสะบัดแขนเร่าๆ พยายามดิ้นหนีให้หลุดจากการจับกุมของโอลิเวอร์ เธอมัวแต่คร่ำครวญจนไม่ทันสังเกตเห็นว่าเขาฟื้นแล้ว เพราะตกใจจนขวัญบินเธอถึงได้ขับรถหนีมาโดยมีเขาติดรถมาด้วย หากสติไม่หลุดสิตาภาคงโยนเขาทิ้งกลางทางไปแล้ว“ทำอะไรเหรอ ก็ลงโทษผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอน่ะสิ” เขาคำรามเสียงเข้ม ขณะอุ้มกึ่งลากพาตัวเธอมาโยนไว้บนที่นอน ก่อนจะโถมกายกักร่างงามไว้ใต้ร่างหนา จับข้อมือบางกดตรึงไว้กับที่นอน ดวงตาคมจ้องใบหน้าของเธอด้วยแววตาวาวกล้า “อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ปล่อยฉันเถอะโอลิเวอร์” สิตาภาสั่นไปทั้งตัว หวาดกลัวท่าทีคุกคามของเขา ภาวนาอย่าให้เขาทำอะไรแบบที่เธอกลัวเลย “ผมไม่ยกโทษให้คนที่ทำให้ผมกลายเป็นคนโง่หรอกสิตา” โอลิเวอร์แค่นยิ้มหยัน มองร่างงามของเธอด้วยแววตาหยามเหยียด ทั้งรักทั้งแค้นในอกจนแทบจะระเบิด “คุณไม่ได้รักผมใช่ไหม คุณเกลียดผู้ชายและชอบเล่นรักกับผู