Share

21. สายลมพัดผ่าน

last update Last Updated: 2025-10-20 18:51:52

เสียงเพลงคลอเบา ๆ ในรถ ในขณะที่ฉันเอนหัวพิงเบาะมองวิวข้างที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จากตึกสูงระฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นท้องทุ่ง จวบจนกลายเป็นแนวเขาสลับต้นไม้เขียวขจี

“พี่ขอแวะเติมน้ำมันหน่อยนะครับ” พี่แทนพูดขึ้นขณะที่หันมามองฉันแวบหนึ่ง รอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปากของเขาทำให้หัวใจฉันกระตุกเบา ๆ ‘ก็ยังคงหล่อเหมือนเดิม’

“โอเคค่ะ เดี๋ยวมิ้นเข้ามินิมาร์ทด้วยเลยแล้วกัน หนูอยากซื้อของเพิ่มอีกสักหน่อย อยากได้ขนมตุนเยอะ ๆ ฮี่ฮี่” ฉันตอบก่อนหันไปค้นหาถุงผ้า และแมสก์ปิดหน้าในกระเป๋าใบเล็กของฉัน

หลังจากรถตู้สีดำเติมน้ำมันเรียบร้อยแล้ว ก็ขับไปจอดตรงหน้ามินิมาร์ท คนไม่ได้พลุ่งพล่านมากนักเพราะค่อนข้างห่างไกลความเจริญ แต่ก่อนที่ฉันจะลงจากรถนั้น

“ใส่แมสก์ก่อนค่ะพี่ เดี๋ยวมีคนเห็นพวกเรา” ฉันใส่แมสก์ ก่อนจะยื่นแมสก์สีขาวเรียบให้พี่แทน

“หื้ม นี่หวงพี่ หรือห่วงไม่อยากเดินให้ใครเห็นกลัวเป็นข่าว” เขาเลิกคิ้วล้อ

“หมดนั่นแหละค่ะ” ฉันกลอกตามองบน แล้วเอื้อมไปจัดแมสก์ให้เขาเอง มือฉันแตะเข้ากับขอบแก้มเขา ตอนจัดสายคล้องหู รอยยิ้มในดวงตาเขาทำให้ฉันชะงักไปชั่ววินาที

“เสร็จแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยเสียงเบา

“พี่มีรางวัลสำหรับคนใส่แมสก์ให้นะครับ” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้กัน

ฉันยังไม่ทันได้ตั้งสติ เขาก็...จูบผ่านแมสก์ อย่างแผ่วเบา ริมฝีปากของเขากดแนบลงบนแมสก์ที่ฉันเป็นคนใส่ให้ ความอุ่นร้อนจากการสัมผัสนั้นยังส่งผ่านเนื้อผ้าบาง ๆ มันทำให้ฉันอดยิ้มออกมาไม่รู้ตัว

“พี่แทน...ทำอะไรเนี่ย” ฉันเรียกชื่อเขา ก่อนจะหันมองไปรอบ ๆ อย่างเขินอาย ก่อนจะกระซิบพลางพยักพเยิดไปทางประตูรถฝั่งซ้าย “มีคนมองค่ะ”

กลุ่มเด็กวัยรุ่น ที่อยู่บนหลังรถกระบะชำเลืองมองเราตาโตผ่านกระจกหน้ารถ ก่อนจะรีบหันกลับไปซุบซิบกัน

“เขาก็คงเห็นว่าคู่เราดูรักกันดีเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก” พี่แทนพูด

“รีบลงไปซื้อของกันเถอะ...เดี๋ยวไม่ถึงแคมป์สักที” ฉันเบือนหน้ารีบเปิดประตูรถแก้เขิน

(ร้านมินิมาร์ท)

ฉันหยิบตะกร้าพลาสติกในร้าน ก่อนจะเดินมุ่งไปยังโซนขนมขบเคี้ยวและอาหาร โดยที่พี่แทนเดินตามหลังมาติด ๆ

“เอาน้ำแร่ ขนมปัง กล้วย มันฝรั่งทอดกรอบ...แล้วอะไรอีกนะ” ฉันพึมพำในลำคอเบา ๆ

“เอาเสื้อกันฝนด้วยไหมครับ เผื่อคืนนี้ฝนตก” พี่แทนแทรกเสียงเข้ามา

“จริงด้วย! พี่รอบคอบจริง ๆ ค่ะ”

“แน่นอนครับ เพราะคืนนี้เราจะอยู่เต็นท์เดียวกัน จะให้เปียกไม่ได้” ทำไมพี่แทนต้องเน้นชัดถ้อยชัดคำ จนฉันเกือบทำขวดน้ำในมือตก

“หยุดแกล้งหนูได้แล้วค่ะ ” ฉันทำหน้ามุ่ยใส่เขา แต่เขาก็ยิ้มส่งให้ฉัน แถมยังหยิบขนมใส่ตะกร้าให้ไม่หยุด

“พอแล้วค่ะพี่ หนูไม่ได้กินเยอะนะ”

“ก็เผื่อหนูหิวกลางคืนไงครับ” เสียงเขาตอบเรียบ ๆ

“กลางคืนหนูไม่ได้หิวขนาดนั้น” ฉันหันไปตอบสีหน้าจริงจัง เขากำลังหาว่าฉันมูมมามรึเปล่า

“งั้นเหรอ ไม่เป็นไรงั้นพี่หิวก็ได้ เพราะกลางคืนพี่เป็นคนกินดุครับ”

“ผัวะ!” เสียงมือฉันฟาดลงเข้ากับต้นแขนของเขา

“โอ๊ย! พี่เจ็บนะครับ”

“อย่ามาสำออยค่ะ ไปจ่ายเงินกัน พี่จ่ายด้วย หึ...”

หลังจากจ่ายเงินเสร็จ พร้อมกับหิ้วของพะรุงพะรังมาขึ้นรถ ฉันจัดข้าวของเก็บในเบาะหลัง ขณะที่พี่แทนตรวจดูแมพเส้นทางไปแคมป์อีกครั้ง

“พี่แทนคะ” ฉันหันไปเอ่ยกับเขา

“ครับ?”

“เมื่อกี้ที่ปั๊ม มีคนมองเราจริง ๆ นะคะพี่ไม่เห็นเหรอ”

“แล้วหนูอายเหรอครับ?”

“เปล่าซะหน่อย ไม่ได้อายค่ะ เพียงแต่กลัวเป็นข่าวแล้วทำให้กระทบบริษัทอีก”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย”

“เป็นสิคะ แล้วถ้าเกิดคนแอนตี้พี่ขึ้นมา แถมหนูขายไม่ออกในวงการ หนูจะเอาอะไรกินล่ะ”

“พี่เลี้ยงเราได้...”

“ใครจะยอมให้เลี้ยงอยู่ฝ่ายเดียวละคะ หนูไม่ยอมให้คนอื่นตราหน้าว่าพี่ได้ผู้หญิงที่เอาแต่เกาะกินหรอก ชิส์”

“แล้วเราจะเก็บความสัมพันธ์ไว้แบบนี้ตลอดไปเหรอครับ” เสียงพี่แทนเบาลง ฉันรับรู้ได้ถึงความน้อยใจเล็ก ๆ ในน้ำเสียงนั้นพานทำให้ฉันรู้สึกแย่

“ไม่ใช่ว่ามิ้นไม่อยากให้ใครรู้นะคะ แต่เพราะมิ้นไม่อยากให้พี่ได้รับผลกระทบ ถ้าเกิดมีคนรู้ ทุกคนย่อมต้องตามสืบตามขุดที่มาพี่แน่ ความสงบสุขของพี่อาจจะลดน้อยลงไปเลยนะคะ” ฉันเอื้อมมือไปจับแขนเขา

“พี่ขอพูดอะไรเห็นแก่ตัวสักครับนะมิ้น สิ่งเดียวที่พี่ต้องการตอนนี้คือ...อยากให้ทุกคนในโลกรู้ว่า หนูเป็นของพี่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมา หลังจากนี้...พี่พร้อมเผชิญทุกอย่าง และจะปกป้องหนูให้ดีที่สุด ไม่สิจะปกป้องเท่าชีวิตเลยครับ พี่ไม่ได้พูดให้สวยหรูนะ แต่พี่พูดจริงจัง” คำพูดขอพี่แทนทำฉันนิ่งค้างเติ่ง น้ำเสียงเขาหนักแน่นและกำลังบอกฉันว่าเขาพูดจริง หรือว่าฉันควรจะทำตามหัวใจสักครั้งบ้างนะ...

“ไว้หนูจะเก็บไปคิดค่ะพี่” ฉันหันไปยิ้มให้พี่แทนและเขาก็หันมายิ้มตอบฉันอย่างเข้าใจ

“เอาล่ะ งั้นเราเดินทางกันต่อเถอะ” รอยยิ้มอันอบอุ่นนั้นแผ่กระจายจนฉันสัมผัสได้ ฉันรู้สึกดีใจที่ในชีวิตนี้ได้รู้จักเขาจริง ๆ

เราเดินทางกันต่อเพื่อมุ่งหน้ากันไปยังแคมป์ที่จองไว้ เสียงลมเย็น ๆ พัดผ่าน กลิ่นดินลอยแตะจมูกเป็นระยะทำให้ความรู้สึกที่หนักอึ้งนั้นจางหายไปในทันที

พี่แทนจอดรถตรงลานโล่งใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลรินเอื่อย ๆ ฉันลงจากรถมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้ออกมาสูดอากาศหายใจท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาแบบนี้ ความเงียบที่ไม่ใช่ความวังเวง เป็นความนิ่งสงบที่ต้องการมานาน

ฉันหันไปมองพี่แทนที่กำลังจะกางเต็นท์ จึงรีบเดินเข้าไปหาเขา

“มาค่ะ เดี๋ยวหนูช่วย” ฉันถลกแขนเสื้อขึ้นอย่างกระตือรือร้น

“แน่ใจเหรอครับ พี่ไม่อยากให้หนูเหนื่อยน่ะ” พี่แทนพูดก่อนจะเดินมาลูบหัวฉันเบา ๆ

“ก็หนูอยากช่วยนี่นา ยังไงเต็นท์นี้ หนูก็ต้องนอนด้วยกับพี่อยู่แล้ว” ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าประโยคที่พูดออกไปนั้นทำให้เขาหยุดชะงักไปชั่วครู่ แล้วหันมามองฉันด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย มันลึกซึ้งจนทำให้ขนลุกขึ้นมาเฉย

“เข้าใจแล้ว งั้นเรามาเป็นช่วยกันกางเต็นท์ เพื่อคืนนี้ของเราดีกว่าครับ”

“คำพูดมันแปลก ๆ นะคะพี่ ฮ่า...” ฉันหัวเราะร่าแก้เขิน จากนั้นเราทั้งสองคนก็ช่วยกันกางเต็นท์อย่างขะมักเขม้น

เต็นท์สีเทาเรียบ ๆ ค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่าง พี่แทนตอกหมุดอย่างชำนาญ ส่วนฉันก็คอยยื่นเสา ขึงเชือก จนทุกอย่างเสร็จสรรพ ฉันถอยหลังออกมามองเต็นท์ที่เรากางขึ้นจากแรงเราสองคน รู้สึกภูมิใจแฮะ...

“พี่แทนหนูชอบที่นี่จังค่ะ” ฉันเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มละมุนให้

“พี่ตั้งใจเลือกจุดที่เงียบที่สุด สงบที่สุด เพราะอยากให้เราสองคน ปลีกความวุ่นวายทุกสิ่งและได้อยู่ด้วยกันจริง ๆ ครับ”

“นั่นสิเนาะ...ฮี่ มิ้นก็คิดเหมือนกันค่ะ”

เราง่วนกับการจัดเตรียมสิ่งของต่าง ๆ เพื่อทำอาหารมือเย็นและวันนี้พี่แทนก็อาสาเป็นคนทำอาหารให้ฉันกิน ฉันน่ะตั้งตารอมาก ๆ ที่จะได้กินอาหารฝีมือเขา

“เอาเป็นสเต๊กดีไหม” เขาหันมาพูดกับฉัน

“ดีค่ะ หนูชอบกินเนื้อ”

“โอเคครับงั้นมือนี้ทำสเต๊กเนื้อกัน หนูไปนั่งรอที่เสื่อตรงนั้นก่อนนะครับ...เดี๋ยวพี่ไปเสิร์ฟ”

“ไม่ให้หนูช่วยล่ะ” ฉันเอียงคอถาม

“พี่ขอทำเองครับ พี่อยากให้มันเป็นมือพิเศษเพราะพี่ตั้งใจอยากทำทุกอย่างให้หนูในทริปนี้จริง ๆ เชื่อฟังพี่นะครับ”

“ก็ได้ค่ะ หนูจะนั่งรออย่างใจจดใจจ่อเลย” ฉันยิ้มและหันกลับไปนั่งเสื่อที่อยู่รอบกองไฟเล็ก ๆ ที่พี่แทนจุดไว้กลางลาน

ฉันนั่งรอไม่นานนัก พี่แทนก็ยกจานสเต๊กสุดแสนน่าทานมาวางตรงหน้าฉัน กลิ่นหอม ๆ ของเนื้อที่ย่างมาเป็นอย่างดีลอยแตะจมูกฉันทำเอาน้ำลายสอ

“หอมจัง...จะกินแล้วนะคะ” ฉันพูดด้วยรอยยิ้มแฉ่ง ก่อนจะกินมันโดยไม่ห่วงรูปลักษณ์ใด ๆ “อย่อย...จังเลยค่ะ ง่ำ ง่ำ”

“ค่อย ๆ ทานสิครับเดี๋ยวติดคอ” พี่แทนยิ้ม แล้วฉันก็ยิ้มตอบกลับทั้งที่เนื้อยังเต็มปากอยู่แบบนี้ จนเขาส่ายหน้าเล็ก ๆ

เมื่อเราทานกันเสร็จก็ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เก็บขยะลงถุงดำให้เรียบร้อย จากนั้นจึงนั่งบนเสื่อคุยกันต่อ พลางแหงนมองดาวที่ระยิบระยับฉายชัดบนท้องฟ้า พร้อมพระจันทร์อันสวยเด่น

“อยู่ท่ามกลางป่าเขา เงียบเฉียบแบบนี้ หนูกลัวไหมครับ” เขาเอ่ยถามเสียงเบา ฉันส่ายหน้าตอบ

“ไม่เลยค่ะ ก็มีพี่อยู่ข้าง ๆ นี่นา”

“ฮ่า...” เขาหัวเราะขึ้น

“ขอจับมือหน่อยได้ไหมครับ?” ฉันพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตก่อนจะวางมือลงบนฝ่ามือเขา ‘อุ่นจัง’

“ขอบคุณที่พาหนูมาที่นี่นะคะพี่แทน มิ้นสบายใจขึ้นเยอะเลย เรื่องราวที่ถาโถมก่อนหน้ามันทำให้หนูอ่อนแออีกครั้ง ไม่คิดเลยนะคะว่าการเล่นบทรอง บทตัวประกอบเองก็มีสิทธิ์เจอเรื่องร้าย ๆ ได้เหมือนกัน แต่ครั้งนี้หนูผ่านมันมาได้เร็ว เพราะมีเพื่อนร่วมงานที่ดี และที่สำคัญหนูมีพี่แทนไงคะ ขอบคุณนะคะพี่...” ฉันหันไปจ้องเขาพลางเอื้อนเอ่ยคำขอบคุณจากใจ สองแขนแกร่งของเขารวบตัวฉันเข้าหาตัวเขา โอบกอดราวกับรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ก่อนจะพรมจูบกลางหัวอย่างอ่อนโยน

“เพราะหนูเป็นคนดี เป็นคนที่ตั้งใจในหน้าที่มากกว่าครับ คนรอบข้างจึงใจดีกับหนู”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   28. ฉากจบในชีวิตจริง

    ห้องรับรองหลังฉากในสตูดิโอรายการ ‘4 แซ่บบันเทิง’ แม้จะเย็นฉ่ำจากแอร์ แต่มันก็ไม่สามารถดับความประหม่าในใจฉันได้เลยสักนิด“พี่...แน่ใจเหรอ ว่าเราควรมานั่งให้สัมภาษณ์แบบนี้ มันจะไม่โหนกระแสไปหน่อยเหรอคะ” ฉันหันไปกระซิบถามพี่แทนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พลางจับมือเขาแน่นจนชื้นเหงื่อ“แน่ใจสิครับ ไหน ๆ ก็เปิดตัวแล้ว เราก็ควรจะไปให้สุด” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างใจเย็นใจ ฉันพ่นลมหายใจยาวใช้หลังมืออีกข้างแตะหน้าผากตัวเองเบา ๆ ได้แต่ภาวนาให้ฉันอย่าหลุดพูดอะไรแปลก ๆ เลยเถอะ“อีกสิบนาที เตรียมตัวนะคะ” หนึ่งในทีมงานเดินเข้ามาแจ้ง ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเกร็งนะคะคุณมิ้น แฟน ๆ ตอนนี้ยอดคนดูรอแล้วกว่าแสนคน” ฉันพยักหน้ารับ ขณะที่พี่แทนหันมากระซิบข้างหูกันเบา ๆ“ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่อยู่ตรงนี้ตลอด” แม้หัวใจฉันจะเต้นแรง แต่เพียงเขาพูดแค่นี้ก็ทำให้ฉันสงบลงได้ ใช่...ต่อจากนี้เราจะไม่ต้องแอบ ไม่ต้องหลบ และปิดบังอีกต่อไป(หน้าฉากสตูดิโอ รายการ 4 แซ่บบันเทิง)“ว้าว...ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้นั่งสัมภาษณ์สองคนนี้ในฐานะ ‘คู่รัก’ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับความรักครั้งนี้ด้วยนะคะ คุณแทนและคุณมิ้น”

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   27. เปิดเผยสู่สาธารณชน

    นาฬิกาชีวิตปลุกให้ฉันตื่นขึ้นอัตโนมัติ กิจกรรมร่วมรักบนเตียงเมื่อคืนส่งผลให้ความปวดร้าว หนักหน่วงคืบคลานไปทั่วร่างแม้จะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ฉันก็ยังขยับตัวลำบาก เนื่องจากสองแขนแกร่งของคนนอนข้างกายยังคงรัดแน่นไม่ยอมปล่อยราวกับกลัวว่าฉันจะหนีหายไปพี่แทนยังคงหลับสนิท ฉันหันไปจ้องหน้าเขาชัด ๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึก...หล่อจนใจสั่น ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่หัวใจที่เขามอบให้ฉันก็รับรู้ได้ทั้งหมดเขานอนตะแคงหันหน้ามาทางฉัน มือหนึ่งยังพาดอยู่บนเอวฉัน“โธ่เอ้ย...พอหลับแล้วไม่เห็นจะดูเจ้าเล่ห์เลยนะ” ฉันยิ้มพึมพำเบา ๆ ขณะใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าหล่อเขาให้เห็นเด่นชัดฉันเอี้ยวตัวอย่างเบามือ ให้ตัวแนบชิดกับเขามากกว่าเดิม ซบหน้าลงกับอกแกร่งฟังเสียงหัวใจของเขาที่ยังเต้นแรงอยู่“เมื่อวานที่หนูบอกว่า...ไม่อยากแพ้พี่” ฉันกระซิบเบา ๆ กับตัวเอง “ไม่ใช่เพราะหนูอยากเอาชนะ” ฉันยิ้มพลางขยับใบหน้าเบา ๆ เพื่อรับไออุ่นมากขึ้น “แต่หนูอยากให้พี่เห็นว่า หนูก็พร้อมมอบความรักให้พี่เช่นกันค่ะ”เขาขยับตัวเล็กน้อย มือที่กอดฉันไว้กระชับแน่นขึ้น ทำฉันสะดุ้งจนกระตุกวูบ“แกล้งหลับอยู่ใช่ไหมคะ...” ฉันแหงนหน้ามอ

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   26 ท่วงทำนอง ล่อลวง(รัก)

    ฉันยังชันเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแบบนั้น แต่อารมณ์ในตอนนี้ไม่ใช่แค่นั่งเฉย ๆ อีกต่อไป สองเราลูบไล้และทอดนัยน์ตายั่วยวนกันและกัน โดยไม่มีใครยอมใครมือฉันแนบอยู่บนอกแกร่ง มือเขาแนบอยู่ที่แผ่นหลังฉัน พลางไล้นิ้วไปตามสันหลังก่อนจะหยุดตรงกลางหลังแล้วพยายามเร่งโน้มตัวฉันลงไปอีก แต่ฉันไม่ยอมหรอก“จะรีบร้อนทำไมคะ” ฉันกระซิบแหบพร่า พร้อมกดมือบนอกแกร่งเขาเบา ๆ จงใจถ่วงเวลาไว้พี่แทนยิ้มแฝงด้วยจิตวิญญาณนักล่าที่รู้ว่าคนตรงข้ามอย่างฉันกำลังเล่นเกมด้วยความรู้สึกเดียวกัน“ไม่ได้รีบร้อน แค่รู้สึกว่าถ้าพี่ปล่อยให้หนูคุมเกมมากกว่านี้ พี่อาจจะหมดแรงก่อนได้เริ่มจริง”“แปลว่าเริ่มกลัวหนูแล้วสินะ”“ไม่ได้กลัว...แค่ไม่ประมาทครับ” ฉันยกยิ้มมุมปากโน้มใบหน้าเข้าใกล้ใช้เรียวลิ้นร้อนไล้เลียไปตามแนวหลังใบหู สันกรามเบา ๆ ขณะที่มือฉันเริ่มเคลื่อนไปตามอารมณ์สอดเข้าในเรือนผมของเขาพลางขยุ้มเบา ๆเขาชะงักเล็กน้อยกับสัมผัสบางเบานี้“ถ้าเล่นแรงแบบนี้ พี่คงต้องเอาจริงแล้วนะครับ” ฉันยิ้มมุมปาก ขณะใช้มืออีกข้างลูบไปตามแนวแขนแกร่งเขา“ก็รออยู่นี่ไงคะ จะเอายังไงก็เชิญ พร้อมรับแรงกระแทกเสมอ” สิ้นคำสิ่งที่เขาตอบกลับมาคือการกดจูบอีก

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   25 เคมีล้นจอ

    “โอเคครับ กล้องพร้อม! ไฟพร้อม! แอคชั่น!” เสียงผู้กำกับดังขึ้นท่ามกลางกองถ่ายบ้านหรูปลีกวิเวกที่แสนสงบ เราสวมชุดนักแสดงเต็มยศ ฉันอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สีฟ้าอ่อน พี่แทนอยู่ในชุดเชิ้ตขาวพับแขนกับกางเกงสแล็คเข้ารูปบรรกาศโดยรอบเงียบลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ของตน...ฉากที่เรากำลังจะถ่ายกันคือ ‘ฉากจูบแรก’ ของพระเอกและนางเอกในละครเรื่อง รอยยิ้มของตัวจริง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครหลัก โดยก่อนหน้านี้มีแต่การปะทะอารมณ์และเข้าใจผิดมาโดยตลอด ‘ในการถ่ายทำชื่อตัวละครในเรื่อง คือชื่อพวกเราเลย แต่ในเมื่อคนเขียนบทอย่างพี่แทนเขียนมาแบบนั้น ฉันก็เออออไปตามนั้นแหละ’และตอนนี้ พี่แทนกำลังจะจูบฉัน“มิ้น...” เสียงเขาเรียกเบา ๆ ขณะยืนห่างฉันไม่ถึงฝ่ามือ นัยน์ตามีความลังเลปนกับความรู้สึกบางอย่าง“มิ้นรู้ไหม ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน พี่ไม่เคยหันไปมองใครอีกเลย” บทละครบอกให้ฉันต้องนิ่ง น้ำตาคลอ ตัวสั่นนิด ๆ และปล่อยให้เขาโน้มตัวเข้ามาช้า ๆ ฉันทำตามบททุกอย่างอย่างมืออาชีพ และที่สำคัญฉันใส่หัวใจตัวเองลงไปเล่นด้วยริมฝีปากของพี่แทนเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนฉันได้กลิ่นหอมจาง ๆ จา

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   24 แถลงข่าวละคร ‘รอยยิ้มของตัวจริง’

    หลังกลับมาจากการพักผ่อน ชีวิตนักแสดงสาวก็เข้าสู่วังวนการทำงานที่คุ้นเคย ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันทวีคูณมากขึ้น ตั้งแต่ฉันเปิดใจว่าจะรับบท ‘นางเอก’ ก็มีผู้ผลิตละครหลายเจ้ายื่นเสนอมาให้พิจารณาบทเป็นกอง แต่...เรื่องพวกนั้นเอาไว้ทีหลังก่อน เพราะการกลับมาเล่นบทนำในครั้งนี้ ยังไงซะฉันก็ตัดสินใจจะเล่นให้กับละครที่แฟนของฉันเขียนขึ้นมาก่อนวันนี้เป็นวันแถลงข่าวเปิดตัวนักแสดงนำของละครเรื่อง รอยยิ้มของตัวจริง อย่างเป็นทางการ ฉันมาในชุดเดรสสีดำ ผมชมพูฟาร่าลอนสวย ชนิดที่เดินผ่านคนไหนก็ต้องเหลียวหันมามอง อาจเป็นเพราะก่อนหน้าฉันรับแต่บทตัวประกอบเวลามีงานแถลงข่าวก็ไม่ได้ถูกเชิญขึ้น“พี่กรีน พี่พอรู้รึเปล่าว่าเรื่องนี้ ใครรับบทพระเอก” ฉันหันไปถามผู้จัดการส่วนตัว เอาจริงนะ ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าใครแสดงบ้าง บทจริงยังไม่เห็นด้วยซ้ำ แต่เพราะมั่นใจในตัวพี่แทน ฉันเลยไม่ได้ซีเรียสอะไร“ไม่รู้สิ ผู้ผลิตเขาไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่มเติมมาเลย ลึกลับมาก”“งั้นเหรอคะ” ฉันเลิกคิ้ว แต่สุดท้ายก็เลิกที่จะสนใจมันไปไม่นานนัก มีทีมงานเรียกให้ฉันเตรียมพร้อมรอขึ้นเวทีอยู่ด้านข้าง“เรียนสื่อมวลชนทุกท่าน กรุณาเตรียมกล้องให้พร้อมนะครับ เ

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   23. ยามรุ่งเช้า

    เสียงนกร้องเบา ๆ จากยอดไม้ข้างนอกดังลอดเข้ามาในเต็นท์ ทำให้เปลือกตาฉันที่หลับสนิทค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา วินาทีแรกที่ได้กลิ่นไอดินปะปนกับกลิ่นหญ้าเปียกหลังฝนจางเมื่อคืนที่ผ่านมา ความสดชื่นก็แผ่ไปทั่วร่างร่างฉันยังซุกแนบอยู่ในอ้อมกอดพี่แทน ใบหน้าแนบชิดกับอกแกร่งอย่างเคยใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่รินรดบนหัว เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกได้ว่าหลับสนิทมากเพียงใดฉันขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่กล้าเปลี่ยนท่าทางมาก เพราะกลัวจะรบกวนการนอนของเขา แต่ก็ได้แค่คิด...“หนาวเหรอ?” เสียงทุ้มงัวเงียกระซิบชิดข้างหูฉัน ฉันเงียบไปอึดใจก่อนจะส่ายหน้าเล็ก ๆ แล้วตอบกลับเบา ๆ“เปล่าค่ะ...แค่ยังไม่ชินปกตินอนคนเดียวมาตลอด” พี่แทนขยับตัวเล็กน้อยสองแขนกอดรัดฉันแน่นขึ้น“ก็ทำให้ชินสิครับ” เขาขยับหัวมาแนบแก้มนุ่มฉัน ริมฝีปากแตะหน้าผากอย่างแผ่วเบาก่อนพึมพำต่อ “ถ้าเราตื่นมาแบบนี้พร้อมกันทุกวันก็ได้นะ ถ้าหนูไม่เบื่อ”ฉันยิ้มมองใบหน้าคมที่ปรือตามองฉันเพราะเพิ่งตื่นนอน“หนูไม่เบื่อหรอกค่ะ แต่กลัวว่าจะเป็นพี่มากกว่าที่เบื่อก่อนหนูก็ได้” ฉันพูดจบเขาก็ลากนิ้วไล้กรอบหน้า ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากฉัน“ทั้งที่เพิ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status