Share

เตรียมงาน

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-14 07:00:42

ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงไปถึงบ้านหลิวในเวลาไม่นาน สองเฒ่าชราที่อายุน้อยกว่าพ่อเฒ่าฉางหลายปีออกมาต้อนรับลูกเขยกับลูกสาวด้วยความดีใจ พอรู้ว่าหลานชายกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองก็ดีใจมาก

“พวกเราจะไปแน่นอนเอ้อหลิง พ่อกับแม่จะให้พี่ใหญ่เธอพาไปเอง ตั้งแต่หลาน ๆ ไปทำงานในอำเภอ พวกเราก็สบายขึ้นมาก จักรยานที่บ้านก็มีถึงสองคัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืดเลย” แม่หลิวรีบบอกพร้อมรอยยิ้มชรา

“ใช่ ๆ นานแล้วที่บ้านเราไม่มีงานมงคล” พ่อหลิวเองก็ดีใจไม่น้อยที่หลานชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว

“ถ้าพ่อแม่ไม่อยากตื่นเช้านัก พวกเราปั่นจักรยานมารับพวกคุณได้นะคะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อยากทำให้พ่อแม่ลำบาก เธอจึงหันไปมองสามี

“ใช่ครับ ผมปั่นสามล้อมารับดีไหมครับ พ่อกับแม่จะได้นั่งกันสบายหน่อย”

“ไฮ้! ไม่เป็นไร ๆ พวกเราชอบนั่งพ่วงหลังจักรยานของเสี่ยวเค่อมากกว่า” พ่อเฒ่าหลิวพูดถึงหลานชายคนโตที่ทำงานมาหลายปีจนเก็บเงินได้ไม่น้อย

พวกเขานั่งคุยกันอีกเกือบสองชั่วโมง พอหลิวเอ้อหลิงเห็นว่าใกล้ถึงตอนเย็นแล้ว พวกเธอจึงขอตัวลากลับหมู่บ้านเติ้ง เพราะพวกเขายังต้องเตรียมการเรื่องงานแต่งงานที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันด้วย

กว่าที่ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงจะกลับถึงหมู่บ้าน ฟ้าก็มืดเสียแล้ว ดีที่จักรยานคันใหม่ของพวกเขามีไฟ ทำให้ระหว่างเดินทางไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น

“พ่อ แม่ ทำไมกลับค่ำจังล่ะครับเนี่ย พวกผมเป็นห่วงมากจนเกือบจะออกไปตามหาแล้วนะครับ” ฉางเล่ยรีบออกมาดูพ่อแม่ที่เพิ่งเข้าประตูรั้วกันมา

“พวกเราคุยกับปู่ย่าตายายของลูกนานไปหน่อยน่ะ พวกเขารับปากว่าจะมางานในวันเสาร์นี้กันตั้งแต่เช้ามืด เราก็ไม่ต้องเร่งรีบอะไรนักหรอก จัดงานกินเลี้ยงกันตอนเที่ยงก็คงพอดี เสียดายที่บ้านเราเล็กไปหน่อย ไม่อย่างนั้นจะได้ให้พวกเขามาพักที่บ้านเราสักคืนก่อนวันงาน” ฉางชิงหยูคิดถึงครอบครัวใหญ่ของเขาจึงเอ่ยขึ้น

“พ่อก็พูดไป รอให้พวกเรามีเงินเก็บมากกว่านี้ก่อนค่อยสร้างบ้านใหม่เถอะ หรือไม่เราก็ไปค้างที่หมู่บ้านเสิ่นกันสักวันสองวันก็ได้นี่นา” หลิวเอ้อหลิงปรามสามี เธอไม่อยากให้เรื่องบ้านใหม่กลายเป็นภาระของลูกชายและลูกสะใภ้ ไหนจะเรื่องเรียนของลูกสาวคนเล็กที่ยังไม่แน่นอนอีก พวกเขาที่มีความสามารถเพียงทำงานแลกแต้มมีหรือจะกล้าคิดเรื่องใหญ่โตอย่างการสร้างบ้านใหม่

“อย่าเพิ่งพูดเรื่องอื่นเลยครับ พ่อแม่รีบเข้ามากินข้าวเย็นก่อน ผมกับเมี่ยวจินเตรียมเอาไว้ให้นานแล้ว” ฉางเล่ยเข้าใจความคิดของพ่อเขาดี เพียงแต่เขาเองก็ไม่เก่งด้านการหาเงินมากนัก จึงทำได้เพียงชวนพวกเขาคุยเรื่องอื่นแทน

ซูเมี่ยวจินที่นั่งคุยเล่นกับฉางเซียงจูอยู่ได้ยินเข้า เธอก็คิดว่ารอให้ผ่านงานแต่งงานนี่ไปก่อน เธอจะลองทำธุรกิจเล็ก ๆ หลังจากขึ้นเขาล่าสัตว์อีกสักเดือนสองเดือนเพื่อเก็บเงินทุนเสียก่อน ด้วยฝีมือของเธอ ซูเมี่ยวจินมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการล่าสัตว์ไม่น้อย

ค่ำนั้นทุกคนต่างเข้านอนด้วยความคิดที่แตกต่างกัน พรุ่งนี้พ่อแม่ฉางยังต้องไปทำงานแลกแต้มหนึ่งวัน ก่อนที่จะขอหยุดอีกครั้งเพื่อเตรียมตกแต่งบ้านสำหรับงานแต่งงานของฉางเล่ย

[เจ้านาย หลังแต่งงานแล้วคุณจะทำยังไงเพื่อสร้างความมั่นคงให้บ้านสามีครับ]

[นายถามทำไมกัน]

[แน่นอนว่านี่เป็นภารกิจหลักของเจ้านายนะครับ ส่วนภารกิจย่อยหรือภารกิจพิเศษจะเกิดขึ้นตามสถานการณ์ที่เจ้านายประสบอยู่ครับ]

[อืม… ฉันจะล่าสัตว์สักสองเดือนเพื่อเก็บเงินทุน จากนั้นจะไปที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อหาของมาขายที่อำเภอลองดูก่อน]

[เป็นความคิดที่ดีครับ ขอให้เจ้านายประสบความสำเร็จในก้าวแรกของการพาครอบครัวไปสู่ความร่ำรวยครับ]

[ขอบใจนายมาก รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันยังมีเรื่องต้องทำอีก]

[ราตรีสวัสดิ์ครับเจ้านาย]

ซูเมี่ยวจินหลับไปในเวลาไม่นาน เธอไม่ได้คิดมากเรื่องการหาเงิน อย่างไรเธอก็พอจะรู้เรื่องธุรกิจอยู่บ้าง ยิ่งในยุคที่ข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ การเริ่มค้าขายก่อนจะทำให้ฐานะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าเธอจะยังคิดไม่ออกว่าจะค้าขายสิ่งใดในอำเภอก็ตามที และไม่แน่ว่าเธออาจจะต้องคิดเรื่องธุรกิจมากกว่านี้

หลังอาหารเช้าวันต่อมา พ่อแม่ฉางออกไปทำไร่ ฉางเซียงจูไปเรียนก่อนหน้าแล้วเช่นกัน ซูเมี่ยวจินเห็นฉางเล่ยเตรียมตัวเหมือนจะขึ้นเขา เธอจึงหยุดเขาเอาไว้เสียก่อน

“คุณไม่ต้องขึ้นเขาวันนี้หรอกค่ะ เราไปอำเภอสักหน่อยดีไหม”

“หืม? คุณมีอะไรต้องซื้ออีกเหรอครับ” ฉางเล่ยเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย

“ฉันอยากซื้อเนื้อกับผักมาไว้ที่บ้านสักหน่อยค่ะ พรุ่งนี้เราจะได้จัดบ้านกันอย่างเดียว ไม่ต้องออกไปซื้อมาเตรียมเอาไว้ให้เสียเวลา” ซูเมี่ยวจินบอก

“ได้สิ ถ้าอย่างนั้นผมไปยืมจักรยานของพ่อก่อนนะครับ” ฉางเล่ยไม่อยากเอารถยนต์ออกไปให้ชาวบ้านเห็นจึงคิดจะปั่นจักรยานไป

“ตกลงค่ะ เอาจักรยานไปก็ดีเหมือนกัน” ซูเมี่ยวจินก็ไม่อยากให้พวกชาวบ้านพูดมากเช่นกัน เธอจึงยอมรับข้อเสนอของฉางเล่ย

ฉางเล่ยไปที่ไร่ไม่นานก็ปั่นสามล้อกลับมารับซูเมี่ยวจิน พวกเขาเข้าอำเภอหลังจากปิดบ้านเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะมีพวกขี้นินทานั่งอยู่หน้าหมู่บ้าน พวกเขาก็ไม่คิดจะสนใจ

“ชิ ดูพวกเขาสิ พอรวยขึ้นมาหน่อยก็ไม่เห็นหัวพวกเราแล้ว” แม่เฒ่าฮัวอดหมั่นไส้ฉางเล่ยไม่ได้ที่ตกถังข้าวสารได้เมียรวย

“แม่เฒ่าจะพูดถึงคนพวกนี้อีกทำไม ยิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บใจ งานแต่งงานแทนที่จะเชิญพวกเราชาวบ้านไป กลับไม่เชิญเลยสักคน ฉันยังคิดจะห่ออาหารกลับบ้าน เลยไม่ได้ของฟรีกลับบ้านเลยน่ะสิ” ป้าฟางพูดอย่างโมโห

“เฮอะ! ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อผู้ใหญ่บ้านบอกแล้วว่าพวกเขาจะเชิญแค่ญาติกับคนสนิทไม่กี่คนเท่านั้น เราไม่ได้สนิทกับพวกเขาเสียหน่อย” ป้าซิงเอ่ยเสริม

จอมนินทาในหมู่บ้านยังคงโกรธไม่หายที่เสียหน้าเมื่อวานนี้ พวกเธอชอบนินทาว่าร้ายคนอื่นก็จริงอยู่ แต่พอถูกซูเมี่ยวจินตบเข้าก็ไม่กล้าหาเรื่องเจ็บตัวอีก

ฉางเล่ยพาซูเมี่ยวจินไปร้านสหกรณ์ที่ขายเนื้อสัตว์และผักซึ่งแต่ละหมู่บ้านจะส่งเข้ามาขายรวมกันในสหกรณ์ตามราคาตลาด

ซูเมี่ยวจินเลือกเนื้อดี 10 กิโลกรัม ผักต่าง ๆ อีก 20 กิโลกรัม ทำเอาพนักงานขายในสหกรณ์อดจะแปลกใจไม่ได้ น้อยนักที่จะมีคนซื้อเนื้อและผักทีละเยอะ ๆ

“ทั้งหมด 125 หยวนค่ะ” พนักงานบอกราคา

“นี่เงิน 130 หยวนค่ะ สามี คุณขนไปไว้บนรถก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวฉันขนตามไป”

ซูเมี่ยวจินจ่ายเงินและรอเงินทอนจากพนักงาน เธอหันไปบอกฉางเล่ยให้ขนของขึ้นไปไว้ก่อนจะได้ไม่เสียเวลา

เมื่อรับเงินทอนเสร็จ ซูเมี่ยวจินก็ยกถุงผักตามหลังฉางเล่ยไปวางบนพ่วงท้ายรถสามล้อของพวกเธอ

“คุณจะซื้ออะไรอีกไหมเมี่ยวจิน” ฉางเล่ยหันไปถามก่อนเขาจะปั่นสามล้อออกจากสหกรณ์ของอำเภอ

“ฉันคิดไม่ออกค่ะ เรากลับบ้านเอาของไปแช่น้ำไว้ก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นเนื้อกับผักจะเน่าเสียก่อนถึงวันงาน” ซูเมี่ยวจินลืมนึกไปว่าที่บ้านไม่มีตู้เย็น เธอจึงกลัวว่าของที่ซื้อมาจะเสียหายก่อนถึงวันงานมะรืนนี้

“ตกลงครับ คุณนั่งดี ๆ นะ” ฉางเล่ยเห็นสิ่งของวางอยู่เยอะจึงกลัวว่าซูเมี่ยวจินจะนั่งไม่สบาย

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณปั่นไปเถอะ” ซูเมี่ยวจินบอกและคิดว่าตัวเองยังต้องซื้ออะไรอีกหรือไม่ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก ซูเมี่ยวจินจึงปล่อยผ่านไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ซูเมี่ยวจิน   เจ้าสาวสวยมาก

    “โอ้! เจ้าสาวของฉางเล่ยสวยมากจริง ๆ” เสียงลุงใหญ่บ้านฉางที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกอดจะชมเสียงดังไม่ได้“ใช่ ๆ เจ้าสามได้ลูกสะใภ้สวยจริง ๆ” พี่ชายหลิวเอ้อหลิงที่เห็นหลานสะใภ้เอ่ยเสริมขึ้นมาเสียงดังเช่นเดียวกัน“พวกลุงอย่าแกล้งภรรยาผมสิครับ ดูสิ เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว” ฉางเล่ยยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับคนสวยตรงหน้า เขารู้ดีว่าสีหน้าของซูเมี่ยวจินตอนนี้คงกำลังเขินอายอยู่ ไม่อย่างนั้นแก้มของเธอคงไม่แดงก่ำขึ้นมาจนลามไปถึงคออย่างที่เขากำลังเห็นเป็นแน่“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะคุณลุง” ซูเมี่ยวจินได้ยินฉางเล่ยพูดขึ้น เธอจึงสงบจิตใจตอบกลับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม สายตาคมดุของเธอมองเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อมากในสายตาเธอก็อดที่จะมองเขาสักหลายทีไม่ได้เช่นกันเหล่าผู้อาวุโสเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแอบมองกันไปมาก็รีบผลักพวกเขาให้ไปรอต้อนรับแขกที่ลานหน้าบ้าน ฉางเล่ยที่ตั้งตัวได้ก่อนจึงจับมือซูเมี่ยวจินเดินออกไปตามคำสั่งของผู้ใ

  • ซูเมี่ยวจิน   วันแต่งงาน

    หลังกินข้าวเสร็จ ฉางชิงหยูอาสาไปเชิญเพื่อนบ้านที่สนิทกันและยืมโต๊ะเก้าอี้มาไว้ใช้ในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้ หลิวเอ้อหลิงบอกให้ฉางเล่ยไปขอซื้อไก่จากเพื่อนบ้านพวกนั้นมาสักหลายตัวเพื่อทำอาหารขึ้นโต๊ะในงานแต่งงาน หลังจากดูแล้วว่ายังขาดเมนูไก่ไปหนึ่งอย่าง สองพ่อลูกจึงออกจากบ้านไปด้วยกันหลิวเอ้อหลิงกับซูเมี่ยวจินจึงช่วยกันตกแต่งบ้านต่อ เหลืออีกเพียงนิดหน่อยก็ตกแต่งเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้บ้านฉางเต็มไปด้วยกระดาษและผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในห้องนอนของฉางเล่ยเองก็ถูกติดกระดาษเอาไว้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูเป็นสีแดงมงคล หลิวเอ้อหลิงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะเข้าไปเปลี่ยนให้ลูก ๆ“แม่คะ ฉันติดเสร็จหมดแล้วค่ะ จะให้ทำอะไรต่อคะ” ซูเมี่ยวจินถามขึ้น“ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ เราไปปั้นแป้งเตรียมทำบัวลอยวันพรุ่งนี้กันดีไหม” หลิวเอ้อหลิงนึกถึงขนมบัวลอยที่บ่าวสาวต้องกินในวันแต่งงานขึ้นมาได้ เธอไม่อยากเสียเวลาเตรียมของพรุ่งนี้จึงคิดจะทำเอาไว้ก่อน“ได้ค่ะแม่&r

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายเขากวาง

    “เชิญคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายด้านในเลยครับ” เจ้าของร้านผายมือเชิญอย่างนอบน้อม ต่างจากครั้งก่อนที่พวกเขามาขายโสมราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ“ขอบคุณครับ/ค่ะ” ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเห็นเถ้าแก่ทำแบบนี้เลยไม่อยากเสียมารยาท“พวกคุณนั่งก่อนครับ วันนี้จะมาขายเขากวางในมือนั่นหรือเปล่าครับ” เถ้าแก่ถามด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เพราะเขากำลังจะได้ของดีมาขายอีกแล้ว“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณรับซื้อยังไงคะเถ้าแก่” ซูเมี่ยวจินถามตรง ๆ เธอไม่เคยขายเขากวางมาก่อนจึงไม่รู้ว่าราคาตลาดเป็นอย่างไร“เขากวางสดขายราคาเป็นขีดครับคุณผู้หญิง เขากวางของคุณใหญ่ขนาดนี้น่าจะได้ราคาสูงมากทีเดียว หลายปีแล้วที่ร้านขายยาไม่มีเขากวางขายครับ” เถ้าแก่บอกตรง ๆ เพื่อที่เขาจะได้รับซื้อเขากวางและนำไปขายทำกำไรต่อเหมือนเคย“ขีดละเท่าไหร่หรือคะเถ้าแก่ ถ้าราคาต่ำไป ฉันจะได้เก็บเอาไว้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่คิดว่า

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายกวาง

    ฉางเล่ยถึงกับทึ่งในฝีมือการใช้หน้าไม้ของซูเมี่ยวจิน แต่เขาไม่มีเวลาสงสัยมากนักเมื่อเธอบอกให้เขารีบเข้าไปกลบเลือดกวางที่ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือสัตว์ดุร้ายตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมาซูเมี่ยวจินมองหาไม้ใหญ่และเถาวัลย์เพื่อใช้มัดกวาง ดีที่ป่าตรงนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ซูเมี่ยวจินใช้เวลาไม่นานก็นำของทั้งหมดไปจัดการมัดกวางเอาไว้“ช่วยฉันแบกมันลงจากเขากันเถอะค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ซูเมี่ยวจินยังคงกลัวว่าจะกลับบ้านค่ำมืดเกินไป“สี่โมงเย็นพอดีครับ” ฉางเล่ยยกไม้ที่มีกวางถูกมัดอยู่ขึ้นพาดไหล่อย่างไม่หนักแรง“เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอามันไปขายในอำเภอนะคะ”“ตกลงครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะใช้จักรยานหรือรถยนต์ไปในอำเภอดีครับ”“ฉันว่าเอาสามล้อของพ่อไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นรถยนต์เราเร็วนัก ยังไงวันแต่งงานก็ต้องเอารถออกไปจอดหน้าบ้านอย

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากขึ้นเขา

    ทั้งสองกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงนิดหน่อย หลังจากเก็บเนื้อและผักแช่ไว้ในบ่อน้ำหลังบ้านแล้ว ซูเมี่ยวจินก็ไปอุ่นอาหารรอฉางเล่ยที่กำลังเอาสามล้อไปคืนพ่อที่ไร่ เธอคิดว่าช่วงบ่ายไม่มีอะไรทำ จึงอยากชวนฉางเล่ยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ หาสมุนไพรดูสักหน่อย เผื่อว่าจะโชคดีได้เงินอีกสักก้อนฉางเล่ยกลับมากินข้าวพร้อมซูเมี่ยวจินในเวลาไม่นานนัก ระหว่างที่กำลังกินมื้อเที่ยงกันอยู่ ซูเมี่ยวจินก็ชวนฉางเล่ยขึ้นเขา“คุณแน่ใจเหรอว่าจะขึ้นเขาบ่ายนี้” ฉางเล่ยเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง“ใช่ค่ะ ยังไงบ่ายนี้พวกเราก็ไม่มีอะไรทำ คุณไม่ได้ไปดูกับดักสัตว์หลายวันแล้ว เผื่อว่าจะได้สัตว์ไปขายในอำเภอพรุ่งนี้สักตัวสองตัวก็ยังดีนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นกินข้าวเสร็จ ผมจะเอากุญแจบ้านไปให้พ่อก่อน คุณรอผมที่บ้านนะครับ ผมไปไม่นาน” ฉางเล่ยพยักหน้าตอบรับ เขาลืมไปเลยว่าวางกับดักสัตว์เอาไว้หลายวันแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานแต่งงานจึงไม่ได้ขึ้นไปดู

  • ซูเมี่ยวจิน   เตรียมงาน

    ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงไปถึงบ้านหลิวในเวลาไม่นาน สองเฒ่าชราที่อายุน้อยกว่าพ่อเฒ่าฉางหลายปีออกมาต้อนรับลูกเขยกับลูกสาวด้วยความดีใจ พอรู้ว่าหลานชายกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองก็ดีใจมาก“พวกเราจะไปแน่นอนเอ้อหลิง พ่อกับแม่จะให้พี่ใหญ่เธอพาไปเอง ตั้งแต่หลาน ๆ ไปทำงานในอำเภอ พวกเราก็สบายขึ้นมาก จักรยานที่บ้านก็มีถึงสองคัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืดเลย” แม่หลิวรีบบอกพร้อมรอยยิ้มชรา“ใช่ ๆ นานแล้วที่บ้านเราไม่มีงานมงคล” พ่อหลิวเองก็ดีใจไม่น้อยที่หลานชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว“ถ้าพ่อแม่ไม่อยากตื่นเช้านัก พวกเราปั่นจักรยานมารับพวกคุณได้นะคะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อยากทำให้พ่อแม่ลำบาก เธอจึงหันไปมองสามี“ใช่ครับ ผมปั่นสามล้อมารับดีไหมครับ พ่อกับแม่จะได้นั่งกันสบายหน่อย”“ไฮ้! ไม่เป็นไร ๆ พวกเราชอบนั่งพ่วงหลังจักรยานของเสี่ยวเค่อมากกว่า” พ่อเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status