[DARLA’S PART]
คนอะไรนิสัยกับหน้าตาสวนทางกันจริงๆ ‘เห้ย ดาหลาเหนื่อยใจมากนะ’
“แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ...โอ้ย ปวดหมอง!” ฉันพูดออกมาก่อนจะเหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง...
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
“เขาไปไหนของเขานะ” ฉันพึมพำออกมาในขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังนอกหน้าต่าง
“หมายถึงฉัน”
“อุ้ย...ดาตกใจหมดเลยคุณเบลซ” ฉันเอ่ยออกมาก่อนเอามือทาบที่อกของตัวเอง... ‘คนอะไรคิดจะไปก็ไป คิดจะมาก็มาไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงเลย’...
“...” เขาไม่พูดอะไรเพียงแต่ยื่นถุงกระดาษสองถุงใหญ่ในมือของเขามาให้ฉัน
“0.0...นี่” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ...
“ฉันจะออกไปรอข้างนอก...” ผู้ชายตรงฉันเอ่ยขึ้นอย่างนิ่งๆ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกทันที
แอ๊ดดดดดดดดด!
ปึงงงงงงงงงงงง!
“คุณเบลซไปซื้อผ้าอนามัยให้ฉัน...หรอ”
“โลกจะแตกรึป่าวเนี่ย...”
ฉันบนพึมพำกับตัวเองพร้อมกับมองของในถุงกระดาษที่ฉันถืออยู่ ก่อนจะพบว่าในถุงนี้มีผ้าอนามัยทุกสีทุกขนาดและทุกยี่ห้อที่มีว่างขายตามร้านสะดวกซื้อก็ว่าได้...
“โอ้ย!...หน้าอายชะมัด” ฉันเอ่ยออกมากับตัวเองอีกครั้งก่อนจะไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แล้วจึงเดินตามเขาออกไปด้านนอก
“คุณเบลซ...”
“ยังปวดท้องอยู่รึป่าว...?”
“นิดนึงคะ...คุณ...” ฉันตอบเขาออกไปอย่างติดขัด ใครกันนะใช่ให้เขามาพูดจาเป็นห่วงเป็นใยฉัน แล้วไหนจะสายตานั้นอีก ใจด้วยน้อยๆ ของดาหลาคนนี้แทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆอยู่แล้ว
“...” เขาไม่พูดอะไร แต่เขายื่นถุงน้ำร้องขนาดพอดีมือมาให้ฉัน
“ข…ขอบคุณนะคะ” พูดจบฉันก็ยื่นมือไปรับถุงน้ำร้องจากเขา
ตึก!ตึก!ตึก! เสียงหัวใจดวงน้อยๆของฉันยังคงเต้นแรงไม่หายสักที ‘โอ้ย!...ยิ่งเขาทำแบบนี้ฉันจะตัดใจจากเขาได้ไงล่ะเนี่ย...’
“...”
“...”
“นั่งลงสิ ฉันไม่อยากให้เธอกินยากินมากมันไม่ดี ถ้าครั้งหน้าปวดท้องอีกก็ใช้วิธีนี้ก่อน” คุณเบลซเอ่ยบอกกับฉัน ก่อนที่สายตาของเขาจะมองมายังถุงน้ำร้อนที่อยู่ตรงหน้าท้องฉัน
“ค่ะ”
นี่คงจะเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี ล่ะมั่งที่คุณเบลซพูดกับฉันยาวขนาดนี้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเท่าที่ฉันจำความได้นอกจากฉันนั่งมองดูเขาทำการบ้าน อ่านหนังสือ หรือแม้แต่ต่อเลโก้ ฉันก็เป็นคน พูดโน้นพูดนี่ให้เขาฟัง ในขณะที่เขาแทบจะไม่เอ่ยอะไรกับฉัน เป็นฉันคนเดียวที่พยายามมาตลอด
“...”
“คุณเบลซคะ?”
“นั่งพักไปก่อนเธอเบาแล้วเราค่อยกลับกัน...”
“ค่ะ”
“...”
หลังจากที่เราทั้งสองนั่งเงียบกันอยู่สักครู่ คุณเบลซก็หยิบรีโมทโทรทัศน์ขึ้นมาเปิดดูโน้นดูนี่ของเขาไปเรื่อย...
…
[BLAZ’S PART]
ผมนั่งมองยัยตัวเล็กข้างๆ ที่ผล่อยหลับไปได้สักพักใหญ่แล้ว ผมจึงขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ ก่อนจะจับหัวน้อยๆ ของเธอมาซบลงตรงไหล่กว้างของผม
ก่อนที่ผมค่อยๆ ก้มลงมองหน้าเธอ ถึงจะเห็นเพียงแค่เสี่ยวเล็กๆ ของใบหน้าก็พอจะรู้แล้วยัยเด็กนี่หน้ารักไม่เคยเปลี่ยน ตอนเด็กเป็นอย่างไร ตอนโตก็ตามนั้นเลย...ถึงยัยกะโปโลนี่จะไม่มีอะไรภายนอกที่ดูต่างจากคนอื่นหรือดูน่าดึงดูดเลยสักนิดเดียว และเผลอๆอาจจะหนักกว่าใครหลายๆคนเลยด้วยซ้ำ เพราะใบหน้าที่ไม่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางใดๆ ยิ่งทำให้เธอดูเด็กกว่าอายุจริง บวกกับผิวที่ไม่ได้บำรุงอะไรมากมายแต่กลับดูสุขภาพดี ยิ่งเรื่องแต่งตัวยิ่งไม่ต้องพูดถึงนอกจากเสื้อยืดกางเกงยีนต์ผมก็ไม่เคยเห็นเธอใส่แบบอื่นเลย
คนอื่นมองว่าผมเป็นคนพูดน้อย มันก็จริงแหละผมแค่อยากพูดกับคนที่ผมอยากพูดด้วยเท่านั้น แต่ก็นะกับบางคนที่อยากจะพูดด้วยใจแทบขาดกลับไม่กว่าแม้แต่จะเอื่อนเอ่ยคำใดออกไป และการที่ผมไม่ชอบพูดมันทำให้ผมกลายเป็นคนช่างสังเกต โดยเฉพาะยัยตัวเล็กที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ข้างผมนี่ ตั้งแต่เล็กเธอมักจะชอบยิ้มให้ผม พูดนั่นนี่ให้ผมฟัง เป็นผมที่ตอบรับรอยยิ้มหวานๆนั้นของเธอด้วยการบึ้งตึงใส่ก็ตาม แต่ยัยนี่ก็ยังคงยิ้มให้ผมเสมอๆ
ผมตกหลุมรักเธอคนนี้ตอนไหน เมื่อไหร่ ไม่รู้ พอรู้ตัวอีกทีก็ถอนตัวเองไม่ขึ้นซะแล้วสิ
และที่สำคัญผมจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งเธอไปจากผมทั้งนั้น รอยยิ้มของดาหลาต้องเป็นของผมคนเดียว... ‘ดาหลาของผม’
…
[DARLA’S PART]
“อืออออ...” ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาหลังจากที่ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้...รู้ตัวอีกทีฉันก็นอนซบซบไหล่เขาอยู่‘บ้าน่า...ฝันรึป่าว’
“อ๊ะ!...” ฉันเอามือรองหยิกที่มืออีกข้างของตัวเองก่อนจะสะดุงสุดตัว ฉันไม่ได้สะดุ้งเพราะเจ็บตัวหรอกนะ ก็เพราะมันไม่ได้เจ็บขนาดนั้น แต่ฉันตกใจที่สุดคือฉันนอนซบไหล่กว้างของคุณเบลซเนี่ยเเหละ...
“คะ...คุณเบลซดาขอโทษค่ะ...”
“...”
“ปวดไหล่แย่เลย ทำไมไม่ปลุกดาล่ะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับผู้ชายตรงหน้าอย่างสำนึกผิด
“หึ...นวดให้ฉันสิ” เขายกยิ้มก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ฉันอึ้นหนักเข้าไปอีก…
“คะ?” ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจหลังจากที่ตัวเองได้สติ ใครจะไปคิดว่าจะได้ยิ้นคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากผู้ชายตรงหน้าฉัน
“...”
“มะ มาค่ะเดี๋ยวดานวดให้” ฉันเอ่ยบอกกับเขาไปอย่างงงๆ เพราะการที่เขาเงียบนั่นหมายความว่าหูของฉันได้ยินไม่ผิด...
“...” คุณเบลซไม่ได้พูดอะไรเขาเพียงแค่ขยับเล็กน้อย เพื่อให้ฉันได้นวดให้เขาง่ายขึ้น โดยที่สายตาของเขายังคงจ้องโทรศัพท์อยู่
“เบาปวดท้องรึยัง”
“เบาแล้วค่ะ คุณเบลซดาขอบคุณอีกครั้งนะ และก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเดือดร้อน” ฉันพูดไปพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิด ฉันยังไม่ทันได้มาอยู่ที่นี่ก็สร้างปัญหาให้เขาซะแล้ว กลัวว่าถ้าได้มาอยู่จริงคงจะสร้างปัญหาให้เขาอีกแน่ๆเลย
“ฉันไม่ได้เดือดร้อนอะไร อย่าคิดไปเอง” เขาพูดออกมาเสียงเรียบก่อนที่จะลุกออกไป...
“...”
“อะนี่”
“คะ?...ขอบคุณค่ะ” คุณเบลซยื่นคีย์การ์ดสี่เหลี่ยม สีเทา ขนาดพอดีมือมาให้ฉัน
“นี่คีย์การ์ดสำหรับสแกนผ่านประตู ส่วนที่ประตูห้องใช้สแกนลายนิ้วมือ”
“ค่ะ”
“มานี่...” หลังจากที่เขาพูดจบก็คว้ามือฉันให้ลุกเดินตามเขาออกไปที่ประตูหน้า
ก่อนที่เขาจะจับมือของฉันขึ้นไปสแกนนิ้ว ณ ตอนนี้ฉันไม่รับรู้ได้เลยว่าเขาทำอะไรกับมือฉันอยู่ สิ่งที่ฉันรู้ในตอนนี้คือหน้าของเราอยู่ใกล้กันมาก ใบหน้าที่ไร้ที่ติอยู่ใกล้ฉันแค่เอื้อม แต่ถึงยังไงฉันก็คงไม่มีวันเอื้อมถึงอยู่ดี
“เธอ...เธอ...ดาหลา”
“คะ ค่ะ”
“เข้าใจที่ฉันพูดไหม”
“เข้าใจค่ะ” ฉันบอกกับเขาออกไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งๆ ที่จริงแล้วฉันไม่ทันได้ฟังเขาพูดเลยด้วยซ้ำ
[DARLA’S PART]10.00 น. เฮ้ย!...หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหกดาหลาคนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือขอบตาดำคล้ำคล้ายกับหมีแพนด้าเขาไปทุกที ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันอาทิตย์ วันนี้เป็นวันหยุดแรกหลังจากที่ฉันเริ่มทำงานมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วค่ะ...ตลอดเวลาที่ฉันเริ่มทำงานงานมาทุกอย่างที่ฉันเจอล้วนแต่เป็นสิ่งที่ฉันคาดการณ์เอาไว้แล้ว จึงไม่มีอะไรที่เป็นปัญหาหรือหน้าเป็นห่วงสำหรับฉัน และยิ่งฉันได้รุ่นพี่ที่ดี ได้เพื่อนร่วมงานที่น่ารัก ทุกคนคอยช่วยเหลือกันดีมันก็ยิ่งทำให้การทำงานของพวกเราไม่ตึงเครียดสักเท่าไหร่ ที่เหลือก็คงเป็นการปรับตัวของฉันในบางเรื่องเท่านั้นเองวันนี้เป็นวันหยุดของฉันก็จริงแต่ฉันไม่ได้กลับไปบ้านใหญ่หรอกนะ เพราะว่าคุณท่านพาทุกคนในบ้านไปเที่ยวบ้านพักต่างอากาศที่ภูเก็ตกันหมดเลย น่าอิจฉาใช่ไหมล่ะ... ~ครืนนนนนนนน ครืนนนนนนนนน~ - Unknown -ตึ๊ด!ฉันนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียวได้สักพักเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น... ฉันก้มมองเบอร์ที่โทรเข้ามาก็พบว่าเป็นเบอร์ที่ฉันไม่รู้จัก แต่ฉันก็ตัดสินใจรับนะ เพราะคนที่โทรมาอาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้...“ฮัลโล่ค่ะ...”(...) เงียบ!(ปึง!
[BLAZ’S PART]~ ครืนนนนนนนน ครืนนนนนนนนน ~ - DO -เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังรอยูเทิร์นรถเพื่อนเข้าคอนโด ช่วงยูเทิร์นตรงนี้รถติดเป็นประจำอยู่แล้วจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยตึ๊ด!(ฮัลโหลไอ้เบลซ) เสียงไอ้ดีโอ หรือดีนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมเอ่ยขึ้นจากปลายสาย ด้วยน้ำเสียงนิ่งๆหลายคนชอบบอกว่าผมสองคนไม่น่าจะคบกันได้เพราะต่างก็เป็นคนไม่ค่อยพูดเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วใครจะรู้ว่าผมสองคนแม่งไม่เหมือนกันเลยสักนิดไอ้ดีโอมันนิ่งก็จริง แต่เป็นประเภทน้ำนิ่งไหลลึก ใครที่เป็นศัตรูกับมันคงต้องคิดให้ดีหน่อย ถึงเปลือกมันจะดูเป็นคนสุภาพอ่อนโยน เงียบขรึมก็เถอะแต่แม่งเจ้าแผนการ ต่างจากผมที่เป็นคนนิ่งไม่ชอบพูดกับใคร ก็แค่อยากพูดกับคนที่อยากเท่านั้น และผมเป็นคนทำอะไรซึ่งๆหน้า คิดอะไรผมก็ทำอย่างนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องกวนใจที่ทำให้ผม ทำแบบนั้นไม่ได้แล้วซิ...ผมคิดพลางหันไปมองยัยตัวเล็กที่นั่งข้างๆเธอเอาแต่เหม่อมองออกไปด้านนอกไม่สนใจผมเลยสักนิด“ว่า”(มึงว่างไหมวะ) “เออ”(ฝากดูไอ้จีให้ก็หน่อยดิ…แม่งก่อเรื่องอีกล่ะ ไอ้น้องเวร) ปลายสายบอกกับผมด้วยน้ำเสียงปกติ ไอ้ดีโอมันไม่หวงว่าใครจะมาร
“คะ คุณเบลซ”“ดาหลา ตอบฉันมาสิ”“ดากลัว คุณอย่าทำแบบนี้สิคะ” ฉันตอบเขากลับไปพร้อมกับผลักอกแกร่งของเขา แต่มันไม่เป็นผลเลยสักนิดฉันไม่สามารถสู้แรงของผู้ชายตรงหน้าฉันได้เลย“กลัวหรอ ฮ่าๆ” ฉันไม่เคยเห็นคุณเบลซที่ดูมาดนิ่งคนเดิมของฉันในมุมนี้เลย มันทำให้ฉันเริ่มกลัวเขามาขึ้นเรื่องๆเพราะเหมือนกับว่าที่ผ่านมาฉันไม่ได้รู้จักเขาเลย ถึงแม้ว่าคนเราจะมีหลายด้าน ฉันก็จะขอบอกตรงๆว่าด้านนี้ของเข้าฉันไม่ชินจริงๆ“ฉันจะทำให้เธอกลัวฉันมากกว่านี้อีก ดาหลา”“คะ อุ๊บ อื้อ...” ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรออกมาเขาก็ประกบริมฝีปากเรียวอิ่มนั้นแบบที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนที่จะให้มือข้างที่จับปลายคางของของฉันออกแรงบีบเล็กน้องก่อนที่ลิ้นอุ่นๆ ของเขาจะแทรกเขามาในปากของฉัน “อื้อๆ อ่อย ตุบๆ อื้อ” ก่อนที่สติของฉันจะหายไปฉันทุบหน้าอกแกร่งของเขาอยู่สองสามทีเพื่อเรียกสติให้เขาแต่มันกลับไม่เป็นผลเอาซะเลย จูบแรกที่ฉันเคยฝันไว้อย่างดีกลับพังไม่เป็นท่า...“อื้อ...” ริมฝีปากที่ประทับแนบแน่นอย่างดิบเถื่อน ยิ่งฉันต่อต้านเขามาเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรุนเเรงและหนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น มือของเขาคายออกจากเอวของฉันอย่างช้าก่อนจะค่อยลูบแผ
ฉันนั่งมองกะทิที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงสลับกับผู้ชายคนเดิมที่นั่งเฝ้าเธอไม่ห่างอยู่ข้างเตียง ซึ่งตอนนี้ฉันก็รู้แล้วว่าเขาชื่อจีซัสเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทคุณเบลซ แต่จากที่ฉันสังเกตเขาก็เคารพคุณเบลซเหมือนพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองเลยด้วยซ้ำถึงยังไงฉันก็ไม่เข้าใจจีซัสอยู่ดีว่าทำไมเขาถึงต้องทำรุนเเรงขนาดนี้ด้วย กะทิเองก็เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กนิเดียวเองมีอะไรก็น่าจะคุยกันดีๆสิไม่ใช่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ แต่จากที่ฉันเห็นเขาดูจะเป็นห่วงกะทิมากเลยนะ เขาควรจะทะนุถนอมเธอสิไม่ใช่ทำกับผู้หญิงที่เขาชอบขนาดนี้แอ๊ดดดดดด!ทันทีที่ประดูห้องถูกเปิดขึ้นฉันกับจีซัสก็หันกลับไปมองบุคคลที่พึ่งเข้ามาใหม่ คุณเบลซเดินกลับเข้ามาพร้อมเอกสารผลตรวจของกะทิด้วยท่าทางเคร่งขรึมของเขาฉันเห็นแล้วยังกลัวเลยอ่ะ ฉันได้แต่หวังว่ากะทิจะไม่เป็นอะไรมากนะ“เฮีย กะทิเป็นอะไร” ก่อนที่จีซัสจะเอ่ยถามเขาออกไป“...”คุณเบลซไม่ตอบอะไรเข้าเพียงแต่เดินตรงมาหาจีซัสก่อนที่เขาจะ...“ออกไปรอฉันที่ห้อง” คุณเบลซหันมาบอกกับฉันก่อนที่เขาจะก้มลงอ่านเอกสารในมือของตัวเอง“ตะ แต่...” ฉันยังไม่ทันได้พูดจบคุณเบลซก็เงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง“ฉันจะ
5.00 น. ตอนนี้ก็เข้าสู่เช้าของวันใหม่แล้วงานที่ฉันได้รับมอบหมาย ฉันทำเสร็จเรียบร้อยแล้วและได้จัดเตรียมความคืบหน้าไว้ให้กับเวณถัดไปแล้วด้วยค่ะ...อ้อลืมบอกไปก่อนเริ่มงานฉันได้เข้าไปหากะทิ ร่างกายของเธอดีขึ้นมากแล้วอีกวันสองวันก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นสภาพจิตใจอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย...“อ้าว อ้อมผ่าตัดเสร็จแล้วหรอเป็นไงบ้าง” พี่พยาบาลอีกคนเอ่ยถามพี่อ้อมขึ้น หลังจากที่เธอเดินเข้ามาในห้อง“เรียบร้อยดีค่ะ คุณหมอของเราเก่งอยู่แล้ว” เธอตอบกลับพี่พยาบาลคนเดิมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่ก็ดูเหนื่อยๆ ในเวลาเดียวกันกันเฮ้ย เขาจะเป็นยังไงบ้างนะจะได้พักบ้างรึยังนะ...ฉันเดินออกมาสูดอากาศด้านนอก สายตาก็หันไปเห็นคุณเบลซกำลังเดินเข้าไปในห้องรับรองฝั่งตรงข้าม ปกติแล้วห้องนี้จะเป็นห้องที่ไว้รับรองแขกวีไอพี แต่ถ้ามีเคทที่ใหญ่ๆ เข้ามาคุณเบลซจะใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงานชั่วคราวฉันเดินเข้าไปในห้องครัว เพื่อต้มนมอุ่นๆ ซึ่งเป็นของโปรดของเขา เขามักจะดื่มนมอุ่นๆ เวลาที่เครียด หรือเหนื่อยมากๆ ฟังดูแปลกๆใช่ไหมคะ นั่นแหละค่ะคุณเบลซก็อกกกกกกๆ...“ใคร” เสียงเข้มดังมาจากข้านใน นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย“ดะ
[DARLA’S PART]23.45 น.“อื้อออออ...” ฉันครางออกมาทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ เพราะรู้สึกเจ็บที่หน้าอกเหมือนกับว่ามีคนกำลังบีบเค้นมันอยู่......แต่จะบ้าหรอนี้ฉันอยู่คนเดียวนะ หรือว่าเป็นความฝัน ‘อะ เจ็บ...’ ฉันร้องออกมาในใจทันทีที่รองหยิกแขนของตัวเองเบาๆ ฉันเจ็บแสดงนี้เป็นเรื่องจริงหรอ... ‘ดะ เดี๋ยว นะ...’“อืออออ ปะ ปล่อย นะ...” ฉันพูดออกไปพร้อมกับร้องดิ้นอยู่บนเตียง...“ซู่...ดา”“ปะ ปล่อย ฉัน ฮือออออ” หลังจากใด้ยินเสียงของคนที่กำลังทำอนาจารฉันอยู่เต็มสองหู ฉันก็สติแตกแทบจะบ้าตากถ้าไม่ได้ยินประโยคถัดมาที่เขาพูด...“ดา ดาหลา พี่เอง” เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนจากจับหน้าอกของฉัน เป็นกอดเอวฉันไว้แทน...“พี่เบลซ ดาตกใจหมดเลยค่ะ” ฉันพูดออกมาก่อนจะหันหลังกลับไปกอดเขาเอาไว้เเน่น...“โอ้ เด็กดีของพี่ ไม่ร้องนะครับ” เขาก็กอดฉันยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับมืออีกข้างที่ยังคงลูบหัวฉันอย่าอ่อนโยน“ว่าเเต่พี่เข้ามาในห้องดาได้ไงคะ...”“...” แสงไงสลัวๆ ในห้องกลับไม่ได้ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายตรงหน้าฉันดูลดน้อยลงเลย แต่มันกลับยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์หน้าหลงไหลยิ่งขึ้นไปอีก (ดาหลาคลั่งรักแหละดูออก!)“...ดาจ
[DARLA’S PART]“พี่เบลซพูดแบบนั้นออกไปได้ไงคะ? ...” ฉันเอ่ยถามคุณเบลซออกไปก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งทำท่าสบายใจอยู่ที่โซฟา ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องระหว่างเราหรอกนะ…แต่ฉันก็ไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะถ้าคนอื่นรู้ความสัมพันธ์นี้คุณเบลซมีแต่จะเสียกับเสีย ฉันไม่อยากให้คนอื่นมองเขาไม่ดี และอีกอย่างฉันยังไม่พร้อมที่จะเสียเขาไปในตอนนี้“พี่พูดอะไรหรอ?” คุณเบลซเอ่ยบอกกับฉัน“อย่ามาทำเป็นจำไม่ได้นะคะ” ฉันเอ่ยตอบเขาออกไปอย่างงอลๆ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าคนที่ฉลาดๆ อย่างเขาจะไม่รู้ว่าฉันหมายความว่าอะไร“หืม…”“ว๊ายยยยยยย!!!” ฉันร้องออกมาเสียงหลงทันทีที่ผู้ชายตรงหน้าดึงฉันลงไปนั่งบนตักของเขา“หึ…ไหนพูดอีกที” เขากระซิบที่ข้างหูฉันอย่างแผ่วเบา มันทำให้ฉันเสียวสันหลังอย่างไงห็ไม่รู้“พะ พี่เบลซจะทำอะไรคะ”“พี่ก็แค่อยากให้หนูมาพูดใกล้ๆ พี่จะได้เข้าใจ”“…”“ดาคิดอะไรทะลึ่งอยู่รึป่าวล่ะครับ…หือ?”“ปะ ป่าวสักหน่อยดายังไม่ได้คิดอะไรเลย…” ฉันเอ่ยบอกกับเขาออกไปก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเขินอาย…“หรอคับ? ...”“ก็ใช่สิคะ ฮึ่ยไม่คุยด้วยแล้วค่ะ” พูดจบฉันทำท่าจะลุกออกจากตักของเขา…“จะหนีพี่
[BLAZ’S PART]1 เดือนต่อมา…“ดา…พรุ่งนี้ไปกระบี่กับพี่นะครับ” ผมเอ่ยเรียกยัยตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับการทำอาหารอย่างขมักเขม้น วันนี้เป็นวันหยุดของผมกับดา ซึ่งวันหยุดของผมส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับการตรวจเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับคาสิโนของป๊าผมที่ฮ่องกง ผมคงจะลืมเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับป๊า ม๊าผมสินะ…ป๊าผมเป็นเจ้าของคาสิโนที่มีสาขาอยู่หลายประเทศทั่วโลก ซึ่งศูนย์ใหญ่จะอยู่ที่ฮ่องกง ดังนั้นเอกสารต่างๆ รวมถึงรายรับ-รายจ่ายจะถูกสรุปรวบรวม และส่งมาให้ผมตรวจสอบในทุกๆ เดือน และแน่นอนพ่อของผมเป็นมาเฟียส่วนม๊าของผมนั่นท่านเป็นหมอ เป็นลูกสาวเพียงตนเดียวขอตระกูลวงค์อัครหิรัญ ทำให้ม๊าของผมต้องเป็นผู้สืบทอดธุรกิจทุกอย่างของพวกท่านเพียงคนเดียวจากที่ดูประวัติคร่าวๆ ของป๊ากับม๊าผมแล้วทั้งสองเหมือนจะอยู่กันคนละโลกเลยด้วยซ้ำ แต่ทั้งคู่ก็ได้มาเจอกันเรื่องราวความรักของพวกท่านผมไม่เคยถามหรอก เพราะผมก็ได้เห็นกับตาอยู่แล้วว่าพวกท่านรักกันมากแค่ไหน ซึ่งมันก็ทำให้ผมอิจฉามาก ผมบอกไว้กับตัวเองเลยว่าผมต้องดูแล รัก และทะนุถนอมดาหลาให้มากว่าคู่ของป๊ากับม๊าของผมและด้วยความที่ท่านสองคนรักกันปานจะกลืนกินนี้นี่เองทำให้ในตอนนี้ผมต้อง
“อ่ะแฮ่ม!!!” “พะ พี่เบลซ” ฉันร้องเรียกเขาด้วยความตกใจ ถึงฉันกับพี่มาร์คัสจะไม่ได้ทำอะไรผิดก็ตาแต่ฉันก็ยังกลัวว่าเขาสองคนจะมีเรื่องกันอย่างวันนั้นอีก “ปล่อยมือออกจากเมียกูได้แล้วมั้ง” พี่เบลซเอ่ยบอกกับร่างสูงอีกคน ก่อนจะเดินเข้ามาจับมือหนาออกจาหัวของฉัน “หึ!” “ดาเข้าไปช่วยแม่กับยายเตรียมอาหารเถอะครับ ตรงนี้แดดมันแรงเกินไป” พี่เบลซเอ่ยบอกกับฉันด้วยรอยยิ้ม “พี่สองคนจะไม่ทะเลอะกันแน่หรอคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงทั้งสองตรงหน้าออกไปด้วยความกังวล ทุกครั้งที่พวกเขาเจอไม่เคยมีครั้งไหนที่พวกเขาจะคุยกันดีๆได้เลย “ไม่มีอะไรหรอครับ เข้าไปข้างในก่อนนะดา” พี่มาร์คัสเอ่ยบอกกับฉันเสียงเรียบ “แน่นะคะ” ฉันถามทั้งสองคนออกไปอีกครั้ง “ครับ/ครับ” “ก็ได้ค่ะ” ฉันตอบรับทั้งสองอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินเข้ามาในตัวบ้าน...[BLAZ’S PART] “รอบนี้ไม่ต่อยกูหรอวะ” ไอ้มาร์คัสเอ่ยถามผมขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนๆ “เมียคุมความประพฤติกูอยู่” ผมตอบกลับมันไปเสียงเรียบ “หึ มีอะไรอยากคุยกับกูก็ว่ามา”
ก๊อกๆๆ !!!!“เดี๋ยวแม่ไปเปิดเองลูก” “เชิญค่ะ” แม่ดาราเดินไปเปิดประตูให้กับคนที่มาใหม่ ก่อนที่ท่านจะดูตกใจเล็กน้อย “คุณท่าน คุณผู้หญิง...สวัสดีค่ะ” แม่ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะยกมือไหว้ทั้งสองที่มาใหม่อย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องมากพิธีหรอกดา เราเข้าไปข้างในกันเถอะฉันไม่ได้มาที่นี่ในฐานะเจ้านาย ฉันมาในฐานะยาย ฉันมาขอโทษแทนหลานชายตัวดีของฉันที่ทำผิดไว้กับลูกสาวของเธอ” เสียงคุณท่านเอ่ยถามแม่ของฉันเสียงอ่อน ก่อนที่แม่ของฉันจะเปิดประตูเพื่อตอนรับผู้ที่มาใหม่ทั้งสอง “ใช่ค่ะตามที่คุณแม่ท่านบอก ดาราไม่ใช่คนงานในบ้านเราแล้ว แต่เป็นแม่ของผู้หญิงที่ลูกชายเรารักมากที่สุด” คุณสัณห์แม่ของพี่เบลซพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “คุณท่าน คุณสัณห์สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทั้งสองอย่างนอบน้อม ก่อนจะก้มหน้าให้กับพวกท่านอย่างไม่กล้าสบตา “สวัสดีจ่ะหนูดา แม่ขอโทษแทนลูกแม่ด้วยนะดาหลา” คุณสัณห์หันมาบอกกับกับฉันเสียงอ่อน ก่อนที่ท่านจะลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู “ถ้าต่อไปนี้ตาเบลซรังแกหนูอีกบอกยายเลยนะ เดี๋ยวยายจัดการให้เอง” คุณท่านเอ่ยบอกกับด้วยใบหน้า
[BLAZ’S PART]“ดา ดาครับ” ผมเอ่ยเรียกร่างบางที่หมดสติไปในอ้อมกอดของผม ผมอุ้มเธอไว้แนบอกก่อนจะพาเธอออกมาด้านนอก ก่อนที่จะผมวางเธอลงบนเตียงซึ่งห้องนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องพักฟื้นของตาทอง “คุณหมอเบลซมีอะไรให้ฉันช่วยไหมค่ะ” เสียงพยาบาลเดินตามเข้ามาช่วยผม ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามผมขึ้น “ไปตามหมอจากแผนกสูติมาที” ผมเอ่ยบอกกับพยาบาลตรงหน้าเสียงเรียบ “ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะคุณหมอเบลซ” หลังจากที่พยาบาลเดินออกไปผมจึงเริ่มตรวจร่างกายเบื้องต้นให้กับร่างบางตรงหน้า เธอหมดสติไปมาจากการที่เธอพักผ่อนไม่เพียงพอ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ตาของเธอหมดสติไปจนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปบ่ายสามของอีกวันเธอยังไม่ได้นอนพักเลย รวมถึงเธอมีความเครียด ความวิตกกังวลสะสมอยู่มากทีเดียวและมีเรื่องหนึ่งที่ยังคงกวนใจผมอยู่ถึงร่างบางตรงหน้าผมจะไม่มีอาการอะไรที่ผิดปกติแสดงออกมาให้ผมเห็น แต่ผมมี...ม๊าเคยเล่าให้ผมฟังอยู่บ่อยๆ ว่าป๊าผมมีอาการแบบเดียวกันนี้ตอนที่ม๊าท้องผม มันทำให้ผมสงสัยว่าร่างบางตรงหน้ากำลังตั้งท้อง และผมเป็นคนแพ้ท้องแทนเธอ“สวัสดีค่ะคุณหมอเบลซ” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยถามผมขึ้นอย่างนอบ
“อ้วกกกกกก…” ผมโก่งคออ้วกออกมาจนแสบคอไปหมด ก่อนจะทรุดนั่งลงกับพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรง“คุณเบลซเป็นไงบ้างลูก ไหวไหม” ยายมณีเอ่ยถามผมดังมาจากด้านนอก“ผมไม่เป็นไรครับยาย”“มีอะไรหรอคะยาย” เสียงดาหลาเอ่ยถามยายของด้วยความสงสัย“ก็คุณเบลซนะสิลูกอยู่ดีๆก็อาเจียนออกมา”“อาเจียนหรอคะ” ดาหลาเอ่ยถามยายของเธอกลับไปอีกครั้ง แต่น้ำเสียงของเธอมันเเสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเธอเป็นห่วงผม“ใช่ลูก”“เมื่อกี้เขาก็ยังดีๆอยู่นี่คะ” เสียงดาหลาดังเข้ามาใกล้ขึ้น เหมือนเธอจะเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าห้องน้ำที่ผมอยู่“ก็นั่นสิลูก”แอ๊ดดดด !!!“คุณเบลซ” ยายมณีเอ่ยเรียกผมเสียงอ่อน ก่อนจะเดินเข้ามาผมอย่างเป็นห่วง“ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆครับยาย” ผมเอ่ยบอกกับหญิงสูงวัยตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม ผมเลือกที่จะไม่พูดความจริงกับท่าน เพราะผมคงไม่กล้าบอกหรอกนะว่าผมเหม็นกลิ่นอาหารที่ท่านทำอะ“หน้าคุณซีดมากเลยนะคะ” เธอเอ่ยบอกกับผมเสียงอ่อน“^0^” ผมหันไปยิ้มหวานให้กับเธออีกครั้ง“คุณยิ้มอะไรคะ” เธอเอ่ยถามผมเสียงเรียบอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์กับท่าทางของผมสักเท่าไหร่“หนูเป็นห่วงพี่หรอครับ” ผมยิ้มหวานก่อนจะเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน“ป
“คุณเบลซคะลุกขึ้นเถอะค่ะ” น้าดาราเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน ก่อนจะเดินเข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง“น้าดาครับ ตา ยายครับ ผมรักดาหลามาก…”“…”“ผมรักเธอมากจริงๆ”“…”“ในวันนี้ที่ไม่มีเธออยู่หัวใจของผมมันก็แตกสลายไม่เป็นชิ้นดี ผมขอ…” ผมเอ่ยบอกกับทั้งสามคนตรงหน้าเสียงสั่นน้ำตายังคงคออยู่เต็มดวงตา“…”“นะครับน้าดา ผมกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้แล้ว แต่ผมขอทำปัจจุบันที่ยังเหลือใหม่ได้ไหมครับ”“ค่ะ น้าจะให้อภัยคุณ” น้าดาราเอ่ยบอกกับผมเสียงเรียบพร้อมกับจ้องมองมาที่ผมนิ่งๆ“ดา…” เสียงตาทองดุลูกสาวของท่านเสียงดัง“แต่ถ้าคุณเบลซทำให้ลูกสาวของน้าเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นทางกาย และทางใจอีกเพียงครั้งเดียว คุณเบลซต้องเป็นคนเดินออกไปจากชีวิตของลูกสาวน้า มันจะไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สองสำหรับคุณอีก”“…”“จะรับปากน้าไหมคะ” น้าดาราเอ่ยถามผมเสียงเรียบ“ผมรับปากครับ มันจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอนครับ” ผมเอ่ยบอกกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้าด้วยความหนักแน่น เรื่องที่เคยเกิดขึ้นมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกเพียงครั้งเดียวมันก็มากเกินพอเเล้ว วันนี้ผมรู้ซึ้งแล้วว่าถ้าผมไม่มีดาหลาผมไม่สามารถอยู่บนโลกที่กว้างใหญ
[DARLA’S PART]16.30 น.“ยายคะต่อไปดาจะจัดการเรื่องอาหารการกินให้ยายเองนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับยายของตัวเองเสียงอ่อน ทันทีที่รถประจำทางจอดบริเวณหน้าทางเข้าสวนส้ม ฉันกับแม่ดาพายายไปโรงพยาบาลในตัวอำเภอ เพราะท่านบ่นเวียนหัวไม่หายสักทีฉันกลัวว่าจะเป็นหนังถ้าปล่อยไว้นาน เลนพาท่านไปหาหมอให้คุณหมอตรวจดูสักหน่อย“…” ยายมณีมองมาทางฉันด้วยแววตาเศร้าๆ ราวกับเด็กที่กับเด็กที่กำลังโดนบังคับยังไงยังงั้น ฉันส่งยิ้มหวานไปให้ท่านก่อนจะพูดต่อ“ของมันของทอดต้องค่อยๆลดแล้วนะคะ”“จ้าหลานรัก” ยายเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน ก่อนที่ท่านจะส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างเอ็นดู“งั้นเราเริ่มเลยนะคะ หนูขอยึดกล้วยทอดก่อนเลยค่ะ” ฉันดึงถุงกล้วยทอดออกจากมือของยายเบาๆ“เอ้า…เริ่มเลยเลอะยายหนู” ยายเอ่ยถามฉันออกมาเสียงอ่อน พร้อมกล้วยทอดในมือฉันตาละห้อย ถึงยังไงฉันก็ไม่ใจอ่อนหลอกนะเพื่อสุขภาพที่ดีของฉัน“ป้ายหายไปแล้ว สงสัยพ่อจะได้คนงานใหม่แล้วนะจ๊ะแม่” แม่ของฉันพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังรั้วตรงหน้าที่ปกติมันมีป้ายประกาศติดอยู่ ซึ่งฉันเป็นคนเอามาติดเองกับมือก่อนจะออกไปโรงพยาบาล“ดีแล้วลูกตาแก่จะได้มีลูกมือ กลางคืนก็จะได้มีคนช่วยเดินเวรด้วย”“ท
[BLAZ’S PART]23.00 น.@คฤหาสน์ตระกูลอัครหิรัญ“อือ...” ผมครางออกมาเบาๆ ไอ้ดีนกับไอ้จีหิ้วแขนทั้งสองข้างของบนไว้บนบ่าหนาของพวกมัน พร้อมกับเดินตามป๊าเข้าไปในบ้าน “...” ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมทันทีที่เดินเข้ามายังห้องนั่งเล่น อยู่กันครบเลยทุกคนคงจะอยู่รอผมกลับมาสินะ เพราะตั้งวันนั้นที่น้าดาราหายตัวไปผมก็ไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลย “ตาเบลซ” ม๊าของผมร้องเรียกผมด้วยความตกใจ ท่านเดินเข้ามาหาผมก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของผม ก็อย่าที่ผมเคยบอกผมไม่เคยเสียน้ำตาให้ใครเห็นมาก่อนมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ม๊าผมจะตกใจ “ดีน จี วางตาเบลซตรงนี้ลูก” ม๊าผมหันไปบอกกับไอ้ดีนและไอ้จีให้วางผมลงบนโซฟาที่ห่างไปไม่ไกล ก่อนที่ท่านจะลงมานั่งข้างๆผม “เล่ามาว่ามันเกินเรื่องอะไรขึ้น” ถามผมถามขึ้นเสียงแข็ง “...”“ดีน”“ผมไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับ...ผมรู้แค่ว่าไอ้มาร์คัสพาดาหลาหนีไปครับ” ไอ้ดีนเอ่ยตอบคุณตาของผมเสียงเรียบ“แล้วจีรู้อะไรบ้างไหมลูก” คุณตาหันไปถามจีซัสอีกคน“จีรู้เท่าเฮียดีนครับตา”“เจ้าเบลซล่ะอะไรจะสารภาพไหม” คุณตาหันกลับมาถามผมเสียงเรียบ พร้อ
[DARLA’S PART]19.00 น.@สวนส้มตาทอง “แม่คะ ที่นี่คือที่ไหนหรอคะ” ฉันเอ่ยถามแม่ออกไปด้วยความสงสัย พร้อมกับรถหรูของมาร์คัสเลี้ยวเข้ามาในบริเวณของ ‘สวนส้มตาทอง’ ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน “บ้านเราน่ะลูก” แม่เอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน พร้อมกับสายตาของท่านที่มองออกไปยังบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า “ถึงแล้วครับ” มาร์คัสเอ่ยบอกฉันกับแม่ พร้อมกับรถหรูของเขาที่หยุดลงบริเวณหน้าบ้านทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ตรงหน้า “วันนี้ผมส่งตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจัดการอะไรเรียบร้อยแล้วผมจะมาเยี่ยมใหม่” ร่างสูงเอ่ยบอกกับพวกเราทั้งสองเสียงเรียบ “น้าขอบคุณมากนะ ถ้าไม่ได้มาร์คัสเราสองคนคงแย่” “ผมยินดีครับคุณน้า แต่ว่าอย่าลืมที่ผมบอกนะครับ” มาร์คัสย้ำกับแม่ของฉันอีกครั้ง ซึ่งเขาทั้งสองคนคุยอะไรกันฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน “น้าไม่ลืมค่ะ” แม่ตอบกลับร่างสูงตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่ท่านจะลงจากรถหรูคันนี้ไป “ดาขอบคุณพี่มาร์คัสมากนะคะ ช่วยดาไว้ตั้งหลายครั้ง” ฉันเอ่ยขอบคุณร่างสูงตรงหน้าเสียงอ่อน ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่
@เพนท์เฮ้าส์มาร์คัส“เชิญครับลูกสาวของคุณน้าอยู่ด้านใน” มาร์โคบอกกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้า “…” เธอพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องตรงหน้าตามคำเชิญของเขา ตลอดเวลาที่เดินเข้ามายังเพนท์เฮ้าส์หรูหลังนี้ ในหัวเธอเต็มไปด้วยคำถาม ‘ลูกสาวของเธอรู้จักกับคนพวกนี้ได้อย่างไร’ ถึงพวกเขาจะแต่งกายดูดี ของที่เขาใช้แต่ละอย่างราคาก็แพงแสนแพง แต่ถึงอย่างงั้นกูเถอะเขาก็ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่“ดาหลา” ดาราร้องเรียกร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงกว้าง เธอวิ่งเข้าไปหาลูกสาวของเธอทันที ก่อนที่จะชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นผู้ชายอีกคนหน้าตาคล้ายกับผู้ชายคนเดิมที่ไปรับเธอ เดินออกมาจากประตูบานใหญ่ข้างๆ “คุณ!” “สวัสดีครับคุณน้าผมมาร์คัสเป็นฝาแฝดกับมัน” ร่างสูงพูดขึ้นก่อนจะชี้ไปยังชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ด้านหลังของเธอ“ค่ะ ฉันดาราเป็นแม่ของเธอนะคะ” ดาราเอ่ยบอกกับมาร์คัสก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างร่างบางที่นอนหลับไหล มือบางของเธอลูบลงไล้ไปตามใบหน้าของลูกสาวอย่างอ่อนโยนด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงร่างบางตรงหน้าจับใจ อุณหภูมิจากร่างบางที่ส่งมายังฝ่ามือของเธอทำให้เธอรับรู้ได้ทันทีว่าร่