เช้าวันอาทิตย์ที่บ้านไม้ยกสูงกลางสวนปาล์มอันกว้างใหญ่และเขียวขจี ตัวบ้านหลังไม่ใหญ่มากมีระเบียงยื่นออกมาด้านหน้าเพื่อรับสายลมและแสงแดด
ธนธรรศหรือนายหัวธรรศชายหนุ่มวัย 32 ปี เจ้าของสวนปาล์มผู้ทรงอิทธิพลแห่งอำเภออ่าวลึก เขากำลังยืนเปลือยท่อนบน ล้างรถกระบะคันโปรดด้วยตัวเอง เหงื่อและหยดน้ำเกาะพราวอยู่เต็มลำตัวที่มีแต่มีแต่มัดกล้ามเนื้อชายหนุ่มไม่ออกกำลังกายหรือเข้ายิมเลยหากแต่เพราะทำงานมาตลอดตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
“นายหัวครับ เดี๋ยวผมช่วยครับ” เสียงของสินธพหรือไอ้สิน คนงานที่เขาสนิทด้วยถามขึ้น เขาเดิมมาพร้อมกับผ้าเช็ดรถในมือ
“ทำไมโผล่หัวมาที่นี่ได้ล่ะ”
“ก็ผมว่างนี่ ก็เลยอยากมาช่วย” สินธพยังโสดเวลาว่างจึงมักจะมาขลุกอยู่กับเจ้านาย
“แล้วนี่ไม่ไปซื้อของในอำเภอเหรอ เห็นปกติวันอาทิตย์พวกคนงานจะเข้าเมืองไปซื้อของใช้กันไม่ใช่เหรอ” นายหัวหนุ่มถามขณะที่มือก็ระวิงอยู่กับการเช็ดคราบน้ำที่อยู่บนรถคันงาม
เขารู้ว่าทุกวันหยุดคนงานส่วนใหญ่จะเข้าไปซื้อของกินและของในเมือง บางคนก็ซื้อที่ตัวอำเภอแต่บางคนก็ไปไกลถึงตัวจังหวัดที่มีระยะทางไกลมากกว่า 50 กิโลเมตร
“ไม่ต้องไปไกลขาดนั้นหรอกครับนายหัว ตอนนี้มีร้านขายของชำมาเปิดใหม่ คนในตำบลเลยไม่ต้องเข้าไปซื้อของในตัวอำเภอให้เสียเวลาแล้ว” เขาตอบพลางยืนกอดอกแล้วยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“งั้นเหรอ ร้านของใครกันล่ะ แล้วเปิดเมื่อไหร่เขาขายอะไรบ้าง” นายหัวธนธรรศเลิกคิ้วและเอ่ยถามด้วยความสนใจ ปกติแล้วในละแวกนี้ไม่มีร้านขายของชำแต่ถึงจะมีของก็ไม่ค่อยเยอะเพราะคนขายก็ไม่ค่อยจะมีเงินลงทุนเท่าไหร่
“เป็นร้านของหลานสาวน้าอัมพรครับนายหัว เพิ่งเปิดได้ไม่กี่วันนี่เองครับ เขาขายพวกของใช้ในครัวเรือนทั่วไปครับนายหัว แล้วก็มีพวกเหล้า บุหรี่ น้ำแข็ง” สินธพเล่าด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“หลานสาวน้าอัมพรเหรอ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าน้ำอัมพรมีหลานสาว” นายหัวธนธรรศค่อนข้างแปลกใจเพราะน้าอัมพรมาทำงานที่บ้านของเขามานานนับสิบปีแต่ไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงหลานสาวเลย
“เธอมาจากกรุงเทพครับนายหัว ของขายเยอะมากพวกเราก็เลยไปซื้อเหล้าเบียร์ที่นั่น”
“แล้วราคาล่ะเป็นยังไงแพงไหม” เขาเป็นห่วงว่าร้านเปิดใหม่จะขายของเพลงและเอาเปรียบชาวบ้าน
“ไม่เลยครับ ราคาเท่าในอำเภอเลยครับ ตอนนี้มีโปรโมชั่นช่วงเปิดร้านใหม่ด้วยครับ เมื่อวานตอนเย็นผมกับเพื่อนไปซื้อเบียร์เธอก็แถมน้ำแข็งด้วยนะ บางคนก็ได้แถมม่าม่า บางคนก็ได้ปลากระป๋อง” สินธพช่วยโฆษณาเพราะถูกใจกับร้านใหม่
“น่าสนใจนะ เห็นทีว่าฉันต้องหาโอกาสไปเป็นลูกค้าบ้างล่ะ”
“ไม่ใช่แค่ของที่ร้านเธอจะน่าสนนะครับนายหัว เจ้าของร้านร้านก็สวยมากด้วยนะครับ” สินธพตอบพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ที่แท้ก็เพราะคนขายสวยนี้เอง” นายหัวธนธรรศหัวเราะเบาๆ
“เธอสวยจริงนะครับ ไม่เชื่อไปดูเลย เธอสวยกว่าทุกคนที่นี่เลยนะครับ” สินธพอยากจะบอกเจ้านายว่าสวยกว่าแฟนเก่าเจ้านายแต่ก็กลัวจะถูกเขาเตะไม่พูดออกไป
เมื่อเช็ดรถเสร็จสินธพก็กลับบ้านของตนเองส่วนนายหัวหนุ่มก็เดินขึ้นไปบนบ้าน เอาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะออกไปดูร้านของหลานสาวน้าอัมพรตามที่คนสนิทบอก
นายหัวธนธรรศขับรถกระบะออกจากบ้านแล้วขับไปตามถนนลูกรังสายเล็กๆ มุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่จะผ่านตลาดเล็กๆ ในหมู่บ้านที่สินธพพูดถึง แต่เขาไม่รู้ว่าร้านอยู่ตรงไหนและเมื่อขับมาในตลาดก็เห็นน้าหนึ่งที่มีป้ายหน้าร้านเขียนว่าร้านพลอยหลานน้าอัมพรแขวนอยู่เหนือประตูร้าน นายหัวธนธรรศถึงกับหลุดขำออกมาเมื่อเห็นชื่อร้าน
“สงสัยกลัวคนจะไม่รู้ว่าเป็นใคร” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะดับเครื่องยนต์และก้าวลงจากรถ
ดวงตาสีนิลกวาดมองไปทั่วร้านด้วยความสนใจ สินค้าต่างๆ ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูสะอาดสะอ้านผิดจากร้านขายของชำทั่วไปในชนบทที่มักจะรกและเต็มไปด้วยฝุ่น
แล้วสายตาของธนธรรศก็สะดุดเข้ากับร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนจัดเรียงขวดน้ำอัดลมอยู่ด้านในร้าน เธอสวมเสื้อยืดสีขาวธรรมดาคู่กับกางเกงยีนขาสั้น เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนและรูปร่างที่ได้สัดส่วนผมยาวสลวยถูกรวบเป็นหางม้าสูงเผยให้เห็นลำคอระหงและใบหน้าด้านข้างที่ดูงดงามแม้จะเห็นเพียงแค่นี้เขาก็ให้ข้อสรุปได้เลยว่าเธอสวยมากอย่างที่สินธพบอก
นายหัวธนธรรศรู้สึกถึงแรงดึงดูดอย่างประหลาด ไม่ใช่เพราะความสวนแต่เหมือนมีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขาละสายตาไม่ได้เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน
ในจังหวะที่นายหัวหนุ่มกำลังยืนจ้องเจ้าของร้านคนสวยอยู่นั้นน้าอัมพรที่กำลังช่วยหลานสาวจัดของอยู่ก็เหลือบไปเห็นนายหัวธนธรรศยืนอยู่หน้าร้านพอดี
“สวัสดีค่ะนายหัว มาได้ยังไงคะเนี่ย” น้าอัมพรเอ่ยทักด้วยความประหลาดใจและรีบเดินออกมาหน้าร้าน
“พอดีไอ้สินมันบอกว่ามีร้านมาเปิดใหม่ ผมก็เลยแวะมาดู ร้านของหลานน้าอำพรเหรอครับ” เขาตอบด้วยรอยยิ้มสุภาพแต่ดวงตายังคงจับจ้องไปที่ร่างของหญิงสาวด้านใน
“ใช่ค่ะ ร้านของหลานสาวน้าเองค่ะนายหัว” น้าอัมพรยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ ก่อนจะหันไปเรียกพลอย
“ผมไม่เคยรู้เลยว่าน้ามีหลานสาว”
“เธอเพิ่งกลับมาจากกรุงเทพ เดี๋ยวน้าจะแนะนำให้รู้จักนะคะพลอยออกมาตรงนี้หน่อยจ้ะ น้าจะแนะนำให้รู้จักเจ้านายหัวธรรศเจ้านายของน้า”
พิมพ์พลอยวางของในมือและรีบเดินออกมาหน้าร้าน เธอได้ยินน้าสาวของเธอพูดถึงนายหัวคนนี้อยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่เคยเจอกับเขาเลยสักครั้ง
“สวัสดีค่ะนายหัว”
“สวัสดีครับ” นายหัวหนุ่มทักทายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
พิมพ์พลอยค่อนข้างแปลกใจกับรูปลักษณ์ของนายหัวที่ต่างจากเธอจินตนาการไว้มากรูปร่างดูแข็งแรง เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเข้มที่เขาใส่ แม้จะไม่ได้รัดรูปนักแต่ก็ไม่อาจปกปิดมัดกล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าได้ สายตาของหญิงสาวเลื่อนขึ้นไปที่ใบหน้าหล่อคมมีกรอบหน้าชัดเจน รับกับจมูกโด่งเป็นสัน ปากหยักได้รูปมีไรหนวดเคราครึ้มบ่งบอกถึงความเป็นชาย แต่สิ่งที่สะกดสายตาของพิมพ์พลอยมากที่สุดคือดวงตาสีนิลของเขาที่คมกริบดุจพญาอินทรี มันดูนิ่งสงบ แต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาดและบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกถึงแรงดึงดูดประหลาดที่ไม่อาจต้านทานได้
นายหัวธนธรรศมองสำรวจใบหน้าของเธออย่างเปิดเผย ดวงตาของเธอดูกลมโตดูเหมือนซ่อนความเจ็บปวดบางอย่างไว้ลึกๆ ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ จมูกโด่งรั้นรับกับใบหน้ารูปไข่ เธอดูสวยแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชนบทแห่งนี้ แต่ความสวยนั้นกลับแฝงด้วยความเศร้าและความอ่อนล้าบางอย่างที่เขาไม่อาจเข้าใจได้
สองวันต่อมาพิมพ์พลอยเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะพนักงานบัญชีที่สวนปาล์มของนายหัวธนธรรศ แม้ว่าตอนนี้จะยังคงมีร่องรอยของความหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่การได้จดจ่ออยู่กับตัวเลขและเอกสารต่างๆ ก็ช่วยให้เธอผ่อนคลายลงได้มากธนธรรศดูแลเธออย่างใกล้ชิด เขาจัดโต๊ะทำงานของเธอในห้องทำงานเดียวกับเขาที่ชั้นล่างของบ้านหลังใหญ่ซึ่งมันคือออฟฟิศขนาดย่อม ซึ่งมีมุมรับแขกเล็กๆ สำหรับคนที่เข้ามาติดต่องาน นายหัวเขาสอนงานในสวนเพิ่มเติมเพราะอยากพิมพ์พลอยเข้าใจภาพรวมทั้งหมดไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานบัญชีอย่างเดียวในวันที่เขาออกไปดูคนงานในส่วนหญิงสาวจะนั่งทำงานคนเดียวแต่นานหัวก็มักจะแวะเวียนเข้ามาให้กำลังใจเธออยู่เสมอ บางครั้งก็แอบหอมแก้มหรือกอดเธอจากด้านหลัง ทำให้พิมพ์พลอยยิ้มได้ การได้อยู่ใกล้ธนธรรศตลอดเวลาทำให้พิมพ์พลอยสบายใจมากขึ้น เขาให้เธอรู้สึกปลอดภัยเสมอเมื่อเวลาผ่านไป พิมพ์พลอยก็เริ่มกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง แม้รอยยิ้มของเธอจะยังไม่สดใสเท่าเดิม แต่เธอก็เริ่มพูดคุยและหัวเราะได้มากขึ้น ธนธรรศรู้สึกดีใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเธอ เขาเชื่อว่าในไม่ช้าพิมพ์พลอยจะต้องกลับมาเข้มแข็งและเป็นพิมพ์พลอยคนเดิมอย่างแน่นอนการได้
นายหัวธนธรรศหันไปมองตามที่พิมพ์พลอยชี้ ใบหน้าของเขายิ่งซีดเผือดลงไปอีกเมื่อเห็นภาพนั้น เขากอดพิมพ์พลอยแน่นขึ้น พยายามส่งผ่านความอบอุ่นและความเข้มแข็งให้เธอ“ไม่เป็นไรนะครับ ไม่เป็นไร ผมอยู่ตรงนี้แล้ว พลอยเข้าไปนั่งในบ้านก่อนนะ ผมจัดการเองครับไม่ต้องห่วงนะ” เขาพูดปลอบโยน พลางลูบผมเธอเบาๆเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถามเหตุการณ์เบื้องต้น ธนธรรศจึงผละจากพิมพ์พลอยไปให้ข้อมูลกับตำรวจ เขารายงานว่าเขาไม่ได้เห็นเหตุการณ์โดยตรง แต่พิมพ์พลอยเป็นคนเห็นเหตุการณ์และเป็นเจ้าของร้านที่ถูกชนธนธรรศหันมามองพิมพ์พลอยที่ยังคงยืนสั่นอยู่ข้างน้าอัมพร เขาส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยไปให้ ก่อนจะหันกลับไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อย่างละเอียดเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกปากคำและตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พลางสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์คนอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้น ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุอย่างเงียบๆหลังจากที่เจ้าหน้าที่จัดการเก็บหลักฐานและเคลื่อนย้ายทุกอย่างออกไปแล้ว ความเงียบก็เข้ามาแทนที่ความวุ่นวายเมื่อครู่ หน้าร้านของพิมพ์พลอยเหลือเพียงซากปรักหักพัง กระจกแตกล
ชีวิตในอ่าวลึกหวนคืนสู่จังหวะที่คุ้นเคยอีกครั้งสำหรับพิมพ์พลอย เธอกลับมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสุขที่ร้านขายของชำเล็กๆ แม้ถนนหนทางจะยังไม่เรียบร้อยนัก แต่ลูกค้าเก่าๆ ก็ทยอยกลับมาอุดหนุน ทำให้ร้านพอมีรายได้อยู่บ้างนายหัวธนธรรศยังคงทุ่มเทให้กับการดูแลสวนปาล์มผืนใหญ่ที่เปรียบเสมือนลมหายใจของเขาในช่วงเวลากลางวันที่ร้านไม่ค่อยมีลูกค้า พิมพ์พลอยจะนำงานบัญชีของนายหัวกลับมาทำที่ร้าน เธอจัดการเอกสาร ตรวจสอบรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดนายหัวธนธรรศวางใจในความสามารถของเธออย่างเต็มที่ และมักจะแวะเวียนเข้ามาดูเธอทำงานเสมอ บางครั้งก็แอบหอมแก้มหรือกอดเธอจากด้านหลัง สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทั้งคู่ความสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินไปอย่างมั่นคงและลึกซึ้งขึ้นทุกวัน แม้จะยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการแต่งงานอย่างจริงจัง เพราะทั้งคู่ต่างต้องการเวลาเพื่อมั่นใจในกันและกันให้มากกว่านี้ แต่ความรักและความผูกพันที่พวกเขามีให้กันนั้นก็ชัดเจนเกินกว่าคำพูดใดๆ“พลอยครับ เย็นนี้ไปในเมืองกันนะ”“นายหัวจะไปทำธุระหรือไปเที่ยวคะ” เธอเงยหน้าจากหน้าจอโน้ตบุ๊กเพื่อถามเพราะจะได้แต่งตัวให้ถูกกับกาลเทศะ“ไปเที่
พิมพ์พลอยหลับตาลงช้าๆ ภาพของนายหัวธนธรรศผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ใบหน้าคมเข้ม นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความรัก รอยยิ้มอบอุ่น และสัมผัสที่เร่าร้อนทุกอย่างยังคงชัดเจนในความทรงจำ เธอคิดถึงเขาเหลือเกิน และคำพูดของศิริขวัญก็ราวกับเป็นประตูบานใหม่ที่เปิดออก สู่ทางเลือกที่เธอเองก็ปรารถนาอยู่ลึกๆเธอรู้ว่าการทำงานกับนายหัวอาจมีความเสี่ยงในเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ความรู้สึกคิดถึงที่มันบีบคั้นหัวใจอยู่ทุกวันนั้น มันหนักอึ้งเกินกว่าที่เธอจะทนได้อีกต่อไป“พลอยตัดสินใจแล้วขวัญ พลอยจะกลับไปกระบี่ พลอยจะไปทำงานกับนายหัว” พิมพ์พลอยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง“ดีใจด้วยนะ ในที่สุดพลอยก็เลือกในสิ่งที่ใจอยาก” ศิริขวัญยิ้มกว้างโผเข้ากอดเพื่อนด้วยความดีใจที่เพื่อนตัดสินใจไปทำงานกับคนรักเพราะรู้ว่าการอยู่ห่างกันมันทรมานมากแต่ไหน“แล้วพลอยจะไปวันไหนล่ะ”“พลอยจะกลับไปพรุ่งนี้เลย” พิมพ์พลอยตอบอย่างรวดเร็ว เธอแทบรอไม่ไหวที่จะได้กลับไปหาเขา“พลอยจะบอกนานหัวไหม”“ไม่ล่ะ พลอยอยากกลับไปเซอร์ไพรส์เขาน่ะ”“แต่ขับรถไปคนเดียวมันอันตรายนะ”“ไม่หรอกน่า พลอยเคยขับบ่อยแล้ว”“นายหัวบอกขวัญว่าถ้าพลอยจะกลับให้โทรบอกเขาด้วย เขาจะมาเป็น
นายหัวธนธรรศกลับไปกระบี่ได้สองวันแล้วระหว่างนี้พิมพ์พลอยก็ส่งใบสมัครงานไปยังบริษัทต่างๆ หลายที่แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์เลยศิริขวัญสังเกตว่าเพื่อนไม่ได้จริงจังกับการหางานทำเท่าไหร่หญิงสาวมักนั่งเหม่ออยู่ที่หน้าจอแท็บเล็ตและสีหน้าจะมีความสุขทุกครั้งที่นายหัวธนธรรศโทรมา“ไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์เลยเหรอพลอย” ศิริขวัญถามด้วยความเห็นใจ“ไม่มีเลยขวัญ พลอยก็ยื่นไปหลายที่นะหรือว่าเงินเดือนที่พลอยเรียกมันจะสูงไปหรือเปล่า” เธอหันมาปรึกษาเพื่อน“ไม่หรอกนะ ประสบการณ์อย่างพลอยเรียกเงินเดือนขนาดนี้ก็เหมาะสมแล้ว”“พลอยชักท้อแล้วล่ะ” พิมพ์พลอยท้อที่ไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์และก็รู้สึกคิดถึงคนรักจนจิตห่อเหี่ยว“อย่าพึ่งหมดหวังสิพลอย คนเก่งๆ อย่างพลอยเดี๋ยวก็มีงานเข้ามาเองนะ” ศิริขวัญพูดอย่างให้กำลังใจ“พลอย ขวัญขอถามอะไรพี่หน่อยสิ พลอยคิดจะสมัครงานและทำงานที่กรุงเทพจริงๆ ใช่ไหม”“จริงสิ ทำไมขวัญถึงถามแบบนั้นล่ะ”“ก็ขวัญสังเกตว่าพลอยไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลย พลอยกำลังคิดถึงนายหัวใช่ไหม”“คนเป็นแฟนกันก็ต้องคิดถึงกันสิขวัญก็คิดถึงแฟนไม่ใช่เหรอ” พิมพ์พลอยถามกลับเพราะเห็น
นายหัวธนธรรศลุกขึ้นแล้วจับให้คนรักนอนราบไปกับเตียงนอนนุ่ม ใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงนิดดวงตาสองคู่สบประสานส่งผ่านความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความต้องการ ทั้งเขาและเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์พิศวาสที่ไม่มีทีท่าลดน้อยลงเลยสักนิดริมฝีปากร้อนจุมพิตลงบนเรียวปากอิ่มอีกครั้งหญิงสาวใจเต้นแรงสองมือยกขึ้นโอบรอบลำคอก่อนจิกปลายนิ้วลงบนผิวเนื้อเมื่อฝ่ามือร้อนหยอกเย้าอยู่กับทรวงอกอิ่ม ริมฝีปากคลอเคลียไม่ยอมห่างปลายลิ้นหยอกล้ออย่างหวานล้ำพิมพ์พลอยรู้สึกถึงความแข็งร้อนที่ดันหน้าท้องยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านเมื่อนึกไปถึงคราวที่มันจะเข้าไปอยู่ในกายของตนเอง อารมณ์ของเธอพลุ่งพล่านเมื่อคิดถึงความสุขสมที่จะได้รับจากคนรักชายหนุ่มยังคงจูบไม่ยอมผละออกขณะที่มือก็จับเรียวขาให้แยกออกแล้วใช้ปลายหยักกรีดกลางร่องสวาทขึ้นลงสร้างความเสียวซ่านจนหญิงสาวสั่นสะท้าน“นายหัว.....”ลมหายใจหญิงสาวขาดช่วงเมื่อเขาใช้ปลายหยักกดลงบนเกสรเสียว เธอครางสะท้านแอ่นกายเข้าหาอย่างไม่อาจห้ามได้ ร่างกายเธอกำลังต้องการให้เขาเข้ามาเติมเต็มอย่างที่สุด“พลอยจ๋า อย่าเกร็งนะ”คลื่นความปรารถนากำลังโหมกระหน่ำอย่างหนัก นายหัวธนธรรศกดแก่นกายเข้าหาช