LOGIN“นารา น้องพราวเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว นาราขอบคุณพี่อั๋นกับพี่กวางมากนะคะ ที่ให้นารายืมเงิน”
“เงินไม่ได้มากมายอะไร พี่กับพี่กวางยินดีช่วย แล้วไม่ต้องรีบคืนก็ได้ ทยอยจ่ายตอนสิ้นเดือน เอาที่ตัวเองจ่ายไหวนะ อย่าให้ต้องเดือดร้อน” พูดจบเจ้าของสำนักงานก็เดินกลับเข้าไปยังห้องทำงาน
“ค่ะพี่อั๋น”
“นารา น้องพราวเป็นอะไรเหรอ”
“น้องพราวผ่าตัดไส้ติ่งค่ะพี่ขวัญ”
“อ้าว แล้วตอนนี้น้องพราวอยู่กับใคร ทำไมนาราไม่ลางานกับพี่อั๋น” ขวัญฤทัยถามเพื่อนรุ่นน้อง
“น้องพราวอยู่กับยายทิพย์ค่ะ นาราไม่อยากขาดงาน แค่เมื่อวานพี่อั๋นกับพี่กวางให้นารายืมเงินไปจ่ายค่าโรงพยาบาลก็เกรงใจมากแล้วค่ะ”
“พี่กวางกับพี่อั๋นใจดีอย่างนี้ตลอด พี่เองก็เคยยืมเหมือนกัน กว่าจะผ่อนหมดก็หลายเดือน”
“นาราก็จะผ่อนใช้เหมือนกันค่ะ” พลอยนาราไม่อยากติดหนี้ใครนานๆ เธอต้องหาทางนำเงินมาคืนให้เร็วที่สุด
หลังเลิกงานพลอยนารารีบกลับไปหาลูกสาวที่โรงพยาบาล เพราะอยากให้ยายสายทิพย์ได้พัก
“นารา มาจากที่ทำงานเลยใช่ไหม”
“ค่ะยายทิพย์ วันนี้น้องพราวเป็นยังไงบ้างคะ เจ็บแผลอยู่ไหมลูก แล้วกวนคุณยายหรือเปล่า”
“เจ็บนิดหน่อยค่ะแม่ แต่พอดูการ์ตูนน้องพราวก็หายเจ็บเลยค่ะ”
“เหรอคะ การ์ตูนนี้มันดีอย่างนี้นี่เอง”
“ยายทิพย์คะ นาราซื้อข้าวกับขนมมาให้นะคะ ฝากให้คุณตาด้วยนะคะ”
“คราวหลังไม่ต้องหอบหิ้วอะไรมาแบบนี้นะ แค่ตัวเองขี่มอเตอร์ไซค์ยายก็ห่วงมากแล้ว ยังจะหอบของพะรุงพะรังมาอีก”
“คุณยายขา คุณแม่ขับไม่เร็วเลยค่ะ น้องพราวนั่งมาผมน้องพราวแทบไม่กระดิกเลยนะคะ”
เพราะทุกครั้งที่ลูกสาวซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเธอ พลอยนาราจะขับช้าจนลูกสาวบ่นเวลาเห็นรถคันอื่นแซง
“ช้าหรือเร็ว ยังไงก็เนื้อหุ้มเหล็ก”
“นาราจะระวังนะคะ ยายทิพย์รีบกลับเถอะค่ะ เดี๋ยวรถติดนะคะ”
“ได้จ้ะ แล้วพรุ่งนี้ตอนออกโรงพยาบาล ยายจะเอารถยนต์มารับนะ”
“ค่ะยาย นารากับน้องพราวขอบคุณมากนะคะ”
พอยายสายทิพย์กลับไปแล้วสองแม่ลูกก็นั่งดูการ์ตูนกันต่อคืนนี้พิมพ์พิชาเข้านอนก่อนเวลา เพราะกลางวันเด็กสาวไม่ได้นอน
วันนี้พลอยนาราลางานช่วงเช้าเพราะทำเรื่องออกโรงพยาบาลให้ลูกสาว พอทุกอย่างเรียบร้อย พิมพ์พิชาก็นั่งรถไปกับคุณยายสายทิพย์ที่มารอรับตั้งแต่เช้า เพราะกลัวสองแม่ลูกจะกระเตงกันขึ้นจักรยานยนต์อย่างเคย
“แล้วเจอกันตอนเย็นนะคะน้องพราว แม่ไปทำงานก่อน”
“ไม่ต้องห่วงนะนารา ยายจะดูแลให้” สายทิพย์เห็นสีหน้าของพลอยนาราก็รู้ว่าหญิงสาวทั้งห่วงทั้งเกรงใจเป็นอย่างมาก
“ค่ะคุณยาย”
พอส่งลูกสาวขึ้นรถไปแล้ว หญิงสาวก็กลับไปทำงานตามเดิม
เสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนดังขึ้น พลอยนาราละมือจากแป้นคีย์บอร์ด เสียงจากปลายสายทำให้หญิงสาวหน้าซีด พอวางสายก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะเดินไปยังห้องทำงานของเจ้านาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาเลย” เสียงอิศเรศดังออกมา
“อ้าวนารา มีอะไรทำไมทำหน้าตื่นอย่างนั้น”
“นั่งสิ” พรปวีร์รีบพาลูกน้องนั่ง
“พี่กวาง พี่อั๋น โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าอาการคุณตะวันไม่ดีเลย นาราขอลาต่อได้ไหมคะ” เพราะช่วงเช้าเธอพึ่งจะลาไปรับลูกสาวออกจากโรงพยาบาล แล้วกลับมาทำงานไม่ถึงชั่วโมงก็ต้องลางานอีกแล้ว
“ให้พี่ไปส่งที่โรงพยาบาลดีไหม”
“พี่เห็นด้วยกับพี่กวางนะ”
“นาราเอามอไซค์ไปดีกว่าค่ะ เร็วดี”
“ขับช้าๆ นารา”
“ค่ะ นาราจะระวังอย่างดี”
พลอยนาราขี่รถจักรยานยนต์อย่างระมัดระวังเพราะเธอมีลูกสาวที่ต้องดูแล ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอพิมพ์พิชาจะอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน
พอมาถึงหญิงสาวก็วิ่งไปยังทิศทางที่คุ้นเคย พลอยนาราไม่กล้าเข้าไปในห้องเพราะตอนนี้มีคนอยู่ในนั้นมากมายเหลือเกิน เธอไม่รู้ว่าในนั้นมีญาติของหมอตะวันรวมอยู่ด้วยหรือเปล่า
“นารา”
“พี่เปรมคะ ทำไม”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน หมอตะวันอาการทรุด หลังจากพี่โทรไปบอกไม่นานหัวใจก็หยุดเต้น”
“หมอเจ้าของไข้บอกว่าครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าหมอตะวันจะอยู่ต่อได้อีกนานเท่าไหร่ นารารออยู่ตรงนี้นะ พี่ขอเข้าไปดูสักหน่อย”
เปรมยุดากลับเข้าไปยังห้องพักผู้ป่วย ตอนนี้ภายในห้องนั้นไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เครื่องมือและอุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็นถูกขนย้ายเขามาจนเต็มห้อง
“คืนนี้ผมจะอยู่เฝ้าที่ซันเอง พ่อกับแม่กลับไปพักก่อนนะครับ”
“ไม่เป็นไรลูก พ่อกับแม่อยากอยู่กับซันให้มากที่สุด”
“ผมขอไปสั่งงานก่อน แล้วจะกลับมาอยู่ด้วยอีกคนนะครับแม่ อ้อ! แล้วพี่ฟ้าล่ะครับแม่”
“กำลังบินกลับจ้ะ”
สองสามีภรรยาจับมือกันแน่น ต่างฝ่ายต่างปลอบใจกันและกัน เวลาผ่านมา 4 ปี แต่ทั้งสองก็ยังทำใจไม่ได้เลยสักนิด ยิ่งพอมาวันนี้อาการลูกชายทรุดหนัก ทั้งสองคนรู้ดีว่าเหลือเวลาอีกไม่นานลูกชายคนโตคงจะจากทั้งสองไปอย่างไม่มีวันกลับ
เปรมยุดา เดินกลับออกมาจากห้อง ตรงไปหาพลอยนาราที่นั่งรออยู่อีกด้วยใบหน้ากระวนกระวาย
“พี่เปรม นาราอยากไปเยี่ยมคุณตะวัน”
“ตอนนี้พ่อกับแม่ของหมอตะวันยังอยู่ในห้อง นาราจะเข้าไปไหม”
“ถ้าอย่างนั้น นาราขอยืนดูอยู่ห่างๆ ได้ไหมคะ” เพราะไม่รู้จะตอบคำถามกับท่านทั้งสองยังไงพลอยนาราเลยเลือกที่จะไม่เผชิญหน้า
“เอาอย่างนี้นะนารา เดี๋ยวพี่จะให้ท่านไปนั่งตรงมุมรับแขกในห้อง นาราค่อยเข้าไปเงียบๆ”
เปรมยุดาอยากให้หญิงสาวได้เจอกับหมอตะวันอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายของเธอหรือเปล่า
“ได้ค่ะพี่เปรม นาราขอบคุณมากนะคะ”
พลอยนารากลับจากโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างที่สุด อาการของหมอตะวันที่เธอเห็นวันนี้มันดูแย่กว่าทุกครั้ง เปรมยุดาบอกเธอให้พยายามทำใจเพราะมีโอกาสสูงที่เขาจะจากไปได้ทุกเมื่อ
หญิงสาวไม่รู้จะบอกเล่าเรื่องราวนี้ให้กับใครฟัง ถ้าหมอตะวันจากไปจริงๆ ก็เท่ากับว่าจากนี้ชีวิตของเธอจะเหลือกันแค่สองคนแม่ลูกเท่านั้น
“คุณแม่ขา เป็นอะไรหรือเปล่าคะ น้องพราวเรียกตั้งนานแล้วคุณแม่ไปตอบสักที”
“แม่ขอโทษนะคะน้องพราว แม่เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ต้องดื่มนมเยอะๆ แล้วก็นอนพักนะคะ”
“ได้สิคะ งั้นเราดื่มนมแล้วไปนอนกันดีไหม นอนพักเยอะๆแผลจะได้หายเร็ว”
“ค่ะแม่ น้องพราวจะไปโรงเรียนตอนเปิดเทอมได้ไหมคะ”
“ได้สิลูก อีกตั้งหลายวันกว่าจะเปิดทอม หนูตื่นเต้นไหมคะ”
“ตื่นเต้นค่ะ น้องพราวจะเล่าให้เพื่อนฟังด้วยว่าได้เข้าไปในห้องผ่าตัด”
พอลูกสาวหลับไปแล้วเธอก็โทรศัพท์ไปหาเปรมยุดาอีกครั้ง ตำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม
“พรุ่งนี้เช้า สัก 7 โมง นาราพาน้องพราวมาได้ไหม”
“ได้ค่ะพี่เปรม แล้วนาราจะไม่เจอคนอื่นใช่ไหมคะ”
“ไม่จ้ะ” เพราะทำงานที่นี่มานานเปรมยุดารู้ดีว่าเวลานั้นเป็นเวลาสะดวกที่สุด
พลอยนาราปลุกลูกสาวให้ตื่นเช้ากว่าปกติ แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปเยี่ยมคุณลุงใจดีแต่เช้าแต่พิมพ์พิชาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“น้องพราว ไปยืนใกล้คุณลุงหน่อยนะคะ แม่จะถ่ายรูปให้” แม่รู้ว่ามันผิดกฎของโรงพยาบาลแต่พลอยนาราก็อยากให้ลูกสาวมีรูปที่ถ่ายคู่กับหมอตะวันเก็บไว้ เรื่องราวทุกอย่างมันซับซ้อน แต่เธอตั้งใจจะบอกทุกอย่างกับลูกสาวเมื่อโตขึ้นกว่านี้
“น้องพราวคะ บอกลาคุณลุงนะคะ เราอาจไม่ได้มาเยี่ยมคุณลุงอีกแล้ว”
“ทำไมคะแม่ คุณลุงจะไปไหน”
“คุณลุงอาจต้องย้ายไปอยู่ที่ไกลๆค่ะ”
“น้องพราวไม่อยากให้คุณลุงไปเลยค่ะ ถ้าคุณลุงไปแล้วใครจะพาเราไปหาพ่อล่ะคะ”
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บางทีถ้าน้องพราวโตขึ้น เรียนเก่งๆ เราสองคนอาจไปหาพ่อด้วยกันได้”
“เหรอคะ น้องพราวจะตั้งใจเรียนค่ะ”
“ดีมากจ้ะ”
“คุณลุงขา น้องพราวจะกลับแล้วนะคะ คุณลุงจะไปอยู่ที่ไหนอย่าลืมบอกน้องพราวกับแม่นะคะ ถ้าโตขึ้นร้องพราวจะไปตามหาคุณลุงกับคุณพ่อนะคะ”
คำพูดไร้เดียงสาของลูกสาวทำให้พลอยนารากลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ ทุกคำพูดมันบาดลึกลงไปในหัวใจ ถ้าพิมพ์พิชาโตขึ้นและเข้าใจอะไรได้มากกว่านี้ก็คงดี แต่ในเมื่อเธอยังเด็กพลอยนาราก็เลยต้องทำแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง เธอรู้ แต่เธอไม่มีทางเลือก เธอไม่มีใครคอยให้คำปรึกษา ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลยนอกจากพิมพ์พิชาเพียงคนเดียวเท่านั้น
ช่วงนี้งานของพลอยนาราค่อนข้างหนักเอาการ เพราะเธอต้องรับผิดชอบทำงานทั้งที่โรงพยาบาลและที่บริษัทของวายุ แต่เธอก็รู้สึกสนุกกับงานที่ทำมาก“เราไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันเลย” วายุบ่น“เอาอะไรมาพูดค่ะ ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกัน”“อยู่ด้วยกัน แต่คุณเอาแต่ก้มหน้าทำงาน”“มีงานต้องจัดการอีกนิดหน่อยเองค่ะ แต่ไม่เกินพรุ่งนี้คงเคลียร์เรียบร้อย”“ผมให้เวลาถึงวันศุกร์นะครับ เพราะวันเสาร์เราจะไปเที่ยวสวนสนุกกัน”“สวนสนุกเหรอคะ”“ใช่ครับ น้องพราวกับเพื่อนนัดกันไปเที่ยวครับ ผมเลยอาสาเป็นคนพาไป”“ดีเหมือนกันนะคะ เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้ว”พูดจบหญิงสาวก้มหน้าทำงานต่อ โดยไม่สนใจวายุที่เดินวนรอบโต๊ะทำงานเช้าวันเสาร์พลอยนารารีบตื่นนอนเพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวสวนสนุกกับลูกสาว แต่พอลุกจากที่นอนหญิงสาวก็ต้องรีบวิ่งไปยังห้องน้ำทันทีหญิงสาวโก่งคออาเจียนจนหมดแรง เธอฟุบลงกับพื้นห้องนำทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอน“คุณพ่อบอกคุณแม่หรือเปล่าคะว่าวันนี้เราจะไปเที่ยวกัน” พิมพ์พิชาตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ“บอกแล้วครับ คุณแม่อาจกำลังแต่งตัวอยู่ก็ได้”“ปกตินาราไม่เคยสายอย่างนี้นะวิน หรือว่าจะไม่สบายหรือเปล่า เมื่อวานพี่
ด้วยอารมณ์ปรารถนาที่ไม่อาจต้านทาน ชายหนุ่มจูบรุนแรงจนริมฝีปากแทบมอดไหม้ ร่างกายของพลอยนาราดังถูกไฟแผดเผา มือหน้าของวายุไม้เคยได้อยู่นิ่ง มือหนึ่งบีบเต้างาม ส่วนอีกมือบีบสะโพกผายเป็นจังหวะ “อ่าส์ คุณวิน” พลอยนาราเสียวซ่านไปกับเล้าโลมอันช่ำชองของเขา ท้องน้อยของเธอหดเกร็ง ช่องทางรักบีบตัวขับน้ำหวานออกมาอย่างไม่อาจห้าม ตัวตนของวายุขนาดใหญ่ขึ้นมันดันหน้าท้องของหญิงสาวจนเธอรู้สึกถึงความร้อนระอุ มือเล็กสัมผัสท่อนเอ็นร้อนโดยที่เขาไม่ต้องบอก ชายหนุ่มครางเสียงแหบพร่า มือนุ่มของพลอยนารากระตุ้นเลือดในกายให้สูบฉีดจนขยายใหญ่ขึ้นเต็มกำลัง ชายหนุ่มดันแฟ้มเอกสารไปยังมุมโต๊ะ ก่อนที่จะดันร่างหญิงสาวให้นอนราบ เต้าทรวงคู่งาม ยอดถันสีระเรื่อทำให้เขาอดใจไม่ไหว ปากร้อนดูดชิมอย่างคนกระหาย เสียงพลอยนาราครางไม่ได้ศัพท์เมื่อวายุใช้ฟันขบส่วนยอดแล้วกระดกลิ้นรัวสร้างความแปลกใหม่ให้กับเธออย่างที่สุด วายุฟอนเฟ้นความอวบตรงหน้าสลับกับปากร้อนที่ดูดดุนเข้าปากแรงจนเธอเสียวไปถึงหว่างขา เมื่อใช้เวลากับความอวบอิ่มจนพอใจวายุก็เปลี่ยนเป้าหมายเป็นกล
เรื่องเสียงนินทาที่เกิดขึ้นมาตลอดหลายวันมา ทางวายุและครอบครัวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจทุกคนกำลังร่วมกันหาทางออกให้กับเรื่องนี้ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนในครอบครัว แต่คนภายนอกกำลังจะทำให้ทุกอย่างมันเลวร้ายลงไปทุกที “พ่อว่าเรื่องนี้นาราไม่ต้องสนใจนะ ใครจะพูดยังไงอย่าเก็บมาใส่ใจเลย” “ฟ้าว่าเราบอกความจริงกับทุกคนดีไหมคะ” ฑิฆัมพรเป็นห่วงความรู้สึกของพลอยนารา “ไม่นะคะพี่ฟ้า ถ้าเราบอกความจริง ทุกคนคงต้องขุดคุ้ยเรื่องของหมอตะวันแน่ๆ นาราไม่อยากให้ชื่อเสียงของหมอตะวันต้องเสื่อมเสียเพราะนารา แล้วเรื่องนี้น้องพราวก็ยังไม่รู้” “แล้วจะทนให้คนอื่นนินทาอยู่แบบนั้นเหรอนารา” วิภารัตน์เป็นห่วงความรู้สึกของพลอยนารามากกว่าชื่อเสียงของลูกชายที่เสียชีวิตไป “ผมว่าพอมีทางออกนะครับ” “ยังไง ลองว่ามาสิ” วสันต์หันไปถามลูกชาย “ผมจะบอกทุกคนว่าน้องพราวเป็นลูกของผมกับนารา แต่เราสองคนยังเด็กเลยแยกย้ายกันไป แล้วพอได้มาเจอกันอีกทีผมถึงรู้เรื่องลูกดีไหมครับ” “วิน ดูละครมากไปหรือเปล่า” ฑิฆัมพรไม่คิดว่าน้องชายจะคิดวิธีนี้ออก “แม่เห็นด้
การเริ่มทำงานของพลอยนาราในตำแหน่งหัวหน้าการตลาดในโรงพยาบาลเอกชน ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะหญิงสาวเจอกับลูกน้องซึ่งทำงานมากก่อนเธอหลายปี เหมือนเธอกำลังถูกต่อต้านอย่างหนัก ในทุกวันจะมีเรื่องปวดหัวมาให้เสมอ “เป็นยังไงบ้างนารามีปัญหาอะไรให้แม่ช่วยไหม” “ตอนนี้ยังไม่มีค่ะแม่ นาราคิดว่ายังรับมือไหวค่ะ” “แน่นะนารา” ฑิฆัมพรรู้สึกเป็นห่วง “ค่ะพี่ฟ้า ไม่ต้องห่วงนะคะ” “ถ้ามีเรื่องให้พี่ช่วยก็บอก” เพราะทุกคนคอยถามอย่างห่วงใยพลอยนาราเลยมีกำลังใจในการทำงาน “เรื่องการตลอดออนไลน์ พี่ว่านาราหาคนช่วยงานสักคนหน่อยก็ดีนะ เพราะพนักงานเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้เลย พี่ว่านารารับสมัครเพิ่มอีกสักหน่อยดีไหม สัก 2-3 คน เอาที่ใช้โซเชียลเก่งหน่อย ส่วนเรื่องความรู้เกี่ยวกับเนื้องานที่จะนำเสนอเราค่อยอบรมเพิ่มก็ได้ “ขอบคุณนะคะพี่ฟ้า”สิ่งที่ฑิฆัมพรพูดเธอเองก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่กล้าหาพนักงานเพิ่ม แต่เมื่อเจ้าของโรงพยาบาลเอ่ยปากอย่างนี้เธอก็ดีใจที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ “พี่ฟ้า แล้วอย่
พลอยนารารู้สึกตัวตื่นเวลาเที่ยง เธอเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกาย มือเล็กลูบไล้ไปตามลำตัว ในใจนึกถึงสัมผัสของวายุ เพียงแค่คิดถึงกายสาวก็ร้อนรุ่มขึ้นมาทันที แม้เธอกับเขาจากกันนานถึงเกือบห้าปี ไม่คิดเลยว่าเวลาได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ความสุขมันจะมากมายถึงเพียงนี้ หญิงสาวรีบเช็ดตัวให้แห้ง เพราะยังเหลือเวลาอีกเกือบสามชั่วโมงก่อนจะไปรับลูกสาว เธออยากกลับไปนอนในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเขา“คุณวิน” พลอยนาราตกใจจนเกือบหงายหลังเมื่อเปิดประตูแล้วชนเข้ากับวายุที่กำลังจะเปิดเข้ามาพอดี ชายหนุ่มรีบคว้าหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดด้วยความตกใจ “นาราอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ” “ค่ะ เชิญคุณวินอาบต่อได้เลย” หญิงสาวเบี่ยงตัวออกเพื่อให้ชายหนุ่มได้ใช้ห้องน้ำ “อาบให้หน่อยได้ไหม” “คุณวินโตแล้วนะคะ” “โตแล้วแต่ก็อยากให้เมียดูแล” “คู่หมั้นค่ะ คู่หมั้น” เธอย้ำ “นารา อย่าใจร้ายนักเลย เราอยู่กันแค่สองคนในห้องนะครับที่รัก นะ นะ อาบน้ำให้ผมหน่อย” วายุทำเสียงอ้อนจนหญิงสาวใจอ่อน มือหนาถอดชุดคลุมของหญิงสาวออก ส่วนอีกมือก็กระตุ
ตอนที่ 31อุ่นซ่านถึงหัวใจ “คุณวินคะ คราวหลังไม่ต้องมาส่งน้องพราวก็ได้นะคะ นารามาคนเดียวได้” “ได้ยังไงล่ะนารา น้องพราวก็ลูกผมเหมือนกันนะ” “แล้วคุณวินไม่ไปทำงานเหรอคะ” เพราะเขาทำตัวติดเธอตลอดตั้งแต่กลับมา “ผมลาพักร้อนครับ” “พึ่งรู้นะคะ ว่าเจ้าของบริษัทลาพักร้อนได้ด้วย” “ถ้าอยากให้ผมไปทำงานคุณก็ต้องไปทำงานกับผมด้วยสิ” “นาราต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลนะคะ” “ไม่คิดจะไปช่วยงามผมหน่อยเหรอครับ ที่บริษัทผมกำลังขาดหัวหน้าการตลาด” “ขอคิดดูก่อนนะคะ” “ผมอยากให้คุณมาทำงานกับผมจริงๆ นะ อาทิตย์ละวันก็ได้” “ก็ได้ค่ะ” คำตอบทำให้คนฟังแล้วยิ้มอย่างเป็นสุข แค่หนึ่งวันก็ยังดี “วันนี้ผมต้องไปเอาของที่คอนโดฯ หน่อยนะครับ นารามีธุระที่ไหนหรือเปล่า” “ไม่ค่ะ” เหลือเวลาอีก 3 วันกว่าจะถึงวันเริ่มงานช่วงนี้พลอยนาราเลยมีเวลาว่าง “งั้นไปกันเลยนะครับ ผมไม่อยากเสียเวลา” วายุรีบออกรถ “ของเยอะเลยเหรอคะคุณวิน” “ก็ประมาณหนึ่งครับ” ประตูห้องเปิดกว้าง







