Share

บทที่ 2

Author: หออักษร
“ทุกท่านอย่าได้ขัดขวางเลย ขุนเขาและสายน้ำยังมีวันบรรจบกัน วันหน้าย่อมมีโอกาสได้พบกัน ขอให้เป็นไปตามนี้เถิด”

ฉินหมิงหันหลังกลับ ก้าวออกจากพระราชวังไป

เมื่อมองแผ่นหลังที่แน่วแน่และเด็ดเดี่ยวนี้

เฉินซื่อเม่าและเฉียนไฉ รวมถึงกลุ่มขุนนางตงฉินอีกหลายคนต่างเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง ขอบตาแดงก่ำ

ส่วนขุนนางบางคน สายตากลับเปล่งประกาย ในใจรู้สึกยินดี

เมื่อองค์รัชทายาทจากไป ในราชสำนักนี้ ก็เท่ากับศัตรูคู่อาฆาตลดลงไปหนึ่งคน

ชีวิตของพวกเขาก็จะสบายขึ้นอีกมาก!

เซียวซูเฟยที่อยู่ในอ้อมกอดของฮ่องเต้เฉียนหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่แสดงอาการเสียใจใด ๆ ให้เห็น

ตรงกันข้าม กลับมีความรู้สึกโล่งใจราวกับแผนการอันชั่วร้ายสำเร็จลุล่วง

นางรอคอยวินาทีนี้มานานเกินไปแล้ว!

เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย เส้นทางในอนาคตของเจ้าเก้าย่อมราบรื่นไร้อุปสรรค!

“กรมพิธีการ ร่างราชโองการ!”

ฮ่องเต้เฉียนเสด็จกลับมายังท้องพระโรง และมีรับสั่งโดยตรง

“ในเมื่อมิใช่องค์รัชทายาทแล้ว ครั้งนี้ก็ไม่ต้องมีผู้ใดไปส่ง!”

ฉินหมิงเป็นถึงองค์ชาย ตามราชประเพณีแล้ว การเดินทางไปยังที่ดินศักดินาเพื่อรักษาการณ์ชายแดนนั้น จำเป็นต้องมีขุนนางไปส่ง

แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ฮ่องเต้เฉียนกำลังพิโรธอย่างหนัก

จึงทรงตัดสินเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ไม่ประสงค์จะมอบเกียรติตามราชประเพณีให้แก่ฉินหมิงอีกต่อไป

โจวหลี่เสนาบดีกรมพิธีการเป็นศัตรูคู่อาฆาตของฉินหมิง ทั้งสองคนบาดหมางกันมานาน

เมื่อได้รับคำสั่ง เขาก็รีบก้าวออกมากล่าวว่า

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”

แต่แล้วเขาก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้

จึงรีบกล่าวต่อ

“จริงสิฝ่าบาท บุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่อู่เวยกำลังจะอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทในเร็ว ๆ นี้มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ? เรื่องนี้ควรจะจัดการโดยเร็วที่สุดหรือไม่?”

หลิวอวิ๋นปัวรองเสนาบดีกรมกลาโหมเอ่ยขึ้น

“ฝ่าบาท ผู้ที่ท่านแม่ทัพใหญ่อู่เวยได้รับพระราชทานสมรสด้วยคือองค์รัชทายาทของราชวงศ์ แต่บัดนี้องค์ชายมิได้เป็นองค์รัชทายาทแล้ว กระหม่อมเห็นว่า ควรจะยกเลิกการหมั้นหมายครั้งนี้พ่ะย่ะค่ะ!”

แม่ทัพใหญ่อู่เวยเป็นยอดขุนพลของราชวงศ์ต้าเฉียน นามว่ากวนเจิ้นซาน

แต่เขาได้เสียชีวิตในสนามรบขณะปกป้องชายแดนทางเหนือ เพื่อต้านทานการรุกรานของแคว้นเหลียว

เพื่อเป็นการปลอบขวัญครอบครัวของท่านแม่ทัพใหญ่อู่เวย

ฮ่องเต้เฉียนจึงโยนภาระดูแลเหล่าเด็กกำพร้าและแม่ม่ายนี้ให้กับฉินหมิง

นี่นับเป็นงานที่ยากลำบากอีกหนึ่งงาน

การแต่งงานของผู้อื่น ล้วนแต่หาตระกูลที่มีอำนาจและอิทธิพล เพื่อจะได้ช่วยสนับสนุนองค์รัชทายาทให้ขึ้นสู่บัลลังก์ได้

พอถึงคราวของฉินหมิง เขากลับต้องมารับผิดชอบภาระของราชวงศ์แทน

บุญคุณครั้งนี้ คือสิ่งที่ฮ่องเต้เฉียนทรงมอบให้ตระกูลกวน

เมื่อราษฎรและเหล่าขุนนางเห็นว่าแม่ทัพใหญ่อู่เวยสละชีพเพื่อชาติ และตระกูลกวนก็ได้รับการจัดการเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเหมาะสม พวกเขาต่างพากันสรรเสริญฮ่องเต้

แต่ผู้ที่ต้องเสียสละคือฉินหมิง

หลายคนรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่เหมาะสม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นองค์รัชทายาท ก็ยิ่งไม่เหมาะสม

แต่ฮ่องเต้เฉียนไม่ได้สนพระทัยมากนัก ภายใต้คำกระซิบกระซาบข้างแท่นบรรทมของเซียวซูเฟย เรื่องนี้จึงถูกผลักดันอย่างรวดเร็ว

เหลือเวลาอีกไม่ถึงสามวัน ก็จะถึงวันอภิเษกสมรสระหว่างฉินหมิงและบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่อู่เวยแล้ว

“บุตรสาวของตระกูลกวนผู้นั้น...”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ฮ่องเต้เฉียนก็ขมวดพระขนงเล็กน้อย ราวกับรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก

เซียวซูเฟยที่ประทับอยู่ข้าง ๆ กลับแสดงสีหน้ากังวล

เดิมทีการพระราชทานสมรสครั้งนี้ให้ฉินหมิง ก็เพื่อตัดหนทางไม่ให้เขาได้รับการสนับสนุนใด ๆ จากการสมรสนี้

หากปล่อยให้เขามีโอกาสอื่นอีก เจ้าเด็กนี่อาจจะผูกสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่บางตระกูลได้

นั่นย่อมเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อโอรสของนางอย่างแน่นอน

เมื่อคิดได้ดังนั้น เซียวซูเฟยจึงรีบส่งสายตาให้ขุนนางสองสามคนที่อยู่เบื้องล่าง

จ้าวสี่ขุนนางของกรมพิธีการซึ่งเป็นคนของเซียวซูเฟย ก้าวออกมากล่าวว่า

“ฝ่าบาท การพระราชทานสมรสเป็นเรื่องใหญ่ จะเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ!”

“บัดนี้ผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวงต่างชื่นชมยินดี ราษฎรนับหมื่นต่างยกย่องสรรเสริญฝ่าบาท ชื่นชมที่ท่านทรงเมตตาต่อเหล่าทหารที่บาดเจ็บ และทรงมีพระกรุณาต่อสตรีในตระกูลกวนอย่างยิ่ง!”

“บัดนี้เพียงเพราะฐานะขององค์รัชทายาทเปลี่ยนไป ก็จะยกเลิกการสมรส เช่นนี้จะไม่ทำให้ทั่วหล้าหัวเราะเยาะราชสำนักของพวกเราหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เมื่อได้ฟังดังนั้น ฮ่องเต้เฉียนก็พยักพระพักตร์เห็นด้วยทันที

แต่เฉียนไฉเสนาบดีกรมคลังกลับก้าวออกมา กล่าวด้วยความไม่เข้าใจอย่างยิ่ง

“ฝ่าบาท ในเมื่อองค์ชายถูกส่งไปรักษาการณ์ชายแดนแล้ว การสมรสครั้งนี้จะนับว่าเป็นจริงได้อย่างไร? หรือจะให้พวกเขาทั้งสองคนแต่งงานกันแล้วต้องแยกจากกันไปคนละทิศคนละทาง?”

“ถึงเวลานั้น เกรงว่าสถานการณ์ของตระกูลกวนก็คงจะไม่ดีนัก แถมยังจะทำให้เกิดคำครหานินทาอีกมากมาย!”

ฮ่องเต้เฉียนเริ่มมีโทสะ

ทรงตบโต๊ะอย่างแรงและตวาดเสียงดังลั่น

“สารเลว จะทำก็ไม่ได้ ไม่ทำก็ไม่ได้! พวกเจ้าบอกมาสิว่าควรจะทำอย่างไร!?”

เซียวซูเฟยรีบเดินเข้าไป ปลอบโยนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ฝ่าบาท ไยต้องลำบากเช่นนี้ด้วยเพคะ ให้ฉินหมิงเป็นคนเลือกเองก็สิ้นเรื่องแล้วมิใช่หรือ?”

ฮ่องเต้เฉียนทรงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตบพระหัตถ์แล้วตรัสว่า

“ใช่แล้ว ให้เจ้าลูกทรพีนั่นเลือกเอง!”

“ต่อไปอย่าได้นำเรื่องของเขามารบกวนเราอีก!”

...

ในท้องพระโรง ทุกคนต่างมองไปที่เซียวซูเฟยด้วยความคิดที่แตกต่างกันไป

สตรีใจคอโหดเหี้ยมผู้นี้!

นี่คือการบีบให้ฉินหมิง ต้องเป็นฝ่ายยกเลิกการสมรสกับตระกูลกวนที่เปรียบเสมือนภาระอันไร้ประโยชน์นี้ด้วยตัวเอง!

ใคร ๆ ก็รู้ว่าตระกูลกวนไม่ได้มีประโยชน์อันใดต่อฉินหมิง แม่ทัพใหญ่อู่เวยก็เสียชีวิตไปแล้ว

อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตระกูลกวนก็จะตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว

จะยังสามารถอาศัยอยู่ในเมืองหลวงต่อไปได้หรือไม่ ก็ยังเป็นเรื่องที่น่าสงสัย

หากยอมรับการแต่งงาน ตำแหน่งภรรยาเอกของฉินหมิงก็จะถูกจับจองไป

หลังจากนั้นหากเขาจะแต่งงานอีก ก็ทำได้เพียงรับอนุภรรยา...

ไม่มีตระกูลใหญ่ตระกูลใดยอมให้บุตรสาวผู้สูงศักดิ์ของตน ต้องลดตัวไปเป็นอนุภรรยา

เช่นนั้นแล้ว ฉินหมิงก็จะหมดหนทางที่จะได้รับทรัพยากรสนับสนุนในราชสำนักจากวิธีนี้

แต่หากฉินหมิงปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้

ฮ่องเต้เฉียนก็ยังคงรักษาชื่อเสียงที่ดีงามของพระองค์ไว้ได้

ส่วนคำครหา ก็จะเป็นฉินหมิงที่ต้องแบกรับไว้!

“ช่างเป็นแผนการที่อำมหิตนัก...!”

เฉินซื่อเม่ากำหมัดแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

เฉียนไฉและคนอื่น ๆ ก็มองไปที่เซียวซูเฟยอย่างล้ำลึก

มีสตรีผู้นี้อยู่ข้างกายฮ่องเต้เฉียน การที่องค์รัชทายาทจากไป อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่เลวร้ายเสมอไป

หลังจากตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว

ไม่นานนัก ขุนนางสองสามคนก็เดินทางมายังตระกูลกวนหลังเลิกประชุมราชสำนัก

อันที่จริงกวนเจิ้นซานมีบุตรชายสามคนและบุตรสาวหนึ่งคน

แต่บุตรชายทั้งสามคน ล้วนเสียชีวิตในสนามรบ

ทำให้ภายในจวนตระกูลกวนอันกว้างใหญ่ แทบจะเหลือแต่สตรี

นางเฉินฮูหยินใหญ่ของตระกูลกวน กำลังนั่งอยู่ในเรือน

ทานขนมอยู่กับคุณหนูใหญ่กวนเยว่ และสาวใช้สองสามคน

“ฮูหยิน เฉินซื่อเม่าและเฉียนไฉมาขอรับ”

บ่าวรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามา รายงานเรื่องนี้ให้ทั้งสองคนทราบ

“พวกเขามาทำอะไร?”

กวนเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย บนใบหน้าที่งดงามล่มเมือง พลันเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

นางไม่ชอบการสมรสที่ราชสำนักหยิบยื่นให้ราวกับเป็นการบริจาคให้ทาน

“ให้พวกเขาเข้ามาข้างในก่อนเถิด”

นางเฉินสั่งการช้า ๆ ไม่นานเฉียนไฉและเฉินซื่อเม่าก็เดินเข้ามาในเรือน

“ทั้งสองท่าน แย่แล้ว! เมื่อไม่กี่วันก่อน องค์รัชทายาททรงทำให้ฝ่าบาทพิโรธในท้องพระโรง ถูกลดขั้นให้ไปรักษาการณ์ชายแดนที่หลิ่งหนานขอรับ!”

ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อันดีกับแม่ทัพใหญ่อู่เวย จึงรีบมาแจ้งข่าวด้วยความหวังดี

“อะไรนะ!?”

นางเฉินลุกขึ้นยืนทันที

ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

นั่นคือองค์รัชทายาทเชียวนะ เหตุใดจึงทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ได้?

กวนเยว่เลิกคิ้วพลางเอ่ยถาม

“แล้วการแต่งงานของพวกเราเล่า?”

“หลังจากหารือกันในราชสำนักแล้ว การแต่งงานครั้งนี้จะให้องค์ชายเป็นผู้เลือกเอง แต่ข้าเดาว่าบางทีเขาอาจจะ...”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉินซื่อเม่าก็ลังเลเล็กน้อย

ใคร ๆ ก็รู้ว่า ตระกูลกวนเป็นตัวถ่วง

เรื่องราวก็ชัดเจนอยู่แล้ว

ตุบ!

กวนเยว่โยนกล่องขนมในมือทิ้งด้วยความโมโห แล้วแค่นเสียงเย็นพลางเอ่ยขึ้น

“ตระกูลกวนของข้าไม่เป็นที่ต้อนรับถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”

“ไม่ต้องรอให้เขามาถอนหมั้นถึงที่นี่หรอก! ตระกูลกวนทนรับความอัปยศเช่นนี้ไม่ได้!”

“ข้าจะไปหาเขาด้วยตัวเอง!”

เฉินซื่อเม่าและเฉียนไฉใจต่างใจหายวาบ รีบส่งสายตาให้นางเฉิน

แต่นางเฉินกลับทำราวกับไม่เห็น ค่อย ๆ เก็บขนมบนโต๊ะอย่างเงียบ ๆ

“ช่างเถิด พวกเราก็ถือเสียว่าการแต่งงานนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”

“ท่านแม่ ตระกูลกวนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอำนาจใด ๆ เราสองแม่ลูกก็อยู่รอดได้!”

กวนเยว่ก้าวออกจากประตูจวน มุ่งหน้าไปยังจวนองค์รัชทายาทด้วยความโกรธเกรี้ยว!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 100

    “กระไรนะ?!”เมื่อเว่ยกว่างซวินลองคิดดู ก็พบว่ามีความเป็นไปได้นี้จริงๆเดิมหานหมิงรุ่ยก็ถูกปลดลงมาจากราชสำนักจะรู้จักฉินอ๋องก็ไม่แปลกที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!ซุนเฉิงคาดเดาต่อไปว่า“ท่านยังจำได้หรือไม่ ครั้งก่อนตอนที่ฉินอ๋องพบว่าพวกเราหาคนมาช่วย ก็ไม่ตระหนกแม้แต่น้อย”“ใช่แล้ว ที่แท้พวกเขารู้จักกันอยู่ก่อนแล้วนี่เอง”ภายในใจของเว่ยกว่างซวินเย็นยะเยียบขึ้นมาดูท่ามีแต่พวกเขาสองพี่น้อง ที่ถูกปั่นหัวอยู่เล่นอยู่ในเงื้อมมือผู้อื่น“เรื่องนี้อย่าได้พูดถึงอีก วันหลังพวกเราให้ถือเสียว่าไม่เคยเสียเปรียบเพราะฉินอ๋องแล้วกัน”เว่ยกว่างซวินได้วิธีการรับมืออย่างรวดเร็วซุนเฉิงก็พยักหนักอย่างหนักเช่นกันอย่างรวดเร็ว ความไม่พอใจแต่เดิมที่มีต่อฉินหมิงก็ถูกพวกเขาเก็บซ่อนไปเป็นอย่างดีภายหลังจากจินตนาการเรื่องราวออกมามากมาย พวกเขาสองคนก็รีบตามไปอย่างว่าง่ายมิได้สร้างปัญหาใดอีก…… ในฐานะผู้ที่ชักนำให้เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ฉินหมิงนั้นไม่รู้ว่าซุนเฉิงและเว่ยกว่างซวินพูดคุยสิ่งใดกันเพียงพบว่าหลังพวกเขาทั้งสองเดินเข้ามา ก็ต่างมองเขาด้วยรอยยิ้มที่เบิกบานราวดอกไม้บนใบหน้าก็ไม่พบร่องรอยความ

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 99

    หานหมิงรุ่ยเป็นหนึ่งในรองผู้บัญชาการทหารท้องถิ่นดังนั้นคำพูดของเขา ย่อมแสดงถึงท่าทีของทางการฉินหมิงจึงมิได้ถกเถียงกับเขา แต่กล่าวอย่างแย้มยิ้มว่า“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ กลับเป็นข้าที่ไม่เข้าใจสถานการณ์แล้ว”“ไม่หรอกพ่ะย่ะค่ะ ทรงมีเจตนาดี เพียงแต่บรรดาทหารในกองทัพก็ต้องการความสมดุลระหว่างหน้าที่และการพักผ่อนเช่นกันมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”เพราะอยากเล่นพนัน ท่าทีในการพูดจาของหานหมิงรุ่ยต่อฉินหมิงในยามนี้จึงดีขึ้นไม่น้อย“เช่นเดียวกันกับกระหม่อม ยามปกติก็ชอบเล่นตาสองตา การพนันเล็กๆ น้อยๆ ช่วยเพิ่มพูนความสุขและความสัมพันธ์ได้อย่างไรล่ะพ่ะย่ะค่ะ”หานหมิงรุ่ยมิได้มีชื่อเสียงมากนัก ดังนั้นยามเกิดเรื่องในตอนนั้น ผู้ที่รู้จึงมีไม่มากยกตัวอย่างเช่นพวกเฉาชวน คนเหล่านี้ล้วนไม่รู้เลยโชคดีที่ครอบครัวของกวนเยว่กับเยว่โส่วเจียงเป็นเพื่อนเก่ากันมานานปกติแล้ว เมื่อแม่ทัพระดับสูงอย่างพวกเขาพูดคุยกันในยามว่าง ถึงจะมีการเปิดเผยข้อมูลบางอย่างออกมาด้วยเหตุนี้ จนถึงตอนนี้หานหมิงรุ่ยจึงยังคงคิดว่า เรื่องของตนนั้นที่นี่น่าจะมีคนรู้ไม่มากดังนั้นต่อหน้าพวกฉินหมิง ตนจึงสามารถแสร้งแสดงเป็นผู้ทรงคุณธรรมไ

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 98

    พวกเขาสวมเครื่องแบบทหาร ปลอมตัวเป็นทหารที่กำลังพักผ่อนเล่นไพ่โกวกันอยู่ที่นี่เมื่อเห็นฉินหมิงเดินเข้ามา เหล่ามืออาชีพที่กำลังนั่งไข้วขาอยู่บนพื้นก็ให้ความร่วมมืออย่างมาก“ย๊าก! กิน!”“เพิ่มร้อยยี่สิบแปดเท่า! จ่ายเงินมา!”หานหมิงรุ่ยชะงักเท้าลงจริงๆ สายตาเหลือบมองไปที่การเรียงไพ่ด้านล่างอย่างอดไม่ได้ฉินหมิงไม่ค่อยเข้าใจวิธีการเล่นของเจ้าสิ่งนี้นักรู้เพียงว่าไพ่โกวของต้าเฉียน มีรูปร่างหน้าตาคล้ายไพ่นกกระจอก ปกติเป็นแผ่นไม้ เพียงแต่รูปร่างจะแบนกว่ายาวกว่าในขณะที่กำลังกังวลว่าพวกเขาจะแสดงมากเกินไปจนโป๊ะแตกหานหมิงรุ่ยซึ่งเหลือบมองเพียงครั้งเดียวก็เห็นไพ่โกวที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ก็พยักหน้าแล้วพึมพำว่า“ร้อยยี่สิบแปดเท่า เล่นใหญ่ขนาดนี้เชียว…”ดูจากท่าทางแล้ว ต้องคันไม้คันมือขึ้นมาแล้วเป็นแน่ฉินหมิงสบตากับซ่งติ้งเซิงคราหนึ่ง คนทั้งสองล้วนสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของหานหมิงรุ่ยแต่การตกปลานั้นจะต้องมีความอดทนฝีเท้าของฉินหมิงมิได้หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย กระทั่งยังหันศีรษะไปมองหานหมิงรุ่ยที่รั้งท้ายอยู่ด้านหลังด้วยหานหมิงรุ่ยก็รู้ตัวว่าพลาดไป มองเกมไพ่เบื้องล่างทีหนึ่งอย

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 97

    ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของหานหมิงรุ่ยขาดความซื่อสัตย์ ผู้ที่รู้ถึงการกระทำในอดีตของเขาล้วนไม่มีทางมอบหมายงานสำคัญและเป็นเพราะอาศัยผลงานทางทหารที่สั่งสมมานานหลายปี เขาถึงสามารถดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการในหลิ่งหนานได้ทว่าเมื่ออยู่ในค่ายทหาร การมีตัวตนของเขายังคงประดุจสุนัขที่ไร้ผู้เหลียวแลเมื่อเวลาผ่านไป หนังหน้าหนาของเจ้าตัวนี้จึงหนาขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไร้ยางอายถึงขึ้นปล่อยตัวปล่อยใจอย่างเหลวแหลกเสียเลยเพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดสนใจ แบบใดสบายใจก็ทำแบบนั้น เห็นผู้ใดไม่ถูกใจก็ชักสีหน้าก็เหมือนกับตอนนี้ ที่แม้แต่ฉินหมิงเขาก็ไม่เห็นอยู่ในสายตานี่ค่อนข้างคล้ายพวกระดับผู้นำในองค์กรต่างๆ ที่ผ่านไปนานหลายปีก็ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งอยู่บ้างซึ่งพวกเขาเองก็รู้ว่า อนาคตไร้หนทางก้าวหน้าแล้วจึงคร้านที่จะเสแสร้งอีก ทำตามอำเภอใจเสียเลยเฉาชวนมองความไม่สบอารมณ์ของฉินหมิงออก จึงเป็นตัวแทนเขาเริ่มเข้าไปพูดคุยกับหานหมิงรุ่ยแทน“ยากนักที่ท่านแม่ทัพหานจะมาเยือนสักครั้ง นั่งลงสนทนากันก่อนเถอะขอรับ”“คุยอะไร? ท่านอ๋อง เรื่องนี้เดิมก็เป็นพวกท่านที่ทำไม่ถูก”หานหมิงรุ่ยเบะปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความ

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 96

    ซ่งติ้งเซิงเดินไปที่ข้างกายฉินหมิงแล้วกล่าวว่า“ท่านอ๋อง ทรงไม่ต้องสอนพวกเขาดอกพ่ะย่ะค่ะ”“คนกลุ่มนี้ล้วนเป็นพวกฝีมือแก่กล้ามากประสบการณ์ หากต้องการวางแผน พวกเขาสามารถทำได้เอง ไม่แน่ว่าผลงานที่ออกมายังอาจทำได้ดีกว่าที่ทรงกำกับอีกพ่ะย่ะค่ะ”“ที่แท้เป็นเช่นนี้”มุมปากของฉินหมิงกระตุก เดิมคิดจะเตือนพวกเขาว่าควรเล่นอย่างไรตอนนี้ดูไปคงไม่จำเป็นแล้ว“งั้นก็ไปเถอะ อีกครู่เจ้ามอบผลประโยชน์ให้พวกเขาหน่อย ให้คนปิดปากให้สนิทขึ้น”“พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อกลับมาถึงค่ายทหารอู่เวย ฉินหมิงก็ให้พวกเขาใส่เครื่องแบบทหาร แล้วนั่งอยู่ในบริเวณที่สะดุดตารอเหยื่อมาติดกับในเวลาเดียวกัน ฉินหมิงยังเรียกหลิวฉ่วงมาด้วย“เหล่าหลิว เจ้าพาคนจำนวนหนึ่งไปลาดตระเวนในค่ายทหาร”เรื่องอื่นไม่พูดถึง หากต้องการลงไม้ลงมือแล้วล่ะก็ หลิวฉ่วงนั้นเป็นพวกสายลุยตัวจริงมีบางครั้งหากไม่ทันระวัง เขากระทั่งทุบตีคนจนตายได้เมื่อเรียกแม่ทัพผู้ดุดันคนนี้มาเข้าร่วม ฉินหมิงก็ถือว่าได้ทำประกันเพิ่มให้ตนเองอีกชั้นหลิวฉ่วงรู้จักฉินหมิงเป็นอย่างดี เห็นเขาท่าทางมีลับลมคมใน จึงบ่นพึมพำอยู่ด้านข้างว่า“ท่านอ๋อง ท่านเรียกกระหม่อมมาต้องไ

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 95

    “สร้างกับดักหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ใช่แล้ว เจ้ากินก่อนเถอะ กินเสร็จแล้วค่อยออกมา เราไปทำธุระกันสักหน่อย”“พ่ะย่ะค่ะ!”ซ่งติ้งเซิงดื่มโจ๊กข้าวกล้องหมดภายในไม่กี่คำ สวมชุดขุนนางเสร็จ ก็สาวเท้าออกจากประตูใหญ่ทันทีฉินหมิงที่รออยู่บริเวณมุมกำแพง กระซิบเล่าเรื่องประสบการณ์ชีวิตของหานหมิงรุ่ยแก่เขาหลังฟังจบ ซ่งติ้งเซิงก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดในเวลาเดียวกัน เขาก็ถอนใจอย่างอดไม่ได้ เรื่องสกปรกในราชสำนักช่างมีมากมายเสียจริงเขาถูกมือไปมา แล้วถามอย่างสงสัยว่า“ท่านอ๋อง กระหม่อมมีคำถามข้อหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”“คำถามอะไร?”“หานหมิงรุ่ยผู้นั้น คืนเงินท่านแม่ทัพเย่แล้วหรือยังพ่ะย่ะค่ะ?”“ไร้สาระ ย่อมไม่น่ะสิ เจ้าคนไร้เมียนั่นตอนนี้แม้แต่ตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอด ยังจะหวังให้เขาคืนเงิน?”ฉินหมิงค้อนเขาทีหนึ่งโลกนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคุณธรรมจริยธรรมแม้น ‘ติดหนี้ต้องชดใช้’ จะเป็นหลักการแห่งฟ้าดินที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ก็ยังมีอีกคำกล่าวที่ว่า ‘เหาเยอะไม่กลัวคัน’ ด้วย“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ อย่างนั้นหากพวกเรายังเล่นงานเขาเช่นนี้อีก มิเท่ากับไร้คุณธรรมอย่างยิ่งหรือพ่ะย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status