แกรก!
เมื่อทนฟังวาจาปรักปรำเหล่านั้นไม่ไหว แพรวพรรณจึงเปิดประตูออกมา
“.....”
“.....”
หญิงสาวทั้งสองหันไปพร้อม ๆ กัน ดวงตาของพวกเธอเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินออกมาจากด้านหลัง
“ตกใจเหรอคะที่เป็นฉัน!” ดวงตาวาวโรจน์มองหญิงสาวทั้งสอง ชุดที่พวกเธอสวมใส่ล้วนหรูหราดูแพงแต่วาจากลับต่ำตมสิ้นดี เธอเดินออกมายืนด้านนอก
“อย่าคิดว่าคนอื่นจะนิสัยเหมือนตัวเองสิ” แพรวพรรณพูดต่อ
“อย่าแก้ตัวไปหน่อยเลย” หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำขลับยาวละพื้นพูดอย่างเย้ยหยัน ในน้ำเสียงของเธอก็ยังดูแคลนแพรวพรรณอยู่
“ฉันไม่ได้แก้ตัว อีกอย่างก็ไม่เคยคิดที่จะไปนอนให้ผู้ชายเอาเล่น ๆ แล้วเที่ยวออกมาป่าวประกาศในที่สาธารณะ ให้คนอื่นรับรู้อย่างพวกคุณ ไม่อายกันบ้างหรือคะ”
“นี่แก!”
คำบริภาษของแพรวพรรณทำให้สองสาวโมโห จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หนึ่งในนั้นปรี่เข้าหาหมายจะฟาดฝ่ามือบนแก้มเนียน ด้วยความที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วเธอจึงคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้ได้ทัน
“สันดานคนมองกันจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ พวกคุณแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ใส่เพชรใส่พลอยหรูหรา แต่ทำไมถึงมีความคิดที่ต่ำ ให้ร้ายผู้หญิงด้วยกันได้ถึงขนาดนี้” พูดจบแพรวพรรณก็ผลักหญิงสาวออกห่างจากตัว
“โอ๊ย!” เพราะอยู่บนรองเท้าขนาดสูง จึงทำให้เสียหลักจนเกือบล้ม ดีมีเพื่อนประคองไว้ด้านหลัง
ด้วยจำนวนของอีกฝ่ายมีมากกว่า บวกกับความโมโหทำให้แพรวพรรณเลือกใช้สิ่งของที่อยู่ต่ำสุดมาเป็นอาวุธ รองเท้าส้นสูงขนาดสามนิ้ว ถูกเจ้าของถอดออกมาถือไว้ในมือ
“จะแลกกับที่ฉันถืออยู่ก็เข้ามา” เนื้อตัวของเธอสั่นเทิ้ม เพราะไม่เคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนแต่สถานการณ์ได้บังคับให้ต้องสู้
“แกออกไปกันเถอะฉันว่าไม่คุ้มหรอก”
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาจริงหญิงสาวทั้งสองจึงล่าถอยออกมา
แพรวพรรณวางรองเท้าลงพื้น เรี่ยวแรงเมื่อครู่ได้หายไปหมด
“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉันกันเนี่ย ทำไมถึงมีแต่เรื่อง ฉันเกลียดคุณเกลียดที่สุดเลยคุณณภัทร!”
มาถึงช่วงท้ายของงาน แขกบางรายทยอยกลับกันไปบ้างแล้ว การแสดงผลงานครั้งนี้ถือได้ว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก สำหรับตำแหน่งนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่พึ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทอย่างณภัทร
“ภัทรเห็นแพรวไหม” พอมองหาหญิงสาวจนทั่วทั้งงานแล้วแต่ไม่เจอ เจตจึงเดินมาถามณภัทรที่ยืนอยู่กับเพื่อนอีกสองคน
“กลับบ้านไปแล้วมั้ง” ณภัทรตอบเจตเสียงเรียบ
เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ได้สนใจไยดีของณภัทร ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังทำเป็นหวงแหนแพรวพรรณอยู่เลย
“ไอ้ภัทรกูถามหน่อย มึงกับแพรวรู้จักกันมาก่อนเหรอ” เจตตัดสินใจถามในสิ่งที่ค้างคาใจมาตลอด
“.....”
แต่สิ่งที่ได้รับก็ยังเป็นความเงียบ
“ถ้าไม่อยากมีปัญหากับมัน ผู้หญิงคนนี้มึงต้องปล่อย!” ธาดาตอบแทน เพราะดูจากสถานการณ์แล้ว ณภัทรคงจะไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาแน่
“ทำไมวะ มีอะไรที่พวกมึงยังไม่ได้บอกกูงั้นเหรอ” เจตหันไปมองเพื่อนอีกสองคน
“เธอคือลูกสาวของคนที่ทำให้พ่อไอ้ภัทรตรอมใจไง” ทิวตอบคำถามของเจตแทนณภัทรอีกคน
“ว่าไงนะ! พวกมึงพูดอะไร แพรวจบมาจากมหาลัยการแสดง แล้วยังสนิทกับอากูด้วย เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
คิ้วเข้มขมวดจรดกัน ยังไม่เชื่อในคำพูดของเพื่อนทั้งสอง เพราะถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมแพรวพรรณถึงต้องมาเป็นครูสอนพิเศษ แทนที่จะไปทำงานในบริษัทของตนเอง
“จริง!” ณภัทรหันมาตอบด้วยตัวเองเสียงแข็งกร้าว นัยน์ตาคมฉายแววกรุ่นโกรธแลดูน่ากลัว
แพรวพรรณมุ่งหน้ามาทางลิฟต์ กดปุ่มลงไปชั้นล่าง เป้าหมายของเธอคือกลับบ้าน ไม่มีทางจะย้อนกลับเข้าไปในงานอีกเป็นแน่ ในเมื่อรู้ถึงจุดประสงค์ของณภัทรแล้ว
“คุณมันเลวจริง ๆ” น้ำเสียงโกรธขึ้งเปล่งออกมา
ติ้ง!
ข้อความมือถือของณภัทรดังขึ้น เขาล้วงมือเข้าไปหยิบเครื่องมือสื่อสารยี่ห้อหรูออกมาจากกระเป๋ากางเกง นิ้วเรียวยาวกดเข้าไปดู
ครรชิต: คุณแพรวพรรณลงมาที่ลานจอดรถครับนาย
ณภัทร: ตามเธอไปอย่าให้คลาดสายตา
ตอบกลับเสร็จสรรพริมฝีปากหยักหนาก็กระตุกยกยิ้มขึ้นอย่างมาดร้าย
‘ร้ายไม่เบา’
ชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้ ทั้งที่ก็ได้เตือนไปหลายรอบแล้ว
ลานจอดรถของโรงแรมชั้นพรีเมียมติ้ง!เมื่อประตูลิฟต์เปิดแพรวพรรณก็รีบเดินออกมา เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถเร่งจ้ำฝีเท้าโดยเร็วที่สุด พอเจอแล้วนิ้วเล็กกดปลดล็อก ดึงประตูฝั่งคนขับวางกระเป๋าลงไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็สอดตัวลงไปนั่งประจำที่คนขับ ทว่ากลับปิดประตูรถไม่ได้“คุณ!” แพรวพรรณมองมือใหญ่จับขอบประตูไว้ ก่อนจะเลื่อนไปยังใบหน้าเรียบตึง“คิดจะหนีผมงั้นเหรอ” ณภัทรถามเสียงแข็ง นัยน์ตาเคร่งขรึมก้มมองคนในรถ“ปล่อยมือของคุณออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” เธอคิดว่าตนเองออกมาเร็วแล้ว แต่ก็ยังหนีเขาไม่พ้น!ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้“ผมบอกคุณว่าไง ให้รอกลับพร้อมผมไม่ใช่เหรอ ไม่เอาแล้วใช่ไหมเงินทุนของนักเรียน”“คุณนี่มันเลวจริง ๆ งั้นก็แล้วแต่ละกัน จะจ่ายไม่จ่ายมันก็เรื่องของคุณ ถ้าคิดจะเอาเปรียบเด็ก ๆ ด้วยการใช้งานฟรี ๆ ก็แล้วแต่เลย ยังไงก็เป็นคนประเภทชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้วนี่ ส่วนของฉันก็จะถือเสียว่าทำบุญทำทานไปก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการเงินของคุณแม้แต่แดงเดียว!” นับเป็นประวัติศาสตร์ทีบริภาษยืดยาวใส่ใครสักคนอย่างนี้“ปากเก่งดีนี่ งั้นก็ช่วยเก่งให้ตลอดแล้วกัน” กรามแกร่งขึ้นส
ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวันเพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้นณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”“.....”จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่“ลงมา”“.....”การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเ
เสียงฉีกขาดของเดรสแสนสวยก็ดังขึ้น กลายเป็นเศษผ้าขาดวิ่นไปตามแรงกระชากของมือใหญ่ เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มล้นออกมา“ทำอะไรของคุณ!” แพรวพรรณปัดป้องมือใหญ่พัลวัน“ทำให้คุณเห็นไงว่าคนที่กล้าตบผมจุดจบมันจะเป็นยังไง”ณภัทรไม่สนใจว่าแพรวพรรณจะเจ็บหรือหวาดกลัวแค่ไหนกับการกระทำของตน ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้มาก่อนความเกรี้ยวกราดจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาฝังเนินเนื้ออวบอิ่ม ปากหยักหนาดูดดึงขบเม้มบริเวณนั้นอย่างแรง จนผิวเนียนขึ้นรอยช้ำเป็นสีม่วง“ฮึก เจ็บ อย่า พอแล้วฉันเจ็บ” น้ำตาร่วงเผาะลงข้างแก้มใส เมื่อถูกซาตานร้ายกระทำอย่างป่าเถื่อนเสียงสะอื้นทำให้ณภัทรผละออกห่างจากผิวนวลเนียน ไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนที่เคยพยศจะเป็นเช่นไรดวงตากลมโตสั่นระริกสองแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างชอบใจ“ลองเจ็บดูบ้างไหมแพรวพรรณ ถ้าคุณยังกล้าทำผมเลือดออกอีกครั้ง รอยพวกนี้มันจะไม่อยู่แค่ตรงนี้ มันจะไปอยู่ทั่วเรือนร่างของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาตะคอกใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่คิดสงสารแพรวพรรณเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตากับดวงตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น“ถอดชุดออก” คำสั่
ณภัทรบีบเข้าที่กรอบหน้าเรียวอย่างแรง ใช้ดวงตาคมดุจ้องเข้าไปในดวงตาสุกใสผ่านม่านน้ำตา‘แค่นี้ก็ทำจะเป็นจะตาย’ยิ้มร้ายยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน“ฉันกลับบ้านได้แล้วใช่ไหม” สุ้มเสียงเอ่ยออกมายังสั่นจากแรงสะอื้น“ใครบอก! คืนนี้คุณต้องค้างที่นี่กับผม” ณภัทรเพิ่มแรงบีบขึ้นอีก เขาไม่ชอบเลยเวลาที่เธอทำตัวถือดี“ไหนคุณบอกว่าถ้าฉันเอ่อ...อย่างที่คุณต้องการแล้วจะให้ฉันกลับไง” หญิงสาวกัดฟันตอบ“หึ!” ชายหนุ่มหัวเราะผ่านลำคอ หล่อนเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เขาบอกว่า‘ถ้าทำให้เขาพอใจ’นี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ร้องจะกลับแล้ว แค่รีดน้ำออกได้ก็คิดว่าตัวเองทำดีแล้วเหรอ ยัยซื่อบื้อณภัทรแยกขาคร่อมเธออยู่ออก ช้อนร่างบางขึ้นไปวางกลางเตียงนุ่ม“คุณควรให้ฉันกลับสิ” หญิงสาวดิ้นหลบหนีมือใหญ่“คุณไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนทั้งนั้น ถ้าผมไม่อนุญาต” ชายหนุ่มรวบสองแขนเรียวของคนใต้อาณัติ ใช้ร่างใหญ่กำยำบดเบียดแนบชิดสร้างแรงเสียดสี ให้เธอรู้สึกถึงส่วนเริ่มขยายตัวขึ้นอีกครั้งสัมผัสอันร้อนผ่าวบริเวณหน้าขาแพรวพรรณเม้มปากเข้าหากันแน่น ใบหน้าแดงก่ำกระดากอายกับสัมผัสถูไถอย่างจงใจซอกคอขาวเนียนทำให้ณภัทรกลืนน้ำลายลงคออย่างลืมตัวในความกระหา
“ซี้ด...เอามือออกแพรวพรรณ อื้ม...” ณภัทรขบกรามแน่น ส่วนหัวได้ผลุบหายเข้าไปพร้อมที่จะสำรวจด้านในแล้ว แต่กลับถูกมือเล็กของคนใต้อาณัติดันไว้ ทำให้ชายหนุ่มหัวเสียณภัทรพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเมื่อถูกขัดใจ‘ในเมื่อทำดี ๆ ไม่ชอบ’งั้นก็ต้องยอมรับในความดื้อดึงของตัวเองเถอะแพรวพรรณ! เขาดันเอวสอบเข้าอย่างแรง กระแทกแท่งร้อนขนาดใหญ่เข้าไปในช่องคับแคบสุดแรง“อ๊ะ โอ๊ย อ๊ะ อื้อ” ร่างบอบบางผวาเฮือกอีกครั้ง“อย่าเกร็ง อ่า” ณภัทรฟุบหน้าลงที่ซอกคอหอมกรุ่น แพรวพรรณตอดรัดจนเขาปวดหนึบ“ฉันเจ็บ”“ผ่อนคลายหน่อย แล้วจะหาย อ่า” โทนเสียงอ่อนลงบอกอย่างเอาใจจากความเจ็บแสบแปรเปลี่ยนเป็นเสียวซ่านหญิงสาวร้องครางผะผ่าว ณภัทรขยับเอวอย่างดุดันเร่าร้อนสร้างความวาบหวามรัญจวนใจ“อ๊ะ อ๊ะ”“อื้อ...ซี้ด...”ร่างบอบบางแอ่นอกอวบอิ่มรับริมฝีปากกำลังครอบครองเนินเนื้ออย่างบ้าคลั่ง แพรวพรรณบิดกายเร่าสองมือกำผ้าปูเตียงจนยับเยิน สะโพกสวยเด้งรับแท่งร้อนอย่างกระสันณภัทรหลงใหลมัวเมาไปกับไฟสวาทที่หญิงสาวตอบสนองกลับมา แม้ว่าเธอจะไม่เก่งไม่เร่าร้อน แต่ก็ยากจะถอนตัวออกมาได้ มือใหญ่ยกก้นสวยขึ้นมานั่งอยู่บนเอวอย่างรวดเร็วโดยเธอไม่ทันได้ต
รุ่งเช้าอีกวันณภัทรเดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากทำธุระส่วนตัวของเขาเสร็จ ชายหนุ่มทิ้งตัวลงข้างเตียงมือใหญ่ยังเช็ดเส้นผมเปียกชุ่มด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กสายตาคมทอดมองไปยังใบหน้านวลเนียนของคนที่ยังนอนหลับสนิท เมื่อคืนร้องอยากกลับบ้าน แต่จนป่านนี้ยังขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอย่างสบายอุราอยู่เลยเขาเพ่งมองดวงหน้าหวานประดับประดาไปด้วยแพขนตางอนยาว จมูกโด่งสวย ปากอวบอิ่มแม้จะไร้การเติมแต่งก็ยังดูน่ามอง‘น่ามอง’ งั้นเหรอณภัทรส่ายหัวไปมาไล่ความคิดแสนตลก ก่อนจะหวนกลับไปยังภาพกิจกรรมบนเตียงในค่ำคืนที่ผ่านมา ก็ไม่น่าแปลกถ้าหากว่าแพรวพรรณจะยังหลับอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่อย่างนี้“เตียงผมมันสบายมากใช่ไหมคุณถึงไม่อยากลุกขึ้นมาน่ะแพรวพรรณ” เสียงเข้มเอ่ยเมื่อเห็นร่างใต้ผ้าห่มเริ่มขยับแพรวพรรณลืมตาในทันใด ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนกลุกขึ้นนั่งลนลานถอยห่างออกไปไกล มือเล็กยังกระชับผ้าห่มผืนหนาเอาไว้แน่น“ลุกขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วผมจะไปส่ง”“.....”“มองผมแบบนั้น...จะต่ออีกงั้นเหรอ”“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”“ก็เห็นยังอิดออดก็นึกว่าอยากจะต่ออีกสักรอบ”แววตาวาวโรจน์จ้องณภัทรอย่างขุ่นเคือง ไม่กระดากอายบ้างเลยหรืออ
วันต่อมาไพศาลไล่อ่านข่าวพาดบนหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับรายวัน บริษัทคู่แข่งกลายเป็นที่สนใจของเหล่านักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ไหนจะหุ้นกำลังพุ่งทะยานสูงขึ้นตามไปด้วยในขณะสภาวการณ์ของพีเจกลับดิ่งลงมาเรื่อย ๆ ซ้ำร้ายเหล่าผู้ถือหุ้นก็ทยอยถอนตัวออกไปหลายรายแต่ทว่านักธุรกิจวัยกลางคนเครียดหนักเห็นจะเป็นภาพถ่ายประกอบบนหัวข้อข่าว นักแสดงสาวสุดสวย กลายเป็นจุดสนใจภายในงานเธอคือคนที่ณภัทรยกให้เป็นขวัญใจในค่ำคืนนี้....หนังสือพิมพ์ยับไปตามแรงขย้ำของมือใหญ่ ไพศาลใจเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บหน้าอกข้างซ้าย ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นทวีคูณ‘นักแสดง’ งั้นเหรอเขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวรับงานนี้ด้วย!ก๊อก ก๊อก...เสียงเคาะประตูทำให้เจ้าของห้องหลุดออกมาจากภวังค์ผู้เดินเข้ามาก็คือน้องสาวนั่นเอง“พี่ไพศาล!” สีหน้าของพี่ชายเกวรินอุทานอย่างเป็นกังวล“นั่งก่อนสิเกศ”“พี่เห็นแล้วใช่ไหม”“อืม”“คิดว่าทางนั้นจงใจหรือเปล่าที่จ้างแพรวไปงานนั่น”“แค่ก แค่ก” ด้วยความเครียดสะสมร่างกายจึงอ่อนเพลียไพศาลไอในขณะกำลังจะตอบน้องสาว“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า” หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไร เรื่องยัยหนูมันอาจจะไม่ได้ม
1เดือนต่อมา“อาเกศไม่ลงมากินข้าวเหรอคะ” ดวงตาทอประกายสดใสมองรอบโต๊ะอาหารไม่เห็นอาสาวจึงได้หันไปถามผู้เป็นแม่ ซึ่งกำลังตักข้าวให้กับพ่ออยู่“อาเข้าไปดูงานที่บริษัทน่ะ” ตักข้าวให้สามีเสร็จแล้ว ด้วยความที่เป็นคนดูแลทุกอย่างภายในบ้าน ลูกนั่งลงเธอจึงตักให้ลูกสาวอีกเช่นกัน“ขอบคุณค่ะแม่ แต่วันหยุดไม่ใช่เหรอคะทำไมอาถึงไปทำงานล่ะ หรือว่ามีงานด่วน” หญิงสาวเปลี่ยนไปถามผู้เป็นพ่อ เพราะท่านอยู่แต่ทำไมอาถึงต้องไปทำงาน“พอดีมีงานด่วนเข้ามา อาเกศก็เลยเข้าไปดูแทนพ่อ...แค่ก แค่ก”ยังพูดไม่ทันจบไพศาลก็ไออีกครั้ง ช่วงนี้สุขภาพของเขาเริ่มแย่ลงจึงต้องให้น้องสาวเข้าไปทำงานในส่วนของเขาแทนก่อนสักระยะ“พ่อไม่สบายเหรอคะ ไปหาหมอกันไหมเดี๋ยวแพรวไปด้วย” มือที่กำลังจะตักข้าวขึ้นมาทานชะงัก หลายวันมานี้เธอเห็นว่าท่านมีอาการแบบนี้อยู่บ่อย ๆ จึงขันอาสาจะเป็นคนพาไปเอง“ไม่ต้องหรอกลูก คงเป็นเพราะอากาศมันเปลี่ยน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวก็เลยเป็นหวัดน่ะ” แววตาเป็นห่วงเป็นใยของบุตรสาวสร้างรอยยิ้มให้ไพศาล อีกอย่างก็คิดว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมาก น่าจะเกิดมาจากสภาพอากาศเสียมากกว่า“งั้นพ่อก็ต้องดูแลตัวเองนะคะ หนูเป็นห่วง ถ้าไม่ไหว
1เดือนต่อมา“อาเกศไม่ลงมากินข้าวเหรอคะ” ดวงตาทอประกายสดใสมองรอบโต๊ะอาหารไม่เห็นอาสาวจึงได้หันไปถามผู้เป็นแม่ ซึ่งกำลังตักข้าวให้กับพ่ออยู่“อาเข้าไปดูงานที่บริษัทน่ะ” ตักข้าวให้สามีเสร็จแล้ว ด้วยความที่เป็นคนดูแลทุกอย่างภายในบ้าน ลูกนั่งลงเธอจึงตักให้ลูกสาวอีกเช่นกัน“ขอบคุณค่ะแม่ แต่วันหยุดไม่ใช่เหรอคะทำไมอาถึงไปทำงานล่ะ หรือว่ามีงานด่วน” หญิงสาวเปลี่ยนไปถามผู้เป็นพ่อ เพราะท่านอยู่แต่ทำไมอาถึงต้องไปทำงาน“พอดีมีงานด่วนเข้ามา อาเกศก็เลยเข้าไปดูแทนพ่อ...แค่ก แค่ก”ยังพูดไม่ทันจบไพศาลก็ไออีกครั้ง ช่วงนี้สุขภาพของเขาเริ่มแย่ลงจึงต้องให้น้องสาวเข้าไปทำงานในส่วนของเขาแทนก่อนสักระยะ“พ่อไม่สบายเหรอคะ ไปหาหมอกันไหมเดี๋ยวแพรวไปด้วย” มือที่กำลังจะตักข้าวขึ้นมาทานชะงัก หลายวันมานี้เธอเห็นว่าท่านมีอาการแบบนี้อยู่บ่อย ๆ จึงขันอาสาจะเป็นคนพาไปเอง“ไม่ต้องหรอกลูก คงเป็นเพราะอากาศมันเปลี่ยน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวก็เลยเป็นหวัดน่ะ” แววตาเป็นห่วงเป็นใยของบุตรสาวสร้างรอยยิ้มให้ไพศาล อีกอย่างก็คิดว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมาก น่าจะเกิดมาจากสภาพอากาศเสียมากกว่า“งั้นพ่อก็ต้องดูแลตัวเองนะคะ หนูเป็นห่วง ถ้าไม่ไหว
วันต่อมาไพศาลไล่อ่านข่าวพาดบนหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับรายวัน บริษัทคู่แข่งกลายเป็นที่สนใจของเหล่านักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ไหนจะหุ้นกำลังพุ่งทะยานสูงขึ้นตามไปด้วยในขณะสภาวการณ์ของพีเจกลับดิ่งลงมาเรื่อย ๆ ซ้ำร้ายเหล่าผู้ถือหุ้นก็ทยอยถอนตัวออกไปหลายรายแต่ทว่านักธุรกิจวัยกลางคนเครียดหนักเห็นจะเป็นภาพถ่ายประกอบบนหัวข้อข่าว นักแสดงสาวสุดสวย กลายเป็นจุดสนใจภายในงานเธอคือคนที่ณภัทรยกให้เป็นขวัญใจในค่ำคืนนี้....หนังสือพิมพ์ยับไปตามแรงขย้ำของมือใหญ่ ไพศาลใจเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บหน้าอกข้างซ้าย ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นทวีคูณ‘นักแสดง’ งั้นเหรอเขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวรับงานนี้ด้วย!ก๊อก ก๊อก...เสียงเคาะประตูทำให้เจ้าของห้องหลุดออกมาจากภวังค์ผู้เดินเข้ามาก็คือน้องสาวนั่นเอง“พี่ไพศาล!” สีหน้าของพี่ชายเกวรินอุทานอย่างเป็นกังวล“นั่งก่อนสิเกศ”“พี่เห็นแล้วใช่ไหม”“อืม”“คิดว่าทางนั้นจงใจหรือเปล่าที่จ้างแพรวไปงานนั่น”“แค่ก แค่ก” ด้วยความเครียดสะสมร่างกายจึงอ่อนเพลียไพศาลไอในขณะกำลังจะตอบน้องสาว“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า” หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไร เรื่องยัยหนูมันอาจจะไม่ได้ม
รุ่งเช้าอีกวันณภัทรเดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากทำธุระส่วนตัวของเขาเสร็จ ชายหนุ่มทิ้งตัวลงข้างเตียงมือใหญ่ยังเช็ดเส้นผมเปียกชุ่มด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กสายตาคมทอดมองไปยังใบหน้านวลเนียนของคนที่ยังนอนหลับสนิท เมื่อคืนร้องอยากกลับบ้าน แต่จนป่านนี้ยังขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอย่างสบายอุราอยู่เลยเขาเพ่งมองดวงหน้าหวานประดับประดาไปด้วยแพขนตางอนยาว จมูกโด่งสวย ปากอวบอิ่มแม้จะไร้การเติมแต่งก็ยังดูน่ามอง‘น่ามอง’ งั้นเหรอณภัทรส่ายหัวไปมาไล่ความคิดแสนตลก ก่อนจะหวนกลับไปยังภาพกิจกรรมบนเตียงในค่ำคืนที่ผ่านมา ก็ไม่น่าแปลกถ้าหากว่าแพรวพรรณจะยังหลับอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่อย่างนี้“เตียงผมมันสบายมากใช่ไหมคุณถึงไม่อยากลุกขึ้นมาน่ะแพรวพรรณ” เสียงเข้มเอ่ยเมื่อเห็นร่างใต้ผ้าห่มเริ่มขยับแพรวพรรณลืมตาในทันใด ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนกลุกขึ้นนั่งลนลานถอยห่างออกไปไกล มือเล็กยังกระชับผ้าห่มผืนหนาเอาไว้แน่น“ลุกขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วผมจะไปส่ง”“.....”“มองผมแบบนั้น...จะต่ออีกงั้นเหรอ”“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”“ก็เห็นยังอิดออดก็นึกว่าอยากจะต่ออีกสักรอบ”แววตาวาวโรจน์จ้องณภัทรอย่างขุ่นเคือง ไม่กระดากอายบ้างเลยหรืออ
“ซี้ด...เอามือออกแพรวพรรณ อื้ม...” ณภัทรขบกรามแน่น ส่วนหัวได้ผลุบหายเข้าไปพร้อมที่จะสำรวจด้านในแล้ว แต่กลับถูกมือเล็กของคนใต้อาณัติดันไว้ ทำให้ชายหนุ่มหัวเสียณภัทรพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเมื่อถูกขัดใจ‘ในเมื่อทำดี ๆ ไม่ชอบ’งั้นก็ต้องยอมรับในความดื้อดึงของตัวเองเถอะแพรวพรรณ! เขาดันเอวสอบเข้าอย่างแรง กระแทกแท่งร้อนขนาดใหญ่เข้าไปในช่องคับแคบสุดแรง“อ๊ะ โอ๊ย อ๊ะ อื้อ” ร่างบอบบางผวาเฮือกอีกครั้ง“อย่าเกร็ง อ่า” ณภัทรฟุบหน้าลงที่ซอกคอหอมกรุ่น แพรวพรรณตอดรัดจนเขาปวดหนึบ“ฉันเจ็บ”“ผ่อนคลายหน่อย แล้วจะหาย อ่า” โทนเสียงอ่อนลงบอกอย่างเอาใจจากความเจ็บแสบแปรเปลี่ยนเป็นเสียวซ่านหญิงสาวร้องครางผะผ่าว ณภัทรขยับเอวอย่างดุดันเร่าร้อนสร้างความวาบหวามรัญจวนใจ“อ๊ะ อ๊ะ”“อื้อ...ซี้ด...”ร่างบอบบางแอ่นอกอวบอิ่มรับริมฝีปากกำลังครอบครองเนินเนื้ออย่างบ้าคลั่ง แพรวพรรณบิดกายเร่าสองมือกำผ้าปูเตียงจนยับเยิน สะโพกสวยเด้งรับแท่งร้อนอย่างกระสันณภัทรหลงใหลมัวเมาไปกับไฟสวาทที่หญิงสาวตอบสนองกลับมา แม้ว่าเธอจะไม่เก่งไม่เร่าร้อน แต่ก็ยากจะถอนตัวออกมาได้ มือใหญ่ยกก้นสวยขึ้นมานั่งอยู่บนเอวอย่างรวดเร็วโดยเธอไม่ทันได้ต
ณภัทรบีบเข้าที่กรอบหน้าเรียวอย่างแรง ใช้ดวงตาคมดุจ้องเข้าไปในดวงตาสุกใสผ่านม่านน้ำตา‘แค่นี้ก็ทำจะเป็นจะตาย’ยิ้มร้ายยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน“ฉันกลับบ้านได้แล้วใช่ไหม” สุ้มเสียงเอ่ยออกมายังสั่นจากแรงสะอื้น“ใครบอก! คืนนี้คุณต้องค้างที่นี่กับผม” ณภัทรเพิ่มแรงบีบขึ้นอีก เขาไม่ชอบเลยเวลาที่เธอทำตัวถือดี“ไหนคุณบอกว่าถ้าฉันเอ่อ...อย่างที่คุณต้องการแล้วจะให้ฉันกลับไง” หญิงสาวกัดฟันตอบ“หึ!” ชายหนุ่มหัวเราะผ่านลำคอ หล่อนเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เขาบอกว่า‘ถ้าทำให้เขาพอใจ’นี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ร้องจะกลับแล้ว แค่รีดน้ำออกได้ก็คิดว่าตัวเองทำดีแล้วเหรอ ยัยซื่อบื้อณภัทรแยกขาคร่อมเธออยู่ออก ช้อนร่างบางขึ้นไปวางกลางเตียงนุ่ม“คุณควรให้ฉันกลับสิ” หญิงสาวดิ้นหลบหนีมือใหญ่“คุณไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนทั้งนั้น ถ้าผมไม่อนุญาต” ชายหนุ่มรวบสองแขนเรียวของคนใต้อาณัติ ใช้ร่างใหญ่กำยำบดเบียดแนบชิดสร้างแรงเสียดสี ให้เธอรู้สึกถึงส่วนเริ่มขยายตัวขึ้นอีกครั้งสัมผัสอันร้อนผ่าวบริเวณหน้าขาแพรวพรรณเม้มปากเข้าหากันแน่น ใบหน้าแดงก่ำกระดากอายกับสัมผัสถูไถอย่างจงใจซอกคอขาวเนียนทำให้ณภัทรกลืนน้ำลายลงคออย่างลืมตัวในความกระหา
เสียงฉีกขาดของเดรสแสนสวยก็ดังขึ้น กลายเป็นเศษผ้าขาดวิ่นไปตามแรงกระชากของมือใหญ่ เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มล้นออกมา“ทำอะไรของคุณ!” แพรวพรรณปัดป้องมือใหญ่พัลวัน“ทำให้คุณเห็นไงว่าคนที่กล้าตบผมจุดจบมันจะเป็นยังไง”ณภัทรไม่สนใจว่าแพรวพรรณจะเจ็บหรือหวาดกลัวแค่ไหนกับการกระทำของตน ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้มาก่อนความเกรี้ยวกราดจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาฝังเนินเนื้ออวบอิ่ม ปากหยักหนาดูดดึงขบเม้มบริเวณนั้นอย่างแรง จนผิวเนียนขึ้นรอยช้ำเป็นสีม่วง“ฮึก เจ็บ อย่า พอแล้วฉันเจ็บ” น้ำตาร่วงเผาะลงข้างแก้มใส เมื่อถูกซาตานร้ายกระทำอย่างป่าเถื่อนเสียงสะอื้นทำให้ณภัทรผละออกห่างจากผิวนวลเนียน ไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนที่เคยพยศจะเป็นเช่นไรดวงตากลมโตสั่นระริกสองแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างชอบใจ“ลองเจ็บดูบ้างไหมแพรวพรรณ ถ้าคุณยังกล้าทำผมเลือดออกอีกครั้ง รอยพวกนี้มันจะไม่อยู่แค่ตรงนี้ มันจะไปอยู่ทั่วเรือนร่างของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาตะคอกใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่คิดสงสารแพรวพรรณเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตากับดวงตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น“ถอดชุดออก” คำสั่
ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวันเพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้นณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”“.....”จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่“ลงมา”“.....”การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเ
ลานจอดรถของโรงแรมชั้นพรีเมียมติ้ง!เมื่อประตูลิฟต์เปิดแพรวพรรณก็รีบเดินออกมา เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถเร่งจ้ำฝีเท้าโดยเร็วที่สุด พอเจอแล้วนิ้วเล็กกดปลดล็อก ดึงประตูฝั่งคนขับวางกระเป๋าลงไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็สอดตัวลงไปนั่งประจำที่คนขับ ทว่ากลับปิดประตูรถไม่ได้“คุณ!” แพรวพรรณมองมือใหญ่จับขอบประตูไว้ ก่อนจะเลื่อนไปยังใบหน้าเรียบตึง“คิดจะหนีผมงั้นเหรอ” ณภัทรถามเสียงแข็ง นัยน์ตาเคร่งขรึมก้มมองคนในรถ“ปล่อยมือของคุณออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” เธอคิดว่าตนเองออกมาเร็วแล้ว แต่ก็ยังหนีเขาไม่พ้น!ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้“ผมบอกคุณว่าไง ให้รอกลับพร้อมผมไม่ใช่เหรอ ไม่เอาแล้วใช่ไหมเงินทุนของนักเรียน”“คุณนี่มันเลวจริง ๆ งั้นก็แล้วแต่ละกัน จะจ่ายไม่จ่ายมันก็เรื่องของคุณ ถ้าคิดจะเอาเปรียบเด็ก ๆ ด้วยการใช้งานฟรี ๆ ก็แล้วแต่เลย ยังไงก็เป็นคนประเภทชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้วนี่ ส่วนของฉันก็จะถือเสียว่าทำบุญทำทานไปก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการเงินของคุณแม้แต่แดงเดียว!” นับเป็นประวัติศาสตร์ทีบริภาษยืดยาวใส่ใครสักคนอย่างนี้“ปากเก่งดีนี่ งั้นก็ช่วยเก่งให้ตลอดแล้วกัน” กรามแกร่งขึ้นส
แกรก!เมื่อทนฟังวาจาปรักปรำเหล่านั้นไม่ไหว แพรวพรรณจึงเปิดประตูออกมา“.....”“.....”หญิงสาวทั้งสองหันไปพร้อม ๆ กัน ดวงตาของพวกเธอเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินออกมาจากด้านหลัง“ตกใจเหรอคะที่เป็นฉัน!” ดวงตาวาวโรจน์มองหญิงสาวทั้งสอง ชุดที่พวกเธอสวมใส่ล้วนหรูหราดูแพงแต่วาจากลับต่ำตมสิ้นดี เธอเดินออกมายืนด้านนอก“อย่าคิดว่าคนอื่นจะนิสัยเหมือนตัวเองสิ” แพรวพรรณพูดต่อ“อย่าแก้ตัวไปหน่อยเลย” หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำขลับยาวละพื้นพูดอย่างเย้ยหยัน ในน้ำเสียงของเธอก็ยังดูแคลนแพรวพรรณอยู่“ฉันไม่ได้แก้ตัว อีกอย่างก็ไม่เคยคิดที่จะไปนอนให้ผู้ชายเอาเล่น ๆ แล้วเที่ยวออกมาป่าวประกาศในที่สาธารณะ ให้คนอื่นรับรู้อย่างพวกคุณ ไม่อายกันบ้างหรือคะ”“นี่แก!”คำบริภาษของแพรวพรรณทำให้สองสาวโมโห จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หนึ่งในนั้นปรี่เข้าหาหมายจะฟาดฝ่ามือบนแก้มเนียน ด้วยความที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วเธอจึงคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้ได้ทัน“สันดานคนมองกันจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ พวกคุณแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ใส่เพชรใส่พลอยหรูหรา แต่ทำไมถึงมีความคิดที่ต่ำ ให้ร้ายผู้หญิงด้วยกันได้ถึงขนาดนี้” พูดจบแพรวพรรณก็ผลักหญิงสาวออก