ผมสีทองที่สว่างราวกับแสงของดวงตะวัน แววตาของเขาในยามที่มองมาที่เธอมันอ่อนโยนเหมือนกับว่าเขาหลงลืมไป ว่าทารีน่าคือตัวร้ายที่ชั่วช้าแบบสุดๆ ..
วินเทอร์และทารีน่าหมั้นหมายกันตั้งแต่ทั้งสองยังเด็ก และทารีน่าพยายามยกเลิกการหมั้นหมายนั้นเป็นอย่างมาก หากแต่วินเทอร์ไม่ยินยอม ในตอนที่อ่านนิยายมุมมองของเธอที่มีต่อความสัมพันธ์ของวินเทอร์และนางร้าย มันเหมือนกับว่านี่ไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาวแต่มันคือความอยากปกป้องน้องสาวของวินเทอร์ต่างหาก เขาน่าจะมองทารีน่าเป็นน้องสาวมากกว่าคนรัก..เพียงแต่มีบางอย่างที่เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าวินเทอร์จะหล่อขนาดนี้ แม่เจ้า..เขาหล่อเหลาราวกับรูปเทพบนผนังของวิหารเลย ใบหน้าที่อ่อนโยนมาพร้อมๆ กับดวงตาที่เต็มไปด้วยความเมตตา “เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความสามารถของท่านเคาน์ทรอย ข้าได้รับคำสั่งจากองค์รัชทายาทให้มาตามหาเลดี้คาเรน จากเบาะแสทั้งหมดที่ข้าตามสืบมา ผู้ที่น่าสงสัยมากที่สุดคือคู่หมั้นของท่าน” “ดยุคทารอน หากท่านจะสอบสวนนาง ข้าย่อมไม่ขัดแต่ว่านี่ท่านกำลังทำร้ายร่างกายของนาง ข้ายอมไม่ได้ที่ท่านกระทำการหยาบช้าเช่นนี้กับสตรีตัวเล็กๆ อย่างทารีน่า” ดวงตาคมเข้มแฝงไปด้วยความทรงอำนาจดุจราชสีห์ของมาไคล์จ้องมองไปบนใบหน้าของทารีน่า “ทหาร นำตัวเคาน์ทรอยออกไป ข้าจะสอบสวนเลดี้โรแกนต่อ” ทีคนอื่นอยู่ด้วยมาทำทรงเป็นพูดจาห่างไกล เมื่อครู่เขายังเรียกชื่อของเธออยู่เลยไม่ใช่เรอะ!! แต่เมนของฉันที่เย็นชาแบบนั้น ก็ยังคงน่ารักในสายตาของฉันเสมอ เพียงแต่ช่วย..ทำแผลให้ก่อนได้ไหม ตอนนี้รู้สึกเหมือนเลือดไหลออกมาจะหมดตัวอยู่แล้ว “ท่านกลับไปก่อนเถอะค่ะ ข้าจะอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยกับท่านดยุคให้รู้เรื่อง หลังจากนั้นจะตามท่านกลับไป” วินเทอร์มองหน้าของทารีน่าด้วยสายตาที่แปลกใจ น้ำเสียง ใบหน้านั้นยังคงเป็นของทารีน่าเพียงแต่ความรู้สึกในยามที่นางกล่าวออกมามันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเลย เหมือนกับว่าสตรีที่อยู่เบื้องหน้าของเขาในยามนี้คือคนอื่น ไม่ใช่ทารีน่าที่เขารู้จัก “ข้าจะรอเจ้าที่ด้านนอก เราจะกลับบ้านพร้อมกับ” เธอส่งยิ้มให้กับวินเทอร์ก่อนจะหันไปหามาไคล์ เขาไม่ยอมรามือแน่หากไม่รู้ว่าอเดเรียอยู่ที่ไหน และเธอก็ยังไม่อยากตายวันนี้ ถึงแม้ว่าการตายด้วยน้ำมือของเมนตัวเองจะเป็นสิ่งที่ทำให้มีความสุขแต่เธอก็ยังอยากจะมองหน้าเขาอีกสักหน่อย “ข้าจะบอกท่านดยุคเองว่าเลดี้คาเรนอยู่ที่ไหน เพียงแต่ข้ามีบางอย่างที่ต้องการจากท่าน” เขาแสยะยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอ สภาพของทารีน่านั้นแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นแววตาของนางช่างแน่วแน่ยิ่งนัก “ว่ามาสิ ขอแค่ได้พบกับอเดเรียไม่ว่าเจ้าจะต้องการทรัพย์สมบัติ หรือว่าคฤหาสน์ทารอน ข้าล้วนแล้วแต่ยินยอมยกให้เจ้า..” “จูบข้า..หลังจากที่ข้าบอกว่าเลดี้คาเรนอยู่ที่ไหนข้าต้องการเพียงจุมพิตจากท่านสักครั้งก็พอ” เป็นอีกครั้งที่สตรีผู้นี้ทำให้เขาแปลกใจไม่หยุดหย่อน นางถูกเขาแทงแผลลึกเช่นนั้นแต่กลับร้องขอให้เขาแทงนางอีกครั้ง และในยามนี้ทั้งๆ ที่นางสามารถต่อรองกับเขาได้ อำนาจของทารอนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่นางกลับไม่ต้องการสิ่งที่นางต้องการ..คือจุมพิตจากเขาเท่านั้น “ข้ารับปาก เช่นนั้นก็บอกมาได้แล้วว่าอเดเรียอยู่ที่ไหน” อ่า ขาทั้งสองข้างแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว เลือดเธอออกเยอะมากจนชุ่มโชกชุดเดรสที่สวมไปหมด มือที่กดแผลเอาไว้สั่นระริกพร้อมๆ กับสติที่แทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในหัวแล้ว เพราะกลัวเลือดเธอถึงไม่ได้ก้มไปมองเลยว่าเลือดตัวเองไหลออกมามากน้อยแค่ไหน แต่หากให้เดาสภาพของเธอในยามนี้คงไม่น่าดูสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่อยากเป็นคนที่สวยที่สุดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแท้ๆ เลย “อยู่ที่บ้านของบารอนแคนนอนค่ะ อเดเรียอยู่ที่นั่นนางปลอดภัยดีไม่มีอะไรให้ท่านต้องเป็นห่วง..ในเมื่อข้าบอกเรื่องของอเดเรียแก่ท่านแล้ว เช่นนั้นสัญญาของข้า..” ภาพเบื้องหน้าพลันมืดลงไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด ทารีน่าล้มลงในทันที เธอล้มตัวลงในอ้อมกอดของมาไคล์ เขาอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะรับพาเธอไปยังคฤหาสน์ทารอนเพื่อทำการรักษา “นางเสียเลือดมากพอสมควร อาจจะหลับไปอย่างน้อยสองสัปดาห์” นานขนาดนั้นเลยเหรอ เขาใช้แรงที่แทงดาบลงไปที่นางไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วนเลยด้วยซ้ำ “เรียนท่านดยุค เลดี้คาเรนปลอดภัยดีครับ นางกล่าวว่าต้องการอยู่ที่บ้านของท่านบารอนแคนนอนไปก่อน เพราะว่านางชื่นชอบการทำไร่..” อเดเรียอาจจะกำลังไม่พอใจที่เขาไม่ได้ไปรับนาง “ทราบแล้ว เอาไว้เลดี้โรแนนฟื้นข้าจะไปรับอเดเรียกลับมาที่นี่ด้วยตัวเองก็แล้วกัน” ให้นางได้มีความสุขกับการทำไร่ของนางไปก่อน ส่วนเขา..เมื่อลองคิดทบทวนดูเหมือนว่าเขาจะติดค้างคำขอของสตรีผู้นี้อยู่ จุมพิตหนึ่งครั้งที่แลกมากับ..ความเกือบตายของนาง เลดี้ทารีน่า แห่งโรแกน สตรีที่มีใบหน้าสวยหวานละมุน ความงดงามที่เรียกได้ว่าผู้ใดเดินผ่านนางจะต้องเหลียวหลังกลับไปมอง ทารีน่าเป็นเช่นนั้นและนางมั่นในรักที่มีต่อองค์รัชทายาทเป็นอย่างมาก สตรีชั่วช้าที่ทอดทิ้งคู่หมั้นของตัวเองเพื่อไปหาองค์รัชทายาทฮาร์วี ทำตัวไร้เกียรติด้วยการเดินตามหมอนั่นต้อยๆ ทั้งที่ฮาร์วีไม่เคยชายตามามองนางด้วยซ้ำ อาจจะเพราะว่าฮาร์วีเองก็หลงรักอเดเรียไม่ต่างจากเขา มันจึงทำให้หมอนั่นไม่มองสตรีใดเลย ถึงแม้ว่าสาวงามอย่างทารีน่าจะทอดกายให้ฮาร์วีครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม มาไคล์ยกมือขึ้นมาเท้าคางมองใบหน้าของทารีน่าที่กำลังหลับอยู่ “ตกลงแล้ว ทารีน่าที่เป็นสตรีชั่วช้าแห่งยุคกับทารีน่าที่ไม่หวาดกลัวความตาย..แบบไหนกันนะที่เป็นเจ้าตัวจริง หรือการกระทำเมื่อครู่ของเจ้า มันคือการปั่นหัวข้าเล่น พอฮาร์วีไม่เล่นด้วยเลยเลือกจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่อย่างนั้นหรือ? เจ้านี่ช่างเป็นสตรีที่น่ารังเกียจเสียจริง..” แต่ถึงอย่างนั้นนางก็งดงามมากเช่นกัน มาไคล์ลุกขึ้นเพื่อเดินกลับไปยังห้องนอนของเขา เมื่อได้รับรู้ว่าอเดเรียปลอดภัยเขาก็สามารถนอนหลับได้อย่างไร้ความกังวล ที่เหลือก็แค่รอคอยให้นางตื่นแล้วจุมพิตนางตามที่สัญญากันเอาไว้ หลังจากนั้นเขาจะเดินทางไปรับอเดเรียให้กลับมาอยู่ด้วยกันที่คฤหาสน์ทารอนห่งนี้ จะอย่างไรเสียตำแหน่งดัชเชสก็จะต้องเป็นของอเดเรียเพียงคนเดียวเท่านั้นเส้นทางความรักของเขานั้นต่อให้เปื้อนเลือดนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพื่อรอยยิ้มของทารีน่าแล้ว เขาจำเป็นต้องทำทุกอย่างแม้จะลงมือสังหารใครไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกเธอบอกว่าเขาคือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้และตำแหน่งนั้นมันช่างเหมาะสมกับเขามากเหลือเกิน..มาไคล์เลือกที่จะอาบน้ำเพื่อชะล้างรอยเลือดที่ติดอยู่ตามร่างกายให้หมด หลังจากนั้นเมื่อเขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก็ยังคงมืดครึ้มอยู่ ตอนนี้เป็นเวลาสายมาแล้วและทารีน่ายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มุมปากของมาไคล์ยกสูงขึ้นมาเมื่อเขานึกถึงใบหน้ายามเหนื่อยล้าของเธอ เพราะว่าร่างกายของเธอมันหอมหวานมากเกินไป เขาถึงได้กลืนกินจนไม่หลงเหลือสติเช่นนี้มาไคล์เดินไปจุมพิตทารีน่าอีกครั้ง แล้วสวมเสื้อคลุมเพื่อเดินออกไปด้านนอกวันนี้หิมะตกลงมาเบาบางมากเหลือเกิน เหมือนกับว่าอากาศเป็นใจให้เขาได้นำพาเถ้ากระดูกของท่านอาจารย์มาฝังเอาไว้ที่สุสานของตระกูลทารอนบนใบหน้าของมาไคล์ไม่มีร่องรอยความเสียใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาเสียใจมากพอแล้วกับการกระทำที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการสูญเสียท่านอาจารย์ไป เขาร้องไห้มามากจริงๆ แถมยังจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่อัดแน่น
ฝ่ามือหนาของมาไคล์บรรจงลูบลงไปที่แผ่นหลังของทารีน่า หัวใจของเขามันเต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมอาจจะเพราะว่าเขาได้ปรับความเข้าใจกับเธอ หรือไม่ก็เพราะว่าเขาได้กระทำเรื่องบนเตียงหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทารีน่าผลอยหลับไปในอ้อมแขนของเขา เธอยังคงงดงามถึงแม้ว่าดวงตาจะปิดสนิทมาไคล์จุมพิตลงไปบนหน้าผากของเธอก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมร่างกายของทารีน่าให้อบอุ่นเช่นเดียวกันกับในยามที่เธออยู่ในอ้อมแขนของเขาเขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เธอตื่นขึ้นมา ที่มุมปากของมาไคล์หยักยิ้มขึ้นมาด้วยความเอ็นดูเหมือนว่าเขาจะหลงเสน่ห์เธออย่างหัวปักหัวปำแล้วล่ะสิ เขาไม่อยากลุกออกจากเตียงในยามนี้เลยให้ตายเถอะเพียงแต่ยังมีเรื่องที่เขาต้องการจัดการให้เสร็จสิ้น มาไคล์เดินลงมายังชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ เขาปรายตามองเซอร์เดนิซาที่นั่งพิงกำแพงอยู่ด้านในคุก“เจ้าโชคดีที่ได้ทารีน่าออกหน้าเพื่อช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นในยามนี้ศพของเจ้าคงจะถูกแขวนอยู่ที่ประตูเข้าคฤหาสน์ทารอนไปแล้ว”เดนิซาก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพท่านดยุค“เรื่องการวางเพลิงข้ากระทำเพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับเลดี้โรแกนเลยครับ ท่านดยุคได
มาไคล์วางทารีน่าลงบนเตียง เพียงแค่เขาดีดนิ้วเบาๆ ประตูและหน้าต่างทั้งหมดก็ปิดลงพร้อมๆ กับม่านหน้าต่างที่ปิดทึบลงมา “ทารีน่าเจ้ากำลังก่อเรื่องอะไร? ..” เธอละสายตาจากใบหน้าของเขาเพื่อหันมองไปทางอื่น “ข้าไม่ได้ก่อเรื่องค่ะ เพราะว่าข้าทำจริงๆ” “เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดที่มองไม่ออกอย่างนั้นหรือว่านี่มันคือฝีมือของใคร ทำไมถึงปกป้องเซอร์เดนิซา” เขาผลักเธอให้ล้มตัวลงไปบนเตียง เรือนผมสีแดงเพลิงของทารีน่าสยายลงไปบนหมอน มาไคล์จ้องมองความงามล้ำบนใบหน้านั้นด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะคล่อมทับร่างของเธอเอาไว้ “เพราะว่าท่านเซอร์เป็นคนดีค่ะ” “เหอะ! เช่นนั้นข้าเป็นคนเลวหรืออย่างไรเจ้าถึงได้ไม่ปกป้องข้าบ้าง” ก็ใช่นะสิ เพราะว่าท่านมาไคล์คือตัวร้าย..แถมยังเป็นคนใจร้ายด้วย!! “ข้าคิดว่าท่านจะร้องไห้เสียใจที่ร่างของสตรีผู้นั้นถูกเผาจนวอดไปหมด..” มาไคล์ไม่ได้ตกใจกับคำกล่าวตัดพ้อของทารีน่าเลย เขาใช้มือฉีกทึ้งชุดเดรสของเธอออกจากร่าง ตามมาด้วยเสื้อซับในตัวบาง “เรื่องของข้ากับท่านอาจารย์มันเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ที่ข้ายังเด็กมากๆ ข้ารู้สึกกับผิดนางมากกว่า เจ้าเองเถิดทารีน่า..ข้ามั่นใจว่าไม่มีใคร
เมื่อมาไคล์มองเห็นใบหน้าของคนร้ายที่วางเพลิงเผาเรือนหลังเล็กของเขา ที่มุมปากของมาไคล์ก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น เขาดึงดาบที่เอวของทหารออกมาก่อนจะพาดลงไปที่คอของเซอร์เดนิซา“เซอร์เดนิซา เจ้าต้องเป็นคนโง่แบบไหนถึงบุกเข้ามาในคฤหาสน์ของข้าเพื่อทำเรื่องเช่นนี้ได้”เดนิสกำมือแน่น เขาผิดจริงๆ ในเรื่องนี้และเขาในยามนี้ก็กำลังทำใจให้สบายเพื่อพร้อมที่จะตายแล้ว เมื่อสตรีในโลงแก้วผู้นั้นไม่หลงเหลือร่างกาย ดยุคทารอนก็ไม่ต้องใช้เลือดหัวใจของอเดเรียอีก คราวนี้นางจะสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขโดยไร้ซึ่งความหวาดระแวง“ข้าผิดเองครับท่านดยุค การกระทำของข้าในครั้งนี้ข้ายินยอมรับทุกอย่างด้วยความตายที่ท่านจะประทานให้”ทารีน่าเม้มปากแน่น ท่านเซอร์เดนิซานี่..พอมองๆ ไปแล้ว เขาเหมือนกับเธอในตอนแรกเลยแฮะ เพราะว่ารักถึงได้ยินยอมส่งมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ไม่เสียดายแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง..ความรักเมื่อมีอิทธิพลเหนือสมองแล้ว จะส่งผลทำให้เราหูตามืดบอดแถมยังโง่อีกต่างหาก..“เจ้าตายไปแล้วร่างกายของอาจารย์ข้าที่มอดไหม้ไปแล้วจะกลับคืนมาอย่างนั้นหรือเซอร์ ข้ารู้ว่าเจ้าถูกสั่งมาเพราะอย่างนั้นกล่าวรายนามของผู้ที่สั่งการ
ไม่ว่าจะปลายนิ้วหรือว่าปลายลิ้นที่ลากไล้ผ่านเรือนร่าง ต่างก็ส่งผลให้ตรงจุดนั้นร้อนผ่าวคล้ายจะมีไฟลุกขึ้นมาในทารีน่าช้อนสายตามองใบหน้าที่เธอเคยลุ่มหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ดวงตาสีเลือดนั้นทำให้เธอเคยตกหลุมรักเขาซ้ำๆ อย่างไม่อาจหักห้ามหัวใจเธอเทิดทูนบูชาเขาราวกับเป็นเทพเจ้า หลงรักเขาที่มั่นคงในความรักต่อนางเอกของเรื่อง..ทว่าเขาไม่ใช่บุรุษในแบบที่เธอเคยเลยสักนิดแน่นอนว่าใบหน้าของท่านมาไคล์ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่ผิดเพี๊ยนไปแต่ทว่านิสัยความโลและความไม่มั่นคงของเขามันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา ชุดเดรสที่ทารีน่าสวมใส่พลันถูกเลิกขึ้นมาจนเกือบถึงเอวมาไคล์ไม่สนด้วยซ้ำว่าในยามนี้เรานั่งอยู่ในห้องอาหารที่ไม่ใช้ห้องนอน เขารู้สึกเพียงแค่อยากสัมผัสเธอจนแทบคลั่ง หัวใจของเขามันแทบจะหยุดหายใจเพียงเพราะเธอมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจความเจ็บปวดที่ไร้ที่มาพาดผ่านหัวใจไปเงียบๆ ราวกับขนนกที่ปัดผ่าน“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าตัดใจจากข้าไปจนสิ้น..”คำกล่าวของมาไคล์ถูกกลืนลงคอเมื่อเขามองเห็น..ดวงตาที่คลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำ
หลังจากที่เพอร์ร่าพูดคุยกับพ่อบ้านเสร็จเรียบร้อย สาวใช้ร่างท้วมก็เดินมาที่หน้าห้องนอนของนายหญิง เธอเคาะประตูเล็กน้อยตามมารยาท แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับเพอร์ร่าจึงเดินเข้าไปด้านในเพราะคิดว่านายหญิงอาจจะกำลังหลับอยู่ เธอจึงไม่ได้เข้าไปด้านในและรอคอยอีกพักใหญ่ๆ ถึงเดินมาเคาะประตูใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเช่นเคยเมื่อเห็นท่าไม่ดีเพอร์ร่าจึงเปิดประตูเข้าไปในทันที ด้านในห้องนอนของนายหญิงไม่มีร่องรอยของใครเลย“นายหญิงออกมาจากห้องนอนรึเปล่า?”สาวใช้ที่เฝ้าหน้าห้องนอนของนายหญิงส่ายหน้าพร้อมกัน“ข้าทั้งสองไม่เห็นว่ามีใครเข้าหรือว่าออกจากห้องนอนของนายหญิงเลยค่ะคุณหัวหน้าสาวใช้”เพอร์ร่ายกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้ เธอพยายามระงับความตกใจที่เกิดขึ้นเอาไว้ก่อนจะรีบดึงสติของตัวเองกลับมา“ส่งคนไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์และคฤหาสน์ทรอย รายงานว่าท่านทารีน่าหายตัวไป..”แน่นอนว่าเมื่อกาเล็ตได้รับข่าวสารจากสาวใช้ของทารีน่าเขาก็ตรงมาที่คฤหาสน์โรแกนในทันที วันนี้หิมะตกหนักมากกว่าทุกวันอีกทั้งการเดินทางด้วยรถม้านั้นลำบากและกินเวลายิ่งนัก แต่เมื่อเขามาถึงหน้าคฤหาสน์ก็เห็นเคาน์ทรอยยืนรอเขาอยู่ด้วยสภาพเหนื่อยหอบ“ข