Share

ตอนที่ 6

Author: Scince
last update Huling Na-update: 2025-06-18 18:54:06

ไม่ว่านางจะเลือกทางใด ล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าถึงอย่างไร      ผู้ที่เหมาะสมที่สุดก็คือน้องสาวต่างมารดา หลี่ถิงผู้นั้น แล้วเช่นนี้จะให้นางตอบอย่างไรได้อีกเล่า

“ท่านย่า สิ่งที่ท่านย่าพูดมานั้นหลานเข้าใจดีว่าท่านกังวลสิ่งใดเจ้าค่ะ แต่ขอให้ท่านย่าวางใจ แม้ว่าหลานจะไม่เคยเข้าร่วมงานของสตรีสูงศักดิ์ หรือไม่ได้ร่ำเรียนจากอาจารย์ผู้มากด้วยความรู้เหมือนน้องรอง แต่นั่นเพราะถูกเนรเทศตั้งแต่ยังเยาว์ ทว่าท่านแม่ได้สอนกิริยามารยาทต่าง ๆ ของสตรีที่พึงมีจนหมดสิ้น พวกท่านคงไม่ลืมกระมัง ว่ามารดาของข้านั้นเป็นผู้ใด” ประโยคท้ายเหมือนฮูหยินผู้เฒ่าถูกตีที่กลางหน้าผาก นางจะลืมได้อย่างไรว่าสะใภ้ใหญ่นั้นเป็นสตรีสูงศักดิ์ ที่ลดตัวลงมาแต่งกับบัณฑิตเช่นลูกชายของนางจริง ๆ

“คุณหนูใหญ่คงไม่ทราบ หลายปีมานี้ขนบธรรมเนียมล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แม้ว่าฮูหยินใหญ่จะเป็นสตรีสูงศักดิ์ ทว่าก็ไม่ได้เข้าสังคมมานาน คงสอนได้ไม่ทั้งหมดกระมัง” ฮูหยินรองพูดขึ้นบ้าง เรื่องภายในไฉนเลยสามีที่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับตำราจะเข้าใจได้เล่าว่าจะต้องพูดอย่างไร

“เรื่องที่ฮูหยินรองพูดมานั้นมีเหตุผลยิ่ง แต่เรื่องลบหลู่เบื้องสูง   โดยการสลับตัวคงยังเป็นกฎที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้กระมัง ลบหลู่เบื้องสูง ต่อให้มีเก้าชีวิตก็คงยากที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะ ท่านพ่อเป็นถึงราชครูที่ฮ่องเต้ทรงไว้วางพระทัยมากที่สุด หากเรื่องนี้รู้ถึง... ข้าไม่อยากจะคิดเลย ว่าชะตาของสกุลหลี่จะเป็นเช่นไร” หลี่เจียวแสดงสีหน้ากังวลออกมาอย่างไม่ปกปิด หากไม่มีสีหน้าว่านางไม่ยินยอมในทีเลยแม้เพียงน้อย คิดจะโยนเผือกร้อนให้นางตัดสินใจงั้นหรือ

“เอ่อ...เรื่องคงไม่ร้ายแรงถึงเพียงนั้นกระมัง ในเมื่อทุกวันนี้ผู้คนต่างเข้าใจว่า ถิงถิง คือคุณหนูใหญ่” ฮูหยินรองพูดขึ้นอย่างไม่ลดละ ทว่าน้ำเสียงเริ่มไม่มั่นใจ เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของแม่สามีอย่างไม่ปิดบัง

“เหลวไหล ลบหลู่เบื้องสูงอันใดกัน เจ้าไม่พูด คนในเรือนไม่พูด ไหนเลยจะมีคนรู้” ท่านราชครูโมโห ที่จู่ ๆ ก็ถูกยัดเยียดข้อหาลบหลู่เบื้องสูง โกหกหลอกลวงเป็นสิ่งที่ฮ่องเต้ทรงเกลียดที่สุด ไหนเลยเขาจะไม่รู้ถึงข้อหาร้ายแรงนี้ แต่ยังดีกว่าปล่อยให้บุตรสาวคนโตไปอยู่ในดงเสือ ให้ถูกขย้ำแล้วเสื่อมเสียมาถึงชื่อเสียงจวนราชครู ชื่อเสียงที่เขาเพียรสะสมมาจะมาพังเพราะทุกขลาภนี้ไม่ได้เป็นอันขาด

ยังไม่ทันที่จะตกลงกันได้ ก็มีสาวใช้รีบวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา ทำเอาฮูหยินผู้เฒ่าโมโหจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ตะคอกเสียงดังใส่

“มีเรื่องอันใด ไม่รู้หรือว่าในนี้ห้ามพวกเจ้าเข้ามารบกวน” เดิมที   ก็รู้สึกไม่พอใจหลานสาวคนโตอยู่แล้ว สาวใช้เข้ามาทันเวลาให้ฮูหยินผู้เฒ่าระเบิดอารมณ์ใส่พอดี ช่างน่าสงสารสาวใช้ตัวน้อยผู้นั้นโดยแท้

“ขะ ขออภัยเจ้าค่ะฮูหยินผู้เฒ่า ตอนนี้มีคนจากทางวังหลวงมา รอประกาศราชโองการเจ้าค่ะ” สาวใช้ผู้นั้นหมอบกราบโขกศีรษะเพื่อเป็นการขอโทษ

“รีบไปเถอะ” ราชครูหลี่เป็นผู้ที่มีสติที่สุด ด้วยรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีขันทีติดตามพระองค์ มาว่าราชโองการสมรสพระราชทานในครั้งนี้

เวลานี้ภายในห้องโถงของจวนราชครู ผู้คนต่างคุกเข่า ก้มหน้าเพื่อรอรับราชโองการ ขันทีผู้หนึ่งเดินออกมาพร้อมกับชูราชโองการสีเหลืองทองขึ้นมาประกาศ

“คุณหนูใหญ่สกุลหลี่ หลี่เจียวรูปโฉมงดงาม ความสามารถโดดเด่น ฉลาดปราดเปรื่อง กิริยานอบน้อม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สตรีทั่วทั้งเมืองหลวง อีกทั้งเป็นหลานสาวของหมอหลวงซู ซึ่งถวายงานรับใช้อย่างจงรักภักดี ด้วยความดีนี้ เราจึงมอบสมรสพระราชทาน ให้สมรสองค์ชายแปด เป็นดั่งคู่กิ่งทองใบหยกสืบไป จบราชโองการ” ขันทีกล่าวจบแล้ว แต่ดูเหมือนคนสกุลหลี่ยังคงตกอยู่ในภวังค์

“คุณหนูใหญ่หลี่” ขันทีปรายตามองหาว่าผู้ใดคือคุณหนูใหญ่ของจวนราชครูหลี่ เนื่องจากว่าตอนนี้มีสาวงามถึงสองคน กำลังคุกเข่าฟังราชโองการอยู่ในขณะนี้

หลี่ถิงกำลังจะยื่นมือออกไปรับราชโองการ ทว่าหลี่เจียวกลับ ว่องไวกว่า รีบยื่นมือออกไปรับราชโองการ เพราะกำลังก้มหน้ากันอยู่ จึงไม่มีใครมองเห็นว่าผู้ใดเป็นคนรับราชโองการนี้

“หลี่เจียว น้อมรับราชโองการ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่น ๆ ปี”

ขันทีมอบราชโองการให้หลี่เจียว พร้อมทั้งพยักหน้าด้วยความพอใจ ลอบสังเกตอาการของสตรีตรงหน้า ไม่มีความตื่นเต้นหรือลนลานออกมาให้เห็น คงต้องรายงานเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททรงทราบ ว่าจวนราชครูนั้นได้เตรียมการสำหรับเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่มีข้อผิดพลาดเหมือนที่เคยได้กราบทูลไปแล้ว

หลี่ถิงตัวแข็งทื่ออยู่ข้าง ๆ พี่สาว ส่วนฮูหยินผู้เฒ่าตอนนี้รอเพียงเหล่าขันทีจากไป ก็พร้อมที่จะหน้ามืดลงไปในทันที ราชครูหลี่หน้าดำคร่ำเครียด เมื่อได้ยินเสียงของผู้ที่รับราชโองการ เหล่าบรรดาบ่าวไพร่ต่างตัวสั่น ต่างก็รับรู้ได้ถึงเมฆหมอกแห่งความขมุกขมัวนี้

“ฮูหยินผู้เฒ่า” สาวใช้น้อยใหญ่ต่างตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจ

“เจ้าตามข้ามา” ราชครูหลี่โมโห ไม่สามารถกล่าวคำใดได้อีก บุตรสาวที่ดูเหมือนจะเข้าใจ แม้ว่าจะยังไม่ได้รับปาก แต่ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี ไฉนถึงเป็นเช่นนี้ไปได้

ส่วนคนบ้านรองได้แต่ยกยิ้มมุมปาก เนื่องจากไม่เกี่ยวอันใดกับครอบครัวของตนเอง ฮูหยินบ้านรองทราบข่าวเรื่องจะเปลี่ยนตัวมาบ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่าหลานสาวบ้านนอกผู้นี้จะใจกล้าหน้าด้าน ขัดคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่า อกตัญญูต่อบิดา

แต่หากมองอีกแง่หนึ่ง ไหนเลยจะต้องแสดงความกตัญญูอีกเล่า ในเมื่อถูกเนรเทศไปยังพื้นที่ห่างไกล ยังกล้าพูดเรื่องบุญคุณนั้นอีก

จางซื่อถึงกับกัดปากตัวเองเรียกสติ ได้กลิ่นคาวเลือด แต่ก็ฝืนกลืนมันลงท้องไป เพื่อไม่ให้แสดงด้านไม่ดีออกมา แม้ว่าภายในใจจะกระอักเลือดมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ลอบกำมือภายใต้แขนเสื้อจนเกิดเป็นรอยพระจันทร์เสี้ยวไม่รู้กี่ดวงต่อกี่ดวง

นี่หรือคือคุณหนูใหญ่ ที่ถูกมารดาอบรมเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก แต่กลับไม่เข้าใจอะไรเอาเสียเลย เอาเถอะเรื่องนี้คงยากที่จะแก้ไข ในเมื่อราชโองการอยู่ในมือของนางไปแล้ว เรื่องนี้คงปล่อยให้ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนจัดการถึงจะดีที่สุด

“สมควรตาย นังหลานสารเลว เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร” เมื่อฟื้นคืนสติขึ้นมา เห็นหลี่เจียวกำลังคุกเข่าอยู่ ฮูหยินผู้เฒ่าก็ตะโกนสุดเสียง ทำท่าจะเป็นลมไปอีกรอบ

“ท่านย่ารักษาสุขภาพด้วย” หลี่ถิงยังคงรักษาสีหน้า รวมถึงกิริยาไม่พอใจเอาไว้ แม้ว่าภายในใจจะโมโห มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่านางต้องเตรียมตัวมากเพียงใด ในการที่จะขึ้นเป็นพระชายาขององค์ชายแปด ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจไปมาก ไหนเลยจะคิดว่าพี่สาวที่พึ่งกลับจากบ้านนอก จะเอื้อมมือไปรับราชโองการ แล้วทุกอย่างจะจบลงเพียงเท่านี้

“ถิงถิง เข้าใจย่าดีที่สุด” ฮูหยินผู้เฒ่าตบมือหลานสาวคนรองที่อยู่เคียงข้างเบาๆ รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ถลึงตาใส่หลานสาวคนโตที่คุกเข่า ในมือยังคงถือราชโองการเอาไว้เหนือหัวอยู่

“ท่านแม่ แบบนี้เราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ” จางซื่อร้อนใจ ไม่เห็นแม่สามีพูดอะไรจึงอดทนไม่ไหว

“จะทำอย่างไรได้อีกเล่า ได้แต่ปล่อยให้นางไปรับชะตากรรมที่ในวังเองเถอะ” ฮูหยินผู้เฒ่าไม่อยากมองหน้าหลานสาวเนรคุณผู้นั้นอีก จึงไล่หลี่เจียวให้กลับเรือนหลังไป

หลี่เจียวลอบยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เดินกลับเรือนของตน นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น นางเข้าใจดีในสิ่งที่ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าว เพราะในวังต่างหากคือแหล่งรวมเสือร้ายอย่างแท้จริง แต่แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อนางกลับมาเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับตนเอง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ทวงคืน   ตอนที่ 6

    ไม่ว่านางจะเลือกทางใด ล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าถึงอย่างไร ผู้ที่เหมาะสมที่สุดก็คือน้องสาวต่างมารดา หลี่ถิงผู้นั้น แล้วเช่นนี้จะให้นางตอบอย่างไรได้อีกเล่า“ท่านย่า สิ่งที่ท่านย่าพูดมานั้นหลานเข้าใจดีว่าท่านกังวลสิ่งใดเจ้าค่ะ แต่ขอให้ท่านย่าวางใจ แม้ว่าหลานจะไม่เคยเข้าร่วมงานของสตรีสูงศักดิ์ หรือไม่ได้ร่ำเรียนจากอาจารย์ผู้มากด้วยความรู้เหมือนน้องรอง แต่นั่นเพราะถูกเนรเทศตั้งแต่ยังเยาว์ ทว่าท่านแม่ได้สอนกิริยามารยาทต่าง ๆ ของสตรีที่พึงมีจนหมดสิ้น พวกท่านคงไม่ลืมกระมัง ว่ามารดาของข้านั้นเป็นผู้ใด” ประโยคท้ายเหมือนฮูหยินผู้เฒ่าถูกตีที่กลางหน้าผาก นางจะลืมได้อย่างไรว่าสะใภ้ใหญ่นั้นเป็นสตรีสูงศักดิ์ ที่ลดตัวลงมาแต่งกับบัณฑิตเช่นลูกชายของนางจริง ๆ“คุณหนูใหญ่คงไม่ทราบ หลายปีมานี้ขนบธรรมเนียมล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แม้ว่าฮูหยินใหญ่จะเป็นสตรีสูงศักดิ์ ทว่าก็ไม่ได้เข้าสังคมมานาน คงสอนได้ไม่ทั้งหมดกระมัง” ฮูหยินรองพูดขึ้นบ้าง เรื่องภายในไฉนเลยสามีที่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับตำราจะเข้าใจได้เล่าว่าจะต้องพูดอย่างไร“เรื่องที่ฮูหยินรองพูดมานั้นมีเหตุผลยิ่ง แต่เรื่องลบหลู่เบื้องสูง โดยการสลับตัวคง

  • ทวงคืน   ตอนที่ 5

    หลังจากนั้นฮูหยินผู้เฒ่าก็กระแอม เพื่อเรียกสติลูกชายคนโตกลับมา ภายในห้องมีเพียงสาวใช้คนสนิทถือว่าเป็นคนเก่าคนแก่ที่ไว้ใจได้คนหนึ่ง“เจียวเจียว บิดารู้ว่าทำผิดต่อเจ้าเอาไว้มากมาย แต่ถึงแม้ว่าจะย้ายไปอยู่บ้านเดิมยังพื้นที่ห่างไกล เจ้าและมารดาก็คงจะไม่ได้รับความลำบากเท่าใดกระมัง” ท่านราชครูกว่าที่จะมีวันนี้ได้ ต้องยอมรับว่า ได้รับความช่วยเหลือจากทางฝั่งฮูหยินใหญ่ผู้ล่วงลับ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาไม่น้อย หากว่าเขาไม่เห็นกับตา ก็คงไม่เชื่อว่าภรรยาจะทำตัวเป็นดอกซิ่งโผล่นอกกำแพงเช่นนี้ได้แม้ว่าจะเนรเทศฮูหยินใหญ่และบุตรสาวคนโตไปยังบ้านเกิด ทว่าที่นั่นไม่ได้ลำบากมากมายเท่าใดนัก บ้านเดิมมีบ่าวไพร่ที่ทำงานดูแลรักษาบ้าน นอกจากนั้นยังมีที่นาไว้สำหรับให้เช่าและค้าขาย เงินค่าเช่ารายเดือนรายปีนั้นจำนวนไม่น้อยความโชคดีของท่านราชครูในตอนนั้น คือฮูหยินรองซึ่งได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้ แต่งเข้าจวนมาเพียงหนึ่งเดือนนางถึงกับตั้งครรภ์ในทันทีในตอนนั้นหลี่เจียวยังอยู่ในครรภ์ของมารดาได้ราว ๆ 4-5 เดือนเห็นจะได้ หากโยนตำแหน่งหน้าที่ทิ้งไป เขาก็เป็นเพียงบุรุษผู้หนึ่ง ที่ยังมีความต้องการอยู่ ภรรยาตั้งครรภ์ไม่สา

  • ทวงคืน   ตอนที่ 4

    ตั้งแต่กลับมา นางยังไม่เคยได้เข้าไปทำความเคารพบิดาผู้ให้กำเนิดเลยสักครั้ง เพราะเขาถูกเรียกตัวเข้าวัง เป็นเวลาเกือบเจ็ดวันแล้วที่ยังไม่กลับเข้าจวน แต่เดิมทีบุตรสาวจะได้พบหน้าบิดาก็เป็นเรื่องยากพอสมควร เนื่องจากหญิงชายมีการเว้นช่องว่างให้กันอย่างชัดเจน แม้กระทั่งคนในครอบครัวก็ไม่ละเว้น ทุกอย่างเข้มงวดกวดขันมาก“คุณหนูเจ้าคะ นายท่านกลับมาแล้ว พ่อบ้านหลี่มาเชิญคุณหนูให้เข้าไปพบเจ้าค่ะ”หลี่เจียวฝึกคัดอักษรในห้องนอนส่วนตัว เมื่อก่อนตอนที่อยู่ชนบทกระดาษและหมึกเป็นของราคาแพง มารดากลับไม่นึกตระหนี่ถี่เหนียวกับสิ่งของพวกนี้เลยสักนิด ทว่านางผู้เป็นลูกเห็นมารดาแอบปักผ้าตอนกลางคืนเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายส่วนนี้ก็รู้สึกปวดใจทุกครั้งที่ต้องคัดอักษรเพื่อให้มารดาได้ชื่นชมทุกครั้งที่วาดพู่กันไปบนกระดาษ นางจึงตั้งใจมากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้คัดผิดแม้แต่ตัวเดียว มาบัดนี้จวนราชครูมั่งคั่ง ทั้งยังเป็นที่ โปรดปรานขององค์ฮ่องเต้ ไหนเลยจะมานั่งเสียดายสิ่งของเหล่านี้เล่า“อืม”ผู้เป็นนายคัดตัวอักษรสุดท้ายเสร็จ ฉินซินเหลือบเห็นว่าอักษร ตัวสุดท้ายปลายพู่กันที่ตวัดนั้นดูสั่นเล็กน้อยไม่พลิ้วไหวเหมือนตัวอื่น ๆ

  • ทวงคืน   ตอนที่ 3

    หลังจากการทักทายอย่างดุเดือดจบลง และการสนทนาในครั้งนี้ หลี่เจียวก็ตั้งใจเปิดศึกให้คนเหล่านั้นได้รู้ว่า ตนจะไม่มีวันยอมเหมือนที่ผ่านมาเป็นอันขาดในเมื่อนางกลับถึงเรือนหลังใหญ่ที่เคยเป็นที่พำนักของตนและมารดา บัดนี้ถูกคนบ้านรองยึดครองไปเสียแล้ว ยังดีที่มารดาเลี้ยงยังคงรักษาหน้าตาอันดีงามของตนเองเอาไว้ สั่งให้คนงานจัดเตรียมเรือนทางฝั่งตะวันออกที่มีสวนดอกไม้งดงามเอาไว้ให้ และนางเองก็ชอบเรือนหลังนี้อยู่ไม่น้อยเพราะทั้งเงียบสงบและหลีกหนีความวุ่นวายหลี่เจียวในชาติก่อน ถูกเนรเทศออกนอกจวนไปยังบ้านเกิดของบิดาตั้งแต่ยังเล็ก โชคดีที่มารดาเป็นสตรีที่ผ่านการเลี้ยงดูเฉกเช่นคุณหนูชนชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถทางด้านใดที่สตรีพึงมี นางต่างได้ร่ำเรียนจากมารดามาจนหมดสิ้น ทว่าในตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องแสดงความสามารถเหล่านั้นออกมา ปล่อยให้พวกเขาเข้าใจว่านางเป็นเพียงสตรีบ้านนอกที่เพิ่งเข้ามาในเมืองหลวงดีกว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งจากนั้นไม่นาน สาวใช้ในเรือนใหญ่ก็ส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปเนื้อผ้าชั้นดีมาให้นาง ช่วงนี้อากาศหนาวมากจึงไม่คิดปฏิเสธ สิ่งที่ควรจะเป็นของตนมาตั้งแต่ต้นก็ควรที่จะรั

  • ทวงคืน   ตอนที่ 2

    เมื่อคุณหนูใหญ่ลงมาจากรถม้าโดยมีสาวใช้ประคองอยู่ไม่ห่าง ทว่าพวกเขาแทบจะแยกไม่ออก ว่าผู้ใดคือนาย ผู้ใดคือบ่าว เพราะแทบจะมองไม่เห็นถึงความแตกต่าง มีเพียงหน้าตาและผิวพรรณที่พอจะแยกออกได้บ้าง‘นี่หรือคือคุณหนูใหญ่แห่งจวนท่านราชครู เหตุใดถึงไม่ต่างจากขอทานข้างถนนเลยสักนิด เสื้อผ้าขาดวิ่น เทียบไม่ได้แม้กระทั่งเสื้อผ้าของบ่าวไพร่ในเรือนเลยแม้แต่น้อย หรือข่าวที่ได้บอกกล่าวก่อนหน้านั้นจะไม่ใช่เรื่องจริง ที่บอกว่าฮูหยินใหญ่แห่งจวนราชครูตัดขาดทางโลก เดินทางแสวงบุญพร้อมกับลูกสาวคนโตที่มีจิตใจกตัญญู ขอติดตามมารดาเพื่อลิ้มรสพระธรรม’ทางด้านฮูหยินรอง จางซื่อ ถึงกับกัดฟันกรอด เมื่อเห็นสภาพของลูกเลี้ยงไม่ต่างอะไรกับขอทาน เป็นแบบนี้นางจะปล่อยให้ไปพบกับฮูหยินผู้เฒ่าได้อย่างไร“หลี่เจียว คารวะฮูหยินรอง ท่านอาสะใภ้ ลูกอกตัญญูที่ปล่อยให้ผู้ใหญ่มายืนตากไอเย็นรอ” หลี่เจียวเดินไปถึง เห็นแม่เลี้ยงยืนรออยู่ ภายในใจนึกขัน คนพวกนี้ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด แม้ว่าอากาศจะหนาวเหน็บเพียงใด ทว่าหน้าตาก็ยังคงสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดอยู่ดี“คุณหนูใหญ่ เหตุใดถึงได้พิลึกพิลั่นใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ ข้างนอกอากาศหนาว รีบเข้าไปคุยข้

  • ทวงคืน   ตอนที่ 1

    ปีที่ยี่สิบสองแห่งการครองราชย์ของฮ่องเต้หมิงคัง ลมหนาวของเดือนหนึ่ง ช่างหนาวเหน็บลึกลงไปถึงขั้วหัวใจ หญิงสาวร่างกายผ่ายผอม เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก ริมฝีปากแห้งผากราวกับพื้นดินที่แตกระแหง ขาดน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจ ดวงตาบวมช้ำปิดสนิท จนไม่สามารถลืมตาขึ้นมามองโลกภายนอกได้“ไปกันเถอะ” ร่างดำทมิฬ ทว่ากลับดูสง่างาม ยากนักที่จะละสายตาให้มองไปทางอื่นได้“ไม่ ข้ายังไม่อยากตาย” หลี่เจียวกำลังยืนมองร่างอันไร้วิญญาณ หากเมื่อพินิจมองแล้วเป็นต้องตกใจ เพราะนั่นคือนาง“เจ้าจักฝืนไปไย ในเมื่อทุกอย่างเป็นเจ้าที่โง่งม เลือกทางเดินผิดด้วยตนเอง” คำพูดที่ถากถางไปถึงขั้วหัวใจ แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน“เพราะข้าโง่งม ปล่อยให้ความรักบังตา จนมองไม่เห็นความจริง ว่าแท้จริงแล้วผู้ใดที่รักและหวังดีกับข้า ได้โปรด...เช่นนี้หาได้ยุติธรรมสำหรับข้าไม่” ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงทำเพียงแค่หันไปมองบุคคลลึกลับผู้นั้น ทั้งที่ไม่ได้เปล่งเสียงใด ๆ ออกมา ทว่ากลับรับรู้ได้ว่ากำลังสนทนา เพื่อต่อดวงชะตาให้กับตนเองอยู่“ยามมีอยู่ไม่เห็นค่า ยามจากมาเหตุใดถึงอาวรณ์เพียงนี้เล่า” น้ำเสียงเย้ยหยันแกมประชดประชัน น่าแปลกทั้งที่ไม่ได้พูดหรือแสดงสีหน้

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status