บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า
“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้”
“หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”
เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย
“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย”
“อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด”
แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านJeff : พี่แป้งทำไมพี่ต้องยืนใกล้มันขนาดนั้น ถอยห่างออกมาหน่อย
Jeff : พี่แป้งอย่ายิ้มเยอะสิ ผมหวง
Jeff : พี่แป้งออกมาข้างนอกหน่อย
Jeff : ถ้าพี่แป้งไม่ออกมาผมจะเดินไปหาพี่เองนะ
ปวริศานิ่วหน้านี่เขาเป็นบ้าอะไร หงุดหงิดอะไรอีกนะ คิดแล้วก็ลอบถอนหายใจเบาเบาเบาหันไปยิ้มกับแพทริก
“คุณแพทคะพอดีว่าแม่โทรมาค่ะ เดี๋ยวแป้งขออนุญาตไปคุยกับแม่แป๊บนึงนะคะ”
“ได้สิครับคุณแป้งเชิญตามสบายครับเดี๋ยวผมเดินเล่น ยืนรอคุณแป้งอยู่แถวนี้นะครับ”
ปวริศายิ้มแล้วเดินแยกตัวออกมา ส่วนอีกคนพอเห็นว่าปวริศากำลังเดินแยกตัวออกมาจากคู่อริเก่าของตนก็ยกยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินออกไปนอกอาคาร
ปวริศาเดินออกมานอกอาคารเธอหันซ้ายหันขวามองหาเจ้าตัวปัญหาที่เอาแต่ใจคนนั้นแล้วเธอก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนจับขอกำแพงอยู่ทางด้านซ้ายของตัวอาคารเธอจึงเดินเข้าไปหา
“ทำไมพี่ถึงมากับมันได้ละครับ”
“อ๋อคุณแพทนะหรือคะ”
“ทำไมถึงเรียกชื่อมัน สนิทกันขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ก็เรียกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ก็แปลว่าสนิทมานานแล้ว และอาจจะสนิทมากขึ้นก็ได้ เพราะตอนนี้เขาก็มาคุยด้วยทุกวัน”
“พี่แป้งอย่ากวน อย่ายั่วโมโหผมสิ สรุปแล้วทำไมพี่มากับมันได้”
ปวริศาหันหน้าออกไปมองบรรยากาศภายนอกที่เต็มไปด้วยแสงสลัว แล้วเธอก็ยิ้มกว้าง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ก็พอดีช่วงนี้ว่าง ตกงาน ไม่มีอะไรทำคุณแพทเธอโทรมาชวน เอาชุดมาให้ ก็เลยออกมาดีกว่านั่งนอนอยู่บ้านเฉยๆ”
“ตกงานอะไรกัส พี่ยังเป็นพนักงานบริษัทผมอยู่นะ”
“ก็เขียนใบลาออกแล้ว”
“แต่ผมยังไม่ได้อนุมัติ”
“ก็ดิฉันทำงานผิดพลาดแถมยังทุจริตในหน้าที่การงานด้วยเอาความลับของบริษัทไปบอกคู่แข่งทำให้บริษัทเกิดความเสียหายไม่เหมาะสมที่จะเป็นพนักงานของบริษัทต่อไปแล้วค่ะ”
“พี่แป้งผมขอโทษ ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้ทำ”
“เอ๊ะ.. ทำไมวันนี้คุณเจฟฟ์ถึงบอกว่าฉันไม่ได้ทำล่ะคะทีวันนั้นดิฉันอธิบายแทบตายคุณก็ยังปักใจเชื่อว่าฉันเป็นคนทำอยู่เลย วันนี้คุณกินยามาผิดขวดหรือเปล่าคะ เอ๊ะ.. หรือว่าลืมเขย่าขวดก่อนกินยา ตัวร้อนป่ะเนี่ย”
ปวริศายกมือทำท่าจะแตะหน้าผากเจฟฟ์ แต่ก็โดนเจฟฟ์จับมือไว้แล้วก็ดึงเข้ามาหาตัวเอง เขาใช้มืออีกมือหนึ่งโอบกอดด้านหลังประคองศรีษะของหญิงสาวไว้แล้วก้มไปบดจูบอย่างโหยหา ปวริศาตกใจพยายามดิ้นต่อต้านแต่ก็ไม่อาจหลุดออกจากพันธนาการที่แข็งแกร่งนี้ได้ เจฟฟ์ฉวยโอกาสตอนหญิงสาวตกใจสอดแทรกเข้าไปดูดดื่มรสสัมผัสที่หอมหวานที่เขาแสนจะคิดถึง
ปวริศาที่ขัดขืนในตอนแรกไม่นานร่างกายเธอก็ทรยศกับความคิด เพราะเธอเองก็ตอบรับจุมพิตของเขากลับด้วยความโหยหาเช่นกัน
“หยุดค่ะ เราไม่ควรทำแบบนี้กันอีก เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”
“พี่แป้งครับ ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมนะครับ คนดีของผม ตั้งแต่นี้ต่อไปน้องเจย์เดนคนนี้จะไม่ดื้อไม่งอแงกับพี่แป้งอีกแล้ว”
เจฟฟ์ดึงปวริศาเข้ามากอดอีก เขาฝังจมูกไปที่แก้มขาวอีกครั้ง ปวริศาเอามือผลักดันที่อกของเจฟฟ์ แล้วก็มีเสียงใครเดินออกมาข้างนอก เจฟฟ์รีบดึงปวริศาเข้าไปหลบมุม
“พี่แป้งมีคนมา อย่าเพิ่งเสียงดังนะ ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าพี่แอบออกมาจูบมากอดกับผม”
ปวริศาทุบไปที่อกของเจฟฟ์ดังตุบ
“ผมเจ็บนะพี่แป้ง”
เจฟฟ์กระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวแล้วแอบขบเม้มที่ใบหูบางเบาเบา ทำให้ปวริศาขนลุกซู่ แต่สิ่งที่เธอกำลังจะได้ยินต่อไปนี้ทำให้เธอขนลุกหนักกว่าเดิม
“ทำไมคุณมากับมันคะ”
“อ้าวทำไมฉันจะมากับเขาไม่ได้ล่ะ”
ปวริศายกมือขึ้นปิดปากเธอจำเจ้าของเสียงทั้งคู่ได้ดี เธอแอบชะโงกไปมองที่ต้นทางเสียง ก็เห็นเป็นแพทริกกับปรียาพรกับคุยกันอยู่ เธอหน้าขึ้นมองเจฟฟ์เชิงตั้งคำถามว่าทำไมถึงเป็นสองคนนี้ เขาไปรู้จักและสนิทสนมกันตอนไหน เพราะที่ผ่านมาก็มีแต่เธอนี่ที่แพทริกคุยด้วย
“ไหนคุณบอกว่าคุณไม่ได้มีอะไรกับยายแป้งไง แค่ใช้นางเป็นตัวล่อเฉยๆ แต่นี่ทำไมต้องมาด้วยกันด้วยล่ะ”
“นี่อย่ามาอะไรตอนนี้เลย เดี๋ยวค่อยกลับไปคุยกันที่ห้อง เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
ปวริศายืนนิ่งสตั๊นไปแป๊บหนึ่งพลางคิดในใจว่า ‘สองคนนี้มีซัมติงกันงั้นหรือ เป็นไปได้อย่างไร ใบหม่อนไม่เคยพูดหรือแสดงออกอะไรเลยที่ผ่านมา แล้วเขาไปคบกันตอนไหน แล้วทำไมแพทริกถึงยังมาทำท่าทีว่าจีบเธออีกล่ะ’
“ทำไมทีกับหม่อนคุณกลัวคนอื่นจะรู้ คุณจะให้หม่อนอยู่ในมุมมืดแบบนี้อีกนานแค่ไหน ทียายแป้งคุณควงมันเดินยิ้มทั่วงาน ทำไมคุณทำแบบนี้แพทริก”
“ทำไมงี่เง่าจังวะ”
“งี่เง่าเหรอ คุณว่าหม่อนงี่เง่าเหรอ นี่แน่ะ หม่อนไม่ดีตรงไหน หม่อนเป็นเมียคุณนะ”
ปรียาพรเริ่มฟูมฟายยกสองมือทุบไปที่หน้าอกของแพทริก แพทริกคว้าข้อมือของปรียาพรมากำไว้แน่นสายตามองหญิงสาวด้วยความเกี้ยวกราด
“โอ๊ย... แพท หม่อนเจ็บ”
“เออ.. เป็นเมียเหรอ เธอกล้าพูดว่าเป็นเมียฉันหรือ ฉันไม่นับผู้หญิงร่านผู้หญิงง่ายที่มาอ้าขาให้ฉันเอาฟรีๆ ว่าเป็นเมียหรอกนะ เพราะไม่อย่างนั้นฉันคงมีเมียเป็นร้อย”
“แพทริกทำไมคุณพูดแบบนี้ หม่อนรักคุณนะ ฮือ”
“รักฉัน หรือรักเงินฉันกันแน่ เธอก็จะมางอแงงี่เง่าอะไร เธอก็รู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าคนที่ฉันสนใจคือ ปวริศาไม่ใช่เธอ ถ้าเธอรับสภาพนี้ไม่ได้ก็ออกไป”
“ไม่ค่ะ แพทริก หม่อนรักคุณอย่าทิ้งหม่อน หม่อนยอมทุกอย่างแล้ว หม่อนจะไม่งี่เง่าอีกแล้ว ฮือ ขอร้องอย่าไล่หม่อน อย่าทิ้งหม่อนไป ฮือ”ปรียาพรร้องไห้แบบไม่สนใจเครื่องสำอางที่แต่งมา เธอเข้าไปกอดแพทริกจากหลังไว้แน่น
“ถ้าอย่างนั้นก็ทำตัวให้มันดีดี อย่าให้มีปัญหา อย่าเรียกร้อง อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป”
แพทริกพูดจบก็แกะมือที่กอดตัวเองออกแล้วเดินจากไป ทิ้งให้อีกคนนั่งจมน้ำตากับพื้น
“ฮือ.. ฮือ...”
สักพักปรียาพรก็รู้สึกว่ามีใครบางคนมาโอบกอดประคองเธอไว้พร้อมกับน้ำเสียงที่เธอคุ้นเคย
“หม่อน”
เธอเงยหน้าขึ้นมาอุทานชื่อของคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
“แป้ง ...บอส”
ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์