Home / มาเฟีย / ทวงแค้น แสนรัก / ตอนที่ 5 : กังวล

Share

ตอนที่ 5 : กังวล

Author: SS.WONDER
last update Last Updated: 2025-03-13 23:10:31

-SOLO PART-

หลายวันต่อมา...

ดวงอาทิตย์ยังคงที่ขึ้นทางทิศตะวันออก ตกทางทิศตะวันตกเป็นกิจวัตรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของมัน ผู้คนมากมายที่ต่างก็พากันออกมาใช้ชีวิตทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเองและครอบครัว ก็คงเหมือนกันนกตัวน้อยๆ ที่บินออกจากรังเพื่อหาอาหารในทุกๆ เช้า ก่อนจะกลับรังไปพักผ่อนในช่วงเย็น แต่ชีวิตของคนเราต่างจากนกเยอะบางคนใช้ชีวิตตามความคาดหวังของคนอื่นซะจนหลงลืมความเป็นตัวเองของตัวเองไป กระทั่งเวลาผ่านไปนานเข้าเรากลับจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปทำมันหล่นหายตั้งแต่เมื่อไหร่และที่ไหน ส่วนบางคนใช้ก็ชีวิตตามความต้องการของตัวเอง เชื่อในสิ่งที่ตัวเองยึดมั่นถือมั่นมาตลอดซึ่งแน่นอนผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

‘พวกกูหวังดีกับมึงไอ้โซ กูไม่อยากให้มึงต้องเสียใจทีหลัง’

ตั้งแต่วันนั้นเสียงของเพื่อนผมก็ดังวนอยู่ในหัวของผม ผมสลัดคำพูดของพวกมันออกไปจากหัวไม่ได้สักที คนอย่างผมไม่มีวันเสียในทีหลังแน่นอนมันสมควรโดนแล้ว

“นายครับ...” เสียงไอ้ทิมดังขึ้นจากด้านหลังปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ ก่อนที่ผมจะละสายตาจากภาพการจราจรของรถที่สัญจรไปมาบนถนนด้านนอกหน้าต่างกว้างหันกลับมามองมัน

“…”

“...งานที่เชียงรายให้ผมจัดการเลยไหมครับ” ไอ้ทิมมือขวาของผมเอ่ยถาม ขณะที่ผมกำลังหยิบเอกสารสำหรับการประชุมในตอนบ่ายขึ้นมาเปิดอ่าน

“อีก 2 วัน เดี๋ยวกูไปจัดการเอง มึงไปเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย” ผมเอ่ยบอกกับชายตรงหน้าออกไปเสียงเรียบ ก่อนจะก้มหน้าลงทำงานของผมต่อ

“ครับนาย” พอมันพูดจบก็ก้มหัวให้กับผมก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานของผมทันที

สามปีมานี้ผมให้คนติดตามดูไอ้ข้าวปั้นกับข้าวตู จนรู้ว่าชีวิตยัยนี่แม่งโครตจืดชืด ดูแล้วน่าเบื่อชิบ แต่เดี๋ยวผมนี่แหละที่จะเป็นคนสร้างสีสันให้กับเธอเอง ส่วนไอ้ปั้นมันก็คลุกตัวอยู่แต่ที่ทำงานของมันนานๆ ทีจะกลับบ้านที ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรไอ้ปั้นอยู่แล้ว ถึงมันจะเป็นเป้าหมายหลักของผมก็ตาม แต่มันไม่ใช่หมากในกระดานนี้และหมากตัวสำคัญก็มาอยู่ในมือของผู้คุมเกมอย่างผมแล้ว

“หึ…”

เหตุผลที่ผมยังไม่เริ่มทำอะไรตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่ๆ ก็เพราะตอนนั้นต้องบินไปบินกลับระหว่างอังกฤษกับไทย เพื่อเริ่มสานต่อธุรกิจของป๊าผม และก็ต้องคอยดูแลจีน่าน้องสาวของผมอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ตอนนั้นชีวิตผมไม่มีเวลาว่างมานั่งคิดเรื่องอะไรนอกจากเรื่องของน้องสาวผม หรือแม้แต่เวลานอน เวลากินข้างผมก็แทบจะไม่มี

‘จีไม่อยากให้โซแก้แค้นเขา’

‘จีเป็นห่วงโซนะ’

‘…’

‘ไม่มีอะไรต้องห่วงสักนิด...’

‘แต่ว่า...’

‘ไม่มีแต่...ไปพักผ่อนเถอะ’

‘โซ...’

เสียงของจีน่ายังคงดังก้องในหัวผม ทั้งน้ำเสียงและคำพูดของเธอ ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า ‘เธอยังคงรักและเป็นห่วงมันมากแค่ไหน ทั้งๆที่มันทำให้เธอต้องเจ็บปวดปางตายขนาดนี้แท้ๆ’ มันก็ยิ่งทำให้ความโกรธของผมทวีคูณขึ้นไปอีก

‘จีน่า’ เธอเป็นน้องสาวฝาแฝดของผมเอง ตั้งแต่เด็กเราทั้งคู่ถูกเลี้ยงมาแตกต่างกันมาก ผมมีป๊าเป็นคนเลี้ยงมา ผมถูกฝึกมาให้สู้คนตั้งแต่เด็กเท่าที่ผมจำความได้ ผมต้องเรียนรู้ทั้งการทำธุรกิจ การเอาตัวรอด หรือแม้แต่การใช้อาวุธไม่ว่าจะชนิดไหนผมก็ถูกฝึกมาหมด ไม่ใช่ว่าครอบครัวผมเป็นมาเฟียอะไรหรอกนะ แต่คงเป็นเพราะป๊ามีผมเป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่จะสืบทอดตระกูลต่อจากท่าน ผมถึงต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ท่านมั่นใจในตัวผม

ส่วนจีน่าแม่ผมเป็นคนเลี้ยงเธอมาเองกับมือ ผมคิดว่าแม่เลี้ยงเธอมาดีเกินไปซะด้วยซ้ำเพราะเธอทั้งอ่อนแอ หัวอ่อน และยังไม่รู้จักที่จะสู้คนอีก ผมจึงต้องคอยปกป้องเธอตลอด ถึงเราจะถูกเลี้ยงมาต่างกันยังไงผมก็รักน้องสาวของผมมาก ผมไม่เคยทำให้น้องร้องไห้หรือเสียใจเลยสักครั้ง แล้วมันเป็นใครถึงได้กล้าที่จะทำ

“ใครที่มันทำให้คนที่ผมรักต้องเจ็บ มันจะต้องเจ็บมากกว่า”

อีกด้านหนึ่ง

-KAOTU PART-

หลายวันมานี้โชคดีที่ฉันไม่รับงานจากท่านประธานจอมโหดก็เลยไม่มีเรื่องอะไรที่ชวนขนหัวลุกเกิดขึ้นกับฉัน เขาดูเป็นผู้ชายที่น่ากลัวคนหนึ่งเลยล่ะฉันสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นสายตาและท่าทางของเขาดูจะไม่มีอะไรที่เป็นมิตรกับฉันสักอย่างเลย ฉันได้แต่ภาวนาขอให้เวลาที่เหลือไม่ได้ปะทะกับเขาแบบตัวต่อตัวอีกเป็นดีที่สุด

“คุณส้มเข้ามาพบผมด้วย” เสียงของท่านประธานดังมาจากเครื่องอินเตอร์คอมเอ่ยเรียกพี่ส้มให้เข้าไปพบเขาด้านใน

“ค่ะท่านประธาน” เธอเอ่ยตอบกลับเขาพร้อมกับลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องของท่านประธานทันที

ก๊อกกก ก๊อกกก

"ขออนุญาตค่ะท่านประธาน"

...

พี่ส้มหายเข้าไปในห้องของท่านประธานเกือบชั่วโมง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกมาพร้อมกัน และทั้งสองปลายตามองมายังฉันเล็กน้อยพร้อมกับพูดอะไรกันสักอย่างซึ่งฉันอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยิน หรือพวกเขาคุยกันเสียงเบาจนทำให้ฉันไม่ได้ยินก็ไม่รู้ พูดจบท่านประธานก็เดินออกไปฉันก็เลยก้มหัวให้เขาเพื่อทำความเคารพ ก่อนที่ท่านจะเดินไปยังห้องประชุมกับพี่ส้ม

“…”

2 ชั่วโมงต่อมา

“น้องข้าวตู” พี่ส้มเธอเอ่ยเรียกฉันทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องประชุม มีเรื่องด่วนอะไรรึป่าว เพราะเธอเรียกฉันมาแต่ไกลทั้งที่ตัวเองยังไม่ถึงโต๊ะด้วยซ้ำ

“ขา...พี่ส้ม” ฉันขานรับพี่ส้มออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ข้าวตูจะต้องไปทำงานที่เชียงรายกับท่านประธาน 3 วัน…” หญิงตรงหน้าเอ่ยบอกกับฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มกลับมาให้ฉันเช่นกัน

“หะ ให้ ข้าวไปทำงานกับท่านประธาน” ฉันเอ่ยถามเธอออกไปเสียงสั่นเพื่อยืนยันว่าหูของตัวเองไม่ได้ฝาดไป

“ใช่จ้ะ...เป็นคำสั่งของท่านประธาน”

ซึ่งคำตอบของเธอก็ทำให้ฉันช็อคไปกลางอากาศ โอ้ยยย ‘ข้าวตูตายแน่เลยงานนี้’ ทั้งๆ ที่ฉันทำให้เขาต้องปวดหัวขนาดนี้ เค้าก็ยังคงเลือกฉันไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วยเนี่ยนะ ฉันควรจะดีใจหรือเสียใจกันดีเนี่ยที่เจ้านายไม่ได้มองข้ามความสามารถของฉัน

“พี่ฝากด้วยนะข้าว พี่ไปด้วยไม่ได้เพราะท่านประธานส่งพี่ไปประชุมแทนท่านที่ภูเก็ต”

เพราะพี่ส้มมีงานที่สำคัญกว่าต้องจัดการนี่เอง ฉันต้องไปช่วยงานท่านประธานแทนเธอเป็นเหตุผลที่ฉันเข้าใจได้ ‘สู้ข้าวตู ท่องไว้ทำงานๆ’

“ค่ะพี่ส้ม พี่ไม่ต้องกังวลนะคะ ข้าวตูจะทำให้เต็มที่นะคะ” ฉันตอบกับพี่ส้มไปอย่างมั่นใจ เพื่อให้พี่ส้มเธอสบายใจ ฉันดูออกว่าเธอค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับฉัน ฉันจะทำให้ทุกคนเห็นว่าฉันมีศักยภาพมาพอสสำหรับงานนี้ อย่างน้อยก็จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระงานของพี่ส้มได้บ้าง เพราะมันคือหน้าที่ของฉัน

“แล้วข้าวตูต้องไปเมื่อไหร่หรอค่ะพี่ส้ม” ฉันเอ่ยถามพี่ส้มออกไปด้วยความสงสัย

“วันจันทร์หน้าค่ะ” เธอก็ตอบกลับฉันมาด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

“ได้ค่ะ...พี่ส้ม” ฉันยิ้มกว้างแล้วตอบกลับเธอออกไป ทำใจดีสู้เสือไปก่อนละกัน หวังว่าเสือจะไม่กัดคอฉันตายนะ

@ บ้านข้าวตู

19.00 น.

เนื่องจากวันนี้วันศุกร์พอถึงเวลาเลิกงานทำให้รถติดมากๆ กว่าฉันจะกลับมาถึงบ้าน ก็ปาเข้าไปหนึ่งทุ่มกว่าแล้ว

“สวัสดีค่ะคุณแม่” เมื่อฉันเดินเข้ามาในบ้านก็เจอคุณแม่นั่งรออยู่ที่โซฟา ฉันเอ่ยทักท่านตามปกติ

“ไหว้พระนะลูก...” แม่เอ่ยตอบฉันพร้อมหันมายิ้มให้ฉัน

“คิดถึงข้าวไหมค่ะ” ฉันเอ่ยถามท่านออกไปอย่างอ้อนๆ ก่อนที่จะเดินไปกอดท่านด้วยความคิดถึงนี่ฉันไปทำงานในตอนเช้าและตอนเย็นก็กลับนะเนี่ย ถ้าต้องไปต่างจังหวัดตั้ง 3 วันคงจะคิดถึงแย่เลน

“คิดถึงสิจ้ะหนูน้อยของแม่ มาทานข้าวกันเถอะลูก แม่ทำของโปรดของหนูทั้งนั้นเลย” แม่เอ่ยบอกพร้อมกับกอดตอบฉันอุ่นจังอ้อมกอดที่ฉันคุ้นเคย

“ค่ะ”

“แม่ค่ะ...วันจันทร์หนูต้องไปทำงานที่เชียงราย 3 วันนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับแม่ขณะที่เรากำลังนั่งทานข้าวกัน

“...”

“หนูต้องระวังตัวด้วยลูก” แม่เงียบไปนานก่อนที่ท่านจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

ฉันรู้สึกเหมือนแม่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลยที่ฉันจะต้องไปทำงานไกลถึงเชียงราย แต่ก็คงเป็นเพราะฉันไม่เคยไปไหนไกลๆ โดยที่ไม่มีแม่หรือพี่ปั้นไปด้วยเลย แม่ก็คงจะเป็นห่วงฉันเพราะเรื่องนี้

“ค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเลยค่ะ” ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้กับแม่

“แม่ทานนี่นะคะ” ฉันพูดพร้อมกับตักผัดผักของโปรดท่าน

“ขอบใจจ้ะ”

“แม่ทานข้าวอิ่มแล้วหรอค่ะ” ฉันเอ่ยถามแม่ออกไปด้วยความสงสัย วันนี้ท่านทานข้าวน้อยมากน้องกว่าทุกครั้งที่เคยทาน

“จ้ะ...”

“เดี๋ยวหนูล้างจานให้เองนะคะ แม่ไปพักนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับท่านก่อนจะเก็บจานรวามๆกัน ก่อนจะเดินเอาไปว่างไว้ที่ซิงค์ล้างจานเพื่อรอทำความสะอาด

“งั้น...แม่ขึ้นห้องก่อนนะลูก”

“ค่ะแม่...” ฉันขานตอบท่านจบ ท่านจึงเดินขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านบนทันที

อีกด้านหนึ่ง...

Line

แม่ : ปั้นวันจันทร์น้องต้องไปทำงานที่เชียงราย แม่เป็นห่วงน้องจังเลยลูก

แม่ : แม่กลัวว่าเขาจะไปด้วย

แม่ : กลัวว่าเขาจะทำอะไรน้อง

แม่ : ถ้าปั้นว่างแล้วโทรหาแม่ด้วยนะลูก

เธอส่งข้อความไปหาข้าวปั้นด้วยความกระวนกระวายใจ เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับการไปเชียงรายของลูกสาวเพียงคนเดียวในครั้งนี้

-KAOTU PART-

22.00 น.

~ครืนนนนนนนนน~  ~ครืนนนนนนนนนนน~

เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นมาจากโต๊ะเขียนหนังสือ คนที่โทรมาหาฉันในเวลาแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้หรอกนะนอกจากวีนัสเพื่อนสาวคนสวยของฉันนั่นเอง

ติ๊ด!!

“ฮัลโหลลลลลล กำลังคิดถึงพอดีเลย”

(ทำไม ไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้อีก) ปลายสายเอ่ยถามฉันออกมาอย่างเอือมระอา

“ป่าวซะหน่อย เราออกจะเรียบร้อยจะไปสร้างวีรกงวีรกรรมอะไรเล่า” ฉันเอ่ยตอบเพื่อนสาวออกไปอย่างงอลๆ

(หรอข้าว ใช่หรอคะ) น้ำเสียงยียวนกวนประสาทของปลายสาย ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อฉัน แต่ต้องการจะแกล้งฉันมากกว่า

“ชิ๊...ใช่สิ”

(แล้วท่านประธานของข้าวเขาไม่ว่าอะไรข้าวเลยหรอ) วีนัสเอ่ยถามฉันด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่เคยทักไปบ่นกับเธออีกเลย

“ไม่นะ เพราะข้าวไม่ค่อยได้เจอเขาเลย จนกระทั่งวันนี้ที่เขามาประชุม”

(ฮ่าฮ่าฮ่า วีว่าแล้ว...) เธอขำออกมาเสียงดัง ราวกับว่าเธอคาดการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

“ขำไรข้าวอ่ะ” ฉันเอ่ยถามเธอออกไปอย่างงอล ก่อนจะเดินมานั่งลงยังเตียงขนาด 5 ฟุตที่ตั้งอยู่กลางห้องนอนของฉัน

(เอ๊า ก็ที่ข้าวยังรอดอยู่เพราะเฮียโซโล่ของวีไม่ว่างไง) วีนัสเอ่ยออกมาทีเล่นทีจริง

ฉันไม่แปลกใจเลยว่าวีนัสรู้จักกับท่านประธานได้ยังไง ก็เขาและพวกเพื่อนๆ ของเขาน่ะดังจะตายในหมู่สาวๆ ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของพวกเขาบนอินเตอร์เยอะแยะ แต่คงต้องยกเว้นสาวสวยแสนจะน่ารักอย่างฉันไว้คนหนึ่งน่ะ เพราะฉันก็พึ่งรู้จักเขาก็ตอนที่ฉันหาข้อมูลบริษัทเนี่ยแหละ

ฉันไม่รู้หรอกนะว่าข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเขียนโอเว่อร์ไปขนาดไหน แต่จากประสบการณ์ที่ฉันได้พบเจอกับตัวเองเพียงไม่กี่ครั้งมันก็ทำให้ฉันกลัวเขามากแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันควรอยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนี้ยิ่งไกลยิ่งดี

“ชิ๊...จะฟ้องวินเนอร์”

(เชอะ กลัวที่ไหนไปดีกว่าไปคุยกะผู้ชายดีกว่า) น้ำเสียงของวีนัสบอกกับฉันอย่างกวนๆ

“จ้าๆ”

ติ๊ด!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 31 : ครอบครัว (จบ)

    @โรงพยาบาล SE"พี่มาร์คัส พี่นักรบคะ เขาเป็นยังไงบ้าง?" ฉันถามพี่มาร์คัสกับพี่นักรบออกไปทันทีที่ฉันเดินมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน"ทำใจดีๆไว้นะข้าว" พี่นักรับเอ่ยบอกกับฉันพร้อมสีหน้าที่ไม่สู้ดีเอาสะเลย"ฮึก ฮืออออ ไม่จริงเขาต้องไม่เป็นอะไร" ฉันเอ่ยบอกกับพี่นักรบพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย"ข้าวตู..." พี่มาร์คัสเอ่ยเรียกฉันเสียงอ่อน ก่อนที่มือหนาจะลูบลงที่บ่าของฉันอย่างปลอบประโลม"ฮึก มะ ไม่จริงใช่ไหมค่ะ" ฉันเอ่ยถามพวกเขาออกไปอีกครั้ง หัวใจสั่นระรัวเหมือนกับว่ามันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว"ถ้าข้าวเป็นห่วงมันขนาดนี้ทำไมไม่ให้อภัยมันสักที?" พี่มาร์คัสเอ่ยถามฉันขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างรอคำตอบ"คะ ใครบอกว่าหนูไม่ให้โอกาสเขาล่ะคะ" ฉันเอ่ยบอกกับพี่มาร์คัสออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหนออกมา"...""หนูให้โอกาสเขาตั้งนานแล..." ฉันยังไม่ทันพูดจบพี่นักรบก็เอ่ยแทรกขึ้นมา"ได้ยินชัดแล้วนะมึง" พี่นักเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองเลยไปที่ด้านหลังของฉัน อย่าบอกนะว่าเขายืนอยู่ข้างหลังฉันควับ!!! ฉันรีบหันกลับไปมองเขาทันทีที่พี่นักรบพูดจบ"ฮืออออ พี่โซโล่..." ฉันเอ่ยเรียกเขาก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดเขาไว้ทันทีราว

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 30 : ดูแล

    3 ปีก่อน...ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!!'ใครอะ?' ข้อความในมือถือของจีน่าดังเขามารัวๆ ข้อความถูกส่งมาโดยคนที่เธอไม่รู้จัดเธอจึงกดเข้าไปดูแล้วกูพบว่ามันเป็นรูปข้าวปั้นแฟนหนุ่มของเธอกับนุ่นเพื่อนสาวคนสนิทกำลังนอนกอดกำลังนอนกอดกันอยู่ในสภาพที่ทั้งคู่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น รวมถึงสภาพห้องที่ดูแล้วราวกับว่าพึ่งจะผ่านศึกสงครามมา จีน่าเธอยืนดูภาพตรงหน้านิ่งเพราะเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเรื่องจริง แต่ต่อให้พยายามหาเหตุผมที่จะมาลบล้างภาพตรงหน้าสักเท่าไรมันก็ไม่หายไปสักทีจนกระทั่งกรี๊ดดดดดดดด ฮือออออออจีน่ากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ตอนนี้มันไม่สามารถระบายเป็นความเจ็บปวดได้ทั้งแฟนที่เธอรักและเพื่อนที่เธอสนิทด้วยทั้งคู่กำลังสวมเขาให้เธอจริงๆนะหรอ?ฮึกกกก ฮืออออออจีน่าพยายามโทรหาข้าวปั้นแต่โทรเท่าไรก็โทรไม่ติดสักที เธอจึงเลือกส่งข้อความไปแทน'มันเป็นเรื่องจริงหรอปั้น?' จีน่าส่งรูปที่มีบุคคลที่สามส่งมาให้เธอให้กับข้าวปั้นพร้อมกับพิมพ์ถามเขาออกไป'ปั้น''อ่านแล้วก็ตอบเล่าสิอย่าเงียบได้ไหม'ฮืออออออออ'ปั้นทำมันลงไปจริงหรอ' ยิ่งข้าวปั้นอ่านแล้วไม่ตอบมัน

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 29 : ขอโอกาส

    -SOLO PART-@บ้านข้าวตูผมขับรถสปอร์ตหรูของตัวเองเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของข้าวตู ผมไม่รู้ว่าแม่ของข้าวตูเธอรู้เรื่องของผมมากน้อยแค่ไหนแต่สิ่งที่ตอนนี้ผมควรจะทำมากที่สุดคือเล่าความเลวของตัวเองที่ได้กระทำไว้กับข้าวตู ให้แม่ของเธอได้รับรู้จากปากของผมเอง ผมไม่ได้คาดหวังว่าท่านจะให้อภัยผม เพราะถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของผม ผมก็คงไม่ให้อภัยใครง่ายๆ เหมือนกัน แต่อย่างน้อยผมก็อยากจะขอโอกาสอีกครั้งเพื่อปรับปรุงตัวเองกริ๊ง!!! กริ๊ง!!!ผมเดินลงจากรถและไปกดกริ๊งหน้าบ้านของข้าวตู รอไม่นานแม่ของข้าวตูเธอก็เดินตรงมาหาผม"คุณมาทำไมคะ" เธอเอ่ยถามทันทีที่เธอเห็นว่าคนที่มาเป็นผม ท่าทีเธอดูนิ่งจนผมเริ่มจะแปลกใจ"สวัสดีคับ ผมขอเข้าไปข้างไนได้ไหม?" ผมกล่าวทักทายแม่ข้าวตูด้วยถ่อยคำที่สุภาพ"เชิญค่ะ""ขอบคุณครับ" พูดจบผมจึงเดินตามแม่ข้าวตูเข้าไปในบ้านของเธอ"นั่งก่อนค่ะเดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้""ไม่เป็นไรครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณแม่""ค่ะ!!!" เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ทำให้ผมไปไม่เป็นเลยทีนี้ผมว่าผมเรียกเธอว่าแม่ก็ถูกแล้วก็เธอเป็นแม่ของเมียผมนิ"เอ่อ...ผมขอโทษนะครับเรื่องที่ผมทำร้ายข้าวตู" ผมเอ่ยขอโทษแม่ขอ

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 28 : พ่อ

    "ปั้น" เสียงของจีน่าเอ่ยเรียกแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ"ครับ" ข้าวปั้นหยุดเดิน ก่อนจะขานรับคำจีน่าพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ"ปั้นไม่โกรธโซเลยหรอ?" จีน่าเอ่ยถามข้าวปั้นออกไปด้วยความสงสัย เพราะนอกจากวันนั้นที่พวกเขาทะเลาะกันที่บ้านของข้าวปั้นแล้ว เขาก็ไม่ได้แสดงทีท่าว่าโกรธเคืองโซโล่ออกมาอีก"โกรธสิ! เราอยากจะบีบคอมันให้ตายคามือ" ข้าวปั้นเอ่ยตอบจีน่าออกมาเสียงเรียบ"...""แต่เราไม่ทำหรอ เดี๋ยวเวณกรรมก็ตามมันเองเรารู้จักน้องเราดีถึงภายนอกข้าวตูจะดูเป็นคนอ่อนแอก็เถอะ""หมายความว่า...ปั้นรู้?" จีน่าเอ่ยถามข้าวปั้นออกไปทั้งๆที่เธอก็พอจะรู้คำตอบอยู่บ้างแล้วจากคำพูดของเขาเมื่อกี้"เรารู้มานานแล้วว่าไอ้โซชอบข้าว" ข้าวปั้นตอบจีน่ากลับไป"ปั้นผิดแล้ว..." จีน่าตอบข้าวปั้นออกไปด้วยรอยยิ้ม"หืม แต่เราเห็นว่ามันสั่งให้ลูกน้องของมันเอาตุ๊กตามาให้ข้าวเมื่อหลายปีก่อนนะ" ข้าวปั้นตอบจีน่ากลับไปด้วยความงุนงง มันจะผิดไปได้ไงในเมื่อวันเกินข้าวตูเมื่อ 8 ปีก่อนหลังเลิกเรียนเขาเดินกลับมาบ้านก็เห็นว่ามันยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้วางแผลกับลูกน้องของมันเพื่อที่จะนำตุ๊กตามาให้ข้าวตู ทุกอยากอยู่ในสายตาของเขาหมด รวม

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่  27 : อุบัติเหตุ

    -KAOTU PART-"จอดรถเถอะนุ่นปล่อยข้าวตูไป น้องไม่เกี่ยวอะไรด้วย" เสียงของผู้หญิงที่ชื่อจีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนคนข้างๆ"เป็นห่วงกันจริงๆเลยน้องผัวเนี่ย อ้อไม่สิหรือต้องเรียกว่าพี่สะใภ้กันนะถึงจะถูก" ฉันอึ้งไปกับคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า 'หมายความว่าเธอคนนี้ที่ชื่อจีน่า เธอเป็นน้องสาวของผู้ชายใจร้ายคนนั้น และเธอก็เป็นแฟนเก่าของพี่ปั้นพี่ชายของฉันงั้นหรอ' ฉันพูดกับตัวเองอยู่ภายในใจพร้อมกับมองไปที่คุณจีน่าไปด้วยความงุนงง ทำไมความสัมพันธ์มันซับซ้อนจัง"หยุดเถอะนุ่น" คุณจีน่าพูดเสียงเเข็ง ตอนนี้สีหน้า ท่าทางของเธอดูเหมือนกับพี่ชายของเธอไม่มีผิดทั้งท่าทีที่ดูน่าเกรงขามและน้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นฉันว่า 'บรรยากาศบนรถมันเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้วสิ' คิดได้ดังนั้นฉันจึงขยับตัวเองไปนั่งติดกับที่พิงด้านหลัง แล้วมือทั้งสองข้างฉันจับเบาะรถไว้เเน่น ฉันไม่ได้ห่วงตัวเองเลยสักนิดแต่ฉันเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กในท้องฉันต่างหาก"กูไม่หยุด มึงจะสนมันทำไมมึงไม่เกลียดพี่มันแล้วหรอ" เธอตวาดคุณจีเสียงดัง"ฉันไม่มีทางเกลียดปั้น" คุณจีก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน"..." ฉันนั่งฟังที่เขาคุยกันอย่างเงียบๆ เพราะเรื่อง

  • ทวงแค้น แสนรัก   ตอนที่ 26 : อันตราย

    17.00 น."ข้าวตู ข้าว" ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงพี่ปั้นที่เรียกฉันดังมาจากหน้าห้องนอนของฉัน"ค่า..." ฉันขานรับพี่ปั้นกลับไปก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ"ลงไปกินข้าวกัน""โอเครค่ะ เดี๋ยวหนูตามลงไปนะ" ฉันตอบพี่ปั้นกลับไปก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แล้วจึงเดินลงไปด้านล่าง"ฮืมมม หอมจังเลยค่ะแม่" ฉันเอ่ยบอกกับออกไป"งั้นหนูต้องกินเยอะๆนะลูก" แม่เอ่ยบอกกับฉันก่อนจะเดินเข้ามาลูบหัวของฉันอย่างทะนุถนอม"กำไลใครหรอข้าว?" เรานั่งกินอาหารกันไปได้สักพักพี่ปั้นก็เอ่ยถามฉันพร้อมกับมองดูกำไลที่ข้อมือของฉันอย่างสงสัย"ข้าวก็ไม่รู้ค่ะ มีคนมาส่งตุ๊กตามาให้ข้าวอีกแล้วค่ะ และในนั้นก็มีกำไลนี้มาด้วยข้าวพยายามแกะออกแล้วนะ แต่ทำยังไงมันก็ไม่ออกสักที" ฉันอธิบายให้แม่กับพี่ปั้นฟัง"งั้นเดี๋ยวเราไปดูที่กล่องว่าเขาซื้อมาจากที่ไหน แล้วถ้าวันไหนว่างพี่จะพาไปเอาออก" พี่ปั้นเอ่ยบอกกับฉัน ก่อนที่ลงมือทานอาหารตรงหน้าต่ออย่างเอร็ดอร่อย นานแล้วที่เราสามคนแม่ลูกไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ ทำให้อาหารมื้อนี้ยาวนานกว่าที่เคย แถมฉันก็ยังเจริญอาหารมากกว่าทุกครั้งอีกด้วย3 วันต่อมา...

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status